ธรรมะคืออะไร ในพุทธศาสนา บทที่2 (พุทธศาสนา พัฒนามนุษย์) ตอนที่ 4เขียนเองโดย telwada

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย telwada, 14 ตุลาคม 2008.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818
    ธรรมะคืออะไร ในพุทธศาสนา บทที่2 ( พุทธศาสนา พัฒนามนุษย์) ตอนที่4
    ในตอนที่สาม ข้าพเจ้าได้อรรถาธิบายไปตอนหนึ่งว่า
     
  2. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
  3. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,661
    ค่าพลัง:
    +9,236
    "ความเจริญในแต่ละศาสนาก็จะเกิดขึ้น เพราะผู้ศรัทธาหรือผู้เกี่ยวข้อง หรือบุคคลากรในศาสนานั้น มีความเข้าใจในหลักธรรมะหรือหลักคำสอนของศาสนานั้นๆตามหลักความจริง ตามหลักธรรมชาติ"

    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818

    ใช่แล้วขอรับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพสภาวะจิตใจของเขาเหล่านั้น ว่าจะรับเอาสิ่งใหม่หรือไม่
    มันเป็นเรื่องธรรมดาขอรับ ที่ความใหม่ มักจะถูกคัดค้าน ไม่ยอมรับ ถึงอย่างไรก็ตาม หากเขาเหล่านั้นได้คิดพิจารณา ก็ย่อมรู้และเข้าใจ ด้วยตัวเองขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2008
  5. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,653
    ค่าพลัง:
    +1,211
    มีข้อสังเกตุครับ
    ทำไมทุกศาสนาเอ่ยหรือกล่าวว่า....มีมารดาอยู่ในร่างกาย
    ชีวิตเกิดจากดิน.....มีไฟด้วยนะครับ....มีกลิ่นเหม็นในร่างกาย
    และมีพระท่านเกิดจากไขสันหลัง...คงหมายความถึงสมองมากกว่า

    ทางยุโรปเท่าที่ผมศึกษาอ่านจากเพื่อนปรึกษาเพื่อนแต่ยังไม่เข้าไปอ่านในคำภีร์
    มีความรู้สึก...เขาเรียกว่าsin...ข้อความบางตอนแทบจะซ้ำกันด้วยซ้ำครับ
    คือการให้.....แต่ทางยุโรปเน้นปัจุบันไม่เน้นเรื่องชีวิตหลังความตาย

    เอจะล่อแหลมไหมครับ....แต่เวลาผมนอนนี่ผมไหว้พระเจ้าทุกพระองค์เลยนะครับ
    และที่น่าสังเกตุ....เยรูซาเลมหรือเปล่าครับลืมไปแล้วที่แบ่งครึ่งกันสองศาสนาตรงโบสถ์ที่ติดกัน....ติดทะเลครับ.....ศาสนามาทางเรือหรือเปล่าครับและที่ผมโพสทั้งหมดนี่เราน่าจะเป็นพี่น้องร่วมเผ่าพันธ์เดียวกันและรักสามัคคีกันเพราะทุกศาสนาสอนเรื่องเดียวกันเลยครับแต่เอาไปแต่งเป็นเรื่องราวบ้างเล่าเป็นนิยายพื้นบ้านเล่าสืบทอดกันมาบ้าง....เพราะสองพันห้าร้อยปีก่อนนี่คงภาษามือกันเป็นส่วนใหญ่....ก็เลยสมมุติเอาเป็นเหตุการณ์ในเหตุการจริงในขณะนั้น....ก็อื้อๆ....เออกันไปว่าให้เข้าใจเป็นอย่างนี้นะอย่างนั้นนะ....อยากรู้คำว่ากินที่สื่อสารได้ทั่วโลกไหมครับ...ประกอบด้วยมือทำท่ากินแล้วบอกว่า...จั้บๆ...เหมือนภาษาจีนแต่ก็ไม่ใช่...ฝรั่งจีนแขกนี่เข้าใจเลยครับว่ามีความหมายว่ากิน...นี่ปีสองพันห้าร้อยกว่าแล้วนะครับมีคำนี้ครับมีจริงๆ....คนงานที่มาทำงานตะวันออกกลางเขาไม่รู้ภาษาก็มีครับ...ในเมื่อธรรมชาติมันหิวแล้ว...ก็คิดออกมาเองได้แหละครับธรรมชาติสอนครับ

