บทแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลต่างๆ

ในห้อง 'รวมบทสวดมนต์และคาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 กรกฎาคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    พระคาถาเมตตาหลวง ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    จาก วิกิซอร์ซ, สารานุกรมฟรี



    <!-- start content --> พระคาถาเมตตาหลวง (หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

    พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา


    วิธีการสวด
    ให้ไหว้พระ อรหัง สัมมาสัมพพุทโธ , นโม ๓ จบ , พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ฯลฯ เป็นคำเริ่มต้นก่อน


    คำสวดให้เมตตาตน อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพพะยาปัชโฌ โหมิ, อะนีโฆ โหมิ, สุขี อัตตานัง ปริหะรามิ,



    ๑.คำสวดแผ่เมตตา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ๒.สัพเพ ปาณาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๓.สัพเพ ภูตาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๔.สัพเพ ปุคคะลาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๖.สัพพา อิตถิโยอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๗.สัพเพ ปุริสาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๘.สัพเพ อะริยาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๙.สัพเพ อะนะริยาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๑๐.สัพเพ เทวาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๑๑.สัพเพ มนุสสาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๑๒.สัพเพ วินิปาติกาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ




    ๒.คำสวดแผ่กรุณา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๒.สัพเพ ปาณาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๓.สัพเพ ภูตาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๔.สัพเพ ปุคคะลาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๖.สัพพา อิตถิโยสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๗.สัพเพ ปุริสาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๘.สัพเพ อะริยาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๙.สัพเพ อะนะริยาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๑๐.สัพเพ เทวาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๑๑.สัพเพ มนุสสาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๑๒.สัพเพ วินิปาติกาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ



    ๓.คำสวดแผ่มุทิตา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๒.สัพเพ ปาณาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๓.สัพเพ ภูตาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๔.สัพเพ ปุคคะลาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๖.สัพพา อิตถิโยลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๗.สัพเพ ปุริสาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๘.สัพเพ อะริยาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๙.สัพเพ อะนะริยาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๑๐.สัพเพ เทวาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๑๑.สัพเพ มนุสสาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๑๒.สัพเพ วินิปาติกาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ



    ๔.คำสวดแผ่อุเบกขา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๒.สัพเพ ปาณากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๓.สัพเพ ภูตากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๔.สัพเพ ปุคคะลากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๖.สัพพา อิตถิโยกัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๗.สัพเพ ปุริสากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๘.สัพเพ อะริยากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๙.สัพเพ อะนะริยากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๐.สัพเพ เทวากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๑.สัพเพ มนุสสากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๒.สัพเพ วินิปาติกากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ


    อานิสงส์เมตตาพระท่านบอกไว้ว่า สุขัง สุปติ หลับตื่นชื่นตา เสวยสุขอนันต์ ไมฝันลามกร้ายกาจ ปีศาจมนุษย์ชื่นชมหฤหรรษ์ เทวาทุกชั้นช่วยชูรักษา หอก ดาบ ยาพิษ ไฟลุก เข้ามา ครั้นถึงองค์พระโยคาย้อนกลับยับเป็นผง ใจร้ายใจบาปสันดานชั่วหยาบ ระงับดับลงด้วยพรหมวิหารา องค์พระโยคาสุกใส ใครเป็นพิศวง เมื่อตายไปไม่หลงเหมือนคนสามานย์ ส่งผลถึงอัครฐานตราบเท่านิพพานแล
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)

    จาก วิกิซอร์ซ, สารานุกรมฟรี



    <!-- start content --> เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)


    เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อารา เมฯ
    ตัตตระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะวะโต ปัจจัสโสสุงฯ
    ภะคะวา เอตะทะโวจะ เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเส วิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ
    วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ กะตะเม เอกาทะสะ?
    (๑) สุขัง สุปะติ (๒) สุขัง ปะฏิพุชฌะติ (๓) นะ ปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ (๔) มะนุสสานัง ปิโย โหติ
    (๕) อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ (๖) เทวะตา รักขันติ (๗) นาสสะ อัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะติ (๘) ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ
    (๙) มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ (๑๐) อะสัมมุฬฬะโห กาลัง กะโรติ (๑๑) อุตตะริง อัปปะฏิวิชฌันโต พรหมมะโลกูปะโค โหติฯ
    เมตตายะภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเสวิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ
    ยานีกะตายะ วัตถุกะตายะ อะนุฏิฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ
    อัตถิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ
    อัตถิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ
    อัตถิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตีหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?
    กะตีหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?
    กะตีหาการเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?
    ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุติฯ
    สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตะเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    (๑) สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปาณา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ
    อิเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตะเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    (๑) สัพเพ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ
    อิเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตะเมหิ ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขะณายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิยายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขินายะ อะนุทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปาณาอะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อานีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตารายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขิณายะ อะนุทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๑) สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติฯ

    อิเมหิ ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ

    สัพเพสัง สัตตานัง ปีฬะนัง วัชเชตวา
    อะปีฬานะยะ อุปะฆาตัง วัชเชตวา
    อะนุปิฆาเตนะ สันตาปัง วัชเชตวา
    อะสันตาเปนะ ปะริยาทานัง วัชเชตวา
    อะปะริยาทาเนนะ วิเหสัง วัชเชตวา
    อะวิเหสายะ สัพเพ สัตตา อะเวริโน โหนตุ มา เวริโน สุขิโน โหนตุ มา ทุกขิโน สุขิตัตตา โหนตุ มา
    ทุกขิตตาติ อิเมหิ อัฏฐะหากาเรหิ สัพเพ สัตตา เมตตายะตีติ เมตตา ตัง ธัมมัง เจตะยะตีติ
    เจโต สัพพะพะยาปะทะปะริยุฏฐาเนหิ มุจจะตีติ เมตตา จะ เจโตวิมุตติ จาติ เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    เมตตา พรหมมะวิหาระภาวะนา นิฏฐิตา.
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)

    จาก วิกิซอร์ซ, สารานุกรมฟรี



    <!-- start content --> เมตตาพรหมวิหาระภาวนา (มหาเมตตาใหญ่)


    เอวัมเม สุตังฯ เอกัง สะมะยัง ภะคะวา สาวัตถิยัง วิหะระติ เชตะวะเน อะนาถะปิณฑิกัสสะ อารา เมฯ
    ตัตตระ โข ภะคะวา ภิกขู อามันเตสิ ภิกขะโวติ ภะทันเตติ เต ภิกขู ภะวะโต ปัจจัสโสสุงฯ
    ภะคะวา เอตะทะโวจะ เมตตายะ ภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเส วิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ ยานีกะตายะ
    วัตถุกะตายะ อะนุฏฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ กะตะเม เอกาทะสะ?
    (๑) สุขัง สุปะติ (๒) สุขัง ปะฏิพุชฌะติ (๓) นะ ปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติ (๔) มะนุสสานัง ปิโย โหติ
    (๕) อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ (๖) เทวะตา รักขันติ (๗) นาสสะ อัคคิ วา วิสัง วา สัตถัง วา กะมะติ (๘) ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ
    (๙) มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ (๑๐) อะสัมมุฬฬะโห กาลัง กะโรติ (๑๑) อุตตะริง อัปปะฏิวิชฌันโต พรหมมะโลกูปะโค โหติฯ
    เมตตายะภิกขะเว เจโตวิมุตติยา อาเสวิตายะ ภาวิตายะ พะหุลีกะตายะ
    ยานีกะตายะ วัตถุกะตายะ อะนุฏิฐิตายะ ปะริจิตายะ สุสะมารัทธายะ อิเม เอกาทะสานิสังสา ปาฏิกังขาฯ
    อัตถิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ
    อัตถิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ
    อัตถิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตีหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?
    กะตีหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?
    กะตีหาการเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?
    ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุติฯ
    สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตะเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    (๑) สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปาณา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ ภูตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ปุคคะลา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ
    อิเมหิ ปัญจะหากาเรหิ อะโนธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตะเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ

    (๑) สัพเพ อิตถิโย อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปุริสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ อะนะริยา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ เทวา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ มะนุสสา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ วินิปาติกา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตูติ
    อิเมหิ สัตตะหากาเรหิ โอธิโส ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติฯ
    กะตะเมหิ ทะสะหากาเรหิ ทิสา ผะระณา เมตตาเจโตวิมุตติ?

    (๑) สัพเพ ปุรัตถิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๒) สัพเพ ปัจฉิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๓) สัพเพ อุตตะรายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๔) สัพเพ ทักขิณายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๕) สัพเพ ปุรัตถิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๖) สัพเพ ปัจฉิมายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๗) สัพเพ อุตตะรายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๘) สัพเพ ทักขะณายะ อะนุทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๙) สัพเพ เหฏฐิมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
    (๑๐)สัพเพ อุปะริมายะ ทิสายะ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คาถามหาจักรพรรดิ

    จาก วิกิซอร์ซ, สารานุกรมฟรี

    <!-- start content --> บทสวดมหาจักรพรรดิ


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    (กราบ 3 ครั้ง)


    (สวดตามกำลังวัน อาทิตย์ 6 จันทร์ 15 อังคาร 8 พุธ 17 พฤหัส 19 ศุกร์ 21 เสาร์ 10 )


    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ
    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ
    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง
    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย
    อะหังวันทามิ สัพพะโส
    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ






    เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาน




    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
    พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส


    ( 3 หรือ 5 จบ)




    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ


    (ให้อธิฐานจิตแผ่)


    ต่อจากนั้นอธิษฐานแผ่เรื่องส่วนตัวเพื่อประโยชน์ได้




    ที่มา : http://www.watthummuangna.com/
     
  5. shogun69

    shogun69 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +31
    มีแบบ อัดเสียงใสๆ มาให้ฟังมั้งหรือเปล่าจ๊ะ
    อ่านแล้วระทึกใจไปหมดเลย
    แต่ถ้าคนเรามัวพึงพาแต่คาถา ทั้งชาติคงไม่ได้ทำอะไรแน่ๆเลย
    น่าจะพึงพาพลังจิต(ใจ)ของตัวเองมากๆด้วย
    เพราะนั้นคือสิ่งสำคัญและเป็นคาถาสำคัญที่จะพลักดันให้ชิวิตดีขึ้นหรือไปในทางที่ถูกขึ้น สาธุ!
     
  6. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ทำจิตให้มีเมตตาแล้วน้อมใจไปก็สำเร็จประโยชน์.......
     
