ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “การทำความดีนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเอง
    ผู้อื่นไม่สำคัญ และไม่มีความจำเป็นอันใด
    ที่จะต้องเป็นห่วง หรือต้องรอคอยเขาด้วย
    เมื่อได้ลงมือลงแรงกระทำแล้วถึงแม้จะมี
    ใครร่วมมือด้วยหรือไม่ก็ตาม ผลดีที่ทำจะ
    ต้องเกิดขึ้นแน่นอน และยิ่งทำมากเข้า
    นานเข้า ยั่งยืนเข้า ผลดีก็ยิ่งเพิ่มพูนมาก
    ขึ้นและแผ่ขยายกว้างออกไปทุกที คนที่
    ไม่เคยทำดีเพราะเขาไม่เคยเห็นผล ก็จะ
    ได้เห็นและหันเข้ามาตามอย่าง”

    พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ
    พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

    สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
    อันเปี่ยมล้นหาที่สุดมิได้
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

    -สำคัญที.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ตั้งอยู่ในศีล ชี้ใส่กายเรานี้
    ชี้ใส่ใจเรานี้ อันนี้แหละคือศีลแท้
    กายใจนี้แหละ เป็นบ่เกิดของกุศลและอกุศล

    เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านสอนธรรม
    ท่านจึงชี้ลงสู่เหตุ กายของเราเป็นเหตุอันสำคัญ
    ท่านจึงสอนย้ำให้พุทธบริษัท
    พิจารณากายคตาสติกัมมัฏฐาน
    ฐานเป็นที่ตั้งแห่งธรรมทั้งปวง.”

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    -ชี้ใส่กา.jpg
    ” ตั้งอยู่ในศีล ชี้ใส่กายเรานี้ ชี้ใส่ใจเรานี้ อันนี้แหละคือศีลแท้
    กายใจนี้แหละ เป็นบ่เกิดของกุศลและอกุศล
    เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านสอนธรรม ท่านจึงชี้ลงสู่เหตุ กายของเราเป็นเหตุอันสำคัญ
    ท่านจึงสอนย้ำให้พุทธบริษัทพิจารณากายคตาสติกัมมัฏฐาน ฐานเป็นที่ตั้งแห่งธรรมทั้งปวง.”

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    นักปฏิบัติด้วยกัน จะทราบภูมิธรรมของกันและกัน

    “…ในวงพระปฏิบัติระหว่างเพื่อนนักปฏิบัติด้วยกัน และระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ จะทราบภูมิของกันและกันได้ และทำให้เกิดความเคารพเลื่อมใสต่อกันมาก ย่อมทราบจากการสนทนาธรรมกันทางภาคปฏิบัติ เมื่อเล่าความจริงที่จิตประสบและผ่านไปสู่กันฟัง ย่อมทราบถึงภูมิจิตภูมิธรรมของผู้นั้นทันทีว่าอยู่ในภูมิใด

    บรรดาศิษย์ที่ทราบภูมิของอาจารย์ได้ ย่อมทราบในขณะที่เล่าธรรมภายในจิตของตนถวายท่าน หรือเล่าตอนที่จิตติดขัดอยู่กับอารมณ์ที่ยังแยกจากกันไม่ออก ว่าจะควรปฏิบัติต่อกันอย่างไร ถ้าอาจารย์เป็นผู้รู้หรือผ่านไปแล้ว ท่านจะต้องอธิบายเพิ่มเติมต่อจากที่ตนเล่าถวายท่านแล้วนั้น หรือชี้แจงตอนที่ตนกำลังติดขัดอยู่ ให้ทะลุปรุโปร่งอย่างไม่มีที่ขัดข้องต้องติใด ๆ เลย

    อีกประการหนึ่ง ลูกศิษย์เกิดความสำคัญตนผิด คิดว่าตนผ่านพ้นไปโดยสิ้นเชิงแล้ว แต่ท่านทราบว่าเป็นความเห็นที่ยังไม่ตรงตามความเป็นจริงที่ท่านผู้เห็นมาโดยถูกต้อง ท่านจำต้องอธิบายเหตุผลและชี้แจงให้ฟังตามจุดที่ผู้นั้นสำคัญผิด จนยอมรับเหตุผลอันถูกต้องจากท่านเป็นตอน ๆ ไป จนถึงที่ปลอดภัย

    เมื่อต่างได้สนทนากันตามจุดต่าง ๆ แห่งธรรม จนเป็นที่ทราบและลงกันได้ ย่อมยอมรับความจริงจากกันโดยไม่มีอะไรมาประกาศยืนยัน เพราะหลักความจริงเป็นเครื่องยืนยันกันพร้อมมูลแล้ว

    นี่แลเป็นหลักพิสูจน์ภูมิของนักปฏิบัติธรรมด้วยกันว่า ท่านผู้ใดอยู่ในภูมิจิตภูมิธรรมขั้นใด นับแต่ขั้นอาจารย์ลงมาหาพระปฏิบัติทั่ว ๆ ไป ท่านทราบกันได้ด้วยหลักฐานดังที่กล่าวมา

    ส่วนการทราบด้วยญาณวิถีนั้น เป็นเรื่องภายในอีกขั้นหนึ่ง ผู้เขียนไม่อาจนำมายืนยัน จึงขอมอบไว้กับท่านผู้มีความชำนาญในทางนี้เป็นกรณีพิเศษ จะพึงปฏิบัติเองเป็นราย ๆ ไป

    ที่บรรดาศิษย์ มีความเคารพเลื่อมใสท่านอาจารย์มั่นอย่างถึงใจ ฝากเป็นฝากตายถวายชีวิตจริง ๆ เพราะความใกล้ชิดสนิททั้งภายนอกภายใน เกี่ยวกับการสนทนากับท่านอยู่เสมอนั่นแล ทำให้จิตยอมรับความจริงจากท่านอย่างสนิทและตายใจ มิได้เป็นแบบสักแต่ว่าเห็น ได้ยินคำเล่าลือจากที่ใกล้ที่ไกลแล้วเชื่อสุ่ม ๆ ไปอย่างนั้น

    เฉพาะผู้เขียนซึ่งเป็นพระที่มีทิฐิจัด ไม่ยอมลงใครเอาง่าย ๆ แล้ว ยอมรับว่าเป็นตัวเก่งที่น่ารำคาญและน่าเกลียดอยู่ไม่น้อยผู้หนึ่ง ในการโต้เถียงกับท่านอาจารย์มั่น เป็นนักโต้เถียงจนลืมสำนึกตัวว่า เวลานี้เรามาในนามลูกศิษย์เพื่อศึกษาธรรมกับท่าน หรือมาในนามอาจารย์เพื่อสอนธรรมแก่ท่านเล่า อย่างนี้ก็มีในบางครั้ง

    แต่ก็ยังภูมิใจในทิฐิของตน ที่ไม่ยอมเห็นโทษและกลัวท่าน แม้ถูกท่านสับเขกลงจนกะโหลกศีรษะจะไม่มีชิ้นต่อกันเวลานั้น หลักใหญ่ก็เพื่อทราบความจริงว่าจะมีอยู่กับทิฐิเรา หรือจะมีอยู่กับความรู้ความฉลาดของท่านผู้เป็นอาจารย์ ขณะที่กำลังโต้แย้งกันอยู่อย่างชุลมุนวุ่นวาย

    แต่ทุกครั้งที่โต้กันอย่างหนัก ความจริงเป็นฝ่ายท่านเก็บกวาดไว้หมด แต่ความเหลวไหลไร้ความจริงมากองอยู่กับเราผู้ไม่เป็นท่า ที่เหลือแต่ใจสู้จนไม่รู้จักตาย พอโต้เถียงกับท่านยุติลง เราเป็นฝ่ายนำไปขบคิดเลือกเฟ้นและยอมรับความจริงของท่านไปเป็นตอน ๆ ส่วนใดที่เราเหลว ก็กำหนดโทษของตนไว้ และยอมรับความจริงจากท่านด้วยการเทิดทูนบนเศียรเกล้า ตอนใดที่ไม่เข้าใจซึ่งยังลงกันไม่ได้ วันหลังมีโอกาสขึ้นไปโต้กับท่านใหม่ แต่ทุกครั้งต้องศีรษะแตกลงมาด้วยเหตุผลของท่านมัดตัวเอา แล้วอมความยิ้มในธรรมของท่านลงมา

