ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต คงจะเสด็จไปประทับในสวรรค์ชั้นดุสิต ที่เดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย”

    (จาก หนังสือ ชุด “ตายแล้วไปไหน”)
    (จากคำสอนของ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    โดยคุณคณิตพร บุณยเกียรติ (เปี๊ยก) และคณะ
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๔

    “พระองค์ทรงมีกระแสจิตแรงมาก ฉันเองยังสู้ท่านไม่ได้ เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ (ในหลวงรัชกาลที่ ๙) ปรารถนามานาน แต่เวลานี้บารมีเป็น “ปรมัตถบารมี” เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว ไม่ใช่ไม่สำเร็จ พุทธภูมินี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น “วิริยาธิกะ” ต้องบำเพ็ญถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่เกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว “แสนกัป” อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ ซึ่งในหลังจากที่พระองค์ (ในหลวง รัชกาลที่๙) เสด็จสวรรคต คงจะเสด็จไปประทับในที่เดียวกับพระศรีอาริยเมตไตรย”

    “พระศรีอาริยเมตไตรย ในสมัยพระพุทธเจ้าท่านบวชเป็นพระมีนามว่า อชิตะภิกขุ เดิมทีท่านเป็นลูกศิษย์ของพราหมณ์พาวรี ท่านไปบวชเพื่อสร้างเสริมบารมี ต่อมาเมื่อ พระนางกีสา โคตมีได้ทอจีวรด้วยมือของตนเองปรารถนาจะถวายพระพุทธเจ้า เมื่อเวลาพระนางไปถวาย พระพุทธเจ้าเรียกพระมาหมด นั่งเรียงแถวกันตามลำดับอาวุโสและคุณสมบัติ เมื่อพระนางกีสาโคตมีถวายผ้าแก่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ส่งให้พระสารีบุตร ท่านพระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคัลลาน์ ท่านพระโมคคัลลาน์ก็ส่งต่อๆ กันไปหมดจนถึงองค์สุดท้ายคือท่านอชิตะภิกขุ ท่านไม่รู้จะส่งให้ใครเพราะนั่งอยู่ท้ายสุด เป็นอันว่าท่านก็รับไว้ พระนางกีสา โคตมีก็เสียใจว่าอุตสาห์ทำเองเลือกด้ายชั้นดีมาทอกับมือเองเพื่อถวายพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่รับกลับไปให้กับพระที่ไม่ได้แม้แต่ฌานสมาบัติมากมายอะไรนัก คือว่ายังเป็นพระปุถุชนคนธรรมดา องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงทราบอัธยาศัยจึงเทศนาโปรดว่า พระองค์สุดท้ายไม่ใช่พระธรรมดา ท่านอชิตะภิกขุผู้นี้ต่อไปข้างหน้าจะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง มีพระนามว่า “สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรย” หลวงพ่อเทศน์ไว้

    ปัจจุบันนี้ท่านมาเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดุสิต วิมานท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมีรัศมีกายสว่างมาก หน้าตาผ่องใสยิ้มระรื่นน่าชื่นใจ ท่านได้บอกกับอาตมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙ ว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป อีก ๑ ล้านกับ ๒ ปี ท่านจะลงมาเกิดในเมืองมนุษย์แล้วเป็นปุโรหิต หลังจากนั้นเกิดความเบื่อหน่ายก็ออกแสวงหาพระโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อยังย้ำไว้ว่า ผู้ที่มีสิทธิไปเกิดอยู่ชั้นดุสิตได้ ๓ พวกคือ

    ๑. พุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า
    ๒. พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว
    ๓. พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงจะอยู่ชั้นนี้ได้

    สวรรค์ชั้นดุสิต คือสวรรค์ชั้นที่ ๔ ในฉกามาพจร มีท้าวสันดุสิตเป็นจอมเทพ พระโคตมพุทธเจ้าตรัสถึงสวรรค์ชั้นดุสิต อยู่สูงกว่ายามา แต่ต่ำกว่านิมมานรดี มีท้าวสันดุสิต เป็นจอมเทพ ไตรภูมิพระร่วงระบุว่าสวรรค์ชั้นนี้อยู่สูงกว่าชั้นยามาไป ๑๖๘,๐๐๐ โยชน์ มีปราสาทแก้ว ปราสาททอง ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว มีสวน สระบัวสวยงามยิ่งกว่าสวรรค์ชั้นที่อยู่ต่ำกว่า เป็นที่ประทับของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายและว่าที่พระอัครสาวก ในปัจจุบันพระศรีอริยเมตไตรยและว่าที่พระอัครสาวกของพระองค์จึงประทับอยู่ ณ ภูมินี้ อายุของเทวดาในชั้นดุสิตยาวนานถึง ๔,๐๐๐ ปีทิพย์

    สวรรค์ชั้นดุสิต มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต เหตุที่พระบรมโพธิสัตว์หรือบัณฑิตทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้ง ๆ ที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย ๓ ประการ คือ

    ๑. พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่าโดยปกติเทวดา มีเหตุแห่งการจุติหลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เมื่อจะจุติลงมาสร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ อธิษฐานจิต สามารถดับวูบ ลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่น ๆ

    ๒. เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่น ๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ ที่มีบุญบารมีมาก มาแสดงธรรมให้ฟัง

    ๓. ประมาณอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา เทวดาที่เสวยทิพยสมบัติอยู่บนชั้นดุสิตนี้ มีอายุยืน ยาวได้ ๔ พันปีทิพย์หรือห้าสิบเจ็ดโกฏหกล้านปี ในโลกมนุษย์ ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ แล้วก็ถ้าจะเทียบกับเมืองมนุษย์ก็ ๔๐๐ ปีของเราเป็น ๑ วันของเทวดาชั้นนี้

