นั่งสมาธิไปสักพักรู้สึกวูบ เหมือนจะหลับ ไม่ก้าวหน้าสักที

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย saxford, 10 สิงหาคม 2013.

  1. saxford

    saxford Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +78
    ผมนั่งสมาธิเป็นปกติ เมื่อนั่งไปสักพักจะมีอาการวูบ เหมือนจะหลับ พอผมรู้ตัวก็มาจับลมหายใจใหม่ สักพักก็วูบเหมือนจะหลับอีก

    แต่พอผมหยุดนั่งสมาธิ จะไปทำอย่างอื่น ผมก็ไม่ได้ง่วงนะ งงว่าทำไมเวลานั่งชอบวูบๆ เหมือนจะหลับ บ่อยมาก ไม่ก้าวหน้าสักที
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    การตั้งจิตตั้งใจทำ เราจะต้อง " ฉลาดในการหมั่นประกอบ "

    ความไม่ฉลาดในการ " หมั่น " ประกอบ คือ " การเล็งผลเลิศ "

    เปรียบเหมือน เราตั้งเป้าเอาไว้ไกลเกินกำลัง แต่เรากลับมุ่ง
    หวังจะให้ถึงเป้านั้นเอาเลย ตรงนี้เองทำให้พอปฏิบัติได้ดี

    เน้นนะว่า ปฏิบัติได้ดี แต่ เป้าคุณมองตรงโน้น ไม่ได้ มอง
    ตามที่กำลังทำได้ ตามที่ กอบเอากิ่งไม้ใบหญ้ามาทำเป็น
    แพข้ามฝั่งได้ ( เท่าไหร่ ก็เท่านั้น ) แล้ว ข้ามบ่อยๆ กอบ
    มาทำแพบ่อยๆ ความ มั่นคง ความเป็นผู้มีความ ตั้งมั่น
    จึงอยู่ที่ " หมั่นประกอบ " ฉลาดในการอาศัยความไม่เที่ยง

    ไม่ใช่อยู่ที่ แพ นั้นงาม หรือ อยู่ที่ ข้ามฝั่งถึงหรือไม่ถึงเป้าหมาย

    ดังนั้น

    คุณ !!!

    คุณนั่นแหละ คุณทำสำเร็จแล้ว แต่ ให้ทำบ่อยๆ ให้ทำให้
    มากๆ ไอ้ที่ หลับไปยังไม่ถึง ตรงนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่อง
    ของ " ขันธ์5 " ที่มี พยามาร สำคัญตัวว่าเป็นเจ้าของก็
    ยกให้มันไปสิเนาะ

    ไม่ใช่ " จิตที่ตั้งมั่นในสิกขาบท ในการหมั่นประกอบ "

    สู้ ............ สู้ เว้ย !!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013
  3. สุชีโว

    สุชีโว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    154
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +579
    ช่วงจังหวะคาบเกี่ยวระหว่างจวนเจียนจะหลับ ตรงนั้นเป็นโอกาสทองครับ ใช้สติ ดึงความรู้สึกกลับมาอีกนิ๊ดเดียว ถ้ายังมีสติพร้อมรู้ตัวตลอดนั่นคือได้ สมาธิแล้ว การหลับได้ของคนเราทุกคนคือต้องตัดอารมณ์ความนึกคิดอื่นๆหมดถึงจะหลับได้ ยกเว้นไปขืนใจกินยานอนหลับอันนั้นไม่ใช่ ใช้สติระลึกถึงตัวประคองสติ จะใช้คำภาวนาก็ได้ หรือ ตามดูลมหายใจแบบอานาปานสติก็ได้แล้วแต่ถนัด การนั่งสมาธิแล้วมาถึงอาการจะหลับก็ถือว่าก้าวหน้าแล้วเพราะตัดอารมณ์ ความนึกคิดได้จนหมด เพียงแต่ต้องดึงสติกลับมาอีกหน่อยเดียว ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013
  4. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    (ผมว่าท่านก้าวหน้าแล้ว อย่าถอยนะครับ ลองแก้ตามที่ ตถาคตสอนพระโมคคัลลานะดูครับ )

    ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ ดูกรโมคคัลลานะ เธอง่วงหรือ
    ท่านพระมหาโมคคัลลานะกราบทูลว่า อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ

    ดูกรโมคคัลลานะ เพราะเหตุนั้นแหละ เมื่อเธอมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อม
    ครอบงำได้ เธอพึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้าเธอยังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้สดับแล้ว
    ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาแล้วได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาว
    นักษัตรฤกษ์
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงทำในใจถึงเอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันว่า
    กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้
    ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา
    สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก
    ข้อนี้จะเป็นเหตุให้เธอละความง่วงนั้นได้

    ถ้ายังละไม่ได้ แต่นั้นเธอพึงสำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้า
    เหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า
    เราจักไม่ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ


    ดูกรโมคคัลลานะเธอพึงศึกษาอย่างนี้แล ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๓
    หน้าที่ ๗๓/๓๗๙
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 สิงหาคม 2013
  5. pummuq

    pummuq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    375
    ค่าพลัง:
    +352
    เดินจงกรมให้มาก สวดมนต์ก่อนนั่งสมาธิก็ได้ผลกับหลายคน สติขาดไม่ได้ ถ้าสติยังไม่ดีใช้คำบริกรรมกำกับไว้ไม่ให้เผลอ หรือไม่งั้นไปนั่งในป้าช้าคนเดียวไม่มีหลับแน่ๆ
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อาการนี้จะผ่านไปได้ ก็ด้วยการเพียรเร่งสร้างกำลังของสติ เหมือนที่ท่านอื่นๆ ว่ามา
     
  7. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,946
    นั่งพิงกำแพง หรือ เก้าอี้ ป่าวครับ สร้างขันติ ให้ตัวเองก่อนครับ อย่าเอาสบาย

    กิเลสความง่วง มันทำงานครับ รองเปลี่ยนคําบริกรรม ว่า ตาย หนอ
    หายใจเข้าว่า ตาย หายใจออกว่า หนอ ดูครับ แล้วก็ใช้ อานาปานสติ ควบคู่ไปด้วยครับ

    รองดูกิเลสในความง่วง มันจะวิ่งหนีคุณไหม ถ้าวิ่งหนี แสดงว่า คุณได้ฆ่ากิเลสในความง่วงนั้นแล้ว

    สาธุเจริญธรรม
     
  8. qillip

    qillip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +366
    ผมคาดว่าไม่ใช่ความง่วงครับ กำลังจะเข้าถึงฌานต่างหากครับ
    ที่รู้สึกแบบนั้น เป็นเพราะจิตยังตามกำลังฌานไม่ทันครับ เลยเกิดอาการแบบนั้น
    พยายามจับลมหายใจ(อานาปานสติ) หรือคำภาวนาให้ได้ครับ
    สำหรับผมถนัดจับลมหายใจ
    พยายามต่อไปครับ แล้วจะค่อยๆผ่านไปเองครับ
     
  9. สุทธินันท์

    สุทธินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +362
    ผมก็เป็นเหมือนกับคุณนั่นแหละครับ แต่ผมแก้เรื่องแบบนี้ได้เมื่อผมได้ฟังวิธีการปฏิบัติของหลวงพ่อเทียน มันไม่แปลกหรอกครับที่อยู่นิ่งๆ เหมือนสะกดจิตตัวเองแล้วมันก็ง่วงหลับ เกาให้มันถูกที่ถึงจะหายคันครับ ต้องการศึกษาหาความจริงของอะไรก็ต้องทำที่ตรงนั้น...
     
  10. sanjames

    sanjames Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +46
    เป็นเหมือนกันเลยครับ ผมเวลานั่งก็รู้สึกวูปๆ พอตั้งสติได้ก็ค่อยมาจับลมหายใจใหม่ แล้วก็วูปอีก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ
     
