บทความ...กระดานเล่าสู่กันฟัง

ปั้นเองแล้วก็หลงเองค่ะ งามเนอะ 555
เคลือบผิวแล้วนำมาให้ชมกัน เพิ่งเคลือบได้แค่ชั้นเดียวเอง

 

องค์นี้เพิ่งขึ้นเศียร ในตอนแรกจะปั้น 9 เศียร เผลอตัวค่ะขึ้นเศียรประธานใหญ่เลย ก็เลยขอปั้นเป็นเศียรเดียวแล้วกัน น้องที่มาขอให้ปั้นบอกว่าจะนำไปถวายมหาวิทยาลัยสงฆ์แถวๆ ชลบุรี ในวันออกพรรษา ก็เลยขอร่วมบุญด้วยแล้วกันค่ะ ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการปั้น

ปิดกิจของงานปั้นตลอดพรรษาด้วยองค์นี้

 

รายงานความคืบหน้าจ้าาาาาาาาาาาา
องค์มุจลินท์เศียรเดียวแผ่พังพาน ขดเจ็ดชั้น

 

ประวัติของแต่ละองค์ที่ปั้นมา คงไม่ต้องเล่านะคะ เพราะมีข้อมูลในเน็ตอยู่แล้ว สืบหาอ่านคงไม่ยาก

การปั้นองค์นี้ก็มีที่มาอย่างที่บอกกล่าวไปแล้วในความเห็นก่อนหน้านี้ จะนำรูปที่ปั้นในแต่ละช่วงเวลามาลงให้ชมกันเรื่อยๆ นะคะ

ไม่หวงวิชา ไม่หวงรูปแบบ ใครที่สามารถปั้นได้ก็ยินดีค่ะ เพราะเป็นการเผยแพร่คุณความดีของเหล่าพญานาคที่มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา คอยดูแลรักษาศาสนสถาน พระบรมสารีริกธาตุและรอยพระบาทที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก

เป็นการระลึกถึงคุณเทวดา เทวตานุสสติ (1 ในอนุสติ 10)

 

วันนี้ได้รับเพชรสำหรับประดับองค์ค่ะ
เดินทางหลายวันซะเหลือเกิน จัดส่งตั้งแต่วันจันทร์เพิ่งมาถึงวันนี้
เอาฤกษ์ซะด้วยนะ มาถึงวันพระ วันกินเจวันแรกเลย

 

ติดเนตรแล้วค่ะ

 