    -ในหลวง-รัชกาลที่.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “พระคาถาในหลวง ร.๙”

    (สมเด็จพระวันรัต)
    วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ

    คำแปล ปรมินทมหาภูมิพละอตุลยะเตชะมหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน มีพระวิริยอุตสาหะ
    มีพระวิสัยทัศน์ยาวไกล
    มีปัญญาฉลาดหลักแหลมในการปกครองประเทศ
    ทรงเป็นพระมหาราชผู้ยิ่งใหญ่กว่าพระมหาราชใดๆ ในโลก
    ทรงได้รับการสรรเสริญ สักการะ นับถือ บูชา ยกย่อง
    ว่าเป็นเทวดาที่ยังมีชีวิตอยู่ของปวงพสกนิกรชาวไทย

    ทรงครองสิริราชสมบัติเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม
    สิ้นกาลเวลา ๗๐ ปี แม้ฉันใด
    แต่ความชราและความตายย่อมพรากองค์พระภูมินทร์ ฉันนั้น

    ความตายหาได้ละเว้นใครๆ ไม่
    ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพทย์ ศูทร คนจัณฑาล
    ความตายย่อมทําลายทุกสิ่งถ้วนทั่ว
    เพราะฉะนั้นแลผู้เป็นบัณฑิต
    เมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ส่วนตน
    ก็พึงดําเนินชีวิตของตนให้ยิ่งด้วยความไม่ประมาท
    บุคคลผู้ไม่ประมาทย่อมจะได้รับประโยชน์ทั้ง ๒ ส่วนคือ
    ประโยชน์ปัจจุบันและประโยชน์ในภายภาคหน้า

    ผู้มีปัญญารู้อรรถสาระแห่งพระบาลีตามที่
    สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสไว้ดีแล้วน้อมปฏิบัติ
    โดยประการที่ชีวิตจะเป็นชีวิตที่มีสาระ
    ไม่เป็นชีวิตเปล่าประโยชน์ (ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท)

    บุญอันใดที่ข้าพเจ้าได้ทําแล้ว ณ กาลบัดนี้
    ด้วยเหตุแห่งบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําแล้ว
    และด้วยการถวายพระราชกุศลอันนี้
    ด้วยความปรารถนาอันใดอันหนึ่งที่เป็นกุศลของข้าพเจ้า
    ขอบุญและความหวังนั้นจงสําเร็จโดยง่ายทุกเมื่อ
    ขอพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    จงทรงเป็นผู้มีส่วนแห่งปัตติทานของข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ขอพระองค์จงถึงซึ่งบทอันเกษม คือ พระนิพพาน

    ขอความปรารถนาอันดีงามของพระองค์ทั้งปวงนั้นจงสําเร็จโดยพลัน เทอญ ฯ.

    – – – –

    ปรมินทมหาภูมิพละอตุลยะเตชะมหาราชัสสะ ปัตติทานคาถา

    ยถาปิ ปะระมินโท โส ภูมิพะโล มหิสสะโร
    สวีริโย สะมุสสาโห ทีฆะทัสสี วิจักขะโณ
    อะธิราชา มะหารัญญา โลกะภาเค มะหิตตะเล
    ทัยยานัง เทวะภูโต โข ธะระมาโน ปสังสิโต
    สักกะโต ชะนะตาเยวะ สัมมานิโตภิปูชิโต
    ทัยยะวาสีนะมัตถายะ หิตายะ จะ สุขายะ จะ
    สัตตะติวัสสะกาเล วะ รัชชัง ธัมเมนะ การะยิ
    เอวัง ชะรา จะ มัจจุ จะ อะธิวัตตันติ ภูปติง
    ขัตติเย พราหมะเณ เวสเส สุทเท จัณฑาละปุกกุเส
    น กิญจิ ปริวัชเชติ สัพพะเมวาภิมัททะติ
    ตัสะมา หิ ปัณฑิโต โปโส สัมปัสสัง อัตถะมัตตะโน
    สัมปเทยเยวะ ภิยโยโส อัปปะมาเทนะ ชีวิตัง
    อัปปะมัตโต อุโภ อัตเถ อะธิคัณหาติ เจตะโส
    ทิฏเฐ ธัมเม จะ โย อัตโถ โย จัตโถ สัมปรายิโก
    สะวากขาตัสสะ ปาฐัสสะ อัตถัง อัญญายะ สาธุกัง
    ปฏิปัชเชถะ เมธาวี อะโมฆัง ชีวิตัง ยะถา
    ยันทานิ เม กตัง ปุญญัง เตนาเนนุททิเสนะ จะ
    ยา กาจิ กุสลา มะยาสา สุเขนะ สิชฌะตัง สะทา
    ปะระมินทะมหาราชา ภาคี โหตุ วะ ปัตติยา
    เขมัปปะทัญจะ ปัปโปตุ ตัสสาสา สิชฌะตัง สุภาติ ฯ

    -พระคาถาในหลวง-ร.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ศราทธพรตเทศนา
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร)
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
    ทรงรับพระราชทานถวายในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
    ณ พระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง
    วันพฤหัสบดี ที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
    ……………………………………………………..
    นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถาติ.
    บัดนี้ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เสด็จประทับในท่ามกลางประมุขและผู้แทนรัฐอันมีสัมพันธไมตรี พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท อาณาประชาราษฎร์ทุกหมู่เหล่า ในการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตามโบราณขัตติยราชประเพณี อนรูปพระกตัญญูกตเวทิตานี้ เป็นสัปปุริสภูมิ ดุจพื้นพสุธาที่ยืนอาศัยแห่งสาธุชน อันคนดีจะประพฤติกิจการใดๆ ย่อมอิงอาศัยกตัญญูกตเวทีนี้เป็นหลักมั่นเสมอมา