    ทุกศาสนากล่าวถึงเรื่องความสมดุลย์กับชีวิตและธรรมชาติเลยนะครับ...และต้องเป็นต้องเปลี่ยนไปตามลักษณะของธรรมชาตินั้นๆ....ผมก็คิดอีกครับ....พระไทยในประเทศหนาวนี่สบงสามผืนไหวเหรอครับ.....หากศาสนาพุทธมาเกิดกลางทะเลทรายแล้วโกนศรีษะโต่งเหม่งเดินตากแดดห้ามคลุมผมก็ไม่ได้อีกละครับ

    อีกเรื่องใครอ้างตัวเองว่ารู้ว่าเป็นพระเจ้า....คงเป็นเหมือนองค์พระศาสดาเยซูคริสแน่นอนครับ....จะต้องถูกใส่ร้ายจากกิเลสที่มีพวกมากกว่า....โดนทรมานตายแน่ๆครับ...พระเจ้าต้องไม่ใช่คน....เพราะโดยธรรมชาติมนุษย์ชอบคบกันที่ผลประโยชน์มากกว่า....ตัวอย่างมีอย่างมากเลยครับขนาดผัวเมียกันหากมีเรื่องเศรษฐกิจในครอบครัวเกิดขึ้น....ส่วนมากไปกันไม่รอด....แล้วอาจารย์กับศิษย์ละครับ

    เอาเป็นว่าศาสนาทุกศาสนาไม่แตกต่างกันนะครับ....สอนเพื่อพบความดีงาม...รักใคร่กลมเกลียวผู้อื่น....เรามาสามัคคีกันเถิดครับ...มันต่างกันตรงที่สมมุติเหมือนท่านกล่าวจริงๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2008
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818
    ตอบ.....
    ศาสนาทุกศาสนาไม่แตกต่างกัน ถ้าเขาเหล่านั้น ได้เรียนรู้ และเข้าใจในธรรมชาติของมนุษย์ ตามหลักความเป็นจริง ดังที่ข้าพเจ้าได้สร้างบรรทัดฐานไว้
    ข้าพเจ้าไม่กล่าว และไม่เคยกล่าวเลยว่า เป็นสิ่งสมมุติ เพราะคำว่าสมมุติ หมายถึง การกำหนด กฎเกณฑ์ หรือตกลงยอมรับกันเอง โดยมิได้คำนึง ถึงหลักความเป็นจริง โดยไม่ได้คำนึงถึง หลักธรรมชาติ
    สิ่งไหนที่เป็นหลักความจริง หลักธรรมชาติ สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่การสมมุติ
    ข้าพเจ้าจะยกตัวอย่างให้คุณได้พิจารณาว่า
    น้ำ คือ ของเหลว ประกอบไปด้วย ธาตุอากาศ คือ ออกซิเจน 1 ส่วน ไฮโดรเจน 2 ส่วน เขียนเป็นสัญลักษณ์ (สมมุติ)คือ H2O
    สัญลักษณ์ H2O คือ สิ่งสมมุติแทน "น้ำ
    เข้าใจไหม

    และคุณก็อย่าพยายามคัดค้านว่า คำว่าน้ำ เป็นสิ่งสมมุติ นะ เพราะถ้าอย่างนั้นเถียงกันไม่มีจบดอกขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2008
  7. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,653
    ค่าพลัง:
    +1,211
    กราบขอบพระคุณท่านยิ่งแล้วนะครับที่ท่านชี้นำแนวทางให้ถูกต้อง
    กระะผมอยากเรียนถามท่านว่าน้ำเปลี่ยนสังขารได้ไหมครับ
    คืออยากถามท่านว่าสังขารของน้ำเที่ยงหรือไม่เที่ยงครับหมายถึงเปลี่ยนเป็นธาติดินได้หรือไม่...เป็นธาตุลมได้หรือไม่และเป็นธาตุไฟได้หรือไม่เท่านั้นครับ
    กราบขอบพระคุณครับ
     
  8. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818

    ตอบ...
    ความจริงแล้ว คำถามที่คุณถามมา เหมือนกับเป็นการลองภูมิมากกว่า เพราะตัวคุณก็รู้อยุ่แล้วในคำตอบ แต่ไม่เป็นไร คำตอบอาจไม่เหมือนกัน เพราะคนเราได้เรียนรู้มาไม่เหมือนกัน

