บุพกรรมใดนางจิญจามานวิกาจึง เกิดมาดี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย dangcarry, 20 ตุลาคม 2010.

  1. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    ธรรมที่ถูกต้อง คือต้องดูแต่ตัวเอง ถ้าเผลอไปดูคนอื่นก็ไม่เป็นไร
    รู้ตัว ก็กลับมาหาตัวเอง ไปดูคนอื่น มันเยอะแยะหลากหลายลีลา
    เอ ตกลงเราเป็น หรือคนอื่นเป็น แล้วเราดูใครกันแน่เนอะ
    มันก็แปลกดี เส้นผมบังภูเขา เลยต้องขึ้น ภู เพื่อมาดูภูเขา และเส้นผม
     
  2. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,305
    ฮืม ยาวๆ ทั้งน้านเลย ขณะที่อาม่าอ่านก็พิณาตามอารมณ์ที่เกิดดับ ถ้าเรามีกำลังไม่มากพอที่จะกระทบโลก กำลังมันก็จะขึ้นๆ ลงๆ วน เวียนอยู่ย่างนั้น
    อาม่าก็จะพิณาตามไปเรื่อยๆ ดูอาการของมัน อย่างเป็นผู้ดูตัดอารมณ์ของการปะปน มันกลับเฉยๆ กลายเป็นไม่มีอะไรให้ครุ่นคิดซะงั้นไป ไม่เห็นอะไรกับกับอะไร มันเป็นอะไรหว่า
    หรือ นี่เป็นเวลาเพี้ยนๆ ของอาม่าหว่า หรือที่เค้าเรียก ลมปราณแตกสร้าน ขำเอง
    มิน่าหล่ะหมอชอบบอกกับคนชราว่า ห้ามสะเทือนใจ เพราะอาจวายได้ แต่อาม่าไม่ยอมวายตอนนี้หรอก เสียธรรมชาติ อาม่าหมด กำลังใจอาม่าเพียบอุตส่าห์เหยียวยาอาม่าซ่ะขนาด เนอะ ไม่อยากให้เสียของ ไว้คราวหน้าก็ฝึกดูมันใหม่ เดียวอาม่าไปซื้อรองเท้าดีๆ ไว้ขึ้นภู ดูเสือ ก่อน จะได้ไม่ตกภูอีก ดีมั้ย อาม่าไปเชียงรายก่อน น่ะ กลับมาแล้วอาม่ามาหาใหม่ ขอบคุณ กำลังใจดีๆ ที่อัดมาให้อาม่า ซ่ะมากมาย น่ะ
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    หลวงปู่เทสก์สอนว่า “สิ้นโลก เหลือธรรม”

    หลวงพ่อสอนว่า
    เราภาวนานะ จนวันหนึ่งมันสิ้นโลกเหลือธรรมจริงๆ มีแต่ความสุขล้วนๆเลย ธรรมะให้ความสุขนะ โลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ ต้องฝึกเอา เวลาฝึกธรรมะ ก็ตั้งอกตั้งใจดูของเราไป อย่าไปยุ่งคนอื่นเขา
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    จากหนังสือ “พลิกนิดเดียว”
    ของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    (คัดมาบางส่วน)
    เห็นว่าความทุกข์ก็ดี ความหดหู่ก็ดี เป็นสักแต่ว่าความรู้สึกเท่านั้น
    ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
    เป็นเพียงอุปาทานเท่านั้น
    อุปาทานว่าเราหดหู่ อุปาทานว่าเราทุกข์นั้นแหละ
    จริง ๆ แล้วมันก็เปลี่ยนแปลงได้ และจะเปลี่ยนไปเอง
    เมื่อมีอารมณ์ใหม่เข้ามาแทนที่
    เพราะมันเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    เราทุกข์ เราหดหู่ เพราะอุปาทาน ความยึดมั่นนั่นแหละ
    อาศัยความอดทน อดกลั้น ยกจิตขึ้นสู่อารมณ์วิปัสสนา
    เพ่งพิจารณาความไม่เที่ยง ไม่แน่นอน
    แล้วความรู้สึกทุกข์ ความรู้สึกหดหู่ใจ ก็จะเปลี่ยนแปลง
    เพราะ สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งปวง ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
    แล้วเราจะรู้ชัดขึ้นๆ

    ความหดหู่เป็นอาคันตุกะ
    เขามาเยี่ยมเฉยๆ แล้วก็ไป ไปแล้วก็มาใหม่
    ถ้าเราหยุด วางเฉย เขาก็อยู่ไม่ได้
    อย่าเพลิดเพลินกับการตามอารมณ์นะ
    แขกมาหา จะไล่เขาไปก็ไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะโกรธเอา
    ต้อนรับก็ไม่ได้ เขาจะอยู่เฉย
    เราเฉยเสีย เขาก็จะไปเอง
    เพราะเขาเป็นอาคันตุกะ ไม่ใช่ผู้อยู่ประจำ
    ถ้าเขามาก็รู้ว่า อ้อ เขามาแล้ว กำหนดรู้ แล้วก็เฉย
    ทำใจให้เป็นอุเบกขา ทำใจเป็นกลางๆ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย
    ไม่ตกใจ ไม่กลัว ไม่รังเกียจ
    เอาก็ไม่ใช่ ไม่เอาก็ไม่ใช่
    กำหนดรู้ไปเรื่อยๆ
    จุดหมาย คือความไม่มีทุกข์ และจิตที่สงบ สะอาด สว่าง

