ประกาศ เรื่องภัยทางน้ำ ข่าวน้ำท่วมที่ต่างๆ (ทั่วโลก)

Falkman · 24 สิงหาคม 2010

กระทู้นี้เอาไว้อัพเดท ภัยที่เกิดจากทางน้ำ เช่น น้ำท่วม คลื่นซัดฝั่ง เขื่อนพัง ฯลฯ จะได้ไม่เปลืองกระทู้ (i)

Falkman · 13 มกราคม 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>ฝนตกหนักในฟิลิปปินส์ ทำคนตายแล้ว 21 คน</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>มะนิลา 13 ม.ค. - สำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์แจ้งว่า น้ำท่วมและแผ่นดินถล่มที่เกิดจากฝนตกหนักนานกว่าสัปดาห์ทางตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน
ฝนตกหนักที่เกิดจากอิทธิพลของแนวอากาศเย็นและดีเปรสชั่นฤดูร้อน ทำให้เกิดแผ่นดินถล่มและน้ำในแม่น้ำเอ่อท้นท่วมฝั่งบนเกาะเลย์เต้และเกาะซามาร์ ทางตอนกลางของประเทศ รวมทั้งเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ ทางการได้รับแจ้งตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน สูญหาย 5 คน และบาดเจ็บอีก 16 คน ขณะที่ประชาชนราว 23,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และมีบ้านเรือนพังเสียหายกว่า 800 หลัง ถนนหลายสายบนเกาะมินดาเนายังคงใช้การไม่ได้ เพราะน้ำท่วมหรือพังเสียหาย. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

Falkman · 13 มกราคม 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>เกิดน้ำท่วมในภาคใต้ของมาเลเซีย มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัย 50,000 คน</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>กัวลาลัมเปอร์ 13 ม.ค. - สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานในวันนี้ว่า เกิดฝนตกหนักในภาคใต้ของมาเลเซีย ส่งผลให้ประชาชนประมาณ 50,000 คน ต้องหลบภัยในที่สูง หลังพยายามกลับเข้าบ้านพัก
อุทกภัยครั้งนี้เป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 37 ปี ส่งผลให้ถนนหลักหลายสายในรัฐยะโฮร์ถูกตัดขาด โดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองยะโฮร์ บารู ประสบภัยรุนแรงที่สุด ประชาชนเกือบ 20,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่ และคาดว่าสถานการณ์จะเลวร้ายมากขึ้น เนื่องจากฝนจะตกต่อเนื่องจนถึงวันจันทร์
เมื่อเดือนที่แล้วมีผู้เสียชีวิต 15 คน และไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 100,000 คน เนื่องจากน้ำท่วม สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ. –สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

Falkman · 14 มกราคม 2007

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">14-16มค.อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง นครฯ-นราฯระวังอันตราย [14 ม.ค. 50 - 06:06]
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 14 มกราคม 2550 เมื่อเวลา <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-comffice:smarttags" /><st1:time Hour="4" Minute="0">04:00</st1:time> น. ว่า ความกดอากาศสูง หรือ มวลอากาศเย็นยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาในระยะนี้ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 14-16 มกราคม 2550 บริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายฝั่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปถึงนราธิวาสระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือในอ่าวไทยตอนล่างควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย <o></o>
<o></o>
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา <st1:time Hour="6" Minute="0">06:00</st1:time> วันนี้ ถึง <st1:time Hour="6" Minute="0">06:00</st1:time> วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ <o></o>
<o> </o>
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. <o></o>
<o> </o>
ภาคเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 11 องศา สูงสุด 31 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. <o></o>
<o></o>
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 13 องศา สูงสุด 31 องศา สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7 - 12 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. <o></o>
<o></o>
ภาคกลาง อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ ชม. <o></o>
<o></o>
ภาคตะวันออก อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 35 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร <o></o>
<o></o>
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีหมอกในตอนเช้า เหนือจังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมาอากาศเย็นและมีเมฆบางส่วน ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปถึงนราธิวาสมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร <o></o>
<o></o>
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร <o></o>
<o> http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=33392</o>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

Catt Bewer · 16 มกราคม 2007

นักวิชาการวิตกปัญหาคลื่นอ่าวไทย เตรียมตั้งศูนย์เฝ้าระวัง-รับตามไม่ทันธรรมชาติ

นครศรีธรรมราช - พล.ต.ดร.นพรัตน์ เศรษฐกุล นักวิชาการประจำหลักสูตรเทคโนโลยีและการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง สำนักวิศวกรรมศาสตร์ และการจัดการทรัพยากร กล่าวว่า ปัญหาคลื่นที่รุนแรงและลมมรสุมที่พัดกระหน่ำอ่าวไทย ในระยะนี้ถือว่ารุนแรงกว่าทุกปี และมีความพยายามในการก่อสร้างแนวกำแพงกันคลื่น ซึ่งเป็นการสร้างเพียงส่วนหนึ่งจะป้องกันบริเวณนั้น แต่ก็จะไปส่งผลกระทบอีกส่วนหนึ่ง สังเกตได้จากความเปลี่ยนแปลงของตะกอนมีสูงมากขึ้น

พล.ต.ดร.นพรัตน์ กล่าวว่า ในขณะนี้มีแนวคิดในการขอความร่วมมือจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามและฟื้นฟูการกัดเซาะชายฝั่ง ความชัดเจนจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการเชิญชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ปัญหา นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ กรมการขนส่งทางน้ำ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมพาณิชยนาวี มาร่วมกันแก้ปัญหา โดยการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นำภูมิปัญญาจากชาวบ้านมาใช้ ติดตามศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของกระแสน้ำ ส่วนตะกอนอาจจะมีการแก้ปัญหาโดยการนำทรายมาจากที่อื่นมาถมแล้วปลูกป่าชายเลนหรือดำเนินการอย่างอื่น

