นิพพานธาตุ มีคุณสมบัติอย่างไร สามารถเป็นตัวผู้รู้ได้หรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Prasit5000, 16 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ไอ้โง้วววววว หน้าสันติเฮีย นิวรณ์ ฟวาย.....เอ๊ย...มึนหัดอ่านภาษาไทยให้เข้าใจด้วยสิ ....รึต้องให้ตู แปลให้ตลอด....ไอ้หน้าสันติเอ๊ย

    ทำรูป จิต เจตสิก ให้นิพพาน...บ้านเตี่ยตู มันไม่ได้หมายความว่า ทำรูปจิตเจตสิกให้มันเป็นนิพพานธาตุ ตามที่บ้านเตี่ยมึนเข้าใจนะเว้ย...ฟวาย

    ตูพูดว่า ทำกายใจให้เป็นนิพพานธาตุ เป็นอสังขตธาตุ...มันมีคำว่าจิตบ้านเตี่ยมึน รวมอยู่ด้วยมั้ย...ฟาย..ไอ้โง้วววววว...ไอ้หน้าสันติ ไอ้หน้าเฮีย...อย่าแปลงเว้ย...

    ก็มึนมันโง้ววววว...ไง..อิ
     
  2. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    แล้วมึนอย่ามาแถ ถียงอีกนะ ว่า กายใจ บ้านเตี่ยมึน ไม่ไช่ ธาตุดินน้ำลมไฟ แล้วมันจะ ทำให้เป็นนิพพานธาตุ ไม่ได้....เถียงมาๆๆๆๆๆ ไอ้ฟาย
     
  3. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    รูป จิต เจตสิก......เนี่ย หมายถึงขันธ์5....นะเว้ย...รูปที่เป็นอรูป นะเว้ย คนละรูปกับ กายใจ ที่เป็นธาตุดินน้ำลมไฟ นะเว้ย...อย่าโง้ววววนะเฟ้ย
     
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ท่องตำรามายังไง ไม่รู้ว่า รูปมี สองแบบ คือ รูปที่ เป็น รูป กับ รูปที่เป็น อรูป

    ทีนี้ก็อย่าโง่....ธาตุก็มีสองแบบ คือ ธาตุที่เป็นรูป กับธาตุที่เป็น อรูป

    ต้องให้ สอนอีกหรือวะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2017
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ทีนี้....เมื่อมีคำว่า.....นิพพาน.....หรือ อนัตตา หรือรู้แล้ว เข้าใจแล้ว หรือ ไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว หมดสิ้นสงสัยแล้ว หมดอวิชชาแล้ว ........อะไรคือ สิ่งที่ใช้รู้...นิพพาน

    ต้องมาเข้าใจก่อนว่า นิพพาน คือ การรู้ว่า อวิชชาในตนเองไม่มีแล้ว...รู้ในตน เรียกว่า สิ่งที่เคยมีอยู่ในตน มัน นิพพาน...มันอนัตตาไปแล้ว

    ทีนี้ นิพพานในตน กับนิพพานธาตุ มันคนละมุมกัน...นิพพานธาตุหมายถึง สิ่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว....เมื่อกายใจตนเอง รู้ และเข้าใจ ในสิ่งที่มีในตน(อวิชชา)มันนิพพานได้...กายใจที่รู้นิพพานนี้...มันจึง ทำการ เชื่อม ถึง รู้ถึง นิพพานธาตุ ที่มีอยู่ก่อนแล้ว....นั่นเอง...
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จึงมีคำว่า ทำจิตให้บริสุทธ์...ชำระอวิชชาในจิต....เมื่อชำระอวิชชาคือ เมื่อ อวิชชามันนิพพานไป ดับไป อนัตตาไป...จิต จึง ไม่ควรจะเรียกมันเหมือนเดิมว่าจิต....ผมเรียกมันว่า ใจ...ที่มันรับรู้ถึงความดับไป ความบริสุทธิ์ การนิพพานของอวิชชา....

