บอร์ดความรู้เรื่องพระเครื่อง-วัตถุมงคล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย โยนกนาคบุรี, 17 กันยายน 2007.

  1. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    มีห้องแชทมาแนะนำทุกคนนะครับ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องราง วัตถุมงคล พระเครื่อง เข้าไปสนทนา ไปแชทได้ แบบว่าต้องการคุยให้รู้เรื่อง
    ไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ
    ไปคุยได้เลย เรื่องพุทธศาตร์พลังจิตก้คุยได้
    วันนี้หนีจากห้องมิวสิคมาโพสซะหน่อย


    (b-smile)


    http://www.bbznet.com/scripts/board.php?user=aramee

    http://www.bbznet.com/scripts/board.php?user=aramee

    อิสระการคุยอยู่ในเวปนี้นะครับ เชิญปัญญาชนทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2007
  2. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    กำเนิดว่าน
    <O:p
    ว่านเป็นพืชที่เกิดขึ้นโดยวิวัฒนาการตามธรรมชาติเช่นเดียวกับบรรดาสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ฉะนั้นจึงไม่สามารถสืบสาวราวเรื่องได้ว่า ว่านชนิดใดเกิดตั้งแต่เมื่อใด เท่าที่ปรากฏในตำราสมุดข่อย ซึ่งได้เป็นมรดกตกทอดกันต่อ ๆ มา ตั้งหลายชั่วอายุคนแล้วนั้น ปรากฏดังนี้<O:p
    <O:p
    พระตำหรับว่าน สิทธิการิยะ ยังมีฤาษี ๔ องค์ในแผ่นดินนี้ มีฤทธาอานุภาพยิ่งกว่าบรรดาโยคีฤาษีทั้งปวง ทั้ง ๔ องค์นี้มีนามว่า กะวัตฤาษีองค์หนึ่ง กะวัตพันฤาษีองค์หนึ่ง สัพรัตถนาถฤาษีองหนึ่ง จังตังกะปิละฤาษีอีกองค์หนึ่ง พระฤาษี ๒ องค์ใน ๔ องค์นี้ ได้ให้ธาตุทั้ง ๔ ตั้งอยู่เป็นอธิบดีแก่บรรดาสรรพสิ่งทั้งปวง ส่วนท่านฤาษีองค์ที่ ๔ คือท่านจังตังกะปิละนั้นได้ตั้งบรรดากบิลว่านต่าง ๆ ขึ้นไว้สำหรับท้าวพระยาทั้งปวงอันรู้จักคุณffice:smarttags<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]พระรัตนตรัย คือพระพุทธรัตนะ</st1:personName> พระธรรมรัตนะ พระสงฆ-รัตนะ ทั้งยังรู้จักอดกลั้นต่อบรรดาอกุศลกรรมทั้งหลายอีกด้วย เพื่อสำหรับท้าวพระยาและสมณชีพราหมณ์ทั้งปวง จนได้รู้จักสรรพคุณและสารประโยชน์จากว่านต่าง ๆ เหล่านั้น ไปช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บและช่วยปกป้องผองภยันตรายทุกข์ภัยนา ๆ ประการแก่ผู้เฒ่าผู้แก่แลคนทั้งปวงทั่วกัน