  7. NIGht Kung

    NIGht Kung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +400
    อนุโมทนา ครับ เยอะเหลือเกิน จำไม่หมดแน่ๆ ปริ้นออกมาอ่าน จะสะดวกกว่า
     
  8. ping_101101

    ping_101101 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +25
    เยอะมากๆๆ
    ถูกต้องเลยที่ควรปริ้นท์ออกมาอ่าน
    เพื่อถนอมสายตาด้วย
     
  9. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ ได้สวดบ้างบางตอนดีจริงๆ สาธุ สาธุ
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    รวม คำอธิษฐานจิต แผ่เมตตา

    [​IMG]


    พิจารณาแผ่เมตตา


    ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข สัตว์ทั้งปวงจงพ้นทุกข์ ขอสัตว์ทั้งปวงจงรู้ทั่วถึง
    ธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงตรัสรู้ไว้ดีแล้ว พระมหาโพธิสัตว์เจ้าก็ได้เจริญใน
    ธรรมนั้นแล้ว ขอธรรมทั้งหลายเหล่านั้นจงบังเกิดมีแก่ข้าและสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
    เทอญ


    ขออุทิศผลบุญนี้ให้แก่บิดาและมารดา ครูบาอาจารย์ ปู่ย่าตายาย ญาติสนิทมิตร
    สหายและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย รวมทั้งท่านผู้มีพระคุณที่ได้ให้อาหารและปัจจัย 4
    แก่ข้าพเจ้า ขอผลบุญนี้ สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นจงมีส่วนอนุโมทนา ข้าพเจ้าขออุทิศ
    ส่วนกุศลนี้ให้แก่เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพและพญายมราช ท่านท้าวจตุ
    โลกบาลทั้ง 4 พระธรณี พระคงคา พระเพลิง พระพาย เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าทุ่ง เจ้าท่า เจ้า
    ถ้ำ เจ้าป่า เจ้าเขา เปรตอสุรกาย ผีสางนางไม้ ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย มิตรทั้งหลาย
    ศัตรูทั้งหลายและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย รวมทั้งสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เวียนว่ายตาย
    เกิดอยู่ในวัฏฏสงสารและ ณ สถานที่แห่งนี้ ขอจงอนุโมทนาและรับส่วนกุศลผลบุญนี้
    ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้วด้วยดีในครั้งนี้ด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จ
    พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุก ๆ พระองค์ ขอจงทรงพระเกษมสำราญ จงมี
    พระชนมายุยิ่งยืนนาน


    ด้วยผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยส่งผลให้ไม่ว่า ข้าจะอยู่ ณ ที่ใด ๆ เกิดในชาติไหน ๆ
    ขอจงเจริญในธรรม รู้ทั่วถึงธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งหลายที่ได้ทรงตรัสรู้ไว้
    ชอบแล้ว พระมหาโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายที่ทรงรู้ทั่วถึงธรรมนั้นแล้วและปฏิบัติธรรม
    นั้นแล้วด้วยดี ธรรมใด ๆ ที่พระอริยสาวกสงฆ์ทั้งหลายได้รู้แล้ว ขอธรรมทั้งปวง
    เหล่านั้นจงเจริญในกายทวาร วจีทวาร มโนทวาร ของข้าพเจ้าทั้งหลาย ณ โอกาส
    บัดนี้เทอญ

    จาก[​IMG]

    อาการจิต 10 : บทที่ 11 การยกระดับจิตในองค์ฌาน
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <table><tbody><tr><td align="middle">[​IMG]
    download


    </td><td align="middle">[​IMG]
    download


    </td><td align="middle">[​IMG]
    download


    </td></tr><tr><td colspan="3" align="middle">[​IMG]

    </td></tr></tbody></table>

    คำอธิษฐานของหลวงปู่เกษม เขมโก


    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"><!-- / icon and title --><!-- message -->“อิทัง กุศลกัมมัง มยา กะตัง”

    กรรมอันเป็นกุศลนี้ อันข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ขอจงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้ามีความสุขกาย

    สบายใจ แม้นจะคิดสิ่งใด ก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการ ขอให้ข้าพเจ้ามีอายุยืนยาว และขอให้พ้นจากโรคภัยให้เจ็บ ทุกประการด้วยเถิด
    ประการหนึ่ง ด้วยเดชะบุญอันข้าพเจ้าได้กระทำนี้ ข้าพเจ้าเกิดมาภพใด ชาติใด ก็ขอให้เกิดพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้าทุกชาติ และขอให้พบนักปราชญ์เจ้า ผู้ใจบุญ ขอให้รู้คุณวิเศษ แท้ดีหลีเถิด

    ประการหนึ่ง ข้าพเจ้าเกิดมาภพใดก็ดี ข้าพเจ้าขออย่าได้พบกรรมอันไม่ดีทุกชาติและขอให้ข้าพเจ้าได้เว้นจากบาป ความชั่วร้ายทุกชนิดเถิด

    ประการหนึ่ง ด้วยบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำมานี้ ข้าพเจ้ายังท่องเที่ยวไปมาในวัฏฏสงสารหลายกำเนิด ยังไม่ได้ถึงพระนิพพานเจ้านั้น ข้าพเจ้าขอตั้งความปราถนา ได้มีใจมั่นคงทุกชนิดและข้าพเจ้าเกิดมาชาติใด มีอะไรขอให้เสมอใจทุกประการ และขอให้ข้าพเจ้าได้ฟังธรรมทุกชนิด

