ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    วันนี้วันที่ ๒๒ มิถุนายน เป็นวันคล้ายวันมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พฺรหมฺรํสี) อาจาริยบูชาคุณ ๑๔๕ ปี สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) หรือนามที่นิยมเรียก “สมเด็จโต” “หลวงปู่โต” หรือ “สมเด็จวัดระฆัง” ท่านเป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ ๔-๕ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นับเป็นพระเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรความสมถะอันโดดเด่นของท่านและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่านแล้วจึงทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน

    “ลูกเอ๋ย..ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีของคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว…เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว…แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้าหมั่นสร้างบารมีไว้..แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง”

    “…เจ้าจงจำไว้นะ…เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้…ครั้นถึงเวลา…ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่…จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า…” โอวาทธรรมคำสอนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    ◎ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านถือกำเนิดในสมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีวอก ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ.๒๓๓๑ เวลา ๑๖.๓๕ นาฬิกา

    ท่านเป็นบุตรนอกเศวตรฉัตรในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่๒ แห่งราชวงศ์จักรี กล่าวคือในสมัยรัชกาลที่ ๑ นั้น ได้เกิดศึกขึ้นทางภาคเหนือของไทย โดยกองทัพเวียงจันทน์จะยกมาตีเมืองโคราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ) จึงทรงมีรับสั่งให้รัชกาลที่๒ ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระยศเป็นเจ้าฟ้า ไปปราบศึกที่ยกมา รัชกาลที่๒ ซึ่งขณะนั้นเพิ่งมีพระชนมายุได้ ๑๗ พรรษาเท่านั้น ก็ได้ยกทัพไปทางเรือ ครั้นไปถึงจังหวัดกำแพงเพชรก็ได้มีชาวบ้านจัดสินค้าต่างๆมาขายแก่พวกทหารในกองทัพ ในจำนวนแม่ค้าพายเรือมาขายของนั้น ได้มีมารดาของท่านซึ่งเป็นสาวงามชาวกำแพงเพชรด้วยผู้หนึ่ง (ท่านเล่าว่ามารดาของท่านชื่อ แม่งุด ) มารดาของท่านพายเรือขายผลกระท้อนแก่พวกทหาร ด้วยบุพเพสันนิวาส พวกนายทหารเห็นเป็นบุญว่ามารดาของท่านเป็นคนสวยจึงชักพาให้ได้กับเจ้าฟ้าแม่ทัพ และได้อยู่ร่วมกันคืนหนึ่ง ก่อนที่จะจากไปท่านแม่ทัพบิดาของท่านได้ประทานรัดประคดอันหนึ่งแก่มารดาของท่านไว้ เพื่อมอบให้บุตรที่จะเกิดขึ้นต่อไป ทั้งรับสั่งไว้ด้วยว่าถ้ามารดาของท่านคลอดบุตรเป็นชายให้ตั้งชื่อว่า “โต” ถ้าคลอดบุตรเป็นหญิง ให้ตั้งชื่อว่า “เกตุแก้ว”หลังจากนั้นก็เดินทัพต่อไป

    ต่อมามารดาของท่านก็ได้ตั้งครรภ์ท่าน ระหว่างตั้งครรภ์มารดาของท่านได้ล่องเรือลงมาสืบหาสามีถึงบางกอก จึงได้ทราบว่าสามีเป็นเจ้าฟ้าผู้สูงศักดิ์ จะเป็นกษัตริย์สืบต่อไปก็เกิดความเจียมตัวจึงไม่แสดงตัว และได้คลอดท่านที่บ้านญาติที่บางกอกน้อยนั้นเอง ตั้งชื่อว่า “โต” ตามที่บิดาท่านสั่งไว้ ตอนเล็กๆนั้นท่านเป็นเด็กที่เรียกว่า“ตัวกระเปี๊ยกเลี๊ยก” เพราะกินอยู่ไม่สมบูรณ์ ต่อมาตาและมารดาของท่านได้ไปค้าขาย ( ท่านว่าไปขายของจับฉลาก ) อยู่ที่จังหวัดพิจิตร แล้วต่อมาก็ได้อพยพไปอยู่ที่อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