"ที่ผ่านมาปัญหาคือการไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นเร็วมาก การศึกษาแต่ละครั้งใช้เวลาศึกษา ผลสรุปใช้เวลานับปี แต่เมื่อลงมือทำโครงการ ธรรมชาติก็เปลี่ยนไปแล้ว เวลานี้ทะเลกินผืนดินเข้ามาเร็วมาก ปัญหานี้ใหญ่กว่าสึนามิทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่างเร่งด่วน ส่วนการทำงานของศูนย์แห่งนี้อาจจะอยู่ในรูปของการศึกษาปัญหา วิธีการแก้ไข และเสนอไปยังรัฐเพื่อดำเนินการเท่านั้น" พล.ต.ดร.นพรัตน์กล่าว

นายประยุทธ แก้วประสิทธิ์ นายกอบต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สภาพบรรยากาศของแหลมตะลุมพุกล่าสุดคลี่คลายลง แนวคลื่นลดความรุนแรงลงมีความสูงประมาณ 2-3 เมตรเท่านั้น น้ำทะเลหนุนน้อยลง มีเรือประมงของชาวบ้านเสี่ยงออกไปทำการประมงแล้วบางส่วน เนื่องจากไม่มีรายได้จำเป็นต้องออกไปหาปลาเลี้ยงชีพ และคาดว่าเร็วๆ นี้กองเรือประมงพื้นบ้านชุมชนแหลมตะลุมพุกจะสามารถออกเรือได้ ส่วนสภาพจิตใจชาวบ้านส่วนใหญ่ดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากทุกคนทราบข่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงห่วงใยชาวบ้านในพื้นที่
http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03pro01160150&day=2007/01/16

Catt Bewer · 16 มกราคม 2007

คาด"เอลนีโญ"เล่นงานไทย "เหนือ-กลาง-อีสาน"รับมือแล้ง!

นักวิชาการจุฬาฯ เตือนไทยรับมือสถานการณ์ "เอลนีโญ" ทำให้มีฝนน้อย อากาศแห้งแล้ง-ร้อน หลังพบความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและด้านตะวันออกที่เคยมีอุณหภูมิสูงลดระดับลง

ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์เอลนีโญ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและด้านตะวันออกมีอุณหภูมิสูงขึ้น

ข้อมูลล่าสุดพบว่า จากเดิมที่ค่าดัชนีระดับอุณหภูมิน้ำทะเล เคยสูงถึง 1.5-2 องศาเซลเซียส มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549

ปัจจุบัน อุณหภูมิน้ำทะเลเริ่มมีแนวโน้มลดระดับลง แต่ยังไม่สามารถบอกว่าจะเป็นเอลนีโญระดับปานกลางหรืออ่อน เพราะต้องรอให้ดัชนีนิ่งก่อน คาดว่าอีก 2-3 สัปดาห์จะชัดเจน โดยผลกระทบจากเอลนีโญที่กำลังจะเกิดขึ้นมีแนวโน้มว่าฝนจะน้อยกว่าปีปกติร้อยละ 20 และส่งผลให้อากาศแล้งและร้อนโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง อีสาน เหนือ โดยเฉพาะเดือนม.ค.-พ.ค.นี้ และถ้าโชคดีช่วงกลางปีมีฝนตกลงมา จะทำให้วิกฤติแล้งคลี่คลายลงไปได้บ้าง

ดร.อานนท์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าจับตาใกล้ชิดคือพบข้อมูลด้วยว่า ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงภาวะเอลนีโญมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ช่วงปลายปีจนถึงขณะนี้มีพายุที่พัดมาจากทะเลจีนใต้ผ่านเข้ามาในประเทศแถบเอเชียประมาณ 10 ลูก ถือว่ามีค่าเฉลี่ยเยอะมากในรอบ 10 ปี

และทุกครั้งจะมีระดับความรุนแรงสร้างความเสียหายกับประเทศที่เจอพายุมาก เช่น แถวประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย

ส่วนของไทยช่วงปลายปีพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันตกเจอคลื่นลมมรสุมที่มีกำลังแรงกว่า 5 เมตรซัดเข้าสู่ฝั่ง ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่าหากพายุอ่อนกำลังลง ก็จะมีลมหนาวจากจีนแผ่ปกคลุมและดันลงมาทำให้เกิดภาวะแปรปรวน

"ถือเป็นปีเอลนีโญที่ค่อนข้างแปลกมาก เพราะมีฝน มีพายุในอ่าวไทย โดยเฉพาะช่วงนี้ขอให้ชาวบ้านในแถบจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ลงไประมัดระวังคลื่น Swell ที่เกิดจากลมมรสุมฤดูหนาวที่พัดมาจากทางทิศเหนือตามลิ่มของมวลอากาศเย็น ซึ่งปกคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย เพราะมีโอกาสที่จะเจอคลื่นเหมือนกับฝั่งอ่าวไทยตะวันตกได้ เพราะมีความแปรปรวนของภูมิอากาศ" ดร.อานนท์ กล่าว

http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03tec15160150&day=2007/01/16

Falkman · 17 มกราคม 2007

Flood Warning - Europe

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD class=loc_hdr colSpan=4>Event summary</TD></TR><TR><TD colSpan=4></TD></TR><TR><TD>GLIDE Number</TD><TD>FA-20070117-9414-GBR</TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Event type</TD><TD>Flood Warning</TD><TD>Date / time [UTC]</TD><TD>17/01/2007 - 04:41:02 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR><TD>Country</TD><TD>United Kingdom</TD><TD>Area</TD><TD>Southern Britain</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>County / State</TD><TD>-</TD><TD>City</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Cause of event</TD><TD>Unknow</TD><TD>Log date</TD><TD>17/01/2007 - 04:41:02 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Damage level</TD><TD>Not or Not data </TD><TD>Time left</TD><TD>- </TD></TR><TR><TD>Latitude:</TD><TD>N 52° 10.000</TD><TD>Longitude:</TD><TD>E 1° 0.000</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Number of deaths:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of injured persons:</TD><TD>Not or Not data</TD></TR><TR><TD>Number of missing persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of infected persons</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Number of evacuated persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Summary:</TD><TD>0 persons *</TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2>-</TD></TR><TR><TD colSpan=4><HR><SMALL>* Attention! The number of stakeholders is based on estimation, only for information!</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD colSpan=4>DESCRIPTION</TD></TR><TR><TD colSpan=4>Do not be fooled by Sunday's fine January weather in Suffolk - we have not seen the end of this winter's wind and rain. Weather forecasters are warning the county to batten down the hatches again tomorrow night as another storm is set to hit southern Britain, bringing with it high winds and heavy rain. Flood warnings have again been posted for the west of the region but because the wind is due to come from the south west, coastal flooding should not be a problem. Elsewhere in the country the heavy rain over the last few weeks has caused serious flooding problems. The centre of the historic city of York was under water as the River Ouse burst its banks. It is not uncommon in the city but does cause problems for businesses and residents. So far this winter has seen rainfall 40per cent above the long-term average across England which is good news for water companies which have seen their reservoirs refill and underground aquifers start to recover after two winters of below-average rainfall. At present there is no clear indication of a change to the winter weather. Forecasters expect next week to be slightly colder and dryer but no forecasters are yet predicting that snow is on its way. However, the Government's Meteorological Office does warn that we could be in for a cold snap during the second half of the winter - from mid February onwards - as the northern hemisphere starts to feel the effect of the El Nino weather pattern in the south Pacific. This could change weather patterns across northern Europe for a few weeks, bringing Britain a cold blast from Scandinavia. However, forecasters say it is far too early to say if or when that phenomenon could have an impact on our weather.
<SCRIPT type=text/javascript>function kezel(box,link1,link2) { if (box.style.display=='none') { box.style.display=''; } else { box.style.display='none'; } link1.style.display='none'; link2.style.display=''; }function linkset(box,link) { box.style.display='none'; link.style.display='none'; }</SCRIPT>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

