ปิดรับบริจาค บุุญด่วน!! ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมหลวงปู่วิเชียร ธรรมคุณ(หลวงปู่สิงห์) เจ้าอาวาสวัดสีหะลำดวน พระอริยะสงฆ์ จ.สุรินทร์ โดยร่วมบุญได้ถึงวันที่ 11

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย ลินจัง, 29 มีนาคม 2017.

  1. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ตามที่ลินได้เคยบอกบุญอุปฐากหลวงปู่วิเชียรเมื่อวันที่
    29 มีนาคม 2560. ถึงวันนี้ขอเรียนแจ้งทุกท่านว่า
    หลวงปู่วิเชียร ได้ละสังขารอย่างสงบ
    เมื่อวันที่ ๒ กรกฏาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๒.๓๖ นาที
    จึงขอบอกบุญศรัทธาร่วมบุญสวดอภิธรรมหลวงปู่
    ที่บัญชี(บุตรชายหลวงปู่ผู้ดูแลบัญชี)
    ปิดรับร่วมบุญ วันที่ ๑๑ กรกฏาคม ๒๕๖๐

    ชื่อบัญชี นายไท ทองหล่อ
    ธนาคารกรุงไทย
    เลขที่บัญชี 861-0-24605-1

    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่จะได้ร่วมบุญกับพระอริยะสงฆ์แห่งเมืองสุรินทร์เป็นครั้งสุดท้าย สาธุค่ะ


    พระผู้เป็นเนื้อนาบุญในพระพุทธศาสนา
    อยากให้ทุกท่านอ่านตั้งแต่บรรทัดแรก
    จนบรรทัดสุดท้ายให้จบ!!
    ท่านจะเกิดความศรัทธาและปิติใจ

    ที่ได้ร่วมบุญกับหลวงปู่วิเชียร

    ชีวประวัติหลวงปู่
    ชีวประวัติพระครูวิเชียร ธรรมคุณ
    (วิเชียร ธมฺมสาโร ) (สิงห์)


    # ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
    ในช่วงท่านพ่อลี มาอยู่ใหม่ๆ คุณหญิงกิมหงส์
    จึงให้หลวงปู่มาอยู่คอยอุปฐากท่านพ่อลี ธมฺมธโร
    ซึ่งตอนนั้นท่านอายุได้ ๒๖ ปี อยู่อุปฐากท่านพ่อลีจน
    ถึงอายุ ๒๘ ปี ระหว่างอยู่กับท่านพ่อลี
    ท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และท่านพ่อลีสอนการปฏิบัติ
    ภาวนาให้หลวงปู่ ท่านพ่อลีพูดย่ำอยู่เสมอว่า
    “ ภาวนาพุทโธแล้วก็ทำจิตให้มันละเอียด จงทำเอาจริงๆ ”
    หลวงปู่ท่านยังได้เห็น. ท่านพ่อลี นั่งอธิษฐานจิต
    เรียกพระบรมสารีริกธาตุ หลวงปู่ท่านได้เอาผ้าขาวปู
    ไว้ให้ท่านพอลีได้นั่งภาวนาอธิษฐานจิต
    เรียกพระบรมสารีริกธาตุ
    หลวงปู่ท่านก็เห็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จ
    ลงมาจากท้องฟ้าลงมาเป็นเม็ดๆ
    จนเต็มผ้าขาวที่ปูไว้ เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
    ต่อมาท่านพ่อลีได้ภาวนาเห็นนิมิตเป็นแสงสว่าง
    ผุดออกจากตัวหลวงปู่ ท่านจึงได้ชวนให้หลวงปู่บวช
    และได้ทำนายหลวงปู่ไว้ว่า
    ถ้าหลวงปู่บวชก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐
    จะเห็นธรรมเห็นจิตได้เร็ว
    แต่ถ้าหากหลวงปู่บวชหลังปี พ.ศ. ๒๕๐๐
    แสงนั้นจะค่อยหายไปทีละนิดเหลือเท่าแสงหิ่งห้อย
    อายุมากจึงจะได้เห็นธรรมเห็นจิต. จะช้าหรือเร็ว
    หลวงปู่ก็จะได้เห็นธรรมเห็นจิตในชาตินี้
    และชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแน่นอน
    ท่านพ่อลีพูดอีกว่า แต่ดูแล้วยังไงเจ้าคงไม่ได้บวช
    ตอนนี้ดอก สิงห์ พอหลวงปู่ท่านกำลังคิดที่จะบวช
    ก็มีเหตุทำให้ท่านยังไม่ได้บวช
    ………………………………