    องค์ท่านเองทั้งที่ทราบเรื่องพระบ้าทิฐิจัดได้ดี แทนที่จะดุด่าหรือหาอุบายทรมานให้หายบ้าเสียบ้าง แต่ขณะที่ท่านมองหน้าเราทีไร อดยิ้มไม่ได้ ท่านคงนึกหมั่นไส้ หรือนึกสงสาร คนแสนโง่แต่ชอบต่อสู้แบบไม่รู้จักตาย ผู้เขียนจึงมิใช่คนดีมาแต่เดิม แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ขนาดอาจารย์ยังกล้าต่อสู้ไม่ละอายตัวเองเลย แต่ดีอย่างหนึ่งที่ได้ความรู้แปลก ๆ จากวิธีนั้นมาเป็นคติสอนตนเรื่อยมาจนทุกวันนี้ ท่านเองก็ไม่เคยถือสาอะไรเลย นอกจากนึกขันไปด้วยเท่านั้น เพราะนาน ๆ จะมีพระหัวดื้อมากวนใจเสียครั้งหนึ่ง ปกติไม่ค่อยมีท่านผู้ใดมาสนทนาและถกเถียงท่าน พอให้พระเณรในวัดตื่นตกใจและงงไปตาม ๆ กันบ้างเลย…”

    ที่มา : ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
    โดย ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

    -จะทรา.png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่หาเมตตาเล่านิทานธรรมะให้ฟัง ตอนเช้าหลังฉันภัตตาหาร เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2560 ที่ รพ.วิชัยยุทธ ว่า

    นานมาแล้วมีสัตว์ 3 ชนิดอยู่ในป่ากว้างใหญ่ คือ กวาง เต่าตัวใหญ่ และ นก ซึ่งต่างคนต่างอยู่ไม่สนใจกันเลย จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ทั้งสามจึงคุยกัน และตกลงเป็นเพื่อนกัน และมีข้อตกลงว่า “มีอะไรก็จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”

    วันเวลาผ่านไป…นายพรานได้ทำกับดักจับสัตว์ได้ คือกวางตัวใหญ่นั่นเอง ซึ่งเมื่อนกและเต่าเห็น จึงคิดว่าจะช่วยเหลือกวางตัวนั้นอย่างไรดี จึงคิดได้ว่าเมื่อเต่าใหญ่มีฟันอันแหลมคม ก็ให้ใช้ฟันกัดตาข่ายไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือเพื่อน ส่วนนกทำหน้าที่เฝ้ายามที่หน้าบ้านนายพราน และคอยดูว่านายพรานจะมาเมื่อไหร่ จึงได้ยินว่านายพรานจะออกมาแกะกับดักตอนเช้ามืด เมื่อนกได้ยินดังนั้น ก็บินมาบอกเต่าให้รีบกัดเชือกให้ขาด ซึ่งขณะนั้นกัดขาดไปแล้ว 2 เส้นเหลืออีก 1 เส้น

    เมื่อนายพรานออกจากบ้านมา นกก็แกล้งบินเฉี่ยวหัวนายพราน ซึ่งสมัยนั้นเปรียบเสมือนลางร้าย เมื่อนายพรานมาถึงที่กับดัก เต่าก็กัดเชือกเส้นสุดท้ายขาดพอดี ทำให้กวางหนีรอดไปได้ ส่วนนายพรานสามารถจับเต่าได้ทัน และใส่เต่าในอยู่ในตะคร่องแขวนไว้ กวางและนกมองเห็นดังนั้น นกจึงบินไปโฉบนายพราน ส่วนกวางก็วิ่งไปช่วยโดยใช้เขาชนตะคร่องจนหล่นลงมา ทำให้เต่าหนีลงน้ำไปได้ ส่วนกวางและนกก็หนีไปในที่สุด

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ถึง การมีกัลยาณมิตรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สามารถช่วยเหลือกันได้ในยามทุกข์ หรือมีภัย ท้ายสุดกวางได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า นกได้ไปเกิดเป็นพระสารีบุตร เต่าไปเกิดเป็นพระโมคคัลลา ส่วนนายพรานได้เกิดเป็นพระเทวทัต

    ทั้งนี้หลวงปู่ได้เล่าเป็นภาษาอีสาน ผู้ฟังอาจฟังผิดไปบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่เนื้อหาหลักก็ประมาณนี้ครับ

    พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร)
    วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ถ้าเราโกรธใครสักคน อย่าไปแช่งเขา
    ให้ทำสมาธิ ให้แผ่เมตตาให้เขามากๆ
    ถ้าแช่งแล้วเราก็เป็นบาป
    แล้วก็ทำให้เราเสื่อมคุณธรรมด้วย”

