บัวบานสื่อวิญญาณ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Tonty @ yk, 29 พฤษภาคม 2016.

  1. Tonty @ yk

    Tonty @ yk Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +69
    #บัวบาน

    แรม เป็นสาวชาวบ้านธรรมดา เธอมีอาชีพเปิดร้านโชว์ห่วยขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป เธออยู่กินกับ นายอ้อม สามี แต่งงานกันมาได้หลายปีก็ไม่ทีท่าว่าจะมีลูกซักที แรมเป็นคนธัมมะธัมโม ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เธอจะให้สามีเฝ้าร้าน ส่วนเธอจะไปปฏิบัติธรรมที่สำนักแม่ชีทองขาวทุกครั้ง แม่ชีทองขาวเป็นแม่ชีที่ชาวบ้านให้ความเคารพเลื่อมใส ท่านถึงแก่กรรมด้วยโรคชรามาหลายปี แม่ชีทองแก้ว ศิษย์เอก ก็ขึ้นมาเป็นผู้นำปฏิบัติธรรมแทน แรมก็เป็นลูกศิษย์ของแม่ชีทองขาวมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งแม่ชีถึงแก่กรรม
    เธอกับคณะศิษย์ยานุศิษย์ ก็ร่วมกันสร้างหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของแม่ชีทองขาว เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ลูกศิษย์และชาวได้ระลึกถึง คุณงามความดีของท่านเมื่อครั้งยังมีชีวิต แม่ชีทองขาวเมื่อครั้งยังมีชีวิต ก็ช่วยพัฒนาวัดและหมู่บ้านตลอด อีกทั้งแม่ชียังมีความสามารถพิเศษ คือสามารถสื่อกับวิญญาณได้ แต่แม่ชีไม่เคยอุตริ จะช่วยผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจริงๆ และช่วยแบบไม่หวังปัจจัยใดๆทั้งสิ้น แต่ชาวบ้านมักจะให้เงินตามจิตศรัทธา ว่ากันว่าแม่ชีสามารถติดต่อกับยมทูตได้ แม่ชีสามารถต่อรองยืดอายุชีวิตกับยมทูตให้คนที่ใกล้ตาย กลับมาฟื้นอย่างปาฏิหาริย์ ครั้นแม่ชีละสังขารไปแล้ว ก็ยังศักดิ์สิทธิ์ แม่ชีเป็นคนรักเด็ก ชอบเด็กมาก ใครมีบุตรยาก อยากได้ลูก ก็ให้ไปขอกับแม่ชี รับรองว่าติดทุกคน แรม เองก็เช่นกัน แรมประสบภาวะมีบุตรยาก ประกอบด้วยอายุ 30 ปลายๆแล้ว ตอนแรกแรมเองก็ปลง ไม่คิดจะมีลูกแล้ว แต่ถูกครอบครัวของทางฝ่ายสามีเค้นถามบ่อยๆ จึงต้องคิดหนัก แรมจึงมาขอให้แม่ชีทองขาวช่วยเป็นที่พึ่ง โดยให้ปฎิญาณว่า หากใด้ลูกไม่ว่าจะเป็นเพศใด จะขอบวชชีพราหมณ์ถือศีลแปด เป็นเวลา 7 วัน หลังจากที่ไปขอลูก คืนนั้นแรมก็ฝันประหลาด ฝันว่ามีดวงแก้วสีขาวใส ลอยเข้ามาทางหน้าต่าง แล้วลอยพุ่งหายเข้าไปในท้องเธอ เธอเล่าความฝันให้นายอ้อม ผู้เป็นสามีฟัง สามีก็พาไปหาหมอดูเพื่อให้ช่วยทำนายฝัน หมอดูก็ทักว่า จะมีผู้มีบุญญาธิการมาเกิดในครอบครัวตน โดยในร่างของเด็กจะมีดวงจิตของผู้ที่จะมาเกิด จะทำให้เด็กมีความพิเศษกว่าเด็กๆคนอื่นๆ แรมกับนายอ้อมได้ฟังก็ดีใจและตื่นเต้นมาก 2เดือนต่อมาแรมก็ตั้งครรภ์จริงๆ แรมแพ้ท้องกินแต่เม็ดบัว น้ำรากบัว แกงรากบัว กินเนื้ออะไรไม่ได้ เดือนตั้งท้องมาจนถึง 9 เดือน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลอด นายอ้อมเห็นว่าชักไม่ปกติ ก็พาไปหาหมอในเมือง หมอก็เช็คว่าเด็กกลับหัวแล้ว แต่มดลูกยังไม่เปิด หมอให้นอนโรงพยาบาล ดูอาการ จนผ่านไป 4 วันก็ยังไม่คลอด หมอเลยให้ไปพักที่บ้านก่อน จนเข้าย่างเดือนที่10 กับอีก 9 วัน จู่ๆคืนหนึ่งแรมก็ปวดท้องคลอด และเด็กก็คลอดออกมาเองเป็นผู้หญิง นายอ้อม ตั้งชื่อให้ว่า บัวบาน หลังจากแรมอยู่ไฟ แรมก็ไปบวชเป็นชีพราหณ์ ตามคำที่สาบานไว้กับแม่ชี พอครบ 7 วันก็ออกมาเลี้ยงลูก บัวบาน เป็นเด็กที่มีพัฒนาการเร็วกว่า เด็กรุ่นเดียวกัน เรื่องราวอันเหลือเชื่อได้เกิดขึ้น เมื่อ ด.ญ.บัวบาน อายุได้ 8 ขวบ วันนั้นยายพวง ทวดของบัวบาน วัย 80 ปี ก็ได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา นำความเสียใจมาสู่ลูกหลานเป็นอย่างมาก ลูกหลานก็จัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ มีดนตรี ปี่พาทย์ มหรสพเพียบพร้อม งานถูกจัด 3 วัน 3 คืน พอถึงวันเผา บัวบานได้อยู่กับยายเพ็ญ ผู้เป็นยาย เพราะยังเด็ก ทางครอบครัวจึงไม่อยากให้เข้าร่วมพิธี หลังจากเผาศพเสร็จ ลูกๆหลานๆก็กลับมาปรึกษากันเรื่อง พิธีเก็บกระดูกของคุณทวดในวันถัดมา โดยปล่อยให้บัวบานนั่งดูทีวีคนเดียว จู่บัวบานก็เกิดอาการชัก ทุกคนต่างกรูไปที่บัวบาน แล้วบัวบานก็ฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ แต่ทว่า สีหน้าแววตาของบัวบานเปลี่ยนไป บัวบานนั่งหลังค่อมเหมือนคนแก่ไม่มีผิด พร้อมกับทักทายทุกคน ด้วยน้ำเสียแหบๆแห้งๆ
    "ทวดเอง"
    น้ำเสียงของบัวบานเป็นเสียงของคนแก่ พูดไปกระแอมไป ลูกๆหลานๆ ญาติๆต่างตกตลึง แถบไม่เชื่อสายตา เพราะกริยาท่าทาง และน้ำเสียงของบัวบาน คล้ายทวดพวงไม่มีผิด
    "คุณยายพวงเหรอคะ"
    แรมถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ กล้าๆกลัวๆ
    "เออฉันตายไม่ได้สั่งเสีย ฉันเป็นกังวลมาก ฉันไม่สบายใจ เลยมาหาพวกแกไง"
    บัวบาน ตอบออกมาเป็นเสียงคุณยายแก่ๆ นั่งตัวสั่นงันงก ทุกคนต่างขนลุกขนชัน
    "คุณยายต้องการอะไรเหรอคะ"
    แรมถาม พร้อมยกมือไหว้ประหงกๆ บัวบานทำท่าเลียปาก เอามือลูบปาก ก่อนจะเอามือตบพื้น พร้อมเอ่ยว่า"
    "เปรี้ยวปากฉันอยากกินหมาก ไปหาเชี่ยนหมากมาให้ฉันที"
