นายสนั่น ไปสวรรค์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สรวงพิมาน, 23 เมษายน 2017.

  1. สรวงพิมาน

    สรวงพิมาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    326
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2017
  2. สรวงพิมาน

    สรวงพิมาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    326
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    ทำบุญอย่างไรได้ไปสวรรค์ชั้นต่างๆ

    พระพุทธเจ้า ได้ตรัสว้ว่า สวรรค์มีทั้งหมด 6 ชั้น ถัดจาก สวรรค์ชั้นที่ 6 ขึ้นไปจะเป็นพรหมโลก 20 ชั้น โดยสวรรค์แต่ละชั้นมีชื่อดังนี้.....

    ชั้นที่ 1 จตุมหาราช
    ชั้นที่ 2 ดาวดึงส์
    ชั้นที่ 3 ยามา
    ชั้นที่ 4 ดุสิต
    ชั้นที่ 5 นิมมานรดี
    ชั้นที่ 6 ปรนิมมิตวสวัตดี

    เมื่อตายไปแล้ว ถ้าได้ขึ้นสวรรค์ เราจะได้ขึ้นสวรรค์ชั้นไหนนั้น แล้วแต่บุญที่เราได้ทำไว้ ว่ามากน้อยขนาดไหน ยิ่งชั้นสูงเท่าไร บุญของผู้นั้น ต้องมากขึ้นตามไปด้วย ถึงจะได้อยู่ในชั้นนั้นๆ

    และทำบุญแบบไหน ถึงจะได้ไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน ขอให้พิจารณาพุทธพจน์นี้.....

    ................................................. Pools-of-Serenity.jpg .......................................................

    พระตถาคต ตรัสว่าบุคคลมีความหวังให้ทาน มีจิตผูกพันในผล แล้วให้ทาน มุ่งการสั่งสมให้ทาน ให้ทานด้วยคิดว่า ตายไปแล้ว จักได้เสวยผลทานนี้ เขาผู้นั้น ให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นจตุมหาราช ครั้นเมื่อสิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังมีการกลับมา คือ...มาสู่ความเป็น (มนุษย์ / สัตว์ฯ) อย่างนี้ ”


    ..........................................................................................................................................


    บางคน เมื่อให้ทานแล้ว ไม่มุ่งหวังผลตอบแทนอะไร เพราะเห็นว่า การให้ทานเป็นความดี ตนก็ให้ทานไป เพื่อกระทำความดี การทำทานแบบนี้ จะมีผลอย่างไร?

    ข้อนี้ พระตถาคต ตรัสว่า “ ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่มีจิตผูกพันในผลให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ตายไปแล้ว จักได้เสวยผลทานนี้ แต่ให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี เขาผู้นั้น เมื่อให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งทวดาชั้นดาวดึงส์ สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังมีการกลับมา คือมาสู่ความเป็น (มนุษย์ / สัตว์ฯ) อย่างนี้

    บางคนให้ทาน ไม่ใช่เพราะหวังผลทาน ไม่ใช่เพราะเห็นว่า การให้ทานเป็นความดี แต่ให้ทานเพราะ มารดา บิดา ปู่ ย่า ตา ยาย เคยให้มา ให้ทานเพื่อรักษาประเพณี จะเป็นอย่างไร?

    พระตถาคต ตรัสว่า “ บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่มีความหวังจึงให้ทาน... ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า ทานเป็นการดี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า มารดา บิดา ปู่ ย่า ตา ยาย เคยให้มา เราก็ไม่ควรทำให้เสียประเพณี เขาให้ทาน คือ ข้าว น้ำ ฯ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเ
    ทวดาชั้นยามา สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังมีการกลับมา คือมาสู่ความเป็น (มนุษย์ / สัตว์ฯ) อย่างนี้ ”

    บางคนให้ทาน ไม่มุ่งผล ไม่เห็นว่า ทานเป็นของดี ไม่ทำตามประเพณี แต่ให้เมื่อมุ่งอนุเคราะห์ แก่พระภิกษุสงฆ์ ผู้ไม่ได้ประกอบอาชีพอย่างตน ผลจะเป็นอย่างไร?

    พระตถาคต ตรัสว่า “ บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า มารดาบิดาปู่ย่าตายายเคยให้มา แต่ให้ท่านด้วยคิดว่า เราหุงหากิน สมณะ และพราหมณ์เหล่านี้ ไม่หุงหากิน เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทานแก่สมณะ หรือพราหมณ์ผู้ไม่หุงหา ไม่สมควร เขาให้ทาน คือ ข้าว น้ำ ฯ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่ง
    เทวดาชั้นดุสิต สิ้นกรรม สิ้นฤทธิ์ สิ้นยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว ยังมีการกลับมา ”

    บางคนให้ทาน ไม่ใช่เพื่อมุ่งหวังผลใดๆ แต่ให้ทาน เพื่อจะกระทำตามตัวอย่าง ของบุคคลสำคัญในอดีต ที่เขาให้มาแล้ว ผลจะเป็นอย่างไร?

    พระตถาคต ตรัสว่า “ บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราหุงหากิน แต่สมณะและพราหมณ์เหล่านี้ หุงหากินไม่ได้ เราหุงหากินได้ จะไม่ให้ทาน แก่สมณะ หรือพราหมณ์ผู้หุงหากินไม่ได้ ไม่สมควร แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนก แจกทาน เหมือนฤาษีแต่ครั้งก่อน เขาให้ทานคือ ข้าว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี สิ้นกรรมแล้ว ยังมีการกลับมา ”

    บางคนให้ทาน ไม่มุ่งหวังผลตอบแทนทางวัตถุ แต่เห็นว่า ให้ทานแล้วสบายใจดี ก็ให้ทาน ผลจะเป็นอย่างไร?

    พระตถาคต ตรัสว่า “ บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนก แจกทาน เหมือนฤาษีแต่ครั้งก่อน แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานอย่างนี้ จิตจะผ่องใส เกิดความปลื้มใจและโสมนัส เขาให้ทานคือข้าว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี สิ้นกรรมแล้ว ยังมีการกลับมา ”

    บางคนให้ทาน ไม่ได้ให้ด้วยเหตุผลต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว แต่ให้เพื่อ ให้ทานนั้น เป็นเครื่องชำระจิตใจ ให้บริสุทธิ์จากกิเลส อันมีความตระหนี่เห็นแก่ตัว เป็นต้น ผลจะเป็นอย่างไร ?

    พระตถาคต ตรัสว่า “ ในการให้ทานนั้น บุคคลไม่มีความหวังให้ทาน ไม่ได้ให้ทานด้วยคิดว่า เมื่อเราให้ทานนี้ จิตจะผ่องใส จะเกิดความปลื้มใจ และโสมนัส แต่ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต เขาให้ทานเช่นนี้แล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นพรหม เขาสิ้นกรรมแล้ว เป็นผู้ไม่ต้องกลับมาอีก ”

    แต่เรานั้น ไม่ได้ทำบุญครั้งเดียวในชีวิต และการที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นไหน นอกจากที่จะตั้งใจขณะทำบุญ แล้วก็ต้องละการทำบาปทั้งหลาย เพื่อให้มีบุญสมกับสวรรค์ชั้นนั้นๆ ด้วย เพราะยิ่งชั้นสูงขึ้น บุญของเราก็ต้องมากขึ้นตามไปด้วย


    ..........................................................................................................................................

    http://seuksaatam.blogspot.com/2013/03/blog-post_19.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...