vena · 17 มกราคม 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วมเหมืองจีน คนงานติดอยู่ภายในหลายสิบ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 มกราคม 2550 16:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> เกิดน้ำท่วมเหมืองแร่เหล็ก ในเขตมองโกเลีย ทางภาคเหนือของจีน วันนี้ ส่งผลให้คนงานเหมือง 36 คนติดอยู่ด้านใน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังพยายามให้ความช่วยเหลือ ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมของคนงานเหมืองเหล่านี้ อีกทั้งไม่ทราบจำนวนคนงานที่ทำงานอยู่ในเหมืองขณะเกิดเหตุดังกล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

Falkman · 18 มกราคม 2007

Torrens Flood - Australia

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD class=loc_hdr colSpan=4>Event summary</TD></TR><TR><TD colSpan=4></TD></TR><TR><TD>GLIDE Number</TD><TD>FF-20070118-9442-AUS</TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Event type</TD><TD>Torrens Flood</TD><TD>Date / time [UTC]</TD><TD>18/01/2007 - 06:13:49 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR><TD>Country</TD><TD>Australia</TD><TD>Area</TD><TD>-</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>County / State</TD><TD>State of New South Wales</TD><TD>City</TD><TD>Nyngan</TD></TR><TR><TD>Cause of event</TD><TD>Unknow</TD><TD>Log date</TD><TD>18/01/2007 - 06:13:49 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Damage level</TD><TD>Catastrophic </TD><TD>Time left</TD><TD>- </TD></TR><TR><TD>Latitude:</TD><TD>S 31° 34.000</TD><TD>Longitude:</TD><TD>E 147° 11.000</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Number of deaths:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of injured persons:</TD><TD>Not or Not data</TD></TR><TR><TD>Number of missing persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Number of infected persons</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Number of evacuated persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Summary:</TD><TD>0 persons *</TD></TR><TR><TD align=left colSpan=2>-</TD></TR><TR><TD colSpan=4><HR><SMALL>* Attention! The number of stakeholders is based on estimation, only for information!</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD colSpan=4>DESCRIPTION</TD></TR><TR><TD colSpan=4>Nyngan, in central western New South Wales, has been declared a natural disaster area. The declaration will enable affected residents and businesses in the Bogan Shire to access State Government assistance to help deal with the aftermath of Monday night's storm. The torrential rain, hail and strong winds severely damaged several homes and businesses, prompting more than 80 calls for help to the State Emergency Service (SES). The Member for Murray Darling, Peter Black, says the declaration recognises how devastating the storm has been for Nyngan. "It's a tragedy for Nyngan and for the people of Nyngan and of course for the shire - houses without roofs, the RSL damaged of course, the motel damaged - within that framework the formula for a disaster area has been met," he said. Mr Black says the money has already been released and will go towards rebuilding what has been lost. "The shire assets that have been imperilled, destroyed, whatever, the money has been released from treasury and we are doing what we can to assist you, not withstanding the fact of course we all understand our hearts go out to you with the problems that you have and the problems your going to get in future days," he said. Bogan Shire Mayor Ray Donald says most of the clean-up has been finished and SES crews will return home today.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตอนนี้น้ำท่วมฉับพลันที่ออสเตเลีย ที่นิวเซาเวลล์ ตอนนี้ได้ออกประกาศเป็นแหล่งเกิดภับพิบัติทางธรรมชาติแล้ว

รู้สึกว่าน้ำทั่วโลกเริ่มเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น

นายฉิม · 19 มกราคม 2007

ส่วนประกอบของน้ำลาย

น้ำลายประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้

1. น้ำร้อยละ 99.5
2. เอนไซม์อะไมเลส ช่วยย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต
3. เมือก เป็นสารคาร์โบไฮเดรตผสมโปรตีนทำให้อาหารรวมกันเป็นก้อน ลื่นและกลืนสะดวก

แม่นายมล · 21 มกราคม 2007

น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย (07.26 น.)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
น้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
พื้นที่ใน 4 เขตของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลียต้องถูกโดดเดี่ยวตัดขาดจากโลกภายนอก หลังเกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างต่อเนื่องจนทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่พื้นที่ทำความเสียหายให้แก่ถนนหนทาง เทือกสวนไร่นา และบ้านเรือนของประชาชน ซึ่งประชาชนต้องนำกระสอบทรายมาวางกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำสูงเข้าท่วมบ้านเรือนไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ ยังคงเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าหากระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เขื่อนกักเก็บน้ำในพื้นที่รองรับน้ำไม่ทัน จนอาจเกิดน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนอีกระลอก

21-01-2550 | 07.26

kananun · 22 มกราคม 2007

จากคำตอบพีเอ็มของสมาชิกท่านหนึ่งครับ

`สวัสดีครับ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>คาดว่าน้ำจะท่วมกรุงเทพ มีความเป็นไปได้อยู่สามกรณีครับ

