บอกเล่าประสบการณ์ - พุทธคุณ หลวงปู่บุญ วัดทุ่งเหียง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย BlueBlur, 22 ตุลาคม 2009.

  1. BlueBlur

    BlueBlur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,664
    ค่าพลัง:
    +1,568
    [​IMG]

    หลวงปู่บุญ โสภโณ (พระครูโสภณพัฒนาภิรม) วัดทุ่งเหียง ต.หมอนนาง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี


    พระเกจิมหาเมตตา วิชาเข้มขลัง พลังศักดิ์สิทธิ์ บุญฤทธิ์บารมี

    หลวงปู่บุญ โสภโณ อายุ 78 ปี 57 พรรษา ( นับเมื่อปี 2551) เป็นพระเกจิแห่งยุคอีกองค์หนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติ งดงามมีจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ มีสมาธิจิตใจอันแน่วแน่เด็ดเดี่ยวมั่นคง มีบุญญาบารมีอันกว้างไกลไม่มีประมาณ ตั้งแต่พื้นราบฝั่งตะวันออกจรดภูสูงป่าดอยขุนเขาทางภาคเหนือที่ท่านรับ อุปการะเด็กน้อยผู้ด้อยโอกาสชาวไทยภูเขา ให้มีโอกาสได้รับการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาไปแล้วว่าสองพันราย? สร้างบุคลากรให้แก่พระพุทธศาสนา ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ ทั้งพระภิกษุและสามเณรหลายร้อยรูป
    นี่คือประจักษ์พยานที่เป็น?รูปธรรมสัมผัสได้? แห่งจิตอันเป็นบุญเป็นกุศลของหลวงปู่บุญ โสภโณ ประกอบกับองค์ความรู้จากการเล่าเรียนวิทยาคมกับพระเกจิอาจารย์ดังในอดีต
    หลวงปู่บุญ โสภโณ บวชตั้งแต่อายุ 20 กับหลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม เป็นอุปปัชฌาจารย์ (หลวงพ่อห่อ พระหมอต่อกระดูกเป็นพระคู่สวด ) หลวงปู่บุญยังธุดงค์ไปเรียนวิชากับครูอาจารย์อีกหลายท่าน อาทิ
    หลวงปู่เส็ง วัดประจันตคาม ผู้สร้างเหรียญโภคทรัพย์ นางกวักโด่งดังที่สุด
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่านศิษย์สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
    หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์กล่าวกับพระอาจารย์บุญว่า ? ดีจังฮู้ ...ขลังเหม็ด? หมายถึง ? ดีจัง... เสกอะไรขลังหมด ?
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรรส ได้วิชาเสือสมิงมหาอำนาจมา
    ขุนนครเขต ท่านขุนมีนิวาสสถานอยู่เกาะสีชัง มีเมีย 150 คน ท่านมีวิชาอาคมมหาเสน่ห์ พอตายแล้วเมียเอาผงมหาเสน่ห์ทิ้งน้ำหมด ปู่บุญได้ตำราวิชาจากท่านขุนมาองค์เดียว หลวงปู่เคยไปอยู่วัดระฆังไปพักอยู่กับกับหลวงปู่นาค วัดระฆังไปเรียนวิชากับหลวงปู่หิน ติดขัดอะไรก็กราบถามหลวงปู่นาค ครั้งนั้นได้ทั้งพระและผงสมเด็จวัดระฆัง และสูตรการลบผงพุทธคุณตำหรับสมเด็จโต
    สมัยเจ้าคุณจรัญ วัดอินทร ฯ เป็นสามเณรได้ผงหลวงปู่แก้วมาค่อนบาตร พอหลวงปู่บุญมาอยู่กับ หลวงพ่อบ๋วย วัดเครือวัลย์ท่านได้มอบตำลาหลวงปู่แก้วให้และ ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ ที่เจ้าคุณจรัญมอบให้มาเกือบครึ่งบาตร
    พระอาจารย์อีกองค์คือ หลวงปู่ เปี่ยม อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งเหียงศิษย์ในสายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    วิชาที่หลวงปู่บุญ โสภโณ เรียนมาจากพระคณาจารย์แต่ละองค์ ท่านล้วนเป็นผู้ทรงวิทยาคุณ นอกจากหลวงปู่บุญท่านมีวิชาครูบาอาจารย์ดีแล้ว ท่านยังมีเมตตามากที่สุดด้วย