  11. ดำฤษณา

    ดำฤษณา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +205
    เป็นนิมิตหมายที่ดีครับ จากประสบการณ์ของผมก็เป็นเช่นกัน วูปเข้ามาแล้วมันจะสว่างใช่ไหมครับสติจะคมชัดขึ้นเรื่อย ไม่ต้องตื่นเต้นอะไรนิ่งเข้าไว้ปล่อยไปตามธรรมชาติ ยิ่งวูปบ่อยๆยิ่งดี จะสังเกตุได้ว่าแต่ละครั้งที่วูปเข้ามาสติจะชัดขึ้นความฟุ้งซ่านกวัดแกว่งปวดเมื่อยจะหายไปทีละสะเต็บจนกระทั่งเบาสบายร่างกายหายไปเหลือแต่จิตสงบนิ่งอยู่ ถ้าไม่ล้มเลิกไปเสียก่อนนะครับ หากวูปแล้วรู้สึกตัวมาบังคับตนเองใหจับคำภาวนาใหม่แล้ววูปอีกวนไปมาไม่ถึงไหนให้แก้ด้วยการวางความรู้สึกตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นคาดเดาอาการทั้งหลายนั่นลงและก่อนทำสมาธิให้เคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยลงก่อนค่อยมาทำ เวลาเปิดประตูเข้าบ้านจะได้ไม่ลื่นพรมอีก การวูปเป็นการทำงานของสติที่มีกำลังนั่นเอง
    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ครั้งต่อไปนะครับ..ถ้าเกิดอาการอย่างนี้อีกอย่าลืมตานะครับ..
    เพราะจะทำให้หลุดจากอารมย์ตรงนั้น.จริงอยู่สติอาจกลับมา
    แต่ขาดความสมดุลกับระดับสมาธิ.เป็นเหตุทำให้กลับมา
    สู่จุดเริ่มต้นใหม่ทำให้การที่จะพัฒนาในขั้นต่อไปจะช้า

    อาจทำให้เราต้องใช้เวลานานกว่าจะผ่านตรงจุดนี้ได้
    และจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดได้..
    พอเราจะตั้งใจนั่งสมาธิอีกก็ทำให้เราหนื่อยกว่าปกติ.
    และสุดท้ายเป็นเหตุให้เราขี้เกียจได้ครับ.และ
    ให้ค่อยๆยกไหล่เราขึ้นทั้งๆที่หลับตาอยู่เพื่อให้ไหล่ตรง
    ร่วมกับการยกหน้าอกจะทำให้กลับมาอยู่ในท่านั่งสมาธิเหมือนเดิมได้
    ทำอย่างนี้จะเป็นการดึงสติให้กลับมาโดยธรรมชาติ
    และไม่ทำให้ระดับของสมาธิตกลง
    จะทำให้นั่งต่อไปได้และพัฒนาต่อไปได้ในอีกระดับหนึ่งครับ
     
  13. Note_nt

    Note_nt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +88
    ถ้าเป็นเหมือนผมคือ ภาวนาไปแล้วพอจิตสงบ ก็เลิกภาวนา ปล่อยจิตไม่คิดอะไรสบายไปเรื่อย กำลังสติก็ค่อยอ่อนไปเรื่อย ก็วูบ วูบ มันคือการตกภวังค์ครับ มีพี่นับถือสอนว่า การทำสมถกรรมฐานคืองานของจิตต้องทำงาน ต้องภาวนา อย่าปล่อยไม่ภาวนาสบายไปเรื่อย จะเลิกภาวนาก็ต่อเมื่อพิจารณาธรรมเท่านั้น กลับไปกลับมา
     
  14. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ขอนุญาติ ขนะที่จะหลับนะมันจะวูบ ลง วูบ ลง ใช้สติครับ ไม่้ต้องภาวนา ตามดูเลยว่าจะหมดสติตอนไหน (ของผมนะ) พอมันวูบ แรกๆ ไม่ทัน ก็ตกใจตื่น ให้หายใจเข้าลึก ๆ ยาว ๆ สัก สิบครั้ง แล้วเริ่มใหม่ ขณะกำลังวูบก็ตามดู พอวูบลง วูบลง พยามใช้สติตาม พอจะวูบรู้สึกเหมือนเราตกจากที่สูง มันเปลี่ยนจากการตกวูบเป็นย้อนกลับขึ้นมา แ้ล้วอารมย์เป็นหนึ่งเีดียว สติสมบูรณ์ ได้ยินทุกอย่างชัดเจนครับ เมื่อให้จิตตรงนี้พิจารณาความไม่เที่ยง ปิติเกิดเลย อย่างมาก น้ำตาปริ่ม เมื่อคลายสมาธิจะรู้สึกเบา และเป็นสุขครับ ขอนุโมทนา
     
