บันทึกนรกภูมิ

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 23 พฤษภาคม 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันอาทิตย์ที่ ๑๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๒

    ครั้งที่ ๔๐
    นรกขุม ๖ แดนโลกีย์
    วิญญาณเปรตเพศชายตนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ร่างกายผอมซีดจนมีแต่หนังซีดแห้งติดเนื้อกระดูก ถูกมัดกางเกงแขวนติดอยู่กับท่อนไม้ขนาดใหญ่ ลักษณะรูปร่างของเปรตตนนี้มีอวัยวะเพศใหญ่ยาวตามตัวความยาวเกือบถึงหัวเข่าของเปรต และปากของเปรตตนนี้เปิดอ้าออกกว้างเนื่องจาก เขาถูกอม “หินเหล็กไฟ” ในปาก และไฟนั้นทำให้ปากพองบวมออกมามาก
    เมื่อผมได้สัมภาษณ์เปรตตนนี้ เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาได้หลอกเอาเงินอาของเขาเป็นจำนวนหนึ่งพันบาท โดยได้บอกกับอาของเขาว่า เขาจะเอาเงินไปใช้ให้เพื่อน แต่เขาไม่ได้ทำเช่นที่พูดไว้ แต่เขาได้เอาเงินที่ได้นั้นไปใช้จ่ายเป็นการส่วนตัวจนสิ้นเงินหมด เขาจึงกลับบ้านถูกอาของเขาว่ากล่าวมาก ว่าตนเองทำตัวไม่เอาใจใส่การงานบ้าง เขาจึงหลีกหนีไปอยู่บ้านเพื่อน เพื่อนได้ให้เขาพักอยู่ด้วยคืนหนึ่งแต่เขากลับไม่สำนึก เขาได้หยิบเงินออกไปจากกระเป๋าเพื่อนตอนเพื่อนนอนหลับ แล้วเขาก็ได้ออกไปข้างนอกเพื่อเป็นการกลบเกลื่อนว่าเขาไม่ได้ทำ แต่เพื่อนรู้ว่าต้องเป็นเขา เพื่อนได้ออกปากไล่เขาออกจากบ้าน และเขาก็ได้เร่ร่อนไปอยู่ที่บ้านเพื่อนที่เคยพบกันครั้งหนึ่ง เพื่อคนนั้นก็ไม่ให้พัก เขาจึงย้อนกลับไปหาอาของเขาอีก แล้วกล่าวว่า “อาครับ ผมผิดไปแล้ว” พร้อมการกรีดน้ำตาออกจากตาเพื่อให้อาสงสาร แต่จิตใจที่แท้จริงเขาไม่ได้มีความสำนึกเลย เขาได้เล่นละครให้อาเขาดู พร้อมกับสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
    นี่เป็นคำพูดที่เขาพูดกับอาว่า “อาครับ ถึงผมจะชั่วเพียงไร ผมก็เป็นหลานของอา อาอย่าทำโทษผมเลย ผมยอมแล้ว ผมจะไม่ทำอีก” แล้วเขาก็ซบลงกับตักของอา
    อาของเขาได้ตักเตือนสั่งสอนให้รู้สำนึก และได้เสียเงินก้อนหนึ่งให้แก่เขาแล้วกล่าวเป็นเชิงสอนสั่งเขาอย่างเอ็นดูว่า “หลานรัก อาไม่ทิ้งหลานหรอก หลานเป็นหลาน อาเป็นอา ยังไงก็ตัดกันไม่ขาด จำไว้นะเราคือญาติกัน มีอะไรให้อาช่วยก็ให้บอกมา ถ้าอาช่วยได้อาจจะช่วย”
    วิญญาณตนนี้ยอมทำอยู่หลายเวลา แต่เขาทำไม่ได้ตลอด เพราะสนใจในสภาพรอบกายมากกว่าตัวเอง ที่จะมีความเจริญก้าวหน้าจึงมิได้ออกหางานทำ เอาแต่เกาะอากิน เขาจึงต้องเป็นพวกตัวเกาะมากกว่าตัวที่อาศัยแรงงานอาเลี้ยงตนเอง (คำพูดนี้เป็นคำพูดที่พูดในยมโลก ไม่ใช่คำพูดที่ผมกล่าวไว้) และเขาก็ทำผิดอีกครั้ง เขาได้ขโมยเงินอาของเขาไปแล้วได้หลีกหนีไปไกล แต่อาของเขาก็ตามพบแล้วไล่ตีเขาไม่ให้เขากลับเข้ามาบ้าน เขาไม่สนใจเพราะคิดว่าเขาเลี้ยงตัวได้ด้วยตัวเอง แต่อาก็เกิดความสงสารอีก พร้อมกับให้กลับไปทำงานที่บ้านของอา และให้เขาใช้เงินเป็นเงินเดือนจากแรงงาน แต่วิญญาณตนนี้ไม่พอที่จะได้เท่าเงินเดือนที่เขาได้ เขาได้แอบขโมยเงินของอาไปอีก แต่ครั้งนี้ไม่มีใครเข้าเขา กรรมได้ตามสนองเขาอย่างแรง นอกจากนั้นเขาได้เสียกับหญิงผู้หนึ่งจนเธอท้อง เขาจึงต้องหนีผู้หญิงผู้นี้อีก นี่เป็นส่วนหนึ่งของกรรมที่เขาได้ทำด้วยผลกรรมที่เขาได้ทำไว้กับอานั้นสนองตอบ เขาต้องตายลงด้วยโรคหัวใจวายเนื่องจากดื่มเหล้ามากเกินขนาด นี่เป็นเรื่องราวที่เขาได้ก่อขึ้น เพราะความคิดที่เขาไม่เข้าใจบาปกรรม ทำให้เขาต้องเป็นอย่างนี้อยู่ในเวลานี้
    กรรมที่เขาได้ก่อขึ้น เพราะความไม่รู้ของบาปกรรมว่าสิ่งนั้นเป็นบาป เขาจึงได้กระทำไป แต่เป็นความจริงที่จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเป็นคนทำ เพราะกฎแห่งกรรมนั้นไม่มีผู้ใดหลีกเลี่ยงหนีไปได้แม้แต่คนเดียว
    “บุพกรรมนั้นเกิดก่อด้วยกาย จิตเป็นผู้ก่อ กายเป็นผู้กระทำ สงบจิต สงบกายถึงนิพพานสิ้นกิเลสทั้งมวลเทอญ จงเร่งกระทำเถิดสัตว์โลก เราขอกล่าวไว้”
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพุธที่ ๑๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๒
    ครั้งที่ ๔๑
    นรกขุม ๒ แดนน้ำทองแดง
    สิ่งทุกสิ่งทุกอย่างในกัลป์โลกนี้ ล้วนอยู่ใต้กฎอนิจจัง อนัตตา เป็นที่ตั้ง มนุษย์ผู้ใดที่รู้ซึ้งถึงกฎนี้ขอจงปรับตัวปรับกายเข้าสู่กายมนุษย์ธรรม กายนรมานธรรมกายนิมมานหนดีธรรม กายทุริยะหาตะ (กายที่เข้าสู่กายธรรมกาย) นั่นแหละเป็นหนทางดับทุกข์ที่ตรงที่สุด
    ในนรกขุมนี้ ผมได้พบชายหลายคนนอนคู้ตัวอยู่ในมุมหนึ่งในโพรงขนาดใหญ่ ดูจากสภาพที่ทั่วไปเหมือนเขากำลังเมา รูปร่างเปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิด ในจำนวนชายหลายคนนั้น มีวิญญาณชายตนหนึ่งมีลักษณะแปลกกว่าผีตนอื่น เขามีรูปกายไม่ปกติเบื้องล่างของเขามีอวัยวะเพศยาวใหญ่กว่ามาก ลักษณะคล้ายงวงช้าง ซึ่งดูแล้วผิดแผกไปจากผีตนอื่นในจำนวนทั้งหมด
    มียมทูตได้เข้ามาปล่อยพวกเขาไป แต่ไม่ได้ปล่อยไปจากที่นี่ เป็นการปล่อยไปลงทัณฑ์ วิญญาณเหล่านี้ถูกมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกสีดำ เรียกว่า “เชือกลงทัณฑ์” วิญญาณหลายตนเดินตามกันเป็นขบวนไปบนเส้นทางมืดนั้น สักครู่ถึงสถานที่แห่งหนึ่งเป็นสระน้ำเรียกว่า “สระน้ำพิษมรณะ”
    วิญญาณหลายตัวกระโดดพุ่งลงไปในสู่บ่อน้ำนั้น ต่างตัวต่างสำลักน้ำจมลงเสียงร้องดังโอดครวญขึ้น บางตัวร้องด้วยเสียงอันทรมาน บางตัวต่างดิ้นรนเพื่อจะหนี้ไปจากน้ำ เพราะวิญญาณบาปเหล่านี้ได้สำลักน้ำเข้าไป อันน้ำนั้นไม่ใช่น้ำธรรมดา เป็นน้ำพิษปรุงขึ้นเป็นพิเศษสำหรับมนุษย์ที่กระทำบาปกรรมอันเป็นผลให้ตนต้องเจ็บไข้ได้ป่วย ผมกำลังอธิบายถึงการลงทัณฑ์ในสถานลงทัณฑ์นี้
    ชายหลายตนต้องตกนรกขุมนี้แดนนี้ เพราะว่า เขาได้อาศัยคอเขาดื่มน้ำพิษเข้าไป ผมหมายถึง เหล้า ที่มนุษย์หลายคนต่างดื่มกันเพื่อชูกำลัง มนุษย์หลายคนคิดว่าเป็นยาสนองเครียดสนองตน กระทำตนเป็นขี้ยาขี้เหล้าในแดนเกิดแห่งมนุษย์นั้น มีหลายคนต่างสนใจว่าตัวเองจะมีสุขภาพที่แข็งแรงบ้าง แต่หลายคนก็อาศัยสภาพธรรมชาติที่มนุษย์ให้มา แต่เมื่อไม่สมกับที่คิดถึงก็พึ่งสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เขาก็อาศัยเหล้าเป็นที่พึ่งพา ชายเหล่านั้นไม่เป็นผู้กล้า แต่เป็นผู้ละอาย ในใจเขามีแต่ความละอายที่จะกระทำด้วยตนเอง หาไม่แล้วเขาคงไม่คิดที่นำพามันเป็นที่พึ่ง
    หลายคนอาจคิดว่าผมกล่าวเพ้อเจ้อ แต่เรื่องจริงปรากฏขึ้นในยมโลกนี้ มีวิญญาณหลายตนต่างถูกลงโทษ เนื่องจากเขาได้ดื่มเหล้าเข้าไปในปากด้วยจิตที่คิดจะเมา ใครก็ตามที่คิดกระทำตัวเช่นนี้ มนุษย์ผู้นั้นจักต้องรับบาปทัณฑ์ในยมโลกนี้ทุกตน
    ใครก็ตามที่ประพฤติได้ว่า มนุษย์เป็นผู้สืบต่อธรรม หาใช่ทำลายตนด้วยการสร้างพิษขึ้นในตน หรือก่อบาปกรรมเวรไว้ในชาตินี้ เพื่อเป็นผลไปในชาติหน้า เขาเหล่านั้นจะพ้นจากทุกข์ด้วยกรรมสนอง
    ใครก็ตามที่คิดว่าตนเก่ง ไม่คิดว่าตนกล้า ควรจะหาทางออกด้วยการฝึกปฏิบัติจิตให้สงบ ทุกอย่างในตนนั้นเป็นพลังให้ตนมุ่งมั่นกระทำการในสิ่งที่ดี ไม่คิดผวนผันไปสิ่งอื่น จงกระทำดี อย่าทำบาป นั่นแหละคือสิ่งที่มนุษย์ควรกระทำ…
    ผมได้สัมภาษณ์วิญญาณตนหนึ่ง เขาได้เล่าให้ผมฟังว่า เขาอาศัยเหล้าเป็นที่พึ่งในตน กระทำสิ่งใดโดยปราศจากความคิดจากสาเหตุในความเมาเพราะเหล้า (ในจิตที่เคลือบแฝงด้วยพิษเหล้า หนทางสุดท้ายที่เขาได้รับคือ ที่นี่ ยมทัณฑ์แดนบาป (สถานลงทัณฑ์ในยมโลก)) เขาดื่มเหล้าเพราะต้องการหาความสุขให้กับตัวเอง เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ให้อะไรเขาแม้แต่เรื่องเดียว เขาถูกทอดทิ้งให้อยู่เดียวดาย เขาเล่าว่า เขาดื่มเหล้าเพราะมันอร่อย มันทำให้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง เหล้าเป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องการมากที่สุดในเวลานั้น เขาถูกอันธพาลก่อกวนจนเขาต้องหลบหนีไปอยู่ที่อื่นเพราะว่าเขาทำน้องสาวของอันธพาลท้อง และถูกแทงเข้าที่ท้อง เมื่อสิ้นชีพวิญญาณจึงถูกตัดสินให้ใช้โทษในนรกขุมนี้เป็นเวลาเจ็ดปี เขาเล่าพรางเรอออกมาทางปาก
    และเขาได้ฝากคำพูดสั้น ๆ ไว้กับผมว่า เขาต้องการบอกกับพวกที่กินเหล้าอย่างเขาว่า อย่ากินมันเลยมันทำให้ชีวิตต้องหดสั้นลง มันจะทำให้ชีวิตตายทีละน้อย
    “สตินั้นมีเมื่อจิตสมบูรณ์”
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๓๒
    ครั้งที่ ๔๒
    นรกขุม ๕ แดนลงทัณฑ์ ๓
    กรรมบทที่ส่งผลให้มนุษย์รับผลกรรมในสถานที่ลงทัณฑ์บาป มีอยู่หลายชนิดกรรม ใครก็ตามที่กระทำกรรมบาปไว้มาก ก็ได้รับผลแห่งกรรมอยู่มาก แต่ถ้าคน ๆ นั้นได้รับผลแห่งกรรมที่ดีอยู่ ดวงวิญญาณเขาก็จะได้รับกรรมทาส (ผลแห่งกรรม) ให้ได้อยู่ในอันที่ดี
    วิญญาณในเรื่องนี้เป็นชายคนหนึ่ง กิริจริยากระทำตนไม่เป็นผู้อันจะกินทำ (ทำมาหากินด้วยตนเอง) กรรมส่งผลให้เขาได้มาเกิดในนรกรูปร่างของ “ผีขี้เกียจ”
    ด้วยกรรมเของเขา ได้เล่าถึงว่า ตัวเขาเป็นคนที่ไม่เป็นอันจะกินทำด้วยตนเอง หาเลี้ยงชีพด้วยการพึ่งพาผู้อื่นในการทำมาเลี้ยงชีพ เขาได้เล่าถึงกรรมของเขาว่า ในอดีตกรรมชาตินั้นเขาได้เกิดเป็นลูกผู้มีอันจะกิน แต่ถูกเลี้ยงมาอย่างดี จึงไม่มีการฝึกฝนเลี้ยงชีพด้วยตนเองมาตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อโตก็ไม่รู้จักทำมาหากิน คอยพึ่งพาแต่ทรัพย์สินของพ่อแม่ อดีตกรรมของเขาที่เขากระทำส่งผลให้เขาได้มาเกิดในสถานที่นี้ด้วยความผันผวนของจิต เมื่อก่อนตายในชีพมนุษย์ทำให้เขาระลึกถึงกรรมที่เขาทำตัวเขานั้นแหละเป็นผู้ลิขิตชีวิตตัวเขาเอง ดังนั้นเมื่อตายลงจิตชีพลิขิตถึงเรื่องใด เมื่อนั้นกายก็จะหลุดออกไปเกิดในที่นั้น นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในมนุษย์กรรมแห่งมนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย
    กรรมนั้นแตกต่างกันด้วยกรรมผล ใครก็ตามที่รับผลกรรมมีอยู่ด้วยตนเอง เขาเหล่านั้นจะตายลงอย่างไร้สภาพ ดังหมายถึงการตายที่มีการเกิดก่อในรูปร่างของผลกรรมแห่งบาปที่ตนระลึกถึง สุดท้ายปลายทางชีพของเขาก็ได้มาสู่ในนรกลงทัณฑ์นี้ด้วยกรรมที่เขาว่าเขาได้เบียดเบียนทรัพย์สินผู้อื่น
    เขาเล่าว่า “ข้าพระพุทธเจ้าขอเล่าเรื่องทุกอย่างที่ทำให้ข้าพระพุทธเจ้าต้องรับสภาพเช่นนี้ ด้วยกรรมอะไร (แล้วเขาก็เล่าย้อนไปถึงอดีตชาติของเขา) ในอดีตนานมาแล้ว ข้าพระพุทธเจ้ามีอาอยู่คนหนึ่งท่านได้เลี้ยงดูข้าพระพุทธเจ้ามาตั้งแต่เด็กไม่ว่าข้าพระพุทธเจ้ากระทำสิ่งไหนที่เห็นว่ามีผิดมีถูก เขาก็จะไม่ว่ากล่าวแต่จะกล่าวชมเชยด้วยในรักที่เห็นว่าข้าพระพุทธเจ้ายังเด็ก แต่เมื่อข้าพระพุทธเจ้าโตขึ้นก็ได้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นไม่ทำให้ข้าพระพุทธเจ้าดีขึ้นเลย กลับทำให้ตัวข้าพระพุทธเจ้าตกต่ำลง จนอาของข้าพระพุทธเจ้าได้แต่งงานไป ข้าพระพุทธเจ้าก็ได้ไปช่วยเหลื่อท่านอีก แต่ข้าพระพุทธเจ้ากลับทำผิดให้กับอาเขามาก เพราะว่าเขาไม่แลเห็นข้าพระพุทธเจ้าเป็นหลาน (ในความคิดของเขาเอง) แต่กลับเห็นลูกน้องคนอื่นดีกว่า ข้าพระพุทธเจ้าจึงได้อาศัยร่วมมือกับชายอีกคนหนึ่งคดโกงเบียดบังทรัพย์สินของท่านไปใช้ และให้ท่านรองรับหนี้สินนั้นด้วยตัวท่านเอง จนเกิดเรื่องขึ้นมา อาของข้าพระพุทธเจ้าต้องเดือดร้อนด้วยสิ่งที่ผมได้กระทำต่อท่าน ด้วยกรรมดังนี้จึงส่งผลให้ข้าพระพุทธเจ้ากลับมาใช้ชาติในภพภูมินี้ไม่ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีในโลกมนุษย์ หรือในโลกอื่น ๆ ที่ข้าพระพุทธเจ้าไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร พระพุทธเจ้าข้า”
    ผมได้ถามต่อว่า “เธอได้รับกรรมอย่างไรในนรกลงทัณฑ์นี้”
    เขาบอกผมว่า เขาต้องถูกกินน้ำเลือดที่เจือปนด้วยพิษยามรณะที่สร้างขึ้นเพื่อลงโทษวิญญาณบาปในนรกด้วยกรรมนี้ (ใครก็ตามที่กระทำกรรมเช่นนี้ ย่อมจะได้รับผลกรรมนี้ตอบสนอง) ด้วยแรงฤทธิ์ของน้ำนั้นทำให้เขาเมา วาจาเลอะเลือน ไม่สามารถจำอะไรได้ แม้แต่ตัวเองก็ไม่สามารถจำได้ว่าเป็นใคร มักจะหลอกหลอนจิตอยู่ว่าตัวเองไม่ใช่คน มักจะชอบปัสสาวะตามโคนต้นไม้ ตามที่ต่าง ๆ ในยมโลกที่เขาจำกัดเขตให้ไป ใครที่เห็นต่างก็ชอบใจในความขำ เขารู้สึกละอายอย่างมากในการกระทำนั้นแต่ก็ไม่สามารถระงับตัวเองได้
    ยมทูตกล่าวขึ้นว่า “ไอ้สัตว์นรก ไอ้เวร เดรัจฉานอย่างมึงสมควรแล้วได้รับกรรมอย่างนี้ ไอ้สัตว์นรกกูจะเฆี่ยนมึง กูจะทำให้มึงรู้สึกว่าการกระทำของมึงนั้นไม่ดีอย่างไร ต้องถูกยมโลกตัดสินให้ใช้กรรมนี้ด้วยสภาพเช่นไร (ยมทูตได้เฆี่ยนตีชายผู้นี้เนื่องจากเขาได้กล่าวความเท็จในการสัมภาษณ์นี้)”
    บทหนึ่งในผลแห่งกรรมที่เขาได้รับกรรมนั้น เขาก็ต้องกินยาพิษให้ตาย เนื่องจากเขาได้สร้างกรรมไว้กับอาของเขาหลายช่วงกรรม ดังจะเล่าต่อไป
    ชายคนนี้ได้โกหกอาของเขาว่า เขาจะไปเที่ยว แต่กลับเอาทรัพย์สินของอานั้นไปจำนำจำนองกับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วจะเอาเงินมาไถ่แต่ภายหลังเขาได้เอาเงินนั้นไปใช้จ่ายในส่วนตน ไม่สามารถเอาเงินนั้นมาคืนในรูปของทรัพย์สินที่จำนำได้ นี่เป็นส่วนกรรมเล็กน้อยที่เขาได้ทำ
    กรรมช่วงหนึ่งนั้นเล่าว่า เขาได้อาศัยความอุบาทว์ของเขาแอบดูสาวใช้ในห้องน้ำ แต่ผลแห่งกรรมนนี้ยังไม่สนองเขาจึงยังไม่ต้องรับกรรมนี้
