ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    • เรื่องกรรมประมาทธรรมพระเถระ •
    มีฤทธิ์เสื่อมฤิทธ ิ์มีฌานเสื่อมฌาน

    ปลายเดือนมีนาคม ๒๕๔๐ หลวงปู่ท่อนท่านให้มาเฝ้าวัดให้ท่าน พักอยู่กับหลวงปู่ท่อนที่วัดศรีอภัยวัน หลวงปู่ท่อนเล่าให้ฟังตอนท่านบวชได้สาม-สี่พรรษา ท่านเคยประมาทพระเถระผู้เฒ่าองค์หนึ่ง ซึ่งตอนนั้นหลวงปู่ท่อนท่านบอกถ้ามองลักษณะภายนอกพระเถระผู้เฒ่าองค์นี้ท่านดูไม่น่าเลื่อมใส หลวงปู่ท่อนท่านจึงนึกประมาทพระเถระผู้เฒ่าองค์นี้ในใจ..

    หลังจากท่านประมาทในภูมิธรรม
    ของพระเถระผู้เฒ่าองค์นี้แล้ว ต่อมา ปรากฏว่าเวลาท่านภาวนา จิตของท่านจะลงไม่ถึงความสงบเหมือนแต่ก่อน ทั้งที่แต่ก่อนเวลาภาวนาจิตของท่านจะลงพรวดถึงฐานจิตของสมถะภาวนาได้โดยง่าย นับแต่วันที่ท่านประมาทในธรรมของพระเถระผู้เฒ่าท่านนี้มา จิตของท่านก็กระด้างกระเดื่องในธรรมเพราะกรรมประมาทในธรรมของพระอริยะที่ตนไม่รู้ กรรมนี้จึงส่งผลให้ท่านจิตมัวใจหมองเพราะอกุศลกรรม..

    ท่านบอก บางครั้งเราต้องเอาสติเข่นบังคับจิตให้ลงสู่ความสงบ ไม่ต่างอะไรกับเราเอามือข่มลูกฟุตบอลเพื่อให้มันจมลงไปในน้ำ พอปล่อยมือออกแล้วลูกฟุตบอลนั้นก็จะเด้งขึ้นตามแรงกด ท่านอุปมาภายนอกเพื่อเทียบภายในให้ฟัง..

    ท่านบอก จิตเราตอนนั้นสงบลงไม่จริง จิตอยู่ได้แค่อุปจาระจร เฉียดไปเฉียดมา อยู่อย่างนั้น ครั้นจะลงถึงสว่างสดใสในชั้นสมถะ ทำอย่างไรมันก็ไปไม่ถึงดั่งที่ตนเองเคยเป็นมา..

    ท่านบอกพอท่านภาวนาจิตสงบลงพอวับแวม จะปรากฏเป็นเงาดำทรงกลมขนาดประมาณเท่ากระด้งหรือถาดพาข้าวมาขวางกั้นจิต จิตของท่านจะเป็นลักษณะแบบนี้อยู่นานร่วมเดือน ท่านสงสัยในอาการที่จิตของตนเองเป็นแบบนี้ ท่านเองก็ไม่สามารถหาเหตุผลเพื่อแก้ไขจิตของตนเองได้ในขณะนั้น หลังจากหลวงปู่ท่อนท่านกลับจากเที่ยววิเวกแถวเขตอำเภอท่าลี่ ท่านจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับ พระคุณเจ้าหลวงปู่คำดี ปภาโส ที่ วัดถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย เพื่อให้พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่คำดีท่านช่วยแก้ไข..

    ตอนนั้นหลวงปู่ท่อนท่านบอกหลวงปู่คำดีแค่อาการของจิตที่ตนเองกำลังเป็นอยู่ ท่านยังไม่ได้บอกหลวงปู่คำดีว่าท่านได้นึกประมาทพระเถระผู้เฒ่าองค์หนึ่ง หลวงปู่คำดีท่านชี้ชัดให้ท่านฟังว่า..

    “ ท่านท่อน ที่จิตของท่านเป็นแบบนี้ในเวลาภาวนา มันเกิดจากกรรมที่ท่านได้ไปประมาทท่านผู้รู้ธรรม กรรมนี้จึงส่งผลบาปรบกวนจิตของท่านในเวลาที่ท่านภาวนา ให้ท่านระลึกดูซิว่าท่านได้ไปประมาทธรรมท่านผู้หนึ่งผู้ใดไว้หรือไม่ ถ้าท่านหลงไปประมาทพลาดพลั้งท่านผู้รู้ธรรมแล้ว ก็ให้ท่านรีบไปขอขมาท่านเสีย อย่าทิ้งวันทิ้งคืนไว้นานมันไม่เป็นผลดีกับจิตท่าน จิตท่านมันจะวิบัติมากไปกว่านี้ ”..

    พอหลวงปู่คำดีท่านว่ามาแบบนี้ หลวงปู่ท่อนท่านบอกตอนนั้นเราใจเสียหมดเลย คิดแวบออกได้ทันทีว่าเราเคยประมาทภูมิข้างในของหลวงพ่อ…ว่าท่านไม่รู้จริง ตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีเพราะพระเถระผู้เฒ่าท่านนี้ก็พึ่งจะมรณะภาพไปได้ไม่นาน เราจึงกราบเรียนเรื่องนี้กับหลวงปู่คำดีเพื่อให้ท่านช่วยหาหนทางแก้ไขให้ตนเอง..

    หลวงปู่คำดีท่านบอกว่า “ เมื่อท่านมรณะภาพไปแล้วก็ให้ท่านท่อนไปกราบขอขมาที่สถูปกองฟอนของท่าน ให้ท่านท่อนน้อมจิตน้อมใจกราบขมาขออภัยกับท่านพระเถระ ถ้าท่านทำแบบนี้แล้วกรรมของท่านก็จะพ้นไปได้เอง เพราะกรรมนี้ไม่ใช่เวรจองกรรม ”..