  15. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    ถ้าเริ่มจับได้ว่า จะเผิน (คุณยังไม่เผลอนะ เพราะรู้ว่า จะหลับ) ให้ลุกเดิน ไม่ก็ไปล้างหน้า
    อาจจะต้องเพ่ง มากกว่าเดิม บริกรรมอย่างตั้งใจมากๆ หายใจค่อยข้างแรง เข้า-ออกลึกๆ เผื่อหลับสมาธิได้ (แต่กำลังตกนะ ไม่ค่อยก้าวหน้าอย่างที่คุณบอก)

    ถ้ามันไม่ก้าวหน้าจริงๆ (อย่างที่คุณนึกไว้) ก็ขอให้ตั้งใจว่า การนั่งสมาธินี้ ไม่ใช่เพื่อต้องการก้าวหน้า แต่เพื่อต้องการจิตเป็นสมาธิ เพื่อเป็นการตัดกิเลสว่า "นั่งสมาธิต้องก้าวหน้าเท่านั้น"

    ถ้าถึงเวลาที่จะไปข้างหน้าได้ คุณหลับสมาธิ ก็ก้าวหน้าได้เอง
    แต่อย่าท้อ เสียก่อน
    เราเคยท้อนะ แต่ก็กลับมานั่งคิดว่า การปฎิบัติธรรมอย่าหวังมากเกินไป แต่ก็อย่าพักจนไม่เพียร
     
  16. Wirayos

    Wirayos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +410
    เพิ่งศีกษาครับ มีอาการคล้าย ๆ เจ้าของกระทู้ สาธุด้วยกันหลายคำชี้แนะครับ
     
  17. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    คำภาวนา ชัดๆ ครับ จะได้ช่วยไม่ตกภวังค์ เวลาปฏิบัติ

    ยืนเดินนั่งนอน ปฏิบัติได้หมด
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ว่าแล้ว เจอนิวรณ์ นิวรณ์ ฉันว่าแล้ว
    เป็นตัวขวางกั้น ไม่ให้ผู้ปฏิบัติเข้าสมาธิได้
    อย่างที่คุณเจอนั่นแหละ พอนั่งสงบจิตสงบใจ
    ความง่วงก็เข้ามาขวาง แต่หยุดนั่งเลิกปฏิบัติ
    ก็หายง่วง ทีนี้เอาไหม หาอุบายให้จิตมันคิด
    ไปในทางปัญญ คบคิด ความเป็นของไม่มีตัวตน
    มีความเกิดขึ้น ทรงตัวอยู่ แล้วก็ดับสลายไป
    จะเป็นอุบายถ่ายถอนจากอาการง่วงหงาวหาวนอนได้
    เมื่อเจริญปัญญามากเข้า จิตจะตื่นไม่งว่งนอน
    คุณก็ปฏิบัติดูนะ
     
  19. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844

    ง่วงก็ดูง่วงซิ ดูมันก่อนมันเป็นด่าน ใช่ว่าจะเจอแค่นี้ข้างหน้าก็ต้องเจออีก พอง่วงก็ดูอาการที่ง่วง โดยดูสภาพร่างกายโดยรวมเป็นอย่างไร มือเท้าเป็นอย่างไร ความง่วงมันปรากฏชัด ณ ที่ใด
    วิธีดู ให้ดูสลับกันไปมาอย่าดูที่เดียว ความง่วงมีสมาธิเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ หากดูที่เดียวจะยิ่งง่วงครับ
    มันจะค่อยๆคลายออก มันหายเราก็ทำเหมือนเดิมที่ปฏิบัติ หากมันมาอีกก็ทำใหม่ อย่าไปติดองค์ที่เราปฏิบัติอยู่ ตามนี้ครับ
    เพิ่มเติมในการนั่งจะต้องให้ตัวตรงพอสมควร อย่าปล่อยตามสบายเกินไป หากนั่งสบายไปก็จะเป็นเหมือนเดิมอีก
    เจริญในธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2014
  20. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    ลองอ่านเรื่อง กายในกาย ครับ

    แล้วก็อธิฐานก่อนนั่งครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...