    ช่วงปี พ.ศ.2530 ท่านจาริกธุดงค์ไปทางภาคเหนือ บนดอยแถวสูงอาทิ ดอยปางอุ๋ง อำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นท้องถิ่นทุรกันดาร ชาวเขาอยู่กันแบบตามมีตามเกิด เด็กชาวเขาขาดโอกาสทางการศึกษา อยู่อย่างอดยากยากจน ลำบาก ไม่มีอนาคตด้วยจิตที่เปี่ยมด้วยเมตตา ได้ได้เห็นภาพทุกเวทนาของผู้ยากไร้ ขาดปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ ถูกสังคมทอดทิ้ง พูดเขียนอ่านภาษาไทยไม่ได้ ชาวเขาสมัยนั้นนับถือผี ยังไม่รู้จักพระพุทธศาสนา หลวงปู่บุญท่านได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้รู้จักสวดมนต์ ไหว้พระ รู้จักการเรียนเขียนอ่านภาษาไทย ให้การสงเคราะห์เครื่องอุปโภคบริโภคชาวเขาศรัทธาท่านในฐานะพระผู้เมตตา เป็นผู้ให้การช่วยเหลือ เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่ชีวิต ชาวเขาก็เข้ามานับถือพระพุทธศาสนาเพิ่มมากขึ้น เด็กผู้ชายก็มาขอบวชเป็นสามเณร ท่านได้นำเด็กชาวเขามาอุปการะเลี้ยงดูให้เรียนหนังสือที่วัดทุ่งเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี จากเด็กชาวเขาจำนวนสิบ เพิ่มเป็นจำนวนร้อย และหลาย ๆ ร้อยคน
    ท่านได้ตั้งโรงเรียนพระปริยติธรรมและทุนนิธิฯที่วัดทุ่งเหียงเพื่อ อุปการะเลี้ยงเด็กชาวเขาเหล่านี้ เกือบ 20 ปีที่ผ่านมาท่านสร้างโอกาสให้กับเด็กผู้ยากไร้ ให้มีการศึกษา มีอนาคต สำเร็จการศึกษาระดับเบื้องต้น ระดับอาชีวะ จนถึงระดับอุดมศึกษาประมาณ 2,000 กว่าราย โดยไม่เรียกร้องค่าตอบแทน ท่านเลี้ยงเหมือนลูกเหมือนหลาน ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นคนดีของสังคม เป็นบุคลากรที่อุดมของประเทศชาติ
    ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในความดูแลหลวงปู่บุญ ร่วม 300 คน มีสามเณรอีก 80 รูป รายจ่ายค่าอาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค เครื่องเขียนแบบเรียน หลวงปู่รับภาระทั้งหมด
    หลวงปู่บุญ โสภโณ ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างมาก (นับว่าสุดยอดกับพระผู้ชราวัยใกล้ 80 ปี) เพื่อเลี้ยงเด็กเหล่านั้นด้วยเมตตา หลวงปู่กล่าวว่า......อีกไม่นานท่านก็ตายแล้วความดีต้องรีบทำ ท่านยอมอดดีกว่าให้เด็ก ๆ เหล่านั้นอด
    ด้วยจิตที่เปี่ยมด้วยเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นจิตที่ดำเนินแบบพระโพธิสัตว์ที่ทรงเมตตาบารมีหาที่สุดมิได้ไม่มีประมาณ ด้วยกุศลเจตนาและบุญกริยานี้คงเป็นแรงส่งเสริมอันหนึ่งที่ทำให้วัตถุมงคลของ หลวงปู่เข้มขลังด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ บุญฤทธิ์บารมี กุศลผลบุญทานบารมีที่หลวงปู่บุญบำเพ็ญมา ย่อมส่งผลต่อผู้ศรัทธาผู้ร่วมทำบุญกับท่าน ไได้ร่วมรับผลานิสงส์อนุโมทนาสาธุการเป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ทุกภพทุกชาติสายครูสายตำราที่หลวงปู่บุญ ได้ร่ำเรียนมาจากครูอาจารย์ผู้มีวิชาดีสมัยท่านเดินธุดงค์ มีหลายสาย อาทิ
    สายวิชาหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ สายอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ ฆราวาสผู้เรืองเวทย์
    สายวัดประดู่ในโรงธรรม หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    สายหลวงปู่ทองวัดราชโยธา หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว
    สายหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
    สายหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด
    สายหลวงพ่อหรุ่ง เก้ายอด อัมพวา เป็นต้น