    #หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย
    จังหวะหลวงปู่สมชาย. ท่านลงมาเยี่ยมท่านพ่อลี
    และมาเรียนปรึกษาท่านพ่อลีถึงเรื่องการสร้างวัด
    ว่าสมควรจะสร้างวัดที่ไหนถึงจะดี
    ท่านพ่อลีก็บอกให้สร้างที่ “ เขาสุกิม ”
    เพราะต่อไปเขาสุกิมจะเจริญ และมีผู้คนเข้ามาก
    หลวงปู่สมชายท่านได้พักอยู่กับท่านพ่อลี ๕ วัน
    จึงได้กราบลาท่านพ่อลีกลับวัดป่าคลองกุ้ง
    และหลวงปู่สมชายจึงบอกให้หลวงปู่ช่วยถือกลดถือย่าม
    ไปกับท่านด้วย หลวงปู่ท่านก็ได้ช่วยถือกลดถือย่าม
    ไปวัดป่าคลองกุ้งกับ หลวงปู่สมชาย
    เหตุนี้เองทำให้หลวงปู่ไม่ได้บวชอยู่กับท่านพ่อลี
    ทำให้หลวงปู่คิดเห็น คำที่ท่านพ่อลีพูดว่า
    เจ้าคงยังไม่ได้บวชตอนนี้ดอก
    ท่านพ่อลีพูดไว้ไม่ผิดเลย ท่านต้องรู้อนาคต แน่นอน
    พอไปถึงวัดป่าคลองกุ้งหลวงปู่สมชาย
    ได้ให้หลวงปู่ไปพักที่กุฏิไม้หลังเก่าๆที่มีอาถรรพ์มาก
    กุฏินั้นแม้แต่พระก็ไม่กล้าไปพัก หลวงปู่สมชายเห็นว่า
    หลวงปู่เป็นลูกศิษย์ท่านพ่อลี จึงได้ลองดูว่าจะเก่ง
    ขนาดไหน จะมีความกล้าไหม
    พอคืนแรกหลวงปู่เข้าไปพักกุฏิหลังนั้น
    โดนเจ้าที่เขย่ากุฏิให้สั่นทั่งคืน แต่หลวงปู่ท่านไม่กลัว
    และไม่ยอมออกไปไหนจนถึงเช้า พอวันรุ่งขึ้น
    หลวงปู่สมชายก็มาถามว่า เป็นไงบ้าง
    พักกุฏิหลังนั้นเป็นคืนแรกเจอของดีไหม
    หลวงปู่ก็ตอบว่าเจอคับ
    หลวงปู่สมชายก็ถามต่ออีกว่าท่านกลัวไหม
    หลวงปู่ก็ตอบว่าไม่กลัวคับ
    สมแล้วที่เป็นศิษย์ท่านพ่อลีไม่กลัวอะไรเลย
    หลวงปู่สมชายพูด
    และหลวงปู่จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่สมชาย
    และได้อยู่ฟังธรรมมะปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่สมชาย
    อยู่ได้ ๒ เดือน หลวงปู่จึงกราบลาหลวงปู่สมชาย
    ออกไปหาทำงานภาคใต้ ได้ไปทำงานอยู่เหมืองแร่
    แถวภาคใต้นั้นจะเรียกหลวงปู่ว่า นายหัว
    อยู่จนกระทั่งอายุ ๔๐ ปี
    ………………………………

    #กบร้องพุทโธ
    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่หลวงปู่ยังอยู่ภาคใต้
    คืนหนึ่งมีฝนตกหลวงปู่จึงได้ออกไปหากบ
    เพื่อมาประกอบอาหาร พอไปถึงริมแม่แห่งหนึ่งชื่อว่า
    “ น้ำละอุ่น ”ก็เจอกบตัวใหญ่ตัวหนึ่ง
    หลวงปู่จึงหมายเข้าไปจับกบตัวนั้น พอมือท่าน
    ถึงตัวกบตัวนั้นมันก็ร้องออกมาว่า “ พุทโธ ”
    หลวงปู่จึงได้หวนคิดถึงพุทโธที่ท่านพ่อลีเคยสอนไว้
    จิตท่านก็สงบเป็นสมาธิและสว่างไสวขึ้นในตอนนั้น
    ท่านจึงปล่อยกบออกจากมือ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
    “ เจ้าร้องว่าพุทโธแล้ว เราคงจะฆ่าเจ้าไม่ได้
    ถ้าเราฆ่าเจ้าเราก็เป็นบาป ”
    หลวงปู่จึงเดินกลับไปที่พักแล้วก็คิดที่จะออกบวช
    ท่านคิดทบทวนอยู่ ๓ วันจึงได้ตัดสินใจออกบวช
    โดยท่านได้กลับมาบวชที่ จังหวัดสุรินทร์
    ………………

