ท่านฝึกละสังโยชน์ ๓ เพื่อเตรียมตัวเป็นโสดาบันอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์โง๋, 11 เมษายน 2017.

  1. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    คุณปราบเทวดา ก็พูดไป
    ฆ่าสัตว์ไป พอว่างก็เจริญสติ
    ทำแบบนั้นก็ได้ แต่มันไม่ใช่ทางที่จะเจริญ และไม่สามารถทำให้สติก้าวหน้าได้

    อริยมรรค เขาให้พิจารณา สัมมาอาชีโว ก็ต้องรู้จักปรับตามอริยมรรคหละครับ
    เถียงกับ อริยมรรค ทำไมหละครับ
     
  2. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    คนเราหลีกหนีไม่ได้ ในทันที
    บางคนหักพล้าด้วยเข่า หักดิบเลย ก็ เสียจะการ

    จึงต้องค่อยเป้นค่อยไป สำหรับผุ้มาใหม่

    การฝึกเจริญสติปัฏฐาน มันจะขัดเกลาไปเอง
    มันจะปรับตามไปเองแหล่ะ ครับ สำหรับผู้ที่มุ่งหลุดพ้นจริงๆ

    แต่สำหรับผุ้ที่ไม่มุ่งหลุดพ้น ข้ออ้างก้จะตามมาเยอะ อย่างที่ยกตัวอย่างไป

    จึงไม่มีใครอุ้มใครเข้านิพพานได้ ต้องทำด้วยตัวเอง

    ใครทำใครได้
    ใครไม่ทำ ก้อด
     
  3. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    อดทนน้อยบ้าง ห้ามเถียงบ้าง รับไม่ได้บ้าง
    คุณ Tboon จะไม่คิดตัดสินธรรมที่ผมกล่าว มากกว่าจะตำหนิผมบ้างหรือครับ
     
  4. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เนี่ย แค่นี้ก็ไม่ผ่านแล้ว ก็บอกแล้วว่า ทางโลกนี่เราเป็นอัจฉริยะกันหมด แต่ในทางธรรม ความรู้อะไรๆ ก็เอาวางไว้ก่อน ยกเลิกระบบการเรียนรู้แบบเดิมๆ ออกไปก่อน ความเชื่อ ทิฏฐิเดิมๆ เห็นทันไหม เอาออกทิ้งไปก่อน เรียนแบบโง่ๆ ลดอัตตาลง จะทำได้ไหม นี่คือบทพิสูจน์ วัดใจเบื้องต้นครับ ว่าจะจริงใจ ตั้งใจจริงต่อการหลุดพ้นแค่ไหนนะครับ ถ้าไม่ผ่านก็พอแค่นี้ได้ครับ ไม่มีปัญหาครับ
     
  5. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    วางความรู้ ยกเลิกระบบการเรียนรู้แบบเดิม เรียนแบบโง่ๆ
    ลดอัตตาลง ทิ้งทิฎฐิเดิมๆ แล้วสรุปคุณ Tboon จะให้ผมทำอะไรหละครับ
    แย้งก็ไม่ได้ ทำอะไรก็ทำไม่ได้
    วิชาพระพุทธเจ้า ทำแบบนี้หรือครับ ท่านสอนให้ฉลาด ไม่ใช่ให้โง่นี่

    เอาแบบนี้ ผมเรียนโง่ๆ ก็ได้ คุณ Tboon จะให้ผมทำอะไรลองว่ามาซิ
     
  6. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ค่อยเป็นค่อยไป แล้ว สมาธินี่ต้องทำไหมครับ
    เจริญมหาสติปัฎฐานอย่างเดียว จะทำให้สมาธิแนบแน่น มั่นคงด้วยหรือเปล่า
    แล้ว ผมจะมีสติถึง จิตในจิต เพื่อเห็นจิตที่ดับนิวรณ์ได้อย่างไร ถ้าไม่ได้ทำสมาธิไปด้วย
     
