"น้องตามไปเผา" และอาถรรพ์คนผูกคอตาย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย กัณหาชาลี, 4 ธันวาคม 2013.

  1. กัณหาชาลี

    กัณหาชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +423
    ขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆกับตัวผมและครอบครัวให้ฟัง และอาจมีประโยชน์กับหลายๆครอบครัวที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับญาติตัวเองได้บ้าง เพื่อหาวิธีแก้ไขป้องกัน ที่ผมอยากจะเล่าเพราะในวันที่1-2-3-4 ธค. (ผมได้สูญเสียน้องชายผมไปซึ่งตรงกับคืนนี้วันนี้)

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 14ปีมาแล้ว ซึ่งเกิดในช่วงที่ผมได้เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ แต่ก็ได้กลับบ้านทุกเดือน เพราะไม่ได้ใกล้กรุงเทพฯนัก แม่และน้องญาติๆ ผมอยู่จังหวัดปราจีนบุรี ขอลำดับเหตุการณ์แปลกๆตั้งแต่เริ่มดังนี้

    1. รางสังหรณ์
    ได้กลับบ้านไปเที่ยวลอยกระทง ช่วงปลายเดือนพย. ก็มีเหตุให้ผมเอะใจเหมือ่นรางสังหรณ์ คือวัยรุ่นผมกับน้องไม่ค่อยได้สนิทกันมากนักต่างคน ต่างมีกลุ่มเพื่อนไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่คืนลอยกระทงนั้นผมได้ชวนหลานไปเที่ยวงานวัดที่อยู่ใกล้ๆบ้าน อยู่ๆน้องชายผมก็ขอตามไปด้วย พอไปถึงงานก็ไปซื้อกระทง น้องผมก็จัดแจงเลือกกระทงให้ผมอันนี้ซี่ อันนู้นซี่สวย ซึ่งมันผิดปรกตินิสัยเขา แล้วก็เป็นเหมื่อนการสั่งลากับผมเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เที่ยวไปไหนมาไหนด้วยกันตามประสาพี่น้อง

    2. การสูญเสีย และมาตามพี่ชาย

    หลังจากนั้นผมก็ได้เดินทางกลับมากรุงเทพฯ เพื่อย้ายหอพักใหม่ ในช่วงวันที่30 พย.แล้วหลังก็เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นกับน้องชายผม แถมที่บ้านยังไม่สามารถติดต่อผมได้ เพราะสมัยนั้นผมยังไม่มีมือถือใช้ในการติดต่อ ซึ่งรู้อยู่ว่าเมื่อก่อนมื่อถือแพงมากไม่เหมื่อนสมัยนี้เครื่องละ 7-800ก็มีขาย แถมผมยังเพิ่งย้ายห้องพัก ไปอยู่อีกที่นึงยังไม่ทันได้บอกเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ให้ที่บ้านรู้เลย แต่อยู่ๆคืนวันที่ 1-2-3 ก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆขึ้นกับผม คืออยู่ๆก็สะดุ้งตกใจตื่น กลางดึกประมาณตี3 ทั้ง3วันเวลาเดียวกันเปะ เหมื่อนผมอยู่ในอาการตกใจตื่นกลัวอะไรสักอย่างในฝัน สะดุ้งตื่นแบบไม่ธรรมดาแบบตัวลุกขึ้นนั้งเด้งจากเตียงเลยครับ คืนแรกก็แปลกๆใจแล้วก็นอนต่อ พอคืนที่ 2 (วันที่1 ธ.ค)อาการเดียวกันอีก ผมถึงกลับนอนไม่หลับไปยืนตรงระเบียงแล้วมานั้งคิดว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ๆผมก็มีภาพเหมื่อนเห็นคนผูกคอตายขึ้นมาในสมองช่วงวินาทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนวันที่3 ก็มีอาการเดียวกันอีกทำให้ผมร้อนใจมากแต่ก็ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรที่บ้าน จนมาทราบที่หลังอาการเหล่านี้คือการที่น้องชายผมที่เสียไปได้มาตามให้ไปเผาเขาในวันที่ 4 ธค. นี่เอง เนื่องจากแม่ผมร้อนใจมากที่ไม่สามารถติดต่อผมได้ถามหรือติดต่อคนที่รู้จักผมก็ไม่ได้ ก็เลยจุดธูปบอกน้องผมว่า """พี่น้องกันก็ตามกันเองนะแม่หมดปัญญาแล้ว ""

    จนเกิดเหตุการแปลกมากอีกเรื่องนึงจนผมสามารถกลับบ้านไปเผาน้องผมได้ทัน(ในวันที่ 4 ธค.) วันต่อมาพอคืนวันที่ 3 ธค..ประมาณ1 ทุ่ม คือผมนั้งเล่นอยู่หน้ากระจก แล้วเปิดลิ้นชักออก รื้อนู้นนี้ไปอยู่ๆไปเจอเบอร์โทรศัพท์ รุ่นน้องที่ขึ้นมาเรียนกรุงเทพ แล้วบ้านอยู่ไม่ห่างกันมาก อยู่ๆเหมื่อนมีอะไรดลใจไม่รู้ว่าบอกให้โทรหาเขาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งที่ผมไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับน้องคนนี้นะครับอยู่ๆผมก็ลุกเดินออกจากห้อง เดินลงตึก ไปโทรศัพท์หน้าตึก แต่พี่สาวเขารับแล้วก็ถามผมว่า "ใช่ผมไหม(ถามชื่อ) ครับใช่กลับบ้านด่วนเลยมีเรื่องที่บ้านน้องชายเสีย ".......................ผมแทบช๊อคครับ ขึ้นมาห้องนั้งร้องไหร้ เพื่อนที่อยู่ด้วยกันก็ตกใจถามเป็นอะไร ผมร้องอยู่นานมากหลับไม่ลงได้แต่รอให้ถึงเช้าไวๆ เมื่อไหร่จะเช้าจะได้รีบนั้งรถกลับบ้าน เมื่อผมไปถึงทุกคนในงานต่างตกใจ และแปลกใจว่าผมรู้ได้ยังไง มาทันงานเผาได้ยังไง ทั้งที่ทุกคนหมดปัญญาตามผมแล้ว โทรถามทุกคนที่รู้จักผมแล้ว ทุกท่านว่าแปลกไหมละครับ นี้จึงเป็นสาเหตุให้ผมไปทันงานเผาน้องชายผม