-เกิดสึนามิทางด้านอ่าวไทย อันเป็นผลจากแผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิดในมหาสมุทร

ซึ่งข้อมูลทางธรณี ก็ปรากฏว่ามีภูเขาไฟประทุอยู่ในระดับสีส้มเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากครับ

-การเกิดแผ่นดินไหวที่แนวเลื่อนศรีวัสดิ์และทำให้เขื่อนเขาแหลมแตก และน้ำหลากลงมาจากเมืองกาญจน์ และท่วมกรุงเทพครับ

-การเกิดพายุฝนที่มีความรุนแรงสูง คล้ายกับที่ทางยุโรป และอเมริกาใต้ ตลอดจนออสเตรเลีย กำลังประสบอยู่ตอนนี้ จากการที่มวลของน้ำทะเลที่ละลายจากขั้วโลก สะสมในชั้นบรรยากาศเป็นปริมาณมหาศาลครับ

ดังนั้นถ้ากำลังจะสร้างบ้านใหม่ขอแนะนำให้ถมที่ดินให้สูงเป็นพิเศษสักหน่อย และถ้ามีทุนทรัพย์พอก็ควรเผื่อสเปคสำหรับ การเกิดแผ่นดินไหวไว้บ้างโดยการเพิ่มขนาดเล็ก ลวดล็อคเหล็กเส้นและขนาดเสาเข็ม

วางระบบให้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน โดยขอข้อมูลได้โดยตรงที่กระทรวงพลังงาน มีการหมุนเวียนนำน้ำทีใช้อุปโภค เวียนกลับไปใช้รดน้ำต้นไม้

วางระบบให้พึ่งพาตนเองได้พอควร มีระบบสำรองน้ำดื่ม น้ำใช้และพลังงาน

ส่วนห้องใต้ดินในกรุงเทพนั้นไม่แนะนำเนื่องจาก เป็นที่ต่ำ จะมีปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึมและความชื้นครับ

(verygood)

Catt Bewer · 24 มกราคม 2007

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>1 แสน 1 หมื่นไร่ แผ่นดินไทยที่หายไป

ตวงศักดิ์ ชื่นสินธุ

</TD><TD vAlign=top align=right>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ไม่ใช่เรื่องของการเสียดินแดน

ไม่ใช่เรื่องของการสู้รบปักปันดินแดนให้แก่ใคร

แต่เป็นเรื่องของภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์รายวันได้เสนอข่าวใหญ่ถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่ถูกกัดเซาะหายไปเป็นบริเวณกว้าง แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครตระหนักถึงความรุนแรง ไม่เห็นถึงความสำคัญ ซึ่งถ้ายังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะมานั่งถามกันว่าแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน

น่าตกใจที่ชั่วเวลา 30 ปีที่ผ่านมา พื้นที่ในประเทศไทยหายไปแล้วกว่าแสนไร่ เท่ากับพื้นที่หายไปกว่าครึ่งค่อนของพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

ที่อันตรายมากที่สุดและอยู่ใกล้เมืองคือที่ จังหวัดสมุทรปราการ และที่บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ที่มีอัตราการกัดเซาะกว่า 25 เมตรต่อปี และ 20-25 เมตรต่อปี ตามลำดับ

ตัวเลขเหล่านี้ รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการสำรวจวิจัยมานานกว่า 10 ปี และได้เขียนรายงานไว้อย่างละเอียด

รศ.ดร.ธนวัฒน์เล่าว่า ไม่เพียงชายฝั่งทะเลทั้งที่สมุทรปราการและบางขุนเทียนจะมีอัตราการกัดเซาะมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ชายฝั่งร่นเข้ามาทุกขณะ เช่น ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ฯลฯ ซึ่งการกัดเซาะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อหลายอำเภอในแต่ละจังหวัด

แม้จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาดำเนินการ แต่ไม่ได้เป็นไปในภาพรวม เพราะการทำเครื่องกีดขวางเพื่อลดกระแสความรุนแรงของคลื่นในที่หนึ่ง อาจส่งผลกระทบในอีกที่หนึ่ง การไม่ประสานงานร่วมกัน จึงย่อมเกิดผลเสียมากกว่าผลดี

รศ.ดร.ธนวัฒน์ อธิบายต่อไปว่า ประเทศไทยมีแนวชายฝั่งทะเลประมาณ 2,667 กิโลเมตร ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เกิดขึ้นในทุกจังหวัดชายฝั่งทะเล ทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามันทั้ง 23 จังหวัด

ชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทยตั้งแต่บริเวณชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกจากจังหวัดตราด จนถึงบริเวณชายฝั่งทะเลชายแดนภาคใต้จังหวัดนราธิวาส ซึ่งมีความยาวชายฝั่งทะเลทั้งสิ้น 1,653 กิโลเมตร ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีจุดวิกฤตด้านการกัดเซาะ 22 จุด รวมเป็นพื้นที่ 180.9 กิโลเมตร ในพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะประมาณ 56,531 ไร่

สำหรับชายฝั่งทะเลด้านอันดามัน พบการกัดเซาะชายฝั่งทะเลขั้นรุนแรง 8 จุด เป็นพื้นที่ 23 กิโลเมตร จากพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะทั้งสิ้นประมาณ 7,187 ไร่

นั่นคือ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีพื้นที่ชายฝั่งทะเลทั่วประเทศที่ถูกกัดเซาะไปทั้งสิ้น 113,042 ไร่

"จุดกัดเซาะที่อันตรายที่สุด คือจังหวัดสมุทรปราการ และเขตบางขุนเทียน กทม. สองจุดนี้หนักที่สุด บางแห่งถูกกัดเซาะ 1 กิโลเมตร หรืออย่างพื้นที่ปากแม่น้ำบางปะกงถึงปากแม่น้ำแม่กลองระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตรถูกกัดเซาะไป 82 กิโลเมตร พื้นที่หายไป 18,000 ไร่"