  7. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    คำว่าเรียนแบบโง่ๆ นี่หมายความว่า เวลาเวทนามันเกิด เราไม่ไปปรุงเป็นเวทนาดีเวทนาร้าย เป็นสุขเป็นทุกข์ เป็นร้อนเป็นเย็นอะไรต่อ ไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์มันต่อ ไม่ต้องไปพยายามอธิบายให้ตัวเองเข้าใจว่ามันคืออย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้อง!! เก็บเจ้าความฉลาดความเป็นอัจฉริยะตรงนี้เอาไว้ก่อน ลองเรียนรู้ปัจจุบันธรรมแบบตรงไปตรงมา ไม่บิดพริ้วเอาความรู้ความฉลาดเจ้าของไปใส่ไปบอกบรรยายสรรพคุณให้เขาแทนเสียเอง จะทำได้ไหม

    พอมองออกไหม อย่างคุณเอาพระสมเด็จมาชม มากำ มาสัมผัสอะไรยังไงก็ตาม ลองรับรู้พลังงานของท่านอย่างไม่เอาความคิดตัวเองเข้าไปแทรกแซงดูสิ จะได้ไหม ฝึกบ่อยๆ มันเผลอปรุงไปก็รู้ว่ามันเผลอไปปรุง (เป็นดีเป็นชอบ มันนุ่มละมุนเย็นดีจัง สบาย) แบบนี้ ก็กลับมาอยู่กับปัจจุบันใหม่ ๆๆๆๆ เป็นต้น
     
  8. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    สมาธิในการเจริญสติปัฏฐาน

    มันเป็นสัมมาสมาธิในตัวครับ

    คุณเจริญสติปัฏฐาน ก้เรียกได้ว่า คุณเจริญสัมมาสมาธิไปในตัว

    สติที่ระลึกสภาพธรรม เมื่อสัมปยุติได้บ่อยขึ้น
    ความบ่อย มันทำให้เกิดสัมมาสมาธิ แล้ว ปัญญาจะดำเนินตามมาเอง


    จะว่าไปอีกอย่าง

    สมาธิ ในสติปัฏฐาน อาศัย สภาวะ เอามาระลึก

    สภาวะนี่ก็คือ สภาพความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของกาย ของใจ

    ที่มีการเลี่ยนแปลง เกิดดับ ไปในแต่ละลมหายใจไม่หยุดนิ่ง

    สมาธิที่เกิดขึ้นในการเจริญสติปัฏฐาน ถึงเรียกว่า ลักขณูปนิชฌาน

    เป็นสมาธิที่มีความตั่งมั่น ไม่หวันไหวในอารมณ์
    อย่างที่ข้างต้นอธิบายไปแล้ว มันจะเกิดตามมาเป็นผลงาน ที่พ้นจากมรรคตบแต่ง
    นั่นคือการสัมปยุติ ด้วยมรรค จะเรียกว่า สติปัฏฐานของจริงได้เริ่มต้นขึ้น

    บางคนเพียงแค่ได้รู้จักเริ่มๆตรงนี้ ก็เหมาเอาเป็นการแจ้ง นิพพานไปเลยก็มี
    แต่จริงๆยังไม่เรียกว่าแจ้ง เป็นแต่เพียงเห็นทาง
    เหมือน เดินทางกลางทะเล ที่มองเห็นฝั่ง ลางๆ ทำให้เป้าหมายในทางเดินทางตรงขึ้น
    ความหลงจะเกิดขึ้นกับคนได้พบสภาวะแบบนี้ได้เหมือนกัน หากเจอในช่วงๆแรก
    ไม่มีครูอาจารย์แนะแนวก็จะ หลงไป คิดว่าแจ้ง นิพพานกลายเป็น นิพพานเข้าๆออกๆ

    และอีกอย่างนึง
    สมาธิในสติปัฏฐานจะต่างจากสมาธิ ที่เพ่งในอารมณ์เดียว ที่เรียกว่า อารัมนูปนิชฌาน