    หลวงปู่ท่อนท่านจึงเดินทางไปกราบสถูปธาตุพระเถระผู้เฒ่าที่ท่านเคยประมาทล่วงเกิน ท่านน้อมกราบขอขมาลาโทษกรรมที่ตนเองได้เคยประมาทพลาดพลั้งต่อพระเถระผู้เฒ่า..

    หลวงปู่ท่อนท่านบอก “ พอจิตใจเราเบาแล้ว เราก็นั่งภาวนาอยู่ข้างเชิงตะกอนที่เผาสรีระพระผู้เฒ่าเพื่อน้อมถวายท่าน เรานั่งภาวนาไม่นานจิตเราก็ลงพรวดสว่างไสวขึ้นมาทันที จิตแต่ก่อนเคยเป็นอย่างไร ทุกอย่างก็กลับมาคืนมาเหมือนเดิม ”..

    “ พอจิตอิ่มในความสงบแล้ว เราถอยออกมาพิจารณาในอกุศลธรรม ปัญญาก็พิจารณาละบาปอกุศลในจิตออกทันที เวลาพิจารณาปัญญาไหลออกพรวดๆดั่งสายน้ำหลากลงจากภูเขา จิตปิดบาปอกุศล จิตใจมีความเชื่อมั่นใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และกรรมอย่างหนักแน่นไม่เสื่อมถอย ตั้งแต่นั้นมาจิตเราก็ไม่เคยเสื่อมอีกเลย จิตยืนได้ด้วยกำลังของตนเอง “..

    ” ธรรมเป็นอกาลิโกกำหนดคาดหมายไม่ได้ พอความสมบูรณ์ของบุญวาสนามาถึงพร้อมกับความเพียรแล้ว ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้นเองคาดหมายเวล่ำเวลาไม่ได้ ”..

    หลวงปู่ท่อนท่านบอก กรรมประมาทในท่านผู้ทรงธรรมนี้เห็นผลในทันตา อย่างน้อยจิตใจมัวหมอง มีฤทธิ์ก็เสื่อมฤทธิ์ มีฌานก็เสื่อมฌาน มุ่งหวังความสงบได้ยาก ตายไปก็ตกอบายภูมิ ถ้ารู้ตนรู้ตัวว่าตนเองเป็นแบบนี้ก็ให้รีบแก้ในปัจจุบันทันทีอย่าทิ้งไว้นาน พอตายไปแล้วมันแก้ไขไม่ได้ มันสายไปแล้วต้องรับผลกรรมเพียงอย่างเดียว หนักหรือเบาขึ้นอยู่กับการกระทำกรรมของตน..

    ________________________

    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
    วัดศรีอภัยวัน ตำบลนาอ้อ
    อำเภอเมือง จังหวัดเลย

    -เรื่องกรรมประมาทธรรมพ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” สติกับใจอยู่ด้วยกัน

    สติอยู่ตรงไหน ใจก็อยู่ตรงนั้น

    ใจอยู่ตรงไหน สติก็อยู่ตรงนั้น

    สถานที่ฝึกอบรมสติคือ สติปัฎฐานสี่

    อันได้แก่ กาย เวทนา จิต ธรรม นั่นเอง ”

    หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร
    วัดป่าวังเลิง จ .มหาสารคาม

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมื่อตื่นนอนแล้วให้สวดมนต์ภาวนาก่อนสิ่งอื่นใดและ
    ให้นึกถึงสิ่งที่เป็นความดี จากนั้นจึงปฏิบัติงานในหน้า
    ที่ที่รับผิดชอบ ตลอดวันให้ภาวนา”พุทโธ”

    พระธรรมวิสุทธิมงคล หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “การทำทานเพื่อตัดความอยาก
    เพื่อจะได้ไม่กลับมาเกิด
    แต่พวกมิจฉาชีพ มันก็รู้ใจของพวกเรา
    ว่าอยากรวยกัน มันก็เลยเอาคำสอน
    ของพระพุทธเจ้ามาบิดเบือน ทำแล้วรวย
    ยิ่งทำยิ่งรวย รวยไปทำไม
    ดูพระพุทธเจ้าท่านอยากรวยหรือเปล่า”

    พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
    วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชลบุรี

    1504448910_785_การทำทานเพื่อตัดความอย.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    สมบัติในโลกเราแสวงหามาเป็นความสุขก็พอหาได้ จะแสวงหามาเป็นไฟก็ทำให้ฉิบหายได้จริงๆข้อนี้ขึ้นอยู่กับความฉลาดและความโง่เขลา ของผู้แสวงหาแต่ละรายท่านผู้พ้นทุกข์ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน จนกลายสรณะของพวกเราจะเข้าใจว่าท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทอง เครื่องหวงแหนอย่างนั้นหรือ เข้าใจว่าเป็นคนร่ำรวยสวยงามเฉพาะสมัยพวกเราเท่านั้นหรือ จึงพากันรักพากันหวงพากันห่วงจนไม่รู้จักเป็นรู้จักตาย บ้านเมืองเราสมัยนี้ไม่มีป่าช้าสำหรับเผาหรือฝังคนตายอย่างนั้นหรือจึงสำคัญว่าตนจะไม่ตาย และพากันประมาทจนลืมเนื้อลืมตัว กลัวแต่จะไม่ได้กิน ไม่ได้นอนกลัวแต่จะไม่ได้เพลิดไม่ได้เพลิน ประหนึ่งโลกจะดับสูญไปเดี๋ยวนี้ จึงรีบพากันตักตวงเอาความไม่เป็นท่าใส่ตนแทบหาบไม่ไหว อันสิ่งเหล่านี้ แม้แต่สัตว์เขามีได้เหมือนมนุษย์เรา อย่าสำคัญว่าตนเก่งกาจสามารถฉลาดรู้ยิ่งกว่าเขาเลย ถึงกับสร้างความมืดมิดปิดตามทับถมตัวเองจนไม่มีวันสร่างซา เมื่อถึงเวลาจนนรกอาจจนยิ่งกว่าสัตว์ ใครจะไปทราบได้ถ้าไม่เตรียมทราบไว้ตั้งแต่บัดนี้ อาตมาต้องขออภัยด้วยถ้าพูดหยาบคายไป แต่คำพูดที่สั่งสอนให้คนละชั่วทำดียิ่งจัดเป็นคำหยาบคายอยู่แล้ว โลกเราก็จะถึงคราวหมดสิ้นศาสนาเพราะไม่มีผู้ ยอมรับความจริง การทำบาปหยาบคายมีมาประจำแทบทุกคนทำให้ผลเป็นทุกข์ ตนยังไม่อาจรู้ได้ และตำหนิมันแต่กลับตำหนิคำสั่งสอนที่หยาบคายนับว่าเป็นโรคที่หมดหวัง

    โดยหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” เวลานั่งสมาธิ อย่านึกว่าเรามานั่งที่ศาลานี้
    ให้นึกว่าเรานั่งอยู่ในป่าลึกคนเดียว ตัดปลิโพธกังวล
    ไม่คิดถึงหมู่คณะและใครทั้งหมด
    เรื่องดี ชั่ว มี จน ก็ไม่ต้องคิด คิดแต่เรื่องในกายของตัวเอง
    และตั้งสติสูดลมหายใจของตนอย่างเดียว

    หรือมิฉะนั้นก็ให้คิดว่าเวลานี้เรากำลังนั่งอยู่เฉพาะพักตร์พระพุทธเจ้า
    เราจะต้องระวังตัวระวังมารยาทของเราให้ดี
    ไม่ทำกิริยาลุกลิกลุกลน หรือแกะโน่น เกานี่
    กายก็ตรง ใจก็ตั้งเที่ยงเฉพาะพระองค์ หรือ
    “พุทโธ” อย่างเดียว มีสติทุกลมหายใจเข้าออก ไม่วอกแวกไปไหน ”

    พระธรรมคำสอน ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
    วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
    (พ.ศ. ๒๔๔๙ – ๒๕๐๔)

    -อย่านึกว.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ตายแล้วไปไหน

    ครั้งนั้น เมื่อหลวงปู่ดูลย์อยู่รับการอบรมสั่งสอน และปฏิบัติอาจาริยวัตร แด่พระอาจารย์ใหญ่นานพอสมควร ก็ได้กราบลาปลีกตัวออกธุดงค์แสวงหาความวิเวกต่อไป
    ในช่วงนี้ (พ.ศ. ๒๔๖๓) คาดว่าหลวงปู่จะธุดงค์ไปทางจังหวัดสุรินทร์ระยะหนึ่ง แล้วจึงขึ้นไปทางอีสานเหนือไปทางอำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมีสามเณรติดตามไปด้วยองค์หนึ่ง
    หลวงปู่และเณรได้อธิษฐานจำพรรษาที่ชายป่าแห่งหนึ่งใกล้บ้านกุดก้อม
    ต่อมาไม่นานนัก สามเณรอาพาธ (ป่วย) เกิดเป็นไข้หนาวอย่างแรง หยูกยาจะรักษาก็ไม่มี ในที่สุด สามเณรก็ถึงแก่มรณภาพลงไปต่อหน้าต่อตา ด้วยสภาพที่ชวนสังเวชยิ่งนัก
    หลวงปู่เล่าให้ฟังว่า “สงสารเณรมาก อายุก็ยังน้อย หากมียารักษาเณรคงไม่ตายแน่”
    ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๒ ที่หลวงปู่ได้อยู่ใกล้ชิดกับความตาย คือ ครั้งแรกเมื่อจำพรรษาที่สำนักป่าท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อพระสหธรรมิก ของท่านรูปหนึ่งได้มรณภาพในกลางพรรษา
    จากการที่สามเณรมรณภาพในครั้งนั้น หลวงปู่ได้คอยสังเกต พิจารณาอาการตายของคนเราเป็นอย่างไร จิตหรือวิญญาณออกไปทางไหนหรืออย่างไร ท่านได้แจ้งโดยตลอด
    ด้วยเหตุผลบางประการ ท่านเจ้าคุณพระราชวรคุณ (อดีตพระโพธินันทมุนี และพระครูนันทปัญญาภรณ์) เห็นว่าไม่สมควรจะบันทึกไว้ในที่นี้
    ในหนังสือ “หลวงปู่ฝากไว้” หลวงปู่พูดถึงความตาย หรือตายแล้วไปไหนอยู่ตอนหนึ่งเหมือนกัน เรื่องนี้อยู่ภายใต้หัวข้อ “ต้องปฏิบัติจึงหมดความสงสัย” ซึ่งบันทึกไว้ว่า : –
    เมื่อมีผู้ถามถึงทางตาย การเกิดใหม่ หรือถามถึงชาติหน้าชาติหลังหลวงปู่ไม่เคยสนใจที่จะตอบ หรือเมื่อมีผู้กล่าวค้านว่าเชื่อหรือไม่เชื่อว่านรกสวรรค์มีจริงหรือไม่จริงประการใด หลวงปู่ไม่เคยค้นคว้าหาเหตุผลเพื่อจะเอาค้านใครหรือไม่เคยหาหลักฐานเพื่อยืนยันให้ใครยอมจำนนแต่ประการใด ท่านกลับแนะนำว่า
    ผู้ปฏิบัติที่แท้จริงนั้น ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงชาติหน้าชาติหลัง หรือนรกสวรรค์อะไรก็ได้ ให้ตั้งใจปฏิบัติให้ตรงศีล สมาธิ ปัญญา อย่างแน่วแน่ก็พอ
    ถ้าสวรรค์มีจริงถึง ๑๖ ชั้นตามตำรา ผู้ปฏิบัติดีแล้วก็ย่อมได้เลื่อนฐานะของตนเองโดยลำดับ
    หรือถ้าสวรรค์นิพพานไม่มีเลย ผู้ปฏิบัติดีแล้วในขณะนี้ก็ย่อมไม่ไร้ประโยชน์ ย่อมอยู่เป็นสุข เป็นมนุษย์ชั้นเลิศ
    และในตอนท้าย หลวงปู่สอนว่า : –
    การฟังคนอื่น การค้นคว้าจากตำรานั้นไม่อาจแก้ข้อบกพร่องข้อสงสัยได้ต้องเพียรปฏิบัติ ทำวิปัสสนาญาณให้แจ้ง ความสงสัยก็หมดไปเองโดยสิ้นเชิง

