ธรรมะจากหลวงพ่อ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 30 กันยายน 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑ : อิทธิฤทธิ์หรือจะสู้บุญฤทธิ์</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : พระราชสังวรญาณ ( พุธ ฐานิโย ) วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD height=333 vAlign=top>
    หนุมาน ทุ่มก้อนหินใส่กุมภกรรณ กุมภกรรณจับขยี้แหลกเป็นผงไป เลยเอาก้อนใหม่ทุ่มไปอีก ก็จับโยนไป พวกนี้ สำเร็จอิทธิฤทธิ์มาได้อย่างไร ? สำเร็จมาได้ด้วยการบำเพ็ญตบะ จนพระอินทร์ พระพรหม พระอิศวร เห็นใจ ประทานพรให้เป็นผู้มีฤทธิ์..แต่เสร็จแล้ว ก็มาเที่ยวฆ่ากันอยู่ เพราะฉะนั้น สิ่งที่วิเศษที่สุดก็คือศีล ถ้ามีศีลบริสุทธิ์แล้ว ไม่ต้องไปคำนึงถึงอะไร..

    สิ่งที่จะได้ประโยชน์อย่างแท้จริงในปัจจุบันนี่... ใครมีเมีย รักสงสารเมียของ ตนเองให้มากๆ ใครมีผัว รักสงสารผัวของตัวเองให้มากๆ ใครมีลูก รักเมตตาปรานีต่อลูกให้มากๆ ใครมีพ่อมีแม่รักเคารพบูชา พ่อแม่ให้มากๆ เลี้ยงดูท่านให้มีความสุข ถ้าใครทำได้ มันจะมีฤทธิ์เดช เรียกว่า บุญฤทธิ์ คนมี บุญฤทธิ์ นี่ ไปที่ไหนก็สงบเยือกเย็น ไม่ไปก่อกรรมทำเข็ญ ให้ใครเดือดร้อน มี แต่มีแต่พวกภูตผีปิศาจ ที่มันไม่นิยมชมชอบในคุณธรรมนั่นแหละ มันจะร้อนเป็นไฟ เราปฏิบัติสมาธิ จิตของเราไปถึงไหนสมาธิขั้นใด ตอนใด กี่ขั้นก็ตาม ผลลัพธ์ก็คือ เราละความชั่วได้

    นี่มันอยู่ที่ตรงนี้ เรื่องของสมาธินี่ ถึงใครจะวิเศษวิโสสักปานใด มันไม่ใช่สิ่งสำคัญหรอกมันวิเศษอยู่ตรงที่ว่า เมื่อจิตเราเป็นสมาธิแล้ว เราละบาปได้หรือเปล่า ศีล ๕ เราบริสุทธิ์หรือเปล่าเพราะฉะนั้น ใครภาวนา ไม่เป็นก็อย่าไปสนใจ รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ แค่นั้น... ปิดประตูอบายได้แล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๒ : เถาวัลย์</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    เด็กๆก็เหมือนกับเถาวัลย์นั่นแหละ เมื่อเถาวัลย์เกิดขึ้น ณ ที่ใด มันจะต้องหาต้นไม้ ที่จะเลื้อย ขึ้นไปเสมอในเมื่อต้นไม้ ต้นหนึ่งอยู่ใกล้ ๑๕ เซ็นติเมตร ถ้าอีกต้นหนึ่งอยู่ห่าง ๑๐ เมตร คุณว่ามันจะเลื้อยขึ้นต้นไหน ?