    – หลวงพ่อพุธ

    -อย่า.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ความสงบร่มเย็นนี้แหละเป็นคุณค่าของศีล
    ให้โลกได้อยู่ด้วยกันร่มเย็นเป็นสุข
    เพราะต่างคนไม่เบียดเบียน
    ต่างคนไม่ทำลายกัน
    ต่างคนต่างเห็นอกเห็นใจกัน
    ต่างคนต่างมีเมตตาสงสารซึ่งกันและกันแล้ว
    คือให้อภัยซึ่งกันและกันแล้ว
    โลกเรานี้เป็นผาสุกทั้งนั้น”

    หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    วันอาทิตย์ ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามแรก ตามราชประเพณีที่พระมหากษัตริย์ จะเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอารามที่สมเด็จพระสังฆราช ประทับ เป็นพระอารามแรกของการพระกฐินหลวง

    การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสดับปกรณ์พระอัฐิ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช พระราชอุปัธยาจารย์ในรัชกาลปัจจุบัน ด้วย

    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ครองผ้าพระกฐิน ทรงพัดแฉกงาพิเศษประดับพลอย ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เป็นปฐมวาระนับแต่ทรงได้รับพระราชทานถวาย

    ขอบพระคุณและขออนุโมทนาภาพและเนื้อหาข้อมูลทั้งหมดจากสํานักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

    -ที่-๑๕-ตุลาคม.jpg
    1508133965_855_วันอาทิตย์-ที่-๑๕-ตุลาคม.jpg
    1508133965_649_วันอาทิตย์-ที่-๑๕-ตุลาคม.jpg
    1508133966_962_วันอาทิตย์-ที่-๑๕-ตุลาคม.jpg
    1508133966_276_วันอาทิตย์-ที่-๑๕-ตุลาคม.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ๏ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สอนเรื่องการกินเจ ๏

    (เทศน์แก่พระอาจารย์อุ่น ธัมมธโร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่าน )

    “คนเรามันไม่ได้วิเศษเพราะการกินผักกินเนื้อนะ แต่มันวิเศษด้วยการกินเพราะการพินิจพิจารณาโดยแยบคาย อันผักหญ้าเนื้อนั้นมันไม่ได้รู้เรื่องดี เรื่องชั่ว เหมือนคนเรา จิตเราดอก

    พระธรรมคำสอนแง่หนักเบาต่างหาก ที่เรานำมาพินิจพิจารณา แล้วนำมาสอนตนจะทำให้เราดีขึ้นได้ เรื่องกิน อยู่หลับนอน อะไรๆ พระพุทธเจ้าพระองค์ก็ทรงบัญญัติไว้หมดแล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกับกินเจ ไม่กินเจ กินเนื้อ ไม่กินผัก กินแต่ผักไม่กินเนื้อ อันไหนกินได้ ฉันได้ ท่านก็บัญญัติไว้หมดแล้ว

    ถ้าท่านคิดว่าการกินแต่ผักทำให้ท่านเลิศเลอ เป็นผู้วิเศษขึ้นมาได้ อันนี้ผมก็สุดปัญญาที่จะสอนท่าน ถ้าการกินแต่ผักอย่างท่านว่า เป็นผู้บริสุทธิ์สิ้นกิเลส จบพรหมจรรย์ได้ มนุษย์ไม่ได้สิ้นกิเลสหรอก วัวควายเป็นต้นนั่นแหละมันจะสิ้นก่อน เพราะมันไม่ได้กินเนื้อ มันกินแต่ผักแต่หญ้าเต็มปากเต็มพุง มันกินแต่ผักแต่หญ้า ทำไมลูกมันถึงยังเต็มท้องไร่ทุ่งนา

    ถ้าการกินแบบท่านว่าเป็นของเลิศ วัวควายมันเลิศก่อนแล้ว เพราะมันเกิดมามันก็กินแล้ว โดยไม่ต้องมีใครคอยสอน ถึงท่านกินยังไง มันก็ไม่เท่าวัวเท่าควายกินหรอก เพราะวัวควายมันปฏิเสธเนื้อโดยประการทั้งปวง กินแต่ผักแต่หญ้า

