ปฏิบัติธรรมกันมานานมาก..หลายสิบปี ทำไมไม่เอะใจบ้างว่าเพราะอะไรมันไม่..

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เราโตมาคนละแบบ, 25 มกราคม 2017.

  1. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :eek::oops::mad: ก้าวหน้าไปกว่าเดิมเลย นอกจากคารม-การทะเลาะเบาะแว้ง-สำนวนภาษาที่โอหังขึ้นเมื่ออยู่นานๆในบอร์ด..
    :p:eek: อัตตาก็เล่นงานหนักขึ้น แบบแอบแฝง -แอบยกเรา แบบไม่ให้รู้สึกตัวเลย ต่อเมื่อผู้มาใหม่ ด่าเอา-เถียงเอา -นั่นแหละจะเห็นอัตตาร้อนนนมาเชียว เพราะอะไรครับ..
    :mad: ตอบได้ก็เพราะ ..ตำราที่เราเรียน "มันผิด"..พุทธวจน ไมไ่ด้สอน ไม่ใช่คำพระพุทธเจ้าท่านเลย พระไตรปิฏก ก็มีปัญหาแก้กันไมไ่ด้ ไปลองอ่าน พุทธวจน ดูแล้วมาถกกันอย่าไปเชื่อคนข้างๆครับ ไปศึกษาดูด้วยตนเองเปิดยูทูปฟังก้ได้-แล้วเอามาเปรียบเทียบ-จับผิด-ก่อน ตอนนี้ ทำเนียบรัฐบาล กองปราบ ต่างประเทศ ทั่วโลก..
    :p เขานิมนต์ พุทธวจน ขอกันไปศึกษาหมดแล้ว มีอยู่ไม่กี่บอร์ดนี่เองที่ปิดกั้นตนเองแบบไม่ยอมศึกษาเปรียบเทียบ เอาแต่เชื่อคนใกล้ชิด-มิตร-ฝังใจ ในสังคมฐานความรู้สึกอยู่นี่แหละ..ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะครับ แค่มาสนทนาด้วย อยากโต้กับคนที่มีข้อมูล ครับ
     
  2. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ดูลม-ละนันทิ-นี่ที่ต้องทำประจำวันครับ เบาสบายๆๆๆๆจริงๆ
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    มันอยู่ที่ " การรู้ทุกข์ "

    ร้อยละร้อย " รู้ทุกขแล้วเกลียดทุกข์ ก็ดิ้นรนแสวงหาสุข "

    ไม่สามารถ กำหนดรู้ทุกข ที่ตรงกันกับ ทุกขสัจจ ได้

    ต้นคดปลายตรง ไม่มี ก็ขึ้น กับ การรู้ทุกข์ ตรงนี้แหละ

    และ ก็เป็นอะไรที่ แบบว่า ช่าย......บังคับกันไม่ได้ ขันธ์5 มันเป็น อนัตตา

    พระศาสดาอยู่ตรงหน้า เทศนาธรรมถูก แต่ สัตว์ที่กำหนดรู้ทุกข์ ไม่ตรง
    ย่อมมีอยู่ ไม่สามารถ ทำให้เห็น ถูกต้อง ได้

    จึงต้อง หมั่นสดับ ฟังไปเรื่อยๆ อย่าทำอย่างนี้ ให้ทำอย่างนั้น
    อย่าทำอย่างนั้น ให้ทำอย่างนี้

    คนภาวนา ก็จะ เอะใจ เกิด ปัญญาอันยิ่งเอง แล้ว กำหนดรู้ทุกข์ถูกฝา
    ถูกตัว ก็จะ ทราบว่า หนทางการตรัสรู้เองโดยชอบ ไม่ใช่ อาสัยฟังจาก
    ผู้อื่น อยู่ตรงไหน
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    นักภาวนา ที่ ภาวนาแล้ว จิตไม่ถึงฐาน ความเพียร