    ให้เอาทุกข์เป็นอาจารย์
    อย่ารังเกียจทุกข์นะ อย่าหนีทุกข์ อย่ากลัวทุกข์
    ทุกข์นั่นแหละเตือนเราไม่ให้ประมาท
    ให้เกิดปัญญา ให้รู้ ให้เห็น ตามความเป็นจริง ให้เห็นสัจธรรม
    ยิ่งทุกข์มากยิ่งดี เมื่อผ่านไปได้ ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวอะไร
    ต้องอดทนต่อสู้ ด้วยจิตใจที่กล้าหาญ


    http://palungjit.org/threads/มนุษย์เกิดมาทำไม-โดย-พระอาจารย์มิตซูโอะ-คเวสโก.265534/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2010
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    เพิ่งจะสังเกตเห็นไม่รู้ว่าเข้่าใจข้อความถูกป่าว (ฟามรู้สึกช้าโคตร อิอิ)
    ที่อาม่าโพสท์(#180)ว่า มาวันหนึ่งซะมีคือ คุณแดงตัวจริง เค้าเห็น เค้าเลยว่า...
    แปลว่า อาม่า แฮบ ล๊อคอิน อากงมาเล่น ใช่ป่าวคะ
    แล้วอากงชื่อคุณแดง(ตัวจริง) แม่น บ่อ อาม่า แล้วอาม่าชื่อ คุณการ์ตูน ใช่รึป่าวเอ่ย เดาเอาจากลายเซนต์
    (ตีความตามฟามคิด เนาะ อ่านแล้วคิดแต่ไม่รู้ว่า คิดถูกหรือคิดผิด)

    อ่านตั้งหลายรอบ ไม่รู้ว่า เก็ทข้อมูลของอาม่า ถูกป่าว อิอิ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2010
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อิอิ ..อากง อาม่า อาม่า อากง อย่าแย่งกันพิมพ์นะคร๊าฟฟฟ
     
  7. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ทายจิ คนนี้คราย....แหะๆ และ แหะๆ:boo:
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    [​IMG]
    ทายจิ คนนี้คราย
    ....แหะๆ และ แหะๆ:boo:
    --"
    ปราบเทวดา = จั่นเจา แมวเก้าชีวิต
    วิษณุ12 = หม่าฮั่น คู่หูจั่นเจา

    ถูกแมะ จากหมอเดามั่วซั่ว
    [​IMG]

    อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2010
  9. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    อาเค ทายจิ๊ ทายจิ๊ ว่า คราย อาเค ... อิอิ
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    รู้แล้วแต่ไม่บอกหลอกให้คนอื่น ก่งก๊ง เล่น อิอิ
    เรียนรู้ธรรมะคู่เพื่อรู้ธรรมหนึ่ง
    ในซาละเปาไส้หมูแดงก็มี2เลเยอร์ไง มีชั้นของแป้งอยู่ข้างนอก กะไส้หมูแดงอยู่ข้างใน
    อิอิ

    เอาเรื่องสุดยอดนิยายบู๊ลิ้มมาให้อ่านเล่น ออกแนววิเคราะห์ตัวละคร ในมุมมองของคุณต่อพงษ์

    ยอดคนอาวเอี้ยงฮง(1)/ต่อพงษ์
    คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    โดยข้อสรุปแล้ว วิชาฝีมือในจักรวาลมังกรหยกนั้นแบ่งออกแค่ 3 สาย นั่นคือ สายพุทธ สายเต๋า และสายนอกเส้นทาง สุดยอดยอดฝีมือนั้น 2 คนมาจากสายพุทธ นั่นคือ อั้งชิกกง และ ราชันย์ต้วน ขณะที่อีกสองคนมาจากสายเต๋าคือ กลางเทพเจ้า เฮ้งเต้งเอี้ยง และ อึ้งเอิ๊ยะซือ มารบูรพา

    มีเพียงอาวเอี้ยงฮง พิษประจิม เท่านั้นที่ฝึกวิชานอกหลักสูตรแต่สามารถทะยานขึ้นมาเป็น 5 ยอดยุทธได้ด้วย ผู้มีพลังคางคกและเพลงไม้เท้าอสรพิษ รวมถึงการใช้พิษเป็นสรณะ

    อาวเอี้ยงฮงเข้ามาสู่จักรวาลกำลังภายในของกิมย้ง ด้วยการเปิดแบบเท่ห์ๆมากในฉากที่เกาะดอกท้อ พร้อมกับสำแดงเดชให้กับคนอ่านได้รับรู้ถึงฝีมือในการเลี้ยงงูพิษของแก เพราะจู่ๆ บนเกาะดอกท้อก็มีงูซึ่งสามารถทำร้าย จิวแป๊ะทง ได้สำเร็จ ดีที่ขณะนั้นจิวแป๊ะทงอยู่กับก๋วยเจ๋ง เขาจึงเอาเลือดตัวเองที่มีสามารถป้องกันพิษได้ทุกชนิดให้เฒ่าทารกทาน ไม่เช่นนั้นจิวแป๊ะทงต้องเสียชีวิตแน่นอน

    กิมย้งนั้นเวลาเขียนหนังสือแกมักจะละเอียดในเรื่องของลำดับชั้นตระกูลของตัว ละครสำคัญเสมอๆ แต่ดูเหมือนแกจะลืมไล่ลำดับของอาวเอี้ยงฮงมาให้ ว่ากว่าจะมาเป็นจอมยุทธหนึ่งใน 5 สุดยอดฝีมือ แกเป็นใครมาจากไหนกันแน่?