สาเหตุที่พื้นที่ชายฝั่งถูกกัดกร่อนไปเรื่อยๆ นั้น นอกจากแรงปะทะของคลื่นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อาทิ ปริมาณตะกอนบริเวณปากแม่น้ำลดลง ปัญหาแผ่นดินทรุดบริเวณชายฝั่งทะเล ทำให้อัตราการกัดเซาะมีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ยังเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ป่าชายเลนซึ่งเป็นแนวป้องกันชายฝั่งทะเลตามธรรมชาติถูกทำลายอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการขุดทรายชายฝั่งทะเล ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลมีความรุนแรงมากขึ้น

ฉะนั้น พื้นที่ที่ประสบปัญหาวิกฤตเร่งด่วน เป็นพื้นที่ที่ควรมีมาตรการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนโดยเฉพาะ การมีมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น (1-3 ปี) และทำควบคู่พร้อมกับการมีมาตรการแก้ไขในระยะยาว (3-5 ปี)

เท่าที่ทำการสำรวจ พบว่าพื้นที่วิกฤตที่อยู่ในกลุ่มนี้ได้แก่ บริเวณตะวันตกบ้านคลองสีล้ง อำเภอบ้านบ่อ-บ้านบาง สำราญ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ, บ้านแหลมสิงห์-ปากคลองขุนราชพินิตใจ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ และปากคลองขุนราชพินิตใจ-บ้านท่าตะโก เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

วิธีการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในระยะยาว ที่ควรทำหลังหรือทำควบคู่กับมาตรการแก้ไขระยะสั้น คือการผสมผสานวิธีการแก้ไขปัญหาแบบอ่อนและแบบแข็งเข้าด้วยกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาพพื้นที่มากที่สุด

"แนวทางการป้องกันในพื้นที่วิกฤตเร่งด่วนมีการกัดเซาะรุนแรง ต้องใส่โครงสร้างเพื่อช่วยธรรมชาติที่ไม่สามารถฟื้นของมันเองได้ ซึ่งทางทีมวิจัยได้รับเงินจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และได้ทำการทดลองจุดแรกที่บ้านขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ ด้วยการทำแท่งคอนกรีตรูปสามเหลี่ยม นำไปปักห่างจากทะเลประมาณ 500 เมตร โดยปักเป็นสามแถว เพื่อช่วยลดแรงปะทะของคลื่น

"งบประมาณที่ใช้ในการทดลองประมาณ 12 ล้านบาท โดยระดมนักวิจัยประมาณ 20 คน มาร่วมกันวิจัย และเก็บข้อมูลเรื่องคลื่น เรื่องตะกอน เราคาดหวังว่า ถ้าโครงการประสบความสำเร็จ ก็จะนำเสนอต่อรัฐบาลในรูปแบบการป้องกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะกับพื้นที่บริเวณอ่าวไทยตอนบน ซึ่งมาถึงตอนนี้นับว่าวิกฤตที่สุดแล้ว"

รศ.ดร.ธนวัฒน์ กล่าวย้ำอย่างหนักแน่นว่า ถ้าไม่รีบป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งเสียตั้งแต่ตอนนี้ ประเทศไทยจะเสียพื้นที่ให้กับการกัดเซาะอีกเยอะแน่นอน

"การกัดเซาะเป็นภัยพิบัติเงียบ แม้ว่าหลายหน่วยงานจะให้ความสนใจ แต่ผลที่ตามมาเราพบว่ายังคงเกิดการกัดเซาะที่รุนแรง ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นการแก้ปัญหาการกัดเซาะเป็นจุดๆ ไม่มีการมองในภาพรวม ซึ่งบางทีการสร้างเขื่อนดักตะกอนเพื่อแก้ปัญหาจุดหนึ่งได้ก็จริง แต่หารู้ไม่ว่ากลับส่งผลกระทบทำให้พื้นที่อื่นเกิดการกัดเซาะเร็วขึ้นและมากกว่าเดิม

"ที่ผมวิตกคือ จากนี้ไปหน่วยงานเทศบาล อบต.จะนำงบประมาณไปป้องกัน ซึ่งยิ่งจะทำให้ชายฝั่งเละเทะและเสียหายมากขึ้น ทางที่ถูกคือน่าจะมีหน่วยงานมาทำหน้าที่ดูแล และนำเชิงวิชาการเข้ามาช่วยอย่างเร่งด่วน" อาจารย์ธนวัฒน์แสดงความเป็นห่วง

ส่วนแนวทางการแก้ไขของจังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเช่นกัน

กิตติพันธ์ เพชรชู หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าถึงสภาพของชายฝั่งทะเลแถบนครศรีธรรมราชว่า อำเภอที่ได้รับผลกระทบคือ ขนอม สิชล ท่าศาลา ปากพนังบางส่วน และหัวไทร ระยะประมาณ 225 กิโลเมตร ปัจจุบันน้ำทะเลได้หนุนให้คลื่นสูงขึ้น และพัดเข้ามาบริเวณที่พักอาศัยของชาวบ้าน ก่อให้เกิดความเสียหายมาก รวมทั้งทำให้ถนนเลียบชายทะเลได้รับความเสียหายด้วย ส่วนที่แหลมตะลุมพุกได้รับผลกระทบเช่นกัน โชคดีที่บริเวณที่น้ำขึ้นไม่มีประชาชนอาศัยอยู่

"กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาผลกระทบเกี่ยวการกัดเซาะชายฝั่งที่ปากพนังและอำเภอหัวไทร เพื่อจัดทำเป็นโครงการนำเสนอ โดยอำเภอปากพนังจะได้งบประมาณ 360 ล้านบาท ต่อ 1 ปี จะทำเป็น 3 ระยะ ปี 2550-2553

"ตอนนี้ได้งบฯ ซีอีโอ ของจังหวัดช่วยเยียวยาชายฝั่งทะเลที่ได้รับผลกระทบในระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งยังไม่เพียงพอ ในส่วนของจังหวัดจะแก้ไขเฉพาะหน้าก่อน" กิตติพันธ์บอก

ส่วนที่ชาวบ้าน 50 ครัวเรือน บริเวณหมู่ที่ 2 ที่อาศัยอยู่ป่าชายเลนที่แหลมตะลุมพุกมาเรียกร้องนั้น กิตติพันธ์ว่า ในเบื้องต้นใช้งบฯฉุกเฉินช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ายังมองว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ ไม่เร่งดำเนินการแก้ไขเสียแต่ตอนนี้ สุดท้ายพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เรายังเห็นๆ กันอยู่ในวันนี้คงจะมีสภาพไม่ต่างจากหลักกิโลเมตรกลางน้ำที่โผล่ให้เห็นอยู่ลิบๆ เหมือนที่บางขุนเทียนก็เป็นได้