    3. น้องผมผูกคอตาย และอาถรรพ์คนผูกคอตาย

    หลังจากอยู่ในงานก็ได้คุยกับแม่-พี่สาว ว่าเกิดอะไรขึ้นผมมากรุงเทพฯได้วันเดียวน้องก็ผูกคอตาย คือเขามีปัญหากับแฟนเขา น้อยเลยคิดสั้น แม่เล่าให้ฟังว่า มันผูกตั้งแต่ในห้องนอนตัวเองแล้ว ใช้สายพัดลมมาผูก แต่ไม่ตายหลุดตกลงมาแม่ได้ยินเสียง ดังในห้องก็มาดู เห็นน้องคลานอยู่ที่พื้น หน้าแดงตกใจก็รีบเอาไปโรงพยาบาล นอนโรงพยาบาล1คืนเช้าก็กลับมาบ้าน แล้วคืนนั้นตอนตี3 น้องผมก็ออกจากบ้านไปที่ท่าน้ำริมแม่น้ำ ผูกคออีกครั้งแต่ครั้งนี้สำเร็จเช้ามาป้าผมไปพบเข้า แม่ทั้งตกใจละเสียใจ แต่มันก็มีเรื่องอาถรรพ์เกิดขึ้นคือ

    พี่สาวผมเล่าให้ฟังว่าฝันว่ามี ผู้หญิงใส่ชุดดำมาเรียกน้องผมหน้าบ้านแล้วพา จุงมือพาน้องผมไปผูก แถมหาเชื่อกให้ ชี้ผูกตรงนั้นนะ ซึ่งตรงจุดที่น้องผมผูกคอนั้นไม่มีไฟ เป็นท่าน้ำเก่าๆ ทั้งมืดแล้วมองไม่เห็นอะไรเลยผมก็ได้ไปดูที่เกิดเหตุมืดจริงๆสำหรับคนที่จะไปหาจุดผูกคอได้ แถมเชื่อกที่ผูกนั้นเป็นเชื่อกแถวๆท่าน้ำนั้นที่จมโคลนอยู่ แล้วน้องผมหาเชือกเส้นนั้นเจอได้ยังไงในเมื่อมันทั้งมืดขนาดนั้น แสดงว่าความฝันของพี่สาวผมอาจจะเป็นความจริง แแล้วได้มีพระ ในวัดแถวบ้านหลวงปู่ที่อยู่กุฏิ ในป่าช้าก็มาบอกว่า " คนที่จงใจตั้งใจผูกคอตายแล้วนั้นให้ ดูแลให้ดีๆถ้าครั้งแรกไม่ตายผูกไม่สำเร็จแล้ว มักจะมีผีไม่ดีมาชักชูงให้ทำจนได้ หลวงปู่เคยเจอคนจะผูกคอตาย แล้วเห็นมีผี2ตนยืนบนบ่า คนที่จะผูกช่วยกันจัดแจง จับเชือกอยู่ ผมฟังแบบนี้ก็นึกถึงตามหน้าข่าวต่างๆคงจะจริงเหมื่อนหลวงปู่ว่า เพราะทำไมคนตามข่าวแค่นั้งผูกคอกับหน้าต่าง -ลูกบิดประตู ที่ๆสามารถจะยื่นได้นี้นาถ้า ทนไม่ไหวก็สามารถจะลุกขึ้นยื่นได้ หรือเป็นเพราะมีผีร้ายช่วยผูกละชักจูง (((จึงอยากจะขอเตือนคนที่มีญาติทำแบบนี้เมื่อรอดมาแล้วครั้งนึง หรือพวกที่ชอบทำพิเรนทำเป็นเอาเชือกผูกคอนั้นให้ระวังให้ดี ""ดังคำโบราณว่าเล่นมีดระวังผีผลัก"" หลวงปู่ยังบอกว่าใครที่รอดแล้ว 1ครั้งให้รีบพามาหาพระให้ทำพิธีให้ ))))

    **************เดี๋ยวมาต่อนะครับหากพิมพ์ตกพิมพ์ผิดพลาดประการใดขออภัยนะครับ*************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2013
  2. ดาวพุธ

    ดาวพุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +483
    สนุกดีครับ....และเป็นความรู้ในเชิงป้องกันไว้ทางนึงด้วยครับ

    รอฟังต่อนะครับ คุณ กัณหาชาลี
     
  3. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    สนุกที่ไหน มันเป็นเรื่องน่าเศร้า และน่าเห็นใจ คนตายก็ตายไป คนอยู่ข้างหลังจะทุกข์ขนาดไหน โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ มันสมควรหรือที่แม่จะต้องมาเผาศพลูกเพราะฆ่าตัวตาย
     
  4. กัณหาชาลี

    กัณหาชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    167
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +423
    4.. คืนเฮี้ยน

    หลังจากที่กลับมาเผาน้องชายแล้ว ที่บ้านก็ได้เล่าให้ฟังว่าน้องเฮี้ยนตั้งแต่คืนแรก คือบ้านป้าจะอยู่ติดประตูวัด มีศาลานั้งเล่นข้างๆ ป้าได้ยินเสียงคนร้องไหร้ อยู่ที่ศาลาข้างวัดจำได้ว่ามันเสียงน้องชายผม ส่วนญาติอีกคนออกไปซื้อของตอนดึกๆ ผ่านศาลา ก็เห็นน้องชายผมนั้งกอดเข่าอยู่ที่ศาลา ในชุดตอนที่ตายคือกางเกงขาสั้น เสื้อยืด จึงได้พากันไปคุยในหมู่ญาติแล้วถามพระ จึงได้ความว่า ตอนเชิญวิญญาณน้องไปที่วัดนั้น ตรงศาลาจะมีคูน้ำำผ่ากลางถนนเป็น (เหมื่อนคลองเล็กๆแล้วนำซีเมนต์มาปิดเป็นถนนข้าม ตอนที่พระไปเชิญวิญญาณน้องไม่ได้บอกให้ข้ามคูน้ำนั้น เลยไปที่วัดไม่ได้ นั้งอยู่ศาลา พระท่านเลยได้ไปทำการเชิญวิญญาณไปที่วัดใหม่อีกรอบ

    หลังนั้นพอถึงวัด ก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นตลอด2-3วันในงานศพคือ น้องชายผมมีลูกแล้ว อายุประมาณ 2 ขวบกว่า ลูกน้องผมเอาแต่ร้องไหร้ชี้ไปทางหน้าโลงศพน้องพยามแต่จะคลานไปแถวๆหน้าโลง สร้างความเศร้าให้หมู่ญาติอย่างมาก "ต่างพูดกันว่าสงสัยเด็กจะเห็นพ่อมัน"