ลับสมองประลองปัญญา
อ่านแล้วไม่เข้าใจก็ผ่านไปนะจ๊ะ

"ซึ้งหรือไม่ซึ้งซึ่งก็แล้วแต่เธอ เพียงอยากให้เธอเห็นใจ..."
เห็นใจของโลกคือเห็นกาม เห็นใจของธรรมคือเห็นความจริงที่เกิดขึ้นในใจ
เวลาที่เราฟัง อ่าน คิด เราเห็นอะไรเกิดขึ้นที่ใจ นั่นแหละจะบอกว่าเรายังเป็นโลกหรือเป็นธรรม
ไม่ต้องไปคิดให้มันสลับซับซ้อนเลย
เห็นตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและยอมรับมันไป
ถ้ายังไม่ถูกต้องตามธรรมก็แก้ไขไป
มีอยู่แค่นี้ สั้นๆ ง่ายๆ สบายๆ
ปัญญาจะนำพาเราไปเอง
อย่าไปสงสัยและแสวงหา
พูดเยอะก็อุปาทานเยอะ กินดีกว่า ท้องอิ่ม
มีฝรั่งกิมจู 3 ลูก
แต่คงไม่ได้กิน เพราะขี้เกียจเฉาะ
ธรรมที่ไม่น้อมนำไปปฏิบัติจึงไม่มีผลอะไร
เหมือนหมานั่งดูปลากระป๋อง
แล้วก็เห่ากระป๋องที่ใส่ปลา
สิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกเราจะเรียกว่า สภาพธรรม สิ่งที่เกิดขึ้นภายใน เราจะเรียกว่า สภาวะธรรม
อันนี้เป็นความเข้าใจของตนเอง สมมติขึ้นมาเองเพื่อให้ตนเองเข้าใจได้ชัด
เมื่อสภาพธรรมภายนอกเกิด เราน้อมเข้ามาสู่ภายในจึงเกิดสภาวะธรรม
สภาพธรรมภายนอกเกิดจากอายตนะไปกระทบ หรือรูปมากระทบ
เราเห็นเป็นรูป นี่คือสภาพธรรม
พอปรุงแต่งก็เกิดเป็นสภาวะธรรม
ความซับซ้อน ความยาก ความง่าย ล้วนเกิดจากเราผูกปมเอาไว้เอง
ก็ต้องแก้เอง
คนที่ไม่ได้ผูกแก้ให้ไม่ได้ เพราะไม่รู้เงื่อนรู้ปม
เหมือนคนทำงาน งานชนิดเดียวกัน คนหนึ่งทำได้ยากและช้า คนหนึ่งทำได้ง่ายและเร็ว
ก็เป็นเรื่องของเทคนิคเฉพาะตนอันเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา
ทุกข์ก็อย่างเดียวกัน คนหนึ่งแก้ทุกข์ได้ คนหนึ่งแก้ทุกข์ไม่ได้
คนที่แก้ทุกข์ได้ ก็บอกว่าคนที่แก้ทุกข์ไม่ได้เป็นคนโง่ อย่างนี้เป็นต้น
ก็วนกลับไปในเรื่องของเหตุปัจจัยอีก
ทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นวงกลม หาต้นหาปลายไม่เจอ
ก็วนกันอยู่ในวงกลมอย่างนั้น ทำไมไม่คิดออกนอกวงกลมกันล่ะ
พอบอกให้ออกนอกวงกลม ก็บอกว่าไม่เห็นทางออก แหมๆ ก็แค่ยกขาก้าวข้ามมันออกไปแค่นั้นเอง
ทีนี้ที่มันยังไม่ยอมยกขาก้าวข้ามออกไป เพราะมันยังติดใจอะไรๆ ที่มีอยู่ในวงกลมต่างหาก
ยังอยากรู้ว่าเส้นรอบวงยาวเท่าไหร่ เส้นผ่าศูนย์กลางยาวเท่าไหร่ อะไรที่บรรจุไว้ในวงกลมมีเท่าไหร่
เพื่อนๆ ที่มีอยู่ในวงกลมก็เยอะแยะมากมาย คุยกันถูกอกถูกใจดี

เอามาให้อ่านกันแค่นี้ก่อน อิอิ
เอ้าต่อให้อีกนิดนึง หุหุ

ถ้าเรามีความตั้งใจจะสนทนากับใครคนหนึ่ง เราต้องเปิดใจรับกับทุกด้านที่จะต้องกระทบแน่นอนให้ได้ก่อน
วัตถุสองสิ่งกระทบกัน ย่อมเกิดสภาพธรรมตามธรรมชาติที่เป็นไป

 

ใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ

 

เจตนาจะเปลี่ยนไปตามธรรมและปัญญา
เห็นตัวเองเป็นอย่างนั้นนะ
สิ่งใดที่ยังไม่แน่ใจชัด จะไม่เอ่ยปากเลย
ที่จะพูดว่าเห็นชัด เห็นชัด อย่างนี้จะไม่พูดเด็ดขาด เพราะยังมีอะไรที่ชัดกว่าไปเรื่อยๆ
ชัดไปจนหมดชัด
กระเป๋าสตางค์เรามีเงินอยู่เท่าไหร่ เราต้องรู้ของเราเอง
เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ
พอเรามีสตางค์ เราก็ต้องมาคิดวางแผนการใช้จ่าย ชิมิ
ถ้าไม่พอ เราต้องหามาเพิ่ม
เราก็มาคิดหาวิธีหาตังค์เพิ่มอีก
ถ้าเหลือ เราก็มาคิดหาวิธีจัดการ
ให้มันงอกเงย
นี่ต้องคิดตลอดทั้งมีและไม่มี
เหนื่อยนะ
พักเหอะ
จะเอานิพพานต้องทิ้งทุกสิ่งที่มี
ถ้าไม่เอานิพพานก็ต้องหาทุกสิ่งที่ยังไม่มี
แต่เรารอเวลากลับบ้านอย่างเดียว
บ้านคือวิมานของเรา
กิเลสท่วมหัว แต่ไม่ทุกข์
เดี๋ยวนี้มองอะไรก็ไม่เห็น ไม่เห็นผิด ไม่เห็นถูก
สนทนาธรรมจิตใจต้องชื่นบาน ถ้าสนทนาด้วยความตึงเครียดให้หยุดก่อน
แล้วหันมามองพิจารณาตนว่าสนทนาด้วยอะไร
ทุกครั้งที่เริ่มสนทนากิเลสเกิดกันทุกคนนะ ทีนี้ ก็ขึ้นอยู่กับสติในขณะนั้นว่ายับยั้งได้มากน้อยเท่าไหร่
อนัตตา คือไม่มีตัวตน ไม่อยู่ในบังคับบัญชา บังคับให้เกิดไม่ได้ บังคับให้ดับไม่ได้
แล้วคิดว่ากายและจิตเป็นอนัตตาหรือไม่?
อนัตตาเพราะไม่อยู่ในบังคับบัญชา ไม่มีตัวตน ไม่ใช่ตัวตน เพราะเกิดขึ้นไปตามเหตุปัจจัย และดับไปตามเหตุปัจจัย จึงเรียกว่า "อนัตตา"