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra01240150&day=2007/01/24

Catt Bewer · 24 มกราคม 2007

5 จุดวิกฤตชายฝั่งทะเลไทย

1.ชายฝั่งทะเลบ้านแหลมสิงห์-ปากคลองขุนราชพินิตใจ จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทางประมาณ 12.5 กิโลเมตร ปัจจุบันพื้นที่ชายฝั่งถอยร่นเข้ามาประมาณ 700-800 เมตร บางแห่ง เช่น บ้านขุนสมุทรจีน หมู่ 9 พื้นที่ถูกกัดเซาะหายไปประมาณ 1 กิโลเมตร ในช่วง 28 ปี ด้วยอัตราการกัดเซาะมากกว่า 25 เมตรต่อปี

2.ชายฝั่งทะเลปากคลองราชพินิจใจ-บ้านท่าตะโก เขตบางขุนเทียน กทม. ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร มีอัตราการกัดเซาะ 20-25 เมตรต่อปี ช่วง 28 ปีที่ผ่านมาพื้นที่หายไป 400-800 เมตร

3.ชายฝั่งทะเลบ้านเคียนดำ-บ้านบ่อนนท์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่ถูกกัดเซาะประมาณ 8 กิโลเมตร

4.ชายฝั่งทะเลบ้านแหลมตะลุมพุก-บ้านบางบ่อ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอัตราการกัดเซาะประมาณ 8 เมตรต่อปี

5.ชายฝั่งบ้านเกาะทัง-บ้านหน้าศาล จังหวัดนครศรีธรรมราช ความยาวทั้งหมดประมาณ 23 กิโลเมตรตลอดความยาวชายฝั่งทะเลนี้มีการกัดเซาะขั้นรุนแรง ทำให้ถนนพัง ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่บริเวณอื่น อัตราการกัดเซาะประมาณ 12 เมตรต่อปี สาเหตุเพราะแนวชายหาดที่เปิดโล่งวางตัวในทิศทางเกือบเหนือ-ใต้ ทำให้ได้รับแรงกระแทกของคลื่นขนาดใหญ่ในฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่เคลื่อนเข้าหาฝั่งในทิศทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือโดยตรง

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra02240150&day=2007/01/24

สาเหตุของการกัดเซาะ

1.การกัดเซาะเนื่องมาจากคลื่นลมในทะเล การเบี่ยงเบนและความรุนแรงของคลื่นขึ้นอยู่กับทิศทางและความเร็วของลมประจำถิ่นและลมพายุจรเป็นหลัก กล่าวคือ ร้อยละ 45 ของแนวชายฝั่งทะเลของโลกมีสาเหตุการกัดเซาะมาจากคลื่นลมในทะเล

2.การลดลงของพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็นแนวป้องกันทางธรรมชาติที่ช่วยรักษาแนวชายฝั่งทะเลไม่ให้ถูกกัดเซาะโดยคลื่นลมและกระแสน้ำชายฝั่ง

3.การลดลงของตะกอนจากแม่น้ำ เนื่องจากปัจจุบันบริเวณต้นน้ำของแม่น้ำเกือบทุกสายมีการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ หรือพัฒนาทางการเกษตร ทำให้มีตะกอนถูกพัดพามาตกตะกอนบริเวณปากแม่น้ำน้อยลง ดังนั้นกระแสน้ำชายฝั่งทะเลที่เกิดจากคลื่นลมเมื่อเคลื่อนตัวผ่านบริเวณชายฝั่งที่มีปริมาณตะกอนที่ลดลง จึงเหลือพลังงานพอที่จะพัดพาตะกอนชายฝั่งทะเลในบริเวณใกล้เคียงให้เคลื่อนตัวต่อไปได้ อันเป็นสาเหตุให้การกัดเซาะชายฝั่งทะเลมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น กรณีตัวอย่างของลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา

4.การทรุดตัวของแผ่นดิน จากการศึกษาของ AIT (1980) พบว่าพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พ.ศ.2521-2524) มีอัตราการทรุดตัวของแผ่นดินมากกว่า 10 เซนติเมตรต่อปีในบริเวณชานเมืองย่านตะวันออก ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวมีพื้นที่ถูกกัดเซาะมากถึง 6,419 ไร่ ทำให้พื้นที่ถูกกัดเซาะชายฝั่งทะเลมากกว่าการงอกของชายฝั่งทะเลประมาณ 3,350 ไร่

http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra03240150&day=2007/01/24

Falkman · 25 มกราคม 2007

2007-01-25 07:05:38 - Extreme Weather - Canada

<CODE>GLIDE CODE: ST-20070125-9544-CAN
Date & Time: 2007-01-25 07:05:38 [UTC]
Area: Canada, State of British Canada, Terrace area, ( MAP)

Description:

<CODE>Heavy rain has flooded neighbourhoods in the Terrace area of northwestern B.C. and shut down highways across the region. Terrace fire Chief Pete Weeber said that because of the frozen ground, the water can't be absorbed, so it's "flowing freely" down some streets. He said a number of streets that are covered with several feet of water have been blocked off, and the water has also caused a mudslide in the eastern part of the city. Weeber also said volunteers have been busy filling sandbags, and that there have not been any widespread evacuations. Most of Highway 16 from Prince Rupert to Terrace has been closed because of avalanche danger and massive pools of water. Highway 37 from Terrace to Kitimat is open, but crews report water ponding at Furlong Bay. There is also water ponding at Morrison Creek near Kitimaat Village. Officials say they expect this rain to taper off, with sunshine in the forecast for the next few days.</CODE>

Damage level: Moderate</CODE>
<CODE></CODE>
<CODE>ฝนตกจำนวนมากทำให้น้ำท่วมในแคนาดา แล้วก็เกิดดินถล่มด้วย</CODE>

Falkman · 3 กุมภาพันธ์ 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headline-bold>กรุงจาการ์ตาเจออุทกภัยครั้งใหญ่ คนกว่า 4 หมื่นหนีตาย

