นี่ก็หมาจิ้งจอกอีกตัวหนึ่ง โดยพระอาจารย์เหลียนเซิ่งเหยี่ยนลู่

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย chibasusumu, 26 เมษายน 2017.

  1. chibasusumu

    chibasusumu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +169
    นี่ก็หมาจิ้งจอกอีกตัวหนึ่ง

    มีเศรษฐีคนหนึ่งไปท่องเที่ยวที่ธิเบต ระหว่างเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ ได้ไปไหว้พระในวัดลามะแห่งหนึ่ง เป็นวัดลามะที่เก่าแก่และทรุดโทรม มาก
    พอเศรษฐีคนนี้เห็นก็เกิดจิตเมตตา จึงเอาเงินจำนวนหนึ่งออกมาช่วยซ่อมแซมวัด
    เจ้าอาวาสพระลามะรินโปเชรู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมาก จึงให้การรับรองว่าเศรษฐีผู้นี้คือ “รินโปเช” กลับชาติมาเกิดใหม่
    พอได้รับการยกย่องว่าเป็นรินโปเช เศรษฐีก็บอกกับเจ้าอาวาสว่า
    “ผมไม่ใช่รินโปเชหรอก”
    พระลามะจึงบอก
    “ไม่ต้องห่วง เพราะอาตมารับรองแล้วว่าท่านเป็น”
    “แต่ผมไม่รู้เรื่องพุทธธรรมเลยนะ”
    พระลามะบอกว่า
    “ถึงไม่รู้ก็เป็นพระรินโปเชได้”
    สุดท้ายพ่อค้าคนนี้ จากคนธรรมดาจึงได้กลายเป็นรินโปเช แม้เขาเองไม่แน่ใจ แต่ก็เริ่มหลงใหลในชื่อเสียงเกียรติยศ

    ***************************************************

    หลังจากกลับไปประเทศของตน ข่าวที่เขาเป็นรินโปเชที่ไม่ใช่ชาวธิเบตก็ถูกกระพือร่ำลือเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเขาเป็นคนแรกในประเทศนั้นที่เป็นรินโปเช
    เขาสวมหมวกพุทธะ ขึ้นไปนั่งบนธรรมมาสน์สูง
    เขาสวมชุดแบบลามะ มีพระลามะชาวธิเบตเข้ามายกย่อง มีนิกายเปิดเผย นิกายลับ (มนตรยาน) มีพระสงฆ์ใหญ่ พระลามะใหญ่ ต่างก็มายกย่องเขามากมาย
    เวลานี้เขาได้กลายเป็นรินโปเชไปเสียแล้ว
    เขาคลุมหัวให้พรผู้อื่น
    แผ่บารมีปกคลุมผู้อื่น
    ทำพิธีพุทธาภิเษกให้ผู้อื่น
    เขาเพียงท่องว่า “โอม อา ฮุ่ม” ผู้คนใต้ธรรมมาสน์ก็ปรบมือเสียงดัง
    เขาเรียนรู้พิธีบางอย่างซึ่งเป็นพุทธธรรมพื้นฐานแบบง่ายๆ แล้วก็มาสร้างวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ทำท่าทางว่าสมเหตุสมผล
    พิธีก็เลียนแบบผู้อื่น จนดูเหมือนเป็นพระรินโปเชผู้กลับชาติมาเกิดใหม่
    สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อน ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิตขนาดนี้
    เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงไม่ทำการค้าขายอีกต่อไป ตั้งใจว่าจากนี้จะเป็นพระรินโปเชใหญ่ เพราะมีผลประโยชน์มากมาย
    การที่สรรพสัตว์ไม่สงสัยในการกระทำของเขาเลยนั้นเป็นเพราะว่า
    1. เขาได้รับการรับรองว่าเป็น “คารินโปเช” กลับชาติมาเกิด
    2. วงการสื่อสารมวลชนเผยแพร่ข่าวรับรองเขา

    ***************************************************

    เมื่ออาตมาเห็นรินโปเชผู้นี้อยู่ในปรโลก ก็ได้ยินท่านพญายมถามว่า
    “เจ้ารู้แจ้งแล้วหรือยัง”
    เขาตอบว่า “ไม่รู้”
    ท่านพญายมถามเขาอีกว่า
    “ความคิดเห็นพุทธธรรมของเจ้าเป็นอย่างไร”
    เขาก็ตอบไม่ได้
    ท่านพญายมถามต่อว่า
    “ในเมื่อเรื่องรู้แจ้งก็ไม่รู้และไม่มีความคิดเห็นเรื่องพุทธธรรม การเป็นรินโปเชของเจ้านั้น เป็นเพียงการแกล้งทำท่าทางเท่านั้นหรือ อย่างนี้ถือเป็นการหลอกลวงสรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วโลก น่ารังเกียจมาก บัดนี้ต้องลงโทษให้ไปเกิดเป็นหมาจิ้งจอกที่ชอบทำท่าทางหลอกลวงผู้อื่น”
    ได้ยินแบบนี้เขาก็ร้องขอว่า
    “ไม่ใช่ความผิดของผม”
    “แล้วเป็นความผิดของใคร”
    “ธรรมราชาผู้รับรองผมต่างหาก”
    ท่านพญายมหัวเราะแล้วบอกว่า
    “ธรรมราชาผู้นี้ไม่มีตา อนาคตก็ให้กลายเป็นหมาจิ้งจอกตาบอดเถอะ”
    “แล้วพวกผู้สื่อข่าวล่ะ”
    ท่านพญายมก็บอกว่า “พวกเห่อตามกันทั้งนั้น”

    ***************************************************

    พออาตมาได้เห็นการนิรมิตแห่งนรกแบบนี้ ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เพราะคนที่ไม่รู้ความจริง ไม่มีวิชาจริง หากถูกยกย่องให้ขึ้นบัลลังก์รัตนะขึ้นมาแล้ว
    มันไม่ใช่ความสุข แต่เป็นความทุกข์
    อาตมาจึงขอถามพวกท่านว่า
    “พวกท่านรู้แจ้งกันแล้วหรือ มีความคิดเห็นต่อพุทธธรรมกันอย่างไร ปัญหานี้ดูเหมือนว่าจะตอบง่าย แต่เอาเข้าจริงก็ตอบยาก เพราะผู้เรียนพุทธบำเพ็ญตน ควรปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา บำเพ็ญจนมีหลักธรรม ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้ว เพียงแกล้งทำท่าทางหลอกลวงผู้อื่น ขอจงระวังไว้…อนาคตจะกลายเป็นหมาจิ้งจอก”
     

แชร์หน้านี้

Loading...