    เมื่อท่านอายุได้ ๗ ขวบ ท่านอยากบวชจึงไปบอกแม่กับตา แม่กับตาก็ให้บวชเป็นสามเณรอยู่ที่วัดสำนักสงฆ์ใหญ่ ( ซึ่งต่อมาจึงได้สร้างเป็นวัดเกตุไชโย ) หลังจากทรงบรรพชาแล้ว ก็เริ่มปฏิบัติธรรมทั้งทางด้านปริยัติ ปฏิบัติและปฏิเวธ ศึกษาค้นคว้าแตกฉานเร็วมากด้วยเหตุแห่งการสั่งสมบารมีมามากเป็นอเนกอนันตชาติ และทรงทราบว่าพระองค์มาจุติหรืออุบัติขึ้นเพื่อเจริญพระศาสนา จึงเร่งศึกษาพระไตรปิฎกอย่างแตกฉานแยกแยะความถูกต้องและผิดพลาดจากการบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก เร่งฝึกวิปัสสนาพระกรรมฐานความรู้แจ้งเห็นจริงก็ปรากฏขึ้นในดวงจิตที่มุ่งมั่นสะอาดและบริสุทธิ์ ทรงมีพระปัญญาคมกล้าเป็นยอดเยี่ยม จึงสามารถบรรลุมรรคผลอย่างรวดเร็ว โดยการเริ่มเทศน์จากพระคัมภีร์ใบลาน จนกระทั่งเทศน์ด้วยปากเปล่าและในรูปแบบของปุจฉา-วิสัชนา เป็นที่ยอมรับของอุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย ที่ได้ฟังพระสุรเสียงเป็นที่ไพเราะจับใจ ความชัดเจนของอักขระการเอื้อนทำนองวรรคตอนได้ถูกต้อง ภาษาสละสลวย เนื้อหาสาระที่เทศน์ ไม่ว่าจะเป็นพระธรรมเจ็ดคัมภีร์ หรือพระเจ้า ๑๐ ชาติ ก็สามารถเทศน์ให้ญาติโยมได้รับฟังอย่างจับจิตจับใจและฟังอย่างมีความสุข และจดจำเนื้อหาที่เทศน์ได้ และประกอบด้วยพระอัจฉริยภาพที่สง่างาม น่ารักของ “ สามเณรจิ๋ว ” ท่านบวชแล้วก็เกิดไม่ยอมสึก แม่ไม่ทราบจะทำอย่างไรก็ปล่อยให้บวชไปเรื่อยๆ พอผ่านไปสัก ๓ พรรษา ตอนนั้นอายุได้สัก ๑๐ ขวบ ท่านก็ยังไม่ยอมสึกตามที่มารดาของท่านพยายามให้สึก สมัยนั้นหน้าวัดที่ท่านบวชมีเรือสำเภาล่องมาจากทางเหนือคือทางปากน้ำโพผ่านมาจอดเสมอ สามเณรโตคิดว่าขืนอยู่อ่างทองนี้ต้องสึกแน่เพราะมารดาและตาของท่านฝากความหวังไว้กับท่าน ต้องการให้สึกจึงอ้อนวอนรบเร้าท่านเสมอ ท่านไม่อยากสึก ท่านจึงได้สอบถามว่าเรือสำเภาลำไหนบ้างที่พรุ่งนี้เช้าล่องไปบางกอก ก็ได้มีไต้ก๋ง(กัปตันเรือสำเภา) ชื่อแดงประจำเรือสำเภาลำหนึ่งบอกว่าเณรจะไปไหน พรุ่งนี้เรือจะล่องไปบางกอกตอนตีห้าท่านก็บอกไต้ก๋งแดงว่า ท่านจะไปเที่ยวบางกอก แล้วก็กลับไปเก็บข้าวของเตรียมเดินทาง คืนนั้นท่านนอนไม่หลับ เพราะเกิดการต่อสู้ทางความคิดขึ้นในจิตใจท่านเป็นอย่างมาก ตากับแม่ฝากความหวังไว้ที่ท่าน แต่ท่านนั้นดื่มด่ำในรสพระธรรมและจะทิ้งไปโดยไม่บอกให้ทราบ ไม่ทราบอะไรเป็นสิ่งบันดาลให้สามเณรน้อยตัดสินใจ รุ่งเช้าตีห้าท่านเก็บข้าวของลงเรือโดยไม่บอกทางบ้าน และเรือนั้นก็มาเทียบที่ท่าวัดอินทร์สามเสน ท่านได้ไปอยู่กับเจ้าอาวาสวัดอินทร์ บางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร ท่านเจ้าอาวาสวัดอินทร์เห็นท่านมีหน้าตาท่าทางฉลาด จึงเอาท่านไปฝากที่วัดระฆัง