    มันก็จะเลื้อยขึ้น ต้นที่อยู่ใกล้ที่สุดนั่นแหละ ต้นที่อยู่ห่าง ๑๐ เมตรโน่นมันคงไม่เลื้อยไปหรอก เพราะมันไกล เกินไป ฉะนั้น ครูเป็นผู้ที่ใกล้ชิดของเด็กๆ ทั้งหลายนั่นเองแหละ เป็นผู้ที่เด็กๆ ทั้งหลายจะถือเอาเป็นแบบอย่าง จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องมีการประพฤติจรรยามารยาท เครื่องละเว้น เครื่องบำเพ็ญให้เด็กดู อย่าสอนเขาแต่ปากการยืน การเดิน การนั่ง การเคลื่อนไหว การพูดจา อะไรทุกอย่าง เราต้องทำให้เป็นการสอนเขาทั้งนั้น เด็กๆเขาจะทำตามเพราะเด็กนั้นไว เขาไวกว่าผู้ใหญ่
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22> หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๓ : ทวนกระแสน้ำ</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    การปฏิบัติ นั้นคือทวนกระแส ทวนกระแสน้ำใจของเราเอง ทวนกระแสของกิเลส อะไรที่เป็นของทวนกระแสแล้ว มันลำบากพายเรือทวนกระแสก็ลำบากสร้าง คุณงามความดีนั้น ก็ลำบากเสียหน่อยหนึ่ง เพราะว่าคนเรามีกิเลส ไม่อยากจะทำ ไม่อยากจะยุ่งยาก ไม่อยากจะอดทนอยากจะปล่อยไปตามอารมณ์เสียเป็นส่วนใหญ่เหมือนน้ำน่ะแหละ มันก็ไหลไปตามเรื่องของมัน ถ้าปล่อยให้ไหลไปตามน้ำก็สบาย แต่ว่านั่นไม่ใช่ลักษณะการปฏิบัติลักษณะการปฏิบัติต้องฝืนกิเลส ฝืนใจ ของตัวเอง ข่มจิตเจ้าของทำความอดทนให้มากขึ้น มันจึงเป็นการปฏิบัติทวนกระแสน้ำ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๔ : น้ำในตุ่ม</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    เราเอาขันไปตักออกขันหนึ่ง แล้วเททิ้ง ตักมาขันที่สอง แล้วก็ เททิ้งตักแล้วก็เททิ้งอยู่อย่างนั้น
    น้ำที่อยู่ในตุ่ม มันก็ต้องมีเวลา มีโอกาส ที่จะแห้งหมด ไปได้จิตที่เข้าไปปฏิบัติก็อย่างนั้นเหมือน
    กัน ถ้าเราไม่เห็นอย่างนั้น ก็เหมือนตักน้ำใส่ แล้วตักออกตักใส่ แล้วตักออกก็บุญๆ บาปๆ ผิดๆ
    ถูกๆ ดีๆ ชั่วๆ เดี๋ยวมันก็สบายก็ทุกข์อยู่อย่างนี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๕ : มีธรรมะเป็นเครื่องแก้</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : พระธรรมโกศาจารย์ ( ปัญญานันทภิกขุ ) วัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    ถ้าเราเอาธรรมะมาเป็นเครื่องแก้ เอาธรรมะมาเป็นกระจกเงา คอยส่องมองดูตัวเราเองบ่อยๆ
    เราก็จะรู้ความจริงของชีวิต คิดได้ นึกได้ แล้วเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น เราก็รู้ว่าอ้อ มันจะต้องเป็น
    อย่างนั้น

    เมื่อมีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจ เช่นอยู่ๆ แหวนก็หาย สายสร้อยคอหายหรือ เงิน
    หาย เราก็ไม่ทุกข์มากเกินไป แต่เรายิ้มเยาะมันได้ว่า เออ มันเรื่องธรรมดา เกิดมาแล้วมันก็อย่างนี้
    แหละ เราได้มาแล้ว มันก็ต้องสูญเสียไป เพราะการพบกัน กับการพรากกัน มันเป็นของคู่กัน การ
    ได้การเสีย มันเป็นของคู่กัน การมี - การไม่มี มันก็คู่กัน คนที่มีปัญญาก็นึกได้ คนไม่มีปัญญาก็
    นึกไม่ได้ ก็นึกว่าของเราๆตลอดเวลานี่เพราะไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆตามความเป็นจริง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๖ : อย่าให้อายวัว</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : ห้องธรรมะจากหลวงพ่อ ธรรมไทย </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    วัวที่มันลากเกวียน บรรทุกของ มาจากทางไกลน่ะ ยิ่งตะวันบ่ายคล้อยต่ำค่ำลงวัวมันก็เร่งฝีเท้า
    กระชั้นเข้าทุกที เพราะมัน อยากจะให้ถึงที่เร็วๆ มันคิดถึงบ้าน