    ถ้าจะกินเจ ฉันเจ กินผักไม่กินเนื้อ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่การไปหาตำหนิคนโน้นคนนี้ ว่ากินเนื้อเป็นเปรตเป็นผี มันไม่สมควร แล้วก็มาหลงตน ยกยอตนว่าเป็นผู้ประเสริฐกว่าคนอื่นเขา ท่านดูใจของท่านเองก็ได้นี่ ว่ามันประเสริฐตรงไหนหรือยัง ถ้ายังไม่ประเสริฐให้รีบแก้ ราคะ โทสะ โมหะ ที่เผาหัวอยู่นั่นล่ะ มันเป็นสิ่งที่ท่านต้องแก้เสียโดยเร็วพลัน ไม่ใช่วันๆ เที่ยวแต่ชวนหาคนมากินผัก ไอ้ผักนั้นผมก็กิน

    คนเรามันประเสริฐเลิศได้ด้วยความประพฤติ มิใช่เพราะการกิน ส่วนเรื่องการกินเป็นเรื่องรองๆ อย่าเอามาเป็นเรื่องเอก ท่านจะกินก็กินเถอะเจ ผักของท่านนั้น ผมไม่เอาด้วยหรอก”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เทศน์สอนแก่พระอาจารย์อุ่น ธัมมธโร (วัดทิพยรัฐนิมิตร อ.เมือง จ.อุดรธานี) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของท่าน เมื่อท่านพูดจบลง คณะญาติโยมที่มาด้วยเงียบกริบ มองตากันปริบๆ ไม่มีใครกล้าพูดกล้าแสดงอะไรอีก บางคนคงจะรู้สึกว่าเหมือนฟ้ามันผ่าลงที่กบาลฤดูแล้ง บางคนก็คงจะเห็นเหตุผลที่ท่านแสดงอย่างคมคาย แต่สำหรับบางคนที่จิตใจไม่ยอมรับความจริง ก็ถือว่าเป็นกรรมของสัตว์ไป

    -หลวงปู่มั่น-ภูริทัตโต.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ผู้ที่ตกในสภาวะอับจน ก็ไม่ควรหมดอาลัยตายอยากควรทําจิตใจให้สงบระงับตั้งมั่นอยู่ ก็จะค่อยๆหาทางออกให้แก่ตนได้ เพราะปัญหาทุกอย่างที่ไม่มีทางออกทางแก้ ย่อมไม่มีในโลก

    ดูเอาเถอะว่า แม้แต่ปัญหาเรื่องความทุกข์ อันเกิดจากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระพุทธองค์ก็ยังหาคําตอบไว้ให้ได้ สําหรับปัญหาอื่นๆ อันเล็กน้อยจะไม่มีคําตอบได้อย่างไร

    โอวาทธรรมคำสอน..
    องค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

    -ก็.png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรามีบุญที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้มีชาตินี้ มีชีวิตนี้ที่แม้จะน้อยนัก แต่ก็เป็นชีวิตเดียวที่สามารถจะพาเราหนีกรรมไม่ดีได้ และก็เป็นชีวิตเดียวที่จะพาเราไปสวรรค์ก็ได้ นิพพานก็ได้
    สมเด็จพระญาณสังวร

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    การทรมานตนของผู้บำเพ็ญเพียร ต้องให้พอเหมาะกับอุปนิสัย นายสารถีผู้ฝึกม้ามีชื่อเสียงคนหนึ่ง มาเฝ้าพระพุทธเจ้าทูลถามถึงวิธีทรมานเวไนย พระองค์ทรงย้อนถามนายสารถีก่อน ถึงการทรมาณม้าเล่า เขาทูลว่าม้ามี ๔ ชนิด คือ

    ๑. ทรมานง่าย
    ๒. ทรมานอย่างกลาง
    ๓. ทรมานยากแท้
    ๔. ทรมานไม่ได้เลย ต้องฆ่าเสีย

    พระองค์จึงตรัสว่าเราก็เหมือนกัน

    ๑. ผู้ทรมาณง่าย คือผู้ปฏิบัติทำจิตรวมง่ายให้กินอาหารเพียงพอ เพื่อบำรุงร่างกาย

    ๒. ผู้ทรมานอย่างกลาง คือผู้ปฏิบัติทำจิตไม่ค่อยจะลง ก็ให้กินอาหารแต่น้อยอย่าให้มาก

    ๓. ทรมานยากแท้ คือผู้ปฏิบัติทำจิตลงยากแท้ ไม่ต้องให้กินอาหารเลย แต่ต้องเป็น อตฺตญฺญู รู้กำลังของตนว่าจะทนทานได้สักเพียงไร แค่ไหน

    ๔. ทรมานไม่ได้เลย ต้องฆ่าเสีย คือผู้ปฏิบัติทำจิตไม่ได้ เป็น ปทปรมะ พระองค์ทรงชักสะพานเสีย กล่าวคือไม่ทรงรับสั่งสอน อุปมาเหมือนฆ่าทิ้งเสียฉะนั้น

