นิพพาน..ทำได้ง่ายหรือไม่?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย goodjob2u, 20 มิถุนายน 2017.

  1. goodjob2u

    goodjob2u เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    757
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,545
    ทุกวันนี้เราทุกข์ เพราะอะไร?
    ...
    ...
    เราทุกข์เพราะคำ 2 คำ
    คือสิ่งที่...มีเรา
    และสิ่งที่...เรามี
    มีเรา..คืออัตตาหรือตัวกู กูรู้ กูแน่ กูฉลาด กูหล่อ กูสวย กูรวย กูเจ๋ง พวกนี้คือกิเลสไง คือผู้กำกับบทละคร ให้เราต้องไปทำ โน่น นั่น นี่ จนเราเกินเส้นปรกติพอดีของชีวิตมากไป..จนทุกข์กองใหญ่ อยู่กับกูหรือเรานี่ล่ะ

    เรามี..คือสิ่งที่เรามีหรือคำว่าของกู บ้านกู งานกู ลูกกู รถกู ร่างกายกู ทุกอย่างที่เราอยากมี และไม่อยากมี ถ้ามากไปก็ทุกข์อีกเช่นกัน

    ผมได้มีโอกาสดีๆไปฝึกปฏิบัติธรรมมาเน้นแนวทางวิปัสสนาภาวนาคือ..ฝึกให้เกิด..ปัญญาแต่เป็นปัญญาวิมุตติ หรือคือตาปัญญาทางธรรมไม่ใช่ตาเนื้อที่เราลืมตาแล้วเห็นสิ่งต่างบนโลกใบนี้
    ....
    ....
    แต่ให้เห็นตัวกู..หรืออัตตานี่ล่ะ
    ......
    เห็นอย่างไร?
    คือตอนนั่งสมาธิไปเรื่อยๆ..จะเริ่มมีความเจ็บ ปวด เย็น ร้อน อ่อน แข็ง เมื่อย ชา นี่คือให้พิจารณาทุกข์อันเกิดจากกาย..อย่าหนี อย่าขยับ เพราะเราหนีทุกข์ตลอดเวลา เมื่อยลุกเดิน ชาเปลี่ยนขา แต่นี่ทุกข์มาหรืออัตตาที่เกิดจากตัวกูนี่ล่ะพิจารณาไป ปวดตรงไหน เอาจิตไปมองตรงนั้น เหมือนเอาไฟสปอร์ตไลท์ไปส่อง แปลกมาก ความเจ็บปวดมันจะถึงจุดพีคแล้วค่อยๆลดลง จนหายไปแล้วย้ายไปปวดไปเจ็บที่อื่น ก็ตามพิจารณาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้คิดเสมอว่าสิ่งเหล่านี้ ควบคุมไม่ได้ เราควบคุมให้ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่ร้อน ไม่เย็น ไม่ได้ ทุกอย่างคือสิ่งที่ควบคุมไม่ได้หรือที่เราเรียกว่า...อนัตตา
    ...ฝึกสติปัญญาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ตาปัญญาจะเข้าใจว่า สิ่งที่เราพยายามยึด ยื้อ ถือ แบก ในโลก ทุกสิ่งล้วนควบคุมไม่ได้ ทุกอย่างในโลกล้วนตั้งอยู่บนกฏ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปในที่สุด เราจะใช้ชีวิตแบบสมดุลย์พอดี คือไม่สุขมาก และไม่ทุกข์เกินพอดี..เส้นปรกติของชีวิต

    อัตตาเป็นสิ่งที่เราสะสม ทำอะไรเคยชินจนกลายเป็นนิสัย ทำต่อเนื่องหลายปีจนกลายเป็นพฤติกรรม ทำตลอดชีวิตจนกลายเป็นสัญญา(คนทั่วไปเรียกสันดานแต่ทางพระสัญญาร้ายกว่ามาก เพราะจะสามารถข้ามภพชาติได้)