    จะเกิด อาการปัญญาล้ำหน้า การปฏิบัติ

    พอเกิด ปัญญาล้ำหน้าการปฏิบัติ จะ บัญญัติ หรือ พุ่งเข้าถือทิฏฐิ
    ชูขึ้น เป็น " สูตรสำเร็จการภาวนา "

    พอเกิด อาการสำคัญว่า ค้นพบสูตรสำเร็จการภาวนา มองไม่ออกว่า ฝุ้งซ่าน
    จิตจะตกจาก สมาธิ เพราะ นิวรณ์ ที่ละเอียดปราณีต เห็นได้ยาก

    พอไปเชื่อว่า สูตรสำเร็จมีอยู่จริง เท่านี้ใช่ อย่าอื่นเปล่า

    แล้วเที่ยวไป เสนอ สกิดนักภาวนาคนอื่น นี่ โดนมันหลอก ให้ ปิดนิพพาน

    เพราะ สิ่งที่กระทำคือ ขยัน ไปล้มการภาวนาคนอื่นเขา มันหลอก
    ให้เสพ เวรกรรมเผ็ดร้อน นิยตมิจฉาทิฏฐิ หานิพพานไม่เจอ เอาเลยทีเดียว
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ผมมองอย่างนี้นะครับ
    ก่อนมาเป็นตำราได้มันมาจากการปฏิบัติก่อนครับ
    จะหาคนที่ปฏิบัติได้และอ่านตำราได้พร้อมกัน
    มันก็คงยาก ที่ชอบพูดให้หล่อๆกันว่า ปฏิเวชอะไรนั่นหละครับ
    เป็นคำพูดที่พอ กล่อมแก้มได้บ้างอยู่
    เพราะคุณลองนึกว่า ว่าตำราดังเดิม
    เป็นการปฏิบัติของท่านใด และท่านที่
    เขียนตำราท่านแรกๆท่านมีความสามารถระดับไหนครับ..

    แล้วผ่านมาแล้วกี่ปี แปลมาแล้วกี่ครั้ง
    เขียนเติมเสริมใหม่มาแล้วกี่รอบ..
    เพราะฉนั้นอย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้มันมากเลย...
    ไม่ว่าตำราเล่มไหนๆ หรือแม้แต่ตำราที่
    พระพุทธเจ้าท่านได้ถ่ายทอดมา
    และพระสาวกท่านบันทึกด้วยตนเอง
    ชนิดที่ถอดคำต่อคำ
    ถ้าเราไปยึด ยังไงๆเราก็ไม่พ้นครับ

    มันดูเป็นแนวทางได้ครับ
    แต่ยึดไม่ได้
    ปฏิบัติให้เข้าถึงครับ
    ไม่ว่าตำราอะไรถ้าไม่ยึด
    แล้วไปปฏิบัติให้เข้าถึง ให้รู้ ด้วยตัวเอง
    มันก็มีโอกาสพ้นได้ทั้งนั้นหละครับ
     
  6. ไม่มีเพศ

    ไม่มีเพศ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    134
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมมีความคิดว่า ไม่ว่าสายไหนก็ตามอย่าไปถามหาความก้าวหน้าเลยครับ อย่าคาดหวัง ขอแค่มีความสุขใจสงบกายมากขึ้นก็พอ คุณจขกท.ก็บอกอยู่ว่าปฏิบัติตามพระอาจารย์คึกฤทธิ์แล้วดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ก็ดีแล้วคับ ขออนุโมทนาบุญด้วยคับผม

    และถ้าอยากหลีกเลี่ยงการทะเลาะกันจริงๆ ต้องอยู่คนเดียวคับปลีกวิเวกปฏิบัติธรรมในสถานที่สัปปายะ เพราะคนในครอบครัวเดียวกันยังมีทะเลาะกันเช่นครอบครัวผม นับประสาอะไรกับคนในบอร์ดนี้

    ความเห็นผมอยากปฏิบัติธรรม ต้องอย่าอยากก้าวหน้า เพราะผมอยากก้าวทีไร สะดุดทุกที รื่นรมย์กับลมหายใจโดยสติจดจ่อนะจุดใดจุดหนึ่ง สวดมนต์โดยให้ตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับบทสวด เผลอคิดก็กลับมาที่คำสวด กลับมาที่ฐานลม เหมือนการปฏิบัติโดยตัวของมันเองต้องเริ่มต้นใหม่อยู่เสมอ ตื่นรู้อยู่ตลอดเวลาณปัจจุบัณขณะ ไม่แสวงหาแม้ความเป็นอริยบุคคล
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ถ้ามาแนว หลวงพ่อ พ.