    รุ่งขึ้นก่อนที่สามเณรจะถูกจับมาฝากวัดระฆังนั้น คืนนั้นเจ้าอาวาสวัดระฆังได้ฝันว่า มีช้างเผือกเชือกหนึ่งโผล่ขึ้นไปบนกุฏิท่านแล้วไชตู้พระไตรปิฎกรื้อลงมาหมด แล้วเคี้ยวพระไตรปิฎกเข้าไปหมด เจ้าอาวาสตกใจตื่น รุ่งเช้าจึงสั่งพระเลขานุการไว้ว่า ถ้าวันนี้มีใครเอาอะไรมาที่นี่ จงรับไว้ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด เจ้าอาวาสคอยเหตุการณ์จนสายก็พอดีมีอำแดงพรนิมนต์ไปฉันที่คลองบางกอกน้อย ก็สั่งกำชับเลขานุการไว้อีก

    ครั้นเจ้าอาวาสออกไปแล้วก็พอดีทางวัดอินทร์นำสามเณรน้อยคือท่านมาฝากที่วัดระฆัง ทีแรกก็เกือบถูกไล่ออกจากกุฏิ เพราะเจ้าอาวาสสั่งว่ามีอะไรให้รับไว้นั้น ไม่ได้บอกให้รับคน คุยกันอยู่นั้นก็พอดีเจ้าอาวาสกลับมาได้เห็นสามเณรก็บอกว่าตรงกับความฝัน จึงรับอุปการะและให้การศึกษา ศึกษาได้อยู่พักหนึ่ง ได้ถูกส่งให้มาอยู่วัดมหาธาตุ ต่อมาทางวัดอินทร์ได้ขอตัวท่านไปอยู่ที่วัดอินทร์ โดยอ้างว่าเพราะสามเณรองค์นี้เทศน์เก่ง ขอให้ไปเทศน์ให้ญาติโยมที่วัดอินทร์ฟัง ระหว่างอยู่ที่วัดอินทร์ท่านได้เล่าเรียนวิชาจนแตกฉาน มีพระสังฆราชไก่เถื่อนเป็นอาจารย์ทรงมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรม และฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ในขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างผงวิเศษต่างๆ เช่น สร้างดินสอพองขึ้นมาเพื่อเขียนกระดานชนวนลงเลขยันต์ ลบเก็บผงไว้เป็นผงวิเศษ ได้ชื่อว่าผงอิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห มหาราช พุทธคุณ ผงเหล่านี้ เรียกว่าเป็นผงวิเศษ หรือผงศักดิ์สิทธิ์ นอกจากจะสร้างผงขึ้นมาด้วยอำนาจจิต จากความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ด้วยพระองค์เองและผงวิเศษที่ได้ถวายมาจากพระอาจารย์ก็ได้เก็บสะสมไว้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเอาไว้สร้างพระ ต่อมาเสมียนตราด้วงซึ่งเป็นคนสนิทของเจ้าฟ้าในวังมาพบท่านเข้า ถูกชาตาจึงจะพาไปเทศน์ที่วัดพระแก้ว ซึ่งเป็นวัดหลวงเทศน์ให้เจ้าฟ้าฟัง พอสามเณรเข้าเฝ้านั้นก็นึกถึงแม่ ให้รัดประคดเอาไว้ว่า อันนี้ลูกจะต้องเก็บให้ดีเป็นของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ในวันที่ที่จะเข้าเฝ้าเจ้าฟ้านั้น ท่านจึงได้เอารัดประคดนี้มาคาดแล้วเข้าไปเฝ้า เจ้าฟ้าผู้เป็นบิดาทอดพระเนตรเห็นรัดประคดก็ทรงจำได้และรู้ว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ ก็กราบทูลให้พระเจ้าแผ่นดินทรงทราบความเป็นมา และพาท่านเข้าเฝ้าถวายตัวต่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดฝีปากการเทศน์ จึงทรงรับอุปถัมภ์ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยพระราชทานเรือกันยาเป็นรางวัลแก่ท่านด้วยขณะนั้นท่านอายุได้ ๑๖ – ๑๗ ปี และได้ย้ายไปอยู่วัดปรินิพพาน( วัดมหาธาตุ ) อาศัยอยู่กุฏิแดงน้อย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีหน้าที่เรียนหนังสืออย่างเดียว ระหว่างเรียนหนังสือก็มีอาหารจากในวังส่งมาให้เป็นประจำ โอกาสนี้ท่านได้สนิทสนมคลุกคลีกับเจ้าฟ้ารัชกาลที่ ๔ ด้วย ต่อมาท่านเป็นมหาสามประโยค ได้กลับไปเยี่ยมแม่ด้วย และหลังจากนั้นจึงได้ไปบวชเป็นพระที่จังหวัดพิจิตร ตอนที่ท่านเรียนหนังสือ ท่านอ่านตำราแตกฉาน จนกระทั่งพระอาจารย์บอกว่า นิมนต์มหาโต ไปเรียนกับพระประธานในโบสถ์ ท่านก็ไปอ่านไปคุยกับพระประธานในโบสถ์ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ท่านกับรัชกาลที่ ๓ มีความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ท่านจึงหลีกหนีไปบำเพ็ญในป่า เช่นที่จังหวัดกำแพงเพชร ดงพญาเย็น จังหวัดขอนแก่น วัดชนะชัยศรี วัดเกาะแก้วในอำเภออรัญประเทศ และเข้าไปในเขตประเทศเขมร เป็นต้น ครั้นรัชกาลที่ ๔ ขึ้นครองราชย์ ก็ได้ทรงประกาศหาตัวท่าน เพื่อจะให้ท่านมาช่วยด้านศาสนา ถ้าเห็นใครมีรูปร่างคล้ายท่าน เจ้าหน้าที่ก็จะจับเพื่อส่งวังหลวง ท่านท่องอยู่ในป่า พอได้ทราบข่าวว่า รัชกาลที่ ๔ ขึ้นครองราชย์แล้ว ท่านก็ได้ออกมาให้ตำรวจหลวงนำตัวท่านจากบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มาสู่บางกอก ขณะนั้นท่านอายุ ๔๐ ปี กลับมาอยู่วัดอินทร์ สมัยท่านอยู่วัดอินทร์ คราวหนึ่งท่านได้สร้างพระพุทธรูปองค์หนึ่งหันพระพักตร์เข้าข้างฝาในศาลา ทั้งนี้เพื่อเป็นปริศนาธรรมว่า พระสงฆ์ควรหันหน้าเข้าข้างฝาเพื่อค้นสัจธรรม แล้วค่อยหันหน้ามาสอนชาวบ้าน คือให้ถึงธรรมแล้วค่อยมาสอนธรรม เป็นการสร้างขึ้นเพื่อกระทบเหล่าพระสงฆ์ในขณะนั้น เพราะพระสงฆ์ส่วนใหญ่ในขณะนั้นไม่บำเพ็ญในทางธรรม แล้วก็ชอบพูดธรรมอวดธรรมกัน

