ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    1 ก.ค. 56

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ k_97
    24 มิ.ย. 56 ฟืนไฟ

    หม้อไฟ ที่ใช้ ไฟบ้าน
    ตรวจทาน กันให้ ดีไว้
    ก่อนที่ อัคคี เยี่ยมกราย
    ตรวจไว้ นั้นไม่ เสียหลาย

    เคอิสรา

    โดมิโน่

    ฟืนไฟ ระไว ระวัง
    ตรวจทาน กันไว้ ให้ดี
    เครื่องใช้ ไฟฟ้า น้องพี่
    ก่อนที่ อัคคี เยี่ยมเยือน
    เคอิสรา
     
  2. จริง?หรือ?

    จริง?หรือ? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2,201
    ค่าพลัง:
    +7,155
    มณีส่องแสง "หัวใจ XXY "แปลว่า"ปัญญาอ่อน ลามปาน จัญไร อีเหี้ยเอ่ย"

    คุณจะแก้ตัวแทนหาสวรรค์วิมาลอะไรล่ะครับ :boo::boo::mad::mad::mad::boo:
    ทีเวลาคนอื่นทักท้วงเรื่องทำนายภัยพิบัติ คุณกลับออกมาพล่าม มาขู่หาว่าคนอื่นเขาปรามาส ทีอย่างนี้ปรามาสเห็นๆกลับมาเห็นดีเห็นงามแก้ต่างให้เสร็จ งามไส้จริงๆน่ะ
     
  3. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เกษม
    ผมคิดว่าคุณมณีส่องแสง กำลังนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแมทริกซ์ เท่านั้นเองครับ

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มณีส่องแสง
    หัวใจสมเด็จโต "หัวใจ RX One "แปลว่า "ความดี เสียใจ ปัญญาอ่อน อีเหี้ยเอ่ย"..

    ปล. ในอดีตที่นานมาแล้ว คำว่า "ปัญญาอ่อนจะหมายถึง ความดีและความน่ารัก (สิ่งที่ดีๆ) ส่วนคำว่า "อีเหี้ยเอ่ย คือ คำแทนว่า นะคะ นะครับนั้นเอง"...

    และความจริงอีกอย่างก็คือ ดวงจิตของพระพิฆเนศ กับ สมเด็จพุฒจารย์โตคือ ดวงจิตเดียวกันนั้นเอง..

    รวมๆคือมัน..แมทริกซ์มากๆ "อีเหี้ยเอ่ย คือ คำแทนว่า นะคะ นะครับนั้นเอง"
     
  4. scot2006

    scot2006 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +17
    ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้ม ดู www.arjantutv.com จอ2

    ประเทศไทยมีของดี ของศักดิ์สิทธิ์เยอะ ดู
    http://arjantutv.com จอที่ 2
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นางมณีเมขลาพา"พายุเอนเจลล่า"ไปเขาพระสุเมรุ !!!

    [​IMG]

    karan20 สมาชิก

    กรณีพายุเอนเจลล่า

    ขอยกพระราชดำรัสของในหลวง ทุกวันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เอาปี 38 มาให้อ่านเฉพาะตอนสำคัญ นางมณีเมขลา วันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2538 พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล

    พายุเอนเจลล่า....แต่ เมืองไทยนี้วิเศษจริงๆ เพราะว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีขึ้นให้น้ำท่วมนี่รู้สึกเกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดือดร้อนตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้ และทางอีสานก็มี ภาคใต้ก็มี แต่ว่าที่เดือดร้อนที่สุดก็อยู่ใกล้ที่นั่งของเรา ที่นั่งอยู่เดี๋ยวนี้ ก็คือกรุงเทพฯ เดือดร้อน แต่ก็เรื่องมันไม่มากนัก เพราะมีสิ่งที่ช่วยเมื่อน้ำท่วมอยู่แล้วจวนจะแห้ง ทางกรมอุตุนิยมโดยนายสมิทธ ธรรมสโรช ได้ส่งพยากรณ์อากาศมาให้ แล้วเขียนไว้เป็นโน้ตบอกว่ากรมอุตุนิยมถวาย เกี่ยวข้องกับพยากรณ์อากาศ และเกี่ยวข้องกับพยากรณ์การเคลื่อนไหวของพายุ

    เขาบอกว่า ถวายแล้วต่อด้วยเพื่อทรงพิจารณา หมายความว่า กรมอุตุนิยมมาใช้เรา ใช้เราเป็นผู้พยากรณ์ก็เป็นเกียรติ เขาเขียนว่าเพื่อทรงพิจารณา ดูแล้วก็หนักใจอยู่เพราะว่าดูในแผนที่อากาศ พายุเอนเจลล่า อ้วนจ้ำม่ำ อ้วนเหมือนในการ์ตูน เอนแจลล่าไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเห็นหรือเปล่า เอนเจลล่าที่เป็นอริของป๊อบอาย ไม่ทราบว่าเห็นหรือเปล่า เห็นไหมว่าในการ์ตูนป๊อบอายมีเอนเจลล่า ตัวเบ้อเร่ออ้วนเลย นี่แหละกำลังมาเป็นอริกับเรา แล้วก็คุณสมิทธก็บอกว่า เอนแจลล่าเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นน่ากลัว คร่าชีวิตในฟิลิปปินส์พันกว่า ผ่านมาแล้ว มาในทะเลจีนใต้ ตามธรรมดาเมื่อเวลาพายุผ่านฟิลิปปินส์ มันต้องผอมลง แต่นี่คุณเอนเจลล่ามันอ้วนขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่น

    เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้รับพยากรณ์อากาศนั้นตอนบ่าย ตอนบ่ายแก่ๆ มาดูเอ เราจะทำอย่างไร ก็ดูถึงประมาณตี 1 แล้วก็รู้สึกว่าต้องดูต้องใช้ ไอทีหน่อย ใช้ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (Information Technology) เราก็ใช้อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยีแล้วรู้สึกว่า เอนเจลล่านี่จะแพ้แรง คือ แพ้แรงจะต้องบอก ต้องเผยให้ทราบ แพ้แรงมณีเมขลา เพราะว่าเดี๋ยวนี้ท่านทั้งหลายก็คงเข้าใจคงรู้จักนางมณีเมขลาพอสมควรแล้ว ก็เลยบอกไปตอนตี 1 ว่า ให้บอกกรมอุตุนิยมว่า พรุ่งนี้ จะหมายถึงพรุ่งนี้แบบไทยหรือพรุ่งนี้แบบฝรั่งก็ไม่ทราบ