    แรมหันไปสะกิด อร ผู้เป็นน้องสาว ให้ไปยกเชี่ยนหมากในครัวมา อรก็รีบวิ่งพรวดๆไปยกเชี่ยนมา บัวบานพอได้เชี่ยนหมาก ก็เอาหมากมาตำอย่างคล่องมือ ก่อนจะเอาใบพลูมาทาด้วยปูนแดง แล้วห่อหมาก แล้วยัดห่อหมากเข้าปากเคี้ยวอย่างสบายใจ จนปาดแดงแป๊ด พอเคี้ยวได้ที่ก็หยิบกระโถนมาบ้วนน้ำหมาก ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า
    "ไอ้เรื่องที่ฉันห่วงเนี่ยคือบ้านหลังนี้ บ้านหลังนี้มีอายุเป็นร้อยปี ตาเพิก สร้างเป็นเรือนหอให้ฉัน ฉันหวงมาก ไม่ว่ายังไงพวกแกก็ห้ามรื้อห้ามขายเป็นเด็ดขาดนะ"
    บัวบาน กำชับด้วยน้ำเสียงนักแน่น ลุงยศ ลูกชายของทวดพวง ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่านี่คือทวดพวง แต่ก็พูดแย้งขึ้นมาว่า
    "แต่เรือนนี้มันเก่ามากแล้วนะ ไอ้ขายฉันคงไม่ขายหรอก แต่เรื่องรื้อนี่ คงต้องคิดหนัก"
    บัวบาน ทำตาขวาง ตะคอกเสียงแหบๆใส่ลุงยศ
    "ถ้าจะรื้อทำใหม่ ก็ปล่อยให้มันพังเอง ถึงค่อยรื้อ ฉันไม่ว่า แต่ถ้าสร้างให้เหมือนเดิมได้ก็จะดี"
    ลุงยศ ก็ไม่อยากเถียงอะไร จึงยอมรับปาก
    "เออก็ได้แม่ เดี๋ยวฉันกับอีปริก จะช่วยกันดูแลเรือนหลังนี้ให้"
    บัวบาน ได้ฟังก็สะแยะยิ้มแล้วหายใจยาว โล่งใจเป็นที่สุด เธอเอ่ยมาเบาๆว่า
    "ได้ยินแบบนี้ฉันก็หมดห่วง เอาล่ะฉันต้องไปแล้ว อ่อ อย่าลืมล่ะ ถ้าไปทำบุญ ส่งแกงเลียงใส่ผักเยอะๆ กับกล้วยหอม ให้ฉันด้วยนะ"
    สิ้นเสียงพูด บัวบานก็หงายหลังสลบไป แรมรีบพุ่งเข้าไปประคอง พอบัวบานฟื้นขึ้นมา ก็กลับมาเป็นปกติ เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนได้รู้ว่าบัวบาน สื่อวิญญาณได้ หลายปีผ่านไป บัวบาน อายุได้ 11 ขวบ ได้เลื่อนขึ้นชั้นป.4 วันหนึ่งขณะที่นักเรียนนั่งรอครู ในคาบวิชาคณิตศาสตร์ รอแล้วรอเล่าครูก็ไม่มา ครูประจำวิชาคณิตศาสตร์ชื่อครูแขก เป็นครูข้าราชการบรรจุ อายุราวๆ35ปี เป็นครูที่เด็กๆรักมาก เด็กๆต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อไหร่ครูแขกจะมา ซักพัก บัวบานได้เกิดอาการชัก ทุกคนต่างเข้าไปมุงดู ซักพักบัวบานก็ได้สติ เธอลุกพรวดไปนั้งไขว่ห้างที่โต๊ะครู แล้วเอ่ยออกมาเป็นเสียงผู้ชายเข้มๆว่า
    "ครูมาแล้วนะ ครูมาลาทุกคน"
    เด็กนักเรียนทุกคนต่างมึนงง ส่วนใหญ่ไม่เชื่อ คิดว่าบัวบานแกล้งล้อเลียนครู
    "บัวบานเธอเล่นบ้าอะไร เธอล้อเลียนครูทำไม"
    สุมาลี ต่อว่าบัวบานอย่างหัวเสีย บัวบานลุกพรวดขึ้นมา เดินตรงมาที่สุมาลี แล้วเอามือลูบหัวสุมาลี พร้อมสะแยะยิ้มให้สุมาลี ก่อนจะเอ่ยว่า
    "นี่ครูแขกไง เธอจำไม่ได้เหรอสุมาลี ครูจะไม่ได้สอนพวกเธอแล้วนะ"
