ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…หูทิพย์ ตาทิพย์ และการเทศน์ที่เผ็ดร้อนของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต…”

    “…ลูกศิษย์ที่เคยติดตามปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่น ต่างก็ตระหนักดีถึงเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์และปรจิตวิชาของท่านว่า น่าอัศจรรย์และน่ากลัวมาก เฉพาะปรจิตวิชารู้สึกว่าท่านจะรวดเร็วมาก ใครคิดไม่ดีขึ้นที่ใด ขณะใดเป็นต้องได้การทันทีแทบทุกครั้ง ฉะนั้น เวลาอยู่กับท่าน ต่างองค์ต่างระวังสำรวมอินทรีย์อย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นต้องโดนแน่ ไม่มีทางปิดบังหรือหลีกเลี่ยงได้
    ตัวอย่างในเรื่องนี้ เกิดในช่วงที่หลวงปู่(มั่น)อยู่เชียงใหม่ ท่านเทศน์อบรมพระและยกตัวอย่างการปฏิบัติของท่านว่าเต็มไปด้วยความลำบากลำบนต้องสลบไปถึง ๓ หน กว่าจะได้ธรรมมาสอนผู้อื่นได้

    พอหลวงปู่เทศน์จบ มีพระองค์หนึ่งคิดอยู่ในใจว่า “โอ้โฮ! ทำความเพียรถึงขั้นสลบไปเช่นนี้มันเกินไป เราไม่เอาด้วยแน่ๆ ใครจะไปนิพพานก็เชิญไปเถิด เราไม่อยากไปแน่ เพราะไม่อยากสลบ เพียงเห็นเขาสลบก็กลัวจะตายอยู่แล้ว” หลังจากนั้นพักหนึ่ง พระธรรมเทศนากัณฑ์ใหม่ก็เป็นไปอย่างเผ็ดร้อนมาก ราวกับจะฉีกดิบๆ สดๆ เอาที่เดียวว่า

    “ท่าน…(ระบุชื่อ)… ไม่เชื่อผมหรือ? ท่านเข้าใจว่าผมโกหกเล่นๆอย่างนั้นหรือ? ถ้าไม่เชื่อก็นิมนต์ไปซะซิ จะมาอยู่ให้หนักสำนักทำไม ท่านมาเอง ผมมิได้นิมนต์ท่านมา เมื่อไม่เชื่อก็ต้องไปเอง อย่าให้ทันได้ขับไล่ แม้จะอยู่ก็ไม่เป็นประโยชน์ เพราะธรรมของพระพุทธเจ้ามิได้ประกาศไว้เพื่อสอนโมฆบุรุษเช่นท่าน”

    “ความคิดแบบท่านไม่ควรนำมาคิดในเพศของพระที่กำลังอาศัยผ้าเหลืองเป็นอยู่ เพราะผู้ทรงเพศนี้เป็นเพศที่เชื่อธรรม แต่ท่านมิได้เชื่อผมและเชื่อธรรม จึงคิดค้านความพ้นทุกข์ที่เป็นไปตามแบบของพระพุทธเจ้า”

    “ที่ใดสนุกกิน สนุกนอน ไม่ต้องทำความเพียรให้ลำบาก ก็นิมนต์ท่านไปที่นั่น ถ้ารู้ธรรมเห็นธรรมของจริงด้วยวิธีนั้น ในสถานที่นั้น ก็ขอนิมนต์กลับมาโปรดผมคนกิเลสหนาปัญญาทึบบ้าง จะยกมือสาธุสุดศอกสุดแขน และขอบคุณบุญคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมนั่นแหละ”

    “การสอนของผมก็สอนด้วยความจริง ว่าผู้หวังพ้นทุกข์ต้องเป็นผู้อาจหาญไม่กลัวตาย แต่ท่านไม่เชื่อว่าเป็นความจริง จึงขอเกิดตายเพื่อแบกหามทุกข์อยู่ในโลก ท่านอยากอยู่ในโลกกองทุกข์ก็เชิญท่านอยู่ไป แต่อย่ามาคัดค้านทางเดินของธรรมที่เป็นศาสดาสอนโลกแทนพระพุทธเจ้า จะเป็นขวากหนามทิ่มแทงพระศาสนาอันบริสุทธิ์… ถ้าไม่คิดแก้ไขเสียในขณะนี้ท่านจะเสียคน และยังจะทำให้ผู้อื่นเสียตามท่านอีกมากมาย ซึ่งน่าสลดเสียดายอย่างยิ่ง…”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (ประวัติ ข้อวัตรและปฏิปทา)
    โครงการหนังสือบูรพาจารย์เล่ม ๑ (พิมพ์ครั้งที่ ๘)
    โดย รศ.ดร.ปฐม – รศ.ภัทรา นิคมานนท์

    ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -ตาทิพย์-และการ.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    สมาชิกชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรเย็น-นั่งสมาธิภาวนา ในวันพุธ ที่ 8 พฤศจิกายน 2560 เวลา 16.00-17.00 น. ณ ห้องนิติธรรม ชั้น 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    .jpg
    1510139467_1_สมาชิกชุมนุมพุทธธรรมกร.jpg
    1510139467_298_สมาชิกชุมนุมพุทธธรรมกร.jpg
    1510139467_288_สมาชิกชุมนุมพุทธธรรมกร.jpg
    1510139468_815_สมาชิกชุมนุมพุทธธรรมกร.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “พิจารณาเพื่อให้เกิดเบื่อหน่ายในสังขาร สำหรับบุคคลที่หลงหนัง มีแต่อาจารย์ใหญ่ในกายของเรานี่แหละที่ช่วยแก้ความหลงได้”

    …..เมื่อเอาหนังออกแล้ว ก็เอาเนื้อออกดู เอาเนื้อออกดูแล้ว ก็เอากระดูกออกดู เอาทั้งหมดออกดู ไส้น้อย ไส้ใหญ่ ตับ ไต ออกมาดู มันเป็นยังไง มันเป็นคน หรือเป็นยังไง ทำไมเราต้องไปหลง เออนี่แหละ พิจารณาให้มันเห็นอย่างนี้แหละ มันจะละสักกายทิฐิแน่ มันจะละวิจิกิจฉา ความสงสัย จะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ มันเลยไม่มี สีลพัตฯ ความลูบคลำ มันก็ไม่ลูบคลำ อ้อจริงอย่างนี้ เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว จิตมันก็ว่าง เมื่อรู้จักแล้วก็ตัด นี่มันจะได้เป็นวิปัสสนาเกิดขึ้น อันนี้เรามีสมาธิแน่นหนาแล้ว ทุกขเวทนาเหล่านั้น มันก็เข้าไม่ถึงจิตของเรา เพราะเราปล่อยแล้ว เราวางแล้ว เราละแล้ว.