    หลังจากเสร็จงานเผาศพคืนนั้นผมก็นอนพักที่บ้าน แล้วก็เกิดอาการเหมื่อนผีอำ ก็ได้เห็นน้องชายผม ในชุดที่เปลี่ยนแล้วตอนอยู่ในโลงศพเป็นชุดนักศึกษา แต่ไม่เห็นหน้าเป็นหน้าที่ไม่มีหูตาจมูก ยื่นอยู่กับใครสักคนยืนประกบข้าง แต่เป็นเหมื่อนรูปร่างไม่ชัดเจนนัก สักพักก็หลุดจากอาการอำก็ลุกขึ้นสวดมนต์ ((คิดว่าน้องคงมาลาผม หรือมาหลอกผมกันนะเพราะเล่นทำหน้าบานใหญ่เท่ากระด้ง)) ทุกวันนี้ผมก็ยังฝันถึงน้องชายคนนี้อยู่เรื่อยๆ เพราะคิดว่าน้องชายคงยังไม่ไปไหนจากผลกรรมของเขาที่ได้ฆ่าตัวตาย เมื่อคืนนี้ก็ยังฝันว่าได้เห็นน้องชายอยู่เลยครับ

     
  5. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    เป็นอุทาหรณ์อย่างดี เชื่อว่าวิญญาณของผู้ตาย หลังจากรู้ว่าตายเพราะฆ่าตัวเองก็คงเศร้า นึกเสียใจเสียดายไม่น่าฆ่าตัวเอง จึงต้องทรมานเช่นนี้ แต่เชื่อว่าเวปนี้ไม่มีใครคิดฆ่าตัวตาย เพราะต่างก็มีธรรมะของพระพุทธเจ้า ถึงมีวิบากกรรมเข้าเทรก เมื่อนึกถึงองค์พระพุทธเจ้า หรือครูบาอาจารย์ที่ตนเองเคารพ ก็คงเบรกทัน บุญรักษาทุกท่านนะคะ
     
  6. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    น่าสงสารจังค่ะ ....อ่านดูแล้ว คิดว่าแกคงอยากจะมาแจ้งข่าวถึงความทุกข์ทรมานกับคุณ
    หมั่นทำบุญอุทิศบุญกุศลให้น้องชายบ่อยๆ พ่อแม่ พี่น้อง จิตสามารถสื่อถึงกันได้อยู่แล้ว
    อธิษฐานจิตให้เค้าไม่ต้องห่วงกังวลใดๆ

    ตอนเด็กๆ เคยคิดฆ่าตัวตายเหมือนกัน (เป็นหนแรกและหนสุดท้าย...ด้วยเหตุผลไม่ได้สำคัญมากมายอะไรเลย)
    แต่พอคิดถึงพ่อกับแม่ว่าจะเสียใจขนาดไหน ตั้งแต่บัดนั้นไม่คิดจะฆ่าตัวตายอีกเลย
     
  7. ชายหล่อ

    ชายหล่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +184
    อ่านไปขนลุกไปครับ แต่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
     
  8. Tom & Jerry

    Tom & Jerry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +536
    ขอให้น้องชายคุณสู่สุขคติค่ะ คุณพี่ชายถ้าบวชแล้วปฏิบัติกรรมฐานก็จะดีมากๆนะคะ บุญกุศลของพี่ชายจะส่งถึงน้องชายแน่นอนค่ะ
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ขอบคุณที่เล่าให้ฟังครับ..ถ้ายังฝันเห็นได้อยู่แสดงว่าเราเองที่จะเป็นคนที่
    จะช่วยเค้าได้ดีที่สุดในกรณีนี้ครับ..ทุกครั้งที่ทำบุญให้เค้าให้ระลึกในใจเรา
    บอกเค้าว่าให้ทำใจให้เป็นกลางที่สุด.ทางนี้ไม่มีอะไรต้องห่วง.เค้าถึงจะพอรับ
    ได้ผลบุญได้บ้างครับ.แม้ไม่ทั้งหมดเพราะมีตัววิบากกรรมที่ทำให้ฆ่าตัวตาย
    มาขวางตัวนี้ไว้อยู่.แต่ผลบุญที่เหลือจะยังไม่ไปไหนและยังอยู่..จนกระทั่งบุญ
    ที่เราทำให้บ่อยๆย้ำว่าบ่อยๆนะครับ.มันจะมากกว่าตัววิบากกรรมตัวนี้ครับ.บุญที่
    เหลือที่เราเคยทำทั้งหมดเค้าก็จะรับอีกทีแบบเต็มๆ..

    แต่ตอนนี้แม้ว่าจะให้แบบสะสมแต่ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นที่ตัวเค้าได้ครับ
    หากเค้าได้รับ.ตอนทำบุญอีกส่วนให้อุทิศบอกว่าขอให้เป็นกำลังในการมาเค้าฝัน
    เพื่อมายืนยันว่าได้บุญด้วยนะครับ.เราจะเห็นได้เริ่มจากหน้าตาเค้าจะเริ่มชัด
    เจนแต่สีผิวเค้ายังซีดๆอยู่ดูสลับเป็นสองสีระหว่างเขียวๆปนๆน้ำตาล
    ..และต่อมาจะพัฒนาเป็นหน้าตาเริ่มชัด
    สีผิวดูดีขึ้นออกขาวเหลืองแต่ยังไม่ใส..
    และพัฒนาขึ้นมาเป็นสีใสขึ้นคล้ายผิวคนทั่วไปแต่ดูเรียบ
    .ในช่วงนี้เค้าจะพอมีกำลังไปเข้าฝันใครได้อีกหลายๆคนที่เค้าเป็น
    ห่วงในลักษณะเหมือนเค้าเป็นคนปกติได้.
    และเราก็ทำบุญให้เค้าอีกเรื่อยๆครับ.
    .ต่อมาเค้าจะพัฒนาขึ้นมาอาจมาหาหรือมาสัมผัส
    เราได้เลยในลักษณะที่เรารู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาจับเราแบบคล้ายๆเป็นกระแสลม
    ..และต่อไปเจะเรียกเราทางหูด้านขวาในขนานกับหูเราได้อย่างนี้ถือ
    ว่าเริ่มดีเกือบสุดๆแล้วครับ.
    .
    และทำต่อไปอีกผิวเค้าจะเปลี่ยนไปสู่ภูมิกึ่งๆเทวดาได้
    ในลักษณะสีผิวออกสีขาวๆแต่ว่าจะมาในชุดสีขาวแบบหลวมคล้ายๆ
    ชุดคนปฏิบัติธรรมและเค้าจะมีความสบายในระดับภูมิของเค้าแล้วครับ.
    .ที่เหลือก็รอเวลาที่อายุไขจริงๆ
    บนโลกของเค้าจะสิ้นสุดลงก็จะถึงเวลาที่.
    เค้าจะรับบุญส่วนที่เหลือซึ่งก็แล้วแต่ว่าเค้า
    จะเสวยผลบุญนั้นไปยังที่แห่งหนใด หากเค้าวางใจเป็นกลางได้ในตอนนั้น.
    ก็จะไปตามบุญสู่ที่ดีๆของเค้าได้เองครับ.