 

เสร็จสมบูรณ์ค่ะ ท่านปู่มุจลินทนาคราช เวอร์ชั่นดอกบัวทิพย์
พร้อมถวาย จิตตภาวันวิทยาลัย พัทยา ชลบุรี ในวันออกพรรษาที่จะถึงนี้

 

ถ่ายรูปคู่กับปู่ เอามาอวดค่ะ

 

นี่ก็เพิ่งปั้นเสร็จค่ะ

 

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร บอกว่าพิจารณาหนอ มหาพิจารณา
ก็คือการแยบคายในธรรม ให้แยบคายกันให้มากๆ

"ปัจจัตตังเว ทิตัพโพ วิญญูหิติ"

ท่านให้ปฏิบัติเอง ก็จะรู้เอง ความรู้ที่รู้เองนี้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน ต่างกันไปตามปัญญาที่สั่งสม
แคบ กว้าง หยาบ ละเอียด ลึก ตื้น ดังนี้
เมื่อนำมาสนทนากัน จึงมีความเห็นต่างกันไป
ก็เลยเป็นการช่วยกันขุดกิเลส
ปัจจัตตังนั้นเป็นรู้ใน ส่วนรู้นอกนี่ล้วนแล้วแต่ถกกันเรื่องของความหมายในสมมติบัญญัติ
แข่งรู้บัญญัติกันซะเป็นส่วนใหญ่
ประโยชน์ที่ได้คือกิเลสความสะใจ
พระพุทธองค์สอนว่ากิเลสให้โทษ แต่เราๆ กลับชื่นชมกิเลสกัน
เอาคำสอนของพระพุทธองค์มาแลกกิเลส
ไม่ได้นำไปทำให้กิเลสลดลง
หลายๆ คนบอกว่าต้องการนิพพานจึงมาปฏิบัติ แต่พอปฏิบัติไปๆ กลายเป็นพาลไปซะก่อนก็มี

 

กล่องอย่างเน่า แต่ถึงมือผู้รับโดยสวัสดิภาพคร่า
หาไซต์กล่องไม่ได้ก็เลยเอากล่องเก่าๆ มาตัดปะแล้วแพคส่ง อิอิ

 

ทรงเสด็จลงมาเพื่อโปรดชาวประชาทั่วแผ่นดิน
เมื่อจบกิจก็ทรงเสด็จกลับไปยังที่ๆ จากมา

จะขอเทิดทูนคุณแห่งบิดาตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ธ ทรงสถิตย์ในดวงใจลูกหลานไทยทั้งแผ่นดิน

 

เมยาวีปรียามหาราณีเตรมานดู

 

ปั้นด้วยแรงศรัทธาค่ะ
ยังไม่เสร็จนะคะ

 

องค์พระเสร็จเรียบร้อย ปางชนะมาร หน้าตักกว้าง 3.9 นิ้ว ฐานกลีบบัว
๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๙
พระพุทธรัตนอาลัย
นิพพานัง ปรมัง สุขขัง

 

นำมาฝากค่ะ