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แม้เสด็จสวรรคตล่วงลับไปกว่าหนึ่งปีแล้ว ก็เป็นเหมือนยังทรงสำแดงพระองค์ให้ปรากฏแก่ผู้รำลึกถึง ในเวลาคำนึงพระราชคุณูปการ จักรู้สึกเหมือนยังได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์อยู่โดยตรง บัณฑิตผู้ทรงความปรีชา ย่อมปรารภความอย่างเดียวกัน สรรเสริญพระบรมศาสดา ด้วยศรัทธาปสาทะ ว่า

    “แม้พระองค์เสด็จปรินิพพานนานมาแล้ว ก็เป็นดุจปรากฏอยู่ โดยความเป็นอตีตารมณ์ คือคำนึงเห็น แม้เมื่อล่วงไปแล้ว แต่ยังอยู่ด้วยพระคุณทั้งหลาย อันจะพึงรู้สึกได้ด้วยใจ”

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงถนอมอุปการะพระราชโอรส พระราชธิดา พระราชนัดดา และพระราชปนัดดา ตามหน้าที่แห่งสมเด็จพระราชบุพการีตลอดมา พระทายาทที่ทรงพระเจริญแล้วพอจะทรงพระอุเบกขาได้ ก็ยังมีพระราชหฤทัยจดจ่อด้วยพระเมตตากรุณา สมด้วยพระพุทธภาษิตว่า “พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร” มารดาบิดาชื่อว่าเป็นพรหมของบุตร ก็พรหมมีเมตตากรุณาเป็นธรรมะเครื่องอยู่ฉันใด พระองค์ย่อมทรงพระเมตตาปรารถนาสุข และทรงพระกรุณาวิตกวิจารณ์จะเปลื้องทุกข์ ของพระทายาทฉันนั้น

    แต่พรหมวิหารธรรมของพระองค์ หาได้เผื่อแผ่จำกัดเฉพาะแต่ในพระกุลทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ หากยังแผ่ตลอดโดยตรงถึงอาณาประชาราษฎร์ ทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติศาสนา ทุกเพศและทุกวัย ทั้งบรรพชิต ทั้งคฤหัสถ์ บรรดาที่ควรจะทรงสงเคราะห์ด้วยสถานใดๆ ก็ทรงสงเคราะห์ด้วยสถานนั้นๆ กล่าวอย่างสั้นคือ ทรงดำรงพระชนมชีพเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม และชาวโลก ต้องตามพระปฐมบรมราชโองการ ทุกประการ

    หากทรงทราบโดยพระญาณวิถี ในเมื่อสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ได้ทรงรับสิริราชสมบัติ จะทรงคุ้มครองประชาชนโดยธรรม และหากทรงทราบโดยพระญาณวิถี ว่าประชาชนที่พระองค์ทรงเป็นห่วงนั้น จะสามารถน้อมนำพระปัญญาญาณ ไปบันดาลชีวิตของตนๆ ให้อยู่ดีมีสุข พึ่งพาตนเองได้ เป็นพลเมืองดี มีสติปัญญาและคุณธรรมพรั่งพร้อม ยังความผาสุกร่มเย็นอย่างยั่งยืน ย่อมทรงอิ่มพระราชหฤทัย ดุจดังพระบรมศาสดา ทรงกระทำพุทธกิจแก่พระสาวก ทรงอิ่มพระพุทธกมล แล้วเปล่งพระวาจาว่า
    “กิจใด ศาสดาผู้กรุณาแสวงหาประโยชน์ พึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกท่านทุกประการ” ดังนี้

    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้ประทานพระปัจฉิมพุทโธวาทไว้ว่า

    หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
    ความว่า “ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราเตือนท่านทั้งหลาย สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงทำประโยชน์ตนและผู้อื่น ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”

    สังขาร หรือสภาพร่างกายและจิตใจอันถูกปรุงแต่งขึ้น เปรียบเหมือนบ้านเรือน เป็นอพยากตธรรม ไม่จัดเป็นบุญเป็นบาป อย่างดีเพียงที่ปรากฏให้เห็นอยู่ภายนอก เป็นของสวยของงามแตกต่างกันบ้างก็เท่านั้น ความสำคัญอยู่ที่ผู้อยู่ในบ้านเรือนนั้นต่างหากว่าเป็นใคร

    ถ้าเป็นผู้ประเสริฐ บ้านนั้นก็เป็นบ้านของผู้ประเสริฐ เช่น ถ้าเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม สถานที่นั้นก็เป็นพระราชวังอันพึงเคารพ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นที่อยู่ของโจรผู้ร้าย สถานที่นั้นก็เป็นที่น่ารังเกียจไม่น่าเข้าใกล้

    สังขารหรือสรีระก็เช่นเดียวกัน นอกจากธรรมะ ไม่มีอะไรที่จะแบ่งสรีระให้ดีชั่วสูงต่ำได้ แม้ยังยึดมั่นในตัวเราของเราอยู่ ก็พึงทำตัวเราคือผู้ครอบครองนั้น ให้เป็นผู้มีธรรมะ อบรมคุณสมบัติให้สมบูรณ์ รู้จักเกื้อกูลผู้อื่น ทำชีวิตให้มีสาระ ไม่เสียเปล่า เพื่อให้สมควรแก่การครองอัตภาพ ที่มีความเสื่อมสลายแตกดับไปทั้งสิ้น ตามธรรมดาของสังขาร

    สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา สังขารเป็นสภาพที่ธรรมดาปรุงแต่งขึ้น จึงย่อมเป็นไปตามอำนาจของธรรมดา ผู้มีปัญญาเท่านั้นที่จะสามารถเอาสารประโยชน์จากธรรมดา มาเป็นเครื่องหลีกพ้นจากทุกข์ได้
    แล้วธรรมะใดเล่า จะยังให้บุคคลเป็นผู้มีปัญญา ขอรับพระราชทานถวายวิสัชนาว่า