    “หลวงปู่ฝั้น อาจาโร”

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “กรรมที่ไม่เจตนา”

    (โดย หลวงปู่สรวง สิริปุญโญ)

    มีเหตุการณ์ชวนสะเทือนใจในวัยหนุ่ม ซึ่งแม้ท่านไม่ได้กระทำโดยตรง แต่ผลกรรมได้สะท้อนมาในระหว่างการภาวนาของท่านในพรรษานี้ หลวงปู่สรวงได้เล่าไว้เป็นคติตัวอย่างว่า

    “ตั้งแต่เราเป็นโยมทำงานทางหลวง คืนหนึ่งไปเที่ยวเล่นกลับมา หมู่เพื่อนเอาวัวออกไป มีลูกติดมาตัวหนึ่ง พอดีเรามาเห็นเพื่อน เพื่อนก็เลยชวนว่าได้ของใหญ่มาแต่เราไม่รู้ว่าของใหญ่คืออะไร นึกว่าเขาได้ผู้สาวไป ก็เลยตามเขาไป เห็นแสงไฟฉายจึงวิ่งตามเขาไป พอไปถึงห้วยลำโพง ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๓ กิโลเมตร เห็นเขาผูกวัวไว้ที่เสาสะพานไม้จึงตกใจเพราะไม่เคยเห็นเคยทำแบบนี้มาก่อน จึงพูดกับหมู่เพื่อนว่า “เราไม่เอาแล้วเรื่องแบบนี้ แต่เนื้อเราก็ไม่เคยกิน ไม่เคยเอาเข้าปากเลยที่ผ่านมา”

    สุดท้ายหมู่เพื่อนก็ขู่เข็ญว่าไม่ได้ มาแล้วมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเขาจะฆ่าเราให้ตาย กลัวเขามากจึงตามเขาไปด้วยความไม่พอใจ เขาบอกให้เราไปหาค้อนมาทุบตีประหารชีวิตวัว ไม่รู้จะหาที่ไหน อาวุธเราก็ไม่มี มีดพร้าหรือกิ่งไม้แห้งๆ ก็ไม่มี เพราะกลางคืนมองไม่ค่อยเห็นอะไร พอดีไปหาค้อนมาได้ เขาก็ลงมือทำเสร็จเรียบร้อนก่อนแล้ว เขาปาดเนื้อแบ่งปันเป็นส่วนๆ จนครบทุกคน และพวกเขาจึงเดินกลับ ส่วนลูกวัวเขาไม่ได้ฆ่า มันก็ร้องตามแม่และวิ่งตามเนื้อของแม่มันไป หมู่เพื่อนบอกให้เราลัดขวางลูกวัวไว้ ลูกวัวจึงตามเราไปตลอด

    สุดท้ายก็เลยพามันกลับมาที่โครงซากกระดูกของแม่มัน และมันก็ดมกลิ่นโครงซากของแม่วัว เราจึงรีบวิ่งหนีไป เขาก็แบ่งส่วนเนื้อวัวให้ เราก็ไม่อยากเอา เขาบังคับให้เอาให้ได้ เราก็จำใจต้องเอาแต่ไม่ได้เอามาถึงบ้าน ทิ้งไว้ที่เถียงนา แล้วจึงเดินเข้าบ้าน แม่จึงถามว่าไปไหนมาถึงกลับมาดึกจนป่านนี้ จึงบอกแม่ว่าไปที่ทุ่งนา เพิ่งกลับมา และได้บอกพี่เขยให้ไปเอาเนื้อส่วนนั้น แต่พี่เขยไม่ได้เอาเนื้อเข้ามาบ้านเพราะครอบครัวของเราไม่มีคนกินเนื้อเลย
    .
    ในพรรษานี่แหละที่อยู่กับหลวงปู่มหาบุญมี ภูเขาดงตาลเลียนนี่แหละ เวลาเราเดินจงกรมก็ได้เห็นวัวแม่กับลูกมายืนอยู่ที่ตรงหน้า เป็นนิมิตมองเห็นแม่วัวกับลูกชัดเจนอยู่อย่างนั้น จึงย้อนคิดว่า “โอ้ย.. เป็นบาปกรรมของเรา” ก็เลยแผ่เมตตาให้เขา แผ่ส่วนบุญกุศลให้เขา เนื้อของเธอเราก็ไม่ได้กิน ทุบตีเธอก็ไม่ได้ทุบตี เราไปด้วยคนอื่นชักชวนไป ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอย่างนี้ ขอให้พวกเธอนั้นรับเอาส่วนบุญส่วนกุศลที่เราทำนี้เสีย เราแผ่อุทิศส่วนกุศลให้ทุกวันทุกคืนอยู่หลายวันจึงหายไป นี่แหละเรื่องบาปกรรม ขนาดเราไม่ได้ฆ่า แค่ไปเป็นเพื่อนเขา”

    -กรรมที่ไม่เจตนา.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เวลาใกล้ตาย ควรคิดอะไร หลวงปู่หล้าแนะนำไว้

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร ได้เทศน์ให้ญาติโยมฟังไว้ว่า ตายคาภาวนายังดีกว่าตายคานึกถึงสิ่งของ เวลาเราจะตาย เรานึกถึงสิ่งของอันใด ใจขาดด้วย ก็ไปเป็นเขียดกะปาดบ้าง อยู่ตามรั้วอยู่ตามไร่ตามนา ถ้าเรานึกถึงหลานคนนั้นคนนี้ แล้วก็ใจขาดคาที่นั่น เราไปเกิดเป็นเป็ดเป็นไก่เขาหรือเป็นหลานเขา เวลาจะตายสำคัญ อสัญกรรม กรรมเมื่อจวนเจียน

    เวลาใกล้จะตายเห็นแสงไฟ ปรากฏเห็นแสงไฟมา ยังไม่คิดไปทางอื่นแล้วก็เลยตายในขณะนั้นก็ไปเกิดในนรก

    ถ้าเวลาใกล้จะตายปรากฏเห็นท่าน้ำหรือป่าไม้ แล้วก็สิ้นลมปราณในเวลานั้นยังไม่คิดไปทางอื่น ก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

    เวลาใกล้จะตายปรากฏว่ามืดมนอนธกาล มองไม่เห็นอะไรเลยคล้ายๆว่ากลางคืน สิ้นลมปราณในขณะนั้นก็ไปเกิดเป็นเปรต

    เวลาใกล้จะตาย ได้ปรากฏเห็นวิมานและปรากฏเห็นเทวบุตรเทวดา แล้วก็สิ้นลมปราณในขณะนั้น ก็ไปเป็นเทวบุตรเทวดาเป็นอินทร์เป็นพรหมอยู่ในสรวงสวรรค์หรือพรหมโลก

    เวลาใกล้จะตาย ปรากฏเห็นครรภ์มารดา ก็ไปถือปฏิสนธิเกิดอีกในครรภ์

    ส่วนพระอรหันต์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เวลาใกล้จะตายก็มาเห็นกายเราส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น ลมหายใจเข้าออกเป็นต้น หรือ กระดูกท่อนใดท่อนหนึ่งเป็นต้น หรือผม ขน เล็บ ฟัน อันใดอันหนึ่งเป็นต้น หรือธาตุน้ำอันใดอันหนึ่งในสกลร่างกายเป็นต้น มีดี เสลด น้ำเลือด เหงื่อ น้ำมันข้น น้ำลาย ไขข้อ น้ำมูตร หรืออันใดอันหนึ่งเป็นต้น ต่อจากนั้นแล้วท่านก็พลิกจิต ไม่ได้ติดอยู่ในผู้รู้ทั้งหลาย ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบันด้วย ท่านก็เข้าสู่พระนิพพานไปซะ หาธรรมอันไม่ตาย

    ถ้าเราไม่หัดไว้ทีนี้ ใกล้จะตายมาพุทโธๆแด่เด้อ พุทโธๆเด้อ พุทโธๆยังไงเมื่อมีชีวิตอยู่มันก็ยังไม่ภาวนา เดี๋ยวจะเจ็บอันนั้นปวดอันนี้ ร้องครางไปสารพัดแล้วไม่หัดไว้เดี๋ยวนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องหัดไว้ ถ้าตายคาภาวนาพุทโธ ถึงจะมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกก็ตาม เราก็ไปสุคตินานอยู่เหมือนกัน

    ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ “อยู่กับทุกข์”

    ?? ประวัติ ปฏิปทาและคำสอน “หลวงปู่หล้า เขมปัตโต” ??