    แต่ว่าพรุ่งนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น จากซุปเปอร์ไต้ฝุ่นนี้จะกลายเป็นดีเปรสชั่น และต่อไปอีก 2 วัน จะเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำที่จะอยู่แถวๆ ไหหลำ ฤาเข้าไปเมืองจีนก็คงต่ำ ข้อพิจารณาอย่างนี้ เสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นก็ดูไอทีต่อไป เอ!ดีแล้ว ที่เราพูดนับว่าถูกพอสมควร ควรจะถูกพอสมควร แต่ว่าทางวิทยุพวก CNN BBC เขาก็ยังบอกว่าเป็นไต้ฝุ่น ไต้ฝุ่นอีก วันรุ่งขึ้นก็เป็นไต้ฝุ่น วันต่อไปก็เป็นซีเรียส ทรอปิคคัลสตอร์ม (Serious Tropical Storm) หมายความว่า เป็นพายุโซนร้อนที่รุนแรง แต่ดูไม่รุนแรง เราก็ยืนยันว่าเมืองไทยไม่เป็น

    แล้วในที่สุด ท่านทั้งหลายเจอเอนเจลล่าที่ไหนก็คงไม่ได้เจอ บินไปที่โน่นที่นี่ก็ไม่ได้เจอคุณเอนเจลล่าเลย คุณเอนเจลล่าก็ไม่เข้าคุณสมิทธบอกเข้า ขอโทษคุณสมิทธ ก็หมายความว่า คุณสมิทธวันก่อนนี้มาพบ แล้วก็ถามว่ายังไง ก็ได้บอกว่าให้นางมณีเมขลาไปเจรจา ก็ได้ผลดี ถ้ามาแบบที่ว่าเพราะว่าเคยมีไต้ฝุ่นใหญ่ และเข้าทะลุเมืองเวียดนาม และเข้ามาในเมืองไทย ผ่านแถวมุกดาหาร หรือแถวอุบล เข้ามาจะเห็นว่าพังจริงๆ แต่ไม่เป็นอะไร

    ฉะนั้นก็ตอนนี้จะได้โฆษณา โฆษณามณีเมขลา มณีเมขลาและหนังสือเล่มใหม่ สำนักงานมณีเมขลานี้ ท่านก็ได้ทราบว่าสำนักงานมณีเมขลานี้ได้แถลงอาการพระประชวร ก็คงนึกสำนักงานนี้เป็นอะไรแน่ เป็นสำนักงานอุตุนิยมมีฐานที่ตั้งอยู่ที่เขาพระสุเมรุ ก็ถามว่าเขาพระสุเมรุอยู่ที่ไหน ก็มีแผนที่ให้ในเล่มนี้ มีสำนักงานมณีเมขลา เขาพระสุเมรุอยู่ที่นี่ เป็นที่ตั้งของสำนักงานมณีเมขลา

    แต่ที่จริงสำนักงานมณีเมขลานี้เป็นสาขาหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล. ท่านคงยังไม่เคยทราบว่าสำนักงาน ฝล. นี้คืออะไร สำนักงาน ฝล. คือ นี่เป็นเครื่องหมายของสำนักงาน ฝล. ท่านที่ไม่มีกล้องส่องก็คงไม่เห็น แต่อีกหน่อยก็คงมีชื่อเสียงดีมาก สำนักงาน ฝล. นี้ สำนักงานมณีเมขลาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงาน ฝล. แต่ที่สำคัญที่สุดคือว่า นางมณเมขลานี้เป็นตัวละครสำคัญ ในหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกในโอกาส 50 ปีกาญจนาภิเษก เป็นหนังสือที่กำลังทำ หวังว่าจะทำเสร็จทันสำหรับฉลอง

    คือว่าหนังสือเล่มนี้ ไม่เหมือนหนังสือติโตหรือนายอินทร์ หนังสือนายอินทร์ ค่อนข้างจะดุเดือดในทางราชการลับ หนังสือติโต เป็นหนังสือที่เกี่ยวข้องกับสงครามเหมือนกัน เกี่ยวข้องการต่อสู้ แต่หนังสือใหม่นี้ยังไม่บอกชื่อ มีบางคนเขาบอกว่า ควรจะโฆษณาแต่รู้สึกไม่จำเป็น เพราะว่าเป็นหนังสือที่น่าดูมาก เอาไว้ดูเอง ในหนังสือนี้นางมณีเมขลา จะว่าเป็นนางเอกก็ไม่ใช่ ก็ไม่เชิงแต่ว่าเป็นตัวสำคัญ

    ในรูปนี้จะเห็นว่ามีเรือที่แล่นในมหาสมุทรอินเดีย แล้วก็มีที่เป็นเส้นที่เกี่ยวข้องกับลม คือ เป็นเรื่องของอุตุนิยม และตรงนี้ก็มีดวงของวัน อันนี้ก็เกี่ยวข้องกับวันที่ 15 เมษา 2537 ที่ตอนนั้นแห้งแล้ง แล้วก็เกิดที่ตอนน้ำแห้ง แห้งแล้งแล้วก็เกิดเขาบอกว่า จะเล่นสงกรานต์ไม่ได้ ก็ไม่มีน้ำ แต่ว่าไปติดต่อนางมณีเมขลา นางมณีเมขลาก็บันดาล ให้มีฝนแล้ว ก็นี่เป็นแผนที่ของคุณสมิทธ์เอง มันเป็นอย่างนี้จริงๆ คุณสมิทธก็ต้องรับรองว่า แผนที่นี้ไม่ผิด ถูกต้องสำหรับวันที่ 15 แล้วก็ดวงนี้ เป็นดวงวันที่ 15 เมษายน อันนี้เป็น 2537 แต่ว่าในเรื่องนั้น ไม่เสร็จ 2537 ไม่ทราบว่าปีอะไร แต่ก็เป็นในระยะเดียวกัน