    ตรงที่ปรารภ รื่นรมณ์ ตรงนี้ ต้องมี ปิติ นะ หลวงพ่อ พ. จะใช้ อุบายธรรมคำว่า " มีน้ำมีนวล "

    ทีนี้ ในสำนวนพระไตรปิฏก บอกว่า ให้มี ปิติ อาบกาย ไม่มีส่วนไหนไม่ถูกต้อง(Touch)

    บางสำนวน บอกว่า แค่บางส่วนของกาย แล้ว บางส่วนของกายส่วนนั้น ไม่มีส่วนไหน ไม่สัมผัสปิติ

    ตรงเนี่ยะ สำคัญนะ หาก รื่มรมณ์แล้วปล่อย ไม่ประคอง ก็ใช้ไม่ได้

    มีอาบกาย แล้วประคองไม่เลิก ไม่เห็นธรรมอื่นยิ่งกว่า แล้ว น้อมไป ก็ใช้ไม่ได้

    จะต้องมี พลวัต(dynamic แปรปรวน ด้วย บริกรรม) ถึงจะเห็น วิวัฏ พัฒนา

    มันถึง จะถอย แบบ ไม่กลับมา งง ว่า ทำแล้ว ไม่เห็นพัฒนา เลย


    ปล. บริกรรม มีสองอย่าง ส่วนที่ต้อง ชักชวนให้เกิด โน้นจิตไป อันนั้น สสังขาริกัง

    บริกรรม อันเกิดจาก รื่นรมณ์ได้อย่างถูกต้อง มีโยนิโสมนสิการ จะเห็น บริกรรม
    ที่เป็น อสังขาริกัง ไม่ได้เจตนาให้เกิด .....สมาธิเริ่มเมื่อหยุดเจตนา วิปัสสนาเริ่ม
    เพราะ พ้นวิตก วิจาร
     
  8. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    ตรงนี้แหละอาจารย์..ที่ขั้นตอนการปฏิบัติเราไม่รู้ เราข้ามไปเยอะเลย "รู้ทุกข์" นะใช่ รู้แล้วทำอย่างไรต่อ ทำตรงไหนก่อน ..หรือทำแต่บุญ-ทาน-ภาวนา
    :oops: ต้องรู้สภาพจิตเราเองก่อน มีคุณภาพแค่ไหน สภาพจิตคนเรานั้น ด้วยหลักวิทยาศาสตร์และพุทธศาสตร์ เราบรรจุ กุศล-อกุศล ไว้เต็มเพียบตั้งแต่เกิดมา วันใดจิตใจดี มีกุศลมากจิตก็จะคิดแต่เรื่องดีๆสบายใจทั้งวัน เป็นกุศล ..วันใดจิตมีอกุศลมาก จิตก้พัง..จะดึงกลับมากุศล ก็ทำไม่ได้เพราะกำลังจิตแรงไม่พอจะดึงกลับ นั่นธรรมชาติของจิต ที่จะคิดแต่อกุศล เห็นไหมครับ มันจึงย้อมติดเรา บีบเรา ให้ลืมไม่ได้ตัดความคิดไม่ขาด หากกำลังจิตอ่อนด้วย ภารกิจ ธุรกิจ ปัจจุบันที่ทำ ไม่ยอมปลีกวิเวก จิตมันก็มีแรงมากที่จะคิดแต่เรื่องร้ายๆ..
    สรุป ..จิตต้องตั้งมั่นในกุศลก่อนมากๆสัก 70-30 ผมว่าน่าจะมีคุณภาพดีแล้ว จึงจะปฏิบัติธรรมได้ผลเต็มร้อยเลย นั่นหมายความว่าพยายามละอกุศล..ละนันทิ กาม ราคะ ความชอบ ความอยาก ให้จิตเบาบางที่สุด เบาบางที่สุด ทุกวัน ทุกเวลา ควรปฏิบัติเลย การปฏิบัติจะเห็นผลมาก ไม่เชื่อลองทำดูนะครับ มันจะไม่วิ่งกลับ-ไป-มา-อย่างรวดเร็วเหมือนเดิมหากพยายามละนันทิ มันจะช้าลง ช้าลง ครับ..
     
