ท่องไปในแดนธรรม: "วัดโฝวกวงซัน" วัดลอยฟ้า...สูงที่สุดในประเทศไทย

วัดโฝวกวงซัน เป็นวัดในนิกายมหายาน สายรินไซเซ็น ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ ณ เมืองเกาสยง ไต้หวัน มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาให้แพร่หลายไปทั่วโลก หรือพุทธศาสนาของโลกมนุษย์ โดยยึดหลักให้การศึกษาในการพัฒนาบุคคล สืบสานวัฒนธรรมในการประกาศพุทธธรรมคำสอน บำเพ็ญกุศลในการช่วยเหลือพัฒนาสังคม

เน้นการปฏิบัติธรรมในการจรรโลงซึ่งจิตใจ โดยขยายการพัฒนาไปสู่ทวีปต่างๆ ผ่านวัดสาขากว่า ๒๐๐ แห่งทั่วโลก เช่น วัดซีไหล ในสหรัฐอเมริกา, วัดหนานเทียน ในออสเตรเลีย, วัดหนานฮวา ในแอฟริกาใต้ ฯลฯ ซึ่งจัดเป็นวัดจีนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนั้นๆ
นอกจากงานด้านศาสนา วัดโฝวกวงซัน ยังได้จัดตั้งกองทุนด้านการศึกษา การเผยแพร่วัฒนธรรม และการสังคมสงเคราะห์ต่างๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา ๘ แห่ง ห้องสมุดพระพุทธศาสนา ๑๑ แห่ง สำนักพิมพ์ทางพระพุทธศาสนา โรงพยาบาลเคลื่อนที่ วิทยาลัยสงฆ์ ๑๖ แห่ง โรงเรียนอนุบาล ๗ แห่ง โรงเรียนประถม ๖ แห่ง และโรงเรียนมัธยม ๓ แห่ง
รวมทั้งมหาวิทยาลัย ๔ แห่ง เช่น มหาวิทยาลัยซีไหล ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา, มหาวิทยาลัยหนานฮวา เมืองเจียอี้ ไต้หวัน, มหาวิทยาลัยโฝวกวง เมืองอี๋หลัน ไต้หวัน, มหาวิทยาลัยหนันเทียน ประเทศออสเตรเลีย และในวัดสาขาทั่วโลก ได้จัดชั้นเรียนภาษาจีนในทุกสาขาทั่วโลก รวมทั้งจัดตั้งกองทุนในด้านการศึกษาและการเผยแพร่วัฒนธรรม การสังคมสงเคราะห์ต่างๆ อีกมากมาย
ปัจจุบันวัดโฝวกวงซัน มีพระสงฆ์มากกว่า ๑,๔๐๐ รูป ประจำในวัดสาขาทั่วโลกเพื่อทำงานด้านศาสนาและให้ความรู้ทางธรรม
สำหรับวัดโฝวกวงซัน สาขากรุงเทพฯ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ โดยเจ้าอาวาส พระเถระซิงหวิน ซึ่งจดทะเบียนในนาม "มูลนิธิส่งเสริมพุทธศาสนาเพื่อสังคม" โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดโฝวกวงซันมาประจำอยู่เพื่อให้ความรู้ทางพระพุทธศาสนา มุ่งเน้นในงานช่วยเหลือสังคม ซึ่งมีสาขาต่างๆ ทั่วโลกกว่าร้อยสาขา โดยแต่งตั้งให้บุคคลผู้มีคุณธรรมและความสามารถมาเป็นผู้ดำเนินงานเพื่อประโยชน์สุขของสังคม
มูลนิธิแสงพุทธธรรมประจำประเทศไทย ได้ก่อตั้งขึ้น พ.ศ. ๒๕๓๕ โดยได้รับการอนุญาตจากพระคุณเจ้า พระเถระซิงหวิน (ปฐมเจ้าอาวาสวัดโฝวกวงซัน) โดยแต่งตั้งให้ นาย ซือ หวาง ซวี่ เป็นประธานมูลนิธิคนแรกเพื่อดำเนินการตามปณิธานของการจัดตั้งมูลนิธิ ที่ปฐมเจ้าอาวาสวัดโฝวกวงซันพระเถระ ซิงหวิน ได้ตั้งไว้ว่าพุทธศาสนาของโลกมนุษย์ซึ่งจะแสดงถึงการปฏิบัติตามจริยาวัตรของพระโพธิสัตว์ โดยปณิธานที่ว่า แสงแห่งพุทธธรรมปกแผ่ทั่วตรีสหัสโลกธาตุ ธรรมธาราไหลรินสู่ห้าทวีปมหาสมุทร