    ขอให้ได้ทำบุญให้ทาน รักษาศีล ภาวนา ทุกชนิด
    และขอให้พ้นจากกิเลส บาป ความชั่วร้ายทั้งมวล เที่ยงแท้ด้วยเถิด
    และขอให้ข้าพเจ้า ได้ถึงนิพพาน อันเป็นสุดยอดของความสุขทั้งปวงด้วยเถิด
    คำปรารถนา(ผาถนา) ของข้าพเจ้ามีดังนี้แล้ว
    ขอให้สมปณิธาน ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งไว้
    อย่าได้คลาดแคล้วสูญหาย เที่ยงแท้แด่เทอญ
    นิพพานปัจจะโย โหตุ เม นิจจัง (ว่า 3 หน)

    สวัสดี
    พระภิกษุเกษม เขมโก
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    นักปราชญ์ฉลาดล้ำไม่พร่ำพูด จะยั้งหยุดวาจาหาเหตุผล
    ไม่ข่มขู่วู่วามตามใจตน ไม่พองขนอวดดีมีปัญญา
    เหมือนมีดคมในฝักพอชักออก ไม่ต้องบอกว่าดีมีคุณค่า
    ต่างก็รู้ทั่วไปในพารา ปรารถนาหาไว้ใช้งานเอย



    คำอธิษฐานจิต


    1. ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดอยากจะได้ดีอะไรลอย ๆ นั่งนอนคอยแต่โชควาสนา โดยไม่ลงมือทำความดีอะไรเลย
    2. ขออย่างให้ข้าพเจ้าเป็นคนลืมตน ดูหมิ่นเหยียดหยาม
    ใคร ๆ ซึ่งอาจด้อยกว่าในทางตำแหน่งฐานะการเงิน หรือในทางวิชาความรู้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
    3. ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้เหยียบย่ำซ้ำเติมผู้ได้พลาดพลั้งลงในการครองชีวิต หรือต้องประสบความทุกข์ ความเดือดร้อน
    ใด ๆ ก็ตามแต่จงมีความกรุณาหาทางช่วยเหลือ ผ่อนคลายความทุกข์ให้เขาเท่าที่สามารถทำได้
    4. ขออย่าให้ข้าพเจ้ารู้สึกริษยา ผู้มีความรู้ความสามารถขึ้นมาทัดเทียมหรือเกือบเท่าเทียมข้าพเจ้าหรือมีผล งานดีเด่นเป็นที่ปรากฏ
    เป็นที่ยกย่องสรรเสริญยินดีของสังคมยิ่งกว่าข้าพเจ้าเลย
    5. ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็งอดทน อย่าเป็นคนขี้บ่น เมื่อมีความยากลำบากเกิดขึ้น
    6. ถ้าข้าพเจ้าได้ทำงานในที่ใด ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบผู้ร่วมงานหรือคิดเอาแต่ได้ในทางส่วนตัวเลย ขออย่าได้ริษยาในความดีผู้อื่น
    7. ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดมักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีหน้ามีตา มีอำนาจอยากเป็นใหญ่เป็นโตเลย ขอให้ข้าพเจ้าใฝ่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย
    ไม่ต้องเดือดร้อนในการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับใคร
    8. ขอให้ข้าพเจ้ามีจิตสำนึกหมั่นปลูกฝังความมีเมตตาปรารถนาดีต่อผู้อื่นและมีกรุณา คิดจะช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์เถิด
    9. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนโกรธง่าย ขอให้มีสติรู้ตัวโดยเร็วว่ากำลังโกรธอย่าคิดประทุษร้ายผู้อื่น หรือคิดสาปแช่งให้
    ใคร ๆ ถึงแก่ความพินาศหายนะล่มจมเลย
    10. ขอให้ข้าพเจ้ามีความรู้ความเข้าใจและสอนใจตนเองได้เกี่ยวกับคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งทางโลกและ
    ทางธรรมเถิด


    อจ.สุชีพ ปุญญานุภาพ
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    อธิษฐานจิตคืออะไร


    อธิษฐานจิตคือแรงบันดาลใจหรือความปรารถนาที่เราจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่เป็นความใฝ่ฝันที่ดีงามให้สำเร็จได้ด้วยการกระทำของเราค่ะ อธิษฐานจิตจึงเป็นเรื่องของเหตุ ไม่ใช่เรื่องของผล ถ้าเราปรารถนาที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ เราก็จะได้รับผลของแรงปรารถนานั้นด้วยการกระทำของเรา ขยันในเหตุค่ะ การที่เรามีความปรารถนาที่จะดำรงชีวิตของเราอย่างคนที่จะพัฒนาสติปัญญาที่จะ ปกป้องเพื่อนมนุษย์ สรรพสัตว์ พืชและสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย นี่ก็เป็นการอธิษฐานจิตที่ดี เวลาที่เราบอกว่าเราจะปกป้องไม่ให้เพื่อนมนุษย์ได้รับการทารุณกรรม นั่นแสดงว่าเราต้องหยุดเบียดเบียน การอธิษฐานที่จะเริ่มต้นที่ตัวเรา ที่หยุดการเบียดเบียนและกระทำสิ่งที่ถูกต้อง นั่นคือการพัฒนาจิตของเรา ที่จะบอกว่าเราจะอธิษฐานที่จะพัฒนาความรัก ที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย อย่างคนที่เข้าใจในการที่จะดำรงชีวิตของเราอย่างไม่เบียดเบียนค่ะ ขอให้ทุกคนมีแรงอธิษฐานที่จะหยุดการกระทำที่เบียดเบียนนะคะ และพัฒนาชีวิตของเราให้มีจิตที่เจริญขึ้นค่ะ