    ด้วยกรรมที่เขาได้ทำต่อในโลกมนุษย์ แต่กรรมนี้ยังไม่ส่งผลให้เขาได้รับกรรมนี้อยู่ในเวลานี้ แต่กรรมนี้จะมีผลในสถานรับทัณฑ์ต่อไป นั่นคือ กรรมลามกที่เขาได้ทำกับหญิงบริการ เขาได้ส่งเสริมให้มีการหลับนอนขายบริการมากขึ้น ดังนี้ผลกรรมจึงได้ส่งผลให้เขาต้องกินน้ำเยี่ยวของตัวเองในนรก และหลับนอนกับท่อนสัด (สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในยมโลก สถานที่ลงทัณฑ์แห่งยม) ลักษณะของท่อนสัดนี้จะมีชีวิตรูปก่อเกิดเหมือนคนแต่เมื่อหลับนอนกันแล้ว เขาจะไร้แรง ไร้กาย (วิญญาณกายดับสิ้น) กายต่าง ๆ จะหมดแรงอ่อนเปลี้ยเนื่องจากได้ถูกฤทธิ์แรงกรรมของท่อนสัดนั้นดับไปสิ้น (ผลกรรมที่ทำให้มาเกิดเป็นท่อนสัดอยู่ในเวลานี้ เพราะกรรมที่เขาได้ขายตัวต่อชายคนอื่น และอาศัยอวัยวะที่มารดาให้มาทำการหากิน) เมื่อสิ้นชีพลงเขาต้องถูกรับกรรมในสถานลงทัณฑ์นี้เป็นท่อนไม้สัดที่ใครก็ได้ที่จะมาสนองกรรมกับเธอ (ในรูปของท่อนสัตว์)
    (ท่อนสัดนี้กลางวันจะเป็นท่อนสัด แต่กลางคืนจะเป็นอวัยวะคน อวัยวะคนที่ถูกเสียบแทงนั้นจะบวมเป่งแสบไปด้วยแรงทำที่หนักหน่วงด้วยกรรมที่ส่งผลักดัน ไม่สามารถหยุดได้)
    รูปกายที่เกิดเป็นท่อนสัดนั้น จะเกิดก่อในรูปร่างแห่งวิญญาณหญิง ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายเมื่อได้ก่อกรรมลามกขึ้น ดวงวิญญาณก็จะต้องถูกดับชีพให้มาเกิดในนรกนี้ เพื่อสันดานนิสัยจะได้ปรับเปลี่ยนไปในแนวที่ดีต่อไป นี่เป็นการเปลี่ยนแนวชีวิตมนุษย์ให้ดีขึ้น
    (ความลับของสวรรค์ได้ถูกเปิดขึ้นคราวนี้ เพื่อว่าจะได้ให้มนุษย์ทั้งหลายได้รู้แจ้งว่านรกกรรม กรรมบาปที่ใช้กรรมในนรกนั้นมีจริง ใครก็ตามที่ก่อกรรมอยู่อย่างไรจะต้องรับกรรมอย่างไรในยมโลก กฎแห่งกรรมมีจริง ใครก็ต้องรับผลแห่งกรรมสนองกรรมไว้ในยมโลกเมื่อสิ้นชีพในตน เขาต้องถูกรับบาปกรรมต่อในสภาพของสัตว์ร่อนเร่อยู่ในวัฏฏสงสารจนกว่าจะสิ้นกรรม และได้ไปเกิดในภพมนุษย์ ปฏิบัติดีจนได้ลุล่วงสู่ธรรมสงสาร อันเป็นธรรมที่นำพาให้มนุษย์พ้นทุกข์จากห้วงนี้ไปได้)
    กรรมที่ชายผู้นี้จะได้รับนั้นยังมีอยู่ เขาต้องถูกตัดอวัยวะทั้งหมดที่เหลืออยู่ในกาย ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะแขนขา หรือแม้แต่ท่อนเพศของตัวเองก็ต้องถูกตัดไปด้วยเส้นเลือดในกายถูกตัด เลือดในกายไหลพุ่ง และวิญญาณนั้นก็ได้เปลี่ยนร่างของวิญญาณให้เจ็บปวด (การได้รับความเจ็บปวดในผลแห่งกรรม) และจะมีเครื่องสูบเลือดรออยู่ข้าง ๆ และยมทูตก็จะเอาสายยางนั้นต่อเข้ากับท่อเลือดแล้วสูบเอาเลือดเขาออกมาจนเหลือเพียงนิดนึง เพื่อให้ยังชีพได้แต่ด้วยผลกรรมดีที่เขาเคยมีต่อแม่ของเขา ทำให้เขาไม่ได้รับความเจ็บปวดมาก (เขาเคยให้ข้าวดี ๆ ให้แกกิน คอยปรนนิบัติพัดวียามแม่เจ็บปวด นี่เป็นความดีของเขาที่เคยทำ) เพราะว่ายมทูตจะเอาก้อนดินที่ปิดเลือดให้หยุดไหลได้ชั่วคราวมาแปะไว้ เลือดก็จะหยุดไหลชั่วคราว แต่เมื่อเอาก้อนดินออกจากตัว เขาก็จะต้องเจ็บปวดอีกต่อไป นี่เป็นกรรมที่เขาจะต้องได้รับ
    “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นตามสนอง”
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพุธที่ ๒๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๒
    ครั้งที่ ๔๓
    นรกขุม ๕ แดนลงทัณฑ์ ๑๒
    วิญญาณตนหนึ่งในนรกลงทัณฑ์นี้กำลังชดใช้บาปกรรมของเขาอยู่ ลักษณะรูปกายของเขาไม่เชิงเป็นคน แต่ก็ไม่เชิงเป็นสัตว์ คือเขามีเขางอกที่หัวเวลาทำงาน แต่จะถูกเก็บไว้เวลานอน เรียกว่า “สัตว์หายนะ” เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างกายเหมือนคนแต่จิตใจเป็นสัตว์ ไม่มีสภาพกายเหมือนคนแต่ค่อนเหมือนไปทางสัตว์กำลังเลือกกินดินกินทรายอยู่ในบริเวณนั้น เพราะว่ากรรมของเขาในอดีตส่งผลให้เขาได้มาเกิดในเวลานี้
    อดีตชาติของเขา เขาเคยเป็นพรานล่าสัตว์และฆ่าสัตว์มาหลายชีวิต เขาดำเนินอาชีพนี้เป็นอาชีพเลี้ยงตัวและลูกเมีย แต่เมื่อเขาตายเขาได้เวทนาถึงกรรมที่เขาได้ทำ กรรมนั้นจึงผลักดันเปลี่ยนแปลงหนุนกรรมทัณฑ์ให้เขาได้มาเกิดในที่นี้
    เขาเล่าว่า อดีตชาติของเขาเป็นพรานล่าสัตว์หลายชนิด ทำบาปมามากไม่เคยคิดว่าบาปกรรมมีจริง ใครที่เล่าให้ฟังว่าอย่าทำบาปนั้น เขามักจะตอบด้วยความไม่ใยดีในความอาทรนั้นอย่างรุนแรง และมักจะว่ากล่าวพวกปฏิบัติดีกว่า เป็นพวกงมงายหลงงมงายไม่รู้จักเชื่อในสิ่งที่มองเห็นใครทำบาปเขาก็เห็นได้ดีถมไป (เขามักจะบอกผู้อื่นในคำเหล่านี้ แต่เมื่อเขาตายลง เขาต้องมารับบาปในสถานที่ ๆ เขาไม่เคยเชื่อว่ามีจริง)
    ผมถามเขาว่า “ทำไมเธอจึงมีรูปกายเป็นอย่างนี้”
    เขาก้มลงมองดูตัวเองแล้วร้องไห้ เขาค่อย ๆ กล่าวกับผมว่า เขาทำกรรมไว้มากกับสัตว์หลายชนิด วิญญาณสัตว์ ๆ ที่ถูกเขาฆ่าต่างร้องขอให้เอาตัวเขามาลงโทษ และให้ได้รับกฎแห่งกรรมตามที่เขาทำไว้กับพวกสัตว์เหล่านั้น
    ผิวกายของวิญญาณชายตนนี้ดูหยาบกร้าน แลดูเหมือนกับถูกเผาด้วยอะไรสักอย่าง ผิวกายเขาเริ่มพุพองมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มอยู่ตลอดเวลา
    ผมได้ถามเขาต่อว่า “แล้วเธอทำกรรมไว้อย่างไร จึงถูกเผาไฟเช่นนี้”
    เขาตอบผมว่า เขาได้จับงูที่หาได้มาแล้วนำมาเผาไฟจนเกรียม แล้วหาไม้มาเสียบทำเป็นสัมภาระประกอบอาหารของเขาเวลาเดินทาง เขาพูดจบพร้อมกับก้มหน้าลง
    ในขณะที่สอบสวนคดีกรรมอยู่นั้น งูตัวหนึ่งได้เดินเข้ามาในร่างของสัตว์ตนหนึ่งที่ไม่ใช่รูปกายเดิมที่เขาเกิด มาร้องเรียนต่อผมว่า เขาต้องตายเพราะชายคนนี้ฆ่าเขา (พร้อมกับชี้มือไปทางผู้ชายตนนั้น)
    ผมหันไปถามเขาว่า “เป็นความจริงหรือไม่”
    แต่ชายคนนี้ไม่ตอบ ผมจึงให้เขานำบัญชีกรรมของสัตว์ตนนี้มา พร้อมกับชี้ภาพ ๆ หนึ่งให้เขาดูว่าภาพนั้นเขากำลังทำอะไร ในมือถืออะไร
    เขามองเห็นภาพนั้นด้วยทิพย์อำนาจที่ผมทำให้เขาเห็น แม้เขาไม่มีตาทิพย์เขาก็สามารถเห็นได้ด้วยฤทธิ์นี้
    เขากล่าวคำยอมรับออกมา พร้อมกับบอกว่า เขาไม่มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงอย่างใด แต่ไม่ทราบว่าบัญชีกรรมนั้นมาได้อย่างไร และกำลังจะบอกผมอยู่ แต่ผมเอามาเสียก่อน (เขาเลี่ยงไปพูดอย่างอื่น)
    และเขามีเรื่องบางอย่างที่จะบอกผม เขาบอกผมว่า เขากินเนื้อของมัน (งูตัวนั้น) เข้าไป แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะอาฆาตไว้ จึงไม่ได้ทำบุญกรวดน้ำให้สัตว์ตนนั้นและไม่รู้ว่ามันจะมาอยู่ตรงนี้ และฟ้องร้องต่อเจ้าหน้าที่คดีกรรม
    เขาร้องไห้ออกมา ผมกล่าวกับเขาว่า “เธอไม่ต้องร้อง สัตว์ทุกชนิดเมื่อจากโลกมนุษย์แล้ว ก็ต้องมาสู่ที่แห่งนี้ทั้งสิ้น ไม่มีใครหลีกเลี่ยงไปได้ เธอทำกรรมชั่วเช่นนั้นไว้จริงหรือไม่ สัตว์ตนนี้ได้มาบอกกล่าวเราว่าเธอฆ่าเขา เขาต้องการให้กรรมสนองเธอ เราอยากรู้ว่ากรรมนั้นเป็นตามที่เขากล่าวมาหรือไม่”
    เขาไม่ตอบผม แต่ตอบเป็นเสียงอึงในใจ
    ผมกล่าวกับเขาอีกว่า หากเขาสำนึกผิดก็จะได้รับการอภัย เพราะสวรรค์ได้ประกาศว่า สัตว์ตนใดได้กระทำกรรมวาจาประกาศให้แจ้งว่าตนนั้นกระทำกรรมผิดอย่างไรในอดีตชาติ และต้องรับบาปกรรมอย่างไรในนรกโดยไม่ปิดบัง เขาก็จะได้รับการอภัยโทษจากสวรรค์ และได้รับการปลดปล่อยให้ไปเกิดในโลกมนุษย์ หากสรรพสัตว์นั้นมีกรรมน้อย แต่ถ้าหากสรรพสัตว์นั้นมีกรรมมาก พอที่จะอภัยได้บ้างก็ให้ช่วยเพียงแต่ลดกรรมส่วนหนึ่งให้กับเขา และให้ช่วยเขาในการอโหสิ เพียงให้ลดโทษ แต่ถ้าเขามีกรรมเหลืออยู่มาก ไม่สามารถอโหสิลดโทษให้ได้ก็ให้เขาสาบานตนไว้ทุกตน ว่าจะไม่ทำกรรมเช่นนั้นอีก และจัดให้ไปใช้กรรมในสถานที่ต่าง ๆ จนกว่า เขาจะหมดกรรมแล้วจึงได้รับการปลดปล่อยจากสวรรค์
    เขาได้กล่าวคำสาบานต่อสวรรค์ว่า หากได้กระทำกรรมไว้เช่นนี้อีก (พร้อมกับชี้มือไปทางที่เจ้ากรรมนายเวรยืนอยู่ และกล่าวต่อไปว่า) หากได้ทำกรรมเช่นนั้นไว้อีกขอให้ตายอย่างสัตว์ตนนี้เถิด
    ผมกล่าวกับเขาว่า “ไม่ใช่เช่นนั้น เธอจะต้องกล่าวว่า..(แล้วผมก็นำเขากล่าวก่อน แล้วจึงให้เขากล่าวตาม)”
    “หากแม้ข้าพเจ้าผิดสัญญาต่อสวรรค์ด้วยว่า แม้ข้าพระพุทธเจ้ากระทำผิดต่อกรรมที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำจริงนั้น ขอให้สวรรค์ลงโทษข้าพเจ้าได้ หากแม้ข้าพเจ้ากระทำผิดอย่างเช่นนี้อีก ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าสิ้นลงด้วยมือแรงกระทำของเขาเองเถิด” เขากล่าวลงพร้อมกับมองหน้าผม
    สัตว์ตนนี้ยังมีกรรมยังต้องใช้อยู่ หากแต่ว่าเขาได้ประกอบกรรมดีในครั้งนี้เขาจึงได้รับการปลดปล่อยไปและรับกรรมดีนี้ด้วยกรรมดีของเขาได้ประพฤติทำ
    อดีตชาติของชายตนนี้เคยเป็นพรานเก่า ล่าสัตว์ต่าง ๆ มามากมาย ทำให้ชีวิตสัตว์หลายตนต้องตายลงดังนั้นเมื่อตายลง เขาจึงมีเจ้ากรรมนายเวรอาฆาตอยู่มากและเมื่อเขาตาย เขาต้องรับบาปกรรมของเขาได้กระทำไว้อย่างหนัก ดังจะเล่าต่อไป
    เขาต้องถูกยมทูตให้หนามแหลมให้กิน เรียกว่า “หนามทรมานสัตว์” และให้กินยาถ่ายเข้าไป เพื่อให้ถ่ายเหล็กแหลมเหล่านั้นออกมาทางก้น และอาเจียนออกมาทางปาก นี่เป็นกรรมของเขาที่เขาได้กระทำกับสัตว์ ให้สัตว์ต้องได้รับความเจ็บปวดในการตายและเจ็บปวดในการถอนวิญญาณ
    กรรมต่อไปเป็นการใช้กรรมเนื่องจากเขาได้กระทำกรรมกับสัตว์ที่หาได้มาด้วยการถูกยมทูตเอาน้ำร้อน ๆ ลวดราดลงบนผิวหนังของเขาจนทั่ว แล้วใช้ “พิษทรายมรณะ” เทราดลงบนตัวเขา เพื่อให้ผิวหนังเหล่านั้นเน่าและเปื่อยเน่าอย่างที่ไม่มีทางรักษา ทุกวันเขาจะต้องกินยาขับพิษ เพื่อให้พิษในร่างเข้าไปในร่างได้เพิ่มเติมจากของเก่า และต้องถูกรับกรรมในสถานลงทัณฑ์สิบเอ็ด เป็นสถานลงทัณฑ์ที่ใช้ลงทัณฑ์สถานบาปที่เกี่ยวกับปาก เขาต้องถูกยมทูตใช้ตะขอเกี่ยวปากให้ห้อยอยู่กลางอากาศ และตัดลิ้นของเขา เนื่องจากเขาได้กินเนื้อสัตว์อย่างเอร็ดอร่อย เพราะกรรมที่ว่าเขาต้องการกินเนื้อสัตว์เพื่อประทังอยู่รอด แต่ไม่กลับสรรหาเนื้อสัตว์ที่มีกินทั่วไป เพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดเพียงวัน ๆ แต่กลับสรรหาลาภปากมากิน เพื่อให้ตัวเองมีความสุข นี่เองเป็นกรรมที่หลายตนกระทำกันมาในเวลานี้ มักจะกินสัตว์แปลก ๆ ด้วยว่าความอร่อยนั้นอยู่ที่การกิน เมื่อตายลงจะต้องรับบาปกรรมอย่างเช่นชายตนนี้
    สุดท้ายก่อนจะจาก วิญญาณตนนี้ได้ขอฝากคำบางคำไว้กับมนุษย์ที่ชอบกินสัตว์เป็น ๆ ให้ตาย ด้วยกรรมวาจานี้ “ขอให้ท่านทั้งหลายที่คิดจะกินเนื้อสัตว์อย่างที่กำลังกระทำกันอยู่ หรือคิดที่จะกระทำ ขอให้เลิกเสีย เราขอให้ท่านเลิกกรรมนั้นเสียเถิด อย่าคิดกระทำตนเป็นบาปกรรม (เจ้าหนี้นายเวร) กับสัตว์อีกต่อไปเลย มันมีจริง รับผลแห่งกรรมนั้นจริง เราขอฝากไว้เตือนใจท่านเท่านี้”
    “ผลกรรมใดใครก่อ ใครผู้นั้นย่อมเป็นผู้รับกรรมนั้นแล”
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันเสาร์ที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๔๔
    นรกขุม ๕ แดนลงทัณฑ์ ๗
    วิญญาณชายตนหนึ่งถูกชดใช้กรรมในนรกแห่งนี้ด้วยกรรมลามก ผมเห็นวิญญาณชายตนนี้ถูกกระทำอย่างทารุณ เขาถูกจับตรึงอยู่กับท่อนไม้ใหญ่ อวัยวะต่าง ๆ ถูกรัดไว้หมด เพื่อไม่ให้ดิ้นรนเวลาถูกลงโทษ เขาถูกยมทูตทิ่มแทงอวัยวะเพศที่ใหญ่โตด้วยมีดที่มีลักษณะคล้ายกรรไกร แต่มีหนามแหลมอยู่รอบมีดนั้น วิญญาณชายตนนี้มีรูปร่างไม่สมประกอบ (ไม่ได้สัดส่วน) ในร่างของสัตว์ (ชีพสัตว์ที่มาเกิดในร่างนี้) วิญญาณตนนี้มีรูปร่างสูงใหญ่ ใหญ่กว่ามนุษย์หลายเท่า แต่ก็ไม่เกินมือเอื้อมของยมทูตที่จะลงมือกระทำไปได้ รูปร่างที่ใหญ่โตของเขาแลดูเทอะทะ ไม่สมประกอบในร่างกาย วิญญาณตนนี้มีอวัยวะเพศที่ใหญ่โตเกินตัว อวัยวะเพศนี้งอกยาวออกมายาวกว่าลำตัวของร่างกายเขาหนึ่งเท่าของร่างกาย ด้วยบาปกรรมที่เขาได้ก่อขึ้นมานั้นทำให้เขาต้องมีผลแห่งกรรมในสภาพเช่นนี้
    ผมได้เดินเข้าไปหาเขา และให้ยมทูตเอาตัวเขาลงมาจากขื่อลงโทษ วิญญาณตนนี้ได้ถูกนำตัวลงมาจากขื่อ และนำตัวเข้ามาหาผม
    ผมได้ถามเขาว่า “เธอทำกรรมไว้อย่างไรจึงต้องถูกลงทัณฑ์เช่นนี้”
    เขาตอบผมว่า เขาเป็นชู้กับเมียคนอื่น เมื่อตายลงก็ถูกลงโทษอยู่ในที่นี้ (เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา)
    ผมมองหน้าเขา พร้อมกับยิ้ม ๆ ในความชื่นชอบที่เขากล่าวอย่างตรง ๆ ในบาปที่เขาได้กระทำ
    และยมทูตก็ได้พูดขึ้นว่า “มึงพูดต่อไปซิวะ”
    วิญญาณชายตนนี้ได้หันไปหายมทูตแล้วกล่าวคำพูดที่ไม่สมควรออกไป “ท่านครับ จะให้ผมพูดอย่างไรท่านจึงจะพอใจครับ”
    ยมทูตตวาด “ไอ้นี่ มึงชักจะกำเริบมากไปแล้วนะเว้ย ไอ้สัตว์” ยมทูตพูดพร้อมกับถลึงตาใส่ด้วยความโกรธ
    ผมฟังเขาพูดต่อ เขาได้บอกว่า เขาถูกภรรยาสวมเขาให้กับเขาในขณะที่ตัวเขาไม่อยู่ในบ้าน ภรรยาเขาได้แอบมีชู้ และคบชู้กับชายอื่น เขาได้กลับมาบ้านพบว่าเมียเขากำลังนอนกับชายคนอื่นอยู่บนเตียงอย่างเริงร่า แล้วเขาก็ได้ใช้มีดในครัวทำร้ายร่างกายเมียเขาและคู่ชู้ และใช้อวัยวะในตัวเขากระทั้นลงไปบนตัวของชายคนนั้นอย่างแรงและใช้มีดไล่แทงเขา แต่ชู้คนนั้นหนีไปได้จนเขาวิ่งหนีไป แล้วลงโทษเมียของเขาทำร้ายร่างกายเมียของเขาอย่างหนักหน่วงจนเมียเขาเตลิดหนีไปออกจากบ้าน เขากลับมาคิดดูว่าทำไมเมียเขาจึงมีชู้ เขาบอกกับผมว่าทำไมเมียเขาถึงมีชู้เขาเล่าว่า เขารู้ว่าทำไม่เมียเขาถึงมีชู้เพราะว่าเมียของเขามักมากในกาม ไม่รู้จักพอ เขาไม่ได้ให้ความสุขกับเมียอย่างเต็มที่ มันมีความสุขบนเตียงไม่พอ (เขาเล่าพลางพร้อมกับด่าเมียของเขาเอง) แล้วเขาก็ได้บอกต่อว่า เขาไปหาเมียของชายชู้คนนั้นเพื่อที่จะให้เขาใช้กรรม (เขาหยุดกล่าวพร้อมกับออกเสียงคล้ายสะใจ)
    ผมถามเขาว่า “เธอทำอะไรเขาหรือ”
    เขาว่า เขาแทงชายชู้นั้นข้างหลังในขณะที่เขาสองผัวเมียกำลังเสพสุขกัน เขาได้ฆ่าชู้คนนั้น และได้บังคับขืนใจเอาเมียของชายชู้คนนั้นมาเป็นเมียของเขาด้วย
    ผมฟังเรื่องที่เขาเล่ามาจนจบ แต่เบื้องหลังของชายตนนี้ก็มีเบื้องหลังที่น่าดูชมเช่นกัน เขาได้แอบเป็นชู้กับภรรยาคนอื่นด้วยกันสองคน
