ท่านเห็น โมหะ เป็นอย่างไร

ตอนนี้มีทั้งโทสะทั้งโมหะเลยค่ะ อยากส่งข้อความไปด่าพ่อ อยากฆ่าพ่อ ช่วยทีค่ะ

 

ทุกคนนั่นหละครับ
ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ครับ
เพียงแต่ว่าจะมีมากมีน้อยเท่านั้นเอง

 

อันนี้จริงตามนั้น

 

จิตมันเข้าใจผิด หลงไปคิดเข้าใจ ว่า ธาตุต่างๆ เป็น โน่น นี่ นั่น
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นแค่ธาตุ ที่ร่วมกันทำงานไปตามเหตุปัจจัย เกิดผลตามเหตุ เป็นธรรมดา

 

จิตมันเข้าใจผิด หลงไปคิดเข้าใจ ว่า ธาตุต่างๆ เป็น โน่น นี่ นั่น
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นแค่ธาตุ ที่ร่วมกันทำงานไปตามเหตุปัจจัย เกิดผลตามเหตุ เป็นธรรมดา

 

โมหะ และ จิต+กาย ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
โมหะ เป็น สมุทัย
จิต+กาย เป็น กองทุข
สติ สมาธิ ปัญญา เป็น มรรค
วิมุติ เป็น นิโรธ
จิตหลงยึดธาตุ เพราะจิตหลงยึดกาย เพราะด้วยจิตมีโมหะ
จิตนอกจากหลงยึดกายแล้ว จิตยังหลงยึดจิตด้วย เพราะจิตนั้นมีโมหะ
จิตที่มีมรรค เป็นเครื่องกำจัดกิเลศเพราะมรรคชี้ให้จิตเห็นจิตด้วยสติละลึกรู้ในจิต และเกิดปัญญา เห็นจริงว่าจิตนี้ไม่เที่ยงไม่ใช่เราเช่นเดียวกับกายนั้นแล
จิต+กาย เป็นกองแห่งทุข เป็นผลของอวิชา อันเป็นตัวเหตุ
เห็นกายไม่ใช่เราแต่ยึดนามขันธ์เป็นเราพ้นจากกองทุขไม่ได้ เพราะยังยึดเอากองทุขไว้เป็นจิต
นิโรธ ไม่มีกองขันธ์ทั้งกายและจิต แต่ท่าจะยึดนามขันไว้ว่าเป็นจิตนิโรธก้ไม่เกิด
เพราะอะไรจึงยังไม่วิมุติเพราะด้วยไม่สามารถแยกกิเลศออกจากจิตได้ เห็นเป็นสิ่งเดียวกันเห็นว่านามขัน+กิเลศเป็นตัวเราจึงไม่รู้ว่ากำจัดกิเลศออกจากนามขันอย่างไรและเมื่อนามขันไม่ใช่เราจิตเราคืออะไร ความไม่รู้นี้คือโมหะจิต ไม่รู้ไปในความยึดมั่นในชอบ ไม่ชอบในโลภะและโทษะ ไม่รู้ไปในความไม่รู้ว่าตัวตนแท้จริงของจิตนั้นเป็นอย่างไรมีสภาวะอย่างไร

ก้เลยไม่รู้ว่าเวทนาสัญญาสังขารวิญญานนามรูปเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยอวิชา ดังนั้นเมื่อรู้ได้ถึงว่า จิตไม่ใช่เราอย่างไรความไม่รู้ก้จบลงก้ไม่สร้างภพใหม่อีกไม่มี รูป วิญญาน สัญญา สังขาร เวทนา อีกต่อไปเป็นนิโรธ

จะเริ่มรู้ได้อย่างไรก้ต้องเริ่มเห็นจิตที่ไม่เที่ยงนี้ไปทีละส่วนก่อนว่าไม่ใช่เราอย่างไรก่อนจะรู้ชัดแจ้งก้ต้องเห็นก่อนว่าจิตโดนักจูงอย่างไรเพื่อถอดถอนเอาตัวชักจูงจิตออกไปได้