    ธรรมสวัสดีค่ะ

    - จากแม่ชีสันสนีย์ แห่งเสถียรธรรมสถาน -

    http://sathira-dhammasathan.org/inde...1&topgroupid=1

    __________________
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้า(นาย, นาง, นางสาว)............ ได้ทำโดยความสะอาดทั้งกาย วาจา ใจ

    ด้วยสิ่งของในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญกุศลทั้งหลายไปหายัง พ่อ แม่ (บุพการีและบรรพบุรุษ) ที่ล่วงลับไปแล้วและมเหสิกขาเทวบุตร เทวดาผู้รักษาบ้านเมือง เหมืองฝายทุกแห่ง ทุกที่อันรักษาสถานที่นี้เป็นประธานและรักษายังภายบนอากาศอันมีความหมาย มีอากาศา เทวดา พระยาอินทร์ พระยาพรหมพระยายมราช ทั้งหลายตลอดถึงเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่มีมาในอดีตชาติ ซึ่งเกิดมาชาตินี้เป็นคนก็ดี เป็นสัตว์ก็ดี เป็นเปรตวิสัยสัมภเวสีที่ไหน หรือเป็นโรคาพยาธิที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า (นาย, นาง, นางสาว)....................ก็ดี ขอให้มารับเอาส่วนบุญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ขอให้มีความสุข ความสบายด้วยกันทุกฝ่าย และด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้า (นาย, นาง, นางสาว)......................... ได้ทำในครั้งนี้ ขอให้นายหนังสือทั้ง ๓๒ องค์ จดเอาลายหมายเอาชื่อของข้าพเจ้า ใส่ไว้ในสุวรรณบัตรเงิน สุวรรณบัตรคำอย่าได้ผิดพลาดหรือสูญหาย ฉายะอิวะ ขอให้บุญกุศลของข้าพเจ้าที่ได้ทำในครั้งนี้เป็นดังร่มและเงา ติดตามข้าพเจ้าไปทุกภพทุกชาติ นับแต่ชาตินี้เป็นต้นไป จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด ด้วยเทอญ

    ด้วยคำอธิษฐานของข้าพเจ้าในครั้งนี้ ข้าพเจ้า (นาย, นาง, นางสาว).........................ขอให้แม่พระธรณีและโลกทั้ง ๓ รับรู้ รับทราบไว้ด้วยเทอญ

    จาก
    http://www.mindcyber.com/home/index.php?news=343
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    กล่าว นะโม ( 3 จบ ) แล้วอธิษฐานจิต
    คำอธิษฐานจิต


    ขอนอบน้อมแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสงฆ์พระสุปฏิปันโน ข้าพเจ้าทั้งหลายมีเจตนาที่จะจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ขอให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ขอให้ธรรมมะของพระพุทธองค์แพร่หลายครองใจคนและครองสังคม ขอให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาส สร้างพระประธานประจำเมืองภูเก็ต มีพระนามว่า " พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี " ให้สำเร็จ ให้สำเร็จ ให้สำเร็จ ขอผลกุศลนี้จงมารวมเป็นตบะ เดชะ เป็นพลวปัจจัย ส่งผลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมร่วมกันเช่นนี้ และมีโอกาสปฏิบัติสมถ วิปัสสนากัมมัฎฐาน และมีดวงตาเห็นธรรม เห็นโพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ ประกอบไปด้วย มหาสติปัฎฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8 สถิตอยู่ในดวงจิตดวงหทัยของข้าพเจ้าทั้งหลาย ทะลุแทงตลอดพระอภิธรรมทั้ง 7 คัมภีร์ และเข้าสู่หนทางแห่งการดับทุกข์ คือ พระนิพพานในที่สุด
    หากตราบใด ที่ข้าพเจ้ายังไม่ถึงซึ่งพระนิพพาน ขอให้ข้าพเจ้าได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ อริยสมบัติ ทุกภพทุกชาติ ขอให้ได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา และมีโอกาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมในที่สุดด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    [​IMG]
    http://www.mingmongkolphuket.com/pray_jit.htm
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    คำอธิษฐานจิตชองพระสัมมาสัมพุทธะเจ้าเมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์นามสุเมตดาบส



    บุญใด ที่ข้าพเจ้าได้ทำในบัดนี้ เพราะบุญนั้น และการอุทิศแผ่ส่วนบุญนั้น

    ขอให้ข้าพเจ้า ทำให้แจ้ง โลกุตระธรรมเก้า ในทันที

    ข้าพเจ้า เป็นผู้อาภัพอยู่ ยังต้องท่องเที่ยวไป ในวัฏสงสาร

    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ ผู้เที่ยงแท้ ได้รับพยากรณ์ แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ถึงฐานะ แห่งความอาภัพ ๑๘ประการ

    ขอให้ข้าพเจ้า พึงเว้นจากเวรทั้ง ๕ พึงยินดีในการรักษาศีล ไม่เกาะเกี่ยวในกามคุณทั้ง ๕ พึงเว้นจากเปลือกตมดังกล่าว คือกามคุณ