  9. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    อาจารย์ อย่าเพิ่งเชื่อ จิตไม่ถึงฐานนั้น มันต้องปลีกวิเวก ทำจริงๆ วันหนึ่งๆ พจ.ท่านทำอะไร ในสี่ยามรู้หรือไม่ ใ.ท่านไม่สวดมนต์ เพราะครั้งพุทธกาลไม่มีพุทธมนต์แบบนี้ ท่านสวด ปฏิจจสมุปบาท นั่งสมาธิ ตื่นตีสอง ท่านทำเวียนไปอย่างนี้แหละ..พุทธวจน ว่าไว้อย่างนั้น หากให้ละเอียดอ่าน ฉบับของท่านพุทธทาส แบ่งไว้ชัดเจน (ยูทูป) ไม่ได้ให้เชื่อ ให้เปรียญเทียบ ศึกษาดูครับ แค่มาชวนสนทนา แลกเปลี่ยนกัน ผมนะไม่หลงหลอก เสนอนี่เพราะมีแต่คนไม่รู้จึงไม่ลองทำ ตรวจสอบได้ ครับ (พวกพุทธพาณิชย์-เขากลัวคนรู้-คนฉลาด)อิอิ
     
  10. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :rolleyes: เรื่องสมาธิ ยกไว้ก่อน เพราะเขามีมาก่อนพุทธเจ้าอีก เขาก็ทำกันได้ แต่วิธีการให้เข้าถึงได้เร็วไวคือ ละนันทิ กาม ราคะ.. โดยรู้จักวงจรปฏิจจสมุปบาทซะก่อน เข้าใจให้ดี จิตจะรู้อรืยสัจจ์4 อิทัปปัจยะตา การตัดสังโยชน์บางตัว.. จิตจะมีกำลังไวขึ้น แล้วปลีกวิเวก บวชเลย อาจารยื อิอิ
     
  11. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    มันเป็นธรรมที่ทำให้เกิดการเนิ่นช้าน หากคุณต้องการน้ำมันงา แต่ไปเอาเมล็ดทรายมาคั้น มาคั่ว โดยเข้าใจผิด คิดว่าเมล็ดทรายนั้นเป็นเมล็ดงา ..คุณจะได้น้ำมันงา มาจากที่ใดเล่า..
    ตำราผิด-แผนที่ก็ผิด -ชีวิตก็ยืดยาวลำบากต่อไป..ที่นำมากล่าวนี้แค่ชี้ชวนให้ลองเปิดยูทูปดู ไม่ได้ให้เชื่อ และต้องการมาสนทนาธรรม ใครไม่เชื่อก็ไม่มีปัญหาครับอย่างนั้นเราก็เถียงกันด้วย "ตำรา" คนละฉบับต่อไปอีก แสนปี ก็แล้วกันครับ หาจุดตรงกันยาก (ยกเว้นสมาธินะครับ-เขามีมาก่อนพุทธกาล) อนุโมทนาครับ
     
  12. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    ผู้ได้ชื่อว่า อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ

    อานนท์ ! อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ (อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา) ในอริยวินัย เป็นอย่างไรเล่า ?

    อานนท์ ! ในกรณีนี้

    อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ – ไม่เป็นที่ชอบใจ – ทั้งเป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ
    อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุเพราะเห็นรูปด้วยตา.
    ภิกษุนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า
    “อารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแก่เรานี้ เป็นสิ่งมีปัจจัยปรุงแต่ง (สงฺขต)
    เป็นของหยาบ ๆ (โอฬาริก)
    เป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น (ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺน);
    แต่มีสิ่งโน้นซึ่งรำงับและประณีต, กล่าวคือ อุเบกขา” ดังนี้.

    (เมื่อรู้ชัดอย่างนี้)

    อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ – ไม่เป็นที่ชอบใจ - ทั้งเป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ
    อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ย่อมดับไป, อุเบกขายังคงดำรงอยู่.

    อานนท์ ! อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ – ไม่เป็นที่ชอบใจ - ทั้งเป็นที่ชอบใจ และไม่เป็นที่ชอบใจ
    อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ย่อมดับไป เร็วเหมือนการกระพริบตาของคน อุเบกขายังคงดำรงอยู่.

    อานนท์ ! นี้แล เราเรียกว่า อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศในอริยวินัย ในกรณีแห่ง รูปที่รู้แจ้งด้วยจักษุ.

    (ในกรณีแห่ง เสียงที่รู้แจ้งด้วยโสตะ กลิ่นที่รู้แจ้งด้วยฆานะ รสที่รู้แจ้งด้วยชิวหา
    โผฎฐัพพะที่รู้แจ้งด้วยผิวกาย และ ธรรมารมณ์ที่รู้แจ้งด้วยใจ ทรงตรัสอย่างเดียวกัน
    ต่างกันแต่อุปมาแห่งความเร็วในการดับแห่งอารมณ์นั้น ๆ, คือ

    กรณีเสียง เปรียบด้วยความเร็วแห่งการดีดนิ้วมือ,

    กรณีกลิ่น เปรียบด้วยความเร็วแห่งหยดน้ำตกจากใบบัว,

    กรณีรส เปรียบด้วยความเร็วแห่งน้ำลายที่ถ่มจากปลายลิ้นของคนแข็งแรง,

    กรณีโผฏฐัพพะ เปรียบด้วยความเร็วแห่งการเหยียดแขนพับแขนของคนแข็งแรง,

    กรณีธรรมารมณ์ เปรียบด้วยความเร็วแห่งการแห้งของหยดน้ำบนกระทะเหล็ก ที่ร้อนแดงอยู่ตลอดวัน)

    อุปริ. ม. ๑๔/๕๔๒–๕๔๕/๘๕๖–๘๖๑.


    8%25B1%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%25A8.jpg


    http://buddhaoat.blogspot.com/search/label/อินทรียสังวร
     
  13. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ผมว่าอินทรีย์ภาวนาคนเรามันไม่เท่ากัน จริตคนเราก็แตกต่างกันนะ ความซับซ้อนทางด้านความผูกพันก็ต่างกันไปอีก เงื่อนไขอื่นๆ เยอะแยะไปหมด วิบากกรรมก็ใช่ หลายเหตุปัจจัยมากครับ ก่อนที่จะมารวมๆกันแล้วทำให้คุณเราฯเข้าใจไปแบบหัวข้อกระทู้ครับ หากจะเหมาเอาว่าทั้งหมดเพราะมัวแต่หลงยุค ไปฟังแต่คำสาวก ไม่ฟัง/อ่าน พุทธวจน หากสมมุติว่าเหมาเอาด้วยความคิดแบบนั้น ผมว่าไม่ใช่ครับ ดังที่บอกหลายเหตุปัจจัยครับ และล้วนเป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนด้วย เราไม่เป็นเขาเราจะรู้ได้ยังไงว่าอะไรเป็นอะไรน่ะครับ ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รับพุทธวจนไว้ใส่เกล้าใส่กระหม่อม เป็นไปไม่ได้เลยครับ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังคงเห็นมีการยกอ้างอิงพระสูตรต่างๆกันตลอดมา ดังนั้นเหตุปัจจัยแห่งความเป็นไปมันลึกซึ้งมากกว่าที่คิดนะครับ แต่ก็ขอบคุณในความหวังดี เรื่องพุทธวจนนี่ส่วนตัวก็ศึกษาอยู่แล้ว จะว่าไปแล้วตั้งแต่ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์โน่นก็ใช่ครับ
     
  14. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    แล้วละนันทิ เขาทำกันอย่างไร
    ถามเป็นความรู้นะครับ..
     