    เมื่อดูถึงแซ่ของเขา แซ่อาวเอี้ยงนั้น ความจริงในภาษาจีนกลางก็คือแซ่โอวหยางฟง (Ouyang Feng)...ซึ่งดูแบบนี้ก็ต้องบอกว่า เป็นนามสกุลของลูกครึ่งมิใช่นามสกุลที่เป็นเผ่าฮั่นแท้ๆ แต่กระนั้นตามประวัติของแซ่โอวหยางก็ไม่ธรรมดา เพราะสืบเชื้อสายมาจากอ๋องเยว่นามโกวเจี้ยนสมัยชุนชิวทั้งสิ้น ถ้านับจริงๆ ตระกูลนี้สืบเชื้อสายกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2000 ปี

    ภายหลังบุตรหลานเหลนได้ย้ายรกรากมาอยู่ที่ทิศใต้ของภูเขาโอวอวี๋ ครอบครัวที่อพยพมาต่างก็หันมาใช้แซ่โอวบ้าง แซ่โอวหยางบ้าง ตามชื่อของภูเขาโอวอวี่ซัน ส่วนคำว่าหยางนั้นแปลว่า...ทิศใต้ของภูเขาโอวหยัง ปัจจุบันภูเขาโอวอวี๋ซัน อยู่ในมณฑลเจ๋อเจียง ในปัจจุบันนี้ เรียกกันว่า...ภูเขาเซินซัน

    แต่มณฑลเจ้อเจียงนั้นอยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับตะวันตกเลยแม้แต่นิดเดียว

    แต่แค่เรื่องต้นสกุลของอาวเอี้ยงฮงนั้นคงไม่สามารถระบุอะไรได้ เพราะ นับจากยุคชุนชิว แม้กระทั่งยุคถังมันก็นานโขอยู่ กว่าจะมาถึงยุคซ่งใต้ก็ลูกหลานก็อาจจะกระจัดกระจายไปเยอะแล้ว เราจึงควรดูลักษณะกายภาพของแกจะดีกว่า

    แต่ตามสายตาของก๋วยเจ๋ง อาวเอี้ยงฮง นั้นแฝงกลิ่นอายให้ชวนเขย่าขวัญอยู่มิน้อย อาวเอี้ยงฮงเป็นคนตัวสูงใหญ่ เขาสวมเสื้อขาวขลิบทองซึ่งไม่ใช่เสื้อผ้าแบบคนที่อยู่ในดินแดนภาคกลาง บุคคลที่อาวเอี้ยงฮงพามาด้วย หลายคนมีผมทอง หลายคนมีตาสีฟ้า อาวเอี้ยงฮงพูดถึงสาวๆ ที่เขาพามาด้วยและต้องการมอบให้แก่เจ้าเกาะดอกท้อเป็นของกำนัลว่าเป็นสาวงาม จากแดนตะวันตก…

    พูดถึงตรงนี้มังกรหยกฉบับที่จีนแผ่นดินใหญ่สร้างนั้น ให้ลักษณะและการแต่งกายไว้ค่อนข้างเหมือนที่กิมย้งบรรยายไว้มาก อย่างน้อยรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาละม้ายออกไปในทางอาหรับ และทรงผมที่ออกจะไม่ใช่คนภาคกลางเว้นแต่ดูแล้วไม่อลังการเท่าที่บรรยายไว้

    มังกรหยกฉบับแปลเป็นไทยนั้นบอกว่าอาวเอี้ยงฮงนั้นมาจากเขาอูฐขาว เดินทางมาจากไซฮก ฉบับภาษาอังกฤษบอกว่ามาจาก western China ผมเองไม่แน่ใจว่าไซฮกอยู่ตรงไหน เพราะ ถ้าเทียบเคียงกับแผนที่ของราชวงซ่งใต้นั้น ถ้าถัดไปทางตะวันตกก็น่าจะเป็นธิเบต ถูฟาน หรือ ซีเซี่ย แต่ทั้ง 3 ดินแดนที่ว่านี้ก็ยังไม่ถึงขั้นตาสีฟ้า และมีผมสีทอง

    แล้วถ้าเรามาดูดินแดนที่ว่า ผู้คนมีตาสีฟ้า ผมสีทอง มีลักษณะเป็นชาวต่างชาติเต็มตัว และแน่นอนมีแนววิชาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่แนวพุทธ และแนวเต๋า นั่นทำให้ผมมองข้ามไปยังแถบๆซินเกียงหรือทูลู่ฟันโน่นเลย ที่เห็นว่าน่าจะเป็นซนเกียงก็เพราะมีพรมแดนติดต่อกับประเทศต่างๆ ถึง 8 ประเทศคือ, มองโกเลีย, คาซัคสถาน, คีร์กิซสถาน, อุซเบกิซสถาน, ทาจิกิซสถาน, อัฟกานิสถาน, ปากีสถาน และ อินเดีย อีกทั้งในอดีต ซินเกียงเป็นเส้นทางการค้าที่สําคัญระหว่างตะวันออกสู่ตะวันตก

    สภาพภูมิประเทศที่สําคัญประกอบไปด้วย ทะเลทรายทัคลิมาคัน (Taklimakan) ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นอันดับสองของโลก นอกจากนี้แล้วยังมีเทือกเขาพาดอยู่ถึง 3 แนว คือ ทางเหนือมีเทือกเขาอัลไต (Altay) ตอนกลางมีเทือกเขาเทียนซาน (Tianshan) พาดผ่านตอนกลาง ทางใต้มีเทือกเขาคุนลุน (Kunlun) ซินเจียงมีภูมิประเทศที่หลากหลายตั้งแต่ทะเลทราย ทุ่งหญ้า ที่ราบต่ำ ที่ราบสูง และภูเขาหิมะ

    ซินเกียงหรือทูลู่ฟันเป็นดินแดนที่ได้ชื่อว่า ดินแดนอันเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนาวที่สุด ร้อนที่สุด ต่ำที่สุดเท่านั้น ที่น่าจะเคี่ยวกรำให้เกิดยอดคนและยอดวิชาเช่นนี้ได้ อีกทั้งเขาเทียนซาน หรือ ที่ในนิยายจีนบ้านเรารู้จักกันในนามเทียนซัว จนกระทั่งคุนลุ้นนั้นเป็นแหล่งกำเหนิดวิทยายุทธที่ร้ายกาจนอกทำเนียบหลาย แขนง