    เดี๋ยวมาต่อ
     
  3. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    ตามที่กล่าวนี้แสดงว่า ได้เคยมีการรวบรวมบรรดาว่านต่าง ๆ เข้าเป็นหมวดหมู่ สำหรับสั่งสอนประชาชนต่อ ๆ มาให้รู้จักถึงชนิดว่าน ลักษณะและสรรพคุณ หรือประโยชน์ของว่านมาแล้วในอดีต ทั้งแสดงว่าการกระทำอย่างนี้ได้กระทำในสมัยเมื่อพระพุทธศาสนาได้เกิดมีแล้ว คือไม่นานเกินกว่า ๒๕๐๐ ปีมานี้เองอย่างแน่นอน<O:p</O:p
    <O:p
    โดยปรกติพระฤาษีหรือท่านผู้ทรงวิทยาคุณขลังต่าง ๆ ย่อมพำนักอาศัยอยู่ตามป่าสูงหรือในถ้ำตามภูเขา ฉะนั้นบรรดาชาวป่าชาวดอยที่มีถิ่นที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง จึงพลอยได้รับความรู้ในเรื่องว่านยาจากท่านเหล่านั้นเอง และคงรักษาความรู้ ไว้ด้วยการบอกเล่าสืบทอดต่อมาจนทุกวันนี้ การนับถือิทธิฤทธิ์ของว่านจึงยังคงมีแพร่หลายอยู่ในหมู่ชนชาวป่าชาวดอยเหล่านั้นตลอดมาจนบัดนี้ ได้แก่พวกกะเหรี่ยง, ละว้า, ข่า, ขมุ, ยาง, แม้ว, เย้า, ชอง, ต้องสู้, เขมร และลาวที่อยู่นอก ๆ เขตชุมนุมชนออกไป ถึงในเมืองไทยเราตามแถวชาวชนบทชั้นนอก ๆ ก็ยังคงมีผู้เลื่อมใสเชื่อถือในอภินิหารของว่านอยู่อีกไม่น้อยเหมือนกัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    อิทธิฤทธิ์ของว่าน<O:p</O:p
    <O:p
    ว่านต่าง ๆ มีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยไปกว่าเวทย์มนต์พระคาถาเหมือนกัน โดยสามารถป้องกันภยันตรายต่าง ๆ ได้ เช่นอยู่ยงคงกระพันชาตรี (คือใช้ของมีคมเช่นมีดฟันถูกร่างกายแล้วไม่เข้าเป็นบาดแผลตามปรกติทั่ว ๆ ไป อย่างมากเป็นเพียงรอยขีดบนผิวหนังเล็ก ๆ มีเลือดออกซิบ ๆ หรือบวมนูนเพราะรอยถูกฟันอย่างแรงให้แลเห็นเท่านั้น หรือใช้ปืนยิงมาก็ทำให้ยิงไม่ดัง ไม่มีลูกปืนออกมาถูกตัว หรือถ้ามีเสียงหรือมีลูกปืนออกมา ก็แคล้วคลาดไม่กระทบถูกร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใด หรือถ้าหากกระทบถูกต้องร่างกายก็ไม่มีบาดแผลปรากฏแก่ร่างกาย นอกจากแก่เสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นรอยถูกกระสุนไหม้เกรียมหรือเป็นรูขาดเเท่านั้น) เมื่อกินว่านเข้าไปแล้วทำให้มีกำลังวังชาเกิดขึ้นมากมาย มีใจฮึกเหิมไม่หวาดกลัวต่อบรรดาสาตราวุธทั้งปวงสามารถต่อสู้เอาชนะคนหมู่มากที่ลุมล้อมอยู่ได้ ว่านบางชนิดทำให้คนปกติดี ๆ ที่ไปถูกเข้าถึงกับเป็นง่อยเปลี้ยเสียขาไปก็มี บางชนิดมีพิษถึงกับทำให้ถึงกับตายได้ก็มี บางชนิดเกิดทำให้เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ผู้มีว่านชนิดนั้นติดตัว ว่านบางชนิดทำให้เกิดเป็นเสนียดจัญไรได้ เช่น ว่านดอกทอง บางชนิดใช้เป็นยารักษาโรคต่าง ๆ เช่นว่านน้ำและว่านหางจรเข้ ว่านบางชนิดสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ลอยพุ่ง เป็นดวงในเวลากลางคืน นำเอาดวงหน้าคนปลูกไปแสดงด้วย เที่ยวเพ่นพ่านดังภูตผีปีศาจ เช่นว่านกระสือเป็นต้น ทั้ง ๆ ที่ว่านมีฤทธิ์ดังกล่าวมาแล้วต่าง ๆ ก็ยังคงมีผู้สนใจศึกษาในเรื่องราวของว่านน้อยมาก ทั้งนี้เป็นเพราะขาดการเชื่อถือ และไม่มีผู้รู้ที่สามารถชี้ชัดลงไปว่า ว่านชนิดใดมีรูปร่างลักษณะอย่างใดแน่ ขาดทั้งตัวอย่างสำหรับนักศึกษาพอจะศึกษาตามหลักเกณฑ์ทางแผนปัจจุบัน ยิ่งในทางสรรพคุณและอิทธิฤทธิ์ของว่านด้วยแล้ว ยิ่งหาผู้ทรงวิทยาคุณชี้ชัดว่าว่านอย่างนี้มีสรรพคุณทางยาอย่างใด มีอิทธิฤทธิ์อย่างใดให้แน่นอนยากมาก เพราะขาดผู้ชำนาญที่เคยใช้ทดลองหรือเคยพบเคยเห็น ส่วนมากมักพูดว่าเคยพบจากตำราหรือท่านว่าแต่อย่างเดียว<O:p
    <O:p
    ทั้ง ๆ ที่บรรดาว่านต่าง ๆ ได้ถูกท่านโบราณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทางคาถาอาคมขลังได้รวบรวมบรรดาหัวว่านสำคัญต่าง ๆ ตั้ง ๓๐๘ อย่าง ทำเป็นผงผสมกับเกษรไม้หอม เช่น พิกุล บุนนาค มะลิ บัวทั้ง ๕ ประกอบด้วยผงวิเศษต่าง ๆ มีผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช, ผงมหานิยม, ผง ณ หน้าท้อง, ผงอิติปิโส ๑๐๘, ผงคัมภีร์, กาฝากมะนาว, กาฝากพุต, ไคลโบสถ์, ไคลเสมา, ชานหมากและของอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง โดยนำมาบดให้ละเอียดระคนรวมกันผสมน้ำมันตังอิ้วปั้นเป็นแท่ง ทำแม่พิมพ์ประทับเป็นองค์พิมพ์รูปต่าง ๆ เมื่อแห้งสนิทแล้วจึงนำเข้าพิธีพุทธาภิเศกพร้อมด้วยพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณมากรูปทำพิธีปลุกเศกคาถากำกับให้พระพิมพ์เหล่านั้นมีอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีบ้าง เป็นเมตตามหานิยมบ้าง เรียกกันว่าพระเครื่องเป็นต้น และที่พระเครื่องทรงความศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ด้วยอภินิหารของว่านบรรดาลช่วยเหลือเกื้อกูล พร้อมทั้งคาถาอาคมที่ประกอบเป็น ๒ แรงด้วยกัน <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2007
  4. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    ลืมไปนะครับ คุณพ่อมดโลจิก็ไปโพสรอแล้วนะครับ ท่านที่สนใจแก้วของพ่อมดโลจิตามไปได้นะครับ
    จะซื้อขายวัตถุมงคลก็เชิญนะครับ
     
