บุคคลใดที่นับถือศาสนาใด เมื่อเราอุทิศบุญกุศลโดยการกรวดน้ำทุกมนุษย์ก็จะได้รับบุญกุศลที่เราอุทิศให้

เรื่องนี้มันเกี่ยวกับคุณแม่ของนักร้องวัยรุ่น เมื่อปีประมาณ2536 ตอนนั้นจอห์นนี่และอนันยังไม่ได้เข้าวงการเลย คนพี่อายุราว10ปี คนน้องประมาณ4 ปี ยังดูดนิ้วอยู่เลย ทางคุณแม่ของทั้งสองเข้าเป็นครูสอนที่โรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนาและรู้จักกับลูกสาวของอาจารย์ที่ผมนับถือ ท่านชื่อว่าท่านพ่อสัญญา แม่ของอนันจะเจอเรื่องประหลาดบ่อย ๆ เลยมาพบท่านพ่อสัญญา พ่อท่านก็ดูให้ว่าเกิดอะไร ท่านบอกว่ามันเป็นกรรมเก่าและอีกอย่างแม่ของเขาไม่ชอบทำบุญหรือเข้าโบสถ์ในศาสนาคริสต์เลย

เธอชื่อแครอล ท่านพ่อก็บอกแครอลว่าให้พิสูจน์ด้วยตัวเองเนื่องจากท่านพ่อบอกว่าเราชาวพุทธ เชื่อในกรรมและเหตุผลเลยสอนการนั่งสมาธิเบื้องต้นให้และพ่อก็รดน้ำมนต์ให้ แครอลก็ดีขึ้นและอีกสิ่งที่แครอล พบก็คือแครอลจะเห็นสิ่งแปลกด้วยตาเนื้อ ผมเจอแครอลที่บ้านพ่อบ่อยเขาจะมาบอกว่าเห็นจริง ๆ นะ แครอลพอพูดภาษาไทยได้ ที่บ้านพ่อสัญญาในวันเสาร์ อาทิตย์จะมีคนมาให้ท่านพ่อรดน้ำมนต์ ผมก็จะไปช่วยและเจอแครอลทุกครั้ง แครอลบอกผมว่าเวลาพ่อสวดมนต์และทำน้ำมนต์แครอลจะเห็นแสงบ่อย ๆ ผมถามแครอลว่าตาฝาดหรือเปล่า

เล่ามาตั้งนานคงไม่เบื่อนะครับ แครอลแม่ของ อนันและจอห์นนี่เป็นโรคประหลาดคือกระดูกสันหลังของแครอลหายไป 1 ชิ้น เป็น1ในล้านคนที่เป็นและสามารถมีชีวิตอยู่ได้ จนถึงปัจจุบัน แครอลเขาจะป่วยตลอดพ่อท่านสัญญาเลยบอกแครอลว่าน่าจะไปบวชชีถือศีลสัก3วัน แครอลเลยตอบตกลงว่าจะบวช แครอลเขาเป็นคริตส์ พ่อท่านเลยชวนผมและภรรยาไปด้วย ท่านพ่อจะไปทำบุญที่วัดบ้านเกิดท่านที่วัดบางกา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร แครอลก็เอาลูกชายสามคนไป ลูกชายคนโตไปด้วย

 

รูปพ่อท่านสัญญา ท่านอยู่แถวสำโรง
ขอบคุณปลัดนะครับ

คณะเราไปเกือบ20 คน เราไปถึงอำเภอหลังสวนก็ค่ำเข้<wbr>าที่พัก

พอเช้า พวกเราก็ไปที่วัด ผมบอกท่านพ่อสัญญาว่<wbr>าอยากจะไปกราบพ่อหลวงคล้อย วัดถ้ำเขาเงินก่อนก็เลยไปแต่พ่<wbr>อหลวงคล้อยไม่อยู่ก็ตรงไปที่วัดบางกา ไปถึงพ่อหลวงนูญเจ้าอาวาสกำลั<wbr>งกลับจากกิจนิมนต์ ผมก็เห็นชาวบ้านมาเต็มกุฏิท่<wbr>านเนื่องจากคณะเราเอาผ้าป่<wbr>ามาถวายด้วยชาวบ้านก็มากัน สิ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือมี<wbr>ทองคำเปลวติดเต็มหน้าประตู<wbr>ตลอดจนรูปของพ่อหลวงและเตียงที่ท่านใช้รับแขกก็มี<wbr>ทองคำเปลวติดเต็มไปหมด ผมก็เลยถามท่านพ่อสัญญาว่<wbr>าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ท่านก็<wbr>บอกว่าชาวบ้านเขามาแก้บนพ่อหลวงนูญ พ่อหลวงเป็นศิษย์ผู้น้องของพ่<wbr>อหลวงคล้อย และทั้งสองเป็นศิษย์ของเจ้<wbr>าเทพสิทธิอาจารย์ (เจ้าคุณเฒ่า )วัดขันเงิน พ่อหลวงพัน หนวดเหล็ก