    อัตตา ที่เป็นสัญญาข้ามภพชาติมาเสมือนต้นไม้ใหญ่ แต่ไร้ค่า ไม่ทำประโยชน์แม้แต่ให้ร่มเงาสิ่งมีชีวิตได้พักพิง แต่มนุษย์่เราทุกคนมีต้นไม้พิษนี้ติดตัวกันมาทุกคน แถมคิดว่ามันคือต้นไม้ที่ดี..
    พยายามรดน้ำพรวนดิน ใส่ปุ๋ยมัน ด้วยความโลภ โกรธ หลง กิเลสตัณหาต่างๆ ไม้นี้ยิ่งเติบใหญ่แต่ไร้ค่า...
    ...
    วิชาที่เรียนมาคือวิชาฝึกตัดต้นไม้นี้...
    ...
    เราฝึกตัดอัตตาตัวกู ของกู ด้วยอนัตตาหรือความไม่แน่นอน ควบคุมไม่ได้
    เราก็ต้องฝึก กิ่งไหนตัดได้ง่ายล่ะวางตัดก่อน เอาเลื่อยแห่งปัญญาตัด ค่อยๆตัดไปเรื่อย กำลังของใจกล้าแข็งขึ้นก็ปีนตัด ตัดกิ่งใหญ่ไปเรื่อยๆ จนเหลือตอ ฝึกตัดล่ะวางทุกวันเท่าที่สติระลึกได้ที่หลายๆ ท่านเรียกว่า...ตื่นรู้
    ...จวบจน หน่ออ่อน ใบอ่อนของกิเลสเกิดไม่ทัน จนต้นไม้กิเลสเหลือแต่ตอและฝ่อตายไปในที่สุด...นี่ล่ะ
    ....ถึงล่ะนิพพาน
    thumb-EBB7_59490328.jpg
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    จะทำได้ คือตัวจิตต้องมีตัวไปรู้ถึงต้นตอแห่ง
    การเกิดนั้นๆได้ครับ ทางโลกเรียกปัญญาญาน
    ไม่ใช่ปัญญาทางธรรมในการตัดเฉยๆนะครับ
    มันตัดได้แค่เพียงชั่วคราว เด่วมันก็มีเชื้อย้อนมาให้เกิดอีก
    และมันยังไม่พอที่จะทำให้จิตตัดได้จริงๆครับ
    ตัวปัญญาญานนี้ จะค้นไปถึง ต้นตอแห่งการเกิดนั้นๆ
    จนจิตเห็นเหตุ แล้วจิตจะรู้สาเหตุการเกิด
    และเข้าใจว่าการเกิดเป็นทุกข์
    จิตมันถึงจะไม่อยากเกิดครับ
    นั่นหละจิตมันถึงจะตัดตัวไปรู้
    ถึงจะไม่ยึดติดทุกสิ่งที่อย่างที่
    เป็นเชื้อให้จิตเกิดได้ครับ
    พูดให้หล่อๆ คือ การไปรอบรู้ในกองสังขารนั่นหละครับ

    ดวงจิตที่เข้าสู่ระดับนี้ได้ ถึงมีโอกาส
    ที่จะไม่ได้กลับมาเกิดอีกครับ...

    ไม่งั้นก็จะไปติดกองบุญกองกุศลได้อยู่ครับ

    ยกตัวอย่าง เปรียบท้องฟ้า กับก้อนเมฆ
    ทำตัวเหมือนฟ้า จิตจะสงบ
    ก้อนเมฆเหมือนความคิด มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
    เด่วมันก็เกิดมี และก็เปลี่ยนรูปร่างไปซักพัก ก็หายไป
    บางครั้ง ก็มีฝน มีฟ้าฝ่า มีพายุ มีลม เกิดขึ้นในระหว่าง
    ที่มีเมฆ. จะสมาธิจะทำให้เราไม่สนใจ
    สิ่งต่างๆเหล่านี้
    ปัญญาทางธรรมจะทำให้เรา เข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้มีเป็นธรรมชาติ
    แต่ปัญญาญาน จะทำให้รู้ว่า สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไรนั่นเอง
    ปล. ยกตัวอย่างเทียบๆง่ายๆ หวังว่าจะพอเข้าใจนะครับ

    ปัญญาญานฝึกให้เกิดได้ ต้องใช้สติทางธรรม
    และรู้จักสังเกตุว่า.
    เหตุเกิดตอนไหน
    เหตุเกิดเพราะอะไร
    ดับไปตอนไหน
    ดับเพราะอะไร

    ส่วนมาก นักปฏิบัติตอนที่ดับจะไม่รู้ว่าดับตอนไหน
    ตอนที่เกิดก็มักจะปรุงไปตามเรื่องราวที่เกิดครับ
    ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ...
    ค่อยๆพัฒนากันได้
    ปล.ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตามวาระแห่งตนเองครับ
     
  3. goodjob2u

    goodjob2u เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    757
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,545
    สาธุธรรมครับ จะน้อมนำไปเพียรปฏิบัติต่อครับ ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...