    "น้ำ เปลี่ยนสังขารได้หรือไม่" คำว่า "สังขาร"ที่คุณเขียนมา" หมายถึง การปรุงแต่ง หรือหมายถึง ร่างกายของเรา
    ถ้าหมายถึงการปรุงแต่ง น้ำย่อมมีส่วน ที่จะเปลี่ยนแปลงการปรุงแต่ง หรือ สังขารได้ ตามแต่สภาพแวดล้อม โอกาส หรือเหตุการณ์
    แต่ถ้าหมายถึงร่างกายของคนเราแล้ว น้ำ ก็ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่เห็นผลได้ชัดเจน ที่เห็นผลชัดคือสภาพสภาวะจิตใจหรืออารมณ์เมื่อได้สัมผัสกับน้ำ ในรูปแบบต่างๆกัน เช่น สบาย เย็น ,หรือ เป็นทุกข์ อึดอัด ก็แล้วแต่สถานะการณ์ และสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น

    มะหน่อ ถามว่า
    คืออยากถามท่านว่าสังขารของน้ำเที่ยงหรือไม่เที่ยงครับหมายถึงเปลี่ยนเป็นธาติดินได้หรือไม่...เป็นธาตุลมได้หรือไม่และเป็นธาตุไฟได้หรือไม่เท่านั้นครับ

    ตอบ...
    ข้อนี้ก็เช่นกัน ถ้าคุณหมายสถานะหรือร่างกายของน้ำ ดังที่เคยบอกไปว่า น้ำ มี สถานะเป็นของเหลว ประกอบไปด้วย อากาศธาตุ หลายอย่าง ที่สำคัญและส่วนใหญ่ ประกอบด้วย
    ไฮโดรเจน 2 ส่วน ออกซิเจน 1 ส่วน สัญลักษณ์ สมมุติ คือ H2O
    สถานะของน้ำจะเที่ยงหรือไม่เที่ยง คือจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสภาพลมฟ้าอากาศ การไหลของน้ำ พื้นผิวที่น้ำได้สัมผัสหรือไหลไป และอื่นๆอีกมาก ดังนั้น ถ้าสภาพสภาวะปกติ น้ำก็จะมีสถานะคงที่ หากได้รับการกระตุ้น หรืออื่นใด น้ำก็จะเปลี่ยนสถานะไป เช่น กลายเป็นไอ บ้าง สูญหายไปบ้าง หรือเปลี่ยนสภาพเป็นอย่างอื่นบ้าง ดังนี้เป็นต้น
    น้ำ เปลี่ยนเป็นธาตุอื่นๆ ได้หรือไม่ ตอบ เปลี่ยนไม่ได้ขอรับ ยกเว้น น้ำได้รับการผสมจากธาตุอื่นๆ กลายเป็นธาตุที่เสมือนไฟ ธาตุที่เสมือนลม และธาตุที่เสมือนดิน
    และที่สำคัญ ในน้ำ ก็ย่อมมีธาตุอื่นแฝงอยู่ หมายความย่อมมี ธาตุดิน(ดิน) ธาตุไฟ(ไฮโดรเจน)(อาจจำผิด แต่คิดว่าไม่ผิด) ธาตุลม(คือการเคลื่อนที่ของธาตุทั้งหลาย) อย่างนี้เป็นต้น
     
  9. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,653
    ค่าพลัง:
    +1,211
    กระผมไม่มีจิตเจตนาเป็นอย่างอื่นนะขอรับท่านเหล่ามิตรักสหายธรรมนอกจากเสวนาสนทนาหาความรู้ทางด้านธรรมมะเท่านั้น...ดูกระจกด้านหน้าเห็นรูปของตัวเอง...เดินไปดูกระจกทางด้าหลังหายไปแล้ว...แล้วตัวเองอยู่ตรงไหน....ในกระจกก็มีแต่รูปตัวเองเท่านั้นแล้วทำไมไม่หล่อไม่รวยเหมือนคนอื่นเขา...เพื่อให้รู้จักตัวกระผมเองบ้างกระผมก็ต้องขอรบกวนท่านยิ่งแล้วเพื่อเป็นกระจกเพื่อจะได้รู้จักตัวของกระผมเองเท่านั้น...รบกวนท่านยิ่งแล้ว