พอได้เวลาพ่อหลวงนูญก็มาและทั<wbr>กท่านพ่อสัญญาว่า อ้ายรี สบายดีหรือ ท่านพ่อบอกว่าสบายดีและพาลูกศิ<wbr>ษย์มากราบพ่อหลวงและถวายผ้าป่า พวกเราก็ถวายผ้าป่าเสร็จ ผมเห็นชาวบ้านเอาทองคำเปลวไปติ<wbr>ดหน้าแข้งพ่อหลวงเต็มไปหมด ผมบอกหน้าพ่อท่านสัญญาแล้วถามพ่อหลวงทำไมชาวบ้านมา ติ<wbr>ดทองที่หน้าแข้งพ่อหลวง ท่านก็บอกว่าชาวบ้านมันบนแล้<wbr>วสำเร็จก็มาทำกันท่านห้ามแล้<wbr>วชาวบ้านไม่ฟังก็เห็นว่ากุฏิของพ่อหลวงเต็<wbr>มไปด้วยทองคำเปลว หลังจากนั้นพ่อท่านแจ้<wbr>งความจำนงกับพ่อหลวงนูญว่าจะให้<wbr>แครอลบวชชี พ่อหลวงก็ไม่ว่าอะไรแต่บอกว่า

มันตั้งใจหรือเปล่าถ้าตั้งใจท่<wbr>านก็จะเป็นธุระให้ท่านบอกว่าแล้วมันอ่<wbr>านบาลีเป็นหรือ ลูกสาวพ่อท่านสัญญาบอกว่<wbr>าจะบอกเป็นคำ ๆแล้วให้แครอลพู<wbr>ดตาม พ่อหลวงก็อนุญาต

มาถึงตอนสำคัญแล้วนะครับพ่อหลั<wbr>ง จากกล่าวคำสมาทานศีลและขอบวชจบ พ่อหลวงก็บอกว่าให้ตั้งใจกรวดน้<wbr>ำและให้ตั้งใจอุทิศส่วนบุญกุ<wbr>ศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรและบิดามารดา

พอเสร็จพ่อหลวงก็ถามว่าแม่ของอี<wbr>แหม่มนี้รูปร่างเป็นอย่างนี้ใช่ไหม ให้ถามมันซิผมก็พูดภาษาให้<wbr>แครอลทราบ แครอลร้องไห้เลยครับ แครอลบอกว่า แม่เธอตายตอนที่<wbr>เธอยังเล็ก พ่อหลวงถามว่าใช่หรือเปล่<wbr>า แครอล บอกว่าใช่ แม่เธอรูปร่างอย่างที่พ่อหลวงนู<wbr>ญ บอก ผมก็มองไปที่พ่อท่านสํญญาเห็นพ่<wbr>อ ท่านหลับตาแล้วก็พยักหน้ากับผม ผมเลยถามว่าพ่อหลวงนูญรู้ได้อย่<wbr>างไรพ่อหลวงก็ชี้ไปที่ประตู<wbr>ทางเข้าบอกว่าก็แม่มันยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า พวกผมและชาวบ้านเป็นร้อย ต่<wbr>างตกใจและก็งง พ่อหลวงหันไปถามท่านพ่อสัญญาว่<wbr>าอ้ายรีจริงหรือเปล่า ท่านพ่อสัญญาพยักหน้าแล้วมีสิ่งที่ประหลาดน่าอั<wbr>ศ จรรย์อีกอย่างพ่อหลวงท่านก้<wbr>บอกว่าไหนมึงถามอีแหม่มว่ามันมีลูกกี่คน พวกเราก็ถามแครอลทั้ง ๆ พวกเรารู<wbr>้ว่าแครอลมีลูก 4 คนและคนละพ่อหมด