    แล้วก็นางมณีเมขลา เป็นผู้ที่เป็นตัวสำคัญในเรื่องของทะเล มหาสมุทรอินเดีย ทะเลอันดามัน และประเทศไทย ซึ่งเขาเรียกว่าสุวรรณภูมิ อันนี้ก็พูดถึงว่า เมืองไทยถูกน้ำท่วม แต่ถ้าหากว่าไม่มีสิ่งที่ดีๆ ที่ช่วยป้องกัน ป่านนี้คงยังจมน้ำอยู่ เพราะว่าพายุอย่างคุณเอนเจลล่า ก็จะต้องเข้ามา ตอนนี้ที่จริงอยากจะพูดสักเล็กน้อย แต่พูดมามากแล้ว พูดทุกวัน เกือบทุกวัน ที่สภากาแฟ สภากาแฟนี้ท่านทั้งหลายอาจจะไม่เข้าใจว่าอะไร คือว่า ในเขตพระบรมมหาราชวังมีที่ที่ชื่อ พระราชกรัณยสภา (บางส่วนจากพระราชดำรัสของในหลวง)

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ภัยพิบัติถูกเลื่อนออกไป-นั้นเป็นได้แค่-ข้ออ้าง.290338/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • a005.jpg
      a005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.8 KB
      เปิดดู:
      1,193
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประกาศิตของพระสยามเทวาธิราช !!!

    [​IMG]

    ” กูกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้ อี มันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤๅ กระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม จงหยุดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตร ให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่า “อาภากร” ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาผืนแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น. “

    ที่มา ไอ้ อี มันผู้ใด คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตร!!! | Ronakorn: Thailand SEO and More.

    “---คนนับถือกรมหลวงชุมพรฯ เยอะ แต่คนไม่สนใจท่านในฐานะปุถุชน คนไม่สนใจว่าท่านเคยทำอะไรมา หรือทรงมีพระปรีชาอย่างไร คนสนใจท่านแต่ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์---”

    เป็นข้อความตอนหนึ่งในคำบอกเล่าของ ม.ร.ว. อภิเดช อาภากร ซึ่งมีศักดิ์เป็น “หลานปู่” ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ กล่าวถึงเสด็จปู่ เมื่อครั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรฯ เพื่อเขียนหนังสือเรื่อง “หลวงปู่ศุขกับกรมหลวงชุมพรฯ” ครั้งนั้นพบว่าหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่นั้นล้วนจดจำและมักจะเล่าถึงแต่เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของพระองค์มากกว่าที่จะเล่าเกี่ยวกับพระประวัติความเป็นมา พระปรีชาสามารถ ตลอดจนผลงานการทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ แต่เมื่อได้ศึกษาพระประวัติของพระองค์ก็อาจคาดเดาถึงสาเหตุดังกล่าวได้โดยไม่ยากนัก

    พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด สายสกุลบุนนาค เป็นพระราชโอรสรุ่นแรกที่เสด็จไปทรงศึกษาวิทยาการสมัยใหม่ในทวีปยุโรป ทรงเลือกศึกษาวิชาการทหารเรือที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีกองทัพเรือที่เก่งกาจเกรียงไกรที่สุดในสมัยนั้น

    ทั้งนี้น่าจะสืบเนื่องมาจากการที่ไทยเคยถูกกองทัพเรือฝรั่งเศสคุกคามในวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ทำให้ไทยต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส นำความเจ็บช้ำพระทัยมาสู่องค์พระประมุขซึ่งไม่มีหนทางหลีกเลี่ยงเพราะเป็นประเทศเล็ก ไม่มีกำลังพอที่จะต่อสู้ ไม่มีอำนาจที่จะต่อรองกับมหาอำนาจที่ไม่รู้ถูกรู้ผิด ความวิปโยคโศกเศร้าของพระบรมราชชนกชนนีและประชาชนชาวสยามในเหตุการณ์ครั้งนั้น ฝังอยู่ในพระทัยของเจ้าชายเล็กๆ ซึ่งมีพระชนมายุเพียง ๑๓ พรรษา แต่น้ำพระทัยแข็งแกร่ง ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่และมั่นคงในการที่จะนำความรู้ด้านการทหารเรือสมัยใหม่มาพัฒนากองทัพเรือของไทยให้เกรียงไกรสามารถต่อสู้ป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยคุกคามจากประเทศมหาอำนาจที่มักรุกล้ำอธิปไตยของสยามเนืองๆ

    การเข้าศึกษาวิชาการทหารเรือของเจ้าชายไทยในประเทศอังกฤษต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาประการ นับแต่ข้อกำหนดซึ่งห้ามนักศึกษาต่างชาติเข้าศึกษาในโรงเรียนนายเรือของราชนาวีอังกฤษด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แต่ก็มิได้ทำให้พระองค์ทรงย่อท้อ ทรงเข้าศึกษาวิชาการทหารเรือในโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการทหารเรือที่แข็งแกร่ง เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้เข้ารับการฝึกเป็นนักเรียนทำการนายเรือ (Midshipman) ในเรือรบอังกฤษ

    เสด็จกลับประเทศไทยมีพระชนมายุเพียง ๒๐ พรรษา ทรงมีทั้งกำลังพระทัย กำลังพระวรกาย และประการสำคัญทรงมีความตั้งพระทัยแน่วแน่มั่นคงในอันที่จะพัฒนากองทัพเรือไทยให้สามารถเกรียงไกรเทียบเท่าอารยประเทศ เพราะขณะนั้นกิจการทหารเรือไทยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของฝรั่งต่างชาติซึ่งโปรดว่าจ้างให้มาเป็นผู้วางรากฐานกิจการทหารเรือสมัยใหม่ แต่ทรงพบว่าฝรั่งผู้ปฏิบัติงานขาดความตั้งใจจริงในการพัฒนากองทัพเรือให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ กองทัพเรือจึงยังมิได้รับการวางรากฐานอย่างมั่นคง หลักสูตรการสอนนักเรียนนายเรือต่ำ เมื่อเรียนจบหลักสูตรก็ยังไม่สามารถที่จะนำเรือออกสู่ทะเลลึกโดยลำพังตนเองได้ ไม่สามารถใช้อาวุธสมัยใหม่ได้ โดยเฉพาะทหารเรือในขณะนั้นเป็นหน่วยทหารที่มีศักดิ์ศรีต่ำกว่าทหารหน่วยอื่น จึงมักถูกนำไปใช้ในงานโยธา ไม่ใคร่มีโอกาสที่จะเรียนรู้วิชาการ