    ผลกรรมที่เขาได้สร้างไว้ และกรรมดีที่เขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรรมเก่าของเขานั้น ได้ส่งให้เขาได้ไปเกิด
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันจันทร์ที่ ๒๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๔๕

    นรกขุม ๗ แดนลงทัณฑ์ ๑๖
    “มนุษย์ทุกคนเมื่อเกิดมาย่อมมีที่พึ่งพามาตั้งแต่เกิดทุกคนย่อมมีกรรมเป็นของตนไม่มีใครที่จะหลีกพ้นกรรมไปได้ดั่งทุกเรื่องนี้มีคติสอนใจอยู่ทั้งสิ้นทุกท่านที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จงพินิจพิเคราะห์ดูเถิดว่ากรรมนั้นใครเป็นผู้แลใครเป็นผู้ทำผู้จัดทำทั้งสิ้นคือตนนั้นแลสรรพสิ่งสรรพทุกข์ทั้งหมดมีคนเป็นผู้บงการหากจะกล่าวว่าสวรรค์นั้นเป็นผู้ลิขิตขอตอบว่ากรรมนั้นเป็นผู้ลิขิตไม่ใช่ใครที่ไหนจงจำไว้เถิดเราจะกล่าวคำสอนสอนใจไว้สักหนึ่งบท
    “กรรมนั้นแลคือกรรมอโศกที่ทุกโลกต้องมีอยู่ทั่วหล้า
    แต่จะมีใครเล่าทำนำพาตัวตนให้หลุดพ้นกรรม
    กรรมทุกสิ่งที่มีแต่พิภพคงเจนจบสิ้นหล้าด้วยสิ่งของ
    สองสิ่งหนึ่งคือกรรมดีที่ครรลองสิ่งที่สองลองสิคิดจะทำ
    “มนุษย์นี้หนอ ต้องสอน ต้องสั่ง ใครเล่าจะพาให้เจ้าพ้นทุกข์ นอกจากตัวของเจ้านั่นสิที่จะช่วย เราขอฝากกรรมไว้เพียงเท่านี้…”
    “ทุกสิ่งที่เขียนมานี้ เป็นเพียงคำสอนของพรหมองค์หนึ่งที่บัญญัติไว้บนพรหมโลก มนุษย์ผู้นี้เป็นผู้ถ่ายทอดมาให้ฟังเท่านั้น”
    ด้วยกรรมดังกล่าวที่สัตว์ตนนี้ได้กระทำ เราขอกล่าวกรรมว่า กรรมนั้นมีอยู่จริงใครก็ตามที่สำเร็จรู้แจ้งในธรรม ย่อมแจ้งในธรรมอันนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านจงคิดเองเถิด
    ตรัสบอกไว้บอกพื้นพิภพเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
    มหาพรหมไตรเทพ
    ใครก็ตามที่รู้แจ้งในธรรมนี้ ขอจงได้เปิดดวงดาของท่านให้รู้แจ้งว่าโลกมนุษย์นี้หนอ มีแสงธรรมสว่างอยู่แล้ว หากใครรู้จักไขว่คว้าก็จะพบแสงธรรมนั้น แต่ถ้าหากใครที่งมโข่งอยู่ในโลกมนุษย์ก็คงจะไม่แจ้งแสงในความมืด เราขอกล่าวไว้
    ธรรมบทหนึ่งในสังฆธรรมบทบนพื้นพิภพยมทัณฑ์ แดนสอง
    ผมเดินไปอยู่บนพื้นล่างในพิภพยมโลกนี้ ผมเดินตามทางไปเรื่อย ๆ ผมเห็นยมทูตนำวิญญาณคู่หนึ่งมา วิญญาณคู่นี้ต้องอยู่ในถุงเก็บชีพ วิญญาณดังกล่าวนี้มีตัวตนจริง แต่ไร้สภาพกายเป็นกรรมของเขาที่ทำให้เขาต้องมาเกิดในสภาพร่างนี้ ผมเดินตามพวกเขาไปจนถึงที่แห่งหนึ่ง มีบ่อลึกอยู่เบื้องหน้า ผมเห็นในบ่อนั้นมีเปลวไฟลุกโชนอยู่และยมทูตก็ได้ทิ้งวิญญาณในถุงนั้นออกจากถุง ด้วยกระแสกรรมแห่งหลุมนั้นดูดดึงร่างวิญญาณที่ไร้สภาพกายของวิญญาณเหล่านั้นลงไปในหลุม
    เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นอย่างกังวล เป็นเสียงร้องของสัตว์ตนนั้น แต่ไม่นานก็เงียบลงเมื่อวิญญาณนั้นได้แปรเปลี่ยนสภาพของกายเป็นอย่างอื่นในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน เขาต้องถูกยมทูตจับด้วยแสงพิเศษในพื้นพิภพแล้วนำกลับขึ้นมาจากหลุม ปรากฏร่างเป็นวิญญาณสองตนโผล่ขึ้นมาจากหลุมนั่งชันเข่ามืออยู่บนพื้นเบื้องหน้ายมทูต
    ผมได้ถามเขาว่า “เธอทั้งสองได้ทำกรรมไว้อย่างไร จึงต้องถูกผลักดันลงไปในบ่อเพลิงพิษเช่นนี้”
    วิญญาณชายตนหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองผม แล้วบอกว่า “ท่านจะช่วยผมหรือครับ”
    เมื่อได้ยินเช่นนั้น วิญญาณอีกตนหนึ่งที่ก้มหน้าก็เงยหน้าขึ้นมองผมด้วยแล้วเข้ามากราบผมที่เท้า แล้วกล่าวคำขอความช่วยเหลือ แต่ผมไม่สามารถช่วยพวกเขาได้หากพวกเขาไม่กล่าวว่าจะทำกรรมให้แจ้งในสถานที่นี้เสียก่อน
    ผมกล่าวต่อไป “พวกเธอจะให้เราช่วยได้อย่างไร หากพวกเธอไม่แสดงตนว่าทำกรรมอย่างไรบ้าง เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ เรามานี่ก็เพื่อสัมภาษณ์พวกเธอถึงเรื่องอดีตกรรมที่พวกเธอได้ทำแต่ก่อน และต้องตกนรกมาอยู่ในที่นี้ขอให้พวกเธอเล่ามาเถิด”
    และยมทูตก็ได้เข้ามาบอกกับพวกเขาว่า “ผมเป็นใครและต้องใช้คำพูดอย่างไรกับผม และยมทูตก็ได้ถอยฉากออกไป”
    เขาได้กล่าวคำที่ถูกต้องกับผมทุกคน เมื่อสัตว์เหล่านั้นกล่าวกรรมจบ เขาก็ได้ขอร้องให้ผมช่วยพวกเขาขึ้นมาจากขุมนรก เพราะว่าเขาเจ็บปวดและรู้สึกทรมานเป็นอย่างมาก เขาบอกกับผมอย่างนั้น
    วิญญาณดังกล่าวได้เล่าถึงการกระทำของเขาถึงครั้งที่เขาเคยเกิดมาเป็นมนุษย์ และสร้างบาปกรรมไว้อย่างไร
    วิญญาณชายตนแรกได้เล่าว่า เขาเป็นคนเห็นแก่ตัวเห็นคนอื่นเป็นคนดีไม่ได้ มักจะกลั่นแกล้งเขา และบอกให้เขาเลิกทำดีเสีย นรก สวรรค์ ไม่มีจริงหรอก ส่วนคนใดที่ได้ทุกข์เขาก็จะเข้าไปซ้ำเติมและก็ได้หลอกลวง เขาบอกว่าตัวเองเป็นผู้มีความรู้ทางแสดงฤทธิ์ สามารถช่วยใครให้พ้นทุกข์ได้แต่ต้องมีเงินมาให้ จึงจะยอมทำให้ ผู้เดือนร้อนเมื่อได้ฟังดังนั้นเกิดความลุ่มหลงต้องการให้ผู้อี่นช่วย จึงยอมเสียเงินมากมาย เพื่อขอให้ช่วยเขาด้วยและเขาก็ได้สวมรอยเป็นอาจารย์สอนกรรมฐาน และได้บอกให้เขาไปทำในสิ่งต่าง ๆ ที่นำมาซึ่งลาภสักการะให้เขา ในความยินดีปรีเปรมนั้นเขาได้ทำล่งไปบนความทุกข์ตรมของผู้อื่นอย่างไร้ยางอาย คนหลายคนที่ขอมาให้เขาช่วย บางรายก็สำเร็จไปตามที่ขอ บางรายก็ไม่สำเร็จก็ได้มาหาเขาและกล่าวร้ายเขาว่าหลอกลวง แต่เขาก็ไม่สนใจว่าจะเป็นอย่างไรขอให้ได้เงินมาใช้ จนใครติฉินไม่อยากมาหาเขาช่วยจนอาชีพนั้นสิ้นลง เขาจึงต้องเปลี่ยนอาชีพเป็นอย่างอื่นนี่เป็นกรรมที่เขาได้กระทำขึ้น และส่งผลให้เขาต้องมารับทุกข์กรรมอยู่ในเวลานี้ (เขาเล่าด้วยน้ำตาที่ไหลพราก)
    แต่สัตว์ตนนี้ได้ปิดบังกรรมบางอย่างกับผม ผมจึงได้ให้ยมทูตไต่ถามเขาทำกรรมอย่างไร
    เขาอายไม่กล้าที่จะบอก แต่เขาก็เอื้อนเอ่ยออกมาว่า เขาได้หลอกเอาเงินเพื่อนของเขาในฐานะที่เพื่อนตกยากและมาขอให้เขาช่วย เพื่อนของเขาคนนั้นก็ได้หลงเชื่อกระทำตามที่เขาว่า นำเงินมาให้เขาจำนวนหนึ่งและได้ขอให้เขาช่วยและเขาก็ได้เสแสร้งแกล้งทำให้ว่าเป็นผู้อื่นซึ่งมีฤทธิ์สูงกว่าได้กระทำให้แล้ว ขอให้เกิดความเคารพและปฏิบัติตามที่เขาว่า และทุกอย่างก็จะสัมฤทธิ์ผล
    สัตว์ตนนี้ได้เล่าความให้ผมเกิดความไขว้เขว แต่ก็ไม่มีจิตที่จะหลอกผม ผมจึงได้ถามเขาไปใหม่ว่า “เธอทำกรรมไว้อย่างไร ขอให้เล่าให้ชัดแจ้ง”
    เขาได้เล่าให้ผมฟังอย่างชัดเจนว่า เขาเป็นคนจังหวัด “ปราจีนบุรี” เดิมมีอาชีพค้าขาย และอยู่มาวันหนึ่งมีร่างทรงมาทักเขาว่า มีองค์อยู่นะให้รีบรับเสียอะไรก็จะดีขึ้น และเขาก็ได้ปฏิบัติตามที่ร่างทรงคนนั้นกล่าว และผมก็ได้กระทำการรับขันธ์และเข้าช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากเรื่อยมา แต่เขาไม่รู้ว่าองค์ที่มาลงทรงนั้นเป็นใครและทำอย่างไรบ้างตอนลงทรง แต่ภายหลังองค์นั้นได้จากไป เพราะเขารู้สึกตัวว่าไม่มีใครอยู่กับเขา ยามที่เขาเชิญมาลงทรงกลับไม่มีเทพมาลงทรง เขาจึงแกล้งทำเป็นลงทรงเสียเอง ดังนี้จึงทำให้เขาต้องรับผลกรรมอยู่ในที่นี้
    วิญญาณอีกตนหนึ่งได้กล่าวขอให้ผมช่วยเหลือเขาให้พ้นทุกข์ หากแต่กรรมของเขานั้นยังมีอีกมาก และการกระทำของเขาหาได้กระทำด้วยจิตที่คิดจะพ้นทุกข์ เขาจึงต้องรับกรรมอยู่ในสถานนี้ก่อนจนกว่าจะสิ้นกรรม
    หลังจากสอบสวนคดีกรรมเก่าในอดีตชาติแล้ว เขาจะต้องชดใช้กรรมในสถานที่แห่งนี้สำหรับวิญญาณตนที่สอง แต่วิญญาณตนแรกนั้นได้พ้นทุกข์ เนื่องจากเขาได้กระทำกรรมดีให้แจ้งชัด และคิดที่จะพ้นทุกข์จริง
    ด้วยผลกรรมที่สัตว์ตนแรกได้กระทำนั้น เขาจะได้ไปเกิดเป็นคนที่มีบุญแต่มีกรรมแฝงอยู่ และได้ไปเกิดในสภาพของวิญญาณที่ตกทุกข์ได้ยาก แต่ต้องขวนขวายเลี้ยงตัวตั้งแต่ยังเด็กและภายหลังประสบความสำเร็จแต่ต้องตายลงด้วยผลแห่งบาปที่เขาได้เคยกระทำ ด้วยผลแห่งกรรมในอดีตที่เขาได้เคยทำไว้กับใครบางคน
    “มนุษย์ผู้ใดที่คิดได้ว่า ตัวเองเป็นใคร กระทำสิ่งใดไว้บ้าง หากกรรมที่ตนได้กระทำมานั้นจะส่งผลให้ตนได้ในสิ่งที่ดี ก็ขอให้กระทำต่อไป แต่ถ้าใครคนใดกระทำตนเป็นคนได้ความคิด หลงความผิด ไร้แสงสว่างในการดำเนินธรรม กรรมนั้นจะส่งผลให้สัตว์ผู้นั้นรับในบาปที่ตนได้กระทำจนกว่าจะสิ้นกรรมมาแล”
    หากสัตว์โลกตนใดกระทำการณ์ที่สำนึกได้ว่าได้เคยทำผิดไปแล้ว และต้องการจะกลับตัวกลับใจเสียใหม่ ขอให้ท่านนั้นจงคิดได้เถิดว่า มนุษย์ทุกคนมีจิตเดิมอยู่เช่นเดียวกัน คือ ไร้จิต ไร้ใจ อรูปกายนั้นคือที่เกิดแห่งกายท่าน
    หลังจากสอบสวนคดีกรรมนี้เสร็จ ผมได้พบกับวิญญาณตนหนึ่ง เขาได้เล่าเรื่องของเขาให้กับผมฟังว่า เขาได้กระทำกรรมบาปไว้อย่างไร แต่กรรมที่เขาเล่ามานั้น ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่เรื่องเดียว ความจริงเขาเคยกระทำกรรมหนักไว้มาก แต่เขาไม่กล่าวด้วยเกรงว่าบาปกรรมนั้นจะส่งผลให้เขาได้รับบาปนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก แต่เขาหารู้ไม่ว่า กรรมใดใครสร้างใครกระทำ ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงกฎแห่งกรรมนั้นไปได้หรอก
    เขาได้โกหกผมว่า เขาเป็นคนดี ไร้ซึ่งบาป แต่ต้องถูกยมทูตลงทัณฑ์เนื่องจากคิดว่าผมเป็นอีกบุคคลหนึ่งและเกิดการสอบสวนผิดคดี เขาจึงต้องถูกลงโทษ (สัตว์ผู้นี้ไร้การสำนึกในบาปกรรมที่ตนได้กระทำยากที่จะช่วยเหลือให้พ้นกรรมไปได้ กรรมใดใครสร้าง ใครหนุน ผู้นั้นรับบาปกรรมนั้นไปด้วยตัวเอง)
    ชายผู้นี้ได้ถูกสอบสวนคดีกรรมและพบว่าเขาได้เคยกระทำกรรมอันบังอาจที่มิอาจช่วยเขาไปได้ เขาได้เคยฆ่ามารดาของเขาด้วยตนเอง และกระทำการอันบังอาจที่เป็นลูกอกตัญญูเท่านั้นที่จะกระทำได้ ด้วยผลกรรมนั้นเขาจึงต้องถูกลงทัณฑ์อย่างหนักดังนี้
    วิญญาณผู้นี้ต้องถูกโบยด้ายสายฟ้าฟาดจนตายสิ้นชีพจากกายนี้ และต้องถูกไฟเผาจนตายกว่าจะไหม้เกรียมด้วยผลแห่งบาปที่เขาคิดจะทำและกระทำลงไปด้วยความพร้อมแห่งจิตที่ประกอบด้วยโมหะในจิตใจ ดังนั้น กรรมบาปที่เขาได้กระทำจึงสนองเขาอย่างรุนแรง ไร้การช่วยเหลือใด ๆ จากสวรรค์
    “ใครคนใดกระทำบาปกับมารดาผู้ให้กำเนิดชีวิตสัตว์นั้นก็ไม่สมควรที่จะอยู่ต่อไปบนพื้นพิภพยมโลกนี้และต้องถูกรับทัณฑ์กรรมอย่างหนักในสถานลงทัณฑ์อย่างไร้การช่วยเหลือบาปกรรมใครสร้างใครรับขอให้จงสำนึกเถิด…สัตว์โลก”
    “กรรมที่นำพาหมุนเวียนให้ใช้ชาติ”
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพฤหัสบดีที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๔๖
    นรกขุม ๓ แดนลงทัณฑ์ ๕ (คดีสาม)
    ธรรมะประเสริฐแยกอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม โดยแยกได้ดังนี้ กายนจิต (กาย–ยะ–ยา–นะ–จิต–ตะ) มีอยู่ด้วยกันห้ากลุ่มคือ กลุ่มที่มีจิตสองวิญญาณแต่มีหนึ่งจิต ได้แก่พวกมีกายนะอันหมายถึง กายที่มีรูปร่างเป็นกายทิพย์แต่ไม่มีจิตเป็นกาย อันมีรูปร่างเป็นเพียงกายสัมผัสเมื่อแตะถูกก็จะสลายไป กลุ่มที่สองเป็นวิญญาณกลุ่มพวกที่มีกายเพียงหนึ่ง แต่มีกายนะที่รับสัมผัสภายนอกได้สามทางได้แก่ ทางกาย ทางอายจิต (จิตที่มีรูปร่างเป็นกาย) ทางอารยกาย (เป็นกายที่มีเพียงกาย แต่ไม่มีรูป ไม่มีร่าง ไม่มีสภาพ ไม่มีการดำเนินการ) แยกอยู่ในธรรมเพียงกายเดียว หากเพียงแต่สงไขยจิต (ความยาวนานของจิตที่มีอยู่ในบรมธาตุ) อยู่ในธรรมเพียงกายเดียวก็จะมรณะสะ (การตายของจิตมีเพียงกายแต่ไม่มีจิต) ด้วยกายทั้งสอง ก็ด้วยการที่จะแก้ไขจิตให้เป็นมั่นอยู่ในธรรมสภาวะใด ทุรคาง มธุรคาง สรรพธุจิต รวมเป็นสามได้แก่ อนุตรโพธิสัมมาพุทธจิต นี่คือจิตทั้งสามของบรมธรรมที่มีเกิดด้วยบรมรูป บรมธรรม บรมธาตุ อายตนะทั้งเจ็ดของร่างกายมีเพียงจิตหนึ่งที่ก่อเกิดขึ้นด้วยรูปกายที่เกิดด้วยสลายรูป แต่ต้องมีกายรูป สูญจิต (เป็นกายที่มีเพียงกายอันเกิดก่อด้วย อัสสร–สาวกธรรม เป็นธรรมที่มีก่อขึ้นด้วย กายธาตุ มโนธาตุ อนันตรธาตุ ธาตุทั้งสามเป็นธาตุดั้งเดิมที่มีอยู่ในภายรูป) อโนธรรม สารธรรม สัสสารธรรม ธรรมทั้งสามนี้เป็นธาตุธรรมแห่งกายกายนะอัตตาจิต (จิตที่มีทั้งกายและจิตรวมกันเป็นหนึ่ง) อโนธรรมคือ ธรรมที่เกิดมีขึ้นด้วยกายรูป (กายรูปย่อมมีอสัญรูปซ่อนอยู่ภายในอสัญรูป คือกายรูปที่ไม่มีด้วยจิต) สารธรรมคือ ธรรมที่มีพร้อมอยู่ด้วยกายธาตุ อสังขธาตุ จิตตธาตุ ธรรมบารมีที่สำเร็จโดยพรหม ธรรมะข้อนี้มีอยู่ในพรหมโลก สัสสาธรรม คือ ธรรมที่มีเกิดก่อขึ้นด้วยบรมธรรม อนันตรธรรม สัสสารธรรมที่มีด้วยกันสามรูปคือ รูปที่หนึ่ง สัสสารธรรมที่บังเกิดมีขึ้นด้วย บรมธรรมวงศ์ (ธรรมอันประเสริฐที่เป็นเครื่องรู้ของพรหม) รูปที่สอง อัสสารสาวกธรรม เป็นรูปธรรมที่มีเพียงกายรูป อสัญรูป อยู่ด้วยรวมกัน รูปที่สาม นาคนาตะสัสสสวาวกธรรม ธรรมนี้คือ ธรรมอันประเสริฐที่เป็นเครื่องรู้โดยจิตของตนเป็นผู้ก่อให้เกิด สัสสาสธุสะ สาธุ
    ธรรมะทุกบทที่กล่าวไว้ตรงนี้ เป็นธรรมะที่บรมพรหมได้กล่าวขึ้นไว้ในสวรรค์ชั้นที่สิบเอ็ด เป็นธรรมที่กล่าวขึ้นเมื่อพระพุทธองค์เสด็จสนทนาธรรมกับพระพรหมเมื่อครั้งกาลก่อน
    วิญญาณบาปที่ได้รับผลกรรมในครั้งนี้เป็นวิญญาณหญิงที่ผมได้สัมภาษณ์เธอได้ความว่า เธอเป็นหญิงกาลี ที่มักมากในกามไม่รู้จักพอ อาศัยความเป็นหญิงเที่ยวเสนอตัวต่อชายคนอื่นไม่เลือก แม้แต่สามีของตนเองก็ไม่พอใจในความอยากนั้น และสร้างความอุบาทว์ให้เกิดขึ้นกับตนอย่างหนัก ด้วยการแลกเปลี่ยนสามีกับคนอื่น ด้วยกรรมนี้ทำให้เธอต้องรับบาปกรรมอย่างหนักในยมโลก ดังจะเล่าต่อไป
    ผมเดินไปเรื่อย ๆ ในแดนยมโลก และพบกับหญิงหลายตนกำลังรับบาปกรรมของเธออยู่ และผมก็ได้เดินผ่านพวกเธอไป แต่ก็ไม่ได้สนใจมาก และผมก็ได้เดินต่อไปจนถึงสถานที่แห่งหนึ่งเป็นที่ ๆ ผมหยุดเดินและสอบถามเรื่องราว ณ สถานที่แห่งนี้
    ผมพบเธอในสภาพของวิญญาณที่ถูกทารุณด้วยกรรมที่เธอทำ ผมให้เธอลุกขึ้นมาให้สัมภาษณ์