    “สติ” ความระลึกได้เท่านั้น ที่จะเป็นเครื่องช่วยอุปการะให้มี “ปัญญา” ถ้าบุคคลขาดสติเสียแล้ว สังขารย่อมปรุงแต่งจิต ให้เป็นจิตแห่งความโลภ จิตแห่งความโกรธ และจิตแห่งความหลง อันเป็นมูลเหตุในการพูด และการกระทำความชั่วทุกชนิดขึ้นมา ในทันที

    สติย่อมเกิดร่วมกับจิตที่ดีงามทุกประเภท สติจึงมีหลายระดับขั้น ทั้งที่เป็นไปในการให้ทาน ในการรักษาศีล และในการอบรมความสงบของจิต กระทั่งก้าวไปสู่ “มหาสติ” ในการอบรมเจริญปัญญา ให้เข้าใจถูก เห็นถูก ในลักษณะของรูปธรรมและนามธรรม อันเป็นสภาพทุกข์ที่กำลังปรากฏ ซึ่งล้วนเกิดเพราะเหตุปัจจัย แล้วดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน พลันประจักษ์ความว่างจากตัวตน สัตว์ บุคคล เราเขา ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในทุกขณะ

    ปัญญาจะเกิดได้ จำเป็นต้องมีสติเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง ดังนั้น การรู้แจ้งอริยสัจธรรม ดับกิเลสตามลำดับขั้น ต้องเป็นเรื่องของสติและปัญญาเท่านั้น ที่เป็นไปเพื่อการระลึกรู้สภาวธรรม ตามความเป็นจริง

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระสติระลึกรู้ จึงทรงดำรงพระชนมชีพอย่างสง่างามทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยปัญญา สรุปประมวลได้ว่าพระองค์ทรงถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทในชีวิต พระบุญญาธิการจึงไพบูลย์

    ควรที่เราทั้งหลายผู้ยังอยู่เบื้องหลัง จักเร่งทำประโยชน์ตนและประโยชน์ส่วนรวม ตามรอยพระยุคลบาท ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาท เพื่อพระผู้เสด็จจากไป จักได้ทรงอิ่มพระราชหฤทัยว่า “กตํ กรณียํ กิจอันต้องกระทำ ได้ทำเสร็จแล้ว” และย่อมทรงบันเทิงทิพยารมณ์อย่างมิต้องสงสัย สมนัยแห่งพระพุทธภาษิตที่ว่า

    “บุคคลผู้มีบุญอันได้ทำไว้แล้ว ย่อมยินดีในโลกนี้ ละโลกนี้ไปแล้ว ก็ย่อมยินดี คือย่อมยินดีในโลกทั้งสอง, ย่อมยินดีว่า บุญเราได้ทำไว้แล้ว ครั้นไปสู่สุคติแล้วก็ยิ่งยินดีกว่านี้อีก” ด้วยประการฉะนี้

    ในอวสานแห่งพระธรรมเทศนา สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จะรับพระราชทานสาธยายศราทธพรตคาถา ในมหาสมาคม ซึ่งมีสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงเป็นประธาน เพื่อเพิ่มพูนพระอัปปมาทธรรมให้ไพบูลย์ ณ กาลบัดนี้

    ขอถวายพระพร

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ประมวลภาพ ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จัดโครงการค่ายปฏิบัติธรรม ครั้งที่ 1 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เสด็จสวรรคตครบรอบ 1 ปี ในระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2560 ณ วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

    -ชุมนุมพุทธธรร.jpg
    ประมวลภาพ ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จัดโครงการค่ายปฏิบัติธรรม ครั้งที่ 1 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เสด็จสวรรคตครบรอบ 1 ปี ในระหว่างวันที่ 13-15 ตุลาคม 2560 ณ วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

    ๏ กำหนดการ ค่ายปฏิบัติธรรม ครั้งที่ 1 ๏
    วันที่ 13-15 ตุลาคม พ.ศ.2560 ณ วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

    -:- วัน ศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2560 -:-

    เวลา 08.00 น. ลงทะเบียน ณ บริเวณชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
    เวลา 08.30 น. ออกเดินทางไปวัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี / พักรับประทานอาหารเช้า
    เวลา 10.00 น. ถึงวัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว , เปลี่ยนสวมชุดขาว
    เวลา 11.00 น. พิธีรับศีล 8 บวชเนกขัมมะบารมี
    เวลา 12.00 น. รวมกันที่ศาลาใหญ่ , กิจกรรมล้อมวงสนทนาธรรม
    เวลา 13.00 น. แยกย้ายกันปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย (นั่งสมาธิภาวนา , เดินจงกรม , อ่านหนังสือธรรมะ)
    เวลา 14.00 น. พักดื่มน้ำปานะ
    เวลา 15.00 น. ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย (นั่งสมาธิภาวนา , เดินจงกรม , อ่านหนังสือธรรมะ)
    เวลา 16.00 น. ปัดกวาดทำความสะอาดบริเวณวัด
    เวลา 17.00 น. ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 18.30 น. รวมกันที่ศาลาใหญ่ สวดมนต์ทำวัตรเย็นร่วมกัน , อบรมธรรมโดยพระอาจารย์กิตติ ติสโร , นั่งสมาธิภาวนา , ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.30 น. แยกย้ายกันพักผ่อนหรือปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