    ขอให้ข้าพเจ้า ไม่พึงประกอบด้วย ทิฐิชั่ว พึงประกอบด้วย ทิฐิที่ดีงาม ไม่พึงคบมิตรชั่ว พึงคบแต่บัณฑิตทุกเมื่อ

    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นบ่อที่เกิดแห่งคุณ คือศรัทธา สติ หิริ โอตตัปปะ ความเพียร และขันติ พึงเป็นผู้ที่ ศัตรูครอบงำไม่ได้ ไม่เป็นคนเขลา คนหลงงมงาย

    ขอให้ข้าพเจ้า เป็นผู้ฉลาดในอุบาย แห่งความเสื่อม และความเจริญ เป็นผู้เฉียบแหลม ในอรรถและธรรม ขอให้ญาณของข้าพเจ้า เป็นไปไม่ข้องขัด ในธรรมมะที่ควรรู้ ประดุจลมพัดไปในอากาศฉะนั้น

    ความปรารถนาใดๆ ของข้าพเจ้า ที่เป็นกุศล ขอให้สำเร็จ โดยง่ายทุกเมื่อ คุณที่ข้าพเจ้า กล่าวมาแล้วทั้งปวงนี้ จงมีแก่ข้าพเจ้า ทุกภพทุกชาติ

    เมื่อใด พระสัมมาสัมพุทธะเจ้า ผู้แสดงธรรมเครื่องพ้นทุกข์ เกิดขึ้นแล้วในโลก เมื่อนั้น ขอให้ข้าพเจ้า พ้นจากกรรมอันชั่วช้าทั้งหลาย เป็นผู้ได้โอกาส แห่งการบรรลุธรรม

    ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ความเป็นมนุษย์ ได้เพศบริสุทธิ์ ได้บรรพชา อุปสมบทแล้ว เป็นคนรักศีล มีศีล ทรงไว้ซึ่งพระศาสนา ของพระบรมศาสดา

    ขอให้เป็นผู้มีการปฏิบัติธรรมได้ โดยสะดวก ตรัสรู้ได้พลัน กระทำให้แจ้ง ซึ่งอรหัตผลอันเลิศ อันประดับด้วยธรรมมะ มีวิชชาเป็นต้น

    ถ้าหากพระพุทธเจ้า ไม่บังเกิดขึ้น แต่กุศลกรรมของข้าพเจ้า เต็มเปี่ยมแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอให้ข้าพเจ้า พึงได้ญาณ เป็นเครื่องรู้ เฉพาะตน อันสูงสุดเทอญ.

    จาก

    http://www.geocities.com/perfectnop/atitanBuddha.html

    __________________
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    คำอธิษฐานบารมี

    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธพจน์ พระสัจจะธรรม ทั้งพระอรหันต์ พระอริยสงฆ์เจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดประทานพระเมตตาบารมี พระฉัพพรรณรังสี พุทธบารมีทุกประการ ที่พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรมา จงเป็นตบะเดชประสิทธิ์ประสาท รักษาผืนแผ่นดิน พระบวรพุทธศาสนา อภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถพร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ ให้ทรงพระเกษมสำราญ รักษาชีวิตผู้ปฏิบัติการรักษาผืนแผ่นดิน ทั้งมนุษย์และวิญญาณตลอดทั้งปวงประชา ข้าราชการผู้ซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งข้าพเจ้าและครอบครัวให้รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงให้ประเทศชาติผู้ คนพลเมืองอยู่เย็นเป็นสุข ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ให้พืชพันธุ์ธัญญาหารทรัพยากรธรรมชาติ งอกงามอุดมสมบูรณ์

    ขออัญเชิญพลังพระสัจธรรม น้ำทิพย์ น้ำอมฤต โปรดหมู่มวลมนุษย์ วิญญาณทั้งหลายทั่วสากลโลก ให้พ้นทุกข์ มีความสุข ขอบารมีพระเมตตาปรานีของพระองค์จงบันดาลให้มนุษย์ทั้งหลายมีหิริโอตตัปปะ รักธรรมะ ไม่เห็นแก่ตัว เลิกทุจริต ไม่คิดพยาบาทอาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน ให้มีจิตเมตตาปราณี ประพฤติปฏิบัติธรรมะ ผู้หลงผิดขอให้คิดกลับใจ และขอให้พระสัจธรรมที่พระองค์ ทรงประกาศไว้ว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ให้ได้รับผลปรากฎเด่นชัดแก่ตาโลก ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ขอพระบารมีทุกประการที่กล่าวแล้ว แผ่กระจายขยายออกไปทั่วทุกภพมนุษย์ไตรโลกา หมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาลพิภพ จบเจ็ดคาบสมุทรตลอดสุดก้นบาดาล ให้เนืองแน่นไปด้วยบารมี ให้มนุษย์ทั้งหลายพากันมานับถือพระพุทธศาสนา โลกนี้จงได้อยู่เย็นเป็นสุข ขอพระพุทธบารมีโปรดบันดาล ให้คำอธิษฐานทั้งปวงนี้จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ทุกประการเทอญฯ


    http://www.bloggang.com/viewblog.php...athep&group=14
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    คำอธิษฐานเมื่อออกรถและเดินทางไกล