  5. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    อิทธิฤทธิ์ของว่านนั้นจะมีคงที่ตลอดไปได้มักเป็นว่านที่ได้ปลูกติดต่อเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษเป็นเวลานานหลายชั่วอายุคนมาแล้วโดยมาก เพราะผู้ปลูกเหล่านั้นทราบเคล็ดลับของการทำให้ว่านคงทรงอิทธิฤทธิ์อยู่โดยมิเสื่อมคลาย ส่วนว่านที่ขึ้นเองตามป่าเขาโดยธรรมชาตินั้นมักไม่ใคร่มีอิทธิฤทธิ์ ทั้ง ๆ เป็นว่านชนิดเดียวกันอย่างเดียวกัน ในการนี้ถึงแม้จะได้นำเอาว่านมาปลูก ถ้ามิได้ระมัดระวัง โดยปล่อยให้ว่านขึ้นและโรยราไปเองตามธรรมชาติหรือปล่อยให้ว่านคงอยู่ในดินตลอดระยะเวลาจนกว่าจะถึงฤดูฝนมาใหม่ ว่านก็จะผลิแตกต้นอีก แต่อิทธิฤทธิ์ของว่านนั้นจะจืดจางเสื่อมลงไปทุกที นาน ๆ หลายฝนเข้าก็หมดฤทธิ์ไปเอง ทั้งนี้เป็นเพราะธาตุสาร(ปรอท) ในตัวว่านลืมต้น คือหนีออกไปจากต้นในขณะเมื่อว่านโทรมในฤดูแล้ง ถ้าหากได้กู้ว่านขึ้นจากดินภายในเดือน ๑๒ วันอังคารหรือภายในเดือนอ้ายไม่เกินข้างขึ้นอ่อน ๆ วันพุธเสียก่อนแล้ว คืออย่าให้ว่านคงอยู่ในดินเลยพ้นถึงฤดูนกกาเหว่าหรือนกยูงร้องหาคู่จึงจะไม่เสีย ถ้าปล่อยให้หัวว่านคงอยู่เลยฤดูนี้ไป ว่านนั้น ๆ ก็จะเสื่อมอานุภาพลงไปเรื่อย ๆ
     