    ผมได้ถามเธอว่า “เธอทำกรรมอะไรไว้หรือจึงต้องรับกรรมเช่นนี้”
    วิญญาณหญิงตนนี้ได้ตอบผมว่า เธอได้รับกรรมนี้เนื่องจากกรรมที่เธอได้ทำไว้กับสามีของเธอเอง เธอเล่าว่า ด้วยความมักมากในกามของเธอ ทำให้เธอต้องมีหลายผัว เธอต้องเป็นชู้กับผู้ชายอื่นและอาศัยความสวยและมีเงินของเธอเป็นเครื่องหลอกล่อให้ชายเหล่านั้นหลงใหลเธอ และเธอก็อาศัยเรือนร่างเขาเป็นเครื่องแก้ขัดในยามที่เธอต้องการทางเพศ แต่ทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุดเมื่อเธอตายลง เธอต้องถูกตัดแขนตัดขาทำลายอวัยวะต่าง ๆ แม้แต่อวัยวะเพศของเธอก็ถูกทำลายด้วย เธอถูกโยนลงไปในบ่อน้ำกรดที่มีพิษรุนแรง เพื่อให้พิษนั้นกัดกินร่างของเธอ และให้สิ้นสภาพความสวยที่เธอมี และต้องถูกตรึงด้วยตะปูแหลมทั่วตัวเพื่อให้รู้สึกตนถึงความเจ็บปวดและจะให้หลาบจำบ้าง (ชีวิตมนุษย์นี้หนอหากไม่สงสารตนเอง ใครเล่าจะมาสงสารตน ทุกชีวิตเมื่อสิ้นชีพจากยมโลกแดนมนุษย์นี้แล้ว เขาจะต้องไปรับกรรมที่เขาได้กระทำอยู่จนกว่าจะสิ้นชีพแห่งภพชาตินั้น ทุกอย่างย่อมหมุนเวียนไปตามกรรมและต้องดำเนินทางตามครรลองของมัน ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงหนีไปได้ ขอให้จำไว้)
    เมื่อสิ้นภพชาติแห่งการเกิดนี้ เธอจะต้องไปเกิดเป็นสัตว์ในป่าเพื่อให้สัตว์อื่นในภาคเดียวกันนั้นเสพสมอยู่จนกว่าจะสิ้นกรรม นี่เป็นวัฏจักรแห่งกรรมในยมโลก หรือที่อื่น ๆ ที่มีกรรมเกิดก่อ สัตว์ตนใดที่หวนระลึกได้ถึงกรรมนี้ ขอให้ตั้งสัจจะวาจาว่ากรรมใดที่เคยได้กระทำไปด้วยความไม่รู้ ความประมาท ความผิดพลาดในกรรม หวนรำลึกถึงกรรมในอดีต และสำนึกตนได้ว่าบาปกรรมนั้นมีจริงอยู่ทุกกาลแล้ว ขอให้คิดกระทำบาปน้อยลงหันมาสร้างบุญบารมี เพื่อลดชาติภพแห่งตนให้น้อยลง เพื่อผลแห่งความสุขในชีพเบื้องหน้าโน้นเทอญ สัตว์โลก
    วิญญาณหญิงตนนี้ได้เปลี่ยนชาติสู่ภพภูมิใหม่ในร่างที่เธอต้องชดใช้กรรมในภพมนุษย์ ด้วยบาปที่เธอได้กระทำ ดวงวิญญาณทุกดวงที่มีกรรมจะต้องหมุนเวียนกรรมก่อเกิดในร่างของสัตว์ใด จนกว่าเขาเหล่านั้นจะสิ้นกรรมการเกิดแห่งชาติภพภูมิในชาตินั้นด้วยการลุภูมิสู่ภพแห่งอรหันต์…
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันศุกร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๔๗
    นรกขุม ๑ แดนลงทัณฑ์ ๑๑
    บันทึกกรรมสังสารวัฏ
    วัฎจักรแห่งกรรมนั้นล้วนดำเนินไปตามกงจักรแห่งกรรม (การหมุนเวียนของกรรม) จักรแห่งกรรมนั้นหมุนเวียนตลอดในกาลภพ จักรนี้หมุนเกิดด้วยแรงฤทธิ์แห่งสัตว์กระทำ สิ่งทุกสิ่งล้วนดำเนินไปตามลิขิตแห่งกรรม ฟ้าดินนั้นคือกรรมบาท (ผู้ลงโทษกรรม) ฟ้านั้นคือใจ ใครคือดิน ดินนั้นคือผู้กำเนิดก่อในร่างแห่งมนุษย์ วัฏจักรแห่งกรรมนั้นหมุนเวียนไปตามลิขิตแห่งฟ้า ธรรมบทที่สว่างแจ้งอยู่ในยมโลกทุกแดนแดนฟ้าเมืองแมนทุกคน นั่นคือความรู้ที่มีขึ้นวัฏสงสารแห่งกรรมที่หมุนเปลี่ยนไปอยู่เรื่อยมิได้หยุด
    มนุษย์ทุกตนที่กำเนิดร่างอยู่ในมนุษย์นี้ ใครก็ตามที่คิดจะดำเนินธรรมอยู่ในสภาพมนุษย์ ขอให้มนุษย์ผู้นั้นคิดได้ว่าการหมุนเวียนแห่งกรรมนั้นเป็นอย่างไร และหลุดพ้นแห่งกรรมนั้นเป็นอย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีล้วนอยู่ในตนเอง สวรรค์นั้นเป็นผู้ประกาศธรรมให้มนุษย์รู้แจ้ง ใครก็ตามที่แจ้งรู้ในธรรมย่อมเป็นผู้รู้ด้วยตนเอง ดั่งเช่นที่พระพุทธองค์ตรัสว่า “ธรรมะใดเกิดก่อด้วยกรรมกรรมสงสารนั้นสร้างโลกสร้างธรรมธรรมบารมีหมุนเวียนเปลี่ยนก่อให้เกิดชาติภพใครลุล่วงแห่งกรรมนั้นได้หลุดพ้นอนิจจัง
    “สรรพสิ่งเกิดก่อได้ด้วยรูปกายสรรพสิ่งกำหนดได้ด้วยรูปธรรม เป็นไปตามกรรมวาระ ไร้อนิจจัง ความไม่เที่ยงในตน ไร้ความเที่ยงในตน ทุกสิ่งย่อมกลับคืนย้อนสู่อนิจจกรรมเป็นทั้งสิ้น” นี่คือคำตรัสของพระบรมศาสดาบรมไตรภพแห่งศาสนาจักธรรม
    “ทุกขัง สัจจัง กัตตวา เหหิโตมา สังสารวัตถุ ปัจโตนิมา กัจจะฉะวะหิ โปเต มะยะยัง นามนิ ธรรมใดเกิดก่อด้วยบรมธรรม ย่อมเป็นไปตามธรรม ธรรมะนั้นย่อมกลับคืนสู่ห้วงอนิจจสังสารวัตถุธาตุทั้งสิ้น มวลสารนั้นก่อขึ้นด้วยอัตรกายทั้งสิ้น (ความมีได้ในตนเป็นผู้ก่อ) ไร้ของกำหนดให้เกิด ไร้ของกำเนิดให้ก่อย่อมเป็นไปตามสภาพธรรมทั้งสิ้น” นี่เป็นคำตรัสของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธไตรภพทั้งสิ้น
    สังสารวัฎธัม (บันทึกเรื่องราวแห่งมนุษย์) บทนี้ สัตว์ตนหนึ่งต้องได้รับทุกขเวทนาอย่างยิ่งในยมโลก ด้วยความจริตแห่งตนอันจะได้กล่าวไว้ต่อไป
    หญิงผู้หนึ่งเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ได้ก่อกรรมเวทนาเอาไว้ อดีตกรรมของเธอเป็นผู้หญิงที่ดำเนินชีวิตไปตามครรลองกรรมของมนุษย์ปุถุชน แต่ไม่มีสิ่งเหมือนกับมนุษย์อื่น นั้นคือ เธอได้กล่าววอนขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือเธอให้เธอประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตนพึงปรารถนา แต่เมื่อหากกรรมนั้นสำเร็จแล้วเธอกลับไม่กระทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับผู้รับขอนั้น เธอได้ก่อกรรมอมิจกรรมในตนด้วยการกล่าววาจาพล่อยออกไปด้วยความไม่ยั้งคิดว่าจะทำตาม ทำให้เธอต้องมารับบาป กรรมของเธอยังนรกภูมิแห่งนี้
    บาปกรรมของเธอนั้น ดังความที่จะเล่าไปนี้ อดีตชาติของเธอเป็นผู้หญิงผู้หนึ่ง บำเพ็ญกรรมไปตามวาระกรรมแห่งมนุษย์ แต่เมื่อสิ้นสุดวาระกรรมที่ตนอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนแล้ว เธอกลับไม่กระทำตามที่บนบานไว้เมื่อครั้งกระนั้น เธอได้บนบานว่าหากเธอมีสามีเป็นตัวตนแล้ว เธอจะนำสามีของเธอมาถวายตัวเป็นผู้รับใช้ในงานที่เทพนั้นประทาน แต่เมื่อกาลแล้วเสร็จเธอกลับไม่กระทำตามสัญญาที่เธอได้ให้ไว้ บังอาจก่อกรรมอมิจกรรมขึ้น และเธอก็ต้องมารับบาปกรรมนั้นอย่างแสนทุกข์ตรมในห้วงนรกแห่งนี้
    สุดสิ้นกรรมนั้นเมื่ออุบัติกรรมชาติที่ชดใช้นั้นสิ้นสุดลง สิ้นสุดกรรมเพียงแค่ชาตินี้ หากแม้วิญญาณนั้นไม่เกิดก่อด้วยกรรมที่มีมากกว่านี้ก็จะสิ้นสุดกรรมสภาพไว้เพียงนี้ แต่ถ้าไม่ เธอก็จะรับผลกรรมนั้นต่อไปยังสภาพเดิมในขุมนรกแห่งต่อไป
    นี่เป็นสภาพกรรมของสัตว์ตัวนั้นได้รับ หญิงผู้นี้ได้รับการทรมานด้วยกรรมวาจาที่เธอได้ก่อขึ้น น้ำร้อน ๆ จากเมืองมนุษย์ถูกต้มขึ้นมาโดยอาศัยแรงไฟประมาณสี่สิบท่อนฟืนเผาไหม้และอาศัยแรงพัดจากลมที่หวนอยู่เวลานั้น สภาพของปากเธอมีรอยแผลเป็นอยู่มากมาย เนื่องจากปากนี้ได้อาศัยความสุข ความมีได้ เป็นได้ ด้วยปากอันนี้ แต่เมื่อสิ้นความสัตย์ของปาก ปากก็ต้องถูกกระทำอย่างรุนแรงตามกฎแห่งกรรม
    สภาพกรรมที่สัตว์ตนนี้ได้รับ เพื่อตอบสนองบาปกรรมที่เธอได้กล่าววาจาที่มิจริงออกจากกายของเธอด้วยใจนั้นบงการ
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหวนกลับสู่สถานที่แท้จริงในสภาพกรรมนั้น ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงไปได้ หากแม้สัตว์ตนนั้นกลับคิดได้ ระลึกได้ จากความเป็นจริงย้อนสู่ความไม่เป็นจริง ในสภาพกายตนนี้มีอยู่อย่างที่มนุษย์ไม่เคยนึกถึง นั่นคือ สภาพกายภายในกายเรานั้นมีเพียงสองกายที่เรียกว่า กายมนุษย์กับกายจิตนั้นเป็นกายที่มนุษย์เกิดก่อขึ้นได้ด้วยรูปกาย สัตว์ตนใดแม้เกิดก่อขึ้นด้วยกายสองนี้ จะได้รับสภาพของความเป็นมนุษย์อย่างเต็มพร้อมสมบูรณ์ทุกสิ่งทุกอย่าง ตรงกันข้าม สัตว์ตนใดที่มาเกิดด้วยรูปกายอันพิกลพิการแล้ว แปลว่าสัตว์ตนนั้นมิอาจผ่านกฎแปรเปลี่ยนสภาพกายจากกรรมที่ตนได้กระทำได้ จึงต้องมาเกิดในสภาพนี้
    ดังนั้น ทุกคนที่ต้องมาเกิด ล้วนมีสภาพกายอยู่สองกายนี้ทั้งสิ้น ใครก็ตามที่รู้ได้ว่ากายนั้นอยู่ที่ใดตรงใดกายนั้นย่อมแสดงอิทธิภาพแห่งมนุษย์ เพื่อหลุดพ้นจากวัฎจักรกรรมนี้ได้ด้วยตนเอง
    “ธรรมะทั้งหลายย่อมสิ้นสุดด้วยกรรม ธรรมะทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม ธรรมะทั้งหลายย่อมอยู่ในภาวะแห่งกรรม ความแปรเปลี่ยนทั้งหลายย่อมมีอยู่ในสภาพของกรรม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรม”
    “เมื่อสิ้นสุดความเป็นมนุษย์ มนุษย์ทุกตนย่อมตกอยู่ภายใต้สภาพกฎแห่งกรรมนุษย์ทุกตนย่อมมีอยู่ในตนนั้น ใครเล่าจะมีดวงตาเห็นธรรม รู้แจ้งในธรรมะว่า ธรรมะที่พระพุทธเจ้าตรัสนั้นล้วนถูกต้องอย่างยิ่ง และประเสริฐล้ำยิ่งกว่าธรรมะจากผู้ใด”
    “เมื่อมนุษย์ทุกตนเกิดก่อด้วยธรรมสภาพในกายมนุษย์นี้ ทุกตนนั้นล้วนกลับเข้าสู่สภาพของการชดใช้กรรมแห่งตน มนุษย์ทุกตนที่มีกายเป็นเพียงผู้รู้ ผู้ทำ ในหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ให้ดับสิ้นเพียงแค่ความเป็นมนุษย์ แต่ไม่รู้จักความดับสูญแห่งชาติภพ มนุษย์ตนนั้นจักรู้จักเพียงความดับสิ้นในกายอย่างมิรู้จบสิ้น”
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    บันทึกกรรมมนุษย์
    เรื่องราวในบทนี้ ย้อนเรื่องจากเรื่องก่อนอย่างละเอียด มนุษย์หญิงผู้หนึ่งได้ตกสู่นรกภูมิ ด้วยกรรมที่เธอได้กระทำเอาไว้ดังที่จะได้เล่าต่อไป
    สภาพการลงทัณฑ์ต่าง ๆ ในยมโลกย่อมมีอยู่หลายสภาพ ใครก็ตามที่ได้เห็นย่อมรู้ว่า ไม่ใช่การง่ายที่จะหลุดพ้นไปจากสถานที่นี้ไปได้ ไม่ง่ายเลยที่จะทำ ใครก็ตามที่หลุดพ้นจากสถานที่นี้ไปได้ย่อมต้องถูกยมทัณฑ์ให้รับสภาพกรรมนั้นอย่างหนัก เมื่อสามารถกุมตัวได้ไม่ว่าอยู่ในที่ใด ดังที่เคยได้ยินอยู่หลายครั้งว่ามีการจับกุมผิดตัวบ้าง จับกุมแล้วไม่มีความผิดตามที่กล่าวไว้บ้าง นี่เป็นความผิดพลาดของการจดบันทึกกรรมของมนุษย์จากเทพประจำมนุษย์นั้น แต่เรื่องนี้มีการชดใช้ให้จากสวรรค์ หลังจากตรวจสอบพบว่ามนุษย์ผู้นี้มิได้กระทำความผิดไว้ตามที่กล่าวระบุไว้ในบัญชีกรรมจริง หลังจากตรวจสอบโดยเรียบร้อยจากเทพที่มีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีกรรมแล้ว และประทับตรารับรู้อย่างเป็นทางการเรียบร้อย สัตว์นั้นก็จะได้รับการทดแทนขึ้นเป็นสองเท่าจากกรรมดีที่จะตอบให้ผลท่าน
    นี่แล้ว ดังจะได้เป็นอุทาหรณ์สินใจแก่มนุษย์หลายท่านว่า กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมมิสิ้นสุดไว้เพียงชาติที่ท่านเกิด แต่ท่านจะต้องใช้ชาติใช้กรรมอย่างหนัก หากท่านได้กระทำความผิดเอาไว้ แต่ถ้าท่านก่อความผิดไว้เพียงน้อยแต่มีกรรมดีสร้างไว้โดยมาก ท่านก็จะได้รับการตอบแทนผลบุญของท่านจากสวรรค์ให้ก่อน เมื่อท่านรับเสวยผลบุญนั้นสิ้นสุดแล้ว ท่านก็จะต้องมารับสภาพกรรมที่ท่านได้ก่อขึ้นไว้ก่อนไปเสวยสุขนั้นจนเสร็จสิ้น นั่นแหละจะเรียกว่าสภาพกรรมนั้นสิ้นสุดลง
    กุศลกรรมที่ท่านได้ก่อขึ้น กรรมที่ท่านได้ก่อไว้ หากกรรมใดมีสภาพกรรมเป็นกรรมชดใช้กันแล้ว ท่านก็จะได้รับกรรมสภาพเป็นกรรมเชิดชู ทดแทน อย่างเช่นหากท่านกระทำตอบแทนสิ่ง ๆ หนึ่งต่อบุคคลใด แต่ท่านมิได้หวังแม้เพียงสิ่งตอบแทนจากเขาแล้ว เขาก็จะติดหนี้ค้างท่านอยู่แน่นอน แต่กรรมนี้จะสิ้นสุดได้หากกรรมนั้นมีความบริสุทธิ์อยู่อย่างไร้สิ่งหมองมัวในจิต แต่กรรมนี้จะแปรเปลี่ยนสภาพเป็นกรรมที่ต้องร่วมบุญกันต่อไป นั่นคือไม่ว่าท่านจะไปเกิดที่ใด หากแม้มีบุญกรรมก่อขึ้นร่วมกันแล้ว กุศลกรรมนั้นก็จะชักนำให้ท่านได้มาร่วมบุญกันอีกตามผลบุญผลกรรมที่ท่านได้ก่อ
    บุญบาปใดที่มีขึ้นด้วยผลแห่งบุญหรือบาปนั้น ผลกรรมนั้นจะมีการตรวจสอบอยู่เสมอ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะตายหรือเป็นอยู่ แต่จะสิ้นสุดกรรมเมื่อบุคคล ๆ นั้นได้เสวยสุขอยู่ในอมตะนฤพาน (ที่เสวยสุขแห่งคุณความดีอย่างมิสิ้นสุด) ใครก็ตามที่จะต้องชดใช้กรรมนั้นเขาจะต้องได้รับการพิพากษากรรมก่อนที่จะไปเสวยสุขในบุญหรือเสวยผลกรรมในบาปที่ได้ก่อ นี่เป็นความจริงที่ได้เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันเวลาขณะนี้
    ในยมโลกแดนสองนั้น มีการตั้งหน่วยสอบบัญชีกรรมกันขึ้นในแดนยมโลก เพื่อตรวจสอบบัญชีกรรมของมนุษย์ว่า บัดนี้มนุษย์ชายผู้นี้หรือหญิงผู้นี้มีความประพฤติกรรมเป็นอย่างไร ก้าวหน้าหรือตกต่ำเพียงไร หากแม้สัตว์ผู้นั้นกระทำตนดี สวรรค์ก็เมตตาให้ได้ในสุขตามผลบุญที่ได้กระทำ แต่ตรงกันข้างหากแม้สัตว์ตนนั้นได้กระทำบาปกรรมอันจะเป็นผลให้กุศลกรรมนั้นหมองช้ำลงแล้ว ด้วยแรงแห่งบาปกรรมนั้นจะมาตัดทอนบุญกรรมนั้นให้เสวยผลช้าลงอย่างทันตา แต่ถ้าใครมีบุญมาเสวยอยู่ในผลบุญแห่งชาติปางก่อนได้กระทำขึ้นไว้ ด้วยเจตนาที่จะมามีผลให้ในชาติปางนี้แล้ว ผลบุญนั้นก็จะตอบสนองเขาในสภาพของกรรมที่เขาได้เคยตั้งจิตเจตนาเอาไว้ตามความต้องการ
    ในงานหน้าที่แห่งยมโลกนั้น จะมีผู้ควบคุมบัญชีกรรมอยู่สองฉบับ นั่นคือเทพสุวรรณและเทพสุวาณ นามนี่เป็นเพียงนามหนึ่งที่มีหน้าที่จัดการงานต่าง ๆ ในเรื่องบุญหรือบาปได้ ดังจะอธิบายต่อไป นามว่าสุวรรณนั้นหมายถึงทอง ย่อมหมายถึงคุณความดีที่ได้กระทำ ผู้ที่จะได้มาเสวยบุญเป็นสุวรรณนั้นจะต้องมีความประพฤติกรรมที่เป็นคนดี ไม่มีความคิดคดทรยศในจิตต่อผู้ใด มีความประพฤติที่เชื่อมั่นอยู่ในศาสนาอย่างมิรู้คลาย ย่อมหมายถึงบุคคลที่มีความประพฤติไม่เพียงแต่ความเป็นมนุษย์ แต่หมายถึงความต้องการหลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์ ด้วยแรงกรรมนั้นแต่ผลกรรมบางอย่างที่เขาได้ทำ ทำให้เขาได้รับเลือกมาเป็นสุวรรณ ผู้ตรวจสอบบัญชีกรรมฉบับสวรรค์อยู่ในเวลานี้ ในผลบุญแห่งความเป็นสุวรรณนั้นหากผู้ใดมีความประพฤติจิตที่เที่ยงตรงไม่เอนเอียงหรือไม่เป็นธรรมแห่งมนุษย์แล้ว เขาจะต้องมีความประพฤติจิตที่เที่ยงตรง ไม่เอนเอียงหรือไม่เป็นธรรมต่อมนุษย์ผู้ใด อย่างลำเอียงหรือมีความเอนเอียงในความคิดที่จะช่วยเหลือผู้ใดผู้หนึ่งอย่างฝ่ายเดียว หรือด้วยความคิดที่ว่าเขาเคยเป็นญาติของเรามาก่อน หากผู้มีบัญชาสูงสุดในยมโลกทราบถึงพระเนตรพระกรรณแล้ว สัตว์ตนนั้นจะต้องได้รับบาปแห่งผลกรรมนั้นอย่างสาหัสในทุกขกรรมเวทนา