    เมื่อทรงมีโอกาสได้เข้าบริหารงาน จึงโปรดปรับปรุงกองทัพเรือใหม่ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การวางหลักสูตรการเรียนการสอนใหม่ โดยเพิ่มวิชาที่จำเป็นสำหรับทหารเรือที่จำเป็นจะต้องเรียนรู้อย่างเข้มข้น ยกระดับทหารเรือให้สูงขึ้นโดยเน้นหนักด้านวิทยาการสมัยใหม่ และการฝึกเพื่อการเป็นนายทหารเรือที่เก่งกาจเกรียงไกร

    แต่ถึงกระนั้นอุปสรรคสำคัญประการหนึ่งที่ทรงพบคือการที่ไม่มีผู้นิยมสมัครเข้าเป็นทหารเรือ อันเป็นธรรมชาติของผู้ที่มิได้อยู่ใกล้ทะเล โปรดแก้ปัญหาด้วยการให้เงินเดือนนักเรียนที่สมัครเข้าเรียนและเพิ่มเงินให้ตามชั้นที่สูงขึ้น ทำให้เริ่มมีผู้สมัครเรียนเพิ่มขึ้น แต่นักเรียนส่วนใหญ่มักเป็นคนยากจนและนักเลงที่หวังเงินเดือน แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนแล้วทรงมีวิธีการผูกใจนักเรียนให้ตั้งใจเรียน รักและภาคภูมิใจในสถาบันที่เรียน โดยใช้ความจริงพระทัยจริงจังในการถ่ายทอดวิชาความรู้ ปลูกฝังความรู้สึกรักและภาคภูมิใจในกองทัพเรือ

    ประการสำคัญคือ พระอุปนิสัยซึ่งมีพระเมตตาต่อผู้คนทั่วไปโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ทรงสามารถผูกใจนักเรียนที่มีนิสัยนักเลงได้ด้วยความเป็นนักเลงที่เหนือกว่า กล่าวคือ กรมหลวงชุมพรฯ ทรงมีฐานันดรศักดิ์และความรู้ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อประกอบเข้ากับการดำเนินพระจริยวัตรในทางที่นักเลงสมัยนั้นนิยมกัน เช่น เก่งฉกาจในวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวทุกรูปแบบ มีคาถาวิทยาคมเพราะทรงมอบพระองค์เป็นศิษย์หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ที่ผู้คนสมัยนั้นเชื่อและนับถือว่าเป็นพระอาจารย์ด้านเวทมนตร์คาถา จนเป็นที่ร่ำลือว่า ทรงอยู่ยงคงกระพัน สามารถหายตัวได้ จนทรงสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่าลูกศิษย์รู้สึกว่าพระองค์ทรงสามารถเป็นที่พึ่งได้ คือทรงมีทั้งพระบารมี มีทั้งความเป็นนักสู้และนักเลงที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

    พระจริยวัตรสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความไม่ถือพระองค์ ทรงแสดงให้ทุกคนประจักษ์และซาบซึ้งในพระคุณสมบัติส่วนนี้ตลอดพระชนมชีพ ดังที่มีเรื่องเล่าลือสืบมาว่า ทรงรักและเอาพระทัยใส่ชีวิตความเป็นอยู่ของลูกศิษย์และผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งในเวลาและนอกเวลางาน เล่ากันว่าครั้งหนึ่งเวลาค่ำขณะประทับพักผ่อนที่วังนางเลิ้ง มีผู้วิ่งมาทูลว่า ทหารเรือชั้นผู้น้อยคนหนึ่งถูกรุมต่อยตีจากคู่ต่อสู้ที่ตลาดนางเลิ้ง เมื่อทรงรู้ข่าวก็เร่งเสด็จไปสถานที่เกิดเหตุทันที ทรงช่วยทหารเรือผู้นั้นให้รอดจากการถูกคู่วิวาทฟันด้วยการเอาพระองค์เข้ารับคมดาบโดยไม่เป็นอันตราย หรือโปรดเสด็จไปสู่ขอผู้หญิงให้ลูกศิษย์ด้วยพระองค์เองในฐานะพระอาจารย์ มิใช่ในฐานะเจ้า หรือโปรดให้ตั้งฌาปนกิจสถานสำหรับทหารเรือขึ้นเพื่อช่วยในการฌาปนกิจศพทหารเรือทุกระดับชั้นอย่างสมเกียรติยศ เป็นต้น

    พระจริยวัตรดังที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นเครื่องน้อมนำจิตใจของผู้ใกล้ชิดให้ถวายความจงรักภักดีด้วยชีวิต ยิ่งเมื่อประทานความเป็นกันเองโดยทรงเรียกขานพระองค์เองว่า “พ่อ” หรือ “เตี่ย” ก็ยิ่งทำให้สามัญชนทั่วไปรู้สึกว่าสามารถปวารณาตนเป็นลูกของพระองค์ได้อย่างเท่าเทียมกัน ความนิยมนับถือและบูชาในพระองค์ยิ่งกว้างขวางและยิ่งใหญ่ทวีคูณขึ้นอีกเมื่อครั้งโชคชาตาฟ้าลิขิตให้ต้องทรงรับบทบาท “หมอพร” ครั้งนั้นก็ทรงจริงจังกับการเป็นหมอพร ด้วยการทรงศึกษาวิชาแพทย์ทั้งของไทยและฝรั่ง ทรงนำความรู้ทั้ง ๒ แบบมาผสมผสานและทดลองจนทรงมั่นพระทัยในความเป็นหมอพร จึงทรงรับรักษาผู้เจ็บป่วยทั่วไปโดยไม่คิดเงิน ไม่เลือกชั้นวรรณะ ด้วยพระเมตตาอันเป็นพื้นพระอุปนิสัยที่แท้จริงของพระองค์ ทั้งความรู้พระปรีชาสามารถและน้ำพระทัย ทำให้ผู้คนที่มีโอกาสได้สัมผัสพระองค์ นึกไปถึงเทพเจ้าที่ทรงลงมาโปรดมนุษย์ในโลกมากกว่าจะเป็นเจ้านาย จึงพร้อมใจขานนามพระองค์ว่า “หมอพรเทวดา”