    ฉะนั้น ผู้ใดเจริญสติปัฏฐานอย่างต่อเนื่อง จะหมวดไหนก้ได้
    มันจะเชื่อมไปถึงจิต ถึงธรรมกันหมด ไม่ได้แยกออกจากกันครับ
     
  9. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เนี่ยมันฉลาดไง จำสภาวะได้ จิตในจิต เพื่อเห็นจิตที่ดับนิวรณ์ได้อย่างไร ลองเลิกที่จะตั้งเป้าเข้าสมาธิ แต่ให้รู้ไปตามสภาพปัจจุบันธรรมตามความเป็นจริงจริงๆ ต้องเน้นว่า จริงๆ ปัจจุบันธรรมตามความเป็นจริงจริงๆ

    ทำสมาธิเหมือนเดิมแต่ไม่ต้องไปคาดหมาย จำอะไรได้ก็วาง ปล่อยผ่าน ฟังสภาวธรรมเห็นสภาวธรรมจริงๆ ..งงไหม
     
  10. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ธรรมที่คุณ ปราบเทวดา กล่าวมานี้ รู้สึกว่าทุกอย่างจะตามมาเองหมด โดยไม่ต้องฝึกอย่างอื่นเลย
    คุณ ปราบเทวดา เคยเห็นพระท่านสอนให้ทำสมาธิไหมครับ ท่านจะสอนทำไม
     
  11. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ผมก็ปล่อยผ่านนั่นแหละครับ แต่ตอนนี้ สนทนาธรรมอยู่ ก็ยกเหตุยกผลขึ้นมา
    แล้ว คุณ Tboon ดับนิวรณ์ได้แล้ว ด้วยวิธีที่แนะนำมานี่หรือครับ
     
  12. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    555 อาจารย์ Tboon กับ อาจารย์ ปราบเทวดา นี่สงสัยจะสอนไม่ตรงกับ พระพุทธเจ้าแล้วกระมังครับ พระพุทธเจ้าสอน อริยมรรคมีองค์ 8 อาจารย์ปราบ ตัดให้เหลือ 1
    พระพุทธเจ้าสอนให้ใคร่ครวญโยนิโสมนสิการ แต่อาจารย์ Tboon บอกห้ามคิด ห้ามแย้ง ให้รู้แบบโง่ๆ

    ชีวิตผมจะสับสนเมื่อมาศึกษากับคุณนี่แหละครับ
     
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    อย่าเพิ่งไปสนใจเรื่องจะดับนิวรณ์ ตอนนี้เรากำลังเรียนรู้เรื่องความหลงคิดไปเอง หลงปรุงไปเอง ตามให้ทันนะครับ เอานิวรณ์เป็นครูกันก่อนครับ
     
  14. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ผมจะถามอะไรอย่างหนึ่งนะครับ ลองพิจารณาดูก็แล้วกัน

    ฝึกละสังโยชน์ยังไง เห็นมีแต่เอาอะไรไปใส่เพิ่มตลอด รู้ก็รู้ไม่จริง แทรกแซงการรู้อยู่ตลอด เอาปัญญาที่ร่ำเรียนมา (ปัญญาโลกีย์) ไปป้อนไปกล่อมไปย้อม ปิดบังการรู้ตามความเป็นจริงอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้เมื่อไหร่จะได้เห็น จะได้ฟังธรรมจากสภาวธรรมของเขาเองจริงๆ สักที น่าคิดนะครับ ละสังโยชน์หรือเพิ่มสังโยชน์เข้าไปมัดๆๆ ให้แน่นขึ้นกันแน่เนี่ย..
     