แครอลบอกว่มีลูกชาย 3 ลูกหญิง1 พ่อหลวงบอกว่าไม่ใช่มันมีลูก 5 คน แครอลยังยืนยัน พ่อหลวงเลยบอกว่ามันมีลูก 5 คนที่<wbr>มันเคยไปทำแท้งจำไม่ได้หรือ เชื่อไหมครับแครอลร้องไห้ใหญ่<wbr>เลยและบอกว่าตอนเป็นวัยรุ่นสมั<wbr>ยอยู่ที่อังกฤษ เคยทำแท้งเนื่องจากตอนวัยรุ่นไม่<wbr>ได้คิดอะไรซึ่งตัวแครอลลืมเรื่องนี้ไปแล้ว พ่อหลวงบอกว่าที่มันเจ็บและป่<wbr>วยเนื่องจากลูกที่ทำแท้งมั<wbr>นมาตามมาให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีกั<wbr>บตัวแครอล แต่ลูกต้องการบุญกุ<wbr>ศลเท่านั้นแต่แครอลไม่ทราบ ผมก็ถามคำถามเดิมพ่อหลวงนูญท่<wbr>านก็บอกว่ายายมันจูงมาด้วย พ่อหลวงนูญบอกว่ามันมาตั้<wbr>งนานแล้วมันบอกว่าอยากจะได้บุ<wbr>ญกุศล กูเลยบอกให้พวกเอ็งว่าให้ตั้<wbr>งใจทำนะ

ด้วยความอยากรู้ผมก็ถามท่านว่<wbr>าพวกเขานับถือคริสต์จะได้หรื<wbr>อครับ พ่อหลวงนูญท่านเมตตาตอบให้<wbr>พวกเราว่า ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดถ้าได้<wbr>กรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญกุศลก็จะได้รั<wbr>บหมดไม่ว่าวิญญานหรือสัมภเวสีใด ๆ อยู่ ณ ที่แห่งใดก็จะได้รับหมด พวกเอ็งจงจำไว้ แล้วท่านก็หันมาบอกกับท่านพ่อสั<wbr>ญญาว่าอ้ายรีจริงไหม ท่านพ่อสํญญาก็พยักหน้า

ผมมีรูปของพ่อหลวงนูญแต่ยั<wbr>งหาไม่เจอเพราะท่านไม่ยอมให้ถ่<wbr>ายผมจะนำมาลงให้ดู ปัจจุบันท่านอายุ 80 กว่าแล้ว ถ้าไปหลังสวนถามคนหลังสวนจะรู้<wbr>จักท่าน ตอนที่ไปวัดท่านได้เล่าเรื่<wbr>องสมบัติในวัดให้ฟังอีกด้วย อีกอย่างที่ท่านเก่งคื<wbr>อการทำนายทายทัก


http://www.konrakmeed.com/<wbr>webboard/upload/index.php?<wbr>showtopic=7972

 

ถ้าบุคคลนั้น ในศาสนาใดๆ ก็ตาม พวกเขาไม่รูจัก "พระพุทธเจ้า"
แล้วพวกเขา ในศาสนาใดๆ ก็ตาม พวกเขาจะได้รับในส่วนบุญส่วนกุศลนั้นไหม

ที่กล่าวอย่างนี้ก็เพราะ พวกเขา ในศาสนาใด ๆ ก็ตาม ไม่รู้จัก "พระพุทธเจ้า"
และไม่รู้จักกับคำว่า "โมทนา สาธุ" เพื่อรับกุศลผลบุญ ที่ส่งให้พวกเขาเหล่านั้น
ในศาสนาใด ๆ

ผมถามว่า แล้วพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใด ๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
จะรู้จักกับคำว่า "โมทนา สาธุ" เพื่อที่จะได้รับบุญกุศลที่ได้ส่งมาให้
และพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใดๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ จะสามารถพูด
คำว่า "โมทนา สาธุ" ได้เหมือนกับ "ชาวพุทธ" ได้ไหม

และผมถามอีกว่า แล้วพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใด ๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
จะรู้ความหมายของคำว่า "โมทนา สาธุ" ซึ่งแปลว่าอะไร
แล้วพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใด ๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
จะสามารถรู้ได้บ้างไหมว่า
"ยกสองมือ ประกบคู่ ขึ้นเหนือศีรษะ เอ่ยคำว่า โมทนา สาธุ แบบชาวพุทธเราได้ไหม"

และถ้าศาสนาอื่น ๆ เขาอุทิศบุญกุศลให้กับเราได้จริงล่ะก็
ถ้าอย่างงั้น ก็ไม่ต้องรอให้ตายก่อน เราจึงสามารถเอ่ยคำพูด ตามพวกเขาในศาสนาใดๆ
ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ว่า " อาเมน โอ้พระเจ้า ฯลฯ" และอีก ฯลฯ แบบนั้นใช่ไหม

