ประสบการณ์ความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์ ของสมเด็จโต

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 26 พฤษภาคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    ความมหัศจรรย์ของการสวดมนต์

    อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ด้วยตัวอาตมาเอง
    ในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปี โดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟ


    ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมร
    ในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูติผีวิญญาณ
    ตลอดจนชาวบ้านที่มีเวทมนต์คาถา
    และเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมายในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้น
    อาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพัง
    ในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนต์คาถาอาคมใดเลย

    นอกจากคำว่า

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    พระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง

    อาตมาไปที่แห่งหนตำบลใด
    ก็จะกล่าวเพียงคำนี้ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมา
    อาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม ในดงพญาไฟขณะนั้น
    ในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อย
    อาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน
    มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้
    เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้น
    อาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี และ ณ ที่แห่งนั้น
    อาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์

    มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้ว
    ชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล
    นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทย์มนต์คาถาอาคม
    เล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้า
    และมักจะทดสอบเวทย์มนต์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ
    บริเวณนี้เป็นประจำ เขาเล่าให้อาตมาฟังว่า
    เขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืน
    แต่ไม่ได้หวังทำรายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย
    เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น
    จะมีวิชาอาคมแก่กล้าสามารถที่จอต่อสู้กับคุณไสยเขาได้หรือไม่
    นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตาถึง 7 วัน เต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนู
    หรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบ

    ตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมา
    ก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย


    วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมา
    อาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทย์มนต์คาถา หรือคุณไสยใด
    นายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหก
    ถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมา
    จึงกลับมายังเขาซึ่งเป็นผู้กระทำ
    ไม่สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่า
    อาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้ผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมา
    จึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนต์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้


    อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า พุทธัง
    สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คุจฉามิ

    จนจิตมีความสงบนิ่งแล้ว จึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย
    จงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลยอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ


    นายผล เมื่อได้ฟังดังนี้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์
    ก็เช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้ ก่อนที่ท่านจะจำวัด
    จงหยดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่
    ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนต์ของท่านเช่นนี้
    จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนต์ถาถาในภูติผีปิศาจของข้า
    พเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าของรับรองว่า
    จะไม่ทำอันตรายแก่ท่าอาจารย์อย่างเด็ดขาดเพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้
    แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

    อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์
    นายผลจึงได้ลากลับไป
    ครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนต์ตามที่ได้ปฎิบัติเป็นปกติ
    เมื่ออาตมานอนหลับไป อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
    เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก จะขึ้นมา
    จึงได้จุดเที่ยนและพบตะขาบใหญ่ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัว
    ของอาตมามาก อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี
    และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนต์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง
    สะระณัง

    คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้
    เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไป
    จากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ

    ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า
    เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักนักอยู่ อาตมาบอกว่า
    อาตมาได้ตื่นมาและตกใจ จึงได

    สวดมนต์ภาวนาตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป

    นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า
    อำนาจเวทมนต์คาถา และคุณไสยใดๆ ของข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้
    ก็เพราะอำนาจแก่การ

    สวดมนต์ภาวนาของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอัตรายต่างๆ ได้

    ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน
    เพื่อให้เป็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ว่า
    เหล่าพรหมเทพได้มาฟังการสวดมนต์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้
    เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้
    ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย
    ที่นายผลส่งมาเล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน

    ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อบาสิกา ในที่นั้น
    เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยกมือขึ้นสาธุว่า
    อานิสงส์ของการสวดมานต่ช่างมีคุณค่าสูงส่งยีงนัก
    .....................................................................
    จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต
    อานิสงส์การสวดมนต์แผ่เมตตามหาบุญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2006
  2. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,189
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ ยิ่งได้ปฏิบัติเป็นประจำ เดี๋ยวนี้รู้แล้วว่า
    การสวดมนต์ พัฒนาทั้งจิตใจ และชีวิตได้จริง มีความสุขสงบใจ
    จากร้ายกลายเป็นดี เห็นผลชัดเจนค่ะ
     
  3. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับผมเองเป็นคนชอบสวดมนต์เพราะติดมาจากพ่อ แม่ ท่านสอนว่าก่อนนอนต้องสวดมนต์ก่อนนอน ส่วนการนั่งสมาธิชอบนั่งตอนเช้า 1 ชม.จิตสงัดดี เข้าฌานง่ายดี
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    พยายามสวดมนต์ภาวนาให้เป็นนิสัยนะครับ มีผลต่อตนเองและครอบครัวจริง ๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...