    แต่เราต้องทำบุญแบบเจาะจงให้เค้าคนเดียวนะครับ.
    และอย่าลืมบอกให้เค้าวางใจเป็นกลางด้วยทุกครั้ง.
    และจะให้ดีขอบารมีพระรัตนตรัยร่วมด้วยและบอกให้เค้าพูด
    คำว่าโมทนาทุกครั้งด้วยครับ..

    ตอนนี้จะให้ดีซื้อพระพุทธรูปหน้าตัก นิ้วแกะสลักชื่อเค้าไว้ด้วยเพื่อประกันความชัวในผลบุญที่เค้าจะได้รับครับ.
    .วิธีการที่แนะนำแม้ว่าจะไม่ทำให้เค้าไปยังภพภูมิที่ดีสุดเหมือนใจเราคลาดไว้.
    แต่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในระดับที่เหมาะสมกับลักษณะการตายของเค้า
    ในระดับสูงสุดคือภูมิกึ่งๆเทวดานั่นหละครับ.

    ปล.ยังไงค่อยๆอ่านและสุดแล้วแต่จะนำไปประกอบการพิจารณาดูนะครับ
    เรื่องทำนองนี้ส่วนตัวพอมีประสบการณ์การณ์ตรงครับ
    .และเห็นการเปลี่ยนแปลงอยู่กับพวกนี้ตั้งแต่คืนแรกและมาเรื่อยๆจนถึงภูมิล่าสุด
    และได้ติดทำการติดตามลักษณะการเปลี่ยนแปลงของภพภูมิลักษณะนี้
    มาตลอดเลยมั่นใจว่าวิธีการนี้ได้ค่อนข้างได้ผลแน่นอน.

    เพราะตอนนั้นโดยส่วนตัวมีแต่ตัว
    ได้รุ่นพี่ ได้ผู้ใหญ่ที่พอเข้าใจคอยช่วยเหลือ.
    แถมยังที่มีคน..เปรียบได้ว่าคอยเอามีดแทงข้างหลังอยู่ไม่รู้กี่สิบ
    และตอนนั้นโลกใบนี้มีแค่ลมหายใจเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแค่คนเดียว.
    และสมาธิบวกกับกำลังใจที่เราเชื่อในสิ่งที่เราทำว่ามันถูกว่ามันดี
    .ในช่วงระหว่างที่กำลังทำนั้น..ได้ระดับบุคคลที่หลายๆท่านเชื่อว่าท่านเป็น
    พระมหาโพธิสัตว์ท่านหนึ่งมาให้กำลังใจในนิมิตรเพื่อมาหนุนตรงจุดนี้
    .เลยค่อนข้างมั่นใจได้ว่าประสบการณ์ตรงและสิ่งที่เคยทำมาแล้ว
    และนำมาแนะนำคุณจะก่อให้เกิดประโยชน์กับคุณบ้างไม่มากก็น้อยครับ

    ขอบคุณครับ..​
     
  10. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... เข้ามาอ่าน .. ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เรื่องน้องชาย ...


    .... กาลีนะ ไม่แนะนำอะไรเพิ่มเติมเพราะพี่ Nopphakan พูดไว้ดีแล้ว .. อาจจะแค่มายืนยันว่า .. มันใช้ได้ผลคะจะช้า หรือ เร็วอยู่ที่ใจคนทำนะคะ .. เพราะประสบกาณ์ส่วนตัว กาลีนะ ก็เจอ และ ทำมาแล้วได้ผลดีคะ .. ในเคสของแฟนที่ตายเพราะอุบัติเหตุ .. เพียงแค่เขาอาจมีพลังมากกว่าน้องของคุณแค่นั้นที่จะแสดงอะไร ๆ ให้เราได้ทราบถึงการมีอยู่ของเขา .. ก็ติดต่อกันเรื่อย ๆ ผ่านสื่อกลางทำให้ทราบว่าบุญที่ทำให้เขาได้รับเขาไม่ลำบาก และ ปรับภพภูมิดีขึ้นกว่าตอนแรก .. ยังไงก้ขอให้สำเร็จนะคะ
     
  11. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    ดิฉันใช้วิธีสวดมนต์ปรับภพภูมิตามสายหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ให้แก่ญาติที่เสียชีวิต อาจจะด้วยเหตุนี้ก็ได้เพราะเขามาเข้าฝันบ่อยกว่าครอบครัวเขาเสียอีก และจะด้วยเหตุใดไม่ทราบในฝันของวันหนึ่งก็ถามเขาว่าทำไมถึงตาย เขาก็พูดเรียบๆสั้นๆว่า ที่จริงจะตายตั้งแต่เด็กแล้ว พอโทรไปเล่าให้แม่ฟังถึงได้รู้ว่า ญาติท่านนั้นในวัยเด็กป่วยบ่อยเหมือนจะตายตั้งแต่เด็กจริงๆ พอดีแม่เขาไปดูดวงให้ลูก หมอดูเลยแนะนำให้ไปยกให้เป็นลูกบุญธรรมของคนอื่น พอทำตามนั้นแกก็เลยไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่ก็มีพระว่าไว้ว่าเขาจะอายุไม่ยืน ในที่สุดญาติท่านนี้ก็เสียชีวิตเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเสียชีวิตในวัย38ปี ดั่งที่เคยเล่าไว้แล้วที่เขาไปค้างคืนเฝ้าแม่ที่ป่วยหนักที่รพ แต่กลายเป็นลูกที่ร่างกายกำยำแข็งแรงกลับนอนเสียชีวิตซะเองตรงระเบียงริมทางเดินหน้าห้องผู้ป่วย
    หลังจากนั้นแกก็มาเข้าฝันบ่อย ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพูด และไปเข้าฝันญาติอีกคนช่วงที่เสียชีวิตไปไม่นานว่ารอทำบุญครบร้อยวันเขาถึงจะไป

    หลังจากที่ทำบุญครบร้อยวันไปแล้วเขาก็มาเข้าฝันครั้งเดียวว่าเขาไปเฝ้าที่ๆหนึ่งที่ดิฉันเห็นในฝันเป็นเหมือนภูเขาที่มีถนนที่จะโค้งๆตัดผ่าน มองเห็นเป็นโค้งๆที่หักศอก แต่ทั้งภูเขามีแต่ป่า เขาก็บอกว่าเขาเฝ้าที่นี่ในบริเวณร้อยเมตร
    ก็มาคิดว่า หรือแกจะไปเป็นเจ้าที่ๆไหนสักแห่งที่เป็นป่าเขา... และหลังจากนั้นมาก็เลยไม่เคยฝันเห็นเขาอีกเลย ถามดูทางบ้านก็ไม่มีใครฝันเห็นอีก