    ทีนี้ ทำไมผมไม่เรียกจิต ว่าจิตเหมือนเดิม...เพราะจิตคือ สิ่งที่มันมีมันเกิดขึ้นมาได้ เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย...เกิดเพราะความไม่รู้ จึงมีจิตตาย จิตเคลื่อน จิตจุติ .....
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    มันก็เหมือนเดิม นั่นแหละฮับ

    " ทำไมไม่เรียกจิตเหมือนเดิม "

    น้าจรต้อง ฟังธรรมที่พระพุทธองค์ แสดงให้ดีๆ

    " ทำไมไม่เรียกจิตเหมือนเดิม "

    ไม่ว่าน้าจะ จะเรียกชื่อใหม่ ใช้ศัพท์แสงไหน หรือแม้นกระทั่ง อ้ำอึ้งไม่พูด

    มันเป็นอาการเข้าไปบัญญัติ

    เราไม่ได้สนว่า น้าจรจะใช้ศัพท์เรียกว่าอะไร ถูกต้องไหม

    อาการที่จิตมันพยายามจะคว้าอะไรสักอย่าง มารองรับ จิตที่ดิ้นรน
    หาที่หมายให้เหมือนๆ กริยาจิตอันนั้นแหละ เราเรียกว่า "อุปทานไม่สิ้น"

    ของจริง จึงนิ่งเป็นใบ้

    ของที่พูดได้ แม้นกระซิบ หรือ แอบขมิบในใจ ก็ยังเป็น อุปทานแหลก
    ขันธ์5เอาไปแหลกอยู่ดี ไม่รู้จัก "สติ" เลย

    ทีนี้ ฟังแบบนี้ อย่าเอา ตรรกศาสตร์มาจับ พอจะมี "สติ" เลยคิดว่า
    ต้องใบ้แหลก ขยับไม่ได้ ....

    เราเอา นัยยทางการปฏิบัติฮับ ดังนั้น จิตมันจะขยับเรียกชื่อ ให้รู้ทัน
    อาการเคลื่อนนั้น ดังนั้น " น้ำนิ่งแต่ไหล "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2017
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    น้องๆ หนูๆ คนไหน อ่านข้างบน แล้ว ชักเอ๊อะ อ๊ะ เห็น
    เป้าหมายของการเสวนาธรรม ไม่ใช่เรื่อง การบัญญัติ
    การพูดถูก พูดผิด

    แต่เป็นการ สื่อ เพื่อให้เห็น ช่องทาง ความเพียร บางประการ

    เวลาไปเห็นแล้ว สังเกตเลย ฮับ ปริยัติ จะสิ้นสุด ไม่จำเป็น
    ต้องกล่าวอะไรอีก

    ลำพังแค่ เห็น มรรค ก็แทบจะ แหวกโลก ออกไปแล้ว แทบ
    จะคว่ำสังสารวัฏลงราบตรงหน้าแล้ว แม้นแค่เห็น "ความเพียร"

    พระมหาชนก ว่ายยังไม่ถึงฝั่ง แม้นจะยังไม่เห็นฝั่ง แต่ทุกอย่าง
    ก็พร้อมหมดแล้ว ขณะที่ "มีความเพียร ไม่ประมาท"

    ส่วนอาการ " เข้าไปบัญญัติ " จะเป็นเรื่อง ไร้สามัญผล 1000%
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ผมไม่ได้เรียกชื่อใหม่ อะไรเลย

    เริ่มแรก ทุกคน เข้าใจว่า จิต จิตใจ ใจ มโน อื่นๆ..เป็นอันเดียวกัน

    ก็แค่...ผมเข้าใจ ได้เองว่า รูป จิต เจตสิก ที่มีอวิชชา...มันต่างกันกับ กายใจที่ไม่มีอวิชชาไง....

    รูป จิต เจตสิก....เนี่ย เพราะมีอวิชชา

    กาย ใจ ความคิด....เนี่ย ไม่มีอวิชชา

    ไม่ได้บัญญัติอะไร ขึ้นมาใหม่เลย...อย่าโง้ว.
     