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ความเบาสบายๆๆๆ นั้นก็นันทิ ตัวหนึ่ง ทำไม..ไม่ละมัน...ละครับ
     
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมว่า ที่ท่าน จขกท..พยายามเน้น พุทธวจนะ...ประเด็นคือต้องการให้ทุกคนให้ความสำคัญต่อพระธรรม ที่แคบลง...ที่มันเน้นย้ำเอาที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจริงๆ ที่ ไม่ต้องอ่านเยอะม่กไปให้วุ่นวาย

    ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อเล่มจำไม่ค่อยได้ ชื่อว่า..คำสอนของพระพุทธเจ้า หรืออย่างไรนี่แหล่ะ มันก็กระชับ ดีครับ มีเน้นแต่หัวข้อหรือ เนื้อๆครับ ไม่มีน้ำมาปนให้มากมายแต่อย่างใด

    แต่ทั้งนี้ คนที่อ่านแล้วจะเข้าใจได้ ก็ต้องมีการฝึกสติปัฏฐานสี่ มาได้จริงด้วยครับ ถึงจะเข้าใจ..ได้..ต้องเคยฝึกปฏิบัติด้วยนะครับ ...ไม่ไช่จะเอาแต่อ่านเพื่อคิดวิเคราะห์ เหมือนนักวิทย์..ฝแบบนั้นไม่มีทางเข้าใจได้ครับ...อย่างคนที่ฝึกปฏิบัติมาจริง..เขาจะเข้าใจเรื่องพลังงาน ขั้วบวกขั้วลบ อะตอม อิเลคตรอน นิวตรอน ความว่างในอะตอม การทำงานของสนามแม่เหล็ก ของความว่าง...ที่ว่าว่าง...นั้น
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    น่าจะมาแสดงโชว์ต่อกันอีกครับ...นุ่มๆ เบาๆ
    ก็เป็นนันทิ จริงรึเปล่าฮะ
     
  18. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ปฏิบัติธรรมกันมานานมาก..หลายสิบปี ทำไมไม่เอะใจบ้างว่าเพราะอะไรมันไม่..

    ตอบ
    พระศาสดาบอกไว้
    ปฎิบัติง่าย บรรลุเร็ว
    ปฏิบัติง่าย บรรลุช้า
    ปฎิบัติลำบาก บรรลุเร็ว
    ปฎิบัติลำบาก บรรลุช้า

    มาปัจจุบัน มีเยอะอยากบรรลุธรรม
    ถ้าเจอครูอาจารย์ที่รู้จริง ก็โชคดีไป..
    ถ้าเจอครูอาจารย์ที่รู้ไม่จริง ก็โชคร้ายไป มันจะพาไปว่ายวนไปวนมาอยู่ในอ่าง..

    ที่สำคัญ การที่เข้าใจว่าเจ้าของบรรลุแล้ว..
    (โดนกิเลสมันหลอกว่าเจ้าของบรรลุแล้ว)
    อันนี้อัตรายกับเจ้าของ และลูกศิษย์ อย่างมาก..
     
  19. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ผมยังเบี่ยงมาแนวสายปราบผีเลย เพราะนิพพานมันยากมาก
    กะทำเป็นอาชีพ แต่ไม่รู้จะเริ่มไงดี เมื่อวานบ่นมากเจอผีประตูเลย
    ต้องปิดแรงๆ นะ ให้คนได้ยิน ผีก็มีหัวใจรึไง ปราบมากเสี่ยงเป็นมะเร็งอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...