    :(นอกเรื่องเรื่อยเลย) มาช่วยเสริมจขกท พอเป็นอรรถรสนะคะ ^^

    รู้สึกว่าพอเป็นผีแล้วจะรู้อดีตอนาคตได้เองเลย
     
  12. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    ผมเคยคิดฆ่าตัวตาย 3 ครั้ง 2ครั้งแรกผูกคอตายครับ ไม่ตายรอดได้ไงไม่รู้ เหมือนหลุดจากเชือก ยังเด็กอยู่เลย ครั้งหลังอายุ 30 กว่าๆ วางแผนไว้แล้วว่าจะกินยาตาย แต่ลูกยังเล็กอยู่เลยรออีกหน่อย ขอบอกว่ามีคนมาชวนให้กินยาตายจริงๆตอนกลางคืน จะลุกไปกินยาอยู่แล้วนึกถึงลูกว่าจะลำบาก เลยบอกเขาว่ารอก่อน เก็บเงินอีกนิด จนได้เจอธรรมะของพระพุทธเจ้าโดยหลวงพ่อจรัล ไม่งั้นจะต้องเป็นผีบาปไปผุดไปเกิดไม่ได้กี่ร้อยปีก็ไม่รู้ แต่ผมยืนยันได้ว่าที่มาชวนผมตายน่ะ คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว มาไม่บ่อยแต่นานๆมาชวนครั้งหนี่ง เรื่องจริง
     
  13. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ผีมาชวนผูกคอตาย แถมคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวด้วย !
    น่าสนใจ เล่าให้ฟังบ้างซิคะ คุณน้องใหม่
     
  14. น้องใหม่ 2008

    น้องใหม่ 2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    690
    ค่าพลัง:
    +1,906
    เล่าในนี้แล้วกัน ผีมาชวนผูกคอตาย ตอนเด็กผมไม่เจอครับ แต่ใจอยากทำมาก แขวนเชือกยังทำเองเลย แต่ตอนจะกินยาตาย วางแผนใว้หมดแล้ว ยาแผนปัจจุบันหลายชนิด เก็บใว้ในห้องนอนเกือบร้อยเม็ดกะหลับไปเลย สั่งเสียลูกแล้วว่าถ้าผมตายให้ไปอยู่กับป้า ทองรูปพรรณและเงินในสมุดบัญชีมีเท่าไหร่ แต่มานึกว่าเงินสะสมยังน้อย ทองน้อยขายก็ได้ไม่เท่าไร อดทนกับปัญหาอีกสักหน่อย เงินมากกว่านี้แล้วค่อยไป เพราลูกผมจะได้ไม่เป็นภาระกับป้ามากนัก เป็นปีนะครับ ผมนอนเคลิ้มๆในห้องนอน มาทั้งผู้ชาย 1คน หญิง 1 คน แต่งตัวธรรมดา รู้จักผมดีแต่ผมไม่เคยเห็นหน้า มาปลุกให้ตื่น พูดว่าน้องใหม่ กินยาตายได้แล้วนะ มันนานแล้วนะ ผมก็ตื่นจากที่นอนเคลิ้มๆอยู่ แต่ตอนลืมตาไม่เห็นเขาสองคนนะ แต่กำลังจะทำตามที่เขาบอก คือหยิบยาที่เก็บไว้มากิน แต่นึกถึงลูกว่าต้องไปเป็นภาระของพี่สาวผมอีก ยิ่งภาระเยอะอยู่ด้วย พ่อผมก็คงไม่เอาหลานไปเลี้ยงแน่ เพราะไม่เป็นโล้เป็นพายตั้งแต่ไหนมาแล้ว คงเป็นที่พึ่งของหลานไม่ได้ โอ๊ยยังตายไม่ได้ นึกถึงตอนนี้ได้สติครับ ก็เลยมองหาไอ้สองคนนั้น มันอยู่ไหนว่ะ ไม่มีเรานอนอยู่คนเดียว เลยนอนคิดว่าฝันก็ไม่เหมือน มันคืออะไร อีกไม่กี่วันผมก็ได้หนังสือกฎแห่งกรรม พร้อมบทสวดมนต์ ผมก็เลยลองสวดดู ไม่นานครับ สติมา แก้ปัญหาสบาย นีกถึงแล้วผมนี่โง่จริง แต่ไม่เคยลืมสองคนนั้นเลยว่าเป็นอะไร ที่มาให้เราทำแบบนี้ ผมถึงเขื่อครับว่ามีอะไรมาชวนจริงๆ แต่ไม่ได้คุยเป็นเรื่องราวแบบตัวเป็นๆหรอกครับ พูดในสภาพเราครึ่งหลับครึ่งตื่นน่ะ
     
  15. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    อน่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน อย่าเชื่อใจผี

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    เรื่องที่ ๑๒๒ เด็กชายณัฐพร ครุฑานนท์ ตายจากคนเป็นสัมภเวสี

    "..ต่อไปนี้จะเล่าเรื่องตายแล้วไปเป็นผี คือไม่ใช่กลับฟื้นหรือยังไม่เกิดเป็นคน ท่านจะได้ทราบว่า ชีวิตของคนสมัยเป็นผีนั้นมันเต็มไปด้วยความรำเค็ญเพียงใด โปรดทราบไว้ด้วย คำว่า "ผี" เป็นศัพท์ไทยสมัยก่อน ศัพท์จริงของเขาออกเสียงว่า "ปี๋" แปลว่า "มืด" แต่คนไทยเมืองใต้ ลิ้นอ่อนเกินไปนิดหนึ่ง จึงทำให้เสียงเพี้ยนไปกลายเป็นผี ศัพท์ว่าผีนี้ ดูตามภาษาบาลีที่จัดว่าเป็นแม่ภาษาก็ไม่เห็นมี บาลีเรียกผีว่า "อสุรกาย" แปลว่า มีกายไม่กล้า คือคอยหลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าประชาชน เหมือนคนผีๆ ที่คอยหลบๆ ซ่อนๆ เกรงเขาจะลงโทษเพราะตนมีความผิด

    ผีนี้คนเรารวมหมด คือยกยอดเอาตั้งแต่สัมภเวสีจนถึงพรหมรวมเรียกว่า "ผี"ผีถ้าว่ากันตามที่ปรากฏมีอยู่ ๒ พวกคือ
    พวกที่หนึ่ง ได้แก่ผีประเภทรับผลของกรรม คือมีความสุขเพราะบุญบันดาล หรือมีความทุกข์เพราะการบีบคั้นของบาป