    ผู้ที่ตรวจบัญชีกรรมแห่งสวรรค์นั้นย่อมมีอยู่สองพวก คือ ผู้ที่มีหน้าที่ในงานบุญกับผู้มีอำนาจหน้าที่ในงานบาปของมนุษย์หากแม้ตรงกันข้าม ผู้ตรวจบัญชีกรรมสุนัขหนังหมานั้นมีความประพฤติเที่ยงตรงอย่างตรงไปตรงมา ไม่อภัยต่อผู้กระทำผิดแต่มีจิตคิดช่วยเหลือต่อผู้กระทำบุญ หากแม้สัตว์ตนใดมีชื่อปรากฏอยู่บนบัญชีหนังมาหรือหนังสุนัข ตามคำเรียกบนมนุษย์โลกนี้หรือมีชื่อปรากฏอยู่บนบัญชีกรรมฉบับสุวรรณแล้ว ชื่อนั้นจะปรากฏเป็นอักษรทองปรากฏขึ้น ด้วยแรงกรรมที่เขาได้กระทำนั้นจะส่งผลให้เทพพรหมเบื้องบนรับทราบว่า สัตว์ผู้นี้ได้กระทำกรรมไว้ตามนั้นจริง เทพก็จะประทานความดีผล (กุศลผลในความดีที่ได้ก่อ) ให้กับเทพที่รักษาตัวมามอบให้ สิ่งนี้เป็นความลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใด ขอให้ผู้ที่พึงรู้พึงทราบจงปฏิบัติให้ชัดแจ้งไม่ว่าบุญที่ตนได้กระทำไว้และความคิดที่จะสร้างบุญขึ้น ขอให้กระทำบุญเพิ่มขึ้นอย่างมิรู้จบกรรมนั้นจะเสวยบุญในชาติภพที่ตนได้ก่อขึ้นอย่างมิสูญหายแล
    พญายมราชผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินคดีกรรมอยู่ในยมโลกนี้ ท่านมีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินกรรมคดีต่าง ๆ ของมนุษย์อย่างเที่ยงธรรม ใครก็ตามที่สิ้นสุดแห่งความเป็นมนุษย์ในชาติภูมินี้แล้ว ดวงวิญญาณที่ดับสิ้นจากชาติภพในปัจจุบันนี้ก็จะลอยล่องไปสู่แดนวิญญาณที่รอรับกายวิญญาณของสัตว์ตนนั้นอยู่ หรือหากแม้ลอยล่องไปสู่ที่ใด ที่มิอาจเข้าสู่ภพภูมิวิญญาณได้ก็จะมีเจ้าหน้าที่แห่งยมโลกมาตามตัวและนำตัวไปเข้าเฝ้าพิพากษาคดีกรรมจากพญายม
    ในสภาพบัญชีกรรมในสัตว์ตนนั้น เขาจะมิอาจโกหกได้ว่าเขามิได้กระทำกรรมนั้นขึ้น แต่อาจบอกได้ว่าเขาได้สร้างผลบุญไว้มากเพียงใดเมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์อยู่และได้ประกอบกรรมใดที่เป็นกรรมภาพแห่งจิต (กายและจิตพร้อมกันช่วยเหลือ การพร้อมกันช่วยเหลือด้วยความเต็มจิตเต็มกาย) ไว้เพียบพร้อมแล้ว ผลกรรมก็จะถูกไต่สวนและสอบสวนบัญชีกรรมจากพญายม โดยพญายมจะเป็นผู้ตรวจสอบและพิพากษาคดีกรรมอย่างเป็นธรรมและมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือชาติภูมิแห่งสัตว์นั้น หากแม้สัตว์ตนนั้นมิอาจกล่าวได้ว่าตนเองกระทำกรรมใดที่เป็นที่ช่วยเหลือตนเองได้ องค์ท่านก็จะโปรดช่วยเหลือโดยการแนะแนวทางการระลึกถึงคดีกรรมดังกล่าวขึ้น หากแม้สัตว์ตนนั้นได้ประกอบกรรมสภาพในภาพกรรมที่ตนได้กระทำขึ้นอย่างมิอาจจำได้แล้ว แต่ผลบุญปรากฏอยู่จริงท่านก็จะให้นำน้ำดื่มระลึกความจำจากมือยมทูตซึ่งวางอยู่ใกล้ ๆ องค์ท่านมาให้ดื่มและเมื่อดื่มแล้วสัตว์ตนนั้นพอจำความได้ว่า ตนเองกระทำกรรมตามนั้นจริงก็จะช่วยเหลือไป แต่ถ้าหากช่วยแล้วสัตว์ตนนั้นมิอาจจะจำได้เนื่องจากผลกรรมมาปิดบังให้ไม่อาจตอบไปได้แล้ว เขาก็จะได้รับการสอบบัญชีกรรมขึ้นอีกครั้ง และเป็นครั้งสุดท้ายในการช่วยเหลือเขา
    ดวงวิญญาณจะถูกสอบสวนด้วยข้อความดังต่อไปนี้
    พญายม – มึงทำกรรมอะไรไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ มึงจงบอกมากูนี่คือพญายมผู้ครองนคราแห่งนี้ (พูดจบท่านก็กระทืบเท้าเพื่อให้สัตว์ตนนั้นรู้แจ้งว่าตนเองได้สิ้นสุดสภาพจากความเป็นมนุษย์แล้ว)
    เมื่อสัตว์ตนนั้นได้รับฟังเสียงกระทืบเท้าขององค์พญายมแล้ว ก็จะรื้อฟื้นความทรงจำมาได้ว่าตนเองมาจากที่ใด ตายด้วยเหตุใด และมาที่นี้แล้วปัจจุบันตนเองเริ่มเข้าสู่สภาวะแห่งกายวิญญาณ ตัดขาดจากกายมนุษย์ หากแม้วิญญาณนั้นเป็นสัตว์ก็จะรับทราบว่าตนเองหลุดพ้นจากชาติสัตว์แล้ว ด้วยความเป็นสัตว์นั้นหลุดพ้นไปจากกายตนและกลับเข้าสู่สภาพกายความเป็นมนุษย์เหมือนเดิม
    ผู้ตรวจสอบบัญชีผู้หนึ่ง – ได้ตอบว่า “พระพุทธเจ้าข้า เกล้ากระหม่อมขอรับราชบัญชา ด้วยเหนือเกล้าเหนือเศียร” ด้วยเศียรนั้นน้อมลงด้วยความเคารพหนึ่งครั้งต่อองค์พญายม
    นี่เป็นคำกล่าวคำหนึ่งที่กล่าวขึ้นในการสอบบัญชีกรรม ขอให้ท่านผู้อ่านจงคิดไว้ว่า วัน ๆ หนึ่งท่านจะต้องสู่สถานที่แห่งนี้ และต้องรับสภาพกรรมตามที่ท่านก่อหากใครก็ตามกระทำความดี เขาก็จะได้ไปเสวยสุขในที่แห่งความงามและความเพลิดเพลิน แต่ถ้าใครกระทำตนเป็นผู้สร้างกรรมให้ก่อมีขึ้นด้วยกับบุคคลอื่นอันจะทำให้กรรมนั้นเป็นห่วงผูกพันซึ่งกันและกันแล้ว เขาจะต้องชดใช้บาปกรรมนั้นอย่างหนักในสถานเสวยบาปในสถานบาปทัณฑ์แห่งนั้นจนกว่าเขาจะสิ้นกรรมไปจากภพชาตินี้
    ด้วยกรรมวาระที่สัตว์ตนนั้นได้กระทำ เขาจะต้องชดใช้บาปกรรมในนรกสถานไปจนกว่าบาปกรรมนั้นจะหมด
    หญิงผู้นี้ได้ก่อกรรมไว้กับสามีของเธอ ดังจะได้กล่าวต่อไป
    อดีตชาติของหญิงผู้นี้ เป็นหญิงที่ไม่มีสามีแต่บนบานสานกล่าวต่อเทพยดาฟ้าดินเบื้องบน ขอให้ตนมีสามีเป็นตัวตนและจะกระทำสิ่งตอบแทนต่อสวรรค์ แต่สิ่งที่เธอกล่าวนั้นไม่สามารถทำได้ ทำให้เธอต้องผิดกรรมวาจาตามที่เธอให้ แต่ด้วยความปราณีจากสวรรค์ที่มีในมนุษย์ จึงได้ประทานความสัมพันธ์ให้กับมนุษย์ผู้นี้และได้ห่วงผูกพันในกรรมระหว่างเธอกับเขา (สามี) ให้สร้างกรรมมาผูกพันกันและชักนำจูง ให้มาผูกพันกันระหว่างเขากับเธอทำให้กรรมนั้นเกิดขึ้นและอาศัยผลกรรมนั้นเป็นผู้สร้าง ทำให้วินิจฉัยกรรม (กรรมที่เป็นไปตามผลที่เธอขอ) ตามที่เธอขอนั้นเป็นผลสำเร็จแล้ว แต่ความที่เป็นไปว่าถ้าหากเธอทำสำเร็จแล้วจะทำสิ่งหนึ่งตอบแทน แต่เรื่องนั้นมิสามารถกระทำได้ จึงทำให้กรรมของเธอต้องชดใช้กรรมกันในนรกด้วยกรรมที่เธอกล่าววาจาพล่อย ๆ ต่อสวรรค์และด้วยจิตที่ไม่มีความเคารพยำเกรง ด้วยผลกรรมนั้นจะต้องรับสภาพกรรมของเธอไปจนกว่าเธอจะสิ้นกรรม
    สัตว์ตนหนึ่งต้องชดใช้กรรมเนื่องจากกล่าววาจาผิดออกมาคำหนึ่ง ขอให้ท่านทั้งหลายพึงสำนึกไว้ว่าตนเองกล่าววาจาใดออกไปต่อสวรรค์นั้น มีสิ่งรู้สิ่งเห็นว่าตนนั้นกระทำ จงอย่ากระทำผิดจงคิดกลับตัวเสียเถิดหากกรรมนั้นได้กระทำไว้อยู่ขอจงสำนึกเสียเถิด…
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันเสาร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๔๘
    นรกขุม ๑๐ สถานทัณฑ์ราช (ลูกอกตัญญู – ผีอกตัญญู)
    วิญญาณทั้งหมดในยมโลกแดนสามนั้น ย่อมมีอยู่มากมายหลายชนิด หลายประเภท มีแตกต่างกันตามประเภทกรรมที่ได้สร้างได้ทำมา หากสัตว์ตนใดกระทำกรรมมากด้วยกรรมนั้นจักส่งผลให้กรรมนั้นแตกต่างกันไป แต่หากตนใดกระทำกรรมต่างบุพกรรมแต่เก่าก่อนด้วยกรรมดี มีผลกรรมดีตอบสนองแล้ว สัตว์ตนนั้นจะมีที่พึ่งในสัมปรายภพในทิศภูมิที่ดีประเสริฐกว่าสัตว์ทั้งมวลด้วยกรรมที่ตนได้สร้างไว้ในพระกรรมฐานเพื่อเจริญพระธรรมสติให้ดำรงตนดำรงกายอยู่ในพระธรรมกายโรจนบุตรด้วยฤทธิ์แห่งธรรมนั้น มนุษย์ผู้นั้นจักได้ไปสู่สรวงสวรรค์ในภพภูมิอันประเสริฐ ในสถานที่ซึ่งมนุษย์เรียกกันว่า “พระนิพานพุทธสถิตย์”
    วิญญาณรูปที่วนเวียนอยู่ในภูมิที่มีการเกิดแก่เวียนตายด้วยรูปกายอันมิสุดสิ้นนั้น ขอให้มนุษย์ผู้เลือกทางเดินของตนนั้นจงรู้ธรรมในตน ประจักษ์แจ้งในตนด้วยพระธรรมกายฤทธิ์ญาณนั้นเถิด จักแจ้งด้วยตนประจักษ์รู้ด้วยตนด้วยภูมิธรรมที่ตนสร้างด้วยบารมีธรรม
    วิญญาณทั้งหมดที่รวมอยู่ในนรกนั้น มีผลกรรมแตกต่างกันตามแต่สภาพตนตามแต่กรรมที่สร้างกันมา ด้วยบุญที่ได้สร้างกรรมที่ได้ก่อนั้น เป็นสิ่งกำหนดชีวิตของบุคคล ๆ นั้นว่าจะไปที่สุด ณ ที่ใด ดังเรื่องที่จะได้เล่าต่อไปนี้
    เมื่อลงสู่ยมพิภพ ผมได้ผ่านสถานที่ลงทัณฑ์หลายแห่ง รายทางที่ผ่านไปมีวิญญาณชดใช้บาปกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก มีมากมายทั้งหญิงชาย วิญญาณต่าง ๆ ต่างต้องรับกรรมด้วยทุกข์เวทนาเพราะกรรมเก่ามีมากและเป็นไปตามบุญตามกรรม
    ผมได้พบวิญญาณตนหนึ่ง ได้สอบถามถึงกรรมเก่าของเขาที่ทำให้เขาต้องตกลงมาสู่ในนรกแห่งนี้ วิญญาณตนนี้ได้เล่าให้ผมฟังว่า เขาได้สร้างความอกตัญญูไว้กับบุพการีไว้มากอย่างไร้สิ่งใดมาเปรียบ จักต้องรับกรรมนั้นอย่างหนัก ดังที่บัญชีบาปกรรมปรากฏไว้และกรรมโทษกำหนดมีไว้ในบัญชีสภาพกรรม กรรมที่เขาทำได้ถูกเล่าออกมาอย่างจบสิ้น
    เขาเล่าว่า แม้เขาจะมีความรู้น้อยปัญญาไม่มี แต่ก็มีความจริงใจที่จะกล่าวว่าเขาทำให้แม่ต้องตายเพราะตัวเขา เขาทำให้แม่ต้องเจ็บและเขาเองทำให้แม่ต้องร้องให้ เขายอมรับทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กรรมนั้นจะหนักสักเพียงไรตัวเขาก็ยอมรับกรรมนั้นโดยผู้เดียว วิญญาณตนนี้เล่าเรื่องที่เขาทำด้วยน้ำตานองหน้า
    วิญญาณตนนี้ได้กระทำกรรมอย่างหนักไว้กับแม่ของตน เพราะคำพูดที่เขาเล่าออกมาจากปากเขาว่าตัวเขานั้นได้กระทำให้แม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะตัวเขาชอบเที่ยวเตร่เสียเงินไปกับการพนัน ทั้งพนันทั้งการกินเหล้าและเที่ยวจนมึนเมาหลงมองดูว่าแม่ของตนนั้นมีสภาพอยู่เช่นไร เขาได้ใช้วาจาของเขาพูดกล่าวร้ายว่าแม่
    (ตัวแม่นี้พร้อมที่จะให้อภัยลูกทุกอย่าง ถึงแม้ลูกจะชั่วจะดีก็ตาม คำว่า “ลูก” ก็คือลูกในหัวใจของแม่) แม้กฎแห่งกรรมจะมีความยุติธรรมก็ตามบุคคลดังกล่าวมีความจริงใจในการสารภาพความผิดที่กระทำมากับแม่ของตน และอาจหาญที่จะรับว่าตัวเองกระทำให้แม่เดือดร้อนจริง จะมีน้อยคนหรืออย่างไรที่กล้ารับว่าตัวเองเป็นผู้ที่ทำให้แม่ต้องเป็นอัมพฤกทั้งตัว
    สัตว์ตนนี้ได้กระทำความผิดตามที่ได้เล่ามาว่า ตนเองทำให้แม่ต้องตายและทำให้ตัวเองต้องตายด้วยการดื่มยาพิษเพื่อแก้ไขชีวิตของตน ทั้งนี้เพราะเขาเกิดความละอายภายหลังในตัวเขาว่า ตัวเองเป็นต้นเหตุให้แม่ต้องตาย เขาจึงฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้บาป
    วิญญาณตนนี้ได้ถูกลงโทษในสถานลงโทษทัณฑ์ราช โดยมียมทูตสององค์เป็นผู้กระทำการ เขาถูกจับโดยลงใส่ในหม้อใบใหญ่ ในนั้นมีน้ำเต็มไปหมดแต่ไม่ใช่น้ำดี เป็นน้ำที่เสียของมนุษย์ที่ถ่ายออกมามีทั้งอุจจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือด น้ำหนอง และน้ำเชื้อที่ไหลเวียนในตัวคนอีก ทุกสิ่งทุกอย่างรวมอยู่ในนั้น (เขาพูดว่า คนอย่างเขาสมควรแล้วที่จะต้องรับกรรมเช่นนี้) กองไฟที่เผาอย่างลุกโชนอยู่ใต้หม้อใบนั้นวิญญาณตนนี้ร้องขึ้นอย่างเจ็บปวดท่ามกลางน้ำที่เดือดเสียงร้องโอดโอยดังระงมอย่างครวญครางแทบจะสิ้นใจ วิญญาณตนนี้จะรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว และมีความรู้สึกร้อนในตัวเอง เพราะตัวเองนั้นเป็นผู้ก่อไฟนี้ขึ้น ผมพูดถึงไฟในตัว ไฟที่ตัวเองได้ก่อขึ้นในชีวิต และเป็นผู้ดับมันได้หากมีความถูกต้องแห่งตนมาช่วยเหลือ ผมอธิบายถึงความมีจิตใจคิดสำนึกในบาปบุญคุณโทษความถูกต้องแห่งตนมาช่วยเหลือ ผมอธิบายถึงความมีจิตใจคิดสำนึกในบาปบุญคุณโทษของตน และรับกรรมนั้นไปด้วยความอโลสะ (รับกรรมไปโดยไม่ว่าอะไร) และขอให้ท่านผู้อ่านเรื่องนี้ จงยกเป็นอุทาหรณ์ไว้สอนใจว่าแม่นี้มีบุญคุณเหลือที่สุดคณานับ แม่นี้มีบุญที่ได้เลี้ยงดูเรามาแม้เราทำผิด ตัวแม่นี้พร้อมจะรับผิดแทนลูก หากลูกขอความช่วยเหลือ
    ขอวันนี้ วันที่กล่าวเรื่องนี้เป็นวันที่กราบระลึกถึงพระคุณแม่ด้วยความรู้สึกที่ดีต่อแม่ผู้มีพระคุณ หากลูกนี้มีบุญใดพอที่จะช่วยไว้ได้ก็ขอให้บุญนี้ช่วยให้แม่ของลูกประสบแต่ความสุขความเจริญ ให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาและสมคิดในสิ่งที่คิด ด้วยตัวแม่เองขอให้แม่ของลูกนี้จงนอนหลับฝันดีอย่าได้เจ็บอย่าได้ไข้ในตน และความทุกข์ใดที่บังเกิดอยู่กับแม่ของลูก ตัวลูกนี้จะขอยอมรับกรรมนั้นด้วยความสัตย์(มีความจริงทั้งกายและใจ) ขอกราบแทบเท้าของแม่ตรงนี้…
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันอาทิตย์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๔๙
    นรกขุม ๑๑ แดนลงทัณฑ์ ๙ (ลูกอกตัญญู)
    วิญญาณที่รับบาปกรรมอยู่ในนรกนั้น ต่างต้องรอเวลาใช้กรรมไปจนกว่ากรรมนั้นจะหมดสิ้น หากแม้ใครมีบุญที่จะช่วยตนเองให้รอดพ้นโดยไวนั้น เขาสามารถขอร้องต่อองค์พญายมให้เขาใช้กรรมนั้นในยมพิภพต่อไปได้เล็กน้อย และให้ไปอยู่ในแดนมนุษย์เพื่อใช้บาปกรรมนั้นต่อไป
    หากใครมีความประสงค์ที่ช่วยญาติของตนให้ขึ้นมาจากนรกนั้น จะต้องมีกรรมฐานสิบและเขาต้องมีฤทธิ์อภิญญากายทิพย์ สามารถถอดกายทิพย์ลงสู่โลกด้วยฤทธิ์ตน (ไม่มีใครแสดงฤทธิ์ช่วย โดยมีการตรวจสอบจากยมโลกและแดนมนุษย์ว่ามีการสอบผ่านขั้นตอนตามที่สวรรค์กำหนดไว้จริง และลงตราประทับในหนังสือยืนยัน) เมื่อนั้นเขาสามารถจะช่วยญาติของตนที่ตกนรกให้พ้นจากยมโลกให้พ้นสู่แดนมนุษย์ หรือหลุดพ้นจากโทษในนรกเปลี่ยนภพขึ้นสู่แดนสงบธรรม และได้เสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นพิภพด้วยกรรมที่ญาติของตนได้ทำไว้ ดังนี้ บุคคลใดที่นั่งกรรมฐานในสายนี้จึงสามารถช่วยญาติของตนที่ตกนรกให้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์ได้ด้วยฤทธิ์ฌานที่ตนปฏิบัติมาและบารมีธรรมที่สร้างมาด้วยสายบุญแห่งพระกรรมฐานเป็นที่ตั้ง
    ด้วยประกาศแห่งยมโลกนั้น ใครก็ตามที่สามารถเหยียบลงสู่พื้นภพยมราชได้เขานั้นจะสามารถช่วยเหลือญาติของตนให้พ้นจากนรกได้ และหลุดพ้นจากโทษกรรมที่ได้รับอยู่ (นั่นเป็นประกาศแห่งสวรรค์ที่ได้ประกาศไว้ยังแดนยมโลก)
    ในเรื่องนี้ ผมได้ลงสู่แดนยมโลกด้วยกรรมฐานฤทธิ์ธรรมที่ได้ปฏิบัติ มนุษย์ผู้หนึ่งที่ได้รับกรรมในยมโลกนี้มีบุญอยู่เพียงน้อย แต่สร้างกรรมไว้มากจึงต้องรับผลกรรมอยู่ในนรกไปจนกว่าจะหมดกรรมจากนรกนี้ไป และในที่นั้นเขาจะได้สู่ในภพภูมิที่ดีต่อไป แต่เรื่องนี้ยังอยู่ที่แดนลงทัณฑ์ของยมพิภพนี้ ด้วยสาเหตุแห่งผลกรรมที่เขาได้สร้างนั้นส่งผลให้เขาต้องมาใช้กรรมอย่างมิจบสิ้นโดยง่ายในสถานที่ลงทัณฑ์ต่าง ๆ กรรมที่เขาได้ก่อขึ้นไว้นั้นมหันต์นัก ใครเล่าจะรู้ว่ากระทำกรรมจบสิ้นนี้จะต้องได้รับผลเช่นไรในยมโลกและจะต้องได้รับการพิพากษากรรมจากองค์พญายมอย่างยุติธรรม