  6. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    วิธีปลูกว่าน
    <O:p
    เพราะว่านเป็นกายสิทธิ์มีคุณฤทธิ์โดยเฉพาะตัวของว่านเอง ฉะนั้นการปลูกจึงต้องมีพิธีรี-ตรองมากกว่าการปลูกพืชธรรมดาทั่วไป เช่นในการปลูกว่านจะต้องหาวันฤกษ์ดีของเดือนที่จะปลูก เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ผู้ปลูกเองกับเป็นการเพิ่มคุณฤทธิ์ให้แก่ว่านไปด้วยในตัว โดยมากมักปลูกกันในวันอังคาร เดือน ๖ เพราะเป็นหน้าฝนเหมาะแก่การปลูกพืชชนิดนี้มากกว่าเดือนอื่น ดินที่ใช้ปลูกว่านต้องเป็นดินสะอาดปราศจากวัตถุพวกมูลสัตว์ต่าง ๆ เจือปน และเป็นดินบริเวณกลางแจ้งไม่มีอะไรบัง ควรร่อนเอาแต่ส่วนละเอียด ๆ ไปใช้ ดินมี ๒ สี คือดำกับแดง<O:p></O:p>
    <O:p
    1. เป็นดินร่วน<O:p
    <O:p
    2. เป็นดินปนทราย<O:p
    <O:p
    3. เป็นดินเผาไฟแล้วทุบให้ละเอียด ทิ้งตากน้ำค้างไว้คืนหนึ่ง<O:p
    <O:p
    4. เป็นอิฐเผาไฟแล้วทุบให้ละเอียด<O:p
    <O:p
    5. หญ้าแห้งสับเป็นท่อน ๆ ขนาดครึ่งนิ้ว สำหรับผสมปนกับดินหรือดินปนทราย<O:p
    <O:p
    เวลาเอาหัวว่านลงแล้ว เวลากลบดินอย่ากลบให้ดินแน่นเกินไปนัก เพื่อน้ำที่รดจะได้ซึม<O:p</O:p
    <O:p
    ได้ง่าย หากกดดินแน่นหัวว่านเกินไป น้ำซึมได้ช้า ทำให้หัวว่านชุ่มน้ำเกินไปอาจเน่าเสียโดยง่าย และส่วนมากควรเหลือหัวว่านให้โผล่พ้นดินสักนิดหน่อยเพื่อสะดวกในการแตกต้นขึ้นใหม่<O:p
    <O:p

    คาถาในการรดน้ำว่านเมื่อปลูกแล้ว<O:p</O:p
    <O:p
    ว่านสำคัญ ๆ ที่มีคุณฤทธิ์มาก จำเป็นต้องเศกคาถากำกับในเวลาก่อนรดน้ำ คาถามีต่าง ๆ กันดังนี้
    <O:p
    ๑.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  7. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    (b-evil) ​
    ว่านกงจักร์พระอินทร์
    ลักษณะ ต้นใบคล้ายขมิ้นธรรมดา เนื้อในหัวสีเขียวแก่<O:p
    <O:p
    ประโยชน์ ใช้ในทางรักษาโรคตาโดยเฉพาะ แก้ตาแดง, ตามัว, ตาต้อ, ตาริดสีดวง, ตาแดง<O:p</O:p
    <O:p
    และตาแฉะ เอาหัวว่านมาปอกแล้วปิ้งไฟพอเกรียมทั่ว แล้วจึงเอาดองกับเหล้า เอาหมกข้าวเปลือกไว้สามคืน จึงเอามาคั้นเอาแต่น้ำเก็บไว้หยอดตา แก้โรคตาได้ต่าง ๆ วิเศษนัก ทั้งยังมีอานุภาพเป็นว่านคงกระพันชาตรีเสียอีกด้วย โดยเอาติดตัวหรือกิน ก่อนกินเศกด้วยคาถา
     