    พวกที่สอง ที่เรียกว่า "สัมภเวสี" แปลว่า ผีที่ต้องแสวงหาที่เกิด คือตายเมื่อยังไม่ถึงกำหนดอายุขัย เป็นการตายเพราะอกุศลบางอย่างเข้ามาตัดรอนชีวิต ที่พวกชาวบ้านเรียกว่า "ผีตายโหง"นั่นเอง พวกนี้ตายแล้วยังไม่เสวยผลความดีหรือความชั่ว คือยังไม่ไปนรกหรือสวรรค์ ต้องรอจนกว่าจะสิ้นอายุขัย จึงจะได้รับผล การตายประเภทนี้ ถ้าพบท่านผู้รู้จริงๆ ท่านยับยั้งไม่ให้ตายได้
    อย่าง ท่านอายุวัฒนกุมาร จะต้องตายเมื่อเป็นเด็กเล็ก เพราะอกุศลกรรมบีบคั้น ครั้นเมื่อพ่อแม่นำไปให้พระพุทธเจ้าช่วย พระองค์สงเคราะห์ตัดกรรมนั้นให้ด้วยอำนาจพระรัตนตรัย ในที่สุดท่านอายุวัฒนกุมารกลับ มีอายุอยู่มาได้ถึง ๑๒๐ ปีจึงตาย

    ท่านผู้อ่านจะได้รับทราบเรื่องของผีที่เรียกว่า "สัมภเวสี" ต่อไปนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ ตำบลบางแพ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ท่านผู้เล่าเรื่องนี้ให้ฟังชื่อ "ร.ต.สุภักดิ์ อนุกูล" ท่านเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๐๙ เวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. เด็กชายณัฐพร ครุทานนท์ ชื่อเล่นๆ ว่า "หนุ่ม" เป็นบุตรชายคนรองสุดท้ายของนายสุนทร-นางสุภาพ ครุทานนท์ อยู่บ้านเลขที่ ๔๑/๓ ตำบลบางแพ ได้รับอุบัติเหตุถูกสายไฟฟ้าที่ขาดห้อยอยู่ดูดถึงแก่ความตาย เรื่องของความตายนี้ ทางพระท่านถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าไม่ว่าใครทั้งสิ้นที่เกิดมาแล้วก็ต้องตายเหมือนกันหมด จะตายด้วยโรคอะไรหรืออาการอย่างไร ในที่สุดก็ตายเหมือนกัน พระท่านสอนไม่ให้เสียใจเพราะเหตุแห่งความตายมาถึง คนรับฟังมีมาก แต่รับปฏิบัติคือตัดใจไม่ยอมเศร้าโศกถึงคนตายนี้หายาก เรื่องของการระงับความเศร้าโศกอาลัยในเมื่อมีคนที่รักตายนี้ เป็นเรื่องที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง คนที่จะทำได้แน่นอนไม่มีอารมณ์หวั่นไหวในเรื่องของความตายนั้น ท่านว่ามีพระอรหันต์เท่านั้นที่จะเห็นเรื่องของความตายเป็นของปกติธรรมดา เหมือนเห็นใบไม้ที่แกว่งจนล่วงลงจากต้น ไม่มีความรู้สึกเสียดายห่วงใยใดๆ ถ้าว่ากันตามภาษาชาวบ้าน ถ้ามีคนตายเกิดขึ้นที่บ้านใคร คนที่เกี่ยวข้องเช่นสามีหรือภรรยาของผู้ตายไม่ร้องไห้แสดงความเสียใจ เขาก็หาว่าเป็นคนใจจืดใจดำ กลายเป็นคนไม่ดีไปเสียอีก ต้องแสดงออกถึงความเศร้าโศกรำพัน นั่นแหละเขาจึงจะนิยมว่าเป็นคนดี รักกันจริง เรื่องของความเห็นของพระกับชาวบ้านไม่ใคร่จะลงกันก็อีตอนนี้แหละ

    เป็นอันว่าเมื่อเด็กชายณัฐพรลูกชายตาย คุณสุนทรและคุณสุภาพก็ต้องร้องไห้ตามแบบฉบับของชาวบ้านที่รักลูกทั่วโลก มีการทำบุญตามพิธีสงฆ์ คือพระมาสวดและก็เลี้ยงพระ ในที่สุดก็ยังไม่เผาเอาไปเก็บไว้ที่โกดังวัดใกล้บ้าน เป็นสุสานทำเป็นตัวตึก ท่านผู้เล่าให้ฟังคือ ร.ต.สุภักดิ์ ได้บอกว่าในระยะที่เด็กชายหนุ่มหรือณัฐพรตายตอนแรกๆ ยังไม่มีอะไรปรากฏการณ์ เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนครบ ๘ เดือนเศษ ค่ำวันหนึ่ง น.ส.เฉลียง เด็กที่มาอยู่บ้านนายสุนทรหลังจากเด็กชายหนุ่มตายไปแล้วและไม่เคยรู้จักเด็กมาก่อน

    น.ส.เฉลียง อายุ ๑๖ ปี ขณะที่เธอกำลังนั่งทำงานอยู่นั้นก็เกิดร้องกรี๊ดขึ้นมาเฉยๆ ทุกคนในบ้านพากันแปลกใจ จึงเข้าไปถามสาเหตุที่ร้องส่งเสียงแสดงความหวาดกลัวนั้น น.ส.เฉลียงได้บอกแก่ทุกคนที่เข้าไปถามว่า "เห็นเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ ๓ ปี เข้ามาทางช่องกระจกบานเกล็ด พร้อมกันนั้นก็มีพระสงฆ์ ๒ องค์ตามมา เมื่อทันกันพระทั้ง ๒ องค์ก็ช่วยกันจับเด็กชายคนนั้นคนละแขน พาออกไปทางช่องกระจกบานเกล็ด เธอเห็นอย่างนั้นก็ตกใจกลัวจึงร้องออกมา และเด็กคนที่เห็นนั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนภาพถ่ายเด็กที่แขวนอยู่ที่ห้องรับแขก" เรื่องที่น.ส.เฉลียงบอกนั้นสร้างความสนใจแก่ทุกคนในที่นั้นเป็นพิเศษ เพราะเด็กชายหนุ่มตายเมื่ออายุ ๓ ปี จึงพากันสนใจและแปลกใจไปตามๆ กัน

    วิญญาณของเด็กชายหนุ่มเข้าทรง
    ต่อมาอีกไม่กี่วัน น.ส.เฉลียงทำงานอยู่กลางลานบ้านก็เกิดล้มลงเฉยๆ มีอาการมือเท้าเกร็ง มีเสียงร้องคล้ายเด็กร้องไห้ นางสุภาพเข้าไปสอบถามอยู่นานเกือบชั่วโมง น.ส.เฉลียงจึงพูดด้วย แต่ไม่ได้พูดด้วยสำเนียงเดิมที่เคยพูด กลับออกเสียงเป็นเสียงเด็กบอกชื่อตัวเองว่า "หนูชื่อหนุ่ม คิดถึงแม่สุภาพถึงได้มา คิดถึงพ่อ คิดถึงน้องและครูปั๊ก" (ตามสำเนียงที่เด็กชายหนุ่มเคยเรียก ร.ต. สุภักดิ์ ออกสำเนียงเป็นปั๊กเสมอ เพราะยังพูดไม่ค่อยชัด) แล้วสั่งว่า "วันพรุ่งนี้อย่าให้ครูปั๊กไปไหน หนุ่มมีธุระจะคุยด้วย"