</TD></TR><TR><TD class=text-normal-th bgColor=#e9e9f3>จาการ์ตา 3 ก.พ. - ภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเวลา 2 วัน ทำให้กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียต้องจมอยู่ใต้น้ำ พื้นที่บางส่วนระดับน้ำท่วมขังสูงถึงคอ
ทางการได้ออกมาเตือนว่า หากฝนยังไม่หยุดตก ระดับน้ำในแม่น้ำอาจเพิ่มขึ้น และจะทำให้ปัญหาอุทกภัยในกรุงจาการ์ตารุนแรงยิ่งขึ้น ทางการได้สั่งตัดน้ำตัดไฟในพื้นที่ย่านใจกลางกรุงจาการ์ตา ซึ่งถูกน้ำท่วมอย่างหนักเพื่อความปลอดภัย ชาวบ้านกว่า 4 หมื่นคน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปยังที่ปลอดภัย ถนนหลายสายที่มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงจาการ์ตาถูกปิด เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงมาก เช่นเดียวกับเส้นทางรถไฟก็ถูกปิดตายเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ระบุว่า สาเหตุที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในครั้งนี้ นอกจากจะมาจากระดับน้ำในแม่น้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ยังมีน้ำหลากจากภูเขาทางใต้ของกรุงจาการ์ตาเข้ามาสมทบอีกด้วย ทางการได้เตือนให้ผู้ที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งน้ำให้อพยพไปยังที่สูงเพื่อความปลอดภัย โดยระบุว่าภาวะฝนตกหนักจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์. – สำนักข่าวไทย
</TD></TR></TBODY></TABLE>

Catt Bewer · 4 กุมภาพันธ์ 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำท่วมหนักกรุงจาการ์ตา ชาวบ้านไร้ที่อยู่นับแสน!!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กุมภาพันธ์ 2550 20:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>สภาพบ้านเรือนในกรุงจาการ์ตาที่ถูกน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี - หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครพยายามเข้าช่วยเหลือชาวอินโดฯที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเกือบ 190,000 คน จากเหตุน้ำท่วมหลังฝนกระหน่ำทั้งในและรอบกรุงจาการ์ตา เมื่อวันนี้(4) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 20 ราย

มีการพยากรณ์ว่า ฝนจะตกเพิ่มอีก เจ้าหน้าที่จึงจัดให้จาการ์ตาเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งกำลังเพิ่มอีก 12,600 นาย พร้อมด้วยเฮลิคอปเตอร์ เรือและแพยาง เข้าไปช่วยอพยพผู้คนทั่วจาการ์ตา

ในบางพื้นที่ ระดับน้ำสูงขึ้นไปถึงหลังคาบ้าน เนื่องจากน้ำในแม่น้ำและลำคลองที่มีอยู่ทั่วกรุง ขึ้นท่วมฝั่ง หลังจากเกิดฝนกระหน่ำติดต่อกันหลายวัน

อันตัง โยกะ อานา โฆษกตำรวจจาการ์ตา กล่าวว่า น้ำท่วมในกรุงจาการ์ตาและพื้นที่โดยรอบครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 คน และสูญหาย 1 คน

"ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นเสียชีวิตจากการป่วย ความหนาว ถูกไฟดูด หรือถูกน้ำพัดหายไป" อานากล่าวกับสำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซีย

พื้นที่ในจาการ์ตา และเมืองรอบๆ อย่างน้อย 122 เขต ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก เขากล่าว

สำนักข่าวอันตารายังอ้างคำจากหน่วยงานความร่วมมือบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติด้วยว่า ตัวเลขผู้อพยพที่ต้องละทิ้งบ้านเรือนเนื่องจากน้ำท่วม ตอนนี้อยู่ที่เกือบ 190,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 106,095 คนที่มีการลงทะเบียนไว้เมื่อวันเสาร์(3)

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยแพร่ภาพพื้นที่รอบๆจาการ์ตาที่จมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งส่วนมากจะเป็นพื้นที่เลียบแม่น้ำซิลิวุง เปซังราฮัน และครูคุต และภาพชาวบ้านกำลังถูกอพยพออกจากหลังคาหรือชั้นสองของบ้าน

ประตูระบายน้ำในเมืองอีสต์จาการ์ตาไม่สามารถปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในตัวเมืองจาการ์ตาได้อีกต่อไป ทำให้น้ำในคลองสำคัญของกรุงจาการ์ตาเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมฝั่ง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการประมาณจำนวนครอบครัวที่จำเป็นต้องอพยพออกนอกพื้นที่

สมาชิกสภากาชาดอินโดนีเซียและอาสาสมัครจากหน่วยงานอื่นๆช่วยแจกจ่ายอาหารให้ผู้คนนับพันที่ติดอยู่ในบ้านที่ถูกน้ำท่วม หรือผู้คนที่ต้องออกมาอยู่ตามริมถนน

มัสยิด โรงเรียน และอาคารสาธารณะอื่นๆทั่วจาการ์ตาที่ไม่ถูกน้ำท่วม ก็ถูกใช้เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับผู้ไร้บ้าน รายงานข่าวโทรทัศน์เผย

น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้ต้องปิดถนนสายสำคัญหลายสายทั่วกรุงจาการ์ตา ขณะที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 แห่ง ต้องย้ายคนไข้ขึ้นชั้นบน

หลายพื้นที่ที่จมอยู่ใต้น้ำถูกตัดขาดจากไฟฟ้าและน้ำสะอาด ผู้คนอย่างน้อย 5,000 คน ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสารได้

"ลักษณะอากาศจะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงสิ้นเดือนก.พ.เป็นอย่างน้อย" เอดิสัน เกิร์นนิง จากกรมอุตุนิยมวิทยาและกายภาพพื้นโลก กล่าว

เกิร์นนิงระบุว่า น้ำจะท่วมกินพื้นที่กว้างกว่านี้ เพราะฝนจะตกทางตอนใต้ของจาการ์ตา ซึ่งเป็นบริเวณกักเก็บน้ำ

ผู้อาศัยในเขตเกลาปาเกดิง ในเมืองนอร์ธจาการ์ตา ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยและย่านการค้า ที่ถูกน้ำท่วมในปี 2002 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 40 คน กล่าวว่า น้ำท่วมคราวนี้แย่กว่ามาก