    โดย พระชุมพล พลปญฺโ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๙

    สาธุ พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์จงทุกประการเทอญ

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระสาวกทุกองค์ พระโพธิสัตว์ทุกองค์ พรหมทุกองค์ เทวดาทุกองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน จงโปรดเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ ให้สะดวกปลอดภัยปราศจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติจงรวมตัว ขออุทิศให้แก่พระศรีอาริย์ เจ้าแม่กวนอิม ท้าวสักกะเทวราช ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้ท่านจงอนุโมทนาและจงโปรดเมตตาส่งเทวดาที่เป็นสัมมาทิฏฐิมาคุ้มครอง รักษารถคันนี้ด้วยเทอญ

    เทวดาองค์ใดที่โปรดเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ ในตอนนี้ก็ดี หรือที่จะมีเมตตามาคุ้มครองรักษารถคันนี้ในโอกาสกาลต่อไปข้างหน้าก็ดี ข้าพเจ้าขอตั้งคำอธิษฐานจิตไว้ว่าขอให้ท่านได้มีส่วนในบุญกุศลทั้งปวงที่ ข้าพเจ้าได้เคยบำเพ็ญมา ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติจงทุกประการด้วยเทอญ และขอให้ท่านจงโปรดเมตตาคุ้มครองรักษารถคันนี้และผู้โดยสารให้ปราศจาก อันตรายทั้งหลายทั้งปวง คิดประกอบกิจการอันใด ขอให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ด้วยเหตุแห่งบุญบารมีของท่านทั้งหลายได้โปรดเมตตา บันดาลให้เป็นไปในกาลทุกเมื่อด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาทุกภพทุกชาติจงรวมตัว ขออุทิศให้แก่จิตวิญญาณตลอดรายทางที่ข้าพเจ้าขับรถคันนี้ผ่านไป ขอให้ท่านจงมีส่วนแห่งบุญที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วจงทุกประการ และขอให้ท่านจงคุ้มครองรักษาปกป้องคุ้มกันภัยให้แก่รถคันนี้ให้ปราศจาก อุปสรรคเภทภัยที่จะมาเบียดเบียนบีทาในตลอดทุกเส้นทางที่ขับผ่านไปในกาลทุก เมื่อด้วยเทอญ

    พุทธัง ปสิทธิ ธัมมัง ปสิทธิ สังฆัง ปสิทธิ

    ขอบารมี พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า ประสิทธิให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้านี้สำเร็จสมความมุ่งมาดปรารถนาจงทุกประการเทอญ สาธุ

    พระชุมพล พลปฺโ
    เขียนเมื่อ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๙

    ที่มา: http://www.palapanyo.com/files/adhisdan/?f=release.html
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    คำอธิษฐานจิตก่อนสวดมนต์

    ด้วยเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า ...... ( ชื่อและนามสกุล ) ......

    ขอบูชาคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า คุณพระ

    อรหันต์เจ้า คุณพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ที่สำเร็จไปแล้ว มากกว่าเมล็ด

    ทรายในท้องมหาสมุทรทั้งสี่ ตลอดจนเบื้องสูงทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน

    คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง

    หลาย เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าบ้านเจ้าเรือน ตลอดจนทุกท่าน

    ที่ไม่ได้กล่าวนามมาก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าขอเอาธาตุทั้ง ๔ ขันธ์ทั้ง ๕ ที่

    บิดาและมารดาได้ปรุงแต่งให้ข้าพเจ้า เบื้องสูงสุดปลายเส้นผม ลงมาเบื้อง

    ต่ำถึงกลางฝ่าเท้า เบื้องต่ำจากกลางฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงปลายเส้นผม

    เนื้อ หนัง เส้นเอ็น กระดูก ตลอดจนหนังกำพร้า ขออธิษฐานเป็น

    กำแพงแก้ว ๗ ชั้น ป้องกันมาร ในระหว่างที่ข้าพระพุทธเจ้าสร้างบารมี

    เพื่อความรู้แจ้งแทงตลอด ในอรรถ ในธรรมของพระพุทธองค์ ท่านทั้ง

    หลายที่เป็นมาร ข้าพระพุทธเจ้าขอให้ถอยออกไปร้อยโยชน์แสนโยชน์

    อย่ามาเป็นมารแก่ข้าพระพุทธเจ้าเลย ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายสังขารนี้

    เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ข้าพระพุทธเจ้าจะสร้างบารมี ตาม

    รอยพระบาทของพระพุทธองค์ ตั้งแต่ปัจจุบันนี้จนถึงพระนิพพานข้างหน้า

    แม้นสังขารของข้าพระพุทธเจ้าจะแตกดับไป ด้วยอำนาจของอิทธิฤทธิ์

    ขอให้ดวงจิตและดวงวิญญาณของข้าพระพุทธเจ้า เข้าสู่พระนิพพานทันที

    ขออำนาจของบุญฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงปกป้องคุ้มครองรักษา ให้ข้า

    พระพุทธเจ้าจงพ้นและชนะมาร ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าทำกิจได้สำเร็จทุก

    ประการ สมดังคำอธิษฐาน ให้บรรลุถึงพระนิพพานในกาลปัจจุบัน ใน

    อนาคตกาลเบื้องหน้า และเบื้องโน้นด้วยเทอญฯ .......

    สาธุ ...... สาธุ ...... สาธุ ......

    ...... ( กราบ ๓ ครั้ง ) ......