  10. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :);)อ้างตำรา..ตำราดันแต่งมาผิดอีก ทั้งชีวิตผู้เรียน-จึงวนเวียนกันอยู่อย่างนี้ เพราะ ปลอม ปน แต่ง เติม กันเองจนมั่วไปหมด..
    :mad: พระไตรปิฏกฉบับมหามงกุฏ ดันขัดแย้งกันเอง กับพระไตรปิฏกฉบับ มหาจุฬา ..ท่านประยุทธิ์ปยุติ์โต ออกหนังสือมาแก้ว่า.."ตำรามีไว้ให้เรียน-ไม่ได้มีไว้ให้เชื่อ"..โอ้โฮ เจอประโยคนี้ของท่าน ผมนึกถึง ศรีธนญชัย เลยครับ เอ้อออ
    :p ทีนี้ ประชาชนก็เหยื่อของ พวกขายตำรา พระไตรปิฏกไง.
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ไช่ๆๆๆๆๆๆๆๆ เห็นด้วยๆๆๆๆๆๆๆฟ เลย

    คุณก็คนนึงล่ะ ที่ตกเป็นเหยื่อของ ตำรา ว่าด้วย พุทธวจนะ....ตัวอย่างเลยล่ะ

    แล้วยังมีหน้า ไปอ้างคนนั้นคนนี้แต่ง คนนั้นคนนี้เขียน ไม่เหมือนกัน...ไหนอ่ะของแท้....รู้ตัวมั่งนะ ว่า ตนเองก็คือ เหยื่อ คนนึงเหมือนกัน นั่นแหล่ะ

    อ่านมาก คิดมาก ฟุ้งมาก ละเมอมาก....ยังไม่หายเลย รู้ตัวมั้ย
     
  12. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    การยึดถือเอาแต่ พุทธวจนะ โดยไม่ฟังคำอธิบายจากคำสอนสาวก ก็เป็นการสุดโต่ง
    การยึดถือเอาแต่คำสอนสาวก ไม่พิจารณา พุทธพจน์ก็สุดโต่ง
    การศึกษาอย่างไม่มีกิเลสจึงไม่ได้แยก เพราะเห็นประโยชน์ทั้ง 2 ทาง แต่เพราะมีกิเลสตัวมานะทิฎฐิจึงเกิดการยึดถือแบบแยกออกเป็น 2 ทาง
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    ไม่ไช่แบบนั้นหรอกครับ....ไม่ได้หมายความว่า ยึดหรือไม่ยึดหรอกครับ
    เพราะธรรมที่พระศาสดา ชี้คือ การชี้ว่าให้เข้ามาพิสูจน์ ครับ
    พิสูจน์ด้วยการปฏิบัติจริงๆ ไปด้วยครับ
    คือนำเอาร่างกายของตน มาปฏิบัติอย่างจริงจัง แล้วพิสูจน์ว่า ผลการปฏิบัติที่ได้ มันจะตรงกันกับที่สอนหรือ ผลการปฏิบัติจะสามารถพิสูจน์ในธรรม ได้จริงหรือไม่....ต่างหากครับ ไม่เกี่ยวกับ พุทธวจนะ หรือตำรา ใดๆ
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,084
    ค่าพลัง:
    +3,025
    อย่าเอาเรื่องพระศาสดา มาเทียบกับสาวก ...ให้เทียบเฉพาะ กับธรรม ก็พอครับ อย่ายึดในตัวตน ว่าใครพูด....ศาสดาหรือสาวก

    นั่นเพราะ เวลาที่ตัวเราอ่าน สัมผัส ในตัวอักษรนั้น...เราสามารถ สัมผัสได้ถึง ความจริง ที่มีอยู่ในตัวอักษร อยู่แล้ว