    #สู่เพศพรหมจรรย์
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๒ หลวงปู่อายุครบ๔๐ ปี
    ท่านได้อุปสมบทที่วัดบ้านตรึมตำบลตรึม
    อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์
    โดยมีหลวงพ่อลาเป็นพระอุปัชฌาย์
    หลวงพ่อจูม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สังกัดมหานิกาย
    พรรษาแรก ถึงพรรษาที่๕อยู่วัดบ้านดงถาวร
    กับหลวงพ่อจูม ได้อยู่ศึกษาแนวทางการเจริญสมาธิ
    และวิชาอาคมต่างๆ จนกระทั่งพรรษาที่ ๖ –๗
    ได้มีโยมมานิมนต์มาสร้างวัดบ้านโพธิ์ศรีธาตุ
    ตำบลเกาะแก้วอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
    ในช่วงที่สร้างวัดโพธิ์ธาตุอยู่นั้น หลวงพ่อจูม
    วัดบ้านดงถาวรได้มรณภาพลง
    วัดบ้านดงถาวรก็ไม่มีพระรูปไหนอยู่ได้เพราะผีดุมาก
    พระรูปไหนไม่สวดมนต์ทำวัตร โดนผีลากลงกุฏิหมด
    ชาวบ้านจึงมานิมนต์หลวงปู่วิเชียร ไปอยู่วัดบ้านดงถาวร
    เพื่อแผ่เมตตาให้ผีไปเกิด หลวงปู่ก็รับนิมนต์
    แต่ก็ไม่อยากทิ้งวัดโพธิ์ศรีธาตุเพราะกำลังสร้าง
    หลวงปู่ก็เลยไปอยู่วัดบ้านดงถาวรเฉพาะตอนกลางคืน
    พอตอนกลางวันก็มาอยู่วัดโพธิ์ศรีธาตุทำอย่างนี้เป็น
    เวลา๑เดือน จนวัดบ้านดงถาวรสงบลง
    ไม่มีผีออกมาอาละวาดอีก
    หลวงปู่ก็กลับมาอยู่วัดโพธ์ศรีธาตุเหมือนเดิม
    พรรษาที่ ๘หลวงปู่ได้จารึกธุดงค์บริเวณป่าดงดิบ
    แถวภาคใต้ ถ้าพูดถึงป่าดงดิบ
    ก็ย่อมมีสัตว์อาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก
    สัตว์ใหญ่ก็ย่อมมีอาศัยอยู่มาก เพราะเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์
    หลวงปู่ท่านก็ได้เจอกับสัตว์ใหญ่ในป่าดงดิบที่ท่านธุดงค์
    เข้าไปหาที่วิเวกสำหรับภาวนา
    เรื่องมีว่าท่านเข้าไปในป่าดงดิบเพื่อหาที่สงบๆภาวนา
    เมือหาที่เหมาะๆได้แล้ว ท่านก็ปักกลดนั่งภาวนาอยู่สักพัก
    ก็ได้ยินเสียงช้างตกมันร้อง เสียงช้างก็เข้ามาใกล้เรื่อยๆ
    แต่หลวงปู่ก็ไม่วิตกกลัวแต่อย่างใด
    จนช้างวิ่งเข้าใกล้ถึงหน้ากลดท่าน แล้วช้างมันเตะก้อนดิน
    ใส่กลดท่านก็ไม่ตกใจกลัวเลย หลวงปู่ท่านแผ่เมตตาให้
    พอท่านแผ่เมตตาจบ ช้างก็หยุดเตะก้อนดินใส่
    แล้วจากมันก็ไป พอช้างไปแล้วท่านก็ภาวนาต่อ
    ท่านอยู่ในป่าดงดิบได้คืนหนึ่งแล้ว ก็เดินออกจากป่า
    แล้วก็เดินธุดงค์ไปที่วัดละอุ่นใต้ อำเภอละอุ่นใต้
    จังหวัดระนอง
    หลวงปู่จึงได้เจอกับหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ
    และหลวงพ่อจำเนียรได้พาหลวงปู่ธุดงค์ตามป่าเขา
    ใน อำเภอเขาโต๊ะ ออกจาก อำเภอเขาโต๊ะจึงได้ธุดงค์
    ไปเขาทะลุ อำเภอเขาทะลุ จังหวัดชุมพร
    ออกจากเขาทะลุแล้วเดินธุดงค์ อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา
    และเจอพ่อท่านเฟื่องแห่งวัดทับปุด
    จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์พ่อท่านเฟื่อง
    และหลวงปู่ได้จำพรรษาที่วัดทับปุด
    เพื่อเรียนวิชาอาคมต่างๆ และวิชายาสมุนไพรรักษาโรค
    กับพ่อท่านเฟื้องอยู่๑พรรษา
    จึงได้กราบลาพ่อท่านเฟื้องไปจารึกธุดงค์
    ท่านได้ธุดงค์ไปที่เขาทับปุดไปร่วมงานปฏิบัติธรรม
    ที่ได้จัดขึ้นประจำทุกปี
    ………………………………

    #หลวงปู่ชา สุภัทโธ
    หลวงปู่ท่านไปถึงเขาทับปุด
    ท่านก็ได้ร่วมธรรมะฟังเทศนา
    ที่หลวงปู่ชาขึ้นเทศน์วันนั้นพอหลวงปู่ชาท่านเทศน์จบแล้ว
    หลวงปู่ชาเดินเข้ามาหา แล้วพูดว่า

