ธรรมะ จากเพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย สายหลวงปู่มั่น, 4 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  2. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  3. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  4. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  5. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    เรื่อง “คนสมัยนี้ เหตุไม่สร้าง หวังเอาแต่ผล”

    (โอวาทธรรม หลวงพ่อชา สุภัทโท)

    ใจร้อน เหตุไม่ขนขวาย แต่หวังผลให้ปรากฏเร็ว

    สมัยนี้เป็นสมัยกดปุ่ม คนส่วนมากถือว่า ทำอะไรลงไป ยิ่งเร็ว ยิ่งง่าย ยิ่งดี แต่หลวงพ่อแย้งกระแสโลกนี้ว่า “การภาวนาเข้าหาความสงบระงับนั้น ไม่เหมือนสวิตช์ไฟฟ้า กดปุ๊บจะให้แสงมันจ้าขึ้นมาเลย ประโยคแห่งการกระทำความเพียรนั้น จะให้ขาดวรรคตอนไม่ได้ ธรรมทั้งหลายเกิดมาเพราะเหตุ เมื่อเหตุดับแล้วผลจึงดับ”

    “ต้องค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ ปฏิบัติ ไม่ใช่ว่าจะเอาวันสองวันให้ได้ ให้เห็น เมื่อวานซืนมีนักศึกษามาปรึกษา จะไปหัดภาวนากรรมฐาน นั่งสมาธิมันไม่สบาย มันไม่สงบ มาหาหลวงพ่อ จะให้หลวงพ่อชาร์จแบตเตอรี่ให้ นี่อันนี้ต้องพากันพยายามทำไปเรื่อยๆ คนอื่นบอกมันไม่รู้จัก จะต้องไปพบด้วยตนเอง ไม่ต้องเอาให้มากหรอก เอาน้อย ๆ แต่เอาทุกวัน แล้วก็เดินจงกรมทุกวัน มันจะมากจะน้อยก็ทำทุกวัน แล้วก็เป็นคนพูดน้อย แล้วก็ดูจิตของตัวเองตลอดเวลา เมื่อดูจิตของตัวเอง อะไรมันจะเกิดขึ้นมา มันจะสุขหรือมันจะทุกข์อะไรเหล่านี้ ก็บอกปฏิเสธมันเสียว่า เป็นของไม่แน่นอน เป็นของหลอกลวงทั้งนั้น” “บางคนก็ไม่เคยทำ เมื่อมาทำวัน ๒ วัน ๓ วัน ก็ไม่สงบ ก็เลยนึกว่า เราทำไม่ได้ เราต้องคิดว่าเมื่อเราเกิดมาเคยถูกสอนหรือยัง เราเคยทำความสงบหรือเปล่า เราปล่อยมานานแล้ว ไม่เคยฝึกหัดมัน มาฝึกชั่วระยะเวลาหนึ่ง อยากให้มันสงบ อย่างนั้นเหตุมันไม่พอ ผลมันก็ไม่มี เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องอันตัวเราท่านทั้งหลายจะหลุดพ้น ต้องอดทน การอดทนเป็นแม่บทของการประพฤติปฏิบัติ”

    “พระพุทธเจ้าสอนอย่าให้มันช้า อย่าให้มันเร็ว ทำจิตใจให้พอดี การประพฤติปฏิบัตินี้ ไม่ต้องเดือดร้อน ถ้ามันเดือดร้อน เราก็ต้องพิจารณา เช่นว่าเราจะปลูกต้นไม้ต้นหนึ่งมา ต้นไม้ที่จะปลูกนั้นก็มีอยู่ ก็ขุดหลุม ก็ปลูก เอาต้นไม้มาวางลงหลุมนั้น ก็เป็นหน้าที่ของเราจะพูนดิน จะให้ปุ๋ย จะให้น้ำ จะรักษาแมลงต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องของเรา เป็นหน้าที่ของเรา
    คนจะทำสวนต้องทำอย่างนี้ ทีนี้เรื่องต้นไม้มันจะโตเร็วโตช้าของมันนั้นน่ะ มันไม่ใช่เรื่องของเรา มันเป็นเรื่องของต้นไม้ ถ้าเราไม่รู้จักหน้าที่การงานของตัวแล้ว มันก็ไปทำงานทำหน้าที่ของต้นไม้ มันก็ทุกข์ของเรา หน้าที่ของเราก็ให้ปุ๋ยมันไป ให้น้ำมันไป รักษาแมลงไม่ไปรบกวนเท่านี้ ส่วนต้นไม้จะโตเร็วโตช้าเป็นเรื่องของต้นไม้ ถ้าเรารู้จักหน้าที่การงานของเราเช่นนี้ ภาวนาก็สบาย ถ้าเราคิดเช่นนี้ การปฏิบัติของเราก็สบาย ง่าย สะดวก ไม่ดิ้นรนกระวนกระวาย”

    “นั่งมันสงบก็ดูความสงบไป ที่มันไม่สงบก็ดูความไม่สงบไป ที่มันสงบนั้นก็เป็นเรื่องของจิต มันเป็นอย่างนั้น ไม่ได้เป็นอย่างอื่นมันสงบแล้วมันก็สงบไป ถ้าไม่สงบก็ไม่สงบไป เราจะไปทุกข์ เพราะมันไม่สงบไม่ได้ เราจะไปดีใจเพราะจิตสงบมันก็ไม่ถูก เราจะไปเสียใจเพราะจิตไม่สงบ ก็ไม่ถูกเหมือนกัน เราจะไปทุกข์กับต้นไม้ได้หรือ ไปทุกข์กับแดดได้หรือ ไปทุกข์กับฝนได้หรือ ไปทุกข์กับอย่างอื่นได้หรือ มันเป็นเรื่องของมันอยู่อย่างนั้น

    ถ้าเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว การภาวนาของพระโยคาวจรนั้นก็สบายแล้ว เดินทางเรื่อย ๆ ไป ปฏิบัติไป ทำธุระหน้าที่ของเราไป เวลาพอสมควรเราก็ทำของเราไป ส่วนจะได้จะถึงหรือมันสงบนั้น ก็เป็นวาสนาบารมีของเรา เหมือนกับชาวสวนปลูกต้นไม้ หน้าที่ของเราใส่ปุ๋ยก็ใส่มันไป รดน้ำ ก็รดมันไป รักษาแมลงก็รักษามันไป เรื่องต้นไม้จะโตเร็วโตช้าไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของต้นไม้ ละปล่อยทั้งสองอย่างนี้ รู้จักหน้าที่ของเรา รู้จักหน้าที่ของต้นไม้ มันถึงเป็นชาวสวนที่มีความสดชื่นดีฉันใด ผู้มีปัญญา ผู้ที่ภาวนาในพุทธศาสนานี้ก็เหมือนกันฉันนั้น พอจิตคิดเช่นนี้ ความพอดี มันก็ตั้งขึ้นมาเอง”

    -คนสมัยนี้-เหตุไม.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  6. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “โลกกับธรรมต่างก็เดินเข้าหาจุดหมายอันเดียวกันคือความสุข แต่วิธีเดินมันผิดกันไปคนละทาง ฉะนั้นผลมันจึงไม่เหมือนกัน คือโลกมีแต่จะเอาถ่ายเดียว คิดปรุงแต่งกอบโกยสะสมเอาๆหนักเข้าจนเป็นการเห็นแก่ตัว อันเป็นเหตุทำความเดือดร้อน เป็นทุกข์…” หลวงปู่เทสก์

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  7. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  8. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ความท้อถอย…เป็นเรื่องของกิเลส…”

    “…อย่าเห็นว่ากิเสตัวใดจะมาให้คุณให้ประโยชน์แก่เรานอกจากเป็นข้าศึกต่อเราโดยถ่ายเดียว ดังที่กล่าวแล้วว่าอย่าว่าแต่พ่อแต่แม่ปู่ย่าตายายของมันเลย แม้แต่เหลน ๆ ของมันมันก็เป็นภัยต่อเราทั้งนั้น เกิดขึ้นมามันเป็นเสือเหมือนพ่อเหมือนแม่มัน กิเลสมันเป็นเสือแต่ละตัว ๆ ต่อจิตใจ จงห้ำหั่นลงไปให้แหลกแตกกระจาย อย่าลดละความพากเพียร อย่าท้อถอย
    ความท้อถอยเป็นเรื่องของกิเลส ความอ่อนแอเป็นเรื่องกลมายาของกิเลสให้ทราบนักปฏิบัติ เข้าสู่สงครามต้องรู้กลมายาของข้าศึก นี่เราเข้าสู่สงครามระหว่างกิเลสกับธรรมห้ำหั่นกัน ต้องรู้กลมายาของกิเลสอาสวะ มันออกในแง่ใดมุมใดจะต้องรู้ด้วยสติปัญญาของเรา นอกจากนั้นยังมีครูบาอาจารย์คอยแนะให้อุบายอยู่เสมอแล้ว มันเป็นของหาได้เหรอ มีผู้แนะผู้ให้อุบายวิธีการปฏิบัติอยู่แล้ว….”

    จากหนังสือ “ปลุกใจให้ตื่น” พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี หน้า ๔๐

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -เป็นเรื่องข.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  9. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  10. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  11. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๑ ขออาราธนาภาพอันเป็นมหามงคลของพระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ที่มีเมตตาแต่เด็ก ในส่วนตัวหลวงปู่ องค์หลวงปู่ก็เมตตาเด็ก…”

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg
    1515734768_854_เนื่องในวันเด็กแห่งชา.jpg
    1515734768_390_เนื่องในวันเด็กแห่งชา.jpg
    1515734768_551_เนื่องในวันเด็กแห่งชา.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  12. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…นี่ละการอยู่ในป่าเป็นเช่นนี้ เราอยู่ในป่าธรรมดา เราอยู่ในบ้านธรรมดา ผิดกันมาก เราอยู่ในบ้านรู้สึกจะลืมตัวไปตามอารมณ์ของโลก รูปเสียงกลิ่นรสเครื่องสัมผัสสัมพันธ์ มันมีอยู่ทั่วไป ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ที่เป็นเครื่องรับกันก็รับกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนมากกลายเป็นฝ่ายต่ำๆ แล้วก็เข้าพอกพูนจิตใจให้เศร้าหมองและมัวมืดไปโดยลำดับ เลยเห็นโลกเป็นของดิบของดี ทั้งๆ โลกนั้นคือกองมูตรกองสกปรกโสมม แต่เห็นธรรมเป็นของไม่มีค่ามีราคา ทั้งๆ ที่ธรรมเป็นของเลิศเลอมาดั้งเดิม ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ก็ตรัสรู้เพราะธรรม นี่ละถ้าอยู่ธรรมดา มันมีความประมาทในธรรมหลายๆ ด้าน ต่อเมื่อได้ก้าวเข้าสู่ป่า คือมหาวิทยาลัยป่าแล้ว ทีนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเผชิญหน้ากันในป่านั้นแหละ อยู่ตามธรรมดาสติก็ไม่ค่อยมี ความพากความเพียรไม่หนาแน่นมั่นคง แต่เข้าอยู่ในป่าแล้วสิ่งแวดล้อมที่จะเป็นภัย กระตุกเตือนสติปัญญาให้แหลมคมเข้าโดยลำดับ เรียกว่าหินลับปัญญา มันมีอยู่รอบด้าน สติปัญญาจะแหลมคมเข้าไปจากหินลับ คือสิ่งกระทบกระเทือนทั้งหลาย ใจก็มีสติสตังขึ้นมา

