ประสบการณ์เจอผีในต้นไม้ใหญ่

เล่ามาหลายเรื่องละน่าจะทำเป็นหนังได้หลายเรื่องเลยนะจะว่าไป อิอิ เข้าเรื่องเลยละกันย้อนไปสมัยเรียน ปวช. ตอนนั้นก็มีกิจการรับเหมาถมที่ของทางครอบครัวและบ่อยครั้งที่ต้องเอารถไปทำงานในป่าและกินนอนในป่าเพราะต้องเฝ้ารถด้วย(รถดั้ม รถแบคโฮ) บางทีก็ต้องนอนคนเดียวถ้าลูกน้องไม่อยู่ และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไปขุดดินเนินที่มีต้นไม้(อีสานเรียกโพน)เพื่อทำให้ที่นาโล่งขึ้น จะได้พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นนั่นเอง และวันนั้นก็เลิกงานก็มืดแล้วเลยต้องหาที่นอนก็ไปเจอต้นกระบกใหญ่อยู่ห่างไปไม่ไกลเท่าไหร่เลยเอารถทุกคันไปจอดนอนใต้ต้นไม่ใหญ่ ตอนยังไม่เข้าไปมันก็ดูปกติดีมองผ่านใบไม่ทะลุถึงท้องฟ้าได้เลย วันนั้นนอนกับลูกน้องคนขับรถดั้มซึ่งเป็นอาก็นอนกันใต้ท้องรถคนละคัน(เล่าข้ามตอนกินข้าวไปเลยนะ) พอนอนไปได้สัก 2-3 ชม.เวลานั้นก็ประมาณ 4 ทุ่ม จริงๆก็ไม่ถือว่าดึกมากถ้าอยู่ในเมืองแต่ในป่าน่ะ 5 โมงเย็นก็มองไม่เห็นแล้วครับ เนื่องจากว่าอยู่กันตั้ง 2 คนเลยไม่ได้เปิดไฟนอนเพราะกลัวไฟแบตหมดและคิดว่าคนเยอะเลยคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไร เพราะถึงมีก็ไม่ได้อยู่คนเดียว จากฟ้าที่มองทะลุใบไม้เห็นหมู่ดาวตอนนี้มันไม่ใช่แล้วเพราะว่ามันมืดไปหมดมองไม่เห็นท้องฟ้าเลยใต้ต้นไม้นั่น และความร้อนก็มาเยือนทั้งๆที่ลมพัดและเป็นหน้าหนาวแต่ร้อนมาก ร้อนเหงื่อซึมกันเลยทีเดียวทีแรกก็คิดว่าเป็นอยู่คนเดียวหลังจากที่ทนอยู่กับสภาพแบบนี้มาได้พอสมควรก็ได้ยินเสียงอาพูดขึ้นว่า กูไม่ไหวแล้วโว้ยทำไมมันร้อนจังวะ(คิดว่าตัวเองเป็นคนเดียว)แกไม่พูดปล่าวลุกขึ้นมาท่องบริกรรมคาถากันผีและไล่ผีปอบ(รู้เพราะถามตอนตื่นเช้านะ) พออาแกท่องคาถานั่นแหละหนักกว่าเดิมอีกทีนี้ใบไม้กิ่งไม้ก็สั่น แบบว่าเหมือนลมมันแรงมากแต่จริงๆข้างล่างก็ไม่ได้รุนแรงอะไรขนาดที่จะทำให้ต้นไม้มันไหวขนาดนั้นได้เลย โดนขนาดนี้ก็ยังหน้ามึนนอนต่ออยู่นะครับจนได้ยินเสียงกิ่งไม้ขนาดใหญ่หักลงมาตกลงพื้น ก็รีบลุกมาดูเพราะว่ากลัวโดนรถแต่..มันไม่มีกิ่งไม้อะไรหล่นลงมาเลย แล้วเสียงมันมาจากไหนตรงนั้นมันมีต้นไม้อยู่ต้นเดียวเลย หลักจากปรึกษากันกับอาเรียบร้อยแล้วก็ได้เอารถออกจากใต้ต้นไม้นั้นทั้งหมดทุกคัน ซึ่งก็ไม่ได้เอาออกไปไกลมากแค่พ้นเงาต้นไม้แค่นั้นแหละแต่ที่แปลกคือพอเอาออกมาแล้วเรามองทะลุใบไม้เห็นท้องฟ้าได้เฉยเลย ทีนี้ไม่กล้านอนใต้ท้องรถละขึ้นนอนบนรถเลย คนละคันอย่างน้อยๆในรถก็ยังมีพระเครื่องของขลังทุกคันและก็ไม่เจออะไรอีก พอเช้ามาเข้าไปในหมู่บ้านมีคนถามว่านอนตรงไหนเมื่อคืนก็บอกเขาว่านอนใต้ต้นกระบกใหญ้(ใหญ่มากหลายคนโอบ) เขาเลยถามว่านอนได้ยังไงตรงนั้นกลางคืนใครไปแถวนั้นโดนทุกคนแหละมันจะเขย่ากิ่งไม้ใส่เลย บางทีก็เป็นไฟแตกใส่ เลยบอกเขาไปว่าทีแรกน่ะนอนแต่นอนไม่ได้ 555 จริงๆประสบการณ์ที่ไปทำงานกับรถนี่สุดๆเจอบ่อยมาก ผีโพง เจอบ่อย ถ้าเจอเป็นไฟโพงมาละก็ต้องเปิดไฟนอนเลยทีเดียวแบทไฟรถหมดก็ต้องยอมครับถ้าเปิดไฟมันจะไม่เข้าใกล้มาก ตื่นเต้นดีประม่าณว่ากลับตาแปบๆก็ต้องลืมตาเพราะระแวง 555 จริงๆมันมีน้ำเปลี่ยนนิสัยพอเรากินเข้าไปแล้วผีอะไรมันก็ไม่กลัวทั้งนั้นแหละครับแต่ถ้ามีทางเลือกก็ไม่อยากไปนอนแบบนั้นนะแต่ความรับผิดชอบมันบังคับ แต่กิจการก็ขายไปหมดตอนที่ผมเข้ามาเรียนมหาลัยในกรุงเทพ