    “ ผมนั่งภาวนาอยู่วัดหนองป่าพง
    เห็นแสงสว่างของจิตท่านส่องมาถึงผม ผมเลยมาตามหาท่าน ”
    หลวงปู่ชาจึงถามหลวงปู่ว่าบ้านเกิดท่านอยู่ที่ไหน
    หลวงปู่ตอบว่า “ อยู่สุรินทร์ครับ ”
    หลวงปู่ชาก็พูดขึ้นอีกว่า
    “ ท่านมาอยู่ทำไมที่นี้ กลับไปที่อีสานบ้านเราเถอะ
    ที่สุรินทร์มีก็พระอรหันอยู่นะ หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่สาม
    นั่นก็ใช่”
    หลวงปู่จึงตามหลวงปู่ชากลับไปวัดหนองป่าพง
    ต.โนนโหนน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    หลวงปู่ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และ ปฏิบัติกรรมฐาน
    ฟังธรรมคำสอนของ หลวงปู่ชา สุภัทโธ
    จนกระทั่งคืนสุดท้ายที่ท่านได้อยู่วัดหนองป่าพง
    ก็เป็นระยะเวลาสองเดือนท่านได้นั่งภาวนา
    เห็นนิมิตว่ามารดาท่านป่วยหนักจะสิ้นลม(เสียชีวิต)
    เวลาสองทุ่มของคืนวันพรุ่งนี้
    พอรุ่งเช้าของวันต่อมาท่านเก็บบาตรเก็บกลด
    กราบลาหลวงปู่ชา กลับมาที่บ้านตางมาง
    ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์
    ท่านกลับมาถึงบ้านตางมางเป็นเวลาสองทุ่ม
    มารดาของท่านก็สิ้นลมพอดี ตรงกับนิมิตที่ท่านเห็น
    ที่วัดหนองป่าพงก่อนที่มารดาจะสิ้นลมคืนหนึ่ง
    หลวงปู่ก็อยู่ช่วยงานฌาปนกิจศพจนเสร็จสิ้น
    ต่อมาก็มีโยมบอกหลวงปู่ให้ไปฝึกกรรมฐาน
    แบบสัมมาอะระหังที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    หลวงปู่ท่านจึงได้เดินทางไปวัดปากน้ำภาษีเจริญ
    ไปตามที่โยมบอกไว้ พอถึงวัดปากน้ำภาษีเจริญ
    หลวงปู่ได้ฝึกกรรมฐานแบบสัมมาอะระหัง
    หลวงปู่ท่านภาวนาสัมมาอะระหัง อยู่๑เดือน
    จิตก็ไม่ความมีความก้าวหน้าขึ้น ท่านคิดว่ากรรมฐานนี้
    ไม่ตรงกับจริตตน จึงออกจากวัดปากน้ำภาษีเจริญ
    เดินทางไปวัดพนมพนาวาส ตำบลคลองขุด
    อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา
    เพื่อไปอยู่ปฏิบัติภาวนาทำกรรมฐาน
    ที่ครูบาอาจารย์ได้สั่งสอนไว้เพื่อตัดกิเลสให้หาย
    คลายกิเลสให้ออกจากจิตใจ หลวงปู่ได้อยู่ปฏิบัติภาวนา
    จนกระทั่งได้ ๓ เดือน ท่านตัดกิเลสให้หายคลายกิเลส
    ให้ออกจากจิตใจยังไม่ได้ ทำได้แค่จิตสงบ สว่าง
    และละเอียดขั้นหนึ่งเท่านั้น
    หลวงปู่จึงตัดสินใจออกเดินทางมาที่ วัดไตรวิเวก
    ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์มา
    ฝากตัวเป็นศิษย์เพื่ออยู่ปฏิบัติกรรมฐานกับ
    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน
    ………………………………

    #รับโอวาทหลวงปู่สาม อกิญฺจโน
    พอหลวงปู่มาถึงวัดไตรวิเวก ตำบลนาบัว
    อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
    หลวงปู่จึงได้เข้าไปกราบนมัสการ
    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน
    และหลวงปู่ได้เรียนถามหลวงปู่สามว่า
    “ ทำยังไงครับถึงจะเห็นจิต ”
    ท่านหลวงปู่สามกล่าวว่า
    “ ก็ทำจิตให้เป็นหนึ่ง แล้วหยุดเพ่ง ปล่อยวางทั้งหมด
    แต่ถ้ายังติดสุขในสมาธิก็อยู่แค่นั้น มันก็ได้แค่นั้นแหละ
    ยังไม่เกิดปัญญา ที่จะสามารถตัดภพตัดชาติได้
    ให้ละสุขนั้นเสียก่อน มันถึงจะเห็นจิต ”