    -ควรคิดอะไร-ห.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    สาธุ..นี่แหละพระแท้!! “หลวงปู่ทุย แห่งวัดป่าดานวิเวก” วัตรปฏิบัติเทียบ “หลวงปู่มั่น” สอนลูกศิษย์อย่านำเงินเข้าวัด! นำเงินไปให้พ่อแม่จะดีกว่า

    …หากจะเอ่ยถึงสำนักวัดป่าที่ยังรักษาข้อวัตร และปฏิปทา ธรรมเนียมของพระป่า ที่เข้มข้นที่สุดในยุคนี้ ต้องกล่าวถึง สำนัก “วัดป่าดานวิเวก (วัดดงศรีชมภู) ” อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ เนื่องจากเป็นวัดที่คงปฏิปทาสายพระป่า ที่หาได้ยากยิ่งมากในปัจจุบันนี้…โดยมี หลวงปู่ปรีดา (ทุย) ฉนฺทกโร เป็นผู้อบรมสั่งสอน..

    ถึงแม้หลวงปู่ทุยจะดุในแง่เจ้าระเบียบ และรักษาข้อวัตร-ปฏิปทาอย่างเข้มงวดกวดขัน แต่ก็มี “พระ-เณร” พากันหลั่งไหลเข้ามาจำพรรษาเพื่อศึกษากับท่านมากขึ้น เพราะสิ่งที่ท่านสอนสั่งนั้นมุ่งอรรถธรรมจริงๆ เช่นนั้นลูกศิษย์หมู่พระเณรในวัดนี้มีแต่พระปฏิบัติกันจริงจัง ทำให้พระที่ไม่มุ่งมั่น พระที่ไม่ชอบข้อวัตร ไม่ชอบภาวนา แบบนี้จะอยู่ไม่ได้ เพราะไม่ยินดีก็จะไม่อยากมาอยู่..ไม่ต้องสงสัยเลย
    จนเป็นที่กล่าวขวัญกันว่า “…ถ้าอยากรู้ข้อวัตรสมัยยุคหลวงปู่มั่นว่าท่านพาลูกศิษย์ดำเนินอย่างไร ให้ไปดูสำนักวัด หลวงปู่ปรีดา (ทุย)”

    สำหรับวัดป่าดานวิเวกไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ นอกจากศาลาใหญ่หลังหนึ่งและกุฏิที่อยู่ห่างๆ กันไปเท่าที่จำเป็น อาสนะของพระสูงกว่าพื้นดินเพียงคืบเดียว หลวงปู่ทุยท่านมีปฏิปทาว่าจะไม่สร้างวัตถุถาวรใดๆ เกินความจำเป็น มุ่งปลูกป่าอย่างเดียว หากจะใช้ลำไม้ได้กรณีที่ต้นไม้นั้นล้มหรือตายเอง

    วัดจะไม่ใช้ไฟฟ้าและระบบน้ำประปา โดยสั่งห้ามไว้ไม่ให้มีการต่อไฟฟ้าเข้ามาในวัดอย่างเด็ดขาด ส่วนน้ำนั้น “พระ – เณร” จะช่วยกันไปตักน้ำมาจากบ่อบาดาลมาใส่โอ่งใส่ตุ่มไว้ใช้ เมื่อไม่มีไฟฟ้าและประปา จึงไม่จำเป็นเลยที่ญาติโยมจะต้องมาบริจาคเงินเข้าวัด ดังนั้น สำนักนี้ท่านไม่มีบอกบุญ ไม่มีเรี่ยไร ไม่มีการชวนบริจาค ไม่มีชำระหนี้สงฆ์อะไรทั้งสิ้น ไม่ขอ ไม่ตั้งตู้ให้ญาติโยมหยอดเหรียญทำบุญประจำวันเกิดเพื่อหาเงินเข้าวัด ไม่จัดงานหาเงินหาปัจจัยเข้าวัด

    หลวงปู่ทุยเคยกล่าวไว้ว่า

    “โยมไม่ต้องมาบริจาคเงินให้วัด..โยมเอาเงินไปดูแลพ่อแม่ได้บุญมากกว่าเอามาให้วัด เรื่องเงินน่ะไม่สำคัญ ฆราวาสมีศีล 5 เท่านั้นพอ

    โยมอย่าเอาไฟฟ้าเข้าวัด เพราะจะทำให้พระต้องมีค่าใช้จ่าย พระไม่มีรายได้อยู่โดยไม่มีไฟฟ้าดีกว่า

    โยมมาที่วัดขออย่าอึกทึกเสียงดัง. มาอยู่วัดให้ทำสมาธิฝึกจิต ได้บุญกว่ามานั่งกราบพระน่ะ”

    -นี่แหละพระแท้-หลว.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ถ้าเรา รู้ความเป็นจริง ของโลกสักนิด
    เราจะปราถนาเลย กับคำว่า ั่วฟ้าดินสลาย
    แต่เราจะขอใจที่..รู้จริง,เห็นจริง
    ..เห็นตามความเป็นจริง ของโลก
    ..ใจที่ รู้ดี,รู้ชั่ว..ใจที่ฉลาด
    จะไม่ทำร้ายตัวเอง
    จะไม่ทำให้ผิดซ้ำซาก

    …..สาธุธรรมอันประเสริฐ….

    -รู้ความเป็นจริง-ข.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    มีวาสนาก็มา ไม่มีวาสนาก็ไป
    สิ่งใดที่สมควรแก่เหตุก็มาเอง

    สิ่งใดไม่สมควรแก่เหตุ
    จะแสวงหาก็ไม่พบ..
    อ้อนวอนก็ไม่สำเร็จ

    ..มีวาสนาก็ไม่ปฎิเสธ
    ..ไร้วาสนาก็ไม่ต้องแสวงหา
    ..สิ่งที่เข้ามาก็ต้อนรับ
    ..สิ่งที่จากไปก็ไม่ต้องอาลัย
    ..ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วแต่วาสนา
    ..ให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น
    ทำเหตุให้ดีที่สุดเท่านั้น

    …..สาธุธรรมอันประเสริฐ….