    บุญบารมีและสรรพวิชาวิทยาคมเหล่านี้ได้สั่งสมจนเป็นพื้นฐานรองรับความศักดิ์สิทธิ์ในวัตถุมงคลของหลวงปู่บุญ โสภโณ(พระครูโสภณพัฒนาภิรม)
    ถ้าท่านอยากได้ทั้งของดี สร้างและปลุกเสกโดยพระดี ได้ที่ของดี ได้ทั้งบุญกุศลในการส่งเสริมภิกษุ สามเณรให้ได้ร่ำเรียนศึกษาพระธรรมวินัยสืบพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนต่อไป ช่วยเหลือเด็กชาวเขาที่ด้อยโอกาสของจริงเจตนาแรงอย่างนี้...ขลัง...แรงยิ่ง นัก
    หลวงปู่บุญ โสภโณ กล่าวถึงการสร้างวัตถุมงคลของท่านว่า.....
    " ถ้าทำแล้วไม่ขลัง ตายไปต้องไปใช้หนี้เขา สุกเอาเผากินข้าไม่เอา "

    credit : http://www.amulet.in.th/forums/view_topic.php?t=1968
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2009
  2. BlueBlur

    BlueBlur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,664
    ค่าพลัง:
    +1,568
    [​IMG]
    ส่วนตัวผมมีประสบการณ์กับปิดตาแลกซุง ที่ใช้แล้วดีด้านเมตตา และ มหาอำนาจครับ จากคนเกลียดกันมา กับกลายเป็นคนพูดจาดีมีน้ำใจไมตรีจิตให้แก่กัน เลยขอเผยแพร่ ประวัติการสร้างปิดตาแลกซุง ซึ่งเจตนาการจัดสร้างของปิดตาแลกซุง เพื่อต่อชีวิตเด็กน้อย ที่หลวงปู่อุปการะมากครับ