    เมื่อหลวงปู่สามให้โอวาทแล้ว
    หลวงปู่จึงได้หาที่นั่งใต้ร่มไม้ในวัดเพื่อพักภาวนา
    พอหลวงปู่นั่งพักภาวนาอยู่ร่มไม้ ก็มีพระในวัดรูปหนึ่ง
    มาพูดบอกว่า หลวงพ่อคืน ปสันโน รู้จักดูจิต
    รู้จักบอกวิธีทำให้จิตเป็นหนึ่งได้
    หลวงปู่จึงถามพระรูปนั้นว่า ตอนนี้หลวงพ่อคืนอยู่ไหน
    พระรูปนั้นตอบว่า ตอนนี้หลวงพ่อไปธุดงค์ตามชายแดนกัมพูชา
    อีก๒วันก็กลับมาวัดไตรวิเวก
    กล่าวถึงหลวงพ่อคืน ปสันโน
    ท่านก็เป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์เช่นกัน
    แต่ได้ศึกษาปฏิบัติข้ออรรถข้อธรรมก่อนหลวงปู่วิเชียร
    หลวงพ่อคืนแนะเรื่องจิต
    มาต่อกันที่เรื่องหลวงพ่อคืนแนะนำเรื่องจิต
    ให้หลวงปู่วิเชียร พอถึง ๒ วัน หลวงพ่อคืนก็กลับมา
    หลวงปู่จึงเข้าไปถามหลวงพ่อคืนว่า
    “ ทำยังไงถึงจะเห็นจิต ”
    หลวงพ่อคืนตอบว่า
    “ ไม่ยาก ”
    หลวงปู่ถามหลวงพ่อคืนอีกว่า
    “ ทำยังไงถึงว่าไม่ยาก ”
    หลวงพ่อคืนตอบว่า
    “ ก็ภาวนาพุทโธ ”
    หลวงปู่พูดบอกหลวงพ่อคืนว่า
    “ ผมก็ภาวนาพุทโธเหมือนกัน ”
    หลวงพ่อคืนก็พูดขึ้นว่าพุทโธของท่าน
    มันเป็นพุทโธทำให้จิตสงบแค่เท่านั้น
    มันยังทำให้จิตเป็นหนึ่งเป็นกลางพุทโธตัวอันนี้แหละ
    ทำได้ ”
    โดยให้ทำดังนี้..

    หายใจเข้าพุทไปสุดตรงไหนก็ให้รู้
    หายใจออกโธไปสุดตรงไหนก็ให้รู้
    ลมหายใจจะเข้าจะออกตรงไหนก็ให้รู้
    มีความรู้สึกรู้อยู่ตลอดเวลา

    หลวงพ่อคืนแนะเรื่องจิต
    หลวงปู่จึงบอกหลวงพ่อคืนว่า
    “ ถ้ารู้อย่างนี้ ทำได้คืนนี้แหละ ”
    หลวงพ่อคืนก็พูดขึ้นว่า
    “ ถ้าทำได้คืนนี้ก็ดี”
    ................................

    #อัศจรรย์ในธรรม
    พอหลวงปู่ได้ถามวิธีกรรมฐานกับหลวงพ่อคืนแล้ว
    หลวงปู่จึงกลับไปที่กุฏิ และได้เริ่มทำกรรมฐาน
    ที่หลวงพ่อคืนพูดบอก จนเป็นเวลา ๒ ชั่วโมง
    หลวงปู่จึงได้เห็นจิตสว่างไสวขึ้น ไปทั่ว ๓ แดนโลกธาตุ
    จิตก็เป็นหนึ่งเป็นกลางต่อทุกสิ่ง
    เหมือนที่หลวงปู่สามบอกไว้ว่า..
    “ ทำจิตให้เป็นหนึ่งเป็นกลางจึงจะเห็นจิต
    แล้วสามารถตัดภพตัดชาติได้ ”
    สักพักหนึ่งเสียงหลวงพ่อคืนก็ดั้งขึ้นว่า
    “ พระองค์นั้นเห็นจิตแล้ว ได้ธรรมอันวิเศษแล้ว ”
    ต่อมาหลวงพ่อคืนจึงออกจากวัดไตรวิเวก
    ไปสร้างวัดป่าบวรสังฆาราม
    หลวงพ่อคืนได้บอกหลวงปู่ว่าอย่าพึ่งไปไหน
    ให้อยู่วัดไตรวิเวกเพื่อศึกษาข้อวัตรปฏิบัติกับ
    หลวงปู่สามก่อน หลวงปู่จึงอยู่วัดไตรวิเวก
    เพื่อศึกษาข้อวัดปฏิบัติกับ หลวงปู่สาม
    แต่ถ้าวันไหนว่างๆ หลวงปู่ไปเยี่ยมหลวงพ่อคืนอยู่บ่อยๆ
    จนกระทั่งวันหนึ่งฉันเช้าเสร็จแล้วจึงได้เดินไปเยี่ยม
    หลวงพ่อคืนที่วัดบวรสังฆาราม
    แต่วันนั้นมีพระไตรวิเวกไปด้วยหลายรูป
    พระที่เดินไปด้วยนั้นก็คุยกันว่า
    ถ้าหากหลวงปู่วิเชียรได้จิต เห็นจิตจริง ๆ
    เดินไปครั้งนี้ปู่รอดเห็นหลวงปู่แล้วมากราบ
    ก็แสดงว่า หลวงปู่ได้จิต เห็นจิตจริงๆ พอหลวงปู่เดินไป
    ปู่รอดเห็นหลวงปู่ก็เดินเข้ามากราบทันที
    พระที่เดินไปด้วยนั้นก็ได้คำตอบ ว่า
    หลวงปู่ได้จิตเห็นจิต และได้ธรรมอันวิเศษจริงๆ
    ………………………………

