ประวัติหลวงพ่อปราโมทย์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 20 กันยายน 2009.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    >[​IMG] </O:p>
    กราบถวายความนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า ผู้เป็นบรมครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย<O:p></O:p>
    กราบถวายความนอบน้อมแด่พระธรรม ซึ่งเป็นธรรมอันประเสริฐของพระพุทธเจ้าที่จะนำพามนุษย์หลุดพ้นจากห้วงแห่งทุกข์<O:p></O:p>
    กราบถวายความนอบน้อมแด่พระสงฆ์ ทั้งพระอริยะสงฆ์ และสมมุติสงฆ์ผู้ดำรงไว้ซึ่งพระศาสนา <O:p></O:p>
    กราบถวายความนอบน้อมแด่พระโยคาวจรเจ้าผู้เร่งความเพียรเพื่อที่จะปลดปล่อยตัวเองออกจากห้วงแห่งอนันตทุกข์ <O:p></O:p>
    กราบถวายความนอบน้อมแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ทุกๆ ท่าน ทุกๆ พระองค์<O:p></O:p>
    และกราบถวายความนอบน้อมแด่หลวงพ่อปราโมทย์ ด้วยความนับถือ ศรัทธา บูชาสุดหัวจิตหัวใจ<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    20/5/2551<O:p></O:p>
    ค่ำคืนนี้<O:p></O:p>
    ที่เงียบเชียบ หลังพายุฝนกระหน่ำหนัก (ชวนให้นึกถึงพายุไซโคลนนาร์กีส)<O:p></O:p>
    ร่ำๆ จะปิดคอมฯ ลุกหนีไป<O:p></O:p>
    แต่อยู่ๆ ก็นึกชื่อ "สันตินันท์" ขึ้นมาในหัว<O:p></O:p>
    จึงพิมพ์คำว่า สันตินันท์ ลงในหน้าเวบกูเกิ้ล<O:p></O:p>
    และเวบแรกที่กูเกิ้ลนำมาถวายไว้ตรงหน้าก็นำพาเราไปสู่สิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เรานับถือศรัทธาหลวงพ่อปราโมทย์อย่างสุดจิตสุดใจ<O:p></O:p>
    นับถือ ศรัทธา บูชาเป็น "พ่อทางธรรม" (เพิ่งไปกราบถวายตัวเป็น "ลูก" ทางธรรมมาเมื่อวาน-วันวิสาขบูชา)<O:p></O:p>
    แต่เราไม่เคยทราบประวัติของ "พ่อ" เท่าไหร่นัก<O:p></O:p>
    ทราบ แต่ว่า ท่านปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เด็ก ปฏิบัติมาขณะเป็นฆราวาส ขณะรับราชการอยู่สภาความมั่นคงแห่งชาติ และเพิ่งถือบวชเป็นเพศบรรชิตเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ข้อ ความในบล็อกนั้น ยกข้อความที่ "สันตินันท์" เคยบันทึกไว้ (หลวงพ่อใช้นามปากกาว่า "สันตินันท์" และ "อุบาสิกานิรนาม" ในการเขียนธรรมะในโลกไซเบอร์)<O:p></O:p>
    อ่านไปๆ ทำให้เราได้ทราบประวัติความเป็นมาของ "พ่อ" อย่างละเอียดขึ้น<O:p></O:p>
    อ่านไปๆ พร้อมกับดูภาพของ "พ่อ" ที่มีคนนำมาลงไว้ในบล็อก รอยยิ้มของพ่อนั้นเต็มไปด้วยความเบิกบาน มีแต่ความเมตตา<O:p></O:p>
    อ่านไปๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรื้นออกมาคลอเบ้า ขนลุกซุ่ ความสุขแผ่ซ่านทั่วสรรพางค์กาย...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    อ่านจบ ความเลื่อมใสศรัทธาที่เคยหาประมาณมิได้ ยิ่งศรัทธามากขึ้นอย่างสุดประมาณ...<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    หลวงพ่อปราโมทย์-พ่อทางธรรม<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้นำความสว่างมาสู่ชีวิตเรา<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้เสมือนให้กำเนิดใหม่ของชีวิตเรา<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจให้ก้าวเดินไปบนเส้นทางธรรม<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้เดินนำทางไปก่อน และชี้ทางให้ก้าวเดินตาม<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้พยายามนำพาสัตว์โลกในยุคปัจจุบันไปสู่ความหลุดพ้น<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้ทำให้โลกไม่ว่างจากพระอรหันต์<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้เป็นหนึ่งความหวังของพระศาสนาของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าในโลกปัจจุบัน<O:p></O:p>
    พ่อ...ผู้เสมือนศาสดาผู้มีชีวิตในชาติปัจจุบันของเรา<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    กราบบูชา "พ่อ" ด้วยหัวใจ... <O:p></O:p>
    ขอกราบถวายบุญกุศลที่ลูกได้กระทำมาแล้วทุกชาติทุกภพแก่ หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ......<O:p></O:p>
    นี่คือข้อความที่ "พ่อ" บันทึกไว้ในนาม "สันตินันท์" เมื่อครั้งยังครองเพศฆราวาส<O:p></O:p>
    ......<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    การครองเรือน กับ การปฏิบัติธรรม...สันตินันท์ <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ผมกับภรรยานั้น ถ้าว่าในทางโลกก็นับว่าพอใช้ได้ ทั้งการศึกษาและอาชีพการงาน
    ในด้านชีวิตคู่นั้น ก็เป็นคู่หวานแหววที่คนบอกว่าอิจฉาอยู่เสมอๆ แต่น้อยคนที่จะทราบว่า
    สิ่งที่ดึงดูดเราไว้ด้วยกัน คือความปรารถนาดีต่อกันในทางธรรม