    -:- วันเสาร์ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2560 -:-

    เวลา 04.30 น. ตื่นนอนทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 05.00 น. รวมกันที่ศาลาใหญ่สวดมนต์ทำวัตรเช้า
    เวลา 05.30 น. ช่วยงานทางวัด , ผู้ชายปัดกวาดศาลาหอฉันและลานวัด , ผู้หญิงช่วยทำอาหารสำหรับรับประทาน
    เวลา 06.30 น. พระภิกษุสงฆ์สามเณร ออกรับบิณฑบาต (จัดเวรผู้ชายวันละ 3-5 คน ติดตามไปช่วยถ่ายบาตรและยกของ)
    เวลา 07.15 น. พระภิกษุสงฆ์กลับจากรับบิณฑบาต , สมาชิกทุกคนพร้อมกันที่หน้าศาลาวัด , ตักบาตรร่วมกัน
    เวลา 07.30 น. ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ , พระสงฆ์ให้พร , รับประทานอาหารเช้าร่วมกัน (ทานมื้อเดียว)
    เวลา 08.30 น. ทำความสะอาดศาลาหอฉันและช่วยกันล้างภาชนะใส่อาหาร
    เวลา 09.30 น. แยกย้ายกันปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย (นั่งสมาธิภาวนา , เดินจงกรม , อ่านหนังสือธรรมะ)
    เวลา 12.30 น. รวมกันที่ศาลาใหญ่ , กิจกรรมล้อมวงสนทนาธรรม
    เวลา 14.00 น. พักดื่มน้ำปานะ
    เวลา 15.00 น. ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย (นั่งสมาธิภาวนา , เดินจงกรม , อ่านหนังสือธรรมะ)
    เวลา 16.00 น. ปัดกวาดทำความสะอาดบริเวณวัด
    เวลา 17.00 น. ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 18.30 น. รวมกันที่ศาลาใหญ่ สวดมนต์ทำวัตรเย็นร่วมกัน , อบรมธรรมโดย พระอาจารย์กิตติ ติสโร , นั่งสมาธิภาวนา , ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.30 น. แยกย้ายกันพักผ่อนหรือปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย

    -:- วันอาทิตย์ ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2560 -:-

    เวลา 04.30 น. ตื่นนอนทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 05.00 น. รวมกันที่ศาลาใหญ่สวดมนต์ทำวัตรเช้า
    เวลา 05.30 น. ช่วยงานทางวัด , ผู้ชายปัดกวาดศาลาหอฉันและลานวัด , ผู้หญิงช่วยทำอาหารสำหรับรับประทาน
    เวลา 06.30 น. พระภิกษุสงฆ์ออกรับบิณฑบาต (จัดเวรผู้ชายวันละ 3-5 คน ติดตามไปช่วยถ่ายบาตรและยกของ)
    เวลา 07.15 น. พระภิกษุสงฆ์กลับจากรับบิณฑบาต , สมาชิกทุกคนพร้อมกันที่หน้าศาลาวัด , ตักบาตรร่วมกัน
    เวลา 07.30 น. ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ , พระสงฆ์ให้พร , รับประทานอาหารเช้าร่วมกัน (ทานมื้อเดียว)
    เวลา 08.30 น. ทำความสะอาดศาลาหอฉันและช่วยกันล้างภาชนะใส่อาหาร
    เวลา 10.00 น. กราบลาพระอาจารย์กิตติ ติสโร , เดินทางกลับ
    เวลา 11.00 น. ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โดยสวัสดิภาพ

    ************** ///// *************

    -:- การเตรียมตัวและการปฏิบัติตนที่ค่าย -:-

    1.เตรียมเครื่องใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ยาสระผม ผ้าเช็ดตัว ไฟฉาย และอื่นๆที่จำเป็นไปด้วย
    2.ทุกท่านต้องเตรียมชุดขาวไปด้วย สำหรับใส่ปฏิบัติธรรมตลอดระยะเวลา 3 วัน ท่านสามารถซักชุดที่วัดได้
    3.ท่านที่มีโรคประจำตัว กรุณาเตรียมยาไปด้วย
    4.ทุกท่านต้องถือศีล 8 ทานข้าวมื้อเดียว และ นุ่งชุดขาว

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หากยามใดท้อถอย
    เหนื่อยหน่ายต่อการปฎิบัติ
    ก็ให้ระลึกถึงภัยข้างหน้าที่จะมีมา
    ้องตระหนักว่า
    ขณะนี้เรายังอยู่ในมรสุม
    อยู่ท่ามกลางคลื่น ัยนั้นมีอยู่รอบด้าน
    เอาไว้ให้ถึงฝั่งเสียก่อน
    อย่ามัวเที่ยวเก็บ เที่ยวชมดอกไม้
    …มืดค่่ำแล้ว…
    **เดี๋ยวจะหาทางออกไม่พบ**

    ……สาธุธรรมอันประเสริฐ….

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ถาม : ถ้าเรารู้สึกเป็นห่วงบุคคลอื่นเกินไปจนรู้สึกกระวนกระวาย จะแก้อย่างไร

    พระหลวงตามหาบัว ตอบ : คนเราทำอย่างไรหรือรู้สึกอะไรเกินไปนั้นไม่ดีทั้งนั้น เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ถ้าเราต้องรับผิดชอบต่อใครในเรื่องอะไร เราก็คิดให้รอบคอบ พยายามคิดพยายามแก้ปัญหาไปตามที่มันจะเกิดขึ้น ตามปกติถ้าไม่คิดอะไรให้มากเกินกว่าเหตุ ก็พอจะสงบระงับความกระวนกระวายหรือความห่วงเขาจนเกินไปเสียได้

    คำว่า เกินไป โปรดทราบว่ามันเลยความพอดี ซึ่งจะเกิดทุกข์ถ่ายเดียว ผู้หวังในเหตุอรรถธรรมจึงควรระวังไว้เสมอ

    -ถ้าเรารู้สึกเป็นห่.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ท่านมักกล่าวไว้ว่า….”ผู้เบียดเบียนผู้อื่น คือผู้เบียดเบียนตนเอง ผู้สงเคราะห์ผู้อื่น คือผู้สงเคราะห์ตนเอง