ด้วยความอุตสาหะของประธานมูลนิธิและ สมาชิกทุกคนที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ซึ่งให้การก่อตั้งมูลนิธิแสงพุทธธรรม ประจำประเทศไทย ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ วัดโฝวกวงซัน สาขากรุงเทพฯ ซึ่งจดในนามของมูลนิธิส่งเสริมพระพุทธศาสนา เพื่อสังคมก็ได้ก่อตั้งขึ้น และได้นิมนต์พระสงฆ์จากวัดโฝวกวงซันมาประจำ อยู่เพื่อให้ความรู้ทางพระพุทธศาสนา
มูลนิธิทั้งสองได้เกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยการนำของประธานทั้งสองมูลนิธิ ซึ่งต่อมาถึงประธานมูลนิธิคนที่สอง จรรยา อยู่วิมลชัย ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิติดต่อกัน ๒ สมัย ได้ดำเนินกิจการงานของมูลนิธิมาได้ด้วยดี และได้สืบทอดเจตนารมณ์ของพระคุณเจ้า พระเถระซิงหวิน ในการทำงานมาโดยตลอด
จนกระทั่งถึง พ.ศ. ๒๕๔๔ ก็ได้เลือกให้ พรทิพย์ ชูพินิจศักดิ์ มาดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสมัยที่ ๔ จากการนำของประธานในแต่ละสมัย ได้พัฒนางานตามอุดมการณ์ของมูลนิธิแสงพุทธธรรมที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาในด้านต่างๆ ดังนี้


๑.เน้นให้การศึกษาในการพัฒนาบุคคล ๒.เน้นการสืบสานวัฒนธรรมในการประกาศพุทธธรรมคำสอน ๓.เน้นการบำเพ็ญกุศลในการช่วยเหลือพัฒนาสังคม และ ๔.เน้นการปฏิบัติธรรมในการจรรโลงซึ่งจิตใจ จึงได้มีกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดประชุมบรรยายธรรมะ การจัดงานเทศกาลสรงน้ำพระ และการขายของเพื่อการกุศล
กิจกรรมเผยแผ่ธรรมของวัดโฝวกวงซัน ประกอบด้วย จัดประชุมบรรยายธรรมะ จัดงานเทศกาลสรงน้ำพระ และขายของการกุศล กิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์ อาทิ ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่างๆ การบริจาคเพื่อผู้ด้อยโอกาสทางสังคม กิจกรรมด้านงานสังสรรค์ อาทิ จัดงานสังสรรค์ในวันปีใหม่ และเข้าร่วมประชุมสมัชชาครั้งใหญ่ของมูลนิธิแสงพุทธธรรมนานาชาติ กิจกรรมเพื่อการศึกษาที่ได้จัดอยู่เป็นประจำ อาทิ การเปิดสอนวิธีปรุงอาหารเจ สอนการฝีมือ สอนภาษาจีน การจัดกลุ่มผู้รักหนังสือ และการทัศนศึกษาในที่ต่างๆ วัดโฝวกวงซันและมูลนิธิส่งเสริมพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม ตั้งอยู่อาคารว่องวานิช บี ชั้น ๓๒ ถนนพระราม ๙ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ ๐-๒๖๔๕-๐๕๙๘, ๐-๙๙๒๗-๑๔๒๐


ที่มา: คมชัดลึก