    เมื่อพูดจบอาการของน.ส.เฉลียงก็เป็นปกติ ร.ต.สุภักดิ์บอกว่าบ้านของเขาอยู่ติดกับบ้านของนายสุนทร ทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก เด็กชายหนุ่มก็มีความสนิทสนมกับร.ต.สุภักดิ์มาก เคยมาหาร.ต.สุภักดิ์และเคยติดตามไปในที่ต่างๆ เป็นปกติ คุณสุภักดิ์เป็นคนโสดและมีนิสัยรักเด็ก บางคราวเขาจะเพาะถั่วงอกเพื่อทดลอง เด็กชายหนุ่มก็มาช่วยทำงาน ทำตามประสาเด็กและชอบซักถามเพื่อความเข้าใจ คุณสุภักดิ์รักและชอบในความสนใจของเด็กชายหนุ่มมาก

    ต่อมาเมื่อเด็กชายหนุ่มต้องตายเพราะถูกกระแสไฟฟ้าดูด คุณสุภักดิ์ก็เอาถั่วงอกที่เด็กชายหนุ่มช่วยปลูกนั้นมาผัดและถวายพระ อุทิศส่วนกุศลไปให้ เมื่อทราบจากนางสุภาพว่า เด็กชายหนุ่มต้องการพบ ตอนแรกๆ ก็ไม่ค่อยเชื่อแต่เพื่อจะทราบความจริงว่า เด็กชายหนุ่มจะมาเข้าทรงจริงหรือน.ส.เฉลียงจะเล่นตลกกันแน่ จึงคอยพบตามเวลาที่เด็กนัดไว้

    วันนั้นเป็นวันที่ ๒๑ มิถุนายน เวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. น.ส.เฉลียงก็มีอาการเหมือนเดิม คือมีอาการคล้ายเป็นลมหน้ามืดแล้วก็ล้มลง เป็นอันว่าทราบทั่วกันว่าอาการอย่างนั้นปรากฏก็แสดงว่า วิญญาณของเด็กชายหนุ่มเข้าทรง เมื่อเข้าทรงแล้ว ก่อนจะถามถึงใคร เด็กชายหนุ่มก็ถามหาครูปั๊ก ถามว่า "วันนี้ครูปั๊กมาหรือเปล่า" เมื่อร.ต.สุภักดิ์ตอบว่า "มาและอยู่ที่นี่แล้ว" วิญญาณของเด็กชายหนุ่มก็พูดว่า "หนุ่มคิดถึงครูปั๊กมาก" เขาถามว่า "เวลานี้หนุ่มอยู่ที่ไหน" ตอบว่า "ขณะนี้หนุ่มอยู่ที่ตึก" ถามว่า "ตึกที่หนุ่มอยู่ตั้งอยู่ที่ไหน" ตอบว่า "อยู่ที่วัดใกล้ๆ บ้านนี่เอง"

    เป็นอันทราบได้ว่าวิญญาณของเด็กชายหนุ่มอยู่ที่สุสานวัดใกล้บ้านนั่นเอง เพราะสุสานคือที่เก็บศพเขาทำเป็นตึก ถามว่า "หนุ่มอยู่คนเดียวหรือมีเพื่อนอยู่ด้วย" ตอบว่า "มีพระอยู่ด้วยสององค์ และคนอื่นๆ อีกหลายคน แต่หนุ่มไม่รู้จักชื่อเขาเหล่านั้น"

    สำหรับพระ ๒ องค์ ที่เด็กชายหนุ่มบอกนั้นคือ พระภิกษุเหมือนอายุ ๒๒ ปี และพระภิกษุทองใบอายุ ๕๐ ปี ตายเพราะถูกกระแสไฟฟ้าดูดเหมือนกัน เด็กชายหนุ่มบอกต่อไปว่า "ขณะที่หนุ่มจะต้องตายเพราะถูกกระแสไฟฟ้าดูดนั้น เห็นพระ ๒ องค์นี้มาจับมือจูงไปและบังคับให้จับสายไฟฟ้าที่ขาดตกห้อยลงมา หนุ่มจึงต้องตายจากคน"

    เรื่องการสนทนาระหว่าง ร.ต.สุภักดิ์กับวิญญาณของเด็กชายหนุ่ม เป็นเหตุให้ทราบข้อเท็จจริงที่เป็นข่าวลือกันมานานแล้วว่า คนที่จะต้องตายโหง คือผูกคอตาย ดำนํ้าตาย เป็นต้น ส่วนใหญ่ที่แก้ไขฟื้นคืนชีพมาแล้ว มักจะเล่าให้ฟังว่า ขณะนั้นไม่รู้ตัวว่าทำอย่างนั้น แต่กลับเห็นว่าตนเองกำลังเพลิดเพลินกับอะไรสักอย่างหนึ่ง บางคนก็บอกว่ามีคนมาท้าให้ไปตีกัน จะนำเรื่องที่พบมานี้มาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง เพื่อเป็นการรับรองเรื่องของเด็กชายหนุ่มหรือณัฐพรคนนี้สัก ๒ เรื่อง ขอเล่าสั้นๆ

    คนผูกคอตาย

    เรื่องแรก เกิดขึ้นในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี อำเภอบางปลาม้า รายนี้เป็นผู้หญิงชื่อ "จันทร์" ลูกชายพาหญิงสาวคนหนึ่งมาเพื่ออยู่ร่วมเป็นสามีภรรยา เป็นลูกของคนที่ค่อนข้างจะมั่งคั่งสักหน่อย ท่านแม่ก็พอใจในลูกสะใภ้ พอเวลาล่วงเลยไป ๓ วัน เป็นระยะเวลาสมควรที่จะไปติดต่อรับรองเรื่องบุตรพาลูกสาวเขามา แกก็แต่งตัวเรียบร้อยออกเดินทางจากบ้าน เพื่อจะไปบ้านบิดามารดาของลูกสะใภ้ เพราะเป็นคนรู้จักกันดี บิดามารดาฝ่ายหญิงก็ทราบว่าลูกชายของแม่จันทร์คนนี้พาลูกสาวของเขามา ก็ไม่มีความรังเกียจ ส่งข่าวมาเพื่อให้ไปรับรองตามประเพณี เมื่อออกจากบ้านไปแล้วแทนที่แกจะไปบ้านฝ่ายหญิง ปรากฏว่าแกแวะไปที่ป่าช้าวัดใกล้ๆ กับส้วม แกไต่ขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง บังเอิญขณะนั้นมีพระสงฆ์รูปหนึ่งท่านกำลังนั่งถ่ายอุจจาระอยู่ในส้วม ท่านเห็นเหตุการณ์ตลอด ท่านบอกว่าท่านเห็นแม่จันทร์คนนั้นได้ขึ้นไปบนต้นไม้ มีหญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีกคนหนึ่งขึ้นตามไป

