ประสบการณ์ลี้ลับ:พระภิกษุลึกลับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร”

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 22 เมษายน 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]


    คุณพิศมัย ทรัพย์สุคนธ์ “หมอดูลายเท้า” ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับท่านหนึ่ง ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย เมื่อได้พูดคุยกันคุณพิศมัยได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ประหลาดที่ได้พบเห็นหลากหลายเรื่องราว นับจากวัยเด็กที่คุณพิศมัยฝึกนั่งสมาธิ ท่านก็ได้ไปเยือนในภพภูมิเทวดาและได้ติดต่อพูดคุยกับโอปปาติกะชั้นสูง แม้แต่การจะช่วยเหลือคนในบางครั้งก็ได้วิธีที่ “ข้างบน” กำหนดลงมา



    คุณพิศมัยเป็นอีกคนหนึ่งที่เวลาพูดอะไรออกไปแล้วมักจะเกิดเหตุการณ์นั้น นั่นเป็นเพราะครั้งหนึ่ง คุณพิศมัยเคยพบกับพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชา ท่านได้ให้พรอันหนึ่งว่า “เมื่อจะพูดอะไรออกไปขอให้เป็นจริงตามนั้น” เรื่องนั้นเกิดขึ้นนานแล้ว คุณพิศมัยยังจำได้ไม่ลืม เธอได้เล่าให้ฟังว่า

    “สมัยนั้นสามีฉันเป็นนายสถานีรถไฟใหญ่ที่หัวลำโพง ฉะนั้นเวลาคนสำคัญมาก็ต้องต้อนรับ หลวงพ่อท่านคล้ายวาจาศักดิ์สิทธิ์ ท่านนั่งรถไฟมาลงที่หัวลำโพง มีคนไปต้อนรับท่านเยอะ ขาท่านไม่มีข้างนึงนะ ไปไหนต้องมีคนอุ้ม ก็ได้พบและกราบท่าน ครั้งนั้นท่านได้ให้พร คือให้ฉันพูดอะไรเป็นจริงเหมือนท่าน แล้วก็เป็นจริงๆ จนหลายคนบอกว่าฉันนี่มีอะไรแปลกๆ ในตัวเสมอ”

    ภายในห้องกระจกที่ใช้รับแขกหรือตรวจดูลายเท้าที่บ้านของคุณพิศมัยนั้นมีลักษณะที่น่าสนใจ เพราะเต็มไปด้วยรูปเคารพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และรูปภาพของเหล่าเกจิอาจารย์มากมาย และมีอยู่รูปหนึ่งเป็นรูปของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ซึ่งคุณพิศมัยให้ความนับถือ เคารพบูชากราบไหว้อยู่ทุกวัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาจารย์ได้พบปรากฏการณ์มหัศจรรย์เกี่ยวกับพระภิกษุรูปนี้มาแล้วนั่นเอง คุณพิศมัยย้อนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า

    “ตอนนั้นฉันไปอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ท่านก็ไปเข้าฝัน คือปกติท่านจะมาในนิมิตบ่อย มาบอกคาถาให้หรือมาเตือนด้วยเรื่องต่างๆ คราวนี้ท่านมาเข้าฝันบอกเรื่องราวบางอย่าง ทำให้เรานึกไปถึงลูกชายที่เมืองไทย ก็เลยโทร.มาหาลูกชายบอเขาว่า ถ้ามีคนแก่ขอทานมาที่บ้าน มาในลักษณะของท้าวแสนปม หน้าตาไม่ดีก็อย่าไปว่า อย่าไปไล่เขานะ ให้ทานเขาไป แล้วก็จริงๆ พอ 3 วันจากนั้นท่านก็มาเลย มาให้เห็น ลูกชายบอกเห็นยืนอยู่หน้าบานแว๊บเดียว พอหันมาอีกทีก็หายไปแล้ว ท่านมาลองว่าลูกชายใจบุญมั้ย (หัวเราะ)

    ผู้เขียนบังเอิญไปเห็นรูปของคุณพิศมัยที่ถ่ายไว้ที่ประเทศฮอลแลนด์ และได้เห็นรอยภาพปริศนาที่ประทับอยู่หน้าผากของเธอ ซึ่งเป็นรอยอะไรนั้น คุณพิศมัยบอกว่า

