ปรอทสำเร็จ ของดีจากตำนาน

การทำปรอทให้แข็งของพม่ากับทางอินเดียดูแล้วผลงานออกมาใกล้เคียงกันมาก....

<iframe src="http://www.facebook.com/video/embed?video_id=111841278925925" width="300" height="400" frameborder="0"></iframe>



<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/71mttSkPIHQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

วิชาปรอทดั่งเดิมมาจากอินเดียครับ ทั้งสองสายทำแล้วก็ขลังเหมือนๆกัน ใช้กันภูติพรายภยันอันตรายต่างๆทั้งไข้ระบาดก็ได้ ถ้ารู้สูตรทวีตัวยาหุงนานวันเข้าไปอีกก็มีโอกาสได้ปรอทชั้นสูงอมแล้วเหาะได้เหมือนกัน แต่อย่างไทยเราที่ทำแล้วอัศจรรย์มากๆก็มีหลวงพ่อศรีอ่องปรอทท่านนับว่าอัศจรรย์มากครับ และอีกหลายๆท่านอย่างหลวงปู่คำสิงห์นี่ก็สุดยอด เรียกว่าที่เห็นคลิปเทียบไม่ติดเลยครับ หรืออย่างอาจารย์โยธินทำปรอทเมฆสิทธิ์กลับสีในตัวเป็นทองก็แปลกไปอีกแบบ จะบอกว่าแต่ละที่มีดีไม่เหมือนกันก็ได้ครับ

 

ไม่ทราบว่า"วังหน้าลิ้นดำ"คือท่านใดครับ

 

วันนี้ได้ลองนำ พระที่แตกชำรุด 3องค์นำมารวมกันครับ
โดยมี -พระเหล็กไลสีปีกแมลงทับ -พระปรอทปิดตาหลวงปู่อวน -ปรอทดิบเหลวที่อยู่ในเบี้ยแก้

นำ3สิ่งนี้มาหลอมรวมกัน พอโดนความร้อน ทั้ง3สิ่งจะไหลมารวมกันกลายเป็นเนื้อเดียวกัน และผลที่ได้คือ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/wONTtQ0f6hgWeGbw" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/0e9/5TgfBU.jpg" /></a>


ที่น่าแปลกคือ ทำการผสมเหมือนกัน แต่สีออกมาไม่เหมือนกัน
ชั้นบนออกเป็นสีทองเป็นหลัก
ชั้นกลางเป็นสีเงินยวง
ชั้นล่างเป็นสีออกเทาดำ

นำมาให้ชมกันครับ

 

วังหน้าลิ้นดำ หรือสมเด็จพระบัณฑูรลิ้นดำ คือ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ พระองค์เป็นลูกของสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นวังหน้าองค์สุดท้ายในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระองค์เป็นศิษย์พระลึกลับองค์หนึ่ง เรียกกันว่าหลวงปู่ใหญ่ เชื่อกันว่าพระองค์สำเร็จจิตชั้นสูง

 

สุดยอดครับ ดูแปลกตาดี ชั้นกลางที่เป็นสีเงินยวงเพราะมีปรอทในเนื้อเยอะ ส่วนชั้นบนกับชั้นล่างคงมีเนื้อแร่เหล็กไหลมากครับ

 

คุยกับอาจารย์โยธินและอีกหลายๆท่านที่มีความรู้เรื่องปรอทสำเร็จ มีท่านนึงให้ความรู้ว่า การสำเร็จปรอทของคนโบราณเขามีเคล็ดในการหาส่วนผสม นอกจากว่านที่ว่าหายากแล้วยังมี น้ำในจอมปลวก คำว่าน้ำในจอมปลวก หมายถึงรังจอมปลวกที่เป็นเนินพูนขึ้นมา เมื่อลองขุดจอมปลวกดังกล่าวดูหากเจอน้ำเต้าหินซ้อนอยู่ภายในให้แงะน้ำเต้านั้นดูจะพบน้ำขังอยู่ภายใน เอาน้ำนั้นแหละมาหุงปรอทจะได้ปรอทวิเศษ