    บุคคลผู้ใดที่มีกรรมดีบังเกิดอยู่มาก เขาเหล่านั้นจักได้ไปสู่ในที่อันชอบ บุคคลใดที่สร้างไว้แต่บาปกรรมอันก่อด้วยกรรมเจตนาที่ส่อจิตเจตนาแห่งตนไว้กระทำขึ้นนั้น เขาเหล่านั้นมีที่อันชอบคือแดนมนุษย์ลงทัณฑ์สามนั่นหมายถึงที่แห่งหนึ่งในยมโลก ที่ไว้ลงทัณฑ์มนุษย์บาปหนาที่สร้างกรรมไว้อย่างหนัก
    วิญญาณตนนี้ได้สร้างกรรมไว้อย่างมากกับบิดาของตน ดังเรื่องที่จะได้เล่าต่อไป
    วิญญาณตนนี้ได้ถูกนำตัวมายังยมโลกและถูกตัดสินให้ชดใช้บาปกรรมที่ก่อขึ้นในระยะเวลากรรม เขาต้องรับบาปกรรมเนื่องจากผลกรรมที่ได้สร้างไว้กับบิดาของตน
    ผมได้สอบถามเรื่องราวความเป็นมาจากปากของเขา เขาได้บอกว่าเขานั้นเป็นคนจน มีอาชีพรับราชการและมีเมียอยู่คนหนึ่ง เธอเป็นคนมีจิตใจร้าย ไม่เคารพพ่อสามี ไม่ดูแลพ่อของสามี ทั้งยังไม่เอาใจใส่ดูแลและมักจะหาเรื่องกันอยู่เสมอ เขามารู้เรื่องในภายหลัง พ่อของเขาขอย้ายตัวเองออกจากบ้านหลังที่อยู่และได้ขอเงินลูกเพื่อไปทำกิจการเล็ก ๆ ในบ้าน เขามีเงินติดตัวอยู่ ๕๐๐ บาท จึงให้เงินนั้นแก่พ่อไป เขาทำให้พ่อเดือดร้อนเพราะหลังจากที่พ่อไป พ่อก็ต้องทำงานหนักหาเลี้ยงชีพอยู่ตัวคนเดียว เขาเป็นคนมีชีวิตได้ก็เพราะพ่อคนนี้ และพ่อคนนี้เองของเขาผู้ซึ่งเขารักและเคารพพ่อสุดชีวิต เขาเล่าว่าเขารักพ่อมาก แต่เมียของเขาไม่เข้ากับพ่อสามี เขาจึงต้องเลือกเอาทางใดทางหนึ่ง แต่กรรมใดที่บดบังให้เขาหลงกระทำผิดเลือกทางที่ชั่ว ทำให้เขาเลือกเอาเมียเอาไว้ และทอดทิ้งให้พ่อของเขาต้องอยู่คนเดียว เขาเลว (เขาว่าตัวเขาเอง) เลวยิ่งกว่ามนุษย์ใด ๆ เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความสุขในชีวิต แต่ตนเองก็หาความสุขนั้นได้ไม่นาน ก็ต้องหมดเงินลง เขาไปหาพ่อแต่พ่อก็ไม่เคยขับไล่เขา เขากราบลงแทบเท้าของพ่อ เขากล่าวลงตรงนี้พร้อมกับน้ำตาซึมออกมา
    “พ่อครับ ผมผิดไปแล้ว” เขากราบลงแทบเท้าของพ่อ
    พ่อของเขาให้อภัยด้วยการกล่าวว่า “ลูกรัก แม้พ่อจะเจ็บแต่พ่อนี้ก็รู้ว่าลูกนี้มีชีวิตอยู่อย่างไร ไอ้อีนางนั้นมันทำกับลูกอย่างไร จงลืมมันเสียเถิดคิดเสียว่าเป็นกรรมเก่าของเรา และรับกรรมไปด้วยหน้าตาแจ่มชื่นเถิดลูก มนุษย์เราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ก็เพราะสร้างกรรมไว้ดี หากลูกจะกระทำให้ชีวิตของตนเองเดือดร้อน จงหยุดคิดเสียเถิด” พ่อของเขาให้ความคิดแก่เขา เขาก้มกราบแทบเท้าของพ่ออีกครั้งด้วยความปลาบปลื้มในตัวพ่อของเขาเป็นอันมาก ตัวเขาได้กระทำผิดเอาไว้กับพ่อหลายอย่าง เขาได้สร้างบาปกรรมมหันต์อันมิอาจจะให้อภัยได้ แต่ด้วยแรงห่วงใยของพ่อนั้น ทำให้เกิดความอาทรขึ้นในจิตของพ่อมนุษย์ผู้ใดที่มีพ่อจงคิดสำนึกเถิดว่า ใครก็ตามที่เป็นพ่อนั้น ย่อมรักและห่วงลูกขนาดใด เมื่อตัวเองนั้นประสบกับความเป็นพ่อ ย่อมประจักษ์แจ้งแก่ตน
    เขาได้บอกที่มาของเขาแก่ผม และบอกว่าขอให้ผมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด
    ผมตอบไปว่า “เราเชื่อเธอจ๊ะ”
    เขายังเล่าต่อไปว่า เขาทำผิดจริง ที่เขาต้องมารับกรรมอยู่อย่างนี้ ก็เพราะว่าเขาเป็นคนติดนิสัยใจร้อน และพบกับเมียคนนี้จึงมีชีวิตไม่ดี ต้องรับกรรมกันไป เขาถูกยมทูตถีบให้ตกลงมาจากหน้าผากรรม (เป็นที่ปล่อยตกวิญญาณให้ลงมารับบาปเป็นสถานที่ลงทัณฑ์แห่งหนึ่ง สร้างไว้เพื่อลงโทษแก่มนุษย์ที่ทำบาปกรรมอยู่ในนรกแดนนี้) ตัวเขาถูกถีบลงมาจากหน้าผากรรมนี้ ลงสู่เถ้าถ่านแดง ๆ ที่ลุกโชนด้วยพิษไฟมรณะอยู่เบื้องล่างเขาเจ็บปวดทั่วทั้งตัวด้วยแรงกระแทกที่ตกลงมา แรงนั้นทำให้เขาต้องเจ็บอกเจ็บกระดูกชิ้นส่วนต่าง ๆ ในร่างกายเขาเริ่มแยกออกจากกัน และถูกไฟเผาไหม้ไปจนหมด เมื่อสิ้นกรรมคดีนี้เขาจะต้องไปเกิดใช้กรรมในคดีต่อไปเป็นคดีที่เขาคิดคดทรยศกับผู้มีพระคุณ สร้างบาปกรรมไว้อย่างหนัก เขาจะต้องถูกกินเหล็กพิษเข้าไปทั้งแท่งและถ่ายออกมาทางก้นจนกว่าจะหมด นี่เป็นกรรมที่เขาได้รับเพียงส่วนหนึ่งของบัญชีกรรมที่เขาได้ทำ
    ขอท่านผู้ที่อ่านเรื่องราวนี้ จงพึงนึกไว้เถิดว่าบุคคลที่เกิดมาในโลกนี้มีพ่อเป็นผู้ประเสริฐมีผู้ค้ำชูอยู่ก็หาเหลียวแลไม่ จงกลับไปดู ณ บ้านของท่านเถิดว่ามีใครที่ควรจะเหลียวแลบ้าง ขอให้ท่านจงสำนึกว่าพวกเขาเหล่านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของท่าน แล้วท่านจะมีความสุขตลอดชีวิต
    กุศลกรรมใดที่ใครก่อไว้กับครอบครัวของตน แม้กรรมดีกรรมชั่วผู้นั้นจักต้องรับสภาพกรรมนั้นไปจนสิ้นชีพและสิ้นกรรม นั่นหมายถึงอดีตกรรมของเขาจะยังมีอยู่และรอการใช้กรรมในภพหน้า นั่นแหละคือสภาพกรรมที่เป็นอยู่ในภพมนุษย์
    “กรรมบาปใดที่สัตว์ตนนั้นได้เป็นผู้กระทำ ขอให้สัตว์ตนนั้นเลิกกระทำเสียเถิดวิญญาณตนใดได้กระทำกรรมดีอันเป็นผลเกิดก่อจากกรรมที่ตนได้สร้างไว้ วิญญาณตนนั้นก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นในที่สวรรค์สร้างไว้ในสถานแห่งบุญ แต่ถ้าวิญญาณตนใดไม่ประพฤติหรือฟังเสียงแห่งธรรมที่กล่าวไว้ในมนุษย์โลก ดังที่องค์สมเด็จพระพุทธโคดมได้ทรงตรัสแจ้งไว้เพื่อให้มนุษย์ได้แจ้งทราบในกรรมที่เขาได้ก่อขึ้นว่ากระทำกรรมอย่างนี้ มักจะได้รับผลกรรมอย่างนี้ และกระทำกรรมอย่างนี้จะได้รับผลกรรมไว้อย่างไร”
    นักปราชญ์ผู้ยิ่งยง (นามแฝงหนึ่งของวิญญาณเทพที่จุติบนสวรรค์) และมาช่วยงานเขียนในครั้งนี้ได้กล่าวขึ้น
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันจันทร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๐
    นรกขุม ๖ แดนนรกโลกันตร์
    “กรรมบาปที่สัตว์ตนใดได้กระทำแล้ว สิ้นแล้วด้วยกรรม สัตว์ตนนั้นจักเป็นผู้รับกรรมนั้นตามตนมนุษย์ผู้ใดมีกรรม มีบาป เขาเหล่านั้น จักเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้นสนองผลแห่งตน”
    วิญญาณใดที่รับบาปอยู่ในนรก ด้วยผลกรรมที่ตนได้สร้างนั้นได้ส่งผลให้ตนดับสิ้นชีพและต้องชดใช้บาปกรรมในนรก
    วิญญาณต่าง ๆ ที่ถูกลงโทษอยู่ในยมโลก ต้องมีกรรมหนักเบาแยกกันได้ตามอุปสรรคในการก่อสร้างบุญบารมีให้แก่ตัวเอง ถ้าหากเขารับกรรมนั้นมากพอเขาก็มีสิทธิ์ลดหย่อนโทษ ตัวเขาเองนั้นไม่มีสิทธิ์ร้องขอให้พญายมตัดสินให้เขาไปเป็นอย่างใดได้ ถ้าหากเขาไม่มีบุญพอและบุญบารมีที่เขาได้สร้างสมมาแต่ก่อน และเหตุปัจจัยบุญที่ได้ช่วยเหลือให้เขาได้รับความสุขความสบายในโลกมนุษย์นั้นมาช่วย จากเหตุนี้มีข้อความอยู่ว่า “สัตว์ทั้งหลายที่ตกอยู่ในยมโลก จะได้ทุกข์เพราะตัวเขาสร้างบุญมาไม่พอ ดังนั้นจึงให้มีการสร้างบุญในยมโลกด้วยการทานอาหารให้แก่กันและกันเป็นทาน”
    ดังนั้น จึงเกิดมีบารมีเกิดขึ้น ยามใดที่ตนได้รับผลบุญที่ญาติของตนได้ส่งมาให้ก็มีสิทธิ์แบ่งปันอาหารให้แก่ผู้อื่นได้ และอธิษฐานขอบุญนั้นช่วยปลดกรรมให้แก่ตัวเองได้ไม่มาก แต่ก็พอที่จะให้ตัวเองได้อยู่สุขได้ ยมทูตก็จะมีเวลาให้วิญญาณได้พัก และพักผ่อนให้พอกับเวลากรรมที่ได้สร้างไว้ หากแม้หมดเวลาก็ต้องรับโทษดังเดิมเช่นนี้ทุกตน
    สัตว์โลกทั้งหลายจงพึงระวัง แม้ตนเองได้ทำบุญในชาตินี้ก็ขอให้พึงสำนึกไว้ว่า ตัวเองไม่ได้มีบุญไว้เพียงชาตินี้ ตัวเองจะต้องมีบุญไว้เพื่อกับมนุษย์คนอื่นด้วยทุกคนจะต้องมีกรรมไว้ในชาตินี้ หมายถึงจะต้องได้กระทำบุญไว้เพียงพอกับตนเองที่จะไปเกิดชาติหน้า แล้วจะสบาย อย่าได้พร้อมเมื่อตายและให้ญาติของตนเองทำส่งไปให้ มีน้อยคนนักที่จะระลึกถึงญาติของตนเองได้เสมอ แต่ก็มีบ้างที่ญาติของตนนั้นกระทำบุญให้ในวันตรุษเพื่อให้ญาติของตนมารับในส่วนบุญ ทุกคนมีความหวังว่าญาติของตนจะมารับสิ่งที่ทำไว้ แต่เขานั้นไม่อาจมาได้ถ้าเขาต้องรับกรรมอยู่ในนรก โดยมีการบังคับไว้ว่า หากใครมีบุญที่เกินสามในสิบส่วนจะต้องอยู่รับกรรมต่อในยมโลก ไม่อาจขึ้นไปรับผลบุญจากญาติได้แม้ผู้ใดอธิษฐานไว้ว่า “เมื่อตัวข้านี้มีอันเป็นไปก็ขอให้บุญกุศลที่ข้าฯ ได้ทำไว้มาช่วยให้ข้าได้ในสิ่งที่ต้องการ” แค่นี้ก็จะสำเร็จได้ขอให้ท่านทุกคนจงคิดไว้เสมอว่า ตัวเองมีกรรมเป็นกำเนิดอย่าได้ปองพยาบาทใคร ทำให้ใครเดือดร้อนแล้วตนเองจะมีความสุข
    เมื่อผมได้ลงสู่พิภพยมโลก ผมได้เห็นสิ่งต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นสัตว์ต่าง ๆ ต่างรับผลกรรมของตนอย่างหนักอย่างไม่มีใครช่วยได้ นอกจากบุญที่ตนได้สร้างในผลกรรมที่สัตว์ทั้งหลายได้กระทำขึ้นแล้วนั้น ได้ทำให้สัตว์ทั้งหลายนั้นต้องทุกข์ยากในยมโลกอยู่นานแสนนาน จนกว่าจะหมดกรรมตัวผมนี้มีความประสงค์อยู่ว่า แม้สัตว์โลกอยู่ที่ใดก็ขอให้ได้รู้ได้เห็นเรื่องในธรรมที่เป็นเครื่องรู้ ที่เป็นเครื่องแจ้งแห่งธรรมประเสริฐแห่งพระพุทธองค์แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับมนุษย์อย่างผม
    วิญญาณตนที่ผมได้พบนี้ ได้กระทำบาปไว้หนัก ใจหาญกล้า ไม่เกรงกลัวบาป กลับกระทำการเยี่ยงสัตว์ป่า แม้ความเกรงกลัวแต่ก็มีความกล้าที่จะฆ่าพ่อของตนเองและนำผู้อื่นเข้าร่วมด้วย ดังที่จะได้เล่าต่อไป
    ผมขอเล่าถึงความหลังของชายคนนี้ อดีตชาติของชายคนนี้มีอาชีพเป็นชายชาติทหาร มีความกล้าที่จะออกรบ วัตถุแสดงความกล้านี้เป็นแค่เครื่องหมายแสดงความกล้าของเขา แต่ไม่ได้หมายถึงว่าตัวเขาจะมีความเคารพผู้มีพระคุณหรือไม่ เมื่อชายตนนี้กลับมาจากการรบ เขาก็ได้พบกับแม่เลี้ยงของเขา เขาได้ถามถึงเรื่องสิ่งที่เขาเก็บไว้แต่แม่เลี้ยงของเขาก็ได้ตอบว่า ตนเองไม่รู้ไม่ทราบเรื่องใด และจะต้องมาใส่ความใดให้กับตน ตนไม่ใช่ใครที่จะมาย่ำยีได้ง่าย ๆ วิญญาณตนนี้เกิดความโมโหเขาจึงเข้าบีบคอแม่เลี้ยงและแม่เลี้ยงก็ได้สิ้นใจในมือของเขา เขาตกใจหนีไปได้สักครู่ใหญ่ก็มีเรื่องขึ้น ที่บ้านของเขาทราบเรื่องก็ออกตามหาตัวเขากันใหญ่แต่ก็ไม่พบ เขาอาศัยชายคาวัดเป็นที่หลับอาศัย เขาจนตรอก เขาจึงหนีกลับบ้านและเขาได้พบกันพ่อของเขา พ่อของเขาได้ถามเขาว่า ใครฆ่าแม่เลี้ยง แต่เขาไม่ได้ตอบพ่อไป พ่อของเขาจึงยกมือขึ้นตบหน้าเขาจนเขาเซล้มลงกับพื้น และเขาก็ได้ชกพ่อของเขาที่ท้อง และตกใจหนีพ่อไปอีกครั้งหนึ่ง เขาหนีไปเรื่อย ๆ เขาคิดว่าเขาจะต้องตามหาญาติผู้ใหญ่ที่มีอยู่ให้พบ และให้ญาติผู้ใหญ่ของเขานั้นช่วยเหลือ เมื่อพบกันเขาก็ได้กราบลงที่แทบเท้าของญาติแต่ญาติเขาก็ไม่ยอมรับเขา ญาติของเขาด่าว่าเขาเป็นคนอกตัญญูไม่เหลียวแลพ่อว่าเป็นอยู่อย่างไร เอาแต่เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ ไม่ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งเสียทีและญาติเขาได้เอาเรื่องที่เขาไปหาญาติไปบอกพ่อเขา เขาบอกผมว่าเขาบาปมาก สุดท้ายเขาคิดว่าชีวิตหนึ่งต้องชดใช้อีกชีวิตหนึ่งอีกชีวิตหนึ่ง เขาจึงฆ่าตัวตายด้วยการดื่มยาพิษเข้าไปและตายลงวิญญาณเขาจึงออกจากร่าง และถูกยมทูตที่ประจำตัวนำร่างภูมิวิญญาณมาสู่ยมโลก เขาบอกผมว่าเขาได้เห็นผู้พิพากษากรรม หน้าตาดุมาก ท่านได้ไต่ถามเขาถึงบาปกรรมที่ได้ก่อสร้างขึ้นอย่างรุนแรง และสาปแช่งให้เขาตกนรกอย่างไม่รู้ผุดเกิดด้วยความโมโห เมื่อเห็นบัญชีกรรมของเขาปรากฏบัญชีนั้นปรากกว่าอกตัญญูต่อบุพการีไม่สามารถช่วยเหลือได้ เมื่อกรรมนั้นเป็นกรรมหนัก องค์พญายมจักต้องจัดการไปตามความยุติธรรมอย่างที่สุด ดังนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเกรงกลัวท่านเป็นอย่างมาก เมื่อสัตว์ตนนั้นได้เข้าพบต่อองค์พญายมแล้ว เขาจะต้องหมอบกราบลงแทบเท้าลงบนพื้น และขอถวายบังคมอย่างเป็นแบบการ โดยมีเจ้าหน้าที่ภายนอกเป็นผู้สอนก่อนเข้ามา นี่เป็นความจริงที่เป็นจริงอยู่ในยมโลก ณ ห้องพิพากษากรรม ณ ยมโลก แดน ๙
    เขาเล่าว่า เขาถูกยมทูตจับเขากรอกน้ำเข้าปาก น้ำนั้นเป็นน้ำที่มีสีดำคล้ายมีพิษแต่ไม่มีพิษ ใครก็ตามที่ได้กินเข้าไปจักต้องแสบคันไปทั้งตัว เพราะฤทธิ์แห่งยาที่ผสมอยู่ในนั้น ถ้าหากสัตว์ตนนั้นไม่ได้กระทำกรรมไว้อย่างหนัก เขาจะไม่รู้สึกแสบคันมาก แต่ถ้าหากเขาทำไว้มากเขาจะต้องแสบคันไปจนตาย นี่เป็นกรรมส่วนหนึ่งที่เขาได้รับและต้องรับไปจนกว่าเขาจะสิ้นกรรม
    ผลกรรมต่อไปที่เขาได้รับนั้นแสนสาหัสนัก เขาต้องถูกสายฟ้าผ่าลงร่างทุกวันจนไหม้เกรียม และต้องถูกแม่ธรณีสูบกินเข้าไป จนกว่าร่างนั้นจะแหลกเหลวและแตกละเอียด เมื่อนั้นกายเขาก็จะกลับคืนมาใหม่และต้องถูกชดใช้กรรมเก่าไปจนกว่าเขาจะสิ้นกรรม
    บัญชีกรรมนั้นมีอีกมาก หากเขาไม่สร้างกรรมใดไว้มากเขาก็จะได้รับการปลดปล่อยได้โดยไว นี่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในยมโลก อยู่ในปัจจุบัน
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๑
    นรกขุม ๗ ที่ลงทัณฑ์ ๖ (ส่วนหนึ่งของแดนลงทัณฑ์)
    มนุษย์ทุกตนมีกรรมเป็นวาระ มีกรรมเป็นสัทธรรม มีอยู่ตามกรรมของตนไม่มีที่ใดเป็นที่หลบกรรมพ้น เขาจะต้องชดใช้กรรมนั้น เมื่อเขาต้องรับกรรม “จงอย่าหาว่าสวรรค์ไม่มีตาและนรกไม่แลเห็น
    เมื่อผมไปถึงในนรกผมก็เผชิญกับวิญญาณตนหนึ่ง เขาถูกมัดอยู่กับต้นไม้และกำลังถูกลงทัณฑ์อยู่ เบื้องบนเหนือหัวเขาไปนั้นเป็น “รังสัตว์พิษ” (เป็นวิญญาณหนึ่งที่ถูกใช้กรรมให้มาเกิดในร่างนี้ และให้กัดกินเลือดเนื้อด้วยกันเองจนกว่าจะสิ้นกรรม) เขาถูกสัตว์เล็กเหล่านั้นกัดจนหน้าตาเหวอะหวะ เลือดออกต่างร่างกายไหลไม่หยุดเป็นผลบาปกรรมที่เขาได้กระทำไว้ในอดีตปางก่อน
    ดวงวิญญาณนี้ถูกลงทัณฑ์เพราะว่า มีกรรมผูกพันกับผู้เป็นแม่ เพราะกรรมที่เขาได้ล่วงเกินต่อผู้มีพระคุณและผู้มีพระคุณนั้นได้กล่าวว่า “หากลูกเราเกิดที่ใดก็ขอให้มียมโลกตามไปเกิดทุกชาติ” เพราะกรรมที่เขาทำบาปไว้กับพ่อแม่ของเขา เขาต้องถูกลงทัณฑ์ด้วยการให้วิญญาณนี้กัดกินร่างกายจนเหลวเละชอนไชตามร่างกาย