    “ผู้หญิงที่ถ่ายกับฉันในรูปคือคนไทยชื่อ ซูซาน เขาไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น แล้วคนนี้เขานับถือหลวงปู่เทพโลกอุดรอยู่แล้ว แต่ฉันไม่รู้ เพราะตอนไปที่นั่นก็ไปดูให้กับลูกศิษย์ พอดีเขารู้ข่าวเขาก็ต้องการจะลองดูบ้าง ก็เชิญฉันไปพักที่บ้านเขาคืนนึง ปรากฏว่าคืนนั้นฉันก็นอนไม่หลับ ก็บอกกับเขาว่า สงสัยในบ้านเธอต้องมีอะไรซักอย่าง เขาบอกว่า มี‚เดี๋ยวจะเอามาให้ดู ก็เห็นเขาถือก้อนหินมาก้อนนึง ฉันก็ไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เขาก็เอามาให้ถือ ให้อธิษฐาน พออธิษฐานปุ๊บ‚เชื่อมั้ย รูปหลวงปู่เทพโลกอุดรก็ปรากฏอยู่บนหน้าผากฉันเลย ฉันร้องไห้เลย ร้องโดยไม่รู้ตัว ประหลาดมาก และทำให้ฉันนับถือท่านยิ่งขึ้น”

    คุณพิศมัยให้คาถาบูชาหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งอาจารย์บอกว่าหลวงปู่มานิมิตบอกให้โดยตรง ซึ่งหากใครท่องบูชาและอธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครอง สิ่งต่างๆ ที่ไม่ดีก็จะถูกปัดเป่าให้พ้นไป บางคนท่องบูชามากๆ เข้าจะสามารถสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างได้

    คาถาบทนั้นเริ่มต้นด้วย นะโม 3 จบ และตามด้วย

    “โลกุสสะโร มหาเถโร อะหังวันทา เมตตาลาโภ นะโสมิยะ”

    “หลวงปู่เทพโลกอุดร” คือใครนั้นเป็นความลึกลับอย่างหนึ่งในวงการสงฆ์ มีการกล่าวขานถึงท่านมานานว่ามีอยู่จริงหรือเป็นเรื่องหลอกลวง เรื่องราวของท่านเคยขึ้นหน้า 1 เป็นข่าวครึกโครมเมื่อราวกลางปี 43 เนื้อข่าวระบุว่าเรื่องของ หลวงปู่เทพโลกอุดร เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นและดูงมงาย พิสูจน์ไม่ได้ แต่พาดหัวข่าวไม่กี่วันเรื่องก็เงียบไป จริงๆ แล้วพระภิกษุรูปนี้จะมีจริงหรือไม่ ผู้เขียนไม่ขอชี้นำ แต่ขอให้ผู้อ่านลองฟังเรื่องราวจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรงได้เล่าไว้ถึงความเป็นมาของพระภิกษุรูปนี้ดูก่อน เมื่อได้สัมผัสพูดคุยกับผู้ที่เคยพบเห็นพระภิกษุรูปนี้หลายๆ คนแล้วจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนว่า ถ้าหลวงปู่เทพโลกอุดรไม่มีตัวตนจริงในโลก เหตุใดจึงมีใครหลายๆ คนเคยพบเห็นภาพลักษณ์ของท่านและบรรยายลักษณะของท่านออกมาได้ตรงกัน คือเป็นพระภิกษุที่มีลักษณะเหมือนคนโบราณ มีผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศรี น่าเคารพนับถือ ดูจากรูปร่างภายนอกดูหนุ่มแน่น แต่ศีรษะกลับมีผมหงอกขาวโพลนและมีเท้าใหญ่กว่าคนปกติทั่วไป
    จากข้อมูลเกี่ยวกับ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ที่ผู้เขียนได้รวบรวมไว้ กล่าวได้ว่า หลวงปู่ฯมีประวัติความเป็นมาที่ลึกลับซับซ้อน ไม่มีหลักฐานใดมายืนยันได้ว่าท่านเกิดในสมัยใด มาจากไหน ทำให้มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องของท่านกันอย่างกว้างขวาง สำหรับผู้ที่สนใจความลี้ลับมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนา จนมีข้อสรุปและสันนิษฐานว่า “หลวงปู่เทพโลกอุดร” คือพระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา มีความเป็นอมตะไม่ตาย โดยอาจเป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งเมื่อครั้งพุทธพาลที่นิพพานไปแล้ว แต่ยังมีธาตุขันธ์อยู่

    คำว่า “นิพพาน” ตามหลักพุทธศาสนา หมายถึง การดับกิเลสและกองทุกข์ ซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ซึ่ง “นิพพาน” นั้นมีอยู่ 2 อย่าง คือ
    1. สอุปากิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสขณะยังมีเบญจขันธ์เหลืออยู่
    2. อนุปาทิเลสนิพพาน คือการดับกิเลสโดยไม่มีเบญจขันธ์เหลืออยู่


    [​IMG]