  15. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ไม่ใส่ธรรม ก็ใส่กิเลสกันอยู่แล้วนี่ครับ ใส่กิเลสกันทุกวัน
    ใส่ธรรมไปนี่ให้กิเลสมันเจือจาง กิเลสมันได้ไม่มีกำลัง จึงจะคุ้ยเขี่ยดับสังโยชน์ได้
     
  16. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762

    ทุกอย่างรวมใน สติปัฏฐานหมดแล้วครับ


    อย่างเช่น

    [๒๗๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อีกข้อหนึ่ง ภิกษุเมื่อเดิน ก็รู้ชัดว่าเราเดิน
    เมื่อยืน ก็รู้ชัดว่าเรายืน เมื่อนั่ง ก็รู้ชัดว่าเรานั่ง เมื่อนอนก็รู้ชัดว่าเรานอน หรือ
    เธอตั้งกายไว้ด้วยอาการอย่างใดๆ ก็รู้ชัดอาการอย่างนั้นๆ ดังพรรณนามาฉะนี้

    อย่างนี้ก็เป็นการทำสมาธิ

    จะเรียกว่า ทำสมาธิ เรียกว่า การเจริญสติ เจริญปัญญา ก้แล้วแต่
    ก้ได้หมดครับ

    สติ สมาธิ ปัญญา มันเป็นอัญญะมัญญะ เกี่ยวเนื่องกัน
    อันเป็นธรรมเครื่องนำออก ขณะที่เกิด ที่เป็น มันจะพ้นวิสัยเจตนา เข้าไปทำ


    แต่สำหรับ เจตนาที่ทำได้ คือ เช่น

    ""เมื่อเดิน ก็รู้ชัดว่าเราเดิน
    เมื่อยืน ก็รู้ชัดว่าเรายืน เมื่อนั่ง ก็รู้ชัดว่าเรานั่ง เมื่อนอนก็รู้ชัดว่าเรานอน หรือ
    เธอตั้งกายไว้ด้วยอาการอย่างใดๆ ก็รู้ชัดอาการอย่างนั้นๆ"""

    ถามว่า ผู้มาใหม่ รู้ชัดอย่างที่พระสูตรบอกหรือไม่
    ตอบได้เลยว่าไม่ มันต้องอาศัยความเพียร กันไปอีก
    จนกว่าจะพบกับมรรคสัมปยุติ

    พ้นเจตนาการตบแต่งไปนู้น

    แต่ถ้าคุณ จะหมายเอา คำว่า สมาธิ ที่สงบนิ่งๆ เอาแต่ สงบๆ ที่มีมาก่อนพระพุทธเจ้า
    อย่างนั้น ที่ไหนเขาก้สอนทั่วไปไม่ว่า จะศาสนาไหน

    อันนั้นฝึกได้เป็นกำลังจิต ใครทำได้ก้ดี ไม่ได้ห้าม
     
  17. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    การมีโยนิโสมนสิการก็คือการอาศัยรู้ในอาการหลงปรุงไปเอง หลงคิดไปเองนี่แหละครับ ทำยังไงถึงจะรู้ ถ้าไม่ดูให้เห็น เอาแต่ใส่ความคิดเข้าไป แล้วมันจะเห็นเหรอครับ :rolleyes::rolleyes::rolleyes:
     
  18. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    คุณปราบ คิดเองเออเอง หรือเปล่าครับ ไม่เห็นมีพระสูตรบอกเลยว่าทุกอย่างรวมในสติปัฎฐานแล้ว สมาธิที่สงบนิ่งก็ดีนีครับ ศาสนาอื่นทำได้ ศาสนาพุทธทำไม่ได้ก็อายเขาแย่นะสิ
     
  19. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ถ้างั้นก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร มามุกฉลาดอัจฉริยะตลอด ชาล้นถ้วยตลอดก็เรียนกันไม่รู้เรื่องหรอกครับ เหอะๆๆ เชิญตามสบายนะครับ
     
  20. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ผมไม่เห็นจะหลงอะไรนี่ครับ สติก็ดูอยู่ คิดก็ส่วนคิด เวลาเจริญสติก็เจริญสติ เวลาคิดก็คิด เวลาทำสมาธิก็ทำสมาธิ เวลาเล่นก็เล่น
    คุณ Tboon จะให้ผมเห็นอะไรหละครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...