    ไม่ต้องดูไกลครับ ฝ่ามือ 6 สุริยันต์เทียนซัว ฝ่ามือหักกิ่งเหมยเทียนซัว ยันต์เป็นตายของนางเฒ่าทาริกาแห่งเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้านั้นก็มาจากภูเขาเทียนซัวนี่แหล่ะครับ และวิชาแขนงที่ใช้พิษของติงชุนชิวแห่งสำนักหมู่ดาว ก็เรียนรู้มาจากสำนักสราญรมย์ แต่ก็ล้วนเป็นย่านตะวันตกด้วยทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าอาวเอี้ยงฮงจะเรียนทั้งวิชานอกรีต จะมีทั้งพลังพิสดาร และเป็นทั้งการเพาะเลี้ยงสัตว์มีพิษ ผมว่าเขาน่าจะมาจากดินแดนแห่งนี้หรือไม่ก็ชายขอบที่ติดกับทั้ง 8 ประเทศจากด้านใดด้านหนึ่ง

    ข้อสังเกตอีกอย่างก็คือ เมื่อตอนที่อาวเอี้ยงฮงจะประลองกับอึ้งเอี๊ยะซือนั้น มารบูรพาใช้ขลุ่ยหยก ขณะที่ตัวของเขาใช้พิณเหล็กมาสู้ด้วยใช้กำลังภายในวิ่งผ่านเสียงดนตรี ตรงนี้ครับที่แปลกใจที่สุด เพราะ ในฉบับภาษาอังกฤษนั้นบอกไว้ว่าเป็น 'qin zheng' Iron zither พิณที่แกใช้ที่ว่าเป็นพิณเหล็กนั้นแตกต่างไปจากกู่ฉินของจีนแน่ๆ ปรกติพิณกู่ฉินจีนนั้นมักจะทำด้วยไม้ แต่ของอาวเอี้ยงฮงเป็นเหล็ก ก็เลยไปค้นๆดู ปรากฏว่าเครื่องแนวนี้ที่ทำด้วยเหล็กในจีนไม่มีครับ แต่ถ้าถัดออกไปทางเคอร์กิสถาน หรือเลยไปทางตะวันตกกว่านั้นในแถบที่ผู้คนนับถืออิสลามก็จะมีเครื่องดินตรี ที่เป็น Zither แต่ทำจากโลหะ แต่ลักษณะสั้นกว่า และเวลาบรรเลงก็จะให้ความเคลิ้มที่แตกต่างไปจากเสียงกู่ฉินไม่ใช่น้อย แต่เครื่องแต่งกายของผู้บรรเลงนั้นก็มีส่วนคล้ายกับที่ก๋วยเจ๋งเห็น นั่นคือ ใส่เสื้อขาว ขลิบทอง แถมพวกนี้ยังมีความเชี่ยวชาญในการเป่าปี่เรียกงูด้วย ถ้าอาวเอี้ยงฮงจะเลี้ยงงู และบังคับงูเก่ง ก็คงไม่แปลกที่แกจะมาจากประเทศแถบๆ นี้

    เรื่องของอาวเอี้ยงฮงยังไม่จบครับ ต้องมีตอนหน้าที่จะมายืนยันว่า เขาคือยอดคนอย่างไรบ้าง

    Entertainment - Manager Online -
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    หุหุ คอหนังจีนเหมือนกันเหรอ อาเค ตาม กระทวนท่า ของพลังดรรชนี
    ก็คงไม่มีวิชาใดเทียบ ดรรชนี กระบี่ หกชีพจร ของต้วนยี่ไปได้
    แม้แต่ เฉียวฟง ผู้องอาจด้วย ฝ่ามือสยบมังกร 18 ท่ายังเกรง ...

    ป้าอาเคมีที่มา ของ ดรรนี กระบี่ หกชีพจรอ๊ะป่าว เอามาลงให้อ่านด้วยน๊า ​
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    จัดให้ตามคำขอ...อิอิ

    ไปถามข้อมูลจากอากู๋มาที่เห็นเข้าท่า ก็จากคุณท่านพี่บ้อเช็ง
    2005/Jun/28

    ดรรชนีกระบี่ 6 สาย
    *ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะค้าบ
    ถ้า จะพูดถึงวิชาดรรชนีในนิยากำลังภายในแล้ว ดรรชนีเอกสุริยันและดรรชนีกระบี่ 6 สาย (หรือเพลงกระบี่ 6 ชีพจร) วิชาประจำตระกูลของสกุลต้วนแห่ง ต้าหลี่คงจะเป็นวิชาแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงเพราะวิชาดรรชนีมักจะไม่ค่อยปรากฏเป็นวิชาที่โดดเด่นในนิยาย กำลังภายในทั่วไปมากนัก แต่กับสองวิชานี้กลับโดดเด่นอาจเป็นพระความดังของตัวนิยายที่ถูกสร้างเป็น ทั้งหนังและการ์ตูน
    ใน มังกรหยกอิดเต็งไต้ซือใช้ดรรชนีเอกสุริยันนับเป็น 1 ใน 5 สุดยอดฝีมือแห่งยุคใน 8 เทพอสูรมังกรฟ้าต้วนอื้อ อ๋องน้อยแห่งต้าหลี่ก็สำเร็จดรรชนีกระบี่ 6 สายครบทุกท่า
    เคล็ด ของการใช้วิชาดรรชนีก็เหมือนกับวิชาอื่นทั่วไปนั่นคือการเดินพลังมาสู่ปลาย นิ้ว(แต่ก่อนจะมาถึงปลายนิ้วแน่นอนว่าวิถีการลมปราณย่อมแตกต่างกันออกไป) สิ่งที่ทำให้วิชาดรรชน์แตกต่างคือความพลิกแพลงของกระบวนท่า ความรวดเร็ว และคุณสมบัติพิเศษของวิชาดรรชนีนั่นคือความเรียวเล็ก แหลมคม (ประหนึ่งกระบี่)
    เป็น ที่รู้กันอยู่แล้วว่าดรรชนีกระบี่ 6 สายนั้นเหนือกว่าดรรชนีเอกสุริยันไม่ว่าจะเป็นในด้านของพลังทำลายหรือความ เปลี่ยนแปลงของกระบวนท่า เมื่อเราดูจากประวัติศาสตร์ ที่อิงอยู่ในนิยายทั้งสองเรื่องจะพบว่า 8 เทพอสูรมังกรฟ้านั้นเกิดก่อนมังกรหยก เพราะฉะนั้นเราจึงสังเกตได้ว่าในมังกรหยกนั้นมีแต่ดรรชนีเอกสุริยันไม่มี เพลงกระบี่ 6 สาย คิดเล่นๆ ว่าอาจเป็นเพราะ