    -ไม่มีวาสนาก.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “พระไตรสรณคมน์ เป็นมรรคปฏิปทามุ่งสู่ โสดาปัตติผล”

    (คติธรรม หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม)

    ไตรสรณคมน์ไม่ให้ขาดและไม่ให้เศร้าหมอง ดังนี้คือ

    ๑. เป็นผู้ตั้งอยู่ในความเคารพ ๖ ประการ คือ เคารพในพระพุทธเจ้า ๑ เคารพในพระธรรม ๑ เคารพในพระอริยสงฆ์สาวก ๑ เคารพในความไม่ประมาท ๑ เคารพในไตรสิกขา ๓ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ๑ เคารพในปฏิสันถารการต้อนรับ ๑ ต้องเป็นผู้มีความเชื่อ ความเลื่อมใส นับถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึก ของตนจริงๆ ถ้าประมาทเมื่อไรก็ขาดจากคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น

    ๒. เว้นจากการนับถือพระภูมิต่างๆ คือ ไม่นับถือภูตผีปีศาจ พระภูมิเจ้าที่ เทวบุตร เทวดา มนต์ คาถา วิชาต่างๆ ต่อไป ถ้านับถือเมื่อไรก็ขาดจากคุณพระรัตนตรัยเมื่อ นั้น

    ๓. ไม่เข้ารีตเดียรถีย์ นิครณฐ์ คือไม่นับถือลัทธิ วิธี ศาสนาอื่น ภายนอกพระพุทธ ศาสนามาเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลีกของตนสืบต่อไป ถ้านับถือเข้ารีตเดียรถีย์เมื่อไร ก็ขาดจากคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น

    ๔. ไม่นับถือลัทธิศาสนาพราหมณ์ คือไม่ดูไม้ดูหมอ แต่งแก้แต่งบูชา เสียเคราะห์เสียขวัญ เป็นต้น ถ้านับถือเมื่อไรก็เศร้าหมองในคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น

    ๕. เป็นผู้เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เช่น เชื่อว่า ทำชั่วได้ชั่ว ทำดีได้ดีเป็นต้น ตลอดจนเชื่อความตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุด ไม่เชื่อมงคลตื่นข่าว ข้อนี้ต้องเป็นผู้มีสมาธิเสมอ ถ้าขาดสมาธิเมื่อไรก็ขาดศรัทธาความเชื่อมั่นนั้น ถ้าขาดศรัทธาความเชื่อเมื่อไรก็เศร้าหมองในคุณพระรัตนตรัยเมื่อนั้น

    วิธีปฏิบัติพระไตรสรณคมน์

    ท่านสอนให้ปฏิบัติใจของตนเอง เพราะคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสามนี้สำเร็จด้วยใจ ล้วนเป็นคุณสมบัติของใจทั้งนั้น ท่านจึงสอนให้ ปฏิบัติใจของตนเอง ให้เป็นคนหมั่น คนขยัน ไหว้พระทุกวัน นั่งสมาธิทุกวัน

    ปฐมํ ยามํ จงฺกามาย นิสชฺชํ อาวรณิเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธติ

    เวลาก่อนเข้านอน ตอนหัวค่ำให้เดินจงกรม แล้วทำพิธีไหว้พระ เจริญพรหมวิหาร นั่งสมาธิภาวนา ทำจิตสงบและตั้งมั่นเป็นสมาธิก่อนเข้านอน

    อฑฺฒรตฺตํ จงฺกามาย นิสชฺชํ อาวรณิเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธต

    เวลาเที่ยงคืน นอนตื่นขึ้นเป็นเวลาที่สงบสงัดดี ให้เดินจงกรม ทำพิธีไหว้พระเจริญพรหมวิหาร นั่งสมาธิภาวนา ทำจิตใจให้สงบและตั้งมั่นเป็นสมาธิแน่วแน่ จึงนอนต่อไปอีก

    ปจฺฉิมํ ยามํ จงฺกามาย นิสชฺชํ อาวรณิเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตํ ปริโสเธตฯ

    เวลาปัจจุสมัย จวนใกล้รุ่ง ให้ลุกขึ้นแต่เช้า ล้างหน้า เช็ดหน้าเรียบร้อยแล้ว ทำพิธีไหว้พระเจริญพรหมวิหาร นั่งสมาธิภาวนา ทำจิตให้สงบและตั้งมั่นเป็นสมาธิแน่วแน่ แล้วเดินจงกรมต่อไปอีกจนแจ้ง เป็นวันใหม่ จึงประกอบการงานต่อไป

    -พระไตรสรณคมน์-เป.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมื่อเล่นงานนอกวัดไม่สำเร็จ พวกจ้ำผีจึงพากันรบกวนพระเณรในวัด เช่น ไปตีเกราะเคาะไม้ให้เกิดเสียงดังรบกวนพระเณรในเวลาทำความเพียร เผาป่าเพื่อให้ไฟลามไปไหม้กุฏิที่พัก ยิงปืนขึ้นฟ้าหรือยิงปืนในวัดเพื่อข่มขู่พระเณรให้หวาดกลัว ทุกๆอย่างที่พวกจ้ำผีทำลงไปองค์ท่านหลวงปู่สิงห์(ขันตยาคโม)และพระเณรไม่เคยโต้ตอบซักครั้ง ชาวบ้านผู้ใจมีธรรมก็รับกับการกระทำของคนพวกนี้ไม่ได้จึงพากันเข้าวัดปฏิบัติกับองค์ท่านหลวงปู่สิงห์มากขึ้นกว่าเก่า พวกหมอผีกับบริวารยิ่งพากันแค้นองค์ท่านหลวงปู่สิงห์กับพระเณรกรรมฐานมากขึ้นกว่าเก่า จนถึงขั้นขู่จะเอาปืนมายิง..

    คืนหนึ่งหัวหน้าจ้ำผีถือปืนเข้ามาในวัดเพื่อจะยิงข่มขู่พระเณร หัวหน้าจ้ำผีเห็นหลวงปู่ชอบกำลังเดินจงกรมอยู่ข้างที่พักจึงถือปืนเดินตรงเข้ามาขู่ท่านว่า ไอ้หัวโล้นมึงกลัวตายไหม..

    ท่านตอบหมอผีว่า “ จะกลัวตายหรือไม่กลัวตายสุดท้ายมันก็ตายอยู่ดี โยมมาหาอาตมานี้มีประสงค์อะไร ”..

    หมอผีผู้นี้บอกท่านว่า “ กูจะมายิงพวกมึง ” พอพูดจบหมอผีผู้นี้ก็ประทับปืนขึ้นบ่าเพื่อจะยิงท่าน ท่านบอกตอนนั้นเรารู้สึกโกรธอยากจะโต้ตอบเขามาก พอเราคุมสติของตนเองได้ก็นึกถึงคำพูดของท่านอาจารย์สิงห์(ขันตยาคโม) “ ให้แผ่เมตตากับผู้ที่จะมาเบียดเบียนเรา จงเชื่อในกรรมของตนเอง ”..