    ในสมัยรัชกาลที่ ๔ นั้น สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสีเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คำแนะนำรัชกาลที่ ๔ ในเรื่องของการแก้ปัญหาบ้านเมืองในยุคที่มีอิทธิพลของต่างประเทศกำลังขยายตัวเพื่อล่าเมืองขึ้นในแถบเอเชีย ท่านเป็นผู้ร่างกฎหมาย กฎมณเฑียรบาล ท่านวางระบบการปกครองแบบมีสภาเลขา ซึ่งในการวางแผนต่างๆของท่านนั้น ท่านเล่าว่าท่านไม่เคยวางแผนเพียงแต้มเดียว แต่แผนของท่านมีทั้งแผนบุก แผนถอย แผนหนี แผนวิ่ง แผนตีลังกา ในการกู้แผ่นดินตอนที่พวกอังกฤษจะมายึดกรุงสยามในรัชกาลที่ ๔ นั้น ท่านก็วางแผนให้ที่ดินบางส่วนแก่เขาไปเพื่อรักษาเอกราชไว้

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ทรงคุ้นเคยมาทั้งในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาโตเป็นผู้ไม่ปรารถนาลาภ ยศ สมณศักดิ์ใดๆ เมื่อเรียนรู้พระปริยัติมาแล้วก็ไม่เข้าแปลหนังสือเป็นเปรียญและไม่รับเป็นฐานานุกรม เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นพระราชาคณะ พระมหาโต ได้ทูลขอตัวมิยอมรับตำแหน่ง หรือเลี่ยงโดยออกธุดงค์ไปตามวัดในชนบทห่างไกลทุกคราวไป จึงคงเป็นพระมหาโต มาตลอด

    จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาโตจึงยอมรับพระมหากรุณาในปีพุทธศักราช ๒๓๙๕ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งพระมหาโต เป็นพระราชาคณะที่พระธรรมกิติ เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ในปีขาล พุทธศักราช ๒๓๙๗ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่พระเทพกวี ศรีนายกตรีปิฎกปรีชามหาคณฤศร บวรสังฆราชคามวาสี ครั้นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สน) วัดสระเกศ มรณภาพ ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ รูปที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๑๐ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีชวด ตรงกับวันที่ ๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๔๐๗