    1. คัมภีร์ กระบี่ 6 สายถูกทำลายไปตั้งแต่ครั้งจิวม้อจื้อบุกวัดมังกรฟ้า ตอนนั้นมีเพียงคุณชายต้วนเท่านั้นที่ฝึกสำเร็จครบทั้ง 6 ท่า (ไม่นับบรรดาอดีตฮ่องเต้ที่บวชเป็นหลวงจีนในวัดที่แยกกันฝึกคนละท่า)
    2. คุณ ชายต้วนไม่ชอบวรยุทธ์และการต่อสู้ (ที่เก่งมาได้เพราะบังเอิญและจำใจล้วนๆ) และด้วยความที่ตัวเองไม่ชอบก็เลยไม่ได้เอาไปสอนลูกหลานต่อ (เพราะตัวเองรู้เคล็ดวิชาครบชุดอยู่คนเดียว) เมื่อต้วนอื้อไม่สอนต่อ วิชานี้เลยหายสาปสูญไป
    3. ดรรชนี กระบี่ 6 สายคงฝึกยากน่าดู เพราะคนในสกุลต้วนเองจะฝึกดรรชนีเอกสุริยันให้ถึงระดับสุดยอดก็ไม่ค่อยมี อยู่แล้ว ตอนจิวม้อจื้อมาบุกวัดมังกรฟ้าบรรดาหลวงจีนยังต้องแยกกันฝึกกระบี่ 6 สายกันคนละท่าเลย มีแต่คุณชายต้วนนั่นแหละ แค่มองคัมภีร์ผ่านๆ ฟังเคล็ดการฝึกครั้งเดียวฝึกสำเร็จมัน 6 ท่า(คนมันจะเก่งนี่หว่า) เพราะฉะนั้นวิชานี้จะไม่มีสืบทอดต่อก็อาจเป็นเพราะลูกหลานฝึกมันไม่สำเร็จ นั่นเอง
    คิดเล่นๆ นะคับอย่าไปจริงจัง เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า 8 เทพฯแต่งทีหลังมังกรหยก อ.กิมย้งเองอาจไม่ได้ตั้งใจให้มันเกี่ยวข้องกันด้วยซ้ำ
    [​IMG]
    เท่า ที่ผมเคยเห็นดรรชนีเอกสุริยันยิงออกจากนิ้วชี้เท่านั้น(ถ้าผมผิดต้องขออภัย) ในขณะที่ดรรชนีกระบี่ 6 สายยิงออกจากนิ้วแต่ละนิ้วที่ต่างกัน

    กระบี่จงเหิง - ยิงออกจากนิ้วกลาง
    กระบี่กวนเหิง - นิ้วนาง
    กระบี่ซางหยาง - นิ้วชี้
    กระบี่เส้าเจ๋อ - นิ้วก้อยกับนิ้วโป้งรวมกัน
    กระบี่เส้าเหิง - นิ้วก้อย
    กระบี่เส้าชาง - นิ้วโป้ง

    จะ หาวิชาดรรชนีที่ดูโดดเด่นน่าสนใจหรือมีอาณุภาพระดับนี้ในนิยายกำลังภายใน นั้นมีไม่มากนัก(อย่าไปนับพวกที่ใช้ดรรชนีแทนกระบี่โดยตรงนะคับ) เอาตามความรู้สึกผมก็มีวิชาดรรชนีของฆารวาสผาเสียดฟ้า (มังกรทลายฟ้า)ดรรชนีนภากาศ (กระบี่ท่องบู๊ลิ้ม) และดรรชนีสะท้านเทพที่แป๊ะโช้ยปวยดัดแปลงจากดรรชนีนภากาศอีกที (ชุดศาสตราวุธของอุนสุ่ยอัน) แต่ถ้าจะนับในการ์ตูนด้วย ดรรชนีชานเหอที่มู่หยงฟู่ใช้ตอนท้ายนั่นก็เวอร์สุดฤทธิ์ดีมาก (ใครที่อ่านแต่การ์ตูน 8 เทพฯ ในนิยายไม่มีนะคับวิชานี้ รวมทั้งเนื้อเรื่องช่วงหลังด้วย) ถ้าพูดถึงในการ์ตูนเนี่ย มีเยอะมากๆ
    เอาละงับพอควรแล้วกับดรรชนีกระบี่ 6 สาย ข้าน้อยเห็นทีคงต้องลาไปก่อนแล้วเน้อ ^^
    http://iceage-no7.exteen.com/20050628/entry
     
  13. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    นางจิญจามานวิกาจึง เกิดมาดี ท่องยุทธภพ... ท่านชูชกอยู่ไหน
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    เพื่อเป็นการเอาใจสหายคอบู๊ลิ้ม จึงขอเสริฟอีกชุดใหญ่