 

ผีที่อาศัยต้นไม้เป็นที่สถิตย์ที่บ้านเคยมีประสบการณ์
เป็นผีสาวผมเส้นเล็กยาวมาก ชุดขาวหลวมๆ
ผอมแบบดูดีหน่อย..ส่วนเส้นผม เรียกว่าเวลานั่งเส้นผมจะยาวถึงพื้นเลย
เจ้แกเคยอยู่ที่บ้าน แต่หลังๆมามีเหตุให้ต้องเชิญพระมาย้าย เจ้แกไปที่อื่นก่อน
แล้วเจ้แกย้ายไปอีก ๓ หลังถัดไปที่มีลูกสาวสวย ๒ นาง...
ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่อยู่หลังบ้าน....
แล้ววันหนึ่ง สาวสวยนางหนึ่ง ก็มาเล่าให้ฟังแบบตื่นเต้นว่า เจอเจ้แกนั่นหละ..
.
แต่ว่าส่วนตัวทำเป็นเนียนๆ แบบไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รู้เรื่อง
ทำตื่นเต้นไปด้วย.....(ใครจะบอกว่าย้ายมาจากบ้านตรูวะ ๕๕๕)
สาเหตุหนึ่งที่ไม่บอก สาวสวย เพราะรำคาญมาก
ขี้บ่น จู้จี่ จุกจิ๊ก ชอบทำตัวป่านว่า เกิดอยู่ในรั้วในวัง
เลยปล่อยให้ สาวสวยนางนี้ มีเจ้ผมเส้นเล็กยาว
อยู่เป็นเพื่อนคอยเฝ้าหลังบ้านให้ต่อไป ๕๕๕๕
ปล.เรื่องที่เล่าให้ฟังเนี่ยคือ ตอนอายุไม่เกิน ๘ ขวบนะ..