"ครั้งที่แล้ว น้ำสูงแค่เข่า แต่เมื่อวานนี้ ตอนที่ผมออกมา น้ำก็สูงถึงใต้อกผมแล้ว" บราห์มันตา ผู้ซึ่งสามารถออกจากบ้าน 2 ชั้น ของเขาได้ ขณะที่ระดับน้ำยังต่ำอยู่

"ผมจะอยู่บนชั้น 2 ของบ้านก็ได้ แต่มันไม่มีอาหาร ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำสะอาด ส้วมก็ชักโครกไม่ได้" เขากล่าว

รัชมัต วิโตลาร์ รมต.สิ่งแวดล้อมอินโดฯ โทษว่า น้ำท่วมครั้งนี้เป็นเพราะมีการก่อสร้างศูนย์การค้าในพื้นที่ระบายน้ำตามธรรมชาติมากเกินไป และบอกด้วยว่า นักพัฒนาที่ดินจำนวนมากไม่ให้ความใส่ใจกับผลกระทบทางนิเวศอย่างเพียงพอ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000013996</TD></TR></TBODY></TABLE>

Falkman · 25 กุมภาพันธ์ 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-02-24 16:12:36 - Landslide - Pakistan

<CODE>GLIDE CODE: LS-20070224-10029-PAK
Date & Time: 2007-02-24 16:12:36 [UTC]
Area: Pakistan, Kashmir, Poonch, Muzaffarabad ( MAP)

Description:

<CODE>A landslide triggered by rains struck a van in Pakistani Kashmir on Saturday, killing at least 11 people, police said.The van with around 20 passengers on board was travelling in the southern district of Poonch when it was hit by the landslide."Eleven bodies have been recovered and five seriously wounded people have also been pulled out," local police official Mohammad Anwar said, adding that rescuers were searching for ay remaining passengers.Landslides are common in Pakistan's northern mountainous areas, which were hit by a massive earthquake in October 2005 that killed more than 73,000 people.</CODE>

Number of Deads: 11 persons</CODE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
แผ่นดินถล่มจากฝนตกหนักในแคว้นแคชเมียร์อิหร่าน โคลนถมรถแวนซึ่งมีคนอยู่ในรถ ตายไป 11 คน

Falkman · 27 กุมภาพันธ์ 2007

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-02-27 04:04:58 - Flood - Bolivia

<CODE>GLIDE CODE: FL-20070227-10072-BOL
Date & Time: 2007-02-27 04:04:58 [UTC]
Area: Bolivia, El Beni, , Trinidad ( MAP)

<FIELDSET class=EC_watch>WATCH MESSAGE!</FIELDSET>

Description:

<CODE>The Bolivian government is drawing up plans to evacuate the northeastern city of Trinidad, which has over 90,000 inhabitants, if devastating flooding worsens, President Evo Morales said Sunday. The worst floods to strike Bolivia in 25 years have isolated Trinidad and killed some 35 people. Officials fear the floodwaters may spill over a dike surrounding the city. "We have instructed the authorities to draft a plan to evacuate Trinidad in case the water keeps rising, because if the water flows over the dike, the whole of Trinidad will be under water, it will be washed away," Morales said during a trip to the central Cochabamba region, according to state news agency ABI. The capital of Beni province, Trinidad is surrounded by a roadway that acts as a dike protecting the city from the frequent floods. Residents say the water is rising about 2 inches (5 cm) a day and it is only a matter of time before it flows over the dike. Hundreds of people have already abandoned their swamped homes and are now living in tents outside Trinidad, while others have taken refuge in churches and schools.

The government says some 350,000 Bolivians are suffering the hardships of extreme weather triggered by El Nino, an oscillation of marine-atmospheric systems characterized by warm surface waters in the eastern Pacific, aggravated by global warming. Morales blamed the flooding on industrialized nations "that pollute the environment and change the weather." Heavy rains have also affected the eastern province of Santa Cruz, the country's agricultural heartland, washing out some 494,000 acres (200,000 hectares) of crops -- including 383,000 acres (155,000 hectares) of soy, the main agricultural export. Aid from countries including the United States, Italy, Venezuela, Peru and Argentina, is arriving. But the destruction to the roads and a shortage of aircraft mean it cannot reach many of the affected areas.</CODE>

Number of Deads: 35 persons
Damage level: Catastrophic</CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>
น้ำท่วมหนัก โบลิเวีย อเมริกาใต้ คนตายไป 35 คน

Falkman · 27 กุมภาพันธ์ 2007

เจ้าพายุที่เราจับตามอง ได้เข้ามาแล้ว ทำลายหลายอย่าง

<META content="Microsoft SafeHTML" name=Generator><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-02-27 07:03:19 - Tropical Storm - Madagascar

<CODE>GLIDE CODE: TC-20070227-10082-MDG
Date & Time: 2007-02-27 07:03:19 [UTC]
Area: Madagascar, , , ( MAP)

<FIELDSET class=EC_warning>!!! WARNING WARNING WARNING !!!</FIELDSET>

Description:

<CODE>Report by UN OCHA: Gamede is now a tropical cyclone (category 3) with expectations that it will continue to intensify. Landfall, if any will have significant consequences. Even if Gamede does not hit Madagascar, the associated rainfall will exacerbate the already precarious flooding situation. As the cyclone season is still in full force, the situation could deteriorate further.

Impact so far:

- 7 deaths
- 32,705 victims
- 7,845 homeless
- 90,419 hectares of agricultural land flooded
- 124,778 MT of rice harvest lost.</CODE>

Number of Deads: 7 persons
Number of Injured persons: 32705 persons
Damage level: Catastrophic
</CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ประกาศ เรื่องภัยทางน้ำ ข่าวน้ำท่วมที่ต่างๆ (ทั่วโลก)

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

vena เป็นที่รู้จักกันดี

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

kananun เป็นที่รู้จักกันดี

Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

ไฟล์ที่แนบมา:

storm.JPG

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ประกาศ เรื่องภัยทางน้ำ ข่าวน้ำท่วมที่ต่างๆ (ทั่วโลก)

ไฟล์ที่แนบมา:

storm.JPG

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา