เรื่องเด่น นักดาราศาสตร์เร่งหาข้อพิสูจน์ ดวงจันทร์มีผลต่อการเกิดแผ่นดินไหวบนโลกจริงหรือไม่ ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ เตือนภัย, 21 มกราคม 2018.

  1. โพธิสัตว์ เตือนภัย

    โพธิสัตว์ เตือนภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,565
    กระทู้เรื่องเด่น:
    441
    ค่าพลัง:
    +655
    e0b8b2e0b8a8e0b8b2e0b8aae0b895e0b8a3e0b98ce0b980e0b8a3e0b988e0b887e0b8abe0b8b2e0b882e0b989e0b8ad.jpg

    เป็นเวลานานมาแล้ว ที่มนุษย์มีความเชื่อว่าการเรียงตัวของดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ หรือดวงอาทิตย์ มีความสัมพันธ์กับการเกิดภัยพิบัติบนโลก

    หนึ่งในความสัมพันธ์นั้นคือ ดิถีของดวงจันทร์ หรือ การเกิดข้างขึ้น ข้างแรม จันทร์ดับ จันทร์เพ็ญ กับการเกิดแผ่นดินไหว โดยเชื่อว่าช่วงวันที่ใกล้จันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวมากกว่าช่วงอื่น

    ทฤษฎีว่าจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับกระตุ้นการเกิดแผ่นดินไหวมีเหตุผลที่ฟังดูเข้าที เพราะสองช่วงเวลาดังกล่าว โลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ เรียงอยู่ในแนวเดียวกัน ช่วงเวลาที่วัตถุทั้งสามเรียงในแนวเดียวกันเป็นช่วงที่แรงน้ำขึ้นลงกระทำต่อโลกมากกว่าช่วงอื่น ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวได้

    แต่นักดาราศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อเช่นนั้น เพราะแรงที่ดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์กระทำต่อโลกในช่วงเวลาดังกล่าวแทบไม่ต่างจากช่วงเวลาอื่น หากดิถีของดวงจันทร์จะมีผลต่อแผ่นดินไหวจริง ก็ควรมีข้อมูลเชิงสถิติสนับสนุน

    แล้วใครว่าไม่มีเล่า? ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา มีงานวิจัยจำนวนหนึ่งที่บ่งชี้ว่าการเกิดแผ่นดินไหวมีความสัมพันธ์กับดิถีของดวงจันทร์ และมีความสัมพันธ์กับช่วงเวลาของปีด้วย

    เช่นในปี 2546 เคยมีการศึกษาแผ่นดินไหวในไต้หวัน ก็พบความสัมพันธ์ระหว่างดิถีดวงจันทร์กับแผ่นดินไหวระดับเบา
    งานวิจัยหนึ่งในปี 2527 ก็พบว่าแผ่นดินไหวที่เกิดจากรอยเลื่อนซานแอนเดรียสในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และล่าสุดเมื่อสองปีก่อน ก็มีงานวิจัยสองฉบับที่สรุปว่าแผ่นดินไหวรุนแรงมักเกิดขึ้นช่วงใกล้จันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ

    หรือว่านักดาราศาสตร์คิดผิด?

    ล่าสุด ซูซาน ฮัฟ จากกรมสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ศึกษาความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ทั้งสอง โดยขยายเวลาที่ใช้ในการศึกษาย้อนหลังไปไกลถึง ค.ศ. 1600 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับ 8 ขึ้นไปถึง 204 ครั้ง แล้วเทียบวันที่เกิดเข้ากับดิถีของดวงจันทร์ในขณะนั้น รวมถึงวันในรอบปีด้วย เพื่อดูว่ามีการความสัมพันธ์อย่างไร

    ผลออกมาคือ วันที่เกิดแผ่นดินไหวเหล่านั้นกระจายอย่างไม่มีการเกาะกลุ่มอย่างมีนัยสำคัญ หรือสรุปง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ระหว่างดิถีของดวงจันทร์หรือช่วงเวลาในรอบปีกับการเกิดแผ่นดินไหว

    ยิ่งกว่านั้น วันดิถีของดวงจันทร์ที่มีการเกิดแผ่นดินไหวมากที่สุดเกิดขึ้น 7 วันหลังจันทร์ดับ หรือ ประมาณขึ้น 7 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่โลก ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ ไม่ได้เรียงในแนวเดียวกัน

    “แรงน้ำขึ้นลงจากการเรียงตัวของดาวอาจมีส่วนเสริมในกระบวนการเกิดแผ่นดินไหวจริง แต่ก็น้อยมาก น้อยเกินกว่าจะเอามาใช้ในการพยากรณ์” ฮัฟอธิบาย “ดังนั้นการที่แผ่นดินไหวในอดีตบางครั้งเกิดขึ้นตรงกับช่วงจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความบังเอิญ”

    “ความเชื่อที่ฝังลึกในหัวของผู้คนก็คงไม่อาจลบเลือนไปได้ง่าย ๆ ในอนาคต หากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงจันทร์เพ็ญขึ้นมาอีก ก็คงมีคนออกมาพูดอีก ว่านี่ไง นี่ไง บอกแล้วว่าเกี่ยวกัน” ฮัฟกล่าวทิ้งท้าย

    ที่มา -This Researcher Says The Moon Has No Link to Earthquakes After All – sciencealert.com,The Sun And Moon Are Linked to Earthquakes Along The San Andreas Fault – sciencealert.com There’s Now Even More Evidence That The Moon Triggers Our Most Powerful Earthquakes

    -มติชนออนไลน์

    ขอบคุณที่มา
    https://www.prachachat.net/breaking-news/news-104499
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +3,198
    ลองพิจารณาข้อมูลด้านล่างค่ะ สถิติการเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวในช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้ตรงกับช่วง "คลาส" เป็นอย่างไร? สิ่งที่สำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงโลกหากจะได้รับพลังงานจากนอกระบบโลก ก็คือ ช่วงที่เวลาพระอาทิตย์ โลก และดวงจ้นทร์ เรียงตัวเป็นเส้นตรง เพราะเป็นจุดที่จะได้รับพลังงานอย่างเต็มที่ เป็นเหตุหนึ่งที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ค่ะ ถ้าใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่กระทู้นี้ค่ะ

    http://palungjit.org/threads/เตรียมตัวให้พร้อม-มันกำลังมา.627051/


    ธรณีพิโรธ


    นับแต่โหราศาสตร์ยุคโบราณ ปัจจัยที่ทรงอิทธิพลที่สุดในการทำนายเหตุการณ์คือ “คราส” เพราะมันเกิดจากการเรียงตัวเป็นเส้นตรงของดวงอาทิตย์ โลก และ

    ดวงจันทร์ อาทิตย์คือแหล่งพลังงานใหญ่สุด จันทร์คือดาวใกล้โลกที่สุด อิทธิพลของคราสจึงรุนแรงและมีผลมาก

    คราสให้ผลดีในการทำนายระยะสั้น 1 – 3 เดือน จนถึงปานกลาง 3 – 4 ปี โดยเฉพาะคราสเต็มดวง สุริยคราสมีน้ำหนักมากกว่าจันทรคราส จันทรคราสให้ทั้งคุณและโทษ สุริยคราสให้แต่โทษ ยกเว้นกรณีพิเศษ นักโหราศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จต้องมีความรู้และประสบการณ์เรื่องคราสอย่างลึกซึ้งแตกฉาน

    ตลอดคอลัมน์ที่ผ่านมา ผู้เขียนใช้คราสทำนายเหตุการณ์บ่อยครั้ง ใน “เรือล่ม แผ่นดินไหว สรรพคราส” (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/634379) คู่สรรพคราสอาทิตย์จันทร์ 20 มีนาคมและ 4 เมษายน 2558 คือสาเหตุของแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ที่กาฐมาณฑุของเนปาลเมื่อ 25 เมษายน มีผู้เสียชีวิตกว่า 8,000 คน เช่นเดียวกับคู่สรรพคราสจันทร์อาทิตย์ 9 และ 24 พฤศจิกายน 2546 ที่บอกถึงแผ่นดินไหว 6.6 ริกเตอร์ในอิหร่านเมื่อ 26 ธันวาคม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 40,000 คน

    โหราศาสตร์อินเดียเชื่อถือเรื่องคราสมาก ในคัมภีร์ “มหาภารตะยุทธ” ก่อนสงครามของพวก “เการพ” กับ “ปาณฑพ” ที่ทุ่งกุรุเกษตร ได้เกิดคราสขึ้น 2 ครั้งภายใน 13 วัน มันคือกฎเกณฑ์การทำนายสงคราม คู่สรรพคราสมีนาคม-เมษายน 2558 จึงบอกล่วงหน้าถึงสงครามถล่มไอซิสของปูตินในซีเรียวันที่ 30 กันยายน (สงครามของรัสเซีย http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/635796)

    เส้นทางคราสคือปัจจัยสำคัญในการทำนายด้วย เมื่อเห็นสุริยคราสเต็มดวง 9 มีนาคม 2559 ที่ 24:51 องศากุมภ์ พาดผ่านวงแหวนแห่งไฟที่สุมาตรา ผู้เขียนทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหว ผลคือ 2 มีนาคมเกิดแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์ (วงแหวนแห่งไฟ http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/636779) ยังมีแผ่นดินไหว 6.9 ที่พม่าและ 7.0 ที่ญี่ปุ่นกลางเมษายน ในวันคราส อังคาร 45 พลูโต ผู้เขียนทำนายถึงภัยก่อการร้ายในอาเซียน วันที่ 23 พฤษภาคม 2560 กลุ่มมุสลิม “มาอูเต” นับร้อยร่วมมือกับไอเอส บุกยึดเมืองมาราวีบนเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ (คราส 2559 http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/637035)

    ปรากฏการณ์คราสสำคัญและรุนแรงที่สุดในรอบ 180 ปีอย่าง Great American Eclipse 21 สิงหาคม 2560 ที่ 4:47 องศาสิงห์ ยังคงส่งผลต่อเนื่อง สุริยคราสเต็มดวงนี้มีอิทธิพลในอเมริกานาน 4 ปีครึ่ง แต่จะสั้นกว่าแค่ 2 ปีในแคนาดาและเม็กซิโก (เพราะแนวคราสมิดดวงไม่ได้พาดผ่าน) นับจากนี้ไปอีกหลายปี เหตุการณ์สำคัญ ๆ ในโลกจะเกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของมัน Earthquake-Mexico-1985-Wheel02_1.jpg



    คราสมีกำลังแรงสุดภายใน 1 เดือน ภัยธรรมชาติใหญ่ไม่ใช่แค่เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์ม่าในอเมริกา แต่รวมถึงแผ่นดินไหว 8.1 ริกเตอร์ทางตอนใต้ของเม็กซิโก เมื่อ 23:49 น.ของวันที่ 7 กันยายน มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน ผ่านไปไม่กี่วัน เกิดแผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์ที่เม็กซิโกซิตี้ 13:14 น.วันที่ 19 ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คนและทรัพย์สินเสียหายมาก นักวิทยาศาสตร์บอกไม่ใช่อาฟเตอร์ช็อค เพราะ 2 จุดไกลกันเกิน 600 กม. เหตุเกิดใน 1 เดือนพอดี แผ่นดินไหวนี้ยืนยันความถูกต้องแม่นยำของโหราศาสตร์อีกครั้ง

    ที่น่าแปลกคือแผ่นดินไหวครั้งหลังเกิดวันเดียวกับแผ่นดินไหวเมื่อ 32 ปีก่อน มันคือแผ่นดินไหว 8.0 ริกเตอร์ที่เม็กซิโกซิตี้เช่นกันในวันที่ 19 กันยายน 2528 เวลา 8:18 น. มีผู้เสียชีวิตกว่า 5,000 คน และเกิดอาฟเตอร์ช็อคใหญ่ 2 ครั้งคือ วันที่ 20 กันยายนขนาด 7.5 และวันที่ 30 เมษายน 2529 ขนาด 7.0 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายในทรัพย์สินถึง 4,000 ล้านดอลลาร์

    เมื่อเส้นทางคราสผ่าอเมริกา เม็กซิโกย่อมได้รับผลด้วย ดวงเมืองเม็กซิโกกำเนิด 31 มกราคม 2460 เวลา 16:00 น. (จาก The Book of World Horoscopes ของ Dr. Nicholas Campion) ลัคนาราศีเมถุน คราส 45 ลัคน์และทับจันทร์เดิม ชี้ชัดถึงพิบัติภัยธรรมชาติที่ร้ายแรง เมื่อรวมกับราหูกรกฎที่เล็งอังคารมฤตยูเดิมในภพมรณะ มฤตยูเมษ 90เสาร์เดิม-ดาวเจ้าเรือนมรณะ และพลูโตธนูที่เล็งลัคน์ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้น

    วันที่ 7 อังคารพุธทับจุดคราสสนิท เนปจูนกุมภ์เพ็ญ อาทิตย์สิงห์ 90 เสาร์พิจิก พฤหัสกันย์เล็งมฤตยูเมษ จันทร์มีน 90 พลูโตธนู เมื่อลัคน์จรเข้าพฤษภและ 90 อังคารสิงห์ ราหูสิงห์เล็งทศมลัคน์ เกิดแผ่นดินไหว 8.1 ในนาทีนั้น วันที่ 19 ศุกร์ทับจุดคราสสนิท อังคารพุธเล็งเนปจูน พฤหัสเข้าตุลย์เล็งมฤตยู จันทร์สิงห์เข้าจุดดับและ 90 เสาร์ ช่วงเที่ยงลัคนาจรเข้าพิจิก เมื่อลัคน์จรกุมเสาร์และ 90 อังคารเนปจูน เวลานั้นเกิดแผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์

    เหตุการณ์ปี 2528 เกิดจากอิทธิพลคราสเช่นกัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่สุริยคราส 30 พฤษภาคม 2527 ที่ 15:48 องศาพฤษภ คราสนี้ผ่าเม็กซิโกเป็น 2 ส่วน-เหนือใต้ นี่คือสัญญาณอันตราย แม้ไม่เต็มดวง แต่คราสนี้ก็ร้ายแรงมาก เพราะมีมฤตยูดับสนิทร่วมคราสและ 150 กับอังคารเสาร์ตุลย์และพฤหัสธนู จุดคราสทับจันทร์เดิมในภพวินาศของดวงเมือง ยืนยันถึงภัยพิบัติอีกชั้นหนึ่ง

    วันที่ 22 พฤศจิกายน 2527 เกิดสุริยคราส (เต็มดวง) ที่ 7:12 องศาพิจิก คราสนี้เล็งจันทร์เดิมซ้ำอีก ยังมีสุริยคราส 19 พฤษภาคม 2528 ที่ 5:11 องศาพฤษภ เล็งจุดคราสเดิมและกระตุ้นพลังของมันขึ้นไปอีก ในช่วงเวลานั้น พฤหัสเสาร์ราหูพลูโตเข้ารูป T-square ในตุลย์-มังกร-เมษ บอกถึงพิบัติภัยธรรมชาติ วันที่ 17 กรกฎาคม เกิดอมาวสีที่ 1:40 องศากรกฎ ทับเสาร์เดิม-ดาวเจ้าเรือนมรณะ วันที่ 15 สิงหาคม เกิดอมาวสีที่ 29:50 องศากรกฎ เล็งอังคารมฤตยูเดิมในภพมรณะ เภทภัยใกล้เข้ามาทุกที

    ปลายสิงหาคม อังคารยกเข้าสิงห์ วันที่ 16 กันยายน ศุกร์ยกเข้าสิงห์และอาทิตย์ยกเข้ากันย์ วันที่ 17 เสาร์ยกเข้าพิจิก วันที่ 19 พุธยกเข้ากันย์ กลายเป็นพุธดับ อังคาร 90 กับจุดคราสและจันทร์เดิม จันทร์จรเข้าพิจิกร่วมเสาร์ เมื่อลัคน์จร 90 เนปจูน เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในนาทีนั้นที่เม็กซิโก

    ข้อสังเกตคือสุริยคราสสิงหาคม 2560 ทำมุม 90 กับชุดสุริยคราสปี 2527 – 28 นี่คือเหตุผลสำคัญที่แผ่นดินไหวเกิดวันเดียวกัน ช่วงห่าง 32 ปีชี้ถึงวงรอบดาวเสาร์ที่ซ้ำเดิมในพิจิกและทำมุมร้ายกับคราส

    http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642683
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...