    ความเมตตากรุณาที่มนุษย์มีต่อกันมีเดชานุภาพยิ่งกว่าสิ่งใดๆ

    ผู้ที่ฆ่า ผู้ชนะ ผู้ด่า ผู้ประทุษร้ายเขา ย่อมได้ ผู้ฆ่า ผู้ชนะ ผู้ด่า และผู้ประทุษร้ายตอบ (ใครทำสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น)

    ท่านพ่อลี ยังกล่าวต่อไปว่า ต่อไปนี้จงอย่าทำการใดๆ อย่าคิดสั้น และอย่าสร้างความพินาศย่อยยับแก่ตนและคนอื่น เพราะนั่นคือการปลูกศัตรูเหมือนเงากรรมอันชั่วร้ายติดตามตัวไปทุกภพทุกชาติ”

    -ธมฺมธโร-ท่านมั.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    คำว่าพอเพียง ไม่ได้แปลว่าไม่ใช้ แต่หมายถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และคุ้มค่ามากที่สุด

    เรื่อง “ยาสีพระทนต์ของในหลวง”

    เรื่องราวความประทับใจที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องนี้เป็นข้อเขียนของคุณจิก ประภาส ชลศรานนท์ ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๔๓ คอลัมน์ “คุยกับประภาส” ได้บอกเล่าถึง “ยาสีพระทนต์ของในหลวง” คุณจิกเล่าว่า มีภาพๆ หนึ่งเอามาให้ดูกัน เป็นภาพหลอดยาสีฟันที่ถูกใช้แล้ว เห็นทีแรกไกลๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรมากหรอก เป็นภาพที่ติดอยู่บนบอร์ดที่โรงเรียนของลูก ระหว่างที่ยืนรอลูกๆ ลงมาจากห้องเรียน จึงได้อ่านข้อความ ที่ประกอบภาพนี้ อย่างละเอียด

    หลอดยาสีพระทนต์ภาพหลอดยาสีฟันที่เห็นนี้ ต้องเรียกว่าเป็นหลอดยาสีพระทนต์ประวัติศาสตร์ เพราะนี่คือ หลอดยาสีพระทนต์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเห็นแล้วรู้สึกเหมือนผมไหม ครับ ความฉ่ำเย็นจากที่ไหนก็ไม่รู้อาบลงมากลางกระหม่อมเลย

    ภาพนี้ถูกตีพิมพ์เป็นโปสเตอร์โดยคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ฯ ครูที่โรงเรียนของลูกผม ไปพบเข้าเลยนำมาถ่ายสำเนาติดบอร์ดให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจคำว่า “ประหยัด” ศาสตราจารย์พิเศษทันตแพทย์หญิงท่านผู้หญิงเพ็ชรา เตชะกัมพุช ทันตแพทย์ประจำพระองค์ อดีตคณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนเล่าให้ฟังว่า “ครั้งหนึ่งทันตแพทย์ประจำพระองค์ กราบถวายบังคมทูลเรื่องศิษย์ทันตแพทย์จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยบางคนมีค่านิยมในการใช้ของต่างประเทศ และมีราคาแพง รายที่ไม่มีทรัพย์พอซื้อหาก็ยังขวนขวาย เช่ามาใช้เป็นการชั่วครั้งชั่วคราว

    ในหลวง ซึ่งเท่าที่ทราบมา มีความแตกต่างจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงนิยมใช้กระเป๋า ที่ผลิตภายในประเทศเช่นสามัญชนทั่วไปทรงใช้ดินสอสั้นจนต้องต่อด้าม แม้ยาสีพระทนต์ของพระองค์ท่าน ก็ทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนแบนจนแน่ใจว่าไม่มียาสีพระทนต์หลงเหลือ อยู่ในหลอดจริงๆ

    เมื่อกราบบังคมทูลเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า ของพระองค์ท่านก็เหมือนกัน และยังทรงรับสั่งต่อไปด้วยอีกว่า เมื่อไม่นานมานี้เองมหาดเล็กห้องสรง เห็นว่ายาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้วจึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน เมื่อพระองค์ได้ทรงทราบ ก็ได้ขอให้เขานำยาสีพระทนต์หลอดเก่า มาคืนและพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปได้อีกถึง 5 วัน จะเห็นได้ว่าในส่วนของพระองค์ท่านเองนั้น ทรงประหยัดอย่างยิ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับ พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงพระราชทานเพื่อราษฎรผู้ยากไร้อยู่เป็นนิจ พระจริยาวัตรของพระองค์ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มชัดถึงพระวิริยะ อุตสาหะ ตลอดจนความประหยัดในการใช้ของอย่างคุ้มค่า หลังจากนั้นทันตแพทย์ประจำพระองค์ได้กราบพระบาททูลขอพระราชทานหลอดยาสีพระ ทนต์หลอดนั้น เพื่อนำไปให้ศิษย์ได้เห็นและรับใส่เกล้าเป็นตัวอย่างเพื่อประพฤติปฏิบัติใน โอกาสต่อๆ ไป

    ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานส่งหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้น มาให้ถึงบ้านทันตแพทย์ประจำพระองค์รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้น เกล้ายิ่ง เมื่อได้พิจารณาถึงลักษณะของหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นแล้วทำให้เกิดความ สงสัยว่า เหตุใดหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้จึงแบนราบเรียบโดยตลอด คล้ายแผ่นกระดาษโดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปเกือบถึงเกลียว คอหลอด เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอีกครั้งในเวลาต่อมา จึงได้รับคำอธิบายจากพระองค์ว่า