    .png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ิทานก่อนนอนครับ

    ” พระอรหันต์องค์หนึ่ง เขานิมนต์ไปฉันในบ้านเขาเป็นประจำ ท่านก็อุตส่าห์เมตตาสงสารรับให้ ทั้งๆ ที่ท่านเป็นพระอรหันต์นั่นละ ไปฉันทุกวันๆ เจ้าของบ้านเป็นนายช่างแก้ว พอดีเขาเอาแก้วมามอบให้ แก้วมาจากเสนาบดีนะไม่ใช่เล่นๆ แล้วมือก็เปื้อนด้วยเลือดเพราะกำลังทำอาหารอยู่ ก็เอามือทั้งเปื้อนๆ นั่นละไปรับแก้วจากเขา เวลานั้นลูกร้องไห้อยู่ภายในบ้าน เลยวางแก้วไว้บนเขียงแล้ววิ่งไปหาลูก

    นกกระเรียนตัวหนึ่งที่เลี้ยงไว้มันเห็นแก้วเปื้อนเลือดนึกว่าชิ้นเนื้อ เลยมาคาบแก้วนั้นกลืนกิน พระอรหันต์องค์นั้นท่านก็ดูอยู่ โอ ตายๆ แล้วที่นี่ ก็ท่านทราบชัดแล้ว ตายละที่นี่

    พอเขาออกมาเขาก็ถามหาแก้ว แก้ววางไว้ที่นี่หายไปไหน ท่านจะบอกก็ลำบาก ถามท่านว่าท่านเอาไปเหรอ ท่านก็บอกท่านไม่ได้เอา ถ้าท่านไม่เอาแล้วใครจะเอา ถ้าจะบอกว่านกกระเรียนเอาเขาก็จะฆ่านกกระเรียน เลยนิ่งเสีย

    เขาโกรธแค้นมากทีเดียว เอาเชือกมารัดคอพระอรหันต์องค์นั้นจนเลือดทะลักออก นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องเมียกับผัว เมียเป็นคนเคารพเลื่อมใสมากที่สุด แล้วไปพูดกระซิบกับเมียว่าแก้วที่เอาวางไว้บนเขียงนี้หายไปไม่ทราบไปไหน สงสัยว่าจะเป็นพระองค์นี้เอา ทางเมียก็ว่าท่านไม่เอาอย่างเด็ดขาด เราตายหมดครอบครัวนี้ก็ยอมตายไปเถอะ แต่จะให้ท่านเอานั้นท่านไม่มีละ จะไปหาเรื่องใส่ท่านไม่ได้ ตกหายไปไหนก็ช่างเถอะ

    เมียบอกเท่าไรก็ไม่ยอมฟังเสียง บอกว่าท่านไม่ได้เอา เมียยืนยันรับรองว่าไม่ได้เอา ผัวก็ผลุนผลันออกมาด้วยความโกรธแค้น เอาเชือกมารัดคอ เมียก็ร้องไห้อยู่ข้างใน รัดคอท่านท่านก็ไม่ว่าอะไร ถามท่านว่าท่านเอาหรือ ท่านก็บอกไม่ได้เอา ถ้าท่านไม่เอาใครเอาไป ถ้าบอกว่านกกระเรียนเขาก็จะฆ่านกกระเรียน ก็ลำบากอยู่ ด้วยความโมโหสุดขีดก็เลยเอาเชือกมารัดคอท่าน เลือดท่านทะลักออกมาจากคอตกออกมาข้างนอก

    พอดีนกกระเรียนเห็นเลือดที่ตกไปก็มาโฉบเอาเลือดนั้น เขากำลังโกรธแค้นอย่างสุดขีด เลยเตะนกกระเรียนตกไปนู้น พอเตะตกไปแล้วนกก็ชัก ชักแล้วก็เงียบ

    พระอรหันต์องค์นั้นท่านดูอยู่ ท่านเลยทำมือให้สัญญาณ อะไร เขากำลังโมโห ทำอะไร ว่างั้น อยากทราบนกกระเรียนตายแล้วยัง ตายไม่ตายจะเป็นไร มึงอยากตายเหมือนนกกระเรียนหรือ เดี๋ยวอาตมาอยากจะทราบว่านกกระเรียนตายแล้วหรือยัง เขาก็จับนกกระเรียนมาโยนลงตูม นี่ตายไม่ตายก็ดูเอา มึงก็จะตายอย่างนี้แหละ ว่างั้น ท่านก็จับนกกระเรียนดู โอ๋ ตายแน่แล้ว ท่านก็เลยบอก