นอกจากนี้ยังต้องหาใยแมงมุมสีทอง อาจารย์โยธินท่านบอกว่าตัวท่านก็เคยเห็นตัวยาชนิดนี้ มันเกิดจากแมงมุมชนิดหนึ่งตัวใหญ่พอควร ชักใยมาเป็นสีทองดูแปลกตา ถ้าเอาใยมาเป็นส่วนผสมในการหุงปรอทจะทำให้ปรอทเกิดแววประกายทองสวยงามยิ่ง

นี่แหละครับเคล็ดลับแปลกๆ ในการหุงปรอทของไทยเรา

 

ขอบคุณครับพี่ทิพยจักร^^ ตอนแรกคิดว่าคือพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท

 

.........

...พอดีมีปรอทกินเงินของครูบาศรีอ่อง ที่บูชามาจากพี่ท่านหนึ่งในเวบนี้ และได้นำทองคำเปลวแท้ ให้ปรอทกิน

...เมื่อได้อ่านเรื่องราวจากคุณทิพยจักรแล้ว ก็อยากจะลองดู ปกติจะนำปรอทมาภาวนา นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ 108 จบ แล้วภาวนาคาถาจักรพรรดิ์ต่อ

...แต่ว่าไม่ได้ขอพลังพระจักรพรรดิ์เข้าปรอท หรือขอให้หลวงปู่ดู่ช่วยเสกปรอทเพิ่มเติมให้ และไม่เคยขอให้เป็นดั่งดวงแก้ว หรือปรอทอธิษฐาน

...ดังนั้นเมื่ออ่านแล้วก็เลยลองอธิษฐานดูค่ะ ขอให้หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ และครูบาศรีอ่อง มาช่วยเสกเพิ่ม จากนั้นก็สัพเพ แล้วจึงอธิษฐาน

...สรุปว่าเห็นผลดีขึ้นตามที่คุณทิพยจักรแนะนำมาค่ะ รู้สึกถึงความแตกต่าง การงานมีความคล่องตัวมากขึ้น และรู้สึกว่าจะดีมากขึ้นไปอีกค่ะ

...อีกอย่างรู้สึกถึงพลังในปรอทมากขึ้น เหมือนมีชีวิต เวลาภาวนาก็เหมือนเราถือดวงแก้ว ประมาณนี้ค่ะ

...จึงขอโมทนากับการแนะนำนี้ด้วยนะคะ เป็นการแนะนำที่ดีมากๆเลยค่ะ

 

ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์ครับ ธาตุที่มีพื้นฐานดีย่อมเป็นสื่อเชื่อมโยงพลังงานได้ดีด้วยเช่นกัน เมื่อนำมาเสกหรือประจุย่อมดีกว่าธาตุอื่นเหมือนเสือติดปีก ผมเองเวลานั่งสมาธิจะนำปรอทมานั่งภาวนาด้วย โดยมีเคล็ดคือระลึกว่าหลวงปู่ทวดหรือหลวงปู่ดู่มานั่งอยู่กับเราทุกครั้งจะอยู่เหนือศีรษะก็ดีหรือจะมานั่งข้างหน้าเราก็ดี อธิษฐานเบื้องต้นก่อนเริ่มภาวนาว่าขอให้ดวงปรอทนี้เป็นลูกแก้วหลวงปู่ทวด จากนั้นก็นั่งภาวนาครับ ท่องพุทธัง ธัมมัง สังฆัง แล้วสวดคาถาจักรพรรดิ์ สิ่งที่ได้คือระหว่างภาวนาจิตจะสงัดมาก และจะไม่ลืมทำนิมิตว่าเป็นองค์พระทรงเครื่องจักรพรรดิ์เข้าสถิตย์ในดวงปรอทด้วย ลองแล้วทดสอบแล้วได้ผลจริงก็เลยบอกต่อ