    โอวาทธรรมคำสอน..”มุตโตทัย”
    องค์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต (พ.ศ. ๒๔๑๓ – ๒๔๙๒

    .png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    สะสมบุญ..สะสมความดี’

    “…กิจการทุกอย่างรวมทั้งการดำรงชีวิตที่ดีจะต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา และการปรับปรุงตัวนี่จะต้องมีความเพียรและความอดทนเป็นที่ตั้ง
    ถ้าคนเราไม่มีความเพียร ไม่มีความอดทน ก็อาจจะท้อใจไปโดยง่าย
    เมื่อท้อใจไปแล้วไม่มีทางที่จะมีชีวิตเจริญรุ่งเรืองแน่ๆ นอกจากจะเป็นคนที่เคราะห์ดีเหลือเกิน หรืออย่างที่เขาว่ากันว่า คนนี้เขาฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ด้วยดี เขาไม่ได้ทำอะไรเลย..เขากินบุญเก่า
    เราทำบุญมาถึงมีชีวิตขึ้นมาได้ มีกินมีอยู่ มีทางที่จะได้ศึกษาเล่าเรียนโดยดี เรากินบุญเก่า…เราจะต้องสร้างต่อไปเพื่อที่จะไม่ให้บุญที่กินนี่หมดไป…

    …เพราะว่าถ้าคนเราไม่สร้างบุญต่อไป..คือทำความดี ย่อมหมดเช่นเดียวกับเราสะสมอาหารเอาไว้สำหรับไม่ให้อด แต่ว่าถ้าเราไม่หากินต่อไป..ไม่หาอาหารมา… อาหารที่สะสมเอาไว้ก็ย่อมหมดไป..แล้วเราก็ผอมโซและอดตาย…

    ฉะนั้น…ความรู้..หรือความสามารถ..ความดีทั้งหลาย เราต้องสะสม และเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ ถึงจะสามารถที่จะมีชีวิตดำรงอยู่ได้ ถ้าขาดอาหารเราก็ผอมลง..หิว..เป็นทุกข์…

    …ถ้าทำดี..ทำสิ่งที่สุจริตด้วยความสามารถ..ด้วยความอดทนพากเพียร เราอาจจะไม่ผอมโซ
    เพราะว่าคนที่ทำบุญทำดีนั้น..งานในชีวิตมันง่ายขึ้น…”

    พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    พระราชทานแก่คณะครู และนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา
    เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๒๓

    -สะสมความดี.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ตู้พระไตรปิฎก เคยพากันเปิดอ่านจั๊กเทือบ่ ตู้พระไตรปิฏกคือหยัง กะร่างกายของเฮานี้ล่ะ อ่านมันให้ออก พิจารณามันให้เป็น นี้ล่ะตู้พระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าเพิ่นตรัสรู้ เพิ่นบ่ได้อ่านหนังสือพระไตรปิฏกเด้ มันบ่มี เพิ่นกะอ่านเจ้าของนั้นล่ะเพิ่นจั๊งได้รู้แจ้งเห็นจริง คะซั้นเพิ่นสิว่า ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองติ พอเพิ่นรู้แล้ว เพิ่นจั๊งได้มาสั่งมาสอนเด้ ทุกอย่างที่เพิ่นสอนจริงซุแนว เมื่อสมัยพุทธกาลจริง มาสมัยนี้กะยังจริงอยู่ แม้อนาคตกะยังสิจริง ธรรมของพระพุทธเจ้าบ่มีกาลบ่มีเวลาบ่มีสถานที่ เพิ่นจั๊งได้ตั้งเป็นศาสนา เฮามีหน้าที่ประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของเพิ่นซือๆยังพากันขี้ค้าน เพิ่นถางทางไว้ให้พอแฮงแล้ว เฮาเดินนำทางที่เพิ่นถางไว้ซือๆยังพากันหลงทาง ศาสนาบ่เคยเสื่อมมีแต่คนเสื่อมจากศาสนา ธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ที่ใจเฮานี้ล่ะ หาเอา !!! ”

    -:- โอวาทธรรม -:-
    หลวงพ่อบุญมา อภิปุญโญ
    วัดป่าบุญมาวาส อ.ชื่นชม จ.มหาสารคาม

    -เคยพากัน.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...