    ท่านว่า เมื่อมีสติระลึกได้เช่นนี้เราก็ปลงใจในกรรมแผ่เมตตาให้กับหัวหน้าจ้ำผีโดยที่ไม่ได้สนใจว่าเขาจะยิงเราหรือไม่..

    หลวงปู่ชอบท่านเดินจงกรมอยู่นานแต่จ้ำผีคนนี้ก็ไม่ยอมยิงท่านซักที จนเวลาล่วงเลยเข้าตีสามกว่าๆท่านจึงเลิกจากทางกรมกรมขึ้นที่พักเพื่อจะไหว้พระสวดมนต์ ท่านตะโกนถามหัวหน้าจ้ำผีคนนี้ “ โยมยืนอยู่นานแล้วไม่เมื่อยบ้างหรือ ” พอท่านว่าจบจ้ำผีคนนี้ก็ร้องไห้โฮวางปืนเดินเข้ามาหาท่าน..

    จ้ำผี(คนทรงผี)ผู้นี้เข้ามากราบท่านแล้วนั่งก้มหน้าร้องไห้โดยที่ไม่ได้พูดจาคำใดๆกับท่านเลย จากนั้นจ้ำผีผู้นี้ก็ไปหยิบเอาปืนของตนเองแล้วก็เดินออกไปจากวัดป่าบ้านเหล่างา(วัดป่าวิเวกธรรม) ท่านว่าตอนนั้นเราก็งงกับการกระทำของจ้ำผีคนนี้มาก แต่เราก็หาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ในตอนนั้น..

    ท่าน(หลวงปู่ชอบ)ได้นำเรื่องนี้ไปกราบเรียนองค์ท่านหลวงปู่สิงห์)ขันตยาคโม)ผู้เป็นครูบาอาจารย์ให้ทราบ..

    หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม บอกท่านว่า “ ท่านชอบกับหมอผีคนนี้ไม่เคยมีกรรมเข่นฆ่ากันมาก่อนเขาจึงมาทำร้ายท่านไม่ได้ ”..

    ท่าน(หลวงปู่ชอบ)ถามองค์ท่านหลวงปู่สิงห์ ที่เขาไม่ยิงเกล้ากระผมนั้นเพราะเหตุจากอะไร..

    องค์ท่านหลวงปู่สิงห์บอก “ เพราะอำนาจศีลธรรมที่ท่านบำเพ็ญมาช่วยปกปักรักษาจึงทำให้หมอผีผู้นี้ลั่นไกไม่ออก ทั้งๆที่เจตนาของเขานั้นจะลั่นไกเพื่อที่จะฆ่าท่าน ”..

    พอองค์ท่านหลวงปู่สิงห์ผู้เป็นครูบาอาจารย์อธิบายให้ฟังแบบนี้ หลวงปู่ชอบท่านจึงสิ้นสงสัยในอำนาจของกำแพงศีลธรรม..

    กว่าจะได้เป็น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม มาอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้ได้ดีนี่มันบ่มีเรื่องง่ายๆ ครั้งแรกที่หลวงปู่ชอบท่านบอก เราเกือบจะตายเพราะมีคนมาลอบฆ่า แต่เรารอดมาได้เพราะกำแพงศีลธรรมที่มีในใจของเราเอง..
    บันทึก ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท..

    ิขสิทธิ์เด็กวัดป่ามดงาน..

    คัดลอกบางตอนจากชีวประวัติ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม “ พระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ ” เรื่อง “ ถูกต่อต้านจากพวกมิจฉาทิฐิ ”..

    .png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ถ้าละกิเลสไม่หมด ก็ยังมาเกิดอีก
    เกิดมาอีกก็แก่ไปอีก
    แก่ไปอีกก็เจ็บไข้ได้ป่วยไปอีก
    เจ็บไข้ได้ป่วยหนักเข้าก็ตายไปอีก
    วนอยู่อย่างเก่านั้นแหละ

    ฉะนั้น “มรณัง เม ภวิสสติ”
    เตือนจิตของตนเองให้ได้
    ทุกคนย่อมมีความตายเป็นผลที่สุด”

    หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร

    -ก็ยังม.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    น้อมรำลึก ๖๘ ปี วันคล้ายวันละสังขารบูรพาจารย์ใหญ่กรรมฐานสายวัดป่าองค์หลวงปู่มั่น ภูริตทัตโต ณ วัดป่าภูริทัตตะถิราวาส {วัดป่าหนองผือ} ต.นาใน.อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ และวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นี้ ณ วัดป่าภูริตทัตตะถิราวาส อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    1510296993_797_น้อมรำลึก-๖๘-ปี-วันคล้าย.jpg
    1510296993_102_น้อมรำลึก-๖๘-ปี-วันคล้าย.jpg
    1510296993_605_น้อมรำลึก-๖๘-ปี-วันคล้าย.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ถ้าประมาทในชาติมนุษย์
    ไม่พยายามสร้างความดี
    ไว้เสริมต่อในภพชาติต่อไป
    ทางที่จะได้เกิดเป็นสัตว์
    มีมากกว่าทางที่จะได้ เกิดเป็นมนุษย์

    โอวาทธรรมคำสอน
    ( หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต )

    …..สาธุธรรมอันประเสริฐ…..

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ๏ ครบรอบ ๖๘ ปี วันละสังขารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ๏

    วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐ เป็นวันครบรอบ ๖๘ ปี แห่งการละสังขารของพระบูรพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดป่าภูริทัตตถิราวาส (หนองผือนาใน) อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เดิมชื่อ มั่น นามสกุล แก่นแก้ว เป็นบุตรของ นายคำด้วง และ นางจันทร์ ท่านถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ.๒๔๑๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ณ บ้านคำบง อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี

    ท่านได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 15 ปี ณ วัดบ้านคำบง เมื่อบวชได้ 2 ปี บิดาขอร้องให้ลาสิกขาเพื่อช่วยการงานทางบ้าน จิตท่านยังหวนคิดถึงร่มผ้ากาสาวพัสตร์อยู่เนืองนิจ เพราะติดใจในคำสั่งของยายว่า “เจ้าต้องบวชให้ยาย เพราะยายก็ได้เลี้ยงเจ้ายากนัก” ต่อมาหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ได้เดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่บ้านคำบง นายมั่น แก่นแก้ว จึงเข้าถวายการรับใช้และมีจิตศรัทธาในข้อวัตรปฏิบัติของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ต่อมาได้เป็นศิษย์ติดตามเข้าเมืองอุบล

    เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ท่านเล่าว่ามีความอยากบวชเป็นกำลัง จึงอำลาบิดามารดาบวช ซึ่งท่านทั้งสองก็อนุญาต จึงได้เข้ารับการอุปสมบทในวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๖ ณ วัดศรีทอง(วัดศรีอุบลรัตนาราม) อ.เมือง จ. อุบลราชธานี โดยมีพระอริยกวี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประจักษ์อุบลคุณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ ภูริทัตโต ” หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้ไปพำนักจำพรรษา และศึกษาธรรมกับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโลที่วัดเลียบ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    หลังจากที่ท่านได้บรรลุธรรมขั้นสูงที่ถ้ำสาลิกาแล้ว ท่านได้กลับมายังภาคอีสาน การกลับมาของท่านคราวนี้ทำให้พระเณรตื่นตัวหันมาปฏิบัติกันอย่างจริงจังมากขึ้น บังเกิดเป็นกองทัพธรรมพระกรรมฐานได้นำธงชัยแห่งพระพุทธศาสนากระจายเผยแผ่อมตะธรรมไปทั่วสารทิศ ท่านได้นำลูกศิษย์ลูกหาออกบำเพ็ญภาวนา ยิ่งนับวันยิ่งมีผู้เคารพศรัทธาท่านเพิ่มมากขึ้น