    เอาละทีนี้อาตมาจะพูด แก้วของคุณนั้นนกกระเรียนตัวนี้โฉบกลืนเข้าไปในท้องมันแล้ว ให้คุณผ่าดูจะได้เห็นแก้วนี้ พอผ่าดูก็จริงๆ แก้วอยู่ที่นั่น เลยร้องไห้โฮ ส่วนเมียร้องไห้อยู่แล้วข้างใน

    ออกจากนั้นท่านก็เลยว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปเราจะไม่เข้าหลังคาเรือนใดเลย บิณฑบาตก็จะไปนอกหลังคาเรือน ไม่เข้าไปสู่ชายคาเลย เพราะโลกได้รับความเสียหายเพราะเรา จะเป็นความเผลอหรืออะไรก็ไม่รู้ แต่นี้ต่อไปเราจะบิณฑบาตไปตามแถวแนวธรรมดาเขา เขาใส่ไม่ใส่ก็ไม่เข้าหลังคาเรือน ส่วนนิมนต์ไปฉันบ้านนั้นบ้านนี้ ท่านตัดขาดตั้งแต่วันนั้นตลอดไปเลย

    ทีนี้เรื่องราวก็กระเทือนไปถึงพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็รับสั่งออกมาเลยว่ามี ๓ ประเภท เข้ากันกับคน ๓ คนนั้นแหละ เมีย ผัว พระอรหันต์ เราลืมเสียภาษาบาลี แปลเป็นภาษาเราเลยว่า ผู้ทำบาปตายแล้วตกนรก ผู้ทำบุญตายแล้วไปสวรรค์

    ู้ทำบาปตายแล้วตกนรก(นิรยํ ปาปกมฺมิโน) คือผู้ชายคนนี้ ผู้เอาเชือกรัดคอพระอรหันต์ท่าน ตายแล้วตกนรก

    ู้ทำบุญตายแล้วไปสวรรค์(สคฺคํ สุคติโน ยนฺติ) คือเมียของแก เมียแกพูดรับรอง ตายก็ขอตายแทนท่านเลย จะไปฆ่าท่านไม่ได้ ตายหมดครัวเรือนก็ยอมตาย ถึงขนาดนั้นแหละเมีย เสียใจ ผัวไม่ฟังยังจะฆ่าพระอรหันต์ เอาเชือกรัดคอ เมียร้องไห้อยู่ข้างใน นี่ละผู้ทำบุญไปสวรรค์

    ู้สิ้นกิเลสแล้วไปนิพพาน(ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา) คือพระอรหันต์องค์นั้น นี่ท่านแสดงไว้ พอผางก็เป็นอย่างว่าเลย พระพุทธเจ้ารับสั่งไว้

    พวกเราให้รู้จักว่าบาปเป็นบาป บุญเป็นบุญ สวรรค์เป็นสวรรค์ นรกเป็นนรก นิพพานเป็นนิพพาน ผู้ทำความชั่วไปนรก ผู้ทำความดีไปสวรรค์ ผู้สิ้นกิเลสแล้วไปนิพพาน อย่างที่ท่านแสดงไว้นั้น

    ทั้งสามนี้อยู่กับเราคนเดียว เราจะเลือกเอาอะไรก็ให้เลือกเสียยังมีชีวิตอยู่นี้ ถ้าทำบาปตายแล้วก็ลงนรกอย่างว่า ผู้ที่ทำบุญตายแล้วไปสวรรค์ ผู้สิ้นกิเลสตายแล้วไปนิพพาน ท่านแสดงไว้อย่างนี้ อยู่กับเราด้วยกันทุกคน ทำบาปลงนรกก็คือเรา ทำบุญไปสวรรค์ก็คือเรา ชำระกิเลสขาดจากใจหมดโดยสิ้นเชิงแล้วไปนิพพานก็คือเรา ให้พากันนำไปปฏิบัติต่อตนเองทุกคน ”

    เล่าโดย: หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ุพกรรมของหลวงปู่เสาร์

    ” บุพกรรมข้อยตอนเป็นฆราวาสได้ไปหาปลาตอนน้ำลงที่บ้านข่าโคม และไปฟันปลา แล้วร้อยปลาเป็นพวงๆ บุพกรรมที่ทำลายชีวิตปลา ฆ่าปลา กรรมนี้จึงมาโดนกับข้อย ”

    ท่านเคยบอกกับญาติโยมก่อนหน้าจะ
    ถูกผึ้งต่อยว่า

    “ ข้อยสิตายจากเพราะผึ้ง ”

    ญาติโยมที่นำน้ำผึ้งมาถวายท่านก็เลยไม่นำน้ำผึ้งมาถวายท่านอีกเลยตั้งแต่นั้นมา ซึ่งต่อมาท่านก็โดนผึ้งต่อยจริงๆ นับแต่นั้นมาองค์ท่านก็มีอาการเจ็บไข้ไม่สบายเรื่อยมา ประกอบกับความชราของท่านจึงได้มีอาการเจ็บป่วยของธาตุขันธ์อยู่เสมอ

    หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    งูเหลือม! เลื้อยออกจากป่ามาร่วมฟังธรรม

    เพื่อนร่วมโลกมาเยี่ยมช่วงเช้า ขณะที่พระสงฆ์กำลังปฏิบัติศาสนกิจ เมตตาธรรมสำคัญนัก! วัดถ้ำดาวเขาแก้ว ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