    เสียงจีวรสะบัดพรืดเดียว ปรากฏว่ารถทั้ง 31 คันได้รับการเจิมเป็นอักขระด้วยแป้งที่หอมมาก และแต่ละคันอักขระจะไม่เหมือนกันเลย แต่หอมและติดอยู่นานเป็นเดือน เมื่อท่านเดินขึ้นมาบนศาลา ท่านเดินไปที่ตุ่มน้ำมนต์ แล้วชี้ไม้เท้าไปที่ตุ่มน้ำมนต์เป่าลมเสียงดัง 3 ครั้ง อ่างน้ำมนต์กระเทือนจนน้ำมนต์กระฉอกขึ้นทั้งสามครั้ง พอท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่กองมะพร้าวน้ำหอม 20 กว่าลูกที่ทุกคนถวาย กองมะพร้าวก็สั่นสะเทือนและแห่งหมดทุกใบ เสร็จแล้วท่านก็เดินวนรอบคณะผู้มาทอดกฐินที่นั่งเรียงแถวกันอยู่ ทุกคนพากันเอาเงินทำบุญใส่เบญจขันธ์หรือขัน 5 ในที่นี้ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขารและ วิญญาณ มีผู้อ่านหลายท่านเข้าใจว่า “การนิพพาน” คือศัพท์ที่ใช้เรียกพระอรหันต์ที่มรณภาพแล้วเท่านั้น และเมื่อพระอรหันต์นิพพานก็ต้องหายไปจากโลกนี้ เพราะได้ตายจากไปแล้ว แต่แท้ที่จริง “การนิพพาน” ของพระอรหันต์นั้นมี 2 แบบ อย่างที่กล่าวไว้และหลายท่านอาจจะเข้าใจขึ้นว่า เพราะเหตุใด หลวงปู่เทพโลกอุดรท่านจึงยังคงมีร่าง มีฤทธิ์ให้ใครต่อใครได้เห็นอยู่อีก?

    ผู้เขียนเคยได้พูดคุยกับพระภิกษุและฆราวาสที่ฝึกจิต ปฏิบัติธรรมหลายท่านที่ต่างเคยได้พบเห็น “หลวงปู่เทพโลกอุดร” ทั้งเห็นใน “จิต” และเห็นจาก “ตาเนื้อ” เคยถามว่าถ้าหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านอยู่ที่ไหน คำตอบได้มาเหมือนกัน ทุกคนบอกว่า ท่านมักอยู่ในดงลึกที่เงียบสงบและอยู่ในทุกภพทุกภูมิที่ท่านต้องการไป ผู้ที่จะเจอท่านได้ต้องปฏิบัติธรรมให้ได้ญาณและบารมีสูงพอที่จะเข้าไปสู่มิติของท่านได้ และในแต่ละยุคสมัยที่ผ่านมา หลวงปู่เทพโลกอุดร มักนำพาบุคคลที่มีความพิเศษพอที่จะฝึกจิตได้ทั้งพระและฆราวาสไปฝึกในป่าลึก บุคคลเหล่านั้นหลายท่านยั้งมีชีวิตอยู่ในสมัยปัจจุบันที่เรารู้จักก็มี อาทิ หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี พ.อ.ชม สุคันธรัต ครูบาลุ่ม สันตจิตโต วัดจันทาราม จ.เพชรบูรณ์ ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล จ.อยุธยา หลวงปู่โงน โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ปู่โทน หลำแพร (เป็นฆราวาส เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปลายปี 2543) ฯลฯ