    จากคุณ[FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed] Khuntaro[/FONT]
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]สุดยอดของแต่ละแขนง ในที่นี่เอาแค่ของกิมย้งนะ
    [/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]กำลังภายใน
    1 คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น ของเส้าหลิน(จากเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า)
    เค้าบอก วิชานี้ แบ่งเป็นหลายขั้น ขั้นสุดท้าย พลังขั้นสีขาว บอกไว้ว่า นับจากฟ้าดินแยกจากกัน มีเพียง ตั๊กม้อ คนเดียวที่ฝึกสำเร็จ สมารถทำลายได้แม้อณูของอากาศ
    2 เก้าอิม-เก้าเอี้ยง (จากเรื่อง มังกรหยกและดาบมังกรหยก)
    วิชานี้ ผมว่า เป็นด้าน หน้าและด้านหลังครับ โดยเก้าอิมนั้น บัญญัติโดย ผู้ทักษะยุทธ คนนึง ภายหลัง เกิดการแย่งชิง จนเป็นเรื่องมังกรหยก เก้าเอี้ยง ผมไม่ทราบ มาจากที่ใด แต่เตียบ่อกี้ฝึกโดยบังเอิญ
    3 ลมปราณภูตอุดร ของสำนักสราญรมย์(มหาเวทย์ดูดดาว) (จากเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า-เดชคัมภีเทวดาหรือกระบี่เย้ยยุทธจักร)(อันนี้เป็นการชอบ ส่วนตัวนะครับ)
    เป็นวิชาที่เหมือนกัน ผมเลยเอามาว่าไว้ทีเดียวนะครับ คือ วิชาที่ดูดพลังของคู่ต่อสู้มาเป็นของตัวเอง ต้วนยี่ พบโดยบังเอิญ ภายหลัง ดูดพลังของจิวหมอจื้อ มาเป็นของตัวเองได้ เหล่งฮูชง ฝึกตอนที่โดนหลอกไปขังในคุก

    กระบี่
    1.9 กระบี่เดียวดาย ต๊กโกวคิ้วป้าย (จากเรื่อง มังกรหยก-กระบี่เย้ยยุทธจักร)
    เป็นวิชาที่ไร้ผู้ต้านจิงๆ (ในความคิดผมนะ) เอี้ยก้วยได้ฝึกจากพี่อินทรี ที่เป็น!เลี้ยงของมารกระบี่เดียวดาย เหล่งฮูชงฝึกจาก ฟงซิหยาง ศิษย์สำนักหัวซาน สายเพลงกระบี่ เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ว่าไว้ว่า ฟงซิหยาง เป็นผู้ไร้ผู้ต้าน
    2. เพลงกระบี่ปราบมาร ของสำนักคุ้มภัยฟุเว่ย (จากเรื่อง กระบี่เย้ยยุทธจักร)
    กระบี่ปราบมารอานุภาพลือลั่นสั่นคลอน ยุทธภพ ปู่ของหลินผิงจือ ใช้เพลงกระบี่ชุดนี้ สร้างชื่อ ในยุทธภพ จนสร้างสำนักคุ้มภัย ฟุเว่ย ขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ จึงมีคนแย่งชิงเพลงกระบี่ชุดนี้ จำนวนมาก ผู้ฝึกสำเร็จ ต้อง.............

    วิชามือเปล่า
    1.กรงเล็บกระดูกขาว ของคัมภีเก้าอิม (จากเรื่อง มังกรหยก-ดาบมังกรหยก)
    เป็นวิชาที่ผูทักษะยุทธบัญญัติพร้อมกับพลังเก้าอิม อานุภาพร้ายแรงมาก แต่ออกจะเป็นแนวมาร มากกว่า มารกระดูกขาว ฝึกวิชาชุดนี้โดยไม่มีส่วนของกำลังภายในจนทำให้เป็นภัยยุทธภพ จิวจื่อเยาะ ฝึกวิชาชุดนี้ จาก ดาบฆ่ามังกรและกระบี่อิงฟ้า
    2.ฝ่ามือพิชิตมังกร 18 ท่า ของ พรรคกระยาจก (จากเรื่อง มังกรหยก และ 8 เทพอสูรมังกรฟ้า)
    เป็นวิชาที่สืบเนื่องในพรรคกระยาจก ไม่มีบันทึกเป็นเล่ม บอกกันปากต่อปากเท่านั้น

    วิชาดรรชนีย์
    1.กระบี่ 6 ชีพจร ของสกุลต้วน (จากเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า)
    วิชาชุดนี้ สืบทอดกันในสกุลต้วน เป็น วิชาเลื่องลือไปทั่วจน จิวหมอจื้อ ต้องการจะแย่งชิง เจ้าอาวาสวัดมังกรฟ้าขณะนั้น จึงเผาคัมภีร์ทิ้งโดยให้ ต้วนยี่ ดูเอาไว้ ต่อมา ต้วนยี่ ฝึกฝนจน เป็นผู้เก่งกาจในที่สุด
    2. ดรรชนีย์เอกสุริยัน ของราชันย์ทักษิณ (จากเรื่อง มังกรหยก)
    วิชาดรรชนีย์นี้ เป็น 1 ในวิชา กระบี่ 6 ชีพจร โดย วิชานี้ จะปล่อย ปราณ ออกไปทางนิ้วชี้ ส่วน กระบี่ 6 ชีพจรนั้น ปล่อยจากนิ้ว ทั้ง 5

    วิชาไม้เท้า
    ไม้เท้าตีสุนัข ของพรรคกระยาจก (จากเรื่อง 8 เทพอสูรมังกรฟ้า-มังกรหยก)
    เป็นวิชาที่ใช้คู่กับ ไม้ตีสุนัข ซึ่ง ผู้ถือไม้เท้านี้ บ่งบอกถึง ความเป็ย หน.พรรค เป็นวิชาที่เหมือน กับ ฝ่ามือพิชิตมังกร 18 ท่า คือ ไม่มีเขียนเป็นตัวอักษร แต่ถ่ายทอดโดยการสอนเท่านั้น