  8. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    เอาผญาภูมิปัญญาล้านนามาฝากดีกว่า
    ต๋าแหลว ภาษาไทยภาคกลางเรียก "เฉลว" เป็นเครื่องสานทำด้วยเส้นตอกขัดไขว้กัน ให้ส่วนกลางมีลักษณะเป็นตาหกเหลี่ยม มีชายยื่นออกโดยรอบ

    ชาวล้านนาใช้ตาแหลวเป็นเครื่องหมายทางพิธีกรรมตามความเชื่อ โดยเฉพาะการแสดงอาณาเขตหวงห้าม แสดงอาณาเขตที่มีเจ้าของ เป็นเครื่องช่วยให้พื้นที่นั้นๆ คลาดแคล้วจากภัยพิบัติ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ ดังที่มักพบตาแหลวเสียบไม้ปักไว้ในแปลงข้าวกล้า เพื่อเป็นเครื่องเสริมกำลังมิให้ข้าวกล้าถูกรบกวนจากศัตรูพืช หรือมีการแขวนตาแหลวกับด้ายสายสิญจน์และหญ้าคาฟั่นเวลามีงานสำคัญ อาทิ สืบชาตา ทำบุญเมือง เป็นต้น
    <O:p
    ความเป็นมาของตาแหลว พบร่องรอยในเรื่องราวที่เล่าเป็นตำนานว่า
    ณ เมืองหิรัญนครเงินยาง มีกษัตริย์ครองเมือง ชื่อ "ขุนเติง" กษัตริย์องค์นี้ ชอบเข้าป่าล่าสัตว์เป็นประจำ ครั้งหนึ่งได้ปัสสาวะลงในบ่อหิน เผอิญลูกสาวของพญานาคในสภาพที่แปลงกายเป็นลิงไปกินน้ำปัสสาวะนั้น และตั้งครรภ์ขึ้นในเวลาต่อมา
    <O:p
    การตั้งครรภ์ของนาง เป็นเหตุให้นางหลงรักขุนเติง เพราะรู้สาเหตุว่าเกิดจากการดื่มน้ำปัสสาวะของขุนเติง ความรักนี้ทำให้นางแปลงกายเป็นหญิงงามอยู่ในวิมานใต้ต้นไม้ แล้วเนรมิตกวางทองไปล่อให้ขุนเติงไล่ตาม จนพลัดหลงจากบริวารมาถึงวิมานของนาง แล้วได้อยู่กินร่วมกันอย่างมีความสุข
    <O:p
    วันหนึ่ง นางลิงอยากเล่นสนุกสนานตามวิสัยของสัตว์ จึงให้ขุนเติงอยู่ในวิมาน ส่วนนางเอาผ้าม่านกั้นระหว่างใต้ต้นไม้กับบนต้นไม้ แล้วขึ้นไปเล่นกับพวกลิง และสัตว์ต่างๆ อย่างสนุกสนาน ส่งเสียงอึกทึกกันอยู่ ส่วนขุนเติงอยู่ในวิมานรู้สึกรำคาญเสียงนั้น จึงเอามีดกรีดผ้าม่านดู จึงเกิดความหดหู่ใจ ถึงขั้นบอกลานาง ซึ่งนางก็เข้าใจในความรู้สึก
    <O:p
    ก่อนจากกัน นางลิงได้รีดเอาลูกในท้องออก แล้วเอาใบ "ตองตึง" (ใบพลวง) ห่อไว้ จากนั้นได้รีดนมใส่กระบอกไม้ นางมอบให้ขุนเติง โดยสั่งเสียว่าเมื่อไปถึงเมืองให้เอาเด็กออกแล้วให้นมในกระบอกเป็นอาหาร หากเด็กโตขึ้นให้มีชื่อว่า "ขุนตึง" เพราะถูกห่อด้วยใบตองตึง
    <O:p
    ขุนตึง โตขึ้นตามกาลเวลาจนอายุได้ ๑๖ ปี ครั้งหนึ่ง ได้เข้าป่าล่าเนื้อและได้พบกับแม่ลิงโดยบังเอิญ แม่ลิงได้พาขุนตึงไปหาพญานาค ซึ่งเป็นตาของขุนตึง ครั้งนั้นแม่ลิงให้ขุนตึงขอของวิเศษ ๒ อย่าง จากพญานาคได้แก่ "หม้อแกงตองบ่จ่าย" (หม้อแกงโลหะที่ไม่ต้องใช้เงินจ่ายแต่ก็มีกิน) และ "ขอขวักไขว่แปลงเมือง" (ตะขอที่เนรมิตเมืองได้) ทั้งสองอย่างมีวิธีใช้คือถ้าจะใช้หม้อแกงให้ยกขึ้นตั้งบนเตา บอกว่าจะปรุงอาหาร จะมีเนื้อมีปลาปรากฏในหม้อ อาหารที่อยู่ในหม้อจะสามารถเลี้ยงคนนับหมื่นนับแสน ส่วนตะขอนั้นให้เอาแขวนไว้ในบริเวณที่จะนอนหากจะสร้างบ้านเมืองที่ใดให้เอาตะขอนั้นกวัดแกว่งในเวลากลางคืนจะเกิดบ้านเมืองขึ้นทันตาเห็น