    Cr. Nana

    -เลื้อยออกจากป่.jpg
    1504246805_479_งูเหลือม-เลื้อยออกจากป่.jpg
    1504246805_900_งูเหลือม-เลื้อยออกจากป่.jpg
    1504246806_585_งูเหลือม-เลื้อยออกจากป่.jpg
    1504246806_354_งูเหลือม-เลื้อยออกจากป่.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ทุกๆ คืนก่อนจะเข้าพักผ่อนนอนหลับ เอาหัวพาดมุ้งตั้งสัจจะอธิษฐาน จะนึกถึง “อวิชชา ปัะยา สังขารา” จะสวดธรรมท่องแต่ข้อนี้ จะนึกถึง “พุทโธ ธัมโม สังโฆ นิพพานัง ปรมัง สุขัง” เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง แล้วจึงจะนอนนี่แหละ ขออธิษฐานด้วยการสร้างบารมี หากทำอธิษฐานให้ได้ก็เป็นการสร้างบารมี นี้คือพุทธศาสนา ด้วยการสร้างบารมี พ้นอำนาจสังขารด้วยการสร้างบารมี นึกแล้วทำให้ได้
    ถ้ามันขี้เกียจเป็นนิสัยเสียแล้ว มันก็ยาก มันก็…มันจะง่วงนอนอยู่เรื่อยไป มันคอยจะหลับอยู่นั่นละ ต้องเอาสัจจะอธิษฐานมาช่วย เราตั้งใจจะภาวนา ๑ ชั่วโมงก็ทำให้ได้ ไม่ได้ก็เอา ๔๕ นาที ๔๕ นาที ก็ยังไม่ได้อีก ก็ครึ่งชั่วโมง ลองดู ตั้งใจเบิกตาเบิกใจ ท่องพุทโธ ครึ่งชั่วโมง ลองดู ตั้งใจเบิกตาเบิกใจ ท่องพุทโธครึ่งชั่วโมง นึกในใจ ทำให้ได้ จึงจะได้บุญ นึกถึงสังขารเป็นของน่ากลัวเท่าไหร่

    วัฏสงสารเวียนว่ายตายเกิดตั้งแต่ยอดพรหมโลกถึงก้นนรก เราต้องหนีให้ได้ ปราบให้พ้นเอาชนะสังขารก็ไม่ไหวอีกล่ะ ทีนี้เอา ๑๕ นาท ต้องทำให้ได้ถ้าทำได้ก็เกิดกำลังใจภาวนาได้คืนหนึ่งแล้ว ทำสำเร็จแล้ว ความเพียร ศรัทธา อธิษฐานสร้างศรัทธา ปัญญา ความเพียรได้สำเร็จตั้งหลายอย่าง แล้วก็ทำเอาเฉพาะตนไม่ได้มากเอา ๑๕ นาที แล้วทำให้มันได้จริงๆ นะ ทำได้ทุกคืนก็เป็นบุญมหาศาลนะ
    คืนนี้ เราฟังเทศน์ใหญ่โตเท่ากับสังขารโลก ใหญ่โตตั้งแต่ยอดพรหมโลก ลึงลงไปจนถึงก้นนรกก็เรียกว่า พอสมควรแล้ว

    ขอให้ญาติโยมทุกคนหาทางออกจากสังขาร มันทุกข์ มันยาก ด้วยกันทุกคนเถ๊อะ…

    พระธรรมเทศนาหลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

    -คืนก่อนจะเข้าพักผ่.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ในการภาวนา หรือการบำเพ็ญสมาธิ ให้
    พยายามใช้สติกำหนดตามลมหายใจเข้า
    ออก ไม่ให้เผลอ ไม่ให้ลืม

    พยายามปลดปล่อย ัญญาอารมณ์ทั้งหมด ทั้งอดีต อนาคต แล้วภาวนาในใจ พุท-โธ ๆ ให้ “พุท” ตามเข้าไปกับลมหายใจเข้าทุกครั้ง และ “โธ ” ก็ตามออกมาพร้อมกับลมหายใจออกทุกครั้งไป จนกว่าใจจะอยู่นิ่ง จึงค่อยทิ่งคำภาวนา ต่อจากนี้จงสังเกตดูลม หายใจเข้าออก ว่าช้า – เร็ว ยาว – สั้น หนัก – เบา กว้าง – แคบ หยาบ – ละเอียด อย่างไร ถ้าอย่างใดดีเป็นที่สบาย ก็จงรักษาลมนั้นๆ ไว้ให้คงที่ ถ้าอย่างใดไม่ดี ไม่สะดวก ไม่สบาย ก็จงปรับปรุงแก้ไข และตกแต่งให้พอดี

    ต้องคอยระวังจิตอย่าให้วอกแวก หวั่นไหว และแส่ส่ายไปตามสัญญาอารมณ์ภายนอก วางใจเฉยเหมือนกับมีตัวเรานั่งอยู่คนเดียวในโลก

    กระจายลมหายใจออกไปให้ทั่วทุกส่วนของร่างกาย สูบลมหายใจให้ยาวๆ เข้าไปในตัวจนเต็มอิ่ม กายก็จะเบาโปร่ง โล่ง ใจก็จะเย็นเหมือนกับน้ำ เป็นเหตุให้ดวงจิตเกิดความสงบไม่วุ่นวาย ปราศจากทุกข์ภัยใดๆ ในที่สุด ”

    ท่านพ่อลี ธัมมธโร

    -หรือการบำเพ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “วิปัสสนานี้มีผลอานิสงส์ใหญ่ยิ่งกว่าทาน ศีล พรหมวิหารภาวนา ย่อมทำให้ผู้เจริญนั้นมีสติไม่หลงเมื่อทำกาลกิริยา มีสุคติภพคือมนุษย์และโลกสวรรค์เป็นไปในเบื้องหน้าหากยังไม่บรรลุผล ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ถ้าอุปนิสัยมรรคผลมีก็ย่อมทำให้ผู้นั้นบรรลุมรรคผล ทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้ในชาตินี้นั่นเทียว”