    “หลอดยาสีพระทนต์ที่เห็น แบนเรียบนั้นเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ ช่วยรีดและกดจนเป็นรอยบุ๋มที่เห็นนั่นเอง และเพื่อที่จะขอนำไปแสดงให้ศิษย์ทันตแพทย์ ได้เห็นเป็นอุทาหรณ์ จึงได้ขอพระราชานุญาตซึ่งพระองค์ท่านก็ได้ทรงพระเมตตาด้วยความเต็มพระทัย”

    ผมมีโอกาสได้ยืนมองดูรูปหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้อยู่เนืองๆ เวลาไปรอรับลูกที่โรงเรียน และเมื่อยิ่งดูก็ยิ่งได้รับรู้ถึง ปรัชญาที่พระองค์พระราชทานผ่านมาทางหลอดยาฯ นี้แล้วผมก็พบว่าแก่นแท้ของการประหยัดมันอยู่ตรงนี้นี่เอง ไม่ใช่ไม่ยอมใช้เลยแต่ต้องรู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ไม่ใช้แบบเหลือทิ้งเหลือขว้าง และทำให้ผมคิดไปถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติบนโลกใบนี้ หลอดยาสีพระทนต์ของในหลวง หลอดนี้สอนผมให้เข้าใจว่า ในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์เรายังคงต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่อ ไม่ใช่ไม่ใช้เลย แต่จะใช้อย่างไรมากกว่า

    ตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการใช้น้ำเราไม่ควรประหยัดน้ำจนต้นไม้ที่ปลูกอยู่ตายเพราะขาดน้ำ แต่เราควรระวังการเปิดน้ำทิ้งไว้ เราควรระวังท่อน้ำรั่ว หยด ซึม เราควรระวังเรื่องสิ้นเปลืองเหล่านี้ต่างหาก แล้วผมก็คิดเลยไปถึงเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องเขื่อนว่าทำไมบางครั้งโลกเราถึงต้องยอมเสีย พื้นที่ป่าบางพื้นที่เพื่อสร้างเขื่อนบ้าง

    -ไม่ได้แปล.jpg
    1509132910_978_คำว่าพอเพียง-ไม่ได้แปล.jpg
    1509132910_412_คำว่าพอเพียง-ไม่ได้แปล.jpg
    1509132910_344_คำว่าพอเพียง-ไม่ได้แปล.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    คำว่าพอเพียง_พ่อไม่เพียงแค่สอนแต่พ่อทำให้ดู

    “ดินสอของเราอยู่ไหน?”

    ครั้งมหาดเล็กคนใหม่นำดินสอสั้นกุดของในหลวง ร.๙ ไปทิ้งเพื่อเปลี่ยนอันใหม่ และนี่คือสิ่งที่พระองค์ตรัสกับมหาดเล็กคนนั้น ซึ่งมีรายละเอียดเรื่องราวดังต่อไปนี้

    ดินสอของพ่อหลวง ต้นแบบของความพอเพียงและใช้ของอย่างประหยัด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงเลือกใช้ดินสอในการทรงงานเป็นส่วนใหญ่ เพราะด้วยทรงเห็นว่าประหยัด ราคาถูก ผลิตได้ในประเทศ และเมื่อผิดก็สามารถลบออกได้ง่าย แม้จะเป็นเพียงดินสอราคาถูก แต่พระองค์ก็ทรงใช้อย่างประหยัด และเห็นคุณค่าเสมอ

    ครั้งหนึ่งมหาดเล็กคนใหม่คนหนึ่ง มีโอกาสได้เข้ามาจัดเก็บสิ่งของในห้องของพระองค์ท่าน มหาดเล็กผู้นั้นมองเห็นดินสอแท่งหนึ่งซึ่งถูกใช้จนเหลือสั้นมากแทบจะกุดเต็มที เขาจึงนำดินสอแท่งนั้นไปทิ้ง

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้ามาในห้องก็ตรัสถามว่า “ดินสอของเราอยู่ไหน?”

    มหาดเล็กก็ตอบว่า “ได้นำไปทิ้งแล้ว”

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำเนินไปที่ถังขยะ ทรงหยิบดินสอแท่งนั้นขึ้นมาแล้วตรัสกับมหาดเล็กคนนั้นว่า “ดินสอแท่งนี้ถึงแม้จะสั้นจวนจะกุดแล้ว แต่หากเรานำแท่งต่อดินสอมาใส่ ดินสอที่เหมือนจะใช้ไม่ได้แล้วแท่งนี้ก็สามารถใช้ได้เหมือนเดิม สามารถใช้ได้จนหมดแท่ง”

    โดยในแต่ละปี พระองค์จะทรงเบิกดินสอเพียง ๑๒ แท่ง และจะทรงใช้เดือนละแท่งจนกระทั่งสั้นกุดสิ่งสำคัญกว่าตัวด้าม ก็คงเป็นจะเป็นไส้ของดินสอ ว่าไส้ถ่านเหล่านั้นได้ขีดเขียนอะไรเพื่อประเทศชาติมาแล้วบ้าง กว่าตลอด ๖ ทศวรรษแห่งการทรงงานของมหาราชผู้นี้