    <O:pวันที่ขุนตึงเดินทางกลับเมือง ระหว่างทางเขาพบชัยภูมิแห่งหนึ่งเหมาะที่จะสร้างเมือง จึงแวะพักนอนค้างคืน ก่อนนอนได้เอาตะขอเกี่ยวกิ่งไม้ไว้บนหัวนอน ตกดึกขุนตึงยกตะขอขึ้นกวัดแกว่งจึงเกิดบ้านเรือน ผู้คนและสัตว์เลี้ยงขึ้นในทันทีทันใด และในเมืองนั้น ผู้คนไม่ต้องหุงหาอาหาร เพราะมีหม้อวิเศษเป็นแหล่งอาหารอยู่แล้ว ขุนตึงได้ขึ้นครองเมืองใหม่เป็นปฐมกษัตริย์แต่นั้น
    <O:p
    กล่าวถึงบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายที่เคยเป็นบริวารของนางลิง ต่างพากันดีใจที่บุตรชายของเจ้านายได้ครองเมืองจึงพากันมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองเป็นโกลาหล ขุนตึงพยายามควบคุมให้สัตว์อยู่ในความสงบ แต่ต่อมาสัตว์เหล่านั้น ก็ไปเหยียบย่ำกัดกินพืชไร่ของชาวเมือง ทำให้เดือดร้อนไปทั่ว
    <O:p
    นานวันสัตว์ทั้งหลายยิ่งสร้างความเดือนร้อนขึ้นเรื่อย ขุนตึงจึงไปขอให้ "พญาแหลว" (พญาเหยี่ยว) มาจับจ้องคอยดูแล แรกๆ สัตว์ก็เกรงกลัวขณะที่พญาแหลวจับตามอง แต่คราวใดที่พญาแหลวไม่อยู่ ก็จะพากันออกมาขโมยพืชไร่ สุดท้ายพญาแหลวก็ไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา
    <O:p
    ความนี้ทราบถึงนางลิงผู้เป็นนายของสัตว์ป่า นางได้แนะนำให้ขุนตึงสานตอกให้มีรูป "ดวงตา" ของ "แหลว" ไปปักไว้ในที่ต่างๆ ที่เคยถูกรบกวน เมื่อสัตว์เห็นเป็นดวงตาของแหลวจะไม่กล้าทำลายพืชพันธุ์ เพราะเข้าใจว่าพญาแหลวคอยจ้องดูอยู่ นางแนะนำเช่นนั้นแล้วก็ไปสั่งกำชับสัตว์บริวารว่าตราบใดที่เห็นตาแหลวปรากฏอยู่ที่ใดก็ตาม ห้ามเข้าไปรบกวนบริเวณนั้นโดยเด็ดขาด
    <O:p
    ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านจึงนิยมสานตาแหลวปักไว้ตามท้องนาท้องไร่เพื่อป้องกันพืชผล และนอกจากนี้ยังนิยมใช้ประกอบพิธีตามความเชื่อเพื่อป้องกันภัยอันตราย ในลักษณะเดียวกันด้วย.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2007
  9. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    คือว่าไม่อยากเข้าไปกันเพราะชื่อเวปไม่คุ้น เวปน่ากลัวเหรอครับ
    หรือว่ากลัวของพวกคุณขายไม่ออก ถ้ากลัวขายไม่ออกไม่ว่า
    ถ้าได้แวะกรุณาแวะเก็บความรุ้สักหน่อยนะ ทุกตัวอักษร
    มันก็มีที่มาที่ไป