    #กราบนมัสการหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
    ในช่วงนี้เองหลวงปู่ก็ได้เข้ากราบนมัสการ
    หลวงปู่ดุลย์ พระผู้ใหญ่ในศิษย์
    (พระอาจารย์มั่นภูริทัตโต)
    หลวงปู่ก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์
    (และได้เข้ารับโอวาทธรรมอยู่ทุกอาทิตย์)
    ทำเช่นนั้นจนถึงพรรษาที่ 13 ปี พ.ศ.2526
    #หลวงปู่ญัตติธรรมยุติ
    ปีนั้นเป็นปี พ.ศ.2526 พรรษา 13
    เป็นช่วงเวลาที่หลวงปู่ดูลย์
    เข้ารับการรักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช
    หลวงปู่ดุลย์ได้บัญชาคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติ
    ในขณะนั้นว่าให้รีบทำการญัตติพระมหานิกาย
    องค์เล็กๆนั้นให้เร็วที่สุด
    โดยหลวงปู่ดูลย์ได้มอบผ้าไตรและบริขาร
    ในการญัตติให้ หลวงปู่วิเชียร
    และหลวงปู่ดูลย์ ได้พูดบอกคณะสงฆ์ที่เดินทางไปเยี่ยม
    อาการอาพาธของท่านที่โรงพยาบาลศิริราชว่า
    “ พระมหานิกายตัวเล็ก (หลวงปู่วิเชียร ) นั้นแหละ
    เป็นพระแท้ เพราะท่านเห็นจิตแล้ว
    ต่อไปในภายภาคหน้า พระองค์เล็กๆนี้ ( หลวงปู่เชียร )
    จะดังไปทางโน้นไม่เชื่อค่อยดู ”
    และหลวงปู่ดูลย์ ท่านยังได้บอกหลวงปู่วิเชียร ไว้อีกว่า

    “ ถ้าเครื่องบินผ่านมา
    ท่านอย่ามองโดยใช้จิตเพ่งเด็ดขาด
    ถ้าเอาจิตไปเพ่งเครื่องบินจะตก มันจะเป็นบาป
    เพราะคนจะตายเยอะ ถ้าท่านมองก็มองเฉยๆ
    เพราะพลังจิตของท่านมันแรงมาก ”
    ………………………………

    #พรรษาแรกในฝ่ายธรรมยุติ

    พรรษาแรกของหลวงปู่ในฝ่ายธรรมยุติ
    หลวงปู่ดุลย์ได้ให้หลวงปู่ไปจำพรรษา
    อยู่วัดไตรวิเวกกับ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน
    พรรษา ๒ หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่วัดบวรสังฆาราม
    กับ หลวงพ่อคืน ปสนฺโน
    ในพรรษานี้มีหลวงพ่อกิมทีปธมฺโม. ร่วมจำพรรษาด้วย
    และหลวงพ่อกิมได้ดูอดีตชาติให้ หลวงปู่ ว่า
    หลวงปู่ได้บำเพ็ญเป็นฤษีมา ๗ ชาติ
    และชาติเป็นนี้เป็นชาติสุดท้ายของหลวงปู่
    พรรษา ๓ได้กลับมาบ้านเกิด
    มาสร้างวัดป่าหนองคูโบสถ์
    โดยมีหลวงปู่สามเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น
    และต่อมาหลวงปู่สามได้มอบหมาย
    ให้หลวงปู่วิเชียรอยู่เป็นจ้าอาวาสมาถึงปัจจุบัน
    ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๕๔๘ มีโยมมาถวายที่
    สร้างวัดสีหะลำดวน หลวงปู่จึงนำคณะศรัทธา
    สร้างถาวรวัตถุมากมายในวัดสีหะลำดวนจน
    กระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ปัจจุบันนี้

    "เมื่อวานหลวงปู่ท่านพูดขึ้น ว่า
    การสร้างภพสร้างชาติมันทุกข์มากจริงๆ"

    ข้อมูลจากพระอาจารย์แคร์ 30-08-2557
    #ก่อนท่านอาพาธหนัก

    FB_IMG_1499262172886.jpg FB_IMG_1499254006664.jpg FB_IMG_1499254011514.jpg FB_IMG_1499254024906.jpg FB_IMG_1499254017959.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กรกฎาคม 2017
  2. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    รายนามผู้ร่วมบุญค่ารักษาหลวงปู่

    29/มี.ค/60
    1.คุณกัญรัตนมณี ศรีรัตนมณี ร่วมบุญ 200 บาท
    2.คุณอดิรัตน์ ร่วมบุญ 111 บาท
    3.คุณศศิวัลย์ วงษ์จินดา ร่วมบุญ 200. บาท
    4.คุณWutchara0342 ร่วมบุญ 200 บาท
    5.คุณอดิรัตน์ ร่วมบุญ 1,111 บาท