    เมื่อกรมหลวงชุมพรฯ สิ้นพระชนม์ ความรักอาลัยของผู้ที่รักใคร่เทิดทูนบูชาพระองค์ยังคงตราตรึงอยู่อย่างมิอาจลืมเลือน ความดีงามเก่งฉกาจในทุกๆ ด้านของพระองค์ได้รับการบอกเล่าสืบต่อกันปากต่อปาก มีการต่อเติมเสริมแต่งให้ทรงเป็นเสมือนผู้วิเศษ จนพัฒนาเป็นความเชื่อว่าพระวิญญาณของพระองค์ยังคงอยู่คอยให้ความคุ้มครองภยันตราย สดับตรับฟังทุกข์ร้อนของบรรดาลูกๆ หรือช่วยเหลืออำนวยให้ได้รับผลสำเร็จในสิ่งปรารถนาเหมือนเมื่อครั้งยังทรงดำรงพระชนมชีพ จึงเกิดการบนบานขอให้ทรงช่วย เมื่อได้รับผลตามต้องการก็ยิ่งทวีคูณความเชื่อในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์สิ่งต่างๆ ที่เนื่องในพระองค์ไม่ว่าจะเป็นพระรูปเหรียญ ล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนตั้งไว้บนที่สูงเพื่อเคารพบูชา

    จึงไม่น่าแปลกที่ ม.ร.ว. อภิเดชจะบอกเล่าถึงเสด็จปู่ของท่านว่า “---คนนับถือกรมหลวงชุมพรฯ เยอะ---แต่---คนสนใจท่านแต่ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์---”

    ที่มา พระอุปนิสัยและพระจริยวัตรของ"เสด็จเตี่ย" กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ : มติชนออนไลน์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  7. kb 2500

    kb 2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +873
    อันนี้ข้อมูลนี้ข้างต้น ไม่ใช่แมทริกซ์นะครับ ป๋าเกษม..555

    พอเรื่องใหนคลุมเครือจะแก้ต่าง มีพลาดพลั้งแก้ไขไม่ชัดเจนทำเนียนไม่ตอบข้อขัดข้องเลยหรือครับ เป้นผู้สนับสนุนเว็ปเป็นพิเศษกว่าใครๆ บอกมั่งก็ได้หรอกครับ ไม่เสียหน้าเสียหายไม่มีใครกล้าว่ากล่าวอะไรหรอก ตามนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ใครบ้างที่ต้องโดนประหาร 7 ชั่วโคตร !!!

    [​IMG]

    บทลงโทษการ กระทำผิดต่อบ้านเมืองสมัยก่อนคือ การตัดหัวหรือกุดหัว

    1.ใครทำผิดสถานเบา ฉกชิงวิ่งราว ตีชิงจี้ปล้น ลักเล็กขโมยน้อย มันผู้นั้นจะถูกจองจำ ใส่ขื่อคา พาเดินแห่ประจานให้ได้ อับอายขายหน้า

    2.ใครทำร้ายผู้อื่น ให้ต้องสูญเสีย ถึงกับชีวิต มันผู้นั้นจะถูกประหารตัดหัว ให้ตายตกไปตามกัน

    3.ใครคิดคตทรยศต่อ เจ้านายฝ่ายปกครอง หัวเมืองต่างๆจนถึงกับ สูญเสียชีวิต มันผู้นั้นจะถูก ประหารตัดหัว ให้ตายตกไปตามกัน และริบเรือน ที่มีเสียทั้งหมด

    4.ใครคิดคตทรยศ ต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทำให้สูญสิ้นชีพภิตักษัย มันผู้นั้นต้องโทษประหาร 7 ชั่วโคตร ริบเรือน เลือกสวนไร่นา ที่มีเสียทั้งหมด

    ** การประหารตัดหัว 7 ชั่วโคตร ก็คือวงศ์สกุลที่สืบสายโลหิต ซึ่งนับตั้งแต่ตัวเองขึ้นไป 3 ชั้น คือ ชั้นพ่อ ชั้นปู่ และชั้นทวด กับนับจากตัวเองลงมาอีก 3 ชั้น คือ ชั้นลูก ชั้นหลาน และชั้นเหลน รวมเป็น 7 ชั่วโคตร **

    คงพอจะนึกภาพออกนะครับว่าใครที่จะโดน ตัดหัว 7 ชั่วโคตร น่าเอากฎหมาย แบบนี้มาใช้ในปัจจุบันบ้าง ไอ้พวกโกงกินบ้านเมือง กับไอ้พวกจาบจ้วง มันจะได้หมดไปเสียที จริงมั้ยครับ พี่น้อง !

    Posted by คนสองยุค2503 , ผู้อ่าน : 502 , 15:41:56 น.

    ที่มา ใครที่ต้องโดนประหาร 7 ชั่วโคตร !
     
  9. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    ป๋าเกษมครับถ้าโจรจะต้องโดนประหารเจ็ดชั่วโคตรแล้วมันบอกว่ามันอยู่ในเมตริกซ์ อย่างนี้จะได้ลดหย่อนโทษหรือเปล่าครับ

    ------------------------------------------------------------------------------

    หนังไทยสมัยก่อน
    น้องจ๋าอภัยให้พี่เถิด พี่พูดไปแบบนั้นเพราะเมา

    หนังไทยสมัยนี้

    น้อง น้อง อย่าโกรธกันนะ ตอนนั้นพี่พูดแบบเมตริกซ์
     
  10. มุงมิง

    มุงมิง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +29
    พวกนี้พูดได้ทุกอย่าง ติดต่อเทพเบื้องบน ล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เลื่อนภัยได้ บ้างก็บอกเป็นพระศรีอาริยเมตไตร สำเร็จอะไรแปลกๆที่มันดูล้ำๆ แต่ถ้าให้ทำอะไรให้เป็นรูปธรรมให้ดูหน่อย พวกนี้จะอ้างนู่นอ้างนี่ ยกตัวอย่างนะ ไม่เคยมีใครหน้าไหนเคยประกาศเลยว่าผมเหาะได้ ผมนั่งในกองไฟได้ คืออะไรที่ทำให้เห็นๆประจักษ์ด้วยตา พวกนี้ไม่เคยทำให้ดูได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  11. pass_111

    pass_111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +74
    พูดเรื่องภัยต่างๆ

    พูดเรื่องภัยพิบัติตามหัวกระทู้ดีกว่า พูด เรื่องอื่นมากไป มิตรจะกลายเป็นศัตรูป่าวๆหรื่อท่านไม่กัว ก้ิิอตามจัย แต่ผมชักเห็นด้วยกับ มุงมิงบางแรว
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อุปกิเลส 16
    (สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัว รับคุณธรรมได้ยาก 16 ข้อ)

    [​IMG]

    กิเลส หรือเครื่องเศร้าหมองของจิต มีตัวหลักอยู่ 3 ตัว คือ

    1. โลภะ คือ ความโลภ ความอยากได้ความเพลิดเพลินยินดี ความยึดเหนี่ยวทางใจ

    2. โทสะ คือ ความโกรธ ความขัดเคืองใจ ความเศร้า ความเสียใจ ความกลัว ความทุกข์ทางใจทั้งหลาย

    3. โมหะ คือ ความหลง ความไม่รู้ธรรมชาติของสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง อวิชชา

    กิเลส 3 ตัวนี้ เป็นเหตุที่ทำให้เกิดอกุศลทั้งมวล เปรียบเสมือนมารดาให้กำเนิดบุตร (เรียกว่าเป็นอกุศลเหตุ หรืออกุศลมูล) และได้แตกลูกแตกหลานออกมาอีก เรียกว่าเป็น อุปกิเลส 16

    พระไตรปิฎก : พระสุตตันตปิฎก เล่ม 4 มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ วัตถูปมสูตร

    อุปกิเลส 16

    การพิจารณาจิต คือ ตามรู้จิตตลอดกาลตลอดเวลา ทั้งเมื่ออยู่ในอิริยาบถตามปกติและเมื่อตั้งใจปฏิบัติ เมื่อเราตั้งใจพิจารณา ตามดูจิตแล้ว เราจะมองเห็นอาการของจิตต่าง ๆ ทำให้เข้าใจจริตนิสัยของตัวเองมากขึ้น เมื่อเราเข้าใจตัวเอง ยอมรับตัวเองตามความเป็นจริง ก็จะเป็นพื้นฐานในการปรับปรุงพัฒนาตนเอง คือเมื่อรู้สึกตัวแล้ว ก็จะไม่หลงไปตามอามรณ์

    จิตเดิมแท้ของเราทุกคนเป็นประภัสสร บริสุทธิ์ผ่องใสโดยธรรมชาติ แต่กิเลสเป็นอาคันตุกะที่จรเข้ามาครอบงำจิต ทำให้จิตเศร้าหมอง กิเลสหรืออกุศลมูล อันได้แก่ ราคะ โทสะ โมหะ เมื่อมีเหตุปัจจัยประสมประสานกัน แล้วก่อตัวขึ้นมาเป็นอุปนิสัยต่าง ๆ มี 16 ลักษณะ เรียกว่า อุปกิเลส 16

    อุปกิเลส ทั้ง 16 ประการนี้ แม้ประการใดประการหนึ่ง เมื่อเกิดขึ้นในใจแล้วก็จะทำให้ใจสกปรกไม่ผ่องใสทันที และจะส่งผลให้เจ้าของใจหมดความสุขกายสบายใจ เกิดความเร่าร้อน หรือเกิดความฮึกเหิมทะนงตัว เต้นไปตามจังหวะที่อุปกิเลสนั้นๆ บงการให้เป็นไป อุปกิเลส16 ได้แก่...

    ยกข้อธรรมจากพุทธพจน์-เรื่องอุปกิเลศ 16

    [๙๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมเหล่าไหนเป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต [คือ]

    อภิชฌาวิสมโลภะ [ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง] (คืออยากได้ของๆ ผู้อื่นมาเป็นของตน โดยไม่ถูกทำนองคลองธรรม - ธัมมโชติ) พยาบาท [ปองร้ายเขา] โกธะ [โกรธ] อุปนาหะ [ผูกโกรธไว้] มักขะ [ลบหลู่คุณท่าน] ปลาสะ [ยกตนเทียบเท่า] (คือการตีเสมอผู้อื่น คิดว่าเราก็แน่เหมือนกัน - ธัมมโชติ) อิสสา [ริษยา] มัจฉริยะ [ตระหนี่] มายา [มารยา] สาเฐยยะ [โอ้อวด] (คือการพูดยกตนด้วยสิ่งที่ไม่เป็นจริง - ธัมมโชติ) ถัมถะ [หัวดื้อ] สารัมภะ [แข่งดี] มานะ [ถือตัว] อติมานะ [ดูหมิ่นท่าน] มทะ [มัวเมา] ปมาทะ [เลินเล่อ] (ความประมาท ความเผลอ ความขาดสติ - ธัมมโชติ) เหล่านี้เป็นธรรมเครื่องเศร้าหมองของจิต.