    กริยาของบัวบาน มันละม้ายคล้ายคลึงกับครูแขกมากๆ ทำให้สุมาลี มึนงง และรู้สึกเกร็งๆกลัวๆ บัวบานเดินตรงไปที่หน้ากระดานดำ หยิบชอล์กมาเขียนกระดานตัวใหญ่เป้งว่า "ลาก่อน" พอเขียนเสร็จเธอก็ทรุดหลง พอได้สติขึ้นมา เสียงประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนได้ดังขึ้นมาว่า
    "เมื่อช่วง 7 โมงที่ผ่านมา ครูแขกได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน คณะครูและนักเรียนขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ"
    พอสิ้นเสียงประกาศ เด็กนักเรียนทุกคนอึ้ง ยืนแข็งทื่อ พอตั้งสติได้ก็ปล่อยโฮออกมาทุกคน บัวบาน เองก็เสียใจเช่นกัน เธอรู้ซึ้งดีว่า ครูแขกมาร่ำลานักเรียนเป็นครั้งสุดท้าย ผ่านร่างเธอ และจุดนี้ทำให้นักเรียนทั้งห้อง รู้ว่าเธอสื่อวิญญาณได้ หลายปีผ่านไป บัวบาน โตเป็นสาว ขึ้นชั้นม.ปลาย วันหนึ่งบัวบานฝันเห็นถึงยมทูติ ยมทูติบอกว่า อีก3เดือนเธอจะหมดอายุขัย เพราะเธอจะอยู่ช่วยมนุษย์โลกได้แค่ 16 ปี พอตกเช้า บัวบานก็เล่าความฝันให้แรมผู้เป็นแม่ฟัง แรมได้ฟังก็ใจคอไม่ดี รีบพาบัวบานไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา 3เดือนถัดมา วันนั้นบัวบานพูดจาเป็นลาง เหมือนรู้ตัวว่าจะต้องตายแน่นอน ขณะที่เธอกำลังทานข้าวเช้าเธอก็เอ่ยออกมาว่า
    "พะโล้วันนี้อร่อยจังเลยค่ะแม่ วันนี้บัวคงจะได้กินเป็นมือสุดท้าย"
    แรมได้ยินถึงกับตกใจช้อนหลุดออกจากมือ สีหน้าห่อเหี่ยว พร้อมเอ็ดใส่บัวบานเบาๆ
    "พูดอะไรเป็นลางอย่างนั่นล่ะลูก ไม่เอาอย่าพูดแบบนี้อีก"
    บัว สีหน้าเศร้าสร้อย พูดกับแม่แบบถอดใจ
    "คนเราเวลาถึงคราว ยังไงก็ต้องตายค่ะแม่"
    แรมก็ยิ่งวิตกไปใหญ่ เพื่อความสบายใจ แรมจึงพาบัวไปทำบุญที่วัด พอทำบุญเสร็จ แรมกับบัวก็พากันไปไหว้หุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนแม่ชีทองขาว ขณะที่ก้มกราบอยู่ๆบัวก็เกิดอาการช็อค และสิ้นใจที่ตรงนั้น แรมได้แต่ร้องไห้เสียใจที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียวไป วันเผาศพบัวก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น คือมีดวงแก้วสีขาวใส ลอยวนอยู่เหนือปล่องเมรุ อยู่ซักพักก็เลือนจางหายไป ฝ่ายแรมหลังจากเผาศพบัวลูกสาวแล้ว ก็หันหน้าพึ่งทางธรรมตัดสินใจโกนหัวบวชชีตลอดชีวิตเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บัวผู้เป็นลูกสาว ส่วนในนายอ้อมสามีก็ตัดสินใจหย่ากับแรม กลับไปใชชีวิตอยู่ที่บ้านเดิมต่อไป

    #จบ
     
  2. ลูกพ่อโต

    ลูกพ่อโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +304
    เศร้าเด้
     

แชร์หน้านี้

Loading...