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้สร้างวัดและสิ่งเกี่ยวเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาจำนวนมาก เช่น หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม พระโตนั่งกลางแจ้งวัดไชโย จังหวัดอ่างทอง พระเจดีย์นอน วัดลครทำ ฯลฯ นอกจากศาสนวัตถุต่างๆ แล้ว สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ยังได้รจนาบทสวดพระคาถาหลายบท แต่ที่เป็นที่รู้จักและถือว่าเป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง และนิยมสวดภาวนาในหมู่พุทธศานิกชน คือพระคาถาชินบัญชร ด้วยความที่พระองค์ท่านเป็นปูชนียบุคคลที่พระพุทธศาสนิกชนกล่าวขวัญถึง ในชื่อ “สมเด็จฯโต เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม และเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ ที่มีความรอบรู้แตกฉานใน พระธรรมวินัย และธรรมปฏิบัติ ความเป็นเลิศในการเทศนา ได้รับการยกย่องสรรเสริญในสติปัญญาและ ปฏิญาณโวหารที่ฉลาดหลักแหลม เปี่ยมด้วยเมตตากรุณาแก่ผู้ตกยากมีอัธยาศัยมักน้อยสันโดษท่านถือปฏิบัติในข้อธุดงควัตรทุกประการ คือ ฉันในบาตร ถือผ้าสามผืนออกธุดงค์ เยี่ยมป่าช้า นั่งภาวนา เดินจงกรม

    จนวาระสุดท้ายท่านมรณภาพเมื่อวันอาทิตย์ เวลา ๐๖.๐๐ น. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเมีย ซึ่งตรงกับวันที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๑๕ สิริพระชนมายุนับรวมได้ ๘๔ ปี กับ ๒ เดือนเศษ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี พระราชสมภพเพื่อพระพุทธศาสนาโดยแท้จริง เพราะพระองค์ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุ ๕ ชันษา และทรงอุปสมบทเป็นพระเมื่อพระชนมายุ ๒๐ ชันษา ปฏิบัติศาสนกิจอย่างต่อเนื่องโดยตลอดพระชนม์ชีพ ทรงมีผลงานทั้งเรื่องการให้พระธรรมคำสอนโดยการเทศนาโปรด ทั้งในระเทศและต่างประเทศ ทรงสร้างวัตถุมงคลไว้เป็นจำนวนมากในพระอิริยาบทต่างๆ เช่น นั่ง ยืน เดิน และนอน และทรงสร้างพระพุทธรูปขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ไว้เป็นจำนวนมาก จนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ (พระชนมายุ ๘๕ พรรษา ใน พ.ศ. ๒๔๑๕)

    สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -๒๒-มิถุนายน.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ให้พากันละบาปและบำเพ็ญบุญอย่าให้เสีย ชีวิตลมหายใจไปเปล่าที่ได้มีวาสนามาเกิดเป็นมนุษย์”

    หลวงปู่เสาร์ กันตลีโล

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ็เพราะว่าความตายนั้น
    ไม่มีใครที่หนีพ้น
    อนิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยง
    สุดจะเลี่ยงหลีกหลบไม่พบหา
    เกิดมาแล้วก็ต้องตายวายชีวา
    ทิ้งกายาฝังไว้ในมูลดิน
    ถึงรูปหล่อน่ารักสักเพียงไหน
    ที่สุดไซร้ก็เน่าเหม็นเป็นเหยื่อหนอน
    ชีวิตนี้ไม่ดำรงคงถาวร
    ความม้วยมรณ์เท่านั้นเป็นความจริง
    มัจจุราชนายใหญ่เอาไปแน่
    เว้นแต่เร็วช้าอย่าสงสัย
    วันและคืนพลันดับล่วงลับไป
    เราก็ใกล้ป่าช้ามาทุกที
    ถึงคราวตายมิอาจขวางทางยมฑูต
    ใครจะพูดห้ามไว้มิได้ผล
    ทั่วพื้นหล้าหญิงชายตายทุกคน
    อย่าอิงอลมากคำเร่งทำดี
    วันเวลาคล้อยเคลื่อนเลื่อนลอยลับ
    ไม่เคยกลับมาอีกเหมือนหลีกหนี
    มันกลืนกินสรรพสัตว์ทั่วปฐพี
    ทุกชีวีควรเตรียมพร้อมก่อนยอมตาย
    โอ้สังขารไม่นานก็ราญแหลก
    สลายแตกตายไปเป็นผุยผง
    มีเกิดแก่แน่นักจักตายลง
    เป็นมั่นคงอนิจจังไม่ยั่งยืน
    แม้จะมีโภคะมหาศาล
    บริวารมากล้ำจำนวนหมื่น
    อายุหดหมดสั้นทุกวันคืน
    มิยั่งยืนหญิงชายทุกรายไป
    แม้จะเที่ยวท่องไปในโลกหล้า
    แอบเมฆฟ้าเขาเขินเนินไสล
    มัจจุราชติดตามทุกยามไป
    อยู่ที่ใดไม่พ้นตายอย่าหมายปอง
    เป็นเช่นนี้แต่ปฐมบรมกัปล์
    เกิดแล้วดับถ้วนหน้าประชาผอง
    อนิจจังสังขารวิญญาณครอง
    จงเพ่งมองสัจจธรรมสำนึกตน
    ได้สติครองใจไว้ฉะนี้
    จะไม่มีความประมาทอาจให้ผล
    อำนวยสุขแก่ประชาในสากล
    ทุกทุกคนจำไว้ใส่ใจเอย
    เตือนใจให้เร่งเพียรภาวนา….