    30/มี.ค/60
    1.คุณเมธา รุ่งพัฒนพันธ์ ร่วมบุญ 100 บาท
    31/มี.ค/60
    1.คุณจีรัชญ์ ร่วมบุญ 500 บาท
    2.นายชัยรัตน์ สงวนรัตน์ ร่วมบุญ 100 บาท

    2/เม.ย/60
    1.กัญชลี ระพันพลและนายปุณยสิทธิ์ เกียรตินันทยศ
    ร่วมบุญ 109. บาท
    2.คุณ shaj ร่วมบุญ 299. บาท

    3/เม.ย/60
    1.นางเพ็ญศรี+นายสุทธิพงษ์ มีลังค์ ร่วมบุญ 100 บาท
    2.คุณน้าสิริลดา สิริจรรยากร(น้ายี).
    ร่วมบุญ 99.99 บาท
    3.คุณภัทรีญา หวางและครอบครัวและแม่ปัทมนันท์
    ร่วมบุญ 200. บาท

    4/เม.ย/60
    1.คุณSERANEE. ร่วมบุญ 500 บาท
    2.คุณหัวมัน ร่วมบุญ 200. บาท

    5/เม.ย/60
    1.คุณชวลิต-คุณ กฤติญา เพ็ชร์ภักดี (มุกดาสนิท)
    และครอบครัว ร่วมบุญส่งแพมเพิร์ส
    ถวายหลวงปู่ 1 ลัง
    2.คุณเบญ เบญ ร่วมบุญ 1,000 บาท

    24/เม.ย/60
    1.นายกีและนางนฤมล เกอร์เน่
    ร่วมบุญกับหลวงปู่ 3,550บาท

    26/เม.ย/60
    1.คุณลักษิกา ลิ้มกลทิพย์ ร่วมบุญ 100.99 บาท
    28/เม.ย/60
    1.คุณChuru. และครอบครัว ร่วมบุญ 3,000 บาท
    4/พ.ค/60
    1.คุณ neetum ร่วมบุญ 200
    5/พ.ค/60
    1.นายธราภุช โพธิ์แสง และนางทองรวม จันทบัตร
    และครอบครัวร่วมบุญ 20 บาท

    12/พ.ค/60
    1.คุณ glassbuddha2009 ร่วมบุญ 100 บาท
    13/พ.ค/60
    1.เพื่อนคุณ glassbuddha2009 ร่วมบุญ 200 บาท
    26/พ.ค/60
    1.คุณSERANEE. ร่วมบุญ 300 บาท
    30/พ.ค/60
    1.คุณbendeaw13. ร่วมบุญส่งแพมเพิสถวายหลวงปู่ค่ะ.


    ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลของทุๆท่านทุกประการค่ะ. สาธุ


    17-04-05-16-51-12-914_deco.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2017
  3. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนากับ
    1.คุณอดิรัตน์ร่วมบุญค่ารักษาหลวงปู่ 111 บาทค่ะ
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    2.คุณกัญรัตนมณี ศรีรัตนมณี ร่วมบุญ 200 บาท


    FB_IMG_1490796577752.jpg FB_IMG_1490796593929.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2017
  4. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนากับคุณศศิวัลย์ วงษ์จินดา
    ร่วมบุญค่ารักษาพยาบาลหลวงปู่ 200 บาทค่ะ

    อนุโมทนาสาธุค่ะ FB_IMG_1490796605689.jpg
     
  5. wutchara0342

    wutchara0342 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2017
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +196
    ร่วมทำบุญด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0693.JPG
      IMG_0693.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.1 KB
      เปิดดู:
      56
  6. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนากับจิตที่เป็นกุศลด้วยค่ะ สาธุค่ะ
     
  7. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนากับคุณอดิรัตน์ ร่วมบุญค่ารักษาพยาบาลกับหลวงปู่ 1,111 บาท อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ FB_IMG_1490801728421.jpg
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,233
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,513
    ข้าพเจ้านายเมธา รุ่งพัฒนพันธ์ ทำบุญอุปฐากหลวงปู่สิงห์ ( หลวงปู่วิเชียร ) เพื่อเป็นค่ารักษา ค่ายาและ ของใช้จำเป็น เป็นจำนวนเงิน 100 บาท

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

    ทำบุญอุปฐากหลวงปู่สิงห์.jpg
     
  9. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลทุกประการค่ะ สาธุ
     
  10. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    สาธุอนุโมทนาบุฯทุกท่านค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2017
  11. จีรัชญ์

    จีรัชญ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +143
    สมทบทุนเข้าบัญชี จำนวน 500 บาท วันนี้ 31 มีนาคม 2560
    เวลา 14.34 น. นะคะ
     