    สุดท้ายในชีวิตของเขามีกรรมเป็นสุดปลายกรรม (กรรมที่มีปลายกรรมเป็นท้ายสุด) และดำเนินชีวิตในโลกธรรม (ธรรมที่มีอยู่ในยมโลก มีสองประเภทคือ ธรรมที่เป็นเครื่องแจ้งในโลก ธรรมประเภทที่สอง เป็นธรรมที่มีอยู่ในโลกุตรธรรม เป็นธรรมที่มีในธรรมญาณ) นั่นเป็นหนทางสุดท้ายแห่งชีวิต
    หลังจากวิญญาณถูกชอนไชตามร่างกาย ผมก็ได้สอบถามถึงกรรมที่เขาได้กระทำ เขาตอบว่าเมื่อก่อนเขาเป็นคนใจหาญริอ่านคบเพื่อนที่เป็นจิ๊กโก๋ และเป็นพวกคิดหาทางโกงกินเขาเสียเป็นส่วนมาก
    เขายอมรับผิด เขาผิดต่อพ่อเขามากในอดีตเขาทำกับพ่อแม่เขาไว้มาก เขาทำให้พ่อแม่ของเขาเดือดร้อน แต่พ่อแม่ของเขาก็ไม่เคยกล่าวว่าอะไรเขา จนเขาทำตนเหลวเละอย่างไม่มีทางช่วยได้ เขาไม่กลับบ้านหลายคืนพ่อแม่ของเขาก็ออกตามหา เมื่อเขากลับบ้านมา เขาก็ได้ใช้วาจากล่าวรุนแรงกับพ่อแม่ของเขา และด่าว่าเขาว่า “เสือก ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกู” คำ ๆ นี้ทำให้เขาต้องตกนรกอย่างหนักไม่อาจช่วยได้
    ผลกรรมที่สัตว์ตนนี้ได้รับนั้น เป็นกรรมที่เขาได้สร้างไว้กับพ่อแม่ของเขา บุญคุณที่พ่อแม่ของเขาได้สั่งสอนเขามานั้น เขากลับไม่สำนึกกลับกระทำการเยี่ยงสัตว์ด่าว่าพ่อแม่ผู้มีพระคุณอย่างรุนแรง ทำให้เขานั้นต้องรับบาปกรรมอย่างทรมานในที่แห่งนี้
    สุดท้ายปลายทางชีวิตเขาในโลกมนุษย์ เขาต้องจบสิ้นด้วยความตายเพราะสาเหตุที่เขาได้พาเพื่อนบุกเข้าปล้นบ้านผู้มีอันจะกินท่านหนึ่ง และถูกเขาใช้อาวุธทำร้ายร่างกายจนตาย และต้องถูกยมทูตที่อยู่รักษา นำตัวมาสู่แดนพิภพนี้และถูกพิพากษากรรมให้รับผลแห่งกรรมที่เขาได้สร้างไว้ในสภาพนี้
    “เมื่อเธอได้สารภาพกรรมนี้ออกมาอย่างแจ่มแจ้ง เราก็จะช่วยเธอให้พ้นกรรมนี้ไป แต่เธอจะต้องสัญญากับเราว่า เธอจะไม่กระทำกรรมตามนี้อีกเธอจะให้สัญญากับเราได้ไม๊”
    เขาตอบรับสัญญาผม และผมก็ได้นำเขาสาบานและให้สัตย์ต่อสวรรค์ว่าจะไม่ทำกรรมเช่นนี้อีก และหากทำก็จะต้องมีอันเป็นตามที่ได้กล่าวมาทุกอย่าง
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๒
    นรกขุม ๗ ที่ลงทัณฑ์ ๖
    หลังจากที่ผมได้ปฏิบัติธรรมมานาน ผมเริ่มยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนนี้ ต้องมีอกุศลกรรมเป็นของตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีใครหลบหนีหลีกเลี่ยงไปได้ ใครทำใครก่อเขาคนนั้นย่อมรับกรรมนั้นด้วยตนเองทั้งสิ้น
    เมื่อบังเกิดกรรมดีขึ้นในใจของบุคคลนั้น กุศลกรรมที่ทำไว้มีผลให้ตนเองและครอบครัวเป็นสุข สุดท้ายคนทุกคนก็จะมีความสุข และเป็นความสุขที่เป็นบุญกุศลส่วนตัว มีเป็นบุคคลจะมีเฉพาะในตนเท่านั้น ขอให้ท่านทั้งหลายอย่าละเลยการปฏิบัติธรรม เพราะธรรมนั้นจะช่วยให้พ้นทุกข์จากวัฏสงสารนี้ได้
    ผมลงสู่ยมโลกอีกครั้ง ผมได้มองเห็นวิญญาณตนหนึ่งกำลังถูกลงทัณฑ์อยู่เบื้องหน้า ผมเพ่งมองดูก็เห็นวิญญาณตนนี้มีปากไม่ครบส่วน ครึ่งหนึ่งของปากถูกกินไป
    สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ผมได้สอบถามจากปากของยมทูต ยมทูตเล่าให้ผมฟังว่าชายคนนี้ได้ก่อกรรมไว้เมื่อเป็นมนุษย์ เพราะกรรมที่เขาด่าว่าพ่อแม่ผลกรรมจึงตามตกกันและเขาถูกเลาะฟันออกจากปากจนหมดสิ้น ให้เหลือแต่ปากเพื่อให้พูดไม่ได้อีก และต้องถูกบดปากด้วยหินไฟ จนกว่ากายที่อยู่นั้นจะสลายและต้องถูกนำตัวมาลงทัณฑ์อีกไปจนกว่าเขาจะสิ้นกรรม เบื้องหน้าของวิญญาณตนนี้มี “แท่งไฟ” เรียงรายอยู่หลายอันและมีกรรมที่ตองใช้อยู่หลายชนิด เขาต้องถูกนำตัวไปสับคอเพราะคอนั้นเป็นอวัยวะที่ต่อกับปากจึงต้องถูกฟันคอเพื่อดับปาก ต่อจากนั้นเขาจะต้องถูกนำตัวไปดื่มกินน้ำขี้ น้ำเยียวของตนที่ถ่ายทิ้งไว้ และต้องถูกแมลงพิษมีลักษณะคล้าย ๆ มด กัดกินที่ปากจนหมดและเหลือแต่ส่วนที่งอกเป็นปากอยู่ทำให้เป็นผีปากโหว่อยู่ ด้วยผลกรรมที่เขาได้ทำไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ทำให้เขาต้องรับความทุกข์ทรมาน เพราะผลแห่งกรรมที่ตนได้กระทำ
    “กรรมอันหนึ่งอันใด ที่ตนเป็นผู้กระทำแล้วจบสิ้นด้วยความสุขแล้ว ผลกรรมนั้นจะสนองด้วยความสุขทั้งสิ้น อีกกรรมใดหากกระทำด้วยความทุกข์และสุขเป็นที่ตั้งก็จะรับผลแห่งกรรมนั้น ตามกรรมที่ตนได้กระทำไว้”
    สุดท้าย ผมขอจารึกธรรมไว้บนแผ่นกระดาษแผ่นนี้ไว้เป็นตัวหนังสือว่า “เมื่อธรรมได้บังเกิดมวลมนุษย์จะสงบสุข”
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพุทธที่ ๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๓
    นรกขุม ๒ แดนลงทัณฑ์ ๓ (ผียุแหย่)
    เมื่อผมไปสู่นรก ผมพบเห็นชีวิตที่แปรเปลี่ยนจากร่างกายเป็นดวงวิญญาณรอคอยการลงทัณฑ์อยู่ ผมมีความรู้สึกทุกข์ใจมากไม่ว่าจะเป็นใครที่มาเห็นสภาพเช่นนี้คงต้องมีความรู้สึกที่เหมือนกันนี้
    ในนรก การลงทัณฑ์มีความเป็นธรรม ไม่มีความลำเอียงเกิดขึ้นในการลงทัณฑ์ หากใครผู้นั้นกระทำผิดจักต้องรับบาปกรรมที่เกิดขึ้นในยมภูมิอย่างหมดสิ้นจนกว่าเขาจะสิ้นกรรมไปจากที่แห่งนี้ และเขาจะต้องรับสภาพกรรมตามบาปกรรมที่เขาได้สร้างไว้ไปจนกว่าเขาจะหมดไปจากกรรมนั้น ใครทำผิดว่ากันไปตามผิดถ้าใครผู้ใดมีบุญพอที่จะช่วยได้ สวรรค์ก็จะปลดปล่อยให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ปุถุชน แต่ถ้ามีกรรมเหลือล้น เขาต้องรับกรรมนั้นในนรกเสียก่อนเขาจึงจะมีสิทธิ์พ้นจากขุมนรกนี้ไปได้ ขอให้จำไว้ “ถ้าใครกระทำกรรมผิด ก็จงปล่อยเขาไปสิ้นตามยถากรรมของเขาหากมีการกระทำความดีขึ้นจงร่วมกันกระทำความดีขึ้น จงขยันทำบุญให้มากเพียงพอ เมื่อจบชีวิตแล้วจะได้ไปเสวยสุขในที่ ๆ เรียกว่า สรวงสวรรค์”
    กฏแห่งกรรมมีจริง ทุกอย่างมีล้วนดำเนินตามครรลองธรรม หากใครดำเนินผิดทางนี้เขาก็จะได้รับอบายทุกข์เป็นทางปลายชีพแห่งตน
    หากใครคนใดสร้างบุญไว้เพียงพอเท่าใด จงจำไว้เถิดว่าบุญนั้นจะเป็นบุญสะสมให้กับท่านในสัมปรายภูมิที่ประเสริฐ หากบุญนั้นมีน้อยท่านก็จะอยู่ได้ไม่นานนี่เป็นความจริงที่อยู่ขึ้นอย่างธรรมในแดนภูมิอันสงบ
    เมื่อผมลงสู่ยมโลกแดนนี้ ที่ ๆ ซึ่งมีแต่วิญญาณถูกลงทัณฑ์และชดใช้บาปกรรมเมื่อผมไปถึงสถานที่แห่งนี้ ผมได้พบกับวิญญาณตนหนึ่งได้รับการชดใช้กรรมอยู่ในผลกรรมที่เขาได้สร้าง เนื่องจากการยุแหย่ผู้อื่นให้เกิดความแตกแยกกัน ด้วยกรรมที่เกิดขึ้นระหว่างกันนั้นทำให้เขาต้องมาชดใช้บาปกรรมอยู่ในเวลานี้
    สัตว์ตนนี้จะต้องถูกอมดินไฟ (ถ่านลุกโชน) ทุกวัน และต้องถูกมีดผ่าปากทุกวันด้วยกรรมที่เขาใช้ปากนั้นทำร้ายผู้อื่นด้วยวาจา เรื่องของผู้อื่นที่มีกรรมกลับเป็นเรื่องสนุกของเขา กรรมนี้เป็นกรรมที่เขาได้สร้าง ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้เขาจะต้องรับกรรมของเขาไปจนกว่าเขาจะสิ้นกรรมในกรรมนี้
    “มนุษย์ผู้ใดที่กระทำตนเป็นผู้รู้ผู้เห็นในเรื่องของคนอื่น หากมีกรรมเป็นที่ตั้งขอจงอย่ากระทำกิจในสิ่งที่กล่าว เพราะสัตว์ที่เกิดมาต่างมีกรรมเป็นของ ๆ ตน ไม่มีใครอยู่เหนือกรรมขอจงอย่ามีความประมาทเกิดขึ้นกับตน”
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๔
    นรกขุม ๔ ล็อก ๕ (ล๊อกหนึ่งของนรกขุม ๔) (ผีพนัน)
    เมื่อผมลงสู่นรก ผมเดินตามเส้นทางไปเรื่อย ๆ ผมเห็นคนหลายคนกำลังเข้าแถวอยู่เบื้องหน้านั้นมีเครื่องลงทัณฑ์ชนิดหนึ่งตั้งอยู่เบื้องหน้า มีเสียงโอดโอยดังขึ้นพร้อมกับเสียงดังของวัตถุหล่นลงมาอย่างแรง
    ผมเดินเข้าไปใกล้ และอธิษฐานขอให้วิญญาณที่ร่วมชาติกับผมมาก่อนมารับการช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้ มีวิญญาณตนหนึ่งก้าวออกมาด้วยฤทธิ์ฌานที่ผมอธิษฐาน ผมทำให้เขาจำผมได้ว่าในชาติหนึ่งเขาเคยเป็นอะไรกับผม และเป็นฐานะใด ทำให้เขาจำผมได้ว่าเป็นอย่างไร
    เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็เอ่ยออกมาเป็นคำพูดที่เขากล่าวกับผมโดยเฉพาะ ผมสอบถามเขาถึงบาปกรรมที่เขาได้สร้างไว้เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ ว่าได้กระทำกรรมใดไว้จึงต้องรับผลแห่งบาปกรรมอยู่ในที่นี้ และเขาก็ได้ตอบกับผมเป็นภาษาคำพูดในชาติที่เขาเคยเกิดมาอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน
    ผมได้ฟังคำพูดของเขาไปจนจบ ได้ความว่าเขาได้อาศัยความเป็นมนุษย์โดยไม่ได้สร้าง
    กรรมดีให้เกิดความเกิดก่อขึ้นกับเขา แต่โดยกรรมนั้นทำให้เขาต้องใช้บาปกรรมด้วยกรรมที่เขาได้กระทำไว้ ฟังเขาเล่าต่อไปเถิด
    เขาเล่าว่า เขาเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี (ย้อนไปชาติหลังจากนี้เขาเคยเกิดในสมัยหนึ่ง เป็นสมัยเก่าที่รุ่งเรืองมากด้วยศาสนธรรมเรืองรุ่งด้วยคำสอนแห่งพระพุทธศาสนา) เขามีอาชีพจับปลา ครั้งหนึ่งเขาได้ใช้มือของเขาในการจับถือสิ่งที่เรียกว่าวัตถุพนัน ในเมืองมนุษย์ไม่ว่าสิ่งใดที่เกี่ยวกับการพนัน จะเรียกว่าวัตถุพนันในยมโลกทั้งสิ้น ไม่ว่าโปปั่น กำถั่วหรือแม้แต่ไพ่ เขาเล่นอย่างหลงงมงายและใช้ทรัพย์สินที่อยู่อย่างไม่อดออม ทำให้หมดสิ้นเนื้อตัว และยังพยายามหาหนี้สินเพิ่มขึ้นเพื่อมาต่อทุนให้กับการพนันต่อ เพื่อว่าจะได้ทุนคืนตัวแต่กลับเป็นเช่นนั้นในบางครั้ง แต่ก็ไม่ทุกครั้งที่เขาได้กินเจ้ามือ เมื่อเขาตายเขาต้องถูกยมทูตปล่อยหินเพชรแหลมคมคล้ายมีดหล่นลงมาทับมือทั้งสองข้างจนเหลวแหลกคล้ายถูกมีดสับ และต้องถูกเอามือไปแช่ในน้ำฟื้นคืนเพื่อให้กระดูกนั้นกลับคืนมาดังเดิม
    ในผลกรรมนั้น เพราะเขาคดโกงเพื่อนฝูงในการเล่นการพนัน ทำให้เขาต้องติดค้างหนี้กรรมระหว่างกัน
    ด้วยกรรมนั้น ทำให้เขาต้องรับสภาพกรรมอย่างหนักอยู่ในเวลานี้ เขาด้วยความเจ็บช้ำใจที่เสียรู้เขาให้เขาหลอก เมื่อเสียรู้เขาจึงเจ็บช้ำใจทำร้ายตัวเองจนตายด้วยมีดแหลมคมที่เขาถือ
    ผลกรรมที่เขาได้สร้างขึ้นในกรรมเจตนาแห่งการปลดปล่อยตนเองออกจากกรรม ด้วยกุศลกรรมที่เล่าไปด้วยความจริงนั้น สัตว์ตนนี้จักพ้นกรรมแห่งนี้ไปด้วยกรรมนี้
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๕
    นรกขุม ๕ ห้องลงทัณฑ์ ๓ (ผีอกตัญญู)
    บทเขียนบทนี้ผมเขียนเพื่อเตือนสติตนเองว่า อย่าทำบาปกับผู้มีพระคุณแม่นี้มีพระคุณสูงสุด หากลูกคนใดทำให้แม่ของตนร้องไห้เขาผู้นั้นจะต้องรับบาปจากกรรมนั้นอย่างมหันต์ แม้ใครก็ตามที่กระทำกรรมเช่นนี้เมื่อคิดได้ว่าตัวเองผิด ก็จงเข้าไปกราบขอโทษแม่ก็จะพ้นกรรมไป ผมขอฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจใครหลายคนที่คิดกระทำ หรือจะกระทำขอให้จำไว้ให้มั่นและระลึกถึงเตือนตนอยู่เสมอ
    คำว่า “แม่” เป็นความหมายลึกซึ้งแม้ผมเองก็ต้องมีแม่ แม่ผู้ให้กำเนิดเกิดผมมา ผมไม่รู้ว่าใครบ้างที่ช่วยให้ผมเติบใหญ่มา แต่ผมรู้ว่ามีแม่ของผมที่หนึ่งในการช่วยเหลือผมให้อยู่รอดมาได้ ผมยอมรับว่าตนเองเคยคิดว่าตนเองนี้เกิดมาได้ก็เพราะอุบัติกรรมแห่งกรรมที่ได้สร้างร่วมกันมา ผมก็เช่นกัน ที่ผมได้เกิดมาในท้องของแม่ก็เพราะผมมีกรรมร่วมกันมาก่อนในอดีตชาติ ผมจึงได้มาเกิดร่วมกันกับแม่ของผม
    จงอย่าคิดว่ากรรมเก่านั้นไม่มีจริง มีจริง…และเป็นอยู่จริงตามกฎหมายแห่งกาลไม่ว่าจะอยู่ในช่วงใด กรรมนั้นให้ผลได้เสมอและขอยกเรื่องนี้ไว้เตือนตนและเป็นข้อสำนึกแก่บุคคลอื่นได้คิดหรืออ่านเรื่องนี้
    เมื่อผมลงสู่นรกในครั้งนี้ ผมพบกับวิญญาณหลายตนต่างรับกรรมของตนอยู่ มีสัตว์ตนหนึ่งกระทำกรรมตามที่ผมได้ขึ้นหัวเรื่องไว้ ผมจึงได้สอบถามกรรมจากเขาถึงกรรมเก่าที่เขาได้ทำ
    วิญญาณตนหนึ่งที่ผมพบนี้มีสภาพร่างกาย มีร่าง มีแขน มีขา แต่คอนั้นผิดปกติจากมนุษย์อื่น คือมีหัวงอกอยู่ที่ต้นคอ โดยที่ไม่มีลำคองอกตรงขึ้นไป เพราะกรรมที่ทำให้แม่ของตนนั้นเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับลำดับด้วยตนนั้นเป็นผู้กระทำ
    ผีอีกตัวหนึ่ง ชื่อ “ผีอาจม” ลักษณะของผีตนนี้มีอวัยวะเพศด้วยกันถึงสามหัว แต่ไม่สามารถขับถ่ายสิ่งของได้เหมือนปกติชนเช่นคนอื่น คือจะขับถ่ายของเสียออกทางปลายอวัยวะเพศพร้อมกันทีเดียวถึงสามอวัยวะเพศและแต่ละอวัยวะเพศนั้นจะไม่เท่ากัน มีสั้นบ้าง ยาวบ้าง คละต่ำกันไป เพราะกรรมที่เขาทำให้แม่ของตนเกิดความทุกข์ รับความระกำใจอยู่เสมอนี่เป็นผลกรรมที่สัตว์พวกนี้ได้รับ
    วิญญาณตนที่สามเป็นวิญญาณบาปที่ทำให้แม่ของตนระทมใจทุกข์ตรอมใจ เรื่องของวิญญาณตนนี้เกิดจาก เขาได้ใช้คำพูดคำจาของเขานั้นกระแทกกระทั้นน้ำใจแม่ต้องหมองคล้ำด้วยความเจ็บปวด หัวใจแม่นั้นปวดร้าวเมื่อได้ยินเสียงลูกด่าทอเช่นนั้น ผลแห่งกรรมที่เขาได้รับในชาติภพนี้ส่งผลให้เขาต้องสิ้นกรรมในชาติภพแห่งความเป็นมนุษย์ แล้วย้อนสู่ผลกรรมรับกรรมที่เขาได้ก่อขึ้น ต้องกลายเป็นเปรตหูหนวกไม่สามารถได้ยินอะไร กรรมนั้นทำให้เขาต้องมีหูสั้นเล็กด้วยความที่ทำเป็นคนหูทวนลม เมื่อผู้มีพระคุณว่ากล่าวสั่งสอนกรรมนั้นทำให้สัตว์ตนนี้ต้องระกำลำบากอย่างแสนสาหัสทุกตน และความอุบาทว์นัก เมื่อเขาได้กลายความเป็นมนุษย์เยี่ยงสัตว์ เดรัจฉานเขากล้าฆ่าได้แม้กระทั่งแม่ของตนเอง ด้วยความละโมบของเขาทำให้เป็นผลกรรมที่คิดทำชั่วอย่างมหันต์ โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมที่จะตายตกตามกัน เมื่อนั้นสัตว์ตนนี้ได้รับผลแห่งกรรมนี้ตอบสนองแล้ว แต่โดยในข้อที่ได้กล่าวนี้กรรมที่สัตว์ตนนี้ได้รับนั้น ไม่มีให้ผลปรากฏในชาติภพนี้ แต่จะให้ผลปรากฏเมื่อเขาสิ้นกรรมจากชาติภพนี้ไปสามชาติ ด้วยกรรมนั้นจักส่งผลให้เขาไม่รู้จักการเกิดดับสิ้นอยู่ในชาติภพนี้ร้อยวันแสนกัปกัลป์ แม้พระพุทธเจ้าจะเสด็จลงมาตรัสผ่านไปแล้วสามองค์ก็ไม่อาจจะรอดหลุดจากบ่วงกรรมนั้นไปได้
    ผลกรรมที่สัตว์ตนนี้ได้รับนั้นได้ถูกระบุไว้ในบัญชีกรรมอย่างจบสิ้น ขอยกส่วนหนึ่งขึ้นมากล่าว