    พระไตรปิฎก : พระสุตตันตปิฎก เล่ม 4 มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ วัตถูปมสูตร

    ที่มา http://www.dungeon.gr/database/gallery/categories/idia.jpg

    อธิบายความ

    ๑. อภิชฌมวิสมโลภะ คือความละโมภ อยากได้ อยากมี อยากเป็นอย่างไม่รู้จักพอ เห็นแก่ได้จนลืมตัว

    ๒. พยาบาท คือความคิดร้าย มุ่งจะทำร้ายเขา ใครพูดไม่ถูกใจก็คิดตำหนิเขา คิดจะทำร้ายฆ่าเขาก็มี บางครั้งทำร้ายผู้อื่นไม่ได้ ก็หันมาตำหนิตัวเอง ทำร้ายตัวเอง จนฆ่าตัวตายก็มี ซึ่งเป็นเพราะอำนาจพยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๓. โกธะ คือความโกรธ มีอะไรมากระทบก็โกรธ เป็นลักษณะโกรธง่าย แต่เมื่อหายแล้วก็เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือไม่ผูกใจเจ็บ ไม่พยาบาท เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๔. อุปนาหะ คือการผูกโกรธ ใครพูดอะไร ทำอะไรให้เกิดความโกรธแล้วจะผูกใจเจ็บ เก็บไว้ ไม่ปล่อย ไม่ลืม เป็นทุกข์อยู่อย่างนั้น กระทบอารมณ์เมื่อไร ก็เอาเรื่องเก่ามาคิดรวมกัน คิดทวนเรื่องในอดีตว่าเขาเคยทำไม่ดีกับเราขนาดไหน เป็นอาการอย่างหนึ่งของโทสะ

    ๕. มักขะ คือการลบหลู่คุณท่าน ปิดบังความดีของผู้อื่น ลบหลู่ความดีของผู้อื่น เช่น เขาให้ของแก่เรา แทนที่จะขอบคุณกลับนึกตำหนิเขาว่า เอาของไม่ดีมาให้ หรือเมื่อมีใครพูดถึงความดีของเขา เราทนไม่ได้ เราไม่ชอบ จึงยกเรื่องที่ไม่ดีของเขามาพูด เพื่อปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนดีถึงขนาดนั้น เป็นต้น

    ๖. ปลาสะ คือการตีเสมอ ยกตัวเทียมท่าน ไม่ยอมยกให้ใครดีกว่าตน แต่ชอบยกตัวเองดีกว่าเขา มักแสดงให้เขาเห็นว่าเราคิดเก่งกว่า รู้ดีกว่า ถ้าให้เราทำ เราจะทำให้ดีกว่าเขาได้

    ๗. อิสสา คือความริษยา เห็นเขาได้ดี ทนไม่ได้เมื่อเห็นเขาได้ดีมากกว่าเรา เขาได้รับความรักความเอาใจใส่มากกว่าเรา เรารู้สึกน้อยใจ อยากจะได้เหมือนอย่างเขา ความจริงเราอาจจะมีมากกว่าเขาอยู่แล้ว หรือเรากับเขาต่างก็ได้รับเท่ากัน แต่เราก็ยังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ทนไม่ได้ก็มี

    ๘. มัจฉริยะ คือความตระหนี่ ขี้เหนียว เสียดายของ ยึดในสิ่งของที่เราครอบครองอยู่อย่างเหนียวแน่น อยากแต่จะเก็บเอาไว้ ไม่อยากให้ใคร

    ๙. มายา คือเจ้าเล่ห์หลอกลวง ไม่จริงใจ พยายามแสดงบทบาทตัวเองเกินความจริง หรือจริงๆ แล้วเรามีน้อย แต่พยายามแสดงออกให้คนอื่นเข้าใจว่ามั่งมี เช่น ด้วยการแต่งตัว กินอยู่อย่างหรูหรา หรือบางกรณี ใจเราคิดตำหนิติเตียนเขา แต่กลับแสดงออกด้วยการพูดชื่นชมอย่างมาก หรือบางทีเราไม่ได้มีความรู้มาก แต่ของคุยแสดงว่ารู้มาก เป็นต้น

    ๑๐. สาเถยยะ คือการโอ้อวด หลอกลวงเขา ชอบอวดว่าดีกว่าเขา เก่งกว่าเขา พยายามแสดงให้เขาเห็น เพื่อให้เขาเกิดอิจฉาเรา เมื่อได้โอ้อวดแล้วมีความสุข

    ๑๑. ถัมภะ คือความดื้อ ความกระด้าง ยึดมั่นถือมั่นในตัวเอง ใครแนะนำอะไรให้ก็ไม่ยอมรับฟัง

    ๑๒. สารัมภะ คือการแข่งดี มุ่งแต่จะเองชนะเขาอยู่ตลอด จะพูดจะทำอะไรต้องเหนือกว่าเขาตลอด เช่นเมื่อพูดเถียงกันก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อเอาชนะให้ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วตัวเองผิด ก็ไม่ยอมแพ้

    ๑๓. มานะ คือความถือตัว ทะนงตน

    ๑๔. อติมานะ คือการดูหมิ่นท่าน ความถือตัวว่าเราดียิ่งกว่าเขา ทำให้ดูถูกดูหมิ่นคนอื่น

    ๑๕. มทะ คือความัวเมา หลงว่ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว ยังไม่แก่ ยังไม่ตาย หลงในอำนาจ หลงในตำแหน่ง คิดว่าเราจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป แล้วทำอะไรเกินเหตุ

    ๑๖. ปมาทะ คือความประมาท เลินเล่อ ไม่คิดให้รอบคอบ อาการที่ขาดสติ ขาดปัญญา

    ที่มา http://www.insideafricanart.com/Artists Main Pages/Omari Idi/Idi - Malachite Kingfishers.jpg

    เหตุแห่งความเศร้าหมองทั้ง 16 ข้อนี้จะมีอยู่ในแต่ละบุคคล มากบ้างน้อยบ้างต่างกันตามแต่จริตและความรู้สึกตัวทั่วพร้อมในแต่คน เมื่อทราบสาเหตุของตนแล้วให้ละเสีย (ทำวันนี้ยังไม่สาย ทำเถอะดีกว่าไม่รู้ตัวเลย หรือรู้ตัวแล้วไม่ทำ) โดยการ