แล้วถ้าหากเป็นพวกคอมมิวนิสต์ล่ะ พวกเขาจะรู้ไหม ว่า
ถ้าเราอุทิศบุญกุศลด้วยการกรวดน้ำให้กับพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใดๆ
ของคอมมิวนิสต์ซึ่งพวกเขา ไม่มี"ศาสนา"
งั้นขอถามว่า พวก(คอมมิวนิสต์)เขาจะสามารถ เอ่ยคำว่า "โมทนา สาธุ" ได้ไหม
ในเมื่อพวกเขา(คอมมิวนิสต์) ไม่มี"พระเจ้า" องค์ใดๆ เลยให้นับถือ
อีกทั้งพวกเขา(คอมมิวนิสต์)ก็ไม่รู้จัก"พระพุทธเจ้า" ในศาสนาพุทธ ด้วยซ้ำไป
มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ ผมไม่เชื่อเด็ดขาด บอกได้เลยว่า ไม่มีทางเป็นไปได้

ผมจึงย้อมถามคุณว่า "แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่า บุคคลใดที่นับถือศาสนาใด
เมื่อเราอุทิศบุญกุศลด้วยการกรวดน้ำ ทุกมนุษย์ก็จะได้รับบุญกุศลที่เราอุทิศให้"

 

งั้นผมถามย้อนกลับคุณบ้างว่า "บุคคลใดที่นับถือศาสนาใด เมื่อเราอุทิศบุญกุศลโดยการกรวดน้ำทุกมนุษย์ก็จะได้รับบุญกุศลที่เราอุทิศให้"

แล้วพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใด ๆ ที่ไม่ใช่ในศาสนาพุทธ
รู้จักกับ "พระพุทธเจ้า" ในศาสนาพุทธบ้างไหม
รู้จัก คำว่า "โมทนา สาธุ"
"ยกมือทั้งสองข้าง พนมมือเหนือศีรษะชูขึ้นเหนือหัว พร้อมกับพูดว่าโมทนา สาธุ"

พวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใดๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ จะได้รับบุญกุศลที่กรวดน้ำ
ไปให้พวกเขาได้ไหม ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้น ในศาสนาใดๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ
"ไม่รู้จัก พระพุทธเจ้า " และพวกเขาเหล่านั้น ก็มีพระเจ้าของเขาแล้ว

หากเเต่พวกเขาเหล่านี้ ในศาสนาใดๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ และไม่ได้นับถือ
"พระพุทธเจ้า" ดังนั้นแล้วพวกเขาเหล่านี้ ในศาสนาใดๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นพวกนอกศาสนาหรือพวกเดียรัจถี

ถ้าไม่อย่างงั้น พวกเขาเหล่านี้ ในศาสนาใดๆ ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ก็ไม่ต้องรอให้ตายก่อน แล้วจึงพูดออกมาว่า
"อาเมน" หรือไม่ก็ "โอ พระเจ้า เมตตาลูกด้วย" ก็ได้รับบุญแล้ว?

งั้นถามหน่อยว่า พวกคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ได้นับถือศาสนาใด ๆ
ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ จะรู้จักกับ คำว่า"โมทนา สาธุ"
แล้วพวกคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ได้นับถือศาสนาใด ๆ ไม่มีพระเจ้าให้นับถือ
พวกเขาจะเชื่อในเรื่องของบุญกุศลที่ได้กรวดน้ำอุทิศบุญให้กับพวกเขาหรือ

แล้วคุณพูดออกมาได้อย่างไรว่า

"บุคคลใดที่นับถือศาสนาใด เมื่อเราอุทิศบุญกุศลโดยการกรวดน้ำทุกมนุษย์ก็จะได้รับบุญกุศลที่เราอุทิศให้"

ผมไม่เชื่อโดยเด็ดขาด

<!-- google_ad_section_end -->

 

การอนุโมทนา เป็นบุญประการหนึ่ง

ขึ้นอยู่กับสภาพจิตเป็นสำคัญ ไม่ได้หมายถึงเพียงกล่าวคำว่าอนุโมทนาเท่านั้น ถึงแม้จะไม่ได้เปล่งเป็นคำพูดออกมาว่า ขอ
อนุโมทนาแต่ขณะนั้นมีจิตใจที่ชื่นชมยินดีในกุศลที่ผู้อื่น กระทำก็เป็นบุญ

เพระการอนุโมทนานั้นเป็นการชื่นชมยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำ เกิดจากจิตที่อ่อนโยน ไม่แข็งกระด้าง และประการที่สำคัญ
การอนุโมทนาในกุศลจิตของผู้อื่นนั้น เป็นความประพฤติของคนดีทั้งหลาย

บุญทั้งหลายสำเร็จลงด้วยใจ