    เมื่อทั้งสองคนขึ้นไปบนต้นไม้เรียบร้อยแล้ว หญิงชื่อจันทร์นั้นก็เปลื้องผ้าสไบออก และเอาชายหนึ่งผูกกับกิ่งไม้ เอาอีกชายหนึ่งผูกที่คอ เมื่อผูกเสร็จหญิงที่ขึ้นตามไปนั้น ก็เอาเท้าถีบแม่จันทร์ให้ตกลงมา ร่างห้อยกับกิ่งไม้ แล้วหญิงคนนั้นก็ขึ้นเหยียบสองบ่าช่วยขย่มพระที่กำลังถ่ายอุจจาระเห็นเข้าอย่างนี้ก็ตกใจ รีบออกจากห้องส้วมวิ่งเข้าไปถึงต้นไม้และไต่ต้นไม้ขึ้นไปช่วยแก้ให้แม่จันทร์พ้นอันตราย พระท่านว่าท่านไม่เห็นหญิงที่เหยียบบ่าลงสวนมาเลย และก็ไม่ทราบว่าหายไปทางไหน เมื่อท่านแก้ให้แม่จันทร์ลงมาแล้ว ด้วยเหตุที่ท่านส่งเสียงเอะอะโวยวายด้วยความตกใจ เป็นเหตุให้เพื่อนพระและคนที่อยู่ใกล้เคียงมากันหลายคน ต่างช่วยกันปฐมพยาบาลเพื่อแก้ไข

    เมื่อฟื้นแล้วสอบถามเรื่องที่มาผูกคอตายและหญิงคนที่มาช่วยให้ตายเร็วเข้า แม่จันทร์ตอบว่า "ไม่รู้ว่าผูกคอตายตามที่ปรากฏ" แกบอกว่าขณะที่ออกจากบ้าน ก็ประสงค์จะไปติดต่อทาบทามขอขมาเรื่องลูกชายพาลูกสาวเพื่อนบ้านมา แต่เมื่อออกจากบ้านปรากฏว่ามีขบวนแห่ มีคนมากเขากำลังเล่นรำกัน คงจะเป็นกลองยาว เพราะสมัยนั้นกำลังนิยมกลองยาว แกก็เข้าไปรำกับเขา ขณะที่ถูกแก้ให้ฟื้นนั้นกำลังรำเพลิน ได้ยินเสียงพระเรียกให้กลับ แกจึงกลับมา

    นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นหลักฐานยืนยันว่า พวกที่จะต้องตายโหง มักจะมีวิญญาณอื่นมาชักนำให้เห็นอาการที่จะทำลายตัวเองเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรง คือทำให้เกิดความเพลิดเพลินในทางสนุกไปเสีย

    คนดำนํ้าตาย

    อีกเรื่องหนึ่ง เกิดขึ้นในเขตตำบลโรงเฆ่ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร คนนี้ชื่อ "มาก" เมื่อปี ๒๔๙๗ ปรากฏว่าเป็นฤดูนํ้ามาก นายมากแกนั่งจักตอกอยู่บนชานเรือนพร้อมด้วยเพื่อนบ้านหลายคนมานั่งจักตอกรวมกัน และคุยกันเพื่อแก้รำคาญ ขณะที่นายมากนั่งจักตอกอยู่ อยู่ๆ แกก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินลงไปที่บันได ขณะนั้นนํ้าท่วมพื้นดินมีระดับเกือบถึงชานเรือน เมื่อแกลงบันไดไปแล้วก็เลยลงไปในนํ้า ดำนํ้าลงไป พวกเพื่อนบ้านคิดว่านายมากคงจะร้อนมาก ถึงได้ลงนํ้าไปทั้งๆ ที่มือถือมีด แต่เมื่อแกดำลงไปในนํ้าเป็นเวลานานเกินไป พวกเพื่อนบ้านเกิดสงสัยจึงลงไปดู เพื่อนบ้านคนหนึ่งดำนํ้าลงไปสำรวจ พบนายมากนั่งกอดบันไดอยู่ จึงช่วยกันดึงเอาตัวขึ้นมา ต้องทำปฐมพยาบาลกันอย่างหนัก เพราะปรากฏว่าแกกินนํ้ามากเกินไป เมื่อแก้ไขฟื้นแล้วเพื่อนบ้านถามว่า "ลงไปในนํ้าทำไม"

    แกตอบว่า "ขณะที่นั่งจักตอกอยู่ด้วยกันนั้น มีคนมาท้าให้แกไปตีกับเขา" ปกติแกเป็นคนไม่ยอมกลัวคน แต่ไม่ข่มเหงใคร ถ้าใครมารุกราน นายมากก็ไม่ยอมงอมืองอเท้าสู้ชนิดเข็มเย็บตาทีเดียว มาคราวนี้เมื่อมีคนมาท้าถึงที่บ้าน แกบอกว่า "เขาขึ้นมาท้าบนชานเรือน ก็เลยลุกขึ้นและเอามีดที่เป็นเครื่องมือจักตอกนั่นแหละ ไปสู้กับผู้บังอาจมาท้าแก" ขณะที่เพื่อนแก้ไขอยู่นั้น แกบอกว่า "กำลังสู้กันนัวทีเดียว"

    นี่แหละท่านทั้งหลาย คนที่จะตายโหง คือตายด้วยอุบัติเหตุ มักจะมีเหตุอื่นมาทำให้หลงผิด เรื่องอย่างนี้เคยรับฟังมาหลายสิบราย มีเรื่องคล้ายคลึงกัน จึงเป็นเหตุให้ชวนสันนิษฐานว่า คนที่จะตายโหง มีผีมาหลอกล่อให้ตาย เพราะบางคนที่มีทุกข์ยิ่งกว่าคนที่ฆ่าตัวตาย เขายังไม่ยอมตาย คนที่ฆ่าตัวตายบางคนมีเรื่องกระทบใจนิดเดียวก็ฆ่าตัวตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2014
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,618
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,017
    Waiting.png
     
  17. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    เคยมีอยู่ช่วงนึง เบื่อชีวิต ปัญหาเยอะ อยู่ๆไเยินเสียงผญ. ฝุดมาในความคิดว่า "ไปผูกคอตายซิ !"
    เท่านั้นค่ะ ดิฉันคิดต่อเลยว่า " แหมมๆ E หนี้ มันจะหลอกให้เราตาย ดีว่าเราพอมีสติบ้าง (จบ)
     
  18. aodlord13

    aodlord13 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +5

แชร์หน้านี้

Loading...