    [​IMG]
    น้ำมันว่านไก่แดงแช่มาแรมปี​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. PAGE.14A

    PAGE.14A เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +305
    ขอรบกวนสักหน่อยเตอะเจ้า จะฝากเวบลิ้งเกี่ยวกับลูกแก้วเทพเจ้าโภคทรัพย์
    แนะนำฮื้อคนเหนือได้ฮู้จัก เผื่อจะมีคนอยากบูชา
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=85501
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=86364
    เพราะเมื่อก่อนก่อเกยได้มาจากคนหนึ่ง หนึ่ง และเห็นว่าท่านให้ในสิ่งที่เราขอมา ทุกครั้ง แล้วตอนนี้ได้มีการนำออกมาให้คนทั่วไปบูชาก่ออยากจะขอแนะนำ สิ่งมงคล สิ่งนี้ เมื่อก่อนได้มาฟรีเพราะเปิ่นยังบ่อได้นำออกมาบูชาเพราะเปิ่นฮื้อกับคนที่สมควรได้ แล้วข้าเจ้าก่อได้เพราะเปิ่นเรียกฮื้อมาเอาลูกแก้วลูกนี้เพราะถึงเวลาของข้าเจ้าตี่ต้องมาเอา เมื่อก่อนบ่อค่อยเปิดเผย ได้เฉพาะคนตี่ถึงวาระเวลา แต่ตอนนี้เปิ่นต้องการนำรายได้จากการที่มีคนบูชาลูกแก้วไปทำบุญกับวัดกล้วย เพื่อสร้างห้องน้ำ อยากจะขอฝากเวบลิ้งสักหน่อยเจ้า
     
  11. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    ก็มีคนอยากบูชาอยู่หนา เดี๋ยวจะไดลองศึกษาแหมกำน้อปี้เดี๋ยวจะหื้อคำตอบ ถ้าเจียงใหม่เหมือนกั๋นก็ดีกะ เอามาหื้อเลย เดี๋ยวว่ากันแหมกำน้อ ยินดีจ๊าดนักครับ
     
  12. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,055
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ห้องสนทนาของเพื่อนผมเองครับ...^O^
     