    1. หากชายผู้นี้ได้เกิดเป็นมนุษย์ เขาก็ต้องสิ้นใจในน้ำสาธร
    2. หากชายผู้นี้ได้ไปเกิดเป็นคนก็ต้องมีเมียสองคน และเมียคนหนึ่งของเขาต้องสิ้นใจตายและเมียอีกคนหนึ่งหนีไปมีชู้ ด้วยผลกรรมที่เขาได้ก่อขึ้นกับมารดาของเขาและย้อนจากนี้ไปสามชาติ เขาได้ก่อกรรมไว้กับหญิงคนหนึ่ง เขาได้ใช้วาจาหลอกล่อหญิงที่เคยร่วมบุญด้วยกันมานั้นให้ตายใจ และหลอกข่มขืนเธอจนสิ้นความเป็นสาวและทอดทิ้งไป เมื่อสิ้นชาตินั้นเขาได้ไปเสวยสุขในภพมนุษย์ ด้วยผลบุญที่เขาได้สร้างไว้บ้างแต่เมื่อกลับชาติมาอย่างจบสิ้นแล้ว และอุบัติกรรมนั้นกำหนดให้สนอง ผลกรรมนั้นจะสนองเขาให้รับผลกรรมของเขาในสัมปรายภพ และหลุดขึ้นมาเป็นคนแต่มีกรรมดังกล่าวด้วยผลกรรมที่เขาได้ทำไว้
    3. วิญญาณตนนี้ หลังจากได้รับกรรมดังกล่าวมาข้างต้นในกรรมส่วนหนึ่ง และแล้วเขาจะต้องเกิดเป็นมนุษย์เพื่อใช้กรรมและสุดท้ายของชีวิตเขา เขาจะต้องดื่มยาพิษเพื่อแก้ปัญหาชีวิตที่คิดไม่ตก ดังนั้นเมื่อชีวิตสิ้นชีพเขาจะต้องกลับสู่ยมโลก และรับผลกรรมของเขาที่เหลือค้างไว้อยู่ ด้วยการรับผลแห่งกรรมสนองนั้นในที่ ๆ มนุษย์เรียกว่า “ขุมนรกขุมแห่งความตาย” และจะต้องชดใช้บาปกรรมของเขาดังนี้
    4. เขาต้องกลืนกินก้อนเหล็กเข้าไปในลำคออยู่ชั่วชีพในกัลป์นั้น
    5. เขาต้องดื่มกินน้ำเหล้าผสมพิษ ด้วยกรรมที่เขาดื่มกินเหล้าแล้วเมา ตบตีแม่และต้องกลืนกินถ่านไฟหินเข้าไปในท้อง เพื่อกัดกระเพาะลำไส้ให้ขาด
    6. เมื่อวิญญาณนี้รับกรรมในนรก วิญญาณตนนี้ต้องถูกชดใช้กรรมให้เป็นวิญญาณไร้ญาติ และถูกกักเขตให้อยู่ในเขตแดนลงทัณฑ์ที่ ๒ ณ แดนลงกรรม ๑๑ และเขาต้องถูกหินไฟบดขยี้หัวใจ และต้องถูกกลืนกินหัวใจหินเข้าไปในท้องและสลายลำไส้ทุกอย่างเสีย และต้องถูกนำตัวไปแช่ในบ่อน้ำพิษเพื่อให้พิษนั้นเข้าสู่ร่างและกัดกินร่างให้เหลวเละ
    7. ด้วยผลกรรมที่เขาทรมานมารดาให้เจ็บปวดกาย เขาต้องกินลูกสมอพิษเข้าไปในท้องและกลั่นเลือดออกมาทางปาก เพื่อล้างเลือดอกตัญญูออกจากร่างให้หมดเหมือนกับขับพิษความชั่วของใจออกจากร่าง
    นี่เป็นกรรมที่สัตว์ตนนี้จะต้องได้รับและชดใช้กรรมนั้น
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันศุกร์ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๖
    นรกขุม ๗ แดนลงทัณฑ์ ๖ (คดีศาสกรรม – มารศาสนา)
    ผมลงสู่นรกในครั้งนี้ ผมได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมไม่เคยเห็น ไม่ว่าจะเป็นการลงสภาพทัณฑ์ที่ดูแล้วแสนสาหัสและทรมานอย่างยิ่ง นี่เป็นกรรมนั้น สัตว์เหล่านั้นได้กระทำทั้งสิ้น เขาจะต้องรับกรรมนั้นไปจนกว่าเขาจะสิ้นกรรมจากชาติภูมินี้
    ผมท่องเที่ยวไปเรื่อย พบกับสัตว์ตนหนึ่งได้แวะเข้าถามไถ่ถึงกรรมที่เขาได้กระทำ พบว่าเขาเป็นผู้ถ่ายทอดสอนกรรมฐานเหมือนกับผม
    ทุกอย่างที่พบในครั้งนี้ย่อมเป็นที่ประจักษ์ว่า ใครผู้ใดที่คิดปฏิบัติธรรมนอกเหนือไปจากที่องค์สมณโคดมทรงตรัสแล้ว เขาผู้นั้นจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นตอบสนองไปจนกว่ากรรมนั้นจะหมดสิ้นจากกรรมภาพ
    ผมได้ถามเขาว่า “เธอได้ทำกรรมอะไรไว้หรือ จึงต้องมีสภาพกรรมอยู่เช่นนี้”
    เขาได้ตอบผมว่า เขาเป็นอาจารย์สอนกรรมฐานในโลกมนุษย์ ปฏิบัติธรรมในสายแนว…เขาได้อวดอ้างตัววิเศษว่าเป็นพระพุทธเจ้าลงมาตรัสและอยู่ที่ตัวเขาแล้ว เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้น
    “สัตว์ตนใดที่กระทำตนให้รู้แจ้งซึ่งธรรมะที่องค์สมเด็จพุทโธได้ตรัสไว้ เขาจะหลุดพ้นอยู่ในชั้นกรรมใดของความเป็นมนุษย์ หรือแม้แต่เขายังเป็นสัตว์อยู่ในชั้นพรหมเขาก็จะได้รับพิจารณาตรวจสอบว่า เขาอยู่ในชั้นภูมิใดและได้ธรรมชั้นใด เขาจะต้องรับกรรมยอมแห่งกรรมนั้นด้วยกรรมที่เขาปฏิบัติได้”
    ในครั้งนี้เราได้ตรัสไว้
    บรมครูแห่งพุทธสัมปรายภพ
    เขาได้เล่าให้ผมฟังว่า เขาได้ปฏิบัติอยู่ในสายธรรมแนวหนึ่ง… เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานให้แก่มนุษย์ชนและสอนคนให้รู้ (สิ่งประจักษ์ธรรมแนวนั้นกันมาก) ด้วยดวงจิตแห่งความหมองคล้ำและอกุศลเข้าครอบงำจิตใจทำให้เกิดความมืดมัวในดวงจิตนั้น ทำให้เขามิรู้แจ้งในธรรมโดยประเสริฐ และเข้าใจผิดในหลักธรรมบางข้อทั้งยังไม่แจ้งในธรรมในตน ทำให้เกิดความหลงมัวในหลักธรรมที่ปฏิบัติได้ว่าเป็นหลักธรรมที่รู้แจ้งซึ่งกิเลสโดยแท้จริง… ผู้ปฏิบัติธรรมนั้นย่อมรู้ธรรมได้ในตน
    ทุกคนที่รู้ในหลักธรรมจงแจ้งในธรรม ไม่ว่าในธรรมะสายใดนั้นย่อมมีองค์ทางเป็นองค์เดินไปสู่ทางมรรคผล ใครก็ตามที่ปฏิบัติสำเร็จสมณธรรมนั้น ย่อมรู้แจ้งในธรรมว่าสายธรรมนั้นเป็นหนทางพ้นทุกข์โดยแท้จริง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมล้วนมีอยู่ประจักษ์อยู่ในผู้ถึงพร้อมแห่งพระธรรมกาย
    อันผู้ใดได้ถึงพร้อมแห่งพระธรรมกาย อันเกิดก่อด้วยรูปองค์แห่งญาณธรรมนั้น ผู้นั้นย่อมปฏิบัติได้ รู้ได้ด้วยตนเอง
    อนัตตาธรรม สมณธรรม ขอกล่าวไว้เพียงนี้ นี่เป็นธรรมะที่องค์สมเด็จพระพุทธโคดมได้ทรงตรัสเอาไว้เมื่อครั้งเสด็จมาตรัสสู่มนุษย์โลก
    อนัตตาธรรมนั้นเกิดก่อด้วยรูปญาณแห่งสมณปฏิบัติ ผู้ใดได้รู้หนทางอันเจิดแจ้งในธรรม ธรรมะปฏิบัตินั้นย่อมได้ในธรรมนั้นทุกคน ใครก็ตามที่ปฏิบัติได้ในสายญาณแห่งพระธรรมกายรุจโรจน์ (เป็นชื่อของพระธรรมกายองค์หนึ่ง ธรรมะกายอันเจิดแจ้งด้วยแสงธรรม) บุคคลดังกล่าวนั้นย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความดับสิ้นซึ่งกิเลส
    สมณธรรมอยู่ในกายตน ใครได้รู้แจ้งในธรรมนั้นผู้นั้นย่อมได้ชื่อว่า “พุทธบุตร” (ซึ่งแปลว่า บุตรแห่งผู้รู้แจ้งซึ่งกิเลส)
    เมื่อสัตว์นี้ได้รับโทษกรรม ดังนั้นกรรมที่เขาได้ก่อขึ้นในเมืองมนุษย์ ก็ได้มาชดใช้กรรมกันในนรกนี้
    วิญญาณตนนี้ได้เข้าสู่ที่ลงทัณฑ์นี้ และถูกยมทูตจับตัวเข้าไปในห้องลงทัณฑ์ ห้องนี้มีเปลวเพลิงลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา ใครก็ตามที่ผ่านเข้าไปในกองไฟนี้ ไฟนั้นจะเผาพลาญให้สิ้น หากมีผู้รู้แจ้งเสด็จมาผู้นั้นย่อมแผ่บารมีถึงสัตว์ทั้งหลายในชาติภพนี้ด้วยกรรมนั้นกองไฟนี้ก็จะดับลง อันหมายถึง ดับสิ้นไปชั่วกาลนาน
    วิญญาณรูปนี้ถูกโยนเข้าไปในกองไฟ และถูกจับขึ้นสูงเพื่อให้ตกลงมาบนกองไฟ และต้องถูกสัตว์ดุร้ายในกองไฟนั้น (แมลงป่องไฟพิษ – เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในโลกแห่งนี้มันจะคอยกัดกินผู้ที่เข้าไปในกองเพลิงนี้ และตายลงพร้อมกัน ด้วยกรรมที่ส่งผลให้มาเกิดเป็นรูปสัตว์นี้เพราะเขาได้ก่อกรรมไว้กับศาสนาเช่นกัน)
    สถานที่ ๆ ก่อขึ้นด้วยเหล็กสามสิบสองชั้น และก่อรูปด้วยหินเพชรไม่อาจหลบหนี้ไปได้ใครก็ตามที่มาอยู่ที่นี้ ต้องมารับกรรมในสภาพนี้อย่างที่ใครมาเห็นแล้วต้องทุกข์ตรมไปด้วยกรรมนั้นอย่างยิ่ง
    “เมื่อมีกรรมใจเป็นผู้ก่อ มนุษยกรรมนั้นต้องมีก่อด้วยเจตนา” สาธุจงจำไว้ ท่านมนุษย์ชนทั้งหลายขอเจตนากรรมนี้ จงเป็นสิ่งสำเร็จให้ท่านทั้งหลายมีความรู้สึกต่อกรรมอันดีงามและความรู้สึกอันดีต่อตนด้วย
    “กรรมใดนั้นใครเป็นผู้สร้าง เขาเหล่านั้นต้องเป็นผู้รับกรรมนั้นด้วยตัวเอง”

    “มนุษย์ทั้งหลายที่ได้เป็นมนุษย์อยู่นี้จะต้องมีกรรมดีไว้เป็นฐานแห่งบุญ
    แม้มีชีวิตอยู่เขาจะได้เป็นผู้มีกรรมน้อยแต่ก็พึงอย่าประมาทว่า
    ตัวเองสิ้นสุดกรรมแล้ว เพราะกรรมนั้นไม่ให้ผลในคราวเดียว”​
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๗
    นรกขุม ๔ ที่ลงทัณฑ์ ๙ (คดีข่มขืน)
    ทุกสิ่งทุกอย่างในนรกกรรม (กรรมที่ใช้กันในนรก) นั้น มีอยู่มากมายหลายชนิด ขอกล่าวไว้เพียงเป็นสังเขปเพื่อให้มนุษย์ได้รู้แจ้งในกรรมสภาพที่ได้รับหากกระทำกรรมนั้นก็จงได้ดูเป็นตัวอย่างว่าก่อกรรมนั้นอย่างไร และจะต้องมีสภาพกรรมในยมโลกอย่างไรบ้าง
    ใครก็ตามที่สิ้นกรรมจากโลกนี้และอยู่ในโลกหน้า เขาจะมีกรรมอยางไรนี่เป็นเรื่องความเป็นมาในชาติหน้า ขอจงเตรียมตัวเตรียมตนไว้บ้าง อย่าให้สิ้นชาติภูมิแล้วค่อยมาแก้กันทีหลัง
    ผมลงสู่วิญญาณโลกภูมิทัณฑ์ในหนนี้ มีเรื่องมากล่าวเตือนแก่ผู้มีจิตคิดจะข่มทำลายชีพหญิงทั้งหลายว่า ใครก็ตามที่คิดข่มทำลายชีพหญิงด้วยการใดก็ดี ด้วยรูปกรรมใด เขาจะต้องหมดสภาพจากความเป็นมนุษย์ในชาติภูมินี้ แล้วต้องกลับสู่ย้อนชาติเข้าสู่การใช้กรรมในสภาพกรรมที่ตนได้ก่ออย่างแน่นอน (ใครทำใครรับ ใครก่อใครรู้…จงจำไว้)
    วิญญาณตนหนึ่งตกอยู่ในสภาพกรรมที่เขากระทำต่อเมียของเขาเอง ด้วยว่าเขาอาศัยความเป็นชายในกายเขานั้น ข่มขืนภรรยาก่อนอยู่ร่วมกัน นั้นเป็นเรื่องโดยแท้ที่มักจะปฏิบัติกันในสมัยนี้ จึงขอยกเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สอนใจไว้บ้าง
    สัตว์ตนนี้ได้ก่อกรรมไว้กับภรรยาของตน เขาได้ข่มขืนภรรยาของตนก่อนที่จะได้เสียกันเป็นผัวเมียกันตามกฎแห่งความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ เขาได้แอบได้เสียกันและผิดชอบด้วยกรรมระหว่างกรรม กรรมนั้นจะตัดสินเมื่อเขามาสู่ยมภูมิแห่งนี้
    วิญญาณในเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ได้เกิดขึ้นอยู่จริงและมีอยู่จริง ตามบทแห่งกรรมเขาได้เกิดเป็นผีชื่อว่า “ผีอุบาทว์” มีอวัยวะเพศใหญ่ยาวผิดปกติด้วยกรรมที่เขาได้ก่อขึ้น
    เมื่อผมไปสู่นรกนี้ ได้พบกับวิญญาณตนหนึ่งและเขาได้เล่าถึงกรรมที่เขาได้ทำให้ฟังว่า เขาเป็นคนมีฐานะยากจนในเมืองมนุษย์และประกอบอาชีพทำไร่ทำนาตามประสา แต่ด้วยความจนและความรักในการหาคู่ครองนั้นทำให้เขาหลงผิดคิดกระทำต่อเมียของเขาด้วยการลักลอบได้เสียระหว่างกัน ทำให้เขาทั้งสองต้องพัวพันระหว่างกรรมกันต่อไปอีก
    สัตว์ตนนี้ต้องรับกรรมในสภาพกรรมที่ทุเรศพอควร
    เขาต้องการถูกยมทูตจับอวัยวะเพศเข้ากับเครื่องสับ… และบิดเกลียวอวัยวะเพศให้เป็นมัด และหมุนเข้ากับเครื่องนั้นภายในเครื่องนั้นมีมีดแหลมคมปักอยู่หลายด้าม เมื่ออวัยวะถูกเสียบเข้าไปในเครื่องนั้น อวัยวะทั้งหมดนั้นถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและถูกบดให้สุนัขป่ากินเป็นอาหาร
    จากนั้นเขาจะถูกกินยาเม็ดปลุกชีพให้ฟื้นคืนขึ้นมา เพื่อให้อวัยวะเพศนั้นกลับฟื้นคืนดังเดิม ต่อจากนั้นเขาก็จะถูกนำตัวไปใช้กรรมต่อไป
    ที่ต่อไปเขาถูกใช้กรรมนั้นคือ สถานลงทัณฑ์บาปกรรม เป็นสถานลงทัณฑ์ที่ไว้ลงทัณฑ์บาปกรรมสัตว์ทั้งหลาย ในคดีกรรมนี้สัตว์ตนนี้จะต้องถูก “นกใจร้าย” เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่เลี้ยงไว้เพื่อทำร้ายคน อวัยวะแหลมของมันเมื่อเข้าไปถึงในนรกแดนกรรมนี้ นกนั้นก็จะปรี่เข้ามาทำร้ายทันที ร่างกายที่ไร้สิ่งปิดบังโดยนกนั้นจิกตีและทรมานร่างกายอย่างสาหัส นี่เป็นผลกรรมที่เขาได้ใช้ตัวเขาสร้างบาปกรรมให้เกิดขึ้นแก่หญิงคนนั้น
    ต่อจากนั้นเขาจะต้องถูกไปใช้กรรมในสถานกินธาตุ (เรียกว่าเป็นห้องอาหารห้องหนึ่งก็ได้ แต่เป็นห้องอาหารที่ไม่มีใครอยากไป) เพราะในห้องนี้มีสัตว์หลายตัวนอนกินอาหารอยู่บนพื้นในสภาพมูมมาม อาหารที่กินนั้นไม่ใช่อาหารคน แต่เป็นอุจจาระสีเหลืองเหลวใสบ้าง แข็งเป็นท่อนบ้างคละเคล้ากันไป และข้าง ๆ จากนั้นจะมีน้ำดื่มวางใส่จานไว้ให้ เป็นน้ำดื่มที่เรียกว่า “น้ำปัสสาวะหรือน้ำเยี่ยว
    ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องกรรมนี้ เป็นของที่ขึ้นเพื่อลงทัณฑ์มนุษย์บาปหนา มีเพศเป็นชายครึ่งหญิงครึ่งไปจนกว่าเขาจะสิ้นกรรม
    ด้วยผลกรรมที่เขาสร้างกรรมที่เขาก่อ เขาจะต้องทรมานในกรรมนั้นไปจนกว่าหมดกรรมนั่นเป็น ปุถุกรรมที่เขาสร้างไว้ และต้องรับไว้เพียงผู้เดียว
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    วันอาทิตย์ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๓
    ครั้งที่ ๕๘
    นรกขุม ๖ แดนลงทัณฑ์ ๒ (ข่มขืนสามี)
    หญิงคนใดที่คิดกระทำตัวเป็นชายคร่อมบนส่วนอวัยวะสามีแล้ว เธอจะต้องรับกรรมนั้นในสภาพนี้
    ด้วยกรรมหนึ่งที่หญิงตนนี้ได้ทำ ทำให้เธอต้องมารับผลแห่งกรรมนั้นในกรรมเภท (กรรมที่ผิดรูปแบบชาติ) อดีตชาติของหญิงตนนี้เป็นหญิงมีสามี แต่มีความมากในเรื่องหลับนอน ทำให้เธอต้องทุรนอยากได้ในสิ่งที่ไม่เป็นปกติ คือเธอได้ใช้อวัยวะของเธอคร่อมอยู่บนของสามี แล้วได้กระทำกิจอันผิดปกติอยู่บนกายของสามี ในจิตที่คิดจะข่มขืนสามีให้เป็นผลโดยที่สามีมิชอบด้วยใจ (พร้อมใจด้วย)
    ผลกรรมนั้น ทำให้เธอต้องมารับสภาพกรรมอยู่ในเวลานี้ ดังนี้
    หญิงผู้นี้ก่อกรรมดังกล่าวขึ้นในชาติภพที่เคยเป็นมนุษย์ และอุบัติชาติมาเป็นเปรตหญิงตนนี้ เธอมีอวัยวะเพศที่ผิดปกติไปจากเดิมมาก อวัยวะเพศของเธอมีหนองไหลออกมาจากกายและหย่อนยื่นออกมาบ้าง เพราะผลกรรมที่เธอได้สร้างทำให้เธอต้องมาเกิดในรูปแบบนั้น จากนั้นเธอต้องถูกสว่านทิพย์ (เครื่องมือเครื่องหนึ่งที่ลงโทษ) ทะลวงไส้เธอเข้าไปจนถึงอวัยวะเพศแล้วปล่อยมดคันเข้าไปในช่องคลอดเธอและไชไปทั่วร่าง เมื่อสิ้นเวลากรรมนี้ เธอจะต้องถูกยมทูตนำตัวไปแช่น้ำกรดและเสพสมกับตอไม้อีกด้วย
    สุดท้ายแห่งบทกรรมที่ลงโทษเธอในภพชาตินี้ เธอจะต้องถูกยอนด้วยเหล็กแหลมยาวเรียกว่า “เหล็กยมทัณฑ์” เข้าไปในช่องคลอดของเธอและทะลวงไปทั่วตัวนั่นแหละเป็นผลกรรมที่เธอได้สร้างไว้กับสามีและตัวเธอด้วย
    จบบทนี้ด้วยความทรมาน ผมอยากเตือนใจผู้หญิงหลายคนที่คิดกระทำจงสังวรไว้เถิดว่าตนนั้นเป็นผู้หญิงไม่เหมาะแม้กระทำกรรมดังกล่าว
    “เมื่อมนุษย์ทั้งหลาย มีกรรม
    ขอจงอย่าสร้างกรรมนี้ให้เกิดขึ้น
    แม้ใครก็ตามที่ได้สร้างกรรมนี้
    จงสิ้นกรรมด้วยบุญแห่งสัจธรรม
    แม้ผู้ใดรู้ว่าตนเองมีกรรมนั้น
    ขอจงอย่างได้สร้างกรรมนี้ให้เกิดขึ้นอีก
    ก็จะสิ้นกรรมโดยไว”

    “ปิยราชไกรนรภพ
     

แชร์หน้านี้

Loading...