    เรามีความสุขอันเกิดจากความสงบ
    กิจกรรมยามว่างของผมคือการเขียนธรรมะ
    ส่วนภรรยาจะถักไหมพรมเป็นหมวกถวายพระถวายชีไปเรื่อยๆ

    บางทีก็ช่วยกันพิมพ์ธรรมะของครูบาอาจารย์ ถอดเทปธรรมะ หรือเตรียมของไปทำบุญ
    ในแต่ละวัน จะแบ่งเวลาช่วงหัวค่ำไว้สำหรับการภาวนา
    ซึ่งผมจะคอยดูแลให้เธอเดินจงกรม นั่งสมาธิ
    เพราะเธอกลัวความเกิด และกลัวว่าหากจะต้องเกิดต่อไป จะไม่ได้พบกับผมอีกแล้ว
    จนตั้งความปรารถนาว่า ชาติหน้าจะขอเกิดเป็นผู้ชาย
    และขอให้ได้บวชตั้งแต่เด็กเลย
    ส่วนผมเองก็รู้สึกว่า จะต้องพาเธอไปให้ได้
    ตามปณิธานที่ตั้งร่วมกันมานานนักหนาแล้ว

    ในช่วงวันหยุดยาวๆ หรือช่วงปลายปี
    ก็จะพากันไปอยู่ตามวัดป่า แยกกันอยู่ ต่างคนต่างภาวนา
    ถือว่าเป็นเวลาที่มีความสุขและมีคุณค่ามากในชีวิตสมรส
    เพราะเป็นเวลาที่เรารู้ว่า คู่ของเรากำลังทำแก่นสารสาระให้กับตนเอง

    ทีแรกผมก็เฉยๆ กับการบวชครับ เพราะเห็นว่าเป็นฆราวาสก็ปฏิบัติได้ แต่วันหนึ่งพาภรรยาไปนมัสการศิษย์พี่ของผม (ที่เล่าว่าท่านออกบวชทั้งคู่น่ะครับ)
    ท่านก็จวกผมเสียยับเยินต่อหน้าภรรยา ว่า
    สิ่งนั้นก็เห็นอยู่ตรงหน้าใกล้ๆ แค่เอื้อม เอาก็เอาได้ กลับไม่เอา จะรอถึงเมื่อใด แบบนี้เขาเรียกว่าคนประมาท
    เมื่อไหร่จะออกบวช มาทำที่สุด แล้วช่วยกันสั่งสอนพระเณรต่อไป

    พอออกจากที่อยู่ของท่าน ภรรยาของผมก็บอกผมว่า
    พี่บวชเถอะ น้องไม่ต้องการถ่วงพี่ไว้ และน้องก็จะบวชด้วย
    ผมก็พิจารณาดูว่า ถ้าไม่บวชก็คงเอาดีกว่านี้ยาก
    ส่วนภรรยานั้น จิตเธอก็หวุดหวิดๆ มาหลายคราวแล้ว
    หากบวชก็คงผ่านไปได้ไม่ยาก
    ก็เลยกลับไปกราบเรียนหลวงพี่ว่า จะพากันออกบวช
    เมื่อสิ้นภาระในการเลี้ยงดูพ่อแม่ของผมที่แก่มากอายุ 90 ปีแล้ว

    ก็มีเท่านี้แหละครับ ทุกวันนี้ก็อยู่กันอย่างมีความสุขมาก
    แต่ก็พร้อมแล้ว ที่จะพากันออกบวชเมื่อสถานการณ์อำนวย
    ตอนนี้ก็ทะนุถนอมกันมาก เพราะรู้แล้วว่า
    นี้เป็นคราวสุดท้ายแล้วที่จะได้อยู่ด้วยกัน
    โดยคุณ : สันตินันท์ - [12 ก.พ. 2542 21:28:41]




    ที่มา <O:p></O:p>
    Bloggang.com :
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2009
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    กราบอนุโมทนาสาธุเป็นที่สุดค่ะ...อ่านแล้วอดน้ำตาซึมไม่ได้..
    ขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้ค่ะ...
     
  3. adisackdi

    adisackdi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +178
    ขอกราบอนุโมทนา..สาธุด้วยและขอขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้รวมทั้งผู้ที่แนะนำมาให้อ่านด้วยนะครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...