    ท่านได้ไปจาริกแสวงธรรม อยู่ทางภาคเหนือนานถึง ๑๒ ปี ท่านจึงได้เดินทางกลับมายังภาคอีสานตามคำอาราธนานิมนต์ของลูกศิษย์ลูกหา พอกลับมาถึงภาคอีสานท่านได้เข้าพักที่วัดป่าสาลวัน เมืองโคราช จากนั้นท่านได้โดยสารรถไฟต่อไปยัง จ.อุดรธานี ที่ จ.อุดรธานีนี้ท่านได้เข้าพักที่วัดโพธิสมภรณ์ และวัดป่าโนนนิเวศน์ จนกระทั่งมีคณะศรัทธาจาก จ.สกลนคร มานิมนต์ให้ท่านไปโปรดพวกเขา ท่านจึงรับคำนิมนต์ โดยได้ไปพักอยู่ที่วัดป่าบ้านโคก ( วัดป่าวิสุทธิธรรม ) อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร หน้าแล้งในพรรษาหนึ่งก็ได้มีคณะศรัทธาจากบ้านหนองผือนาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เดินทางมานิมนต์ท่านไปสั่งสอนธรรม ท่านจึงรับนิมนต์และย้ายจาก อ.โคกศรีสุพรรณ ไปยังบ้านหนองผือนาใน และที่วัดป่าบ้านหนองผือแห่งนี้นี่เองเป็นสถานที่ที่ท่านพระอาจารย์มั่น จำพรรษาอยู่นานถึง ๕ พรรษา จนถึงวาระสุดท้ายปลายแดนแห่งปฏิปทาของท่าน

    ในวัยชรานับแต่ พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นต้นมาท่านมาอยู่จังหวัดสกลนคร ณ เสนาสนะป่าบ้านนามน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร และที่ใกล้ๆแถวนั้นบ้าง ครั้น พ.ศ. ๒๔๘๗ จึงย้ายไปอยู่เสนาสนะป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ซึ่งเป็นปีที่ท่านมีอายุย่างขึ้น ๘๐ ปี ท่านเริ่มอาพาธเป็นไข้คณะศิษย์ผู้อยู่ใกล้ชิดก็ได้เป็นธุระรักษาพยาบาลไปตามกำลังความสามารถอาการอาพาธก็สงบไปบ้างเป็นครั้งคราว จนจวนจะออกพรรษาอาการอาพาธก็กำเริบมากขึ้น ข่าวนี้ได้กระจายไปอย่างรวดเร็วพอออกพรรษา คณะศิษยานุศิษย์ผู้อยู่ไกลต่างก็ทยอยกันเข้ามาปรนนิบัติพยาบาลแล้วนำท่านมาที่วัดป่าบ้านภู่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่ฉลวย สุธัมโม ลูกศิษย์ของท่านมาสร้างไว้ อาการอาพาธของท่านมีแต่ทรงกับทรุดลงโดยลำดับ ครั้นเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๒ คณะศิษย์ได้นำท่านมาพักที่วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร โดยพาหนะรถยนต์มาถึงวัดป่าสุทธาวาสเวลาเที่ยงเศษ ครั้นถึงเวลา ๐๒.๒๓ น. ของวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๒ ท่านก็ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ ท่ามกลางคณะศิษยานุศิษย์ทั้งหลายสิริรวมอายุของท่านได้ ๘๐ ปี ตรงตามที่ท่านพยากรณ์ไว้แต่เดิม

    _/_ _/_ _/_

    ขอน้อมอภิวาทวันทาหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน เหนือเศียรเกล้า สาธุๆๆ

    -ครบรอบ-๖๘-ปี-วันละสังขา.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “อย่าทำให้โลดโผน หรือดังเกินไป อย่าทำให้คนขาดความเลื่อมใส พระไม่มีเสียง สิ่งที่จะมั่นคง คือเป็นไปพอดีๆ แต่หนักแน่น”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    -หรือดั.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “… กายวิเวกเป็นเหตุของศีล
    ศีลเป็นเหตุ สมาธิเป็นผล
    สมาธิเป็นเหตุ ปัญญาเป็นผล
    ปัญญาเป็นเหตุ วิมุตติเป็นผล
    คือที่สุดเป็นพระนิพพาน …”

    มหาปุญฺโญวาท : หลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ

    ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    *** ยอดปัจจัยสมทบค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 จำนวน 8,639 บาท ( ปิดยอดรับบริจาควันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เวลา 15.30 น.) ***

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคปัจจัยตามกำลังศรัทธา เพื่อถวายเป็นค่าพาหนะและค่าภัตตาหารถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ในโครงการตักบาตรพระกรรมฐาน จำนวน 20 รูป ในวันเสาร์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2560 ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี แห่งการก่อตั้งชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    *** รายนามพ่อแม่ครูอาจารย์ที่กราบอาราธนามาร่วมงานในครั้งนี้ ***

    1. พระราชภาวนาวิกรม (หลวงปู่เลี่ยม ฐิตธัมโม) วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    2. พระครูพัฒนกิจวิศาล (หลวงปู่คำ นิสโสโก) วัดไทยพัฒนา อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
    3. พระครูสุวรรณโพธิเขต (หลวงปู่คูณ อัคคธัมโม) วัดป่าโพธิ์สุวรรณ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    4. หลวงพ่อไพฑูรย์ ขันติโก วัดสุภัททมงคล อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
    5. พระครูสุชีพภาวนาภิวัตร (หลวงปู่เข็ม สุชีโว) วัดป่าโนนนิเวศน์ (ห้วยซันเหนือ) อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
    6. พระวิบูลธรรมาภรณ์ (หลวงเตี่ย/ชาย ชาคโร) วัดสุปัฏนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    7. พระวิชัยมุนี (หลวงพ่อไพฑูรย์ เมตตจิตโต) วัดสำราญนิเวศ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ
    8. พระครูบรรหารอุบลคุณ (หลวงพ่อกิตติ ติสโร) วัดป่าสนามชัย อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
    9. พระครูอุบลธรรมวิศิษฏ์ (พระอาจารย์วิศิษฏ์ศักดิ์ กัลยาโณ) วัดบูรพา อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
    10. พระครูสมุห์มงคล เตชธโร วัดสระประสานสุข อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    ( รวมพ่อแม่ครูอาจารย์และพระติดตามเป็นทั้งหมด 20 รูป)

    ➥ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมทำบุญค่าภัตตาหาร และ ค่าพาหนะถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ ได้ที่ : ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขายิ่งเจริญปาร์ค (อุบลราชธานี) เลขที่บัญชี 452-0-51078-3 ชื่อบัญชี นายอริยเดช สุดถนอม

    จัดโดย : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

    ****************************

    ➥ กำหนดการจัดงาน : https://www.facebook.com/1376384156...384156019597/1941815932809747/?type=3&theater

    1510326154_562_ยอดปัจจัยสมทบค่าพาหนะ.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ขอเชิญร่วมโครงการธรรมะสัญจรวัดป่ากรรมฐาน ครั้งที่ 7 จำนวน 12 วัด ในวันที่ 6-11 ธันวาคม พ.ศ.2560 ณ จังหวัดพิษณุโลก-ลำปาง-เชียงใหม่ เดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ(แอร์)

    ****************************

    1. วัดป่าหนองทับเรือ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก (หลวงปู่ลี ถาวโร)
    2. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก (พระพุทธชินราช)
    3. วัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (หลวงปู่มหาทองอินทร์ กุสลจิตโต , หลวงพ่อสีนวล วิมลโล)
    4. วัดป่าอาจารย์มั่น อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
    5. วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (หลวงปู่แหวน สุจิณโณ)
    6. วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร , พระอาจารย์เมธา สุเมโธ)
    7. วัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ( หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม , หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ)
    8. วัดอรัญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ (พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป)
    9. วัดพระพุทธบาท 4 รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
    10. วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (หลวงปู่มหาจันทร์ กุสโล)
    11. วัดสามัคคีบุญญาราม (คีรีสุบรรพต/วัดดอย) อ.เมือง จ.ลำปาง (หลวงปู่หลวง กตปุญโญ , หลวงพ่อชายแดน สีลสุทโธ)
    12. วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก (หลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล)

    ****************************

    กำหนดการ

    -:- วัน พุธ ที่ 6 ธันวาคม 2560 -:-

    เวลา 06.00 น. เริ่มลงทะเบียนที่ห้องประชุม ชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
    เวลา 06.30 น. จัดที่นั่งบนรถ
    เวลา 07.00 น. รถบัสออกเดินทางจากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
    เวลา 12.00 น. พักรับประทานอาหารริมทาง
    เวลา 12.45 น. ออกเดินทางไปวัดป่าหนองทับเรือ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
    เวลา 17.30 น. ถึงวัดป่าหนองทับเรือ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก , นมัสการหลวงปู่ลี ถาวโร , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา ,ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.00 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน พฤหัสบดี ที่ 7 ธันวาคม 2560 -:-

    เวลา 05.00 น. ตื่นนอน , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 06.30 น. ตักบาตรหลวงปู่ลี ถาวโร วัดป่าหนองทับเรือ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.00 น. ออกเดินทางไปวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก
    เวลา 10.00 น. ถึงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก , สักการะพระพุทธชินราช
    เวลา 11.00 น. ออกเดินทางไปวัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    เวลา 17.30 น. ถึงวัดสันติธรรม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ , นมัสการพระอาจารย์สีนวล วิมโล และกราบอัฐิธาตุพ่อแม่ครูอาจารย์ , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา ,ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.30 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน ศุกร์ ที่ 8 ธันวาคม 2560 -:-

    เวลา 04.30 น. ตื่นนอน , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 05.30 น. ออกเดินทางไปวัดป่าอาจารย์มั่น อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    เวลา 07.00 น. ถึงวัดป่าอาจารย์มั่น อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ , ตักบาตรเช้า , นมัสการมณฑปบูรพาจารย์ , อนุสรณ์ทางจงกรม และ กุฏิหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.30 น. ออกเดินทางไปวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    เวลา 10.15 น. ถึงวัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ , นมัสการเจดีย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
    เวลา 12.00 น. ออกเดินทางไปวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    เวลา 13.30 น. ถึงวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นมัสการเจดีย์หลวงปู่สิม พุทธาจาโร , พระอาจารย์เมธา สุเมโธ
    เวลา 15.30 น. ออกเดินทางไปวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    เวลา 17.30 น. ถึงวัดป่าอาจารย์ตื้อ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ , นมัสการหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ และเจดีย์หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา ,ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 21.00 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน เสาร์ ที่ 9 ธันวาคม 2560 -:-

    เวลา 05.00 น. ตื่นนอน ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 06.00 น. ออกเดินทางไปวัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    เวลา 07.00 น. ตักบาตรและนมัสการพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.30 น. ออกเดินทางไปวัดพระพุทธบาท 4 รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (เปลี่ยนรถสองแถวขึ้นเขา ที่ อ.แม่ริม)
    เวลา 11.30 น. ถึงวัดพระพุทธบาท 4 รอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ , สักการะรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์
    เวลา 13.00 น. เดินทางลงเขาจากวัดพระพุทธบาท 4 รอย มาขึ้นรถบัสที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
    เวลา 14.30 น. ออกเดินทางไปวัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่
    เวลา 15.30 น. ถึงวัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา ,ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.00 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน อาทิตย์ ที่ 10 ธันวาคม 2560 -:-

    เวลา 04.00 น. ตื่นนอน , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 05.00 น. ออกเดินทางไปวัดสามัคคีบุญญาราม (คีรีสุบรรพต/วัดดอย) อ.เมือง จ.ลำปาง
    เวลา 07.30 น. ถึงวัดสามัคคีบุญญาราม (คีรีสุบรรพต/วัดดอย) อ.เมือง จ.ลำปาง , ตักบาตรหลวงพ่อชายแดน สีลสุทโธ , กราบอัฐิธาตุหลวงปู่หลวง กตปุญโญ , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 10.00 น. ออกเดินทางไปวัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
    เวลา 16.30 น. ถึงวัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก , นมัสการหลวงปู่สมบูรณ์ กันตสีโล , เก็บสัมภาระเข้าที่พัก , ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 19.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น , อบรมธรรมะ , นั่งสมาธิภาวนา ,ตอบปัญหาธรรมะ
    เวลา 20.00 น. แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย

    -:- วัน จันทร์ ที่ 11 ธันวาคม 2560 -:-

    เวลา 05.00 น. ตื่นนอน ทำภารกิจส่วนตัว
    เวลา 06.30 น. ตักบาตร ณ วัดป่าสมบูรณ์ธรรม อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก , รับประทานอาหารเช้าที่วัด
    เวลา 09.30 น. ออกเดินทางกลับอุบลราชธานี
    เวลา 21.30 น. ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โดยสวัสดิภาพ

    ****************************

    รับจำนวน 50 คน เดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ(แอร์) ค่าเดินทาง บุคคลทั่วไป 2,500 บาท / นักศึกษา 1,000 บาท

    *** ผู้สนใจ ติดต่อที่ ***

    โทร. 086-4017809 , 063-5082286

    *****************************

    ท่านสามารถชำระค่าเดินทางได้ 2 วิธี โดย

    1. ติดต่อชำระด้วยตัวเอง ที่ นายเอกชัย งาหอม 063-5082286
    2. โอนทาง ATM มาที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา ยิ่งเจริญปาร์ค ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 452-0-44668-6 ชื่อบัญชี นายเอกชัย งาหอม ท่านที่ชำระค่าเดินทางผ่านตู้ ATM เมื่อท่านโอนแล้วกรุณาโทรมาแจ้งที่ 063-5082286 และเก็บหลักฐานการโอนมาแสดงในวันขึ้นรถ หรือถ่ายรูปหลักฐานการโอนส่งมาทางข้อความ facebook : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี

    **********************************

    หมายเหตุ : ท่านกรุณาชำระค่าเดินทางภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ท่านโทรมาสมัคร มิฉะนั้นถือว่าท่านสละสิทธิ์
    ท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook : ชุมนุมพุทธธรรมกรรมฐาน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “…ธรรมพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต…”

    “…วันแรกที่เข้าไปกราบและฟังโอวาทธรรมของเพิ่นครูอาจารย์มั่น (ภูริทตฺโต) มันนึกสงสัยมาแต่หลายปีมาแล้วว่า

    “ได้ยินว่าคนนั้นได้ธรรมะ คนนี้ได้ธรรมะ คนที่ได้ธรรมะเป็นอย่างไร ปฏิบัติอย่างไรจึงได้ธรรมะ ” จึงได้อธิฐานจิตแต่ขณะเดินเข้าบ้านหนองผือว่า “ ขอพ่อแม่ครูบาอาจารย์จงเทศน์ธรรมเรื่องนี้ให้ฟังด้วยเถิด ”

    พอพระเณรขึ้นไปครบกันหมดแล้ว เพิ่นครูอาจารย์มั่น ภูริทัตโตก็แสดงธรรมให้ฟังว่า….

    “บุคคลผู้ทรงธรรม มีธรรมบริสุทธิ์ สะอาด มีใจมั่นคงในธรรมเป็นบุคคลผู้ได้ธรรม รู้ธรรมทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นสัตตบุคคล หิริ โอตฺตปฺปสมฺปนฺนา สุกฺกธมฺมสมาหิตาสนฺโต สปฺปุริสา โลเก เทวธมฺมาติ วุจฺจเร ”

    หิริธรรม เป็นอัชฌัติกาธรรม เป็นธรรมภายใน มีตัวเป็นใหญ่ ละอายแก่ตัว ละอายบาป ละอายชั่ว

    หิริธรรม ขาวสะอาดตั้งอยู่ได้เพราะเป็นผู้มีสติ มีขันติธรรม นี่ส่วนภายใน ส่วนภายนอกนั้นเป็นบุคคลผู้คำนึงในชาติตระกูลของตน อายุวัยของตน หนทางข้างหน้า ปฏิปทาของตน ผู้ทรงหิริธรรมจึงเป็นผู้กล้าหาญเด็ดเดี่ยว

    โอตฺตปฺปสมฺปนฺนา เป็นพหิทธาธรรม เป็นธรรมภายนอก มีผู้อื่นเป็นเหตุอ้าง มีโลกเป็นเหตุอ้าง กลัวต่อผลขอความชั่ว กลัวต่อบาปกรรมทุกข์โทษ นี่ส่วนภายใน แต่ส่วนภายนอกนั้นเป็นบุคคลผู้มีโสรัจจธรรม เป็นผู้สงบต่อกิเลสทั้งปวง อีกทั้งเป็นผู้คำนึงในธรรมของตนอยู่เสมอ เกรงแก่ใจของบุคคลอื่น กลัวต่อคำติเตียนของประชุมชนเกรงต่อท่านผู้รู้ แม้ในที่สุดอาชญาจองจำให้โทษแก่ร่างกาย เป็นต้น

    ผู้บริบูรณ์ด้วยหิริโอตตัปปะนี้จึงเป็นผู้ทรงศีลทรงวินัย ตั้งอยู่ในสังวร เมื่อตั้งอยู่ในสังวรธรรมแล้ว อวิปปฏิสาร (ความไม่เดือดร้อน) ความเดือดร้อนใด ๆ ก็เป็นอันตัดขาดไป

    เมื่อเป็นผู้หาโทษไม่ได้แล้ว ความปราโมทย์ ความปีติ ปัสสัทธิ สุข สมาธิธรรม ก็เกิดได้ตามมา เมื่อธรรมเหล่านี้สมบูรณ์ในตนแล้ว ความรู้ในธรรมทั้งหลาย ความรู้เห็นเป็นจริง ตามธรรมก็ปรากฏขึ้นมา เป็นของเฉพาะแก่ตน

    รู้ อัชฌัตตพหิทธาธรรม ธรรมอันมีทั้งภายนอกภายใน บังเกิดโยนิโสมนสิการพิจารณาโดยพระไตรลักษณญาณแห่งตนจนเป็นไปได้ถูกทางถูกธรรม นิพพิทา ความเบื่อหน่ายเกิดขึ้นแล้ว วิราคะความคลายตนออก เพิกกิเลสออกไป จึงเป็นวิมุตติบุคคล เป็นบุคคลผู้หลุดพ้น วิสุทธิ ผู้บริสุทธิ์โดยแท้
    ผู้วิสุทธิทั้งนอกทั้งใน ทั้งภายนอกและภายในจึงเป็นผู้ได้ธรรม เป็นพระอรหันตเจ้าแน่แท้ ส่วนผู้พรั่งพร้อมด้วยกามคุณวุ่นวาย กิเลสคลุกเคล้าอยู่ด้วยตัณหา บ้าหน้าบ้าหลังกับอุปาทานอวิชชาชาติอนุสัยอยู่ตราบใด เหตุไฉนจึงจะเป็นสัตตบุคคลผู้ได้สุกกธรรมได้ หิริโอตตัปปะ เป็นต้นทางของธรรมผู้ขาดหิริโอตตัปปะ ย่อมทำบาปได้วันยังค่ำคืนยังรุ่ง ”

    พระสงฆ์ที่พักอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ จะมารวมกันฟังธรรมเสมอ เมื่อเพิ่นครูอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เทศนาจบลงก็หันหน้ามามองมาที่ผู้ข้าฯ แล้วถามเป็นเชิงปรารภว่า…

    “ เป็นอย่างไรท่านจาม (มหาปุญโญ) ผู้ได้ธรรมเป็นอย่างนี้ เข้าใจไหม ”

    ผู้ข้าฯ ก็กราบเรียนว่า “ เข้าใจครับกระผม ”
    บรรดาพระสงฆ์ที่นั่งฟังก็หันมามองทางผู้ข้าฯ กันทั้งหมด เมื่อผู้ข้าฯ กลับไปที่พักก็รีบนั่งภาวนาเพื่อทบทวนคำสอนของเพิ่นครูอาจารย์มั่น เพื่อให้จำไว้อย่างขึ้นใจ ไม่ให้ลืมลำดับคำพูดถ้อยความไว้ ท่องจำไว้…”

    ธรรมประวัติหลวงปู่จาม มหาปุญฺโญ ผู้มากมีบุญ วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมคำสอนนี้ ทุกๆ ท่าน

    -ภูร.jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...