    บางครั้ง เราอ่าน เราจะรู้สึกได้เองว่า...สมเหตุสมผลหรือไม่...ถ้า มันยังเข้าใจไม่ได้ อย่าพึ่งตัดสินว่ามันผิด เพราะปัญญาเราเอง อาจจะยังปฏิบัติ ไม่ถึง

    ดังนั้น สัพเพธรรมา...ทุกอย่างคือครู ดูตัวเราต่างหากว่า เรา สามารถมีปัญญาเข้าใจขึ้น หรือเปล่า..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2017
  15. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....สรูปว่าอย่างไร ว่า ทำรูป จิต เจตสิค ให้นิพพาน

    .....แสดงว่า นิพพาน เป็นแค่ คำคุณศัพท์ เป็นคำขยาย ตัววัตถุ เช่น ขยายว่า จิต เป็นจิตชนิดนิพพาน ผมเข้าใจเช่นนี้ถูกหรือไม่

    .....หรือให้ผมเข้าใจว่า นิพพานคือ สิ่งที่ รูป จิต เจตสิค ของผุ้บรรลุธรรมจะกลายไปเป็น

    .....งงจังเลย

    .....ปัญญาผมไม่เหมือนท่าน อย่างผม บอกตรงๆ ว่ามี ก็ว่ามี ไม่มีก็ว่าไม่มี
     
  16. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....รูปประจำตัวน่ารักดีนะ

    .....ทำไมมีแต่คนเครียดกันหมด ไม่มีก็ไม่มีสิครับ ตกลงในร่างกายนี้ไม่มีนิพพานธาตุนะครับ มีแต่จิต เจตสิค รูป ส่วนนิพพาน เขียนทำไมก็ไม่รุ้นะ
     
  17. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....สรูป ก็ทุกท่านกล่าวว่า ไม่มีนิพพานธาตุในร่างกายอันนี้

    .....ร่างกายนี้ก็คงมีแต่ ใจกับกาย หรือ อีกอย่างหนึ่งก็คือมี จิต เจตสิค รูป เท่านั้น หรืออีกอย่างหนี่ง มีแต่ขันธ์ห้าเท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

    ....ผมตั้งใจจะขึ้นหัวข้อ โพสใหม่ผม สัปดาห์หน้า ถ้าโพสนี้ไม่มีคนเชื่อ หัวข้อใหม่ก็้คงไม่มีคนอ่าน ก็จะลองดู เผื่อได้ สหะบาทา อีกทีสนุกดีครับ

    ....เออ มีคนหนี่งครับเชื่อว่ามีเดียวผมขึ้นชื่อก่อน
     
  18. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....ดีใจจังเลย มีคนตอบ ว่านิพพานธาตุ มีคุณสมบัติ เป็นผู้รู้ไม่ได้
    .....อย่างน้อยก็มีคนตอบ ว่านิพพานธาตุมีจริง และมีคุณสมบัติ เป็นผู้รู้ไม่ได้

    .....ถูกผิดไม่ว่ากัน ยังต้องคุยกันอีกยาวไกล
     
  19. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    .....คำว่าธาตุ หมายถึงอะไร

    .....รูปธาตุ ก็คือธาตุที่สามารถจำต้องได้ ด้วยสำผัสของเราหรือเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์
    ....นามธาตุ เป็นธาตุชนิดหนึ่ง ท่านเชื่อตรงนี้หรือไม่ว่า นามธาตุมี หรือไม่มีถ้ามีจะจับต้องได้หรือไม่
    ....นามธรรม กับนามธาตุ ก็ต่างกัน นามธรรม เช่นความดี นามธาตุ เช่น จิต เช่นนิพพานธาตุ

    .....นามธาตุ จะจับต้องได้อย่างไร ท่านจับต้องจิตได้หรือไม่ เป็นต้น
     
  20. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +1,938
    อิอิ ถ้าเป็นสมัยพระศาสดาทรงพระชนม์อยู่ ท่านคงเป็นหนึ่งในในหลายก๊วน ที่ไปคาดคั้นให้พระศาสดาระบุสถานที่อยู่ของนิพพานซินะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...