    เรื่องราวของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” มีบุคคลหลายวงการให้ความสนใจและพิสูจน์ เมื่อครั้งที่ท่านมาปรากฏตัวและแสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์ที่วัดโนนชาด อ.คำตะกร้า จ.สกลนคร นั้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ บุคคลสำคัญ นักวิชาการบางท่าน รวมถึงชาวบ้านได้ไปรอดูเพื่อพิสูจน์กันอย่างมากมาย และก็ได้เห็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ เหตุการณ์ในวันนั้นทางวัดโนนธาตได้จัดให้มีการทอดกฐินเพื่อถวาย หลวงปู่เทพโลกอุดร เมื่อตั้งองค์กฐินเสร็จ ทุกคนก็สวดมนต์ พอทั้งหมดสวดมนต์จบขณะที่ก้มลงกราบพร้อมกันก็ปรากฏเหตุมหัศจรรย์ มีพระภิกษุรูปหนึ่งสูงเกือบ 2 เมตร ห่มจีวรลึกลับเข้มคลุมตลอดศีรษะ ผมของท่านเป็นหางเปียขนาดใหญ่ยาวเกือบถึงพื้น ท่านปรากฏกายให้ทุกคนเห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ ท่านกระแทกไม้เท้ากับพื้นดังสนั่นแล้วชี้ไปที่องค์กฐินที่ทุกคนต้องถวาย กุฎิทั้งหลังสั่นสะเทือน พอทุกคนก้มลงกราบเสร็จเงยหน้าขึ้นมาดู ท่านก็หายไปแล้ว เหลือแต่กลิ่นหอมประหลาด กลิ่นหอมนี้ไม่เหมือนดอกไม้ที่มีในโลกมนุษย์ หอมมาก และสักครู่ทุกคนก็ได้ยินเสียงไม้เท้ากระทบพื้นอีกครั้ง เมื่อต่างเหลียวไปดูที่ทางเดินก็เห็นพระภิกษุรูปนั้นเดินมาบนถนน ท่านเดินผ่านรถทั้งหมด 31 คันที่จอดอยู่ ทุกคนได้ยินเสียงจีวรสะบัดพรืดเดียว ปรากฏว่ารถทั้ง 31 คัน ได้รับการเจิมเป็นอักขระด้วยแป้งที่หอมมาก และแต่ละคันอักขระจะไม่เหมือนกันเลย แต่หอมและติดอยู่นานเป็นเดือน เมื่อท่านเดินขึ้นมาบนศาลา ท่านเดินไปที่ตุ่มน้ำมนต์ แล้วชี้ไม้เท้าไปที่ตุ่มน้ำมนต์เป่าลมเสียงดัง 3 ครั้ง อ่างน้ำมนต์กระเทือนจนน้ำมนต์กระฉอกขึ้นทั้งสามครั้ง พอท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่กองมะพร้าวน้ำหอม 20 กว่าลูก ที่ทุกคนถวาย กองมะพร้าวก็สั่นสะเทือนและแห้งหมดทุกใบ เสร็จแล้วท่านก็เดินวนรอบคณะผู้มาทอดกฐินที่นั่งเรียงแถวกันอยู่ ทุกคนพากันเอาเงินทำบุญใส่ย่ามท่าน มีบางคนเมื่อเอาเงินใส่ไปในย่ามแล้วก็พยายามล้วงไปจนสุดย่าม แต่ปรากฏว่าล้วงเท่าไหร่ก็ไม่ถึงก้นย่าม มีแต่ความว่างเปล่า ทั้งๆ ที่เห็นว่าทุกคนเอาเงินใส่ย่ามถวายท่านจนเต็ม ขณะกลับท่านเดินลงบันได ทุกคนเห็นท่านเดินลงไปที่ถนนแล้วก้าวลอยขึ้นไปบนอากาศหายไปบนท้องฟ้าท่ามกลางสายตาของผู้คนที่ศรัทธาและผู้ที่มาดูเพื่อพิสูจน์จำนวนมกา เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง

    ยังมีเรื่องราวหลักฐานที่น่าสนใจอีกมากเกี่ยวกับหลวงปู่เทพโลกอุดร ถ้าท่านสนใจอยากติดตามหรือค้นคว้าก็ลองหาอ่านได้จากหนังสือที่ผู้เขียนใช้อ้างอิง ซึ่งเมื่อท่านได้อ่านแล้วเชื่อว่าจะวางไม่ลงทีเดียว ในส่วนของการจะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องของ หลวงปู่เทพโลกอุดร นี้ ผู้เขียนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เราควรพิสูจน์ให้รู้ได้ด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่ยังสงสัยไม่แน่ใจเมื่อได้อ่านเรื่องราวของหลวงปู่ฯแล้วลองฝึก “จิต” ดูบ้างซิว่าอะไรจะเกิดขึ้น

    พระพุทธเจ้าท่านยังตรัสว่า “ผู้ใดอยากรู้ในสิ่งที่ตาเนื้อมองไม่เห็น อยากรู้สภาวะแห่งนามธรรมต้องทำจิตให้ว่างและผนึกความว่างแห่งตนเข้ากับความว่างของจักรวาล จึงจะรู้ทุกสรรพสิ่ง เพราะ “จิต” เท่านั้นที่จะสามารถอธิบายความลี้ลับของวิญญาณได้”




    <HR>
    อ้างอิง
    1. หลวงปู่บรมครูพระครูธรรมเทพโลกอุดร : ไทยดำ

    2. อภิญญาปรากฏการณ์หลวงปู่เทพโลกอุดร : เวทย์ วรวิทย์
    3. ริ้วรอยเทพยดา “มังกรจักรวาลภาค 5” : ดร.สุวินัย ภรณวลัย

    ---------------------------------------------------------------------
    ที่มา..
    [​IMG]
    ฉบับที่ 612 ปีที่ 26
     
  2. Angerlo

    Angerlo พุทธ ธรรม สงฆ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    -หลวงปู่เทพโลกอุดร....ไม่ปรากฏในวงการชาวทิพย์...ไม่พ้นมารแปลงมาต้มชาวบ้าน
    -พระอมิตาภพุทธะ....มารแปลงมาเช่นกัน แต่แสดงธรรมถูก..แต่ผิดตรงที่โกหกเป็นพุทธะ

    <iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/SWs3V6xPFh4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...