    [​IMG]

    http://www.kontatip.com/index.php?la...icle&Id=228915
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    อธิษฐานบารมี

    บารมีข้อนี้ เน้นเรื่องการกระทำที่ใจเป็นสำคัญ มีใจมุ่งตรงตามที่ต้องการ คนธรรมดาทั่วไปกระทำสิ่งใด ก็มีความมุ่งหมายไปตามที่ตนเองชอบ ส่วนที่จะชอบหรือพอใจเรื่องอะไร แค่ไหน ย่อมขึ้นอยู่กับระดับสติปัญญาของแต่ละคนไป ใครมีปัญญาน้อย ก็ตั้งความมุ่งหมายง่ายๆ เอาเฉพาะหน้า ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง เช่น พอจะตักบาตรก็อธิษฐาน เพียงเพื่อให้วนอยู่ในวัฏฏะ การอธิษฐานที่มีปัญญา ต้องให้ความดีต่างๆ ที่ตนกระทำเป็นเครื่องสนับสนุนให้ออกพ้น จากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นระดับโลกุตระ ไม่ใช่ระดับโลกียะ ที่กล่าวถึงอย่างแรก

    ป้าเองก่อนเจอหมู่คณะ เคยไม่เห็นด้วยกับการทำสิ่งใดต้องอธิษฐาน ไปคิดเอาเองว่าเป็นการค้ากำไรเกินควร เหมือนที่พระภิกษุบางรูปสอน คือทำบุญเล็กน้อย ตั้งความปรารถนามากมาย เอาโน่นเอานี่ แต่เมื่อฟังคำสอนของคุณยายฯ และหลวงพ่อฯ แล้วเข้าใจแจ่มแจ้ง

    การอธิษฐาน ก็เหมือนการตอกย้ำ เราจะทำสิ่งใดให้มั่นคง เช่นตอกตะปูหรือเสาเข็ม ก็ตอกซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งตอกมากเท่าไหร่ สิ่งนั้นก็แน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น คำอธิษฐานก็เช่นเดียวกัน กระทำซ้ำไว้เรื่อยๆ วันหนึ่งในอนาคตเมื่อบุญเต็มเปี่ยมแล้ว สิ่งที่ได้รับก็จะเป็นตามที่อธิษฐานไว้

    เหมือนการเดินทางต้องมีเข็มทิศ เรือต้องมีหางเสือ ตั้งเข็มทิศหรือทางเลือกมุ่งไปสู่ทิศทางที่ต้องการ ในทุกครั้งที่เดินทาง วันหนึ่งภายหน้าย่อมทำให้ถึงที่หมาย

    คนที่ทำสิ่งใดไม่อธิษฐาน เหมือนเรือไม่มีหางเสือ คนเดินทางที่ไม่รู้ทิศทาง เดินไปย่อมเสี่ยง ต่อการเฉไฉออกนอกเส้นทาง ตกหลุมตกบ่อ รับอันตรายในที่สุด

    เรื่องการทำความดีสิ่งใดแล้วไม่อธิษฐานกำกับ เหมือนหาเงินได้มาแล้ว ใช้ไม่เป็นเหมือนกับอ่านหนังสือออก แต่ไม่รู้จักเลือกหนังสือมาอ่าน ในที่สุดสิ่งที่ได้มา ไม่ทำประโยชน์อะไรให้เกิดขึ้น บางทีทำโทษให้เกิดด้วยซ้ำ ป้าจะยกตัวอย่างให้ฟัง

    เช่นบางคนทำทานไว้มาก แต่ไม่ได้อธิฐานกำกับไว้ว่า เมื่อเกิดชาติหน้าอานิสงส์ทานให้ผล เกิดเป็นคนร่ำรวยมหาศาล แทนที่จะใช้ทรัพย์นั้น ทำสิ่งใดให้เป็นกุศลเพิ่มเติม กลับนึกไม่ได้เพราะไม่มีอานิสงส์จากการอธิษฐาน เลยเอาความร่ำรวยนั้นมาทำให้เกิดบาป เช่นสร้างสถานเริงรมย์ ให้คนหลงไหลอยู่ในกาม สร้างบ่อนอบายมุข ผลิตเครื่องดองของเมา ยาเสพติด แม้กระทั่งไม่ถูกใจใคร ก็ใช้อำนาจเงินทำปาณาติบาตเบียดเบียน ถูกใจใคร ก็ทำเรื่องกาเมสุมิจฉาจาร ดังนี้เป็นต้น

    หรือบางคนถือศีล เกิดขาติใหม่กลายเป็นคนสวย ไม่มีคำอธิฐานตามรักษา สวยแล้วก็มีคนมาชอบหลายคน คนสวยเลยหลายใจ กลายเป็นกรรมกาเมสุมิจฉาจารขึ้นมา

    ด้วยเหตุนี้คุณยายฯ จึงสอนทุกคนว่า ทำบุญกุศลใดๆ ต้อง "อธิษฐานล้อมคอก" เอาไว้ว่า "ขอให้เราทำแต่ความดีถ่ายเดียว ให้บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพาน" เมื่ออธิษฐานอย่างนี้ เราก็จะไม่พลาดพลั้ง ถอยหลังทำบาปให้ขาดทุนในยามเวียนว่ายตายเกิด เพื่อสะสมสร้างบารมี ก็จะได้เกิดแต่ภพภูมิที่ดี มีโอกาสสร้างแต่บารมี รุดหน้าไปอย่างเดียว

    จากหนังสือ จากความทรงจำ เรื่องกำเนิดวัดพระธรรมกาย โดยอุบาสิกาถวิล (บุญทรง) วัติรางกูล

    http://www.geocities.com/dhamma072/dhamma/atitan.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...