    “อนึ่ง ยากนักที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์ เพราะต้องตั้งอยู่ในธรรมของมนุษย์ คือ ศีล ๕ และกุศลกรรมบถ ๑๐ จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชีวิตที่เป็นมานี้ก็ได้โดยยากยิ่งนัก เพราะอันตรายของชีวิตทั้งภายในภายนอกมีมากต่างๆ การที่ได้ฟังธรรมของสัตบุรุษคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ก็ได้โดยยากยิ่งนัก เพราะกาลที่เปล่าว่างอยู่…ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกยืดยาวนานนัก บางคาบบางสมัยจึงจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกสักครั้งสักคราวหนึ่ง

    เหตุนั้น เราทั้งหลายพึงอยู่ด้วยความไม่ประมาทเถิด … อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานี้เลย”

    หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล แห่งวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ถึงว่าเราจะลำบากในการบำเพ็ญสมาธิ
    ก็ได้ผลคุ้มค่า เรียกว่าคุ้มค่าเหลือที่จะคุ้ม
    เพราะคนเรานั้นถ้าหากว่า จากชาตินี้
    คือ ตายแล้วเราไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานทันทีนี่..
    มันจะเกิดอะไรขึ้น ก็เกิดความเสียหายในชาติ
    ในชาติของเรานี่ที่เกิดต่อไปมันกลายเป็นเช่นนั้นไป
    มันเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล เรียกว่า แก้ไม่ได้
    เมื่อเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ต้องอยู่เป็นสัตว์เดรัจฉานเป็นชาติๆ
    มันก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นแก่พวกเราชาวพุทธที่ได้พบพระพุทธศาสนา

    เพราะฉะนั้นเมื่อเราพากันมาทำ “สมาธิ”
    โอกาสที่จะได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือนรกนั้น
    เรียกว่า น้อยมาก หรือว่าปิดนรกได้เลย หรือว่าปิดอบายภูมิได้เลย
    เพราะอะไร?..เพราะว่า เมื่อเวลาที่เราจะตายนั้น
    ก็ “จิต” นี้เองที่จะออกจากร่าง ร่างกายอันนี้
    ในเมื่อจิตนี้เตรียมที่จะออกจากร่าง ทุกอย่างที่มีอยู่จิตก็ต้องพร้อม
    เรียกว่า เตรียมพร้อมชั่วระยะวินาทีเท่านั้นเอง จิตจะพร้อมหมดทุกอย่าง

    สมาธิที่เราได้กระทำมาแล้ว จะเป็นสิบครั้งร้อยครั้ง
    หรือจะเป็นกี่ครั้งก็ตาม ทำไว้ที่ไหน?..ก็ทำไว้ที่ใจของเรานี่เอง
    เพราะฉะนั้นเวลาใจจะออกจากร่างไปนี้
    สมาธิทั้งหมดมันก็เก็บเอาไปหมด ไม่มีอะไรเหลือ
    เรียบ..เก็บเพรียบพร้อม เมื่อพร้อมแล้วในชั่ววินาทีนั่น
    สมาธิย่อมจะต้องเกิดขึ้นกับเรา เมื่อสมาธิเกิดขึ้นกับเรา
    เราก็ไม่ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เราก็ไม่ต้องไปเกิดในอบาย

    เรียกว่า ปิดได้แน่นอน เพราะว่าอะไร?
    เพราะว่า เมื่อเราทำจิตนั้น เราก็ได้ทำและเราก็จำได้
    ไม่มีการหลงลืม เรานั่งสมาธิกี่ครั้ง เราก็ไม่ได้ลืม
    เรายังทรงจำอยู่ภายในจิตนั้น ไม่มีเวลาที่จะลืม
    ใครจะมาทำให้ลืมก็ไม่ได้ อะไรจะมาทำให้ลืมก็ไม่ได้
    อะไรจะมาพรากสมาธินี้ไปจากจิตก็ไม่ได้
    เพราะอะไร เพราะว่า มันอยู่กับจิตอยู่แล้ว
    เราทำแล้ว มันก็อยู่ในใจของเราอยู่แล้ว
    มันจึงเรียกว่า ไม่มีอะไรมาพรากได้
    จึงเรียกว่า สามารถที่จะปิดอบายภูมิได้

    เพราะฉะนั้นจึงเป็นการคุ้มค่าจริงๆที่บุคคลทั้งหลาย
    ได้พากันมีการเสียสละมาปฏิบัติความดีเหล่านี้ให้เกิดขึ้น ”

    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “เรานั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะพัฒนาจิตของเรานี้ให้ยิ่งขึ้น
    ไม่ควรคิดว่าเท่านี้พอแล้ว ฉันทำเท่านี้ก็พอแล้ว
    ฉันทำเท่านี้ก็มากแล้ว อย่างนี้เราไม่ควรคิดอย่างนั้น
    เราควรที่จะคิดว่า ที่เราทำนี้ยังน้อยเกินไป
    พยายามอยู่เรื่อยไป เมื่อเราใช้ความพยายามนี่
    จิตอันนี้แหละจะได้รับการขูดเกลาหรือเรียกว่า ขัดเกลา
    ให้เกิดความผ่องใส หรือให้เกิดจิตนี้สูงขึ้นตามลำดับ

    เมื่อจิตนี้สูงขึ้นตามลำดับ ก็ถือว่า เรายิ่งได้ประสบผลสำเร็จ
    ยิ่งได้รับผลประโยชน์ เพิ่มขึ้น ถ้าเรามาคิดถึงว่า
    เราเกิดมาเพื่อโลกเราเกิดมาเพื่อทรัพย์สินสมบัติ
    เราเกิดมาเพื่อความครองเรือน เราเกิดมาเพื่อมีลูกมีเต้า
    เราเกิดมาเพื่อทรัพย์สินแผ่นดิน ..ก็คิดผิด
    เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนั้น แต่ทีนี้ถ้าหากว่า เรามีการมีงาน
    เราทำเป็นเจ้าของ มีทรัพย์สินสมบัติทุกประการ
    สมบัติเหล่านั้นให้ความสุขเราก็จริง ..จริงเพียงว่า ให้ความสุขในปัจจุบัน คือ ในปัจจุบันชาตินี้แต่ว่าทรัพย์สินสมบัติเหล่านั้น
    ไม่มีประโยชน์เมื่อเราตายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์
    เพราะเราจะกลับคืนมาปกครองสมบัติเหล่านั้นอีกก็ไม่ได้
    และเราจะเอาตามไปด้วยก็ไม่ได้

    เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราจะเอาไปได้ คือ “สมาธิ” ที่เราพากันทำอยู่นี้เอง แม้จะเท่าปีกริ้น คือนิดหนึ่ง หรือแม้จะเท่าสักไก่ปรบปีกนิดหนึ่ง
    เท่านั้นก็ยังเป็นเชื้อที่มีความดีมากเหลือหลาย”

    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” เวลาปกติไม่เจ็บป่วยก็ทราบว่าธาตุขันธ์เป็นปกติ เวลาแสดงความแปรปรวนขึ้นมาในลักษณะต่างๆ ก็ทราบว่าธาตุขันธ์แปรปรวน แต่ใจอย่าให้แปรปรวนไปตาม เพราะใจไม่มีโรคชนิดนั้น อย่าหาเรื่องโรค คือ อารมณ์ที่เกี่ยวกับร่างกายแปรปรวนนั้น เข้ามาแทรกสิงใจหรือเสียดแทงใจให้เกิดเป็นทุกข์ขึ้นมา เป็นโรคภายในใจอีกต่อหนึ่ง ซึ่งสำคัญและหนักมากกว่าโรคทางกาย

    นี่คือวิธีการเรียนเรื่องของตัว ปฏิบัติต่อตัวเอง ปฏิบัติอย่างนี้ถูกต้องตามหลักธรรม จะไม่เดือดร้อนวุ่นวาย มีความสงบสุขอยู่ภายใน แม้โรคจะเกิดขึ้นในกายมากน้อย ใจก็ไม่เป็นทุกข์ไปด้วย เพราะเรื่องความตายนั้นมอบให้ธาตุขันธ์ไปเสีย เรื่องความเป็นอยู่ของขันธ์ ก็มอบให้เป็นอยู่ธรรมดาของเขา ไม่ขัดขืนปีนเกลียวคติธรรมดา จะฝืนธรรม แม้ขันธ์เป็นอยู่ ก็เป็นอยู่เพื่อจะไป เพราะมีความแปรสภาพตามหลักธรรมชาติของเขาอยู่ตลอดเวลานาที ไม่มีพักกลางวัน กลางคืน ยืน เดิน นั่ง นอน แปรอยู่อย่างนั้น เมื่อแปรไปมากก็แสดงอาการวิกลขึ้นมาให้เราทราบทุกระยะ เช่น เจ็บท้อง ปวดศีรษะ จับไข้ ได้พยาธิต่างๆ การกำหนดรู้ขันธ์และอาการของขันธ์ที่แสดงออกหรือไม่แสดงออก เรียกว่า เรียนกรรมฐาน ”

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” อยูไปเพื่ออะไร ต้องการอะไร
    ความสุขล่ะได้ไหม ไม่ได้เพราะไม่ทำเอาเอง
    พระพุทธเจ้าท่านบอกวิธีไว้ตั้งหลายวิธี เราไม่ทำซะที
    อยากรวย รวยรึยัง อายุก็มากแล้ว
    หรือจะเอาสวย ใกล้สวยเป็นนางสาวจักรวาลรึยัง
    มีแต่ไม้ท้าว 3 ขา 4 ขา น่าเกลียดขึ้นทุกวัน
    พญามัจจุราชไม่เคยรอใคร
    ความตายไม่เคยบอกว่าวันไหน
    อย่าโอ้เอ้ โลเล เสียเวลาที่ได้เป็นคน
    ไม่อบรมสร้างสมบารมี จะได้มรรคผลยังไง
    เหมือนอยากกินข้าวไม่ปลูกข้าวจะได้กินยังไง
    ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ชาตินี้อาจสำเร็จก็ได้
    ให้ทำเสมอ ให้ทำเอา อย่าได้มีอกุศลในใจ
    เหมือนสนิมกินเหล็ก
    ให้ขูดขัดเกลา จนเหลือแต่เหล็กขาวๆ เหมือนจิตใจ
    ขัดเกลาเข้าตามมุ่งมาดปรารถนา ก็จะขาวสะอาดได้
    ให้รู้ว่าตัวเองยังจน ยังไม่พอ ยังน้อย ให้รีบทำให้รู้ ”

    หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปัญโญ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    -ต้องการ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ มันบ่ย้อนกลับหาเจ้าของ ตากับใจไปอยู่แต่กับสิ่งภายนอกและผู้อื่นคนอื่น นักปฏิบัติเขาไม่ทำกันอย่างนั้นดอก ”

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    มหานรกอันยิ่งใหญ่เน้อ

    ” อกุศลาธัมเมา ความฮัก ความโกรธ
    ความโลภ ความหลง ถ้าฮื้อมันเกิดขึ้น
    มาเผาจิตเผาใจแล้ว มันเป็นมหานรกอัน
    ยิ่งใหญ่เน้อ ”

    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระพรสมเด็จพระสังฆราชฯ

    “ระตะนัตตะยะเตเชนะ โหตุ อนิฏฐะธังสะนัง
    ระตะนัตตะยะคุเณนะ โหตุ เต อิฏฐะสัมปะทา”

    ด้วยเดชแห่งพระรัตนตรัย ขอสิ่งไม่พึงใจจงสูญสิ้น ด้วยคุณแห่งพระรัตนตรัย ขอสิ่งที่พึงใจจงถึงพร้อมแด่ท่านเทอญฯ

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...