    – ธรรมหลวงปู่ฝากไว้ –

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “คู่บารมี บุพเพสันนิวาส”

    (คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

    ไม่มีอะไรจะเจ็บแสบยิ่งกว่าเรื่องของสามีภรรยา ที่มีความรักกันมากที่สุดในโลกนี้ก็คือสามีภรรยา รักสงวนกันมาก จดจ้องกันมาก ระเวียงระวังกันมาก ถ้าต่างคนต่างไม่มีธรรมด้วยแล้ว ก็เหมือนเอาไฟมาเผากันทั้งวันทั้งคืนอยู่ด้วยกันไม่เป็นสุข แม้จะเป็นเศรษฐีก็เป็นเศรษฐีไฟด้วย เผาหัวอกด้วยกันนั้นแหละ ถ้ามีธรรมในใจแล้วอยู่ไหนก็สบาย สามีก็ตายใจ เชื่อตัวเองได้ว่าเรามีภรรยาแล้ว ภรรยาของเราคนนี้เป็นเครื่องวัดชีวิตจิตใจของเราให้เป็นให้ตายไปด้วยกัน ไม่ยินดีกับหญิงอื่นหญิงใดทั้งนั้นแหละ(อัปปิจฉตา) นอกจากภรรยาของเราคนนี้เป็นผู้ฝากเป็นฝากตาย มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน พึ่งเป็นพึ่งตายกันได้ นี้แลเรียกว่าสร้างหอวิมานในครอบครัวของตน

    ระหว่างสามีภรรยามีความจงรักภักดีต่อกันอย่างนี้ เรียกว่าสร้างหอวิมานขึ้นมา ความสุขในมนุษย์ก็อยู่ในจุดนี้แล อะไรที่มีมาบ้างได้เสียไปบ้างนั้นเป็นธรรมดาของโลกทั่วๆ ไป แต่ความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์สุจริตต่อกันระหว่างสามีภรรยานี้ ให้มีความแน่นแฟ้นแก่นแห่งความรักความตายใจซึ่งกันและกันแล้ว นี้คือ “บ่อแห่งความสุข” สมบัติใดๆ สู้ไม่ได้ นี้เป็นสมบัติทิพย์อยู่ภายในจิตใจ เมียก็ตายใจว่าผัวของเรานี้เป็นที่ตายใจได้แล้ว สามีก็ตายใจ ภรรยาก็ตายใจ ต่างคนต่างตายใจ วางใจกันได้ นี้ละบ่อแห่งความสุขอยู่จุดนี้

    เราอย่าไปหวังเอาเงินเอาทองมาเป็นเศรษฐี โดยไม่คำนึงถึงความสำคัญที่อยู่ในคู่ครองทั้งสองนี้ ให้ปฏิบัติต่อกันด้วยดี เราจะมีความสุขความสบาย ตายลงไปแล้วก็มีความปรารถนาอยากจะพบกันในภพชาติต่อไปก็สมหวัง ถ้าทำความชั่วช้าลามก มีขัดมีแย้งกันเรื่องกิเลสกาม ความได้ไม่พอๆ ความโลภไม่พอนี้แล้ว ปรารถนาจะเป็นผัวเป็นเมียกัน ก็เหมือนกับเอาฟืนเอาไฟมาเผากันนั่นแหละ ผู้ดีก็ไปทางดีเสีย เมียเป็นคนดีตายแล้วเมียก็ไปทางดีเสีย ผัวเป็นคนชั่วตายแล้วก็จมไปทางชั่วเสีย ถ้าเมียไม่ดีเมียก็ไปทางชั่ว ผัวไม่ดีผัวก็ไปทางชั่วได้ ใครดีใครก็ไปทางดีด้วยกัน