  12. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลทุกประการค่ะ สาธุ
     
  13. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589

    ขออนุญาตินำรูปหลวงปู่ที่ศรัทธาญาติโยมเข้าไปกราบเช้านี้มาให้ทุกท่านชมค่ะ หลวงปู่เมตตามากค่ะ
    ขอน้อมกราบหลวงปู่สิงห์ ( หลวงปู่วิเชียร )

    บัญชีสำหรับ ค่าดูแลรักษาพยาบาล
    และสิ่งของจำเป็น
    ของหลวงปู่สิงห์ #โดยตรง ค่ะ


    ธนาคารกรุงไทย
    ชื่อบัญชี(ร่วม) :
    จำเนียร ประสานดีและนายไท ทองหล่อ
    เลขที่บัญชี : 331-0-35110-6


    #ค่ายาพ่นหลวงปู่ที่เบิกไม่ได้ตกไปเดือนละ 2 หมื่นกว่า
    #ค่าแพมเพิร์สผู้ใหญ่
    #ค่าทิชชู่เปียก
    #ค่ายาหาหมอตามคลีนิคทั้งตา
    #ทั้งผิวหนัง
    #ค่าอุปกรณ์ต่างๆมากมายที่จำเป็นของหลวงปู่ท่าน
    ค่าใช้จ่ายท่านมากมายค่ะ...ฯลฯ
    17-03-31-12-43-06-517_deco.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2017
  14. เสือชัยรัตน์

    เสือชัยรัตน์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +26
    ผม นายชัยรัตน์ สงวนรัตน์ ร่วมทำบุญอุปฐากหลวงปู่สิงห์ 100 บาทครับ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลทุกประการค่ะ. สาธุค่ะ
     
  16. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตขอร่วมบุญอุปฐากหลวงตาวิเชียรทุกเดือน ด้วยใจบริสุทธิ์หาใช่ต้องการสิ่งใดตอบแทนไม่
    วันนี้ขอโอนเงินรายได้จากสัมมาอาชีพชอบทำบุญกับหลวงตา. 109. บาทค่ะ

    ขอทุกท่านมีส่วนในบุญร่วมกันนะคะ สาธุค่ะ
    MT_1491127905458.png
     
  17. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขอนำข้อความบางส่วนเมื่อครั้งคุณ เอก Keta เปิด
    ให้ร่วมสร้างโบสถ์สีหะลำดวนกับหลวงตาวิเชียร
    ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดุลย์โดยตรง

    มีครูบาฯท่านหนึ่ง
    เคยกล่าวในสมัยตอนที่หลวงตาบวชใหม่ๆ ว่า ....
    ขณะนั้นมีพระสงฆ์เต็มไปหมด ... แต่หลวงปู่ดูลย์
    กลับบอกว่า ที่นี่ มีพระแค่องค์เดียว.....
    นั้นคือหลวงตาวิเชียร นั่นเองครับ*****

    ผม ใช้ชื่อว่า KeTa ในเวบพลังจิต และเก็บสถิติ
    ผู้ที่มาร่วมบุญกับหลวงตาปรากฏชัดให้เห็นถึง
    ความเจริญก้าวหน้า เกิดปัญญา ทางโลก ทางธรรม
    ของแต่ละท่าน มีมากกว่า หลายสิบท่านที่โทรมา
    ด้วยความปิติ ร้องไห้ ที่ได้มาร่วมบุญกับหลวงตาครับ

    การร่วมบุญกับพระผู้เป็นเนื้อนาบุญอานิสงส่งผลรวดเร็วเหลือเกินค่ะ สาธุค่ะ 17-03-31-12-43-06-517_deco.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2017
  18. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,290
    ค่าพลัง:
    +6,361
    ขอร่วมอุปัฏฐากหลวงปู่วิเชียรครับ
    โอน299บาท วันนี้เวลา13.19น.
    กราบนมัสการหลวงปู่วิเชียรฯครับ
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมอุปัฏฐากหลวงปู่วิเชียรฯครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. ลินจัง

    ลินจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +589
    ขออนุโมทนาในจิตที่เป็นกุศลทุกประการค่ะ. สาธุค่ะ
     
  20. eakvega

    eakvega ELEVEn ๑๑

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2016
    โพสต์:
    666
    ค่าพลัง:
    +1,139
    ###ข้าพเจ้าฯ ขอมีส่วนร่วมในการอุปฐากภิกษุสงฆ์อาพาธ (พระครู วิเชียร ธมมสาโร)

    ###ขอเผื่อแผ่บุญกุศลที่ได้กระทำทั้งหมดในครั้งนี้ไปให้แก่ (น้า สิริลดา สิริจรรยากร หรือ **น้ายี**)

    ###ขอท่านทั้งหลายได้โปรดเป็นสักขีพยานและได้โปรดอนุโมทนาสาธุพร้อมกันเทอญฯ

    :::ขอถวายจตุปัจจัยเพื่ออุปฐาก(พระครูวิเชียร) เป็นจำนวนเงิน ๙๙.๙๙ บาท:::

    ***ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านทุกคนทุกพระองค์ด้วยเทอญ***

    7Ojzu1.png
     

แชร์หน้านี้

Loading...