    คนเรายิ่งแก่ ยิ่งเจ็บไข้ ใกล้ความตาย ก็เป็นตอนที่ จะต้องปฏิบัติภาวนาล่ะจะเอาความแก่ ความ
    เจ็บ มาเป็นข้ออ้าง มันก็จะแย่กว่าวัวเท่านั้นแหละ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๗ : ชั่วดีมีคละกัน</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : พระราชสังวรญาณ ( พุธ ฐานิโย ) วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    คนเรามีทั้งส่วน ดี และส่วน ชั่ว คนที่ ชั่ว ก็มี ดี อยู่บ้าง มิได้ ชั่ว ไปเสียทั้งหมด ต้องมองดู
    เขาในแง่ ดี บ้าง เหมือนลูกไม้บนต้น ย่อมมีผลไม่เสมอกัน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๘ : เหนื่อยก็ไม่พัก หนักก็ไม่วาง</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : ( หลวงพ่อชา สุภัทโท ) วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    โลกนี้มันก็สม่ำเสมอดีอยู่หรอก ที่มันไม่สม่ำเสมอนั้น เพราะจิตของเราหลงไปอุปาทานมั่น
    หมายมัน เสียแล้วเช่นต้นไม้ในป่านี้แหละ ต้นนี้มันโตไป ต้นนี้มันเล็กไป ต้นนี้มันสูงไปต้นนี้มัน
    เตี้ยไป นี่เราก็พูดแต่เรื่องของเรา ต้นไม้มันก็ไม่ว่าของมันยาวหรือสั้น มันก็เป็นของมันอยู่อย่าง
    นั้นอารมณ์ เกิดมาจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันก็เป็นอยู่ของ มัน อยู่อย่างนั้น ถ้าจิตมันรู้เรื่อง
    แล้วก็ปล่อยๆมันไป ทางตาก็ดี ทางหูก็ดี ทางจมูกก็ดี ทางลิ้นก็ดี ทางกายก็ดี ทางใจก็ดี ถ้าเห็น
    สภาพมันเป็น อย่างนั้น มันก็ ปล่อย รับรู้แล้ว มันก็ปล่อย อารมณ์ทั้งหลายนั้น มันก็เสมอกัน ไม่มี
    อะไรดี ไม่มีอะไรชั่ว มันจะดี หรือมันจะชั่ว

    ก็เพราะเราไปมีอุปาทาน มั่นหมายมันเท่านั้นตัวอารมณ์มัน เป็นอยู่อย่าง นั้นของมันถูกสมมติ
    ขึ้นมาในจิตใจของเรา เราก็ไปสำคัญ มั่นหมายว่า มันเป็นที่จิตอย่างนั้น จากนั้นเราไปแบกมัน
    มันก็หนัก ความ หนักนั้นก็ทำ ให้เกิดทุกข์ขึ้นมา ทีนี้จะวางก็วางไม่ได้... ทำไมจึงวางไม่ได้? ก็
    เพราะนึกว่า ของหนักนั้นมันดี คิดว่าวางแล้ว มันจะไม่ได้ดี จึงไม่ยอมวาง มัน อย่าง บุรุษคน
    หนึ่งแบกต้นไม้มาถามว่าหนักไหม? หนักก็วางมันเสีย ที่นี่ เขาไม่ ยอมวาง เพราะกลัวจะไม่ได้
    สิ่งที่ได้จากการวางนั้นมีอยู่ แต่เขาไม่เห็น... มันก็แบกไป ดันไปจนกว่าจะตายนั่นเอง
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22> หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๙ : ทำใจอย่างไรให้เหนือโลก</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : พระอาจารย์จำเนียร สีลเสฏโฐ วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    เราห้ามอย่าให้ทุกข์นั้นไม่ได้ เมื่อทุกข์เกิดขึ้นแล้ว จงพิจารณาให้เห็นว่ามันเป็น เรื่องธรรมดา
    เราห้ามไม่ให้เขาโกรธไม่ให้เขาเกลียดนั้น ห้ามเขาไม่ได้ เมื่อเขา โกรธเกลียดขึ้นมาแล้วเราก็
    จงดูสิ่งเหล่านั้น ให้เห็นว่ามันมีการดับไปเป็น ธรรมดา ท้ายที่สุด จิตของผู้ปฏิบัติก็จะอยู่เหนือ
    กระแสโลกได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๐ : สุขที่แท้จริง</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    สุขที่แท้จริง ได้แก่จิตที่นิ่ง ไม่ดิ้นรน ผู้มาจับจุดความสุขที่แท้จริงได้อย่างนี้แล้ว แม้ผู้นั้นจะ
    อยู่ในอิริยาบถใด ประกอบภารกิจการงานใดๆอยู่ก็ตาม เขาจะมีใจเป็นสุขอยู่ตลอด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22> หัว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๑ : ต้องประกอบด้วยเหตุผล</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : ท่านพ่อลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    พระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องของการอ้อนวอน ร้องขอ หรือให้กันได้ ทุกคนจะต้องทำด้วยตน
    ของตนเอง จึงจะได้ผลสิ่งใดมิได้ประกอบไปด้วยเหตุและผลแล้ว สิ่งนั้นก็มิใช่พุทธศาสนา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๒ : ค า ว ร ะ ข อ พ ร ห ล ว ง พ่ อ โ ต</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : พระ ป. ญาณโสภโณ</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    ท่านช่วยเราแล้ว ขอให้รู้จักโตบ้าง อย่ามัวแต่ขอ
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๓ : กุศลและอกุศล</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    <CENTER>กุศลและอกุศล ย่อมให้ผลแก่ผู้กระทำทั้ง ๓ กาล