    เมื่อดีทั้งสองแล้ว มีความปรารถนาต่อกัน อยากเป็นสามีภรรยา คู่พึ่งเป็นพึ่งตาย “คู่บารมี” กันในวาระต่อไปก็เป็นได้อย่างสมหวัง เพราะอำนาจแห่งบุญแห่งกุศลกลมกลืนกัน ไม่ปีนเกลียวกัน เมียชั่วผัวดีอย่างนี้ไม่ถูก ผัวก็ดี เมียก็ดี อย่าขัดอย่าแย้ง เวลาจะทำบุญให้ทาน อย่าต่อล้อต่อเถียงกัน ขัดแย้งกัน ผัวอยากให้ เมียไม่อยากให้ ก็ทะเลาะกันเสีย บุญกุศลควรที่จะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็ขาดบาทขาดตาเต็งลงไป ยิ่งไม่ให้เสียก็เลยไม่ได้ให้จริงๆ ขาดไปหมดด้วย นี่ขาดทุนสูญดอก อย่าขัดอย่าแย้งกัน การทำบุญให้ทานนี้เป็นสิ่งที่ชอบธรรมอย่างยิ่งแล้ว เรามีสมบัติมาพอได้ทำบุญให้ทาน ก็เป็นบุญของเรา อย่าขัดอย่าแย้งกัน ให้ได้บุญด้วยกัน ผัวทำก็ได้บุญทั้งผัวทั้งเมีย เมียทำก็ได้ถึงกัน เพราะใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีความยินดีด้วยกัน ปรารถนาจะเป็นคู่ครองกันในกาลต่อไปก็เป็นได้อย่างสมมักสมหมาย เพราะความดีเสมอกัน

    ให้ท่านทั้งหลายจำเอาไว้ ถ้าผัวเป็นยักษ์ เมียเป็นผี ก็ไปเป็นคู่บารมีกันในแดนนรกไม่เคยมี ธรรมพระพุทธเจ้าไม่เคยสอนไว้ ต้องเป็นคนดี เห็นกันแล้วหากเป็นไปเอง ถ้าต่างคนต่างเป็นคนดี ท่านแสดงไว้ในธรรมว่า ปุพเพนิวาสชาติปางก่อนเคยได้สร้างสมอบรมอะไรต่อกันไว้ ในเวลาที่เป็นผัวเป็นเมียกัน ในภพชาติต่อไปบุญบารมีอันนี้ก็จะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เมื่อพบกันเจอกันแล้วไม่ต้องบอก มันก็รู้กันเองภายในจิตใจที่เคยกันอยู่แล้ว มันหากเป็นผัวเป็นเมีย เป็นคู่บารมีและสร้างคุณงามความดีไปด้วยกัน เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ต่างคนก็ต่างถึงความหลุดพ้นจากทุกข์ไปได้นั่นแหละ

    โอวาทธรรมหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -คู่บารมี-บุพเพสั.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถาแก่ผู้มาร่วมโดยเสด็จพระกุศลในการทรงบาตร วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐

    “การที่พวกท่านได้มาร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ในวันคล้ายวันเกิดของอาตมภาพในวันนี้ เป็นที่น่ายินดียิ่งนัก…”

    1504326334_743_สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ด่วน!!! ขอเชิญบริจาคโลหิตถวายแด่
    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
    ณ คลังเลือด ชั้น 2 อาคารสมเด็จพระเทพฯ โรงพยาบาล ขอนแก่น
    หลวงปู่เลือดกรุ๊ปโอ…แต่สามารบริจาคทุกกรุ๊ป
    ประกาศ ณ 17 กรกฎาคม 2560

    รายงานอาการอาพาธหลวงปู่
    – ค่า hematocrit 26 (ต่ำ) ปกติต้อง 40 ถึงจะปกติ
    – ไม่มีเลือดออกตรงไหน สันนิษฐานว่าไขกระดูกทำงานผลิตเม็ดเลือดไม่ได้เต็มที่ เนื่องจากภาวะขาดอาหาร
    – ช่วงนี้ปอดท่านก็อ่อนแอ มีเสมหะเยอะมาก suction ตลอดเวลาเลย

    ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ ได้จาก เพจต้นโพธิ์

    -ขอเชิญบริจาคโลหิต.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ร่วมด้วยช่วยกัน ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยภาคอีสาน ที่ตกอยู่ในภาวะน้ำท่วมอย่างรุนแรง

    ัฐบาลเปิดบัญชีรับบริจาคน้ำท่วมภาคอีสาน โดยประชาชนในทุกภาคส่วนที่ประสงค์จะช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในครั้งนี้ สามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ โดยโอนเงินเข้าที่บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข่าวสารงานบุญนี้ ทุกๆท่าน

    -ขอเป็นก.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม_จังหวัดสกลนคร

    เนื่องจากขณะนี้จังหวัดสกลนคร กำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนัก พระอาจารย์สุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร ท่านจึงได้เมตตารวบรวมปัจจัยและสิ่งของเพื่อช่วยผู้ประสบภัยครั้งนี้ตามปฏิปทาพ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    ถ้าเป็นสิ่งของบริจาค ท่านสามารถส่งตรงไปที่ วัดป่าหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร ถ้าเป็นเงินปัจจัยเพื่อช่วยเหลือในการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยในขณะที่น้ำยังท่วมและเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ท่านสามารถโอนปัจจัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ที่

    ชื่อบัญชี พระอธิการสุธรรม สุธัมโม
    ธนาคารกรุงไทย
    เลขที่บัญชี 412-0-39365-8

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ

    คนไทยไม่แล้งน้ำใจ_เมตตาธรรมค้ำจุนโลก

    1504325358_544_ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้.jpg
    1504325358_581_ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้.jpg
    1504325359_508_ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้.jpg
    1504325359_68_ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้.jpg
    1504325359_516_ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้.jpg
    1504325359_654_ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ู้ปฏิบัติธรรม

    ทำใจให้สงบเป็นสมถธรรม วิปัสสนาธรรม
    ย่อมมีธรรมในใจ และเหนือกิเลสไปเรื่อยๆ
    จนปราบกันได้อย่างเรียบราบ ไม่มีอะไรเหลือ!

    “ใจ” ก็อยู่เหนือโลก เหนือกิเลสทั้งปวง
    เหนือขันธ์ เป็น “นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ”

    …สุขอื่นใดไม่เหมือนสุขที่เกิดจาก
    การปราบกิเลสสิ้นไปจากใจ…

    กราบสาธุธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ความดีนั้น
    เราต้องทำอยู่เสมอ ให้เป็นที่อยู่ของ “จิต”
    เป็นอารมณ์ของ “จิต”
    ให้เป็นมรรค คือทางดำเนินไปของ “จิต”
    มันจึงจะเห็นผลของความดี

    ไม่ใช่เวลาใกล้ตาย…
    จึงไปนิมนต์พระไปให้ศีล ให้ไปบอกพุทโธ
    หรือตายไปแล้ว ให้ไปรับศีล
    เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดทั้งหมด!

    กราบสาธุธรรมหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทธรรมองค์หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ

    ๔ สิงหาคม ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    1504324675_865_โอวาทธรรมองค์หลวงปู่จา.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ

    ๘ สิงหาคม ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุก ๆ ท่าน

    -มหาปุญฺโญ-ผู้.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    การฟังพระธรรมเทศนา
    ต้องฟังด้วยความเคารพ ตั้งใจฟัง

    ถ้าเราตั้งใจฟัง พระธรรมเทศนาของ
    พ่อแม่ครูอาจารย์จะหยั่งลึกเข้าสู่จิตใจ
    ของพวกเรา

    แต่ถ้าฟังอย่างที่ว่าฟังมากก็ชินไปเรื่อยๆ
    ผลที่สุดก็ฟังเหมือนเสียงนกเสียงกา

    พระธรรมเทศนาของพ่อแม่ครูบาอาจารย์
    หลวงปู่หลวงตาไม่ใช่ของเล็กน้อย
    ถ้าตั้งใจฟังก็จะสำเร็จสมประสงค์
    สมความมุ่งมาดปรารถนา

    เหมือนในสมัยพุทธกาลที่ท่านสำเร็จมรรค
    สำเร็จผลจากการฟัง…

    กราบสาธุธรรมหลวงพ่ออินถวาย สนฺตุสฺสโก

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่เทสก์

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุก ๆ ท่าน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...