  13. PAGE.14A

    PAGE.14A เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +305
    ก่อขอ ขอบคุณจ๊าดนักเจ้าสำหรับเรื่องฝากเวบลิ้ง เห็นอ้ายเปิ่นเขียนบอกว่าจะฮื้อฟรีสำหรับหลวงปี่เปิ่น ฮื้อเปิ่นนำไปบูชาสำหรับช่วยเหลืองานศาสนา
    สำหรับตี่ผ่านมาก่อได้ติดตามอ้ายเปิ่นไปทำบุญ บูรณะวัดก่อหลายตี่เหมือนกั๋น
    สำหรับเรื่องลูกแก้วนั้นจะทำขึ้นก่อต่อเมื่อ จะบูรณะวัดที่ทรุดโทรมและต้องการความช่วยเหลือ ตอนนี้ก่อมีโครงการสร้างเขื่อนของวัดหลวงปู่คำดีเพราะถ้าเขื่อนนี้ทำไม่สำเร็จความเสียหายและความเดือดร้อนก่อจะมีตามมาเรื่อยๆๆเวลาน้ำหลากยิ่งเดือดร้อน ถ้าได้รับลูกแก้วแล้วขอฮื้อได้ศึกษาจนรู้แจ้งเห็นจริงถึงสิ่งที่อยู่ในลูกแก้ว ไม่ใช่ศึกษาที่ตัวลูกแล้วหรือศึกษามวลสารเพราะลูกแก้วเป็นลูกแก้วธรรมดาไม่มีอะไร แต่เมื่อปลุกเสกหรือทำพิธีอัญเชิญเรียบร้อยแล้วจะพบสิ่งที่อยู่ข้างในเอง ว่าท่านเป็นใคร และลองขอจากท่านดูหรือถ้าตาติบดีๆๆก่อลองคุยกับท่านสื่อสารกับเทพเจ้าโภคทรัพย์ได้ แล้วจะฮู้ด้วยตั๋วเก่าว่าสิ่งที่ข้าเจ้าบอกมาทั้งหมดเป็นเรื่องแต้ก่อ ถ้าศึกษาแล้วได้รู้แจ้งเห็นจริงก่อขอความกรุณาจ่วยบอกต่อฮื้อจาวเหนือได้ฮู้ข่าวตวยเจ้า เผื่อจะมีคนบูชา
    ถือว่าเป็นการบอกกล่าวจ่วยกันทำบุญ เพราะข้าเจ้าเห็นว่าสิ่งที่ทำเป็นทั้งเหตุและผลดี ก่อเลยอยากจะบอกกล่าวต่อๆๆไป
    คนที่บูชาก่อได้สิ่งที่ขอตามบุญบารมี และรายได้จากการตี่คนบูชาก่อจะได้นำไปจ่วยบูรณะวัดเจ้า(ได้ตามบุญบารมีหมายถึง ถ้าสิ่งที่ขอนี้ขอมากเกินกว่าบุญตั๋วเก่า เช่น ทำบุญ100แล้วขอถูกหวยรางวัลที่1ก่อย่อมเป็นไปบ่อได้ เพราะ เทพเจ้าโภคทรัพย์ท่านจะนำทรัพย์มาให้ตามกำลังบุญของคน คนนั้น
    สำหรับเทพเจ้าโภคทรัพย์ท่านจะนำทรัพย์หรือบุญเก่าๆของคนที่นำท่านไปบูชา
    มาให้ในรูปแบบอื่น เช่นการงานราบรื่นไม่มีอุสรรค ได้ในสิ่งที่สมควรได้ ได้ลาภลอยเล็กน้อยไปถึงขั้นโชคใหญ่ )
    จะไดก่อฝากตวยเน่อเจ้า
    ปล. อายุ25บ่อต้องฮ้องปี่ก่อได้เจ้า เพราะดูเหมือนจะเป็นสาวแกเลย555
     
  14. โยนกนาคบุรี

    โยนกนาคบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +2,694
    สงสัยเนาะพี่โหน่ง กลัวพระขายไม่ออก ละมั้งเลยไม่ไปกัน
    ดีเนาะไม่เปลืองพิ้นที่ แปลกจังเวปไหนดังก็กระหน่ำขายเข้าไป
    แต่ไม่เป็นไรนะครับ มาบอกว่าเรื่องว่านเอาไปโพสอีกกระทุ้แล้ว
    ถ้าสนใจแวะไปชม ไปขาย ไปซื้อได้
    จะได้เปลี่ยนเครื่องรางใหม่ ๆ บ้าง



    ระวังของปลอมนะ พระกับเครื่องราง
     

แชร์หน้านี้

Loading...