    หลวงปู่บุญท่าน นำผงพระปิดตาหลวงปู่แก้วที่ท่านเก็บสะสมไว้มาก นำมาสร้าง พระปิดตาพิมพ์แลกซุงนี้ พร้อมทั้ง เอาสีผึ้ง 3 นามของท่าน (เป็นสีผึ้ง ผสม ระหว่างสีผึ้ง ของ หลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ สีผึ้ง หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง และสีผึ้ง หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม อุปัชฌาย์ ของท่าน) พระปิดตาแลกซุงนี้ ท่านสร้างจากตำราโบราณหลวงพ่อแก้ว ซึ่งเรียกว่ารุ่นแลกซุง หรือ รุ่นลากซุง หลวงพ่อแก้วท่านเป็นนักก่อสร้าง ถ้าใครมาช่วยชักลากซุง จากป่ามาถึงวัด ท่านก็ให้พระ 1 องค์ ใครเอาซุงมาถวายท่าน 1 ท่อน ท่านก็จะให้พระ 1 องค์ เพราะฉะนั้น จะเรียกรุ่นลากซุงก็ถูก จะเรียก รุ่นแลกซุงก็ไม่ผิด วัสดุที่ใช้ ท่านได้จากบริเวณโป่งช้าง หรือโป่งสัตว์ ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ เช่น ดอกบุนนาค ดอกนมแมว ท่านจะรอให้แมลงตอมดอกไม้เสียก่อน ดอกไม้ที่ไม่มีแมลงตอม.. ท่านว่า ไม่หอม...ไม่เอา ส่วนผสมต่อมา เรียกว่าไม้ไก่กุก ไม้ที่ไก่เจาะจงไปใช้จงอยปากเคาะ..คนโบราณถือว่า เป็นไม้เสน่ห์มหานิยม ชายได้ก็ใช้ทัดหู หญิงได้ก็ห้อยไว้ที่อก เชื่อกันว่าจะเสริมความสวยความงามขึ้นอีกสิบเท่า
    ผงที่ลงเลขยันต์ ที่ลบเก็บไว้ เกสรดอกบัวที่นาคนำเข้าถวายพระอุปัชฌาย์ ตอนเข้าขออุปสมบท ไคลเสมา หรือตะไคร่น้ำเสมาหน้าโบสถ์ ฯลฯ ส่วนผสมสุดท้าย คือน้ำ หลวงพ่อแก้วใช้ขันรองน้ำที่หยดจากผนังถ้ำ ท่านเรียกว่าหยดน้ำตา หยาดน้ำตก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความอาลัย ในยามที่จะพลัดพรากจากกัน หลวงปู่บุญบอกว่า มีอาถรรพ์มากตั้งแต่ตอนทำตอนผสมผง ทั้งฝูงแมลงบินมา เต็มกุฏี หมูที่อยู่ หลังวัดร้องระงมกันทั้งคอก ตอนเสกก็มีนิมิตนี้ เจ้าของผง มานั่งคุมพิธีเสกเอง หลวงปู่จึงให้ทำบุญโดยยึดถือ ปฎิทาของหลวงปู่แก้วที่มีมาแต่เดิม ถ้า จะให้นำพระปิดตานี้ไปแลกซุงสมัยนี้คงจะเป็นไปไม่ได้ และซุงก็แพงมากหาก็ยาก ตอนนี้หลวงพ่อเลี้ยงเด็กชาวเขา หลายร้อยชีวิต หลวงพ่อจึงขอรับบริจาค ข้าวสารมาใช้เลี้ยงเด็ก ใครบริจาคข้าวของ ขนม ก็มารับพระปิดตาไป 1 องค์ หลวงพ่อเจริญพรว่า ถ้าข้าวสารก็ขอซัก 10 กิโล ให้พระปิดตาแลกซุง 1องค์ ขนม ผลไม้ ก็ขอ 1 กล่อง ให้พระปิดตา 1 องค์
     
  3. BlueBlur

    BlueBlur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,664
    ค่าพลัง:
    +1,568
    [​IMG]

    วัดทุ่งเหียง ตำบลหมอนนาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันมีพระครูโสภณพัฒนาภิรม (หลวงปู่บุญ) เป็นเจ้าอาวาส มีพระภิกษุและสามเณรอยู่ในความปกครอง ๑๐๐ กว่ารูป มีเยาวชนชาวไทยภูเขาที่ยากจนและเป็นเด็กกำพร้าด้อยโอกาสทางการศึกษาอีก ๔๐๐ กว่าคน ซึ่งเยาวชนเหล่านี้อยู่ในความดูแลของทางวัดในทุกๆด้าน เช่น ที่อยู่อาศัย-อาหาร-เสื้อผ้า-ยารักษาโรค-อุปกรณ์การเรียน ฯลฯในแต่ละปีทางวัดต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากนับว่าเป็นภาระที่หนักพอ ควร ทั้งนี้ เพราะทางวัดไม่มีมูลนิธิมารองรับและทางภาครัฐก็ไม่ได้ให้การช่วยเหลือแต่ ประการใด ทางวัดต้องอาศัยกำลังศรัทธาจาก พุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่มาบริจาค ข้าวสารอาหารแห้งตลอดทั้งอุปกรณ์การเรียน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
     
  4. ต้อมบ้านสวน

    ต้อมบ้านสวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +264
    วันที่1พ.ย.52นี้แม่และผมจะเอากองกฐินไปถวายวัดท่านครับรับปากท่านไว้เมื่อต้นปีแล้วว่าจะเอากฐินไปที่วัดท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...