    "อกุศลคิดจะทำก็เป็นทุกข์ กำลังทำก็เป็นทุกข์
    </CENTER> ทำแล้วก็เป็นทุกข์ กุศลคิดจะทำก็เป็นสุข
    กำลังทำก็เป็นสุข ทำแล้วก็เป็นสุข"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๔ : สามในหนึ่ง</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    ปัญญา กับ สมาธิ เมื่อเราพูดแยกกันออก ก็คล้ายๆ คนละตัว แต่ความเป็นจริงเป็นตัวเดียวกัน
    นั่นเองแหละ ปัญญาเป็นเครื่องเคลื่อนไหวของสมาธิเท่านั้น มันออกจากจิตอันนี้เอง แต่แยกกัน
    ออกไปเป็นคนละลักษณะ เหมือนมะม่วงใบหนึ่ง เมื่อมันเล็กก็ใบนี้ เดี๋ยวมันก็โตขึ้น เดี๋ยวมันก็สุก
    คือมะม่วงใบเดียวกันไม่ใช่คนละใบ

    ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คือของอันเดียวกัน เหมือนมะม่วงนั่นแหละ เพียงแต่มันเป็นคนละอาการ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๕ : ต้องรู้อยู่ตลอด</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    ถ้าหากว่า เราเผลอไปนาทีหนึ่ง ก็เป็นบ้านาทีหนึ่ง เราไม่มีสติสองนาที เราก็เป็นบ้าสองนาที
    ถ้าไม่มีสติครึ่งวัน เราก็เป็นบ้าอยู่ครึ่งว้น เป็นอย่างนี้

    สตินี้คือความระลึกได้ เมื่อเราจะพูดอะไร ทำอะไร ต้องรู้ตัวเราทำอยู่ เราก็รู้ตัวอยู่ ระลึกได้อยู่
    อย่างนี้คล้ายๆกับเราขายของอยู่ในบ้านเรา เราก็ดูของของเราอยู่คนจะเข้ามาซื้อของ หรือขโมย
    ของของเรา ถ้าเรา สะกดรอยมันอยู่เสมอเราก็รู้เรื่องว่าคนๆนี้ มันมาทำไม เราจับอาวุธ ของเราไว้
    อยู่อย่างนี้ คือเรามองเห็นพอขโมยมันเห็นเรา มันก็ไม่กล้าจะทำเรา อารมณ์ก็เหมือนกัน ถ้ามีสติรู้
    อยู่ มันจะทำอะไรเราไม่ได้อารมณ์มันจะทำให้เรา ดีใจอยู่อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้ มันไม่แน่นอน
    หรอก เดี๋ยวมันก็หายไป จะไป ยึดมั่นถือมั่นทำไม อันนี้ฉันไม่ชอบ อันนี้ก็ไม่แน่นอนหรอก...


    ถ้าอย่างนี้ อารมณ์นั้นก็เป็นโมฆะเท่านั้น เราสอนตัวของเราอยู่ เรามีสติอย่างนี้เราก็รักษาอย่างนี้
    เรื่อยๆ ไป ตอนกลางวัน ตอนกลางคืน ตอนไหนๆ ก็ตาม
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๖ : ความรักของพ่อ</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : ท่านปัญญานันทภิกขุ </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    คนเราจะรู้จักบุญคุณก็ต่อเมื่อเราโต ไอ้เวลาเด็กนี่เราไม่รู้ ไม่รู้ว่าพ่อแม่ มีบุญคุณต่อเราอย่างไร
    จะเล่าเรื่องเก่าให้ฟังสักหน่อย เรื่องพระเจ้าอชาตศัตรู