    วิชาค่ายกล
    ค่ายกล 7 ดาว ของ7นักพรตช่วงจิง (จากเรื่องมังกรหยก)
    7 นักพรตช่วงจิง คิดวิชานี้ขึ้นมา หลังจากเก็บตัวฝึกวิชาร่วมกัน โดย ให้คิวชู่กี่ เป็น ศูนย์กลาง
    นอกจากนี้ ยังมีค่ายกล ของเกาะดอกท้อ แต่ ค่ายกล ของเกาะดอกท้อ ไม่ใช่ค่ายกล ที่ใช้ต่อสู้

    วิชาแส้
    บ่วงวชิระสยบมาร ของวัดเส้าหลิน (จากเรื่อง ดาบฆ่ามังกร)
    เป็นวิชาที่ 3 บรรพชิตแห่งวัดเส้าหลิน คิดขึ้น เดิมที เพื่อแก้แค้น ที่พวกตน แพ้ให้กับ อดีต หน.พรรคเม้งก่า แต่ถูก เซ่งคุน หลอกให้ใช้ในการป้องกันไม่ให้ใครมาชิงตัว ราชสีย์ขนทองไปได้

    และแถมให้อีกจากคุณ
    [/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]Branford
    [/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]ยังมีกรงเล็บสลายสูญของสำนักเส้าหลินอีกนะท่าน
    หนึ่งกระบี่แปรสามแจ้งของช้วงจิงก่าแม้จะไม่โด่งดังนักแต่ก็นับเป็นสุดยอดวิชาของสำนัก
    เพลงกระบี่เหล็กนิลของสำนักสุสานโบราณก็ใช่ย่อย

    แล้วท่านรู้จักเพลงกระบี่ขุนเขาอุดรของเห็งซัวไหม

    ยังมีอีกเยอะ

    จากคุณเตียบ่อกี้
    [/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]วิชาฝ่ามือ 1.ฝ่ามือเทพกระบี่สยบผู้กล้า คิดค้นโดยมารบูรพาอึ้งเอี๊ยซือ
    2.ฝ่ามือกล้วยไม้ ของมารบูรพาเช่นกัน
    3.ฝ่ามือขยี้หัวใจ ก็ของมารบูรพาอีก

    เพลงเตะ เพลงเตะพายุหอบใบไม้ คิดโดยมารบูรพา ที่รู้สึกผิดที่หักกระดูกของศิษย์ทั้ง 4 แห่งเกาะดอกท้อ เพราะโมโหที่ ลมทมิฬคู่พิมาต ขโมยคัมภีร์เก้าอิมไป โดยวิชานี้ถ้าฝึกแล้วจะกลับมาเดินเหมือนคนปกติได้

    ปล.ยังไม่จบ แต่พอละ อิอิ คนแต่งเขาช่างคิดเนาะ

    [/FONT][FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]http://thaimisc.pukpik.com/freewebboard/php/vreply.php?user=namoi&topic=1488&page=2[/FONT]
    [FONT=ms Sans Serif, Thonburi, DB ThaiTextFixed]
    [/FONT]
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    แต่อ่านเรื่องของชาวบู๊ลิ้มนี่ก็ได้ข้อคิดมาเยอะเหมือนกันนะ
    ถ้าเปรียบวัฏฏสงสาร เหมือน ยุทธภพ นะ
    จะพบว่ามีคนแยกเป็น2ประเภทใหญ่ๆ
    คือคนปกติธรรมดาหากินเลี้ยงชีพไปตามเรื่อง กับอีกพวกหนึ่งคือคนมีวิชา
    พวกคนธรรมดาเขาก็ไม่ค่อยมีเรื่องท้าตีท้าต่อยมีแต่ทะเลาะวิวาทไปตามเรื่องที่กระทบกระทั่งกัน
    แต่อีกพวกที่มีวิชาเนี่ยมักจะชอบตั้งตัวเป็นหัวหน้าชิงความเป็นใหญ่ท้าประลองท้าตีท้าต่อย
    อยู่เฉยๆไม่ได้ต้องแข่งขันตีรันฟันแทงหาคู่ซ้อมคู่ปรับไปเรื่อยเพื่อคิดค้นสุดยอดวิชาเพื่อจะได้
    อยู่เหนือคนอื่นหรือเพื่อป้องกันคนอื่นมารังแก

    มีพวกที่3 อีกอย่าง
    มีอีกพวกที่สนใจค้นหาสัจธรรม เพื่อบรรลุสัจธรรมเห็นความจริงของชีวิตและวัฏฏะ
    ก็หันหลังให้กับโลกธรรม หลีกหนีความวุ่นวายเข้าหาความสงบ ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ยึดติด
    เรื่องทางโลก ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระหรือออกบวชบำเพ็ญเพียร

    ดูละครแล้วย้อนดูตัวตัว เนาะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2010
  16. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    คนที่เขาฝึกพลังลมปราณนี้เขาต้องมีสาธิสูงมากเลยเนอะ
    เพราะว่าต้องรวบรวมพลังมาก
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    เท่าที่อ่านมา การฝึกลมปราณก็เหมือนทำสมาธินะ
    ถ้าฝึกสำเร็จก็อาจจะเหมือนได้สมาธิขั้นฌาณเหมือนกันนะ แต่จะออกแนวพลังจักรวาล
    แบบมีเดินลมในจักระทั่วร่าง หรือไม่ก็อาจเทียบได้กับกรรมฐาน40กองอันใดอันหนึ่ง
    ก็ได้นะ เพราะตามตำนานเขาบอกว่าหลวงจีนตั๊กม้อเป็นพระจาริกมาจากอินเดีย
    สร้างวัดเส้าหลิน เผยแพร่ธรรมะอาจจะมีการสอนกรรมฐานแล้วแพร่หลายไปเรื่อย
    คนจีนก็เป็นนักคิดนักทำก็เยอะ ก็อาจเอามาปรับให้เข้ากับตัวเองกลายเป็นวิชาการต่างๆ
    เป็นสำนักต่างๆ ก็ได้นะ คนโบราณเขาก็มีอะไรให้ทึ่งได้ ที่เอาแต่งนิยายบู๊ลิ้ม ก็อาจเอาเค้า
    เรื่องจากประวัติศาสตร์มาแต่งเพิ่มเติมใส่สีตีใข่อีกก็ได้ อย่างมวยหย่งชุนก็เป็นเรื่องจริง
    มีตัวตนจริง วัดเส้าหลินก็มีจริง อ่านแล้วก็ทึ่งเหมือนกัน
     