หลักและวิธีแบบนี้ไม่เฉพาะกับปรอทนะครับกับแก้วโป่งข่ามหรือลูกแก้วราคาถูกหรือเหล็กไหล หินบาดาล อะไรก็ได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคือให้ความใส่ใจกับการภาวนาในใจเรามากที่สุด ถ้าทำตามหลักแล้วของที่เราอธิษฐานเอาไว้จะมีพลังเย็นน้อมไปในทางกุศลแก่ผู้บูชา ทำให้ใจใฝ่ภาวนาทำทานถือศีลเสมอเพราะอธิษฐานบุญฝากไว้ก็ใช่ เพราะพระท่านดลใจก็ใช่ และที่แน่ๆภายในวัตถุนั้นๆจะมีพระสถิตย์รักษาอยู่เป็นสิริมงคลแก่ตัวเราเองยิ่งๆขึ้นไป

อนุโมทนาครับ

 

เหล็กเปียก

 

เยี่ยมครับ

 

อาจจะเป็นต้น ปั๊กเป้าครับ เอาไว้กวาดคอเวลาเด็กไอมากๆ ไม่รู้ถิ่นอื่นเรียกอะไรครับ

 

มันเป็นแบบไหนครับ...หาต้นมาให้ดูหน่อยครับ.....คงไม่ใช่ต้นนี้แน่เพราะมันก็เีรียกปักเป้าเหมือนกัน

 

ปรอทสำเร็จลูกศิษย์หลวงปู่ละมัย จ.เพชรบูรณ์ (จับไม่มีสีดำติดมือ)

ความเหมือนที่แตกต่าง

 

ปรอทสำเร็จอีกชนิด (จับมีสีดำติดมือ)

ความเหมือนที่แตกต่าง

 

สวยครับ

 

ประเภทฆ่าปรอท

1.ว่านผักเบี้ยโหรา
ทอดดีบุกเป็นเงิน กินถึงตาย

2.ว่านพระยากลอย
3.ว่านพระยากรวด
4.ว่านพระยากา
รากเหมือนมะกอก ยางเหมือนต้นงิ้ว

5.ว่านพระยางู
6.ว่านพระยาหมี
ในวันดับ คือ 15 ค่ำสิ้นเดือน จะได้ยินเสียงดังเหมือนหมี

7.ว่านพระยาริดตีนปู
เอาไปวางบนหลังปู ขาปูหลุดหมดทันที

8.ว่านพระยาแร้งแค้น
กลิ่นเหมือนกระเทียม

9.ว่านพระยาอังกุลี
10.ว่านสมอ
11.ว่านแสงฟ้า
12.ว่านเขามูกหลวง
13.ว่านช้อยนางรำ/มีดยับ/แผวแดง
เมตตา กวักเงินกวักทองเข้าบ้าน ฆ่าปรอท

14.ว่านนาคราช/พระยานาค

ใครจะรองหรือมีต้นว่านหรือหาว่านได้ตามตำราช่วยบอกด้วยครับ....ต้นว่านพวกนี้โดนทำรายไปมากเพราะว่าเขาไม่เห็นคุณค่าเพราะเห็นเป็นว่านที่มีพิษและเป็นอันตรายแก่ลูกหลานกินเข้าไปอันตรายถึงชีวิต...คาดว่าโดนตัดทิ้งหมด...เลยหาทำยายากจริงๆครับ....ใครอยู่ นครปฐม ไม่รู้ว่าที่บ้านอาจารย์หล่อมีหรือปล่าวครับ....พะตะบะ ยังหาแท้ๆทำยายากเลยครับ.....เอาไว้จะมาเล่าเรื่อง ว่าน พะตะบะให้ฟังครับ.....อ่านแล้วอยากได้ไว้ใช้ซักหัวเลยครับ....แน่นอนจริงๆ.....

 

มีหนังสืออุณมิลิตปี47ลงเกี่ยวกับปรอทไว้มีรูปพระชัยขนาดบูชาที่สร้างจากปรอทด้วย,เดี๋ยวจะส่งไปให้ครับพี่สิริมงคลชัย