    พระเจ้าอชาตศัตรูไปคบเทวทัต เป็นภิกษุอันธพาลรังควาน พระพุทธเจ้า ไม่ใช่เล็กน้อยเรียก
    ว่า "ยอดอันธพาล" หาเรื่องกับพระพุทธเจ้า เมื่อคบกัน เทวทัตก็ยุแหย่อย่างนั้นอย่างนี้ก็บอกว่า
    ชีวิตคนราชย์ต่อไป พระเจ้าอชาตศัตรูก็เลยหลงคำพูด จับพ่อไปขังเสียนี่ ขังไว้ในคุก ขังแล้วก็
    ทรมาน หลายอย่าง หลายประการ มันไม่แน่นอน พ่อนี่ แก่ตนอย่างไร มานึกได้ตอนนี้... วันหนึ่ง
    อำมาตย์เข้าไปกราบทูล สองคน ควรจะให้ออกจากราชสมบัติ ได้แล้วท่านจะได้ครองไม่นึกว่า
    พ่อมีบุญคุณ ข้าไปพร้อมกัน คือ "ข่าวพ่อตาย" กับ"ข่าวลูกเกิด"

    มเหสีอชาตศัตรูเกิดลูก คนหนึ่งไปถึง บอก......
    "เอ๊ เราจะบอกข่าวอะไรก่อนดีนา ข่าวเกิด หรือข่าวตาย"
    "เอ๊อะ มันต้องข่าวเกิดซิ เรื่องเกิดมันเรื่องพอใจ เรื่องตายมันเรื่องเศร้า เราควรบอกข่าวเกิดก่อน"
    คนหนึ่งเข้าไปถึง กราบทูลว่า
    "พระมเหสีของพระองค์คลอดพระโอรสเป็นชายพ่ะย่ะค่ะ"
    พอรู้ว่ามีโอรสเป็นชายนะ สัญชาตญาณของความเป็น "พ่อ" มันเกิดขึ้น คือมีความรักลูกพอรัก
    ลูกคิดถึงพ่อทันที
    "แหม... พ่อเรานี่อยู่ลำบาก แหม...ไม่สมควรที่เราจะทำกับพ่ออย่างนั้นเลย"
    พอคิดอย่างนั้น อำมาตย์ก็กราบทูลว่า
    "พอดีพระบิดาของพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วที่ในคุก พ่ะย่ะค่ะ"
    พอได้ยินอำมาตย์ทูลเช่นนั้น ก็เศร้าใจ มีความทุกข์ นี่มารู้ว่า "พ่อ" เป็นประโยชน์แก่ตนเมื่อได้
    ลูกเมื่อมีลูก พอมีลูกก็เกิดรักพ่อ เพราะเรารักลูก และเกิดความคิดว่า
    "พ่อคงรักเราอย่างนี้ เหมือนเรารักลูก"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๗ : ตัวหนังสือ กับ ของจริง</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    หยุดเอาความรู้ปริยัติใส่หีบใส่ห่อไว้เสีย อย่าเอามาพูด ไม่ใช่ความรู้พวกนั้นจะเข้ามาอยู่นี่หรอก
    มันพวกใหม่ เวลาเป็นขึ้นมา มันไม่เป็นอย่างนั้น เหมือนกับเราเขียนหนังสือว่า ความโลภ เวลา
    มันเกิดขึ้นในใจ ไม่เหมือนตัวหนังสือ เวลาโกรธก็เหมือนกัน เขียนใส่กระดานดำก็เป็นอย่างหนึ่ง
    มันเป็นตัวอักษร เวลามันเกิดในใจ อ่านอะไรไม่ทันหรอก มันเป็นขึ้นมาที่ใจเลย สำคัญนัก สำคัญ
    มาก
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22> หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๘ : ให้ถูกกับจริต</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    อารมณ์ของสมถกรรมฐานนี้ ถ้าไม่ถูกจริตของเรา มันก็ไม่สลด ไม่สังเวช อันใดที่ถูกกับจริต
    อันนั้นก็จะประสบบ่อยๆ มีความรู้สึกนึกคิดในอาการนั้นบ่อยๆ แต่เราไม่ค่อยจะได้สังเกต จึงควร
    สังเกตเพื่อให้ได้ประโยชน์ เปรียบเหมือนกับอาหาร ที่เขาจัดมาให้สำรับหนึ่ง มันก็มีหลายอย่าง
    เราก็ชิมไปทุกถ้วยทุกอย่าง