    ต้องกราบขอความกรุณาจากท่านอีกแล้วครับ...คือน้ำมีส่วนประกอบหลายตัวครับ....เอาไฮโดรเจนตัวเดียวดีกว่าจะเห็นชัดขึ้นไหมขอรับ....หากเขาอยู่ดีๆตามธรรมะชาตินี่....เกาะที่ญี่ปุ่นจะหายไปไหมครับ....เขาเปลี่ยนเป็นไฟปลัยกัลย์ไปแล้ว...ใครทำ...คนทำครับ...แล้วคนอยู่ตรงไหนของคน..จิตทำ...กิเลสทำ...หรือวิญญานทำ......โยนให้ผู้อื่นอยู่ร่ำไปไม่เคยรับเลยว่าตัวเองเป็นคนทำ

    หากธรรมชาติเขาอยู่ของเขาเขาคงไม่ระเบิดวุ่นวายขนาดนั้น...อะตอมเดียวใช่ไหมขอรับ...สักสิบอะตอมยี่สิบอะตอมในไม่ถึงครึ่งที่เตรียมกันเรียบร้อยแล้วเพราะมนุษย์นี่...น้ำแข็งขั้วเหนือขั้วใต้เป็นเช่นไร

    ต้องขอรบกวนท่านยิ่งแล้วที่เอาเรื่องปวดหัวมารบกวนท่านเพราะเป็นเรื่องความคิดเห็นส่วนตัวไม่มีที่อ้างอิง.....เพื่อความไม่ประมาททั้งสองด้านทั้งผู้เสนอและผู้รับหากความคิดของกระผมไม่เป็นประโยชน์ก็ขอความเมตตากรุณาจากท่านด้วยที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้ของท่านเพื่อกระผมจะได้พิจารณาปรับปรุงและแก้ไขในตัวเองในเวลาต่อไปด้วยความถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท...ขอรบกวนท่านยิ่งแล้ว....ขอกราบขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2008
  10. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818
    ความจริงแล้วถ้าคุณอ่านกระทู้ "ธรรมะคืออะไร ในพุทธศาสนา" ตั้งแต่บทที่ 1 เป็นต้นมา แล้วพิจารณาให้ดี คุณก็จะเกิดความเข้าใจ อาจจะเข้าใจถึงขั้น บรรลุธรรมเลยก็ได้ เพียงแต่(ขออภัยที่จะกล่าวตามตรงว่า) คุณมีความคิด ที่ค่อนข้างจะเบี่ยงเบนจากปกติทั่่วไป ถ้าคุณแก้ไขจุดนี้ได้ คุณอาจจะมองเห็นธรรมะทั้งหมด อย่างทะลุปรุโปร่งก็ได้
    เพราะ หลักธรรมะในศาสนาล้วนมาจากธรรมชาติ ที่มีอยู่ ที่เป็นอยู่ ของสรรพสิ่ง
    ลองค้นหาในหมวดพุทธศาสนานี้แหละ "ธรรมะคืออะไร ในพุทธศาสนา" ตั้งแต่บทที่ 1 (3 ตอน) บทที่2 (5ตอน ยังเหลืออีก 1ตอน ยังไม่ได้นำมาเผยแพร่ เพราะเขียนยาก หาคำศัพท์ที่จะทำให้คนทั้งหลายอ่านแล้วเข้าใจได้ยาก)
     
  11. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818
    ความจริงแล้วถ้าคุณอ่านกระทู้ "ธรรมะคืออะไร ในพุทธศาสนา" ตั้งแต่บทที่ 1 เป็นต้นมา แล้วพิจารณาให้ดี คุณก็จะเกิดความเข้าใจ อาจจะเข้าใจถึงขั้น บรรลุธรรมเลยก็ได้ เพียงแต่(ขออภัยที่จะกล่าวตามตรงว่า) คุณมีความคิด ที่ค่อนข้างจะเบี่ยงเบนจากปกติทั่่วไป ถ้าคุณแก้ไขจุดนี้ได้ คุณอาจจะมองเห็นธรรมะทั้งหมด อย่างทะลุปรุโปร่งก็ได้
    เพราะ หลักธรรมะในศาสนาล้วนมาจากธรรมชาติ ที่มีอยู่ ที่เป็นอยู่ ของสรรพสิ่ง
    ลองค้นหาในหมวดพุทธศาสนานี้แหละ "ธรรมะคืออะไร ในพุทธศาสนา" ตั้งแต่บทที่ 1 (3 ตอน) บทที่2 (5ตอน ยังเหลืออีก 1ตอน ยังไม่ได้นำมาเผยแพร่ เพราะเขียนยาก หาคำศัพท์ที่จะทำให้คนทั้งหลายอ่านแล้วเข้าใจได้ยาก)
     

แชร์หน้านี้

Loading...