    _พ่อไม่เพี.jpg
    1509140226_0_คำว่าพอเพียง_พ่อไม่เพี.jpg
    1509140227_84_คำว่าพอเพียง_พ่อไม่เพี.jpg
    1509140227_944_คำว่าพอเพียง_พ่อไม่เพี.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “เมื่อใดมีความคิดว่าเราทำดีไม่ได้ดี
    หรือเขาทำดีไม่ได้ดี
    ก็พึงรู้ว่าเมื่อนั้นกำลังหลงคิดผิดจากความจริง
    กำลังเข้าใจผิดจากความจริง
    ทำดีต้องได้ดีเสมอ
    ไม่มียกเว้นด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น
    เมื่อใดมีความคิดว่าเราทำไม่ดีแต่กลับได้ดี
    หรือเขาทำไม่ดีแต่กลับได้ดี
    ก็พึงรู้ว่าเมื่อนั้นกำลังหลงคิดผิดจากความจริง
    กำลังเข้าใจผิดจากความจริง
    ทำไม่ดีต้องได้ไม่ดีเสมอ
    ไม่มียกเว้นด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น
    ชีวิตในชาตินี้ชาติเดียวย่อมน้อยนัก
    เมื่อเปรียบกับชีวิตในอดีตชาติ
    ซึ่งนับจำนวนชาติหาถ้วนไม่
    ดังนั้นกรรมคือการกระทำ
    ที่ทำในชีวิตนี้ ในชาตินี้ชาติเดียวจึงน้อยนัก
    เมื่อเปรียบกับกรรมหรือการกระทำ
    ที่ทำไว้แล้วในอดีตชาติ อันนับจำนวนชาติไม่ถ้วน”

    สมเด็จพระญาณสังวร
    สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ใครจะทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว ไม่ว่าในที่ลับหรือที่แจ้ง
    อย่าได้คิดว่าฑูตของยมบาลจะไม่รู้ไม่เห็นเลย
    เขาตามรู้ตามเห็นได้ทุกโอกาสทีเดียว.”

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    .jpg
    ” ใครจะทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว ไม่ว่าในที่ลับหรือที่แจ้ง
    อย่าได้คิดว่าฑูตของยมบาลจะไม่รู้ไม่เห็นเลย เขาตามรู้ตามเห็นได้ทุกโอกาสทีเดียว.”

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
    เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศล ณ สถานปฏิบัติธรรมบ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    ทรงสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร
    ทรงประเคนเครื่องสังฆทาน
    จากนั้นทรงเสด็จชมบริเวณสถานปฏิบัติธรรม

    .jpg
    1509198967_839_พระเจ้าหลานเธอพระองค์เ.jpg
    1509198967_969_พระเจ้าหลานเธอพระองค์เ.jpg
    1509198967_575_พระเจ้าหลานเธอพระองค์เ.jpg
    1509198967_558_พระเจ้าหลานเธอพระองค์เ.jpg
    1509198967_731_พระเจ้าหลานเธอพระองค์เ.jpg
    1509198967_417_พระเจ้าหลานเธอพระองค์เ.jpg
    พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระกุศล ณ สถานปฏิบัติธรรมบ้านไร่ทอสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทรงสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ฌอน ชยสาโร ทรงประเคนเครื่องสังฆทาน จากนั้นทรงเสด็จชมบริเวณสถานปฏิบัติธรรม เดลินิวส์

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2560 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต มาทรงบำเพ็ญพระกุศล ณ สถานปฏิบัติธรรมบ้านไร่ทอสี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นการส่วนพระองค์ หลังพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ฌอน ชยสาโร

    โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายพิทยา มูลศาสตร์ รองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 พันเอกรณกร ปานกุล รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 21 พล.ต.ต. วัชรินทร์ บุญคง รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครราชสีมา นาวาอากาศเอก วชิระพล เมืองน้อย ผู้บังคับการกองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง และประชาชนเฝ้ารับเสด็จ

    พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เสด็จสู่ภายในสถานปฏิบัติธรรม ทรงสักการะพระพุทธรัตนมหาปัญญาประทีป ทรงจุดเทียนเครื่องท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูป พระประธานภายในสถานปฏิบัติธรรม ที่ประดิษสถานกลางลานสนามหญ้า แล้วเสด็จประทับ ทรงศีลพร้อมทรงประเคนเครื่องสังฆทาน ทรงหลั่งทักษิโณทกบริเวณแท่นแสดงธรรมใต้ต้นมะขาม

    พร้อมทั้งสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ฌอน ชยสาโร จากนั้นเสด็จชมบริเวณสถานปฏิบัติธรรม เสร็จแล้วประชาชนที่รอเฝ้ารับเสด็จทูลเกล้า ฯ ถวายของ จากนั้นพระองค์เสด็จออกจากสถานปฏิบัติธรรม บ้านไร่ทอสี ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปยังท่าอากาศยานกองบิน 1 เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จกลับยังท่าอากาศยานดอนเมือง

    ______________

    ภาพและข่าวจาก : มติชนออนไลน์ https://www.matichon.co.th/news/712896

    -10-10-น-วันที่-28-ตุลา.jpg
    1509209826_23_เมื่อเวลา-10-10-น-วันที่-28-ตุลา.jpg
    1509209826_366_เมื่อเวลา-10-10-น-วันที่-28-ตุลา.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ธรรมะของพระองค์ เปรียบเหมือนกันกับจุดไฟให้สว่างในที่มืด หมายความว่า ใจที่มืดๆนั้น รู้จักบุญ รู้จักบาป รู้จักโทษ ”

    -:- หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต -:-
    วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

    -เปรียบ.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “การภาวนาก็เป็นอริยทรัพย์ภายใน มันจะติดตามไปทุกภพทุกชาติ ติดไปสวรรค์ ลงมามนุษย์ มาตกอยู่ในที่มั่งคั่งสมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ยากไม่จน ทรัพย์อันนี้ติดตามไป บ่มีสูญหายดอก ตามไปจนสิ้นภพสิ้นชาติ หรือจนเหนื่อยหน่ายต่อความชั่ว เบื่อหน่ายไม่มีความยินดี ไม่อยากเกิดอีก ภาวนาไปๆ ก็จะไปสู่พระนิพพานตามเสด็จพระพุทธเจ้าเท่านั้นแหละ ก็สบายเท่านั้นแหละ คนเรามันมักอยากมาเกิดอยู่เสมอ”

    หลวงปู่ขาว อนาลโย

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...