    เช่นในขณะแรกเราไปอยู่มีความกลัว สะดุ้งสะเทือนจิตใจ แต่เวลาไปจริงๆ ฝากเป็นฝากตายทุกอย่างไว้กับธรรม ชีวิตจิตใจความเป็นความตายไม่ให้มีค่ายิ่งกว่าธรรม ฝากความเป็นความตายไว้กับธรรม ในสถานที่น่ากลัวๆ นั้น ด้วยความมีสติระมัดระวังตนหนาแน่นขึ้นเป็นลำดับ ใจที่ไม่เคยสงบร่มเย็นก็สงบร่มเย็นขึ้นมา เมื่อมีสติเป็นเครื่องคุ้มครองรักษา ใจก็ค่อยปลอดภัยๆ ขึ้นมา…”

    พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมพระ ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด เมื่อบ่ายวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๐

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  13. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  14. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “ก่อนจะพูดอะไร ให้ถามตัวเองว่าที่จะพูดนี้จำเป็นหรือเปล่า ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าพูด นี่เป็นขั้นแรกในการอบรมใจ เพราะถ้าควบคุมปากตัวเองไม่ได้ เราจะควบคุมใจได้อย่างไรฯ”
    .
    • ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก •

    -ให้ถามตั.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  15. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  16. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  17. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  18. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  19. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้โลกุตรธรรม เห็นก็ได้แต่เห็น
    วางไปไม่ยึดถือ ดับความยึดจึงจะไปรอด ด้วยสติ
    ตัวสติแท้ๆ เป็นโลกุตรธรรม เป็นธรรมพ้นโลก
    ตัวโลกุตรธรรมเหมือนไฟฟ้าแลบ
    แปล็บเดียวมันก็เห็นหมดแล้ว
    แลบหนเดียว ไม่แลบมาก
    เจริญสติ หนทางเดียวไปรอด เห็นได้ยิน ก็สักแต่รู้
    ไม่ไปถามไปตอบอะไร ไม่ได้สมมุติเป็นเราเป็นเขา…”

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  20. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ที่ท่านให้มีบริกรรมนี้ ก็เพื่อจะให้จิตของเรามันจดจ่ออยู่
    ไม่ให้คิดแส่ส่ายไปมาทางอื่น ธรรมดาจิตมันเป็นผู้ที่คิด ยุ่ง อยู่กับอารมณ์ต่างๆ ทั้งกลางวันกลางคืน ไม่หยุดไม่นิ่ง
    แส่ส่ายไปมาอยู่ตลอดกาล เรื่องที่จิตของเราไม่หยุดไม่นิ่ง
    ทำให้จิตของเรานี้ ไม่มีความแน่วแน่ เหมือนกันกับน้ำที่มันไหลบ่าไปทุกแห่งทุกหน น้ำนั้นจะไม่มีกำลัง จะเซาะดินก็ไม่ได้
    จะพัดพาเอาสิ่งต่างๆ ไปก็ไม่ได้ ต่างจากน้ำที่มันไหลรวมกันไป
    ถ้าน้ำที่มันไหลรวมกันไป สามารถที่จะเซาะดินให้เป็นห้วยเป็นคลองลงไปได้หรือไหลในห้วยในคลองก็สามารถพัดเอาขอนเอาไม้ ตลอดถึงหินหนักๆ มันก็พัดเอาไปได้ เพราะมันมีกำลัง
    ฉันใดจิตของคนเราก็ฉันนั้น เมื่อจิตของเรามันแตกซ่านไปตามอารมณ์ จิตนี้ก็จะไม่มีกำลัง ถ้าจิตของเรามันรวมแน่วแน่ จดจ่อในสิ่งเดียว จิตก็จะมีกำลังขึ้น เมื่อจิตของเรามีกำลัง จิตนี้ก็จะต่อต้านกับกิเลสที่มันจะเกิดขึ้นกับจิตใจของเราหรือเวลาเรากระทบอารมณ์จิตของเราก็จะต่อต้านกับความกระทบในอารมณ์นั้นๆ…”

    พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร(พระอาจารย์วัน อุตตโม) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.ส่องดาว จ.สกลนคร

    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...