    นั่นแหละ แล้วก็จะรู้เองว่า อาหารอย่างไหนที่เราชอบ อย่างไหนที่เราไม่ชอบอย่างไหนชอบ
    ก็ว่ามีรสชาติอร่อยกว่าอย่างอื่น นี่พูดถึงอาหารนี่ก็เทียบให้เห็นกับจริตของคนเรา กรรมฐานที่ถูก
    กับจริต มันก็สบาย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๑๙ : กัณฑ์นี้เพื่อ ส.ส.</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : พระธรรมโกศาจารย์ ( ท่านปัญญานันทภิกขุ ) วัดชลประทานรังสฤษฎ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    "นักการเมืองควรที่จะเข้าร่วมประชุมบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้มีแต่เก้าอี้ เมื่อมีการถ่ายภาพออกมา
    ก็ เป็นการประจานว่า ไม่ทำหน้าที่ของตนเอง แอบไปนั่งคุย ดื่มเบียร์ ดื่มไวน์ อยู่ที่สโมสรใน
    สภาฯ ทำตัว เหมือนนักเรียนหนีห้องเรียน เป็นถึง ส.ส. ผู้มีเกียรติแล้ว ไม่ควรหนีสภาฯ ควร
    อดทนนั่งให้มันเต็มๆ อยู่ เว้นแต่ปวดปัสสาวะ อุจจาระ ท้องไส้เสียก็ไปได้ แล้วรีบกลับมา

    หลวงพ่อนั่งดูตลอดรายการ ผู้แทนฯนี่ หลบหนีเก่งเหมือนกัน ส่วนคนที่นั่งฟังอยู่ น่าสรรเสริญ
    น้ำใจ ขอชมเชย ส่วนผู้แทนฯที่ชอบหลบหน้า ไม่มาฟังเขาอภิปรายในที่ประชุม ขอตำหนิ เพราะ
    แสดงให้เห็นว่า ส.ส. เราไม่รัก ไม่ขยัน ไม่เอาใจใส่ในหน้าที่ เรียกว่าเป็นคนไม่รู้จักธรรรมะ
    ละเลยธรรมะ ถือเป็นผู้เสื่อม ไม่ได้เป็นผู้มีความเจริญก้าวหน้าในกิจการงานใดๆ

    เรื่องเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นในชั้นของสมาคมผู้แทนฯ จึงขอเตือน เพื่อให้เข้าหูท่านผู้แทนฯ ที่
    ชอบหลบหน้า ยกเว้นแต่มีเรื่องจะโหวต ถึงจะมายกมือ มาแต่ไกลตั้งแต่ประตูเลย แค่ยกมือตาม
    ธรรมเนียมยกตามที่เขาสั่ง ไม่เป็นตัวของตัวเองแต่ประการใด"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width=550 bgColor=#eeeeee align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ff9933 height=22>หั ว ข้ อ เ รื่ อ ง ที่ ๒๐ : หยุดแล้ว</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22> โ ด ย : หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จังหวัดอุบลราชธานี </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top><TABLE border=0 cellPadding=5 align=center><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD vAlign=top>
    เมื่อมันรู้เห็นหมดแล้ว ธรรมะก็ไม่ได้แบกเอาไปด้วย อย่างเลื่อยคันนี้ เขาจะเอาไปตัดไม้ เมื่อ
    เขาตัดไม้หมดแล้ว อะไรก็หมดแล้ว เลื่อยก็เอาวางไว้เลย ไม่ต้องไปใช้อีก เลื่อยคือธรรมะ
    ธรรมะต้องเอาไปปฏิบัติเพื่อให้บรรลุมรรคผล ถ้าหากว่ามันเสร็จแล้ว ธรรมะ ที่อยู่ก็วางไว้
    เหมือนเลื่อยที่เขาตัดไม้ ท่อนนี้ก็ตัด ท่อนนี้ก็ตัด ตัดเสร็จแล้ว ก็วางไว้ที่นี่ ย่างนั้นเลื่อยก็ต้อง
    เป็นเลื่อย ไม้ก็ต้องเป็นไม้

    นี่เรียกว่าถึงหยุดแล้ว ถึงจุดของมันที่สำคัญแล้วสิ้นการตัดไม้ ไม่ต้องตัดไม้ ตัดพอแล้ว เอา
    เลื่อยวางไว้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...