  18. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    นับถือ อาจารย์ตั๊กม้อ นะพี่ขวัญ ท่านในเด็ดมาก เคยได้ยินชื่อ จากหลวงพ่อของหลบภัย
    หลบภัยไม่แน่ใจนะ ว่าอาจารย์ท่านนี้ที่เผาตัวเองให้โจรดูหรือเปล่า
    กรรมฐาน ถ้าเข้าไปในฌาน ข้ามเวทนาไปเลยเนอะ เคยแต่นั่งไม่มีตัวตนอ่ะ
    ถ้าเผาตัวเอง ตอนนั้น คงจะร้อนเหมือนกันมั้ง จิตเรามีความสามารถเยอะเนอะ
    มันวิเศษมากๆ
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,903
    ค่าพลัง:
    +7,316
    จัดให้อีกแล้วครับท่านผู้ชม
    พระโพธิธรรม


    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    [​IMG] [​IMG]
    ภาพพระโพธิธรรม วาดโดยโยะชิโตชิ (ค.ศ. 1877)


    พระโพธิธรรม (สันสกฤต: โพธิธรฺม, เทวนาครี बोधिधर्म; อักษรโรมัน (NLAC) : bōdhidharma; จีน: 菩提達摩, พินอิน: Pútídámó , Dámó) แต่ในนิยายกำลังภายในเรียก ตักม้อ หรือ ตั๊กม้อ เป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา นิกายมหายาน มีประวัติไม่ชัดเจนนัก แต่เชื่อกันว่ามีตัวตนอยู่จริง และเป็นผู้สถาปนาวัดเส้าหลิน ในจีน ทั้งยังได้เผยแพร่วิชามวยจีนในหมู่พระเณรของวัดเส้าหลิน จนมีชื่อเสียงมาจวบจนทุกวันนี้
    ตำนานระบุว่า ท่านเกิดเมื่อราว พ.ศ. 520 เดิมเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 3 ของพระเจ้าแผ่นดิน แคว้นคันธารราช ประเทศอินเดีย ใกล้เมืองมัทราสในปัจจุบัน มีนัยน์ตาสีฟ้า ตั้งแต่พระชนอายุยังเยาว์ ทรงปราดเปรื่องและแตกฉานในคัมภีร์ของทุก ๆ ศาสนา ตลอดจนวรรณคดี อักษรศาสตร์โบราณ นับเป็นปราชญ์เอกแห่งยุค
    เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พระองค์สามารถนั่งฌานสมาบัติชั้นสูง อยู่เบื้องพระบรมศพของพระบิดานานตลอดถึง 7 วัน หลังจากนั้น จึงไปศึกษาแสวงธรรมอยู่กับพระปรัชญาตาระเถระ ผู้เป็นพระสังฆปรินายกองค์ที่ 27 และเป็นพระธรรมทูต เดินทางไปเมืองจีน เมื่อราว ค.ศ. 526 ได้เดินทางไปยังเมืองกวางตุ้งของจีน เข้าเฝ้าจักรพรรดิอู่ตี้ และไม่นานต่อมาได้ก่อตั้งอารามขึ้นในเมืองลั่วหยาง และใช้เวลาปฏิบัติวิปัสนากรรมฐานถึง 9 ปีในการเพ่งผนังถ้ำ
    ฝ่ายมหายาน ถือว่าพระโพธิธรรมเป็นพระมหาเถระองค์ที่ 28 ที่สืบสายโดยตรงมาจากพระพุทธเจ้า และยังเป็นผู้สถาปนานิกายเซนขึ้นด้วย และเนื่องจากคำสอนของท่านจะเน้นไปที่การเข้าฌาน แนวทางคำสอนของท่านจึงมักจะเรียกกันว่า ฌาน (สันสกฤต : [ธฺยาน] ध्यान : dhyan ) ในภาษาจีนเรียกว่า 'ฉาน' และภาษาญี่ปุ่นว่า 'เซน'
    ประวัติชีวิตของท่านมักจะถือเป็นตำนาน ขาดหลักฐานที่แน่นอน เช่น ตำนานหนึ่งเล่าว่า ท่านได้ตัดหนังตาทิ้ง เนื่องจากโมโหที่เผลอหลับไปขณะทำสมาธิ เมื่อหนังตานั้นตกถึงพื้น ก็เติบโตกลายเป็นต้นชา และตำนานยังเล่าต่อว่า ด้วยเหตุดังกล่าวภิกษุนิกายเซนจึงนิยมดื่มน้ำชา เพราะจะได้ไม่ง่วงเวลาทำสมาธิ
    ท่านมรณภาพเมื่อ พ.ศ. 1079 และมีการสร้างสถูปขึ้นในเมืองเหอหนาน ภายหลังรัชสมัยจักรพรรดิไท่จง ในราชวงศ์ถัง
    พระโพธิธรรม - วิกิพีเดีย
     
  20. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,305
    แม่นแล๋ว อาม่า นามว่านั่นแหละถูกแล๋ว แหมคิดถึงอาม่าน่ะเนี่ย ไปอ่านโพสเก่าต่างหาก งงอะไรหรือเปล่า อาม่าแฮบมาเล่น ซ่ะ เพราะแต่ก่อนอาม่าไม่ชอบเล่นเท่าไหร่ ส่วนมากทำงาน มากกว่า ตอมาก็เลยลองเล่นดู เลยได้เจออาkwan คนดีนี่แหละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...