    - อย่าเพ่งเล็งอยากได้ไม่เลือกที่
    - อย่ามีความพยาบาท
    - อย่าผูกโกรธไว้
    - อย่าผูกความเจ็บใจไว้
    - อย่าลบหลู่บุญคุณ
    - อย่าข่มผู้อื่น
    - อย่าริษยา
    - อย่าตระหนี่
    - อย่าเจ้าเล่ห์
    - อย่าโอ้อวด
    - อย่าเป็นคนหัวดื้อถือรั้น
    - อย่าแข่งดี
    - อย่าถือตัว
    - อย่าดูหมิ่นผู้อื่น
    - อย่ามัวเมาหมกหมุ่น
    - อย่าประมาทเลินเล่อ

    และบำเพ็ญธรรมยกระดับจิตใจเพิ่มความใสให้แก่จิต โดยการบำเพ็ญ ทาน ศีล ภาวนา,ทำดี เว้นชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส รักษาศีล 5 เป็นพื้นฐานให้หนักแน่น(ปิดอบายภูมิ) และรักษากรรมบถ 10

    กรรมบถ 10 (เทศนาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จากศิวโมกข์เล่ม 4) กรรมบถ 10 มีอะไรบ้าง กรรมบถ 10 ญาติโยมบางคนไม่เข้าใจ ยังไม่ทราบ ก็จะบอกให้ทราบ

    กรรมบถ 10 ทางกายมี 3 คือ

    1. ไม่ฆ่าสัตว์
    2. ไม่ลักทรัพย์
    3. ไม่ประพฤติผิดในกาม

    ทางวาจา มี 4 คือ

    1. ไม่พูดปด
    2. ไม่พูดคำหยาบ
    3. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกัน ไม่นินทา
    4. ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล

    ทางใจ มี 3 คือ

    1. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่น โดยไม่ชอบธรรม
    2. ไม่จองล้างจองผลาญใคร คือ ไม่พยาบาท ความโกรธยังมี
    3. มีความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่คัดค้าน

    นี่คือกรรมบถ 10 แบ่งไปตาม กาย วาจา ใจ ก็เอาสติเข้าไปควบคุมว่า ศีล 5 ก็ดี กรรมบถ 10 ก็ดี มีกี่สิกขาบท มีอะไรบ้าง คุมไว้ไม่ยอมลืม ใหม่ๆก็ลืมบ้าง เป็นของธรรมดา

    อานิสงส์ของการประพฤติธรรม

    - เป็นมหากุศล
    - เป็นผู้ไม่ประมาท
    - เป็นผู้รักษาสัทธรรม
    - เป็นผู้นำศาสนาให้เจริญ
    - เป็นสุขในโลกนี้และโลกหน้า
    - ไม่ก่อเวรก่อภัยกับใคร ๆ
    - เป็นผู้ให้อภัยแก่สรรพสัตว์
    - เป็นผู้ดำเนินตามปฏิปทาของนักปราชญ์
    - สร้างความเจริญความสงบสุขแก่ตนเองและส่วนรวม
    - เป็นผู้สร้างทางมนุษย์ สวรรค์ พรหม นิพพาน

    "ธมฺมจารี สุขํ เสติ" การประพฤติธรรม นำสุขมาให้(พุทธพจน์)

    จงพึงสังวรไว้เสมอว่า ในทางกลับกันผู้ไม่รักษาธรรมอันเป็นกุศลแล้ว ย่อมพบความฉิบหายจากผลกรรมที่ตนเองสร้างไว้ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าอย่างไม่มีทางเลี่ยงได้เลยหากไม่รักษาความดี สิ่งที่ปถุชนทั่วไปเขาว่าไม่มีๆ แต่ต่อให้พูดขนาดไหน ก็ไม่มีทางที่จะลบล้างความจริงของธรรมชาติได้ อันมีอยู่แล้วเป็นธรรมดาทั้งนรกสววรค์ และ นิพพาน

    ที่มา สิ่งที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัวรับคุณธรรมได้ยาก 16 ข้อ (อุปกิเลส 16) จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แผ่นดินไหวสุมาตรา 6.1 ริคเตอร์

    [​IMG]

    เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.1 ริคเตอร์ ในเขตจังหวัดอาเจะห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ส่งผลให้แตกตื่นวิ่งหนีลงมาตามท้องถนน มีบ้านเรือนพังถล่มลงมา และ ผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คน

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองบันดา อาเจะห์ จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานการตรวจพบเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 6.1 ริคเตอร์ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม. และ ห่างจากเมืองบันดา อาเจะห์ เมืองเอกของจังหวัดอาเจะห์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 188 กม. แล้วยังห่างจากเมืองไบรุน 55 กม. เมืองรอยลูเอตอีก 72 กม.

    รายงานข่าวระบุว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านเรือน ต่างเผ่นหนีลงมาตามท้องถนนด้วยความตื่นตระหนก โดยเฉพาะในเมืองบันดา อาเจะห์ บ้านเรือนราษฎรสั่นไหวอยู่นานประมาณ 1 นาที วิทยุท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 50 คน เพราะกำแพงบ้านเรือนพังถล่มลงมา โดยแพทย์ประจำสถานพยาบาลในเมืองลัมปาฮัน ระบุว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ มีตั้งแต่บาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงกระดูกหัก เป็นต้น

    จังหวัดอาเจะห์เคยได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มจังหวัดอาเจะห์บนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตราว 170,000 ศพ และ อีกหลายหมื่นในอีกหลายประเทศรอบมหาสมุทรอินเดีย สาเหตุนั้นก็เพราะอินโดนีเซียตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า “วงแหวนไฟ” แห่งแปซิฟิก จุดที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกัน จึงเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดขึ้นบ่อยครั้ง

    วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งว่าเกิดแผ่นดินไหวบนบก บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เบื้องต้นรับรู้ได้ถึงแรงสั่นไหว บริเวณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจ.ภูเก็ต

    เดลินิวส์ วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2556 เวลา 15:54 น.

    ที่มา แผ่นดินไหวสุมาตรา 6.1 ริคเตอร์ | เดลินิวส์
     
  14. รรรรรรฤ

    รรรรรรฤ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +9
    กระทู้นี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของแล้วครับ เจ้าของจริงเค้าไม่เข้านานแล้ว
    ที่มาเขียนความเห็นกันนี่ก็มาอาศัยกระทู้เขาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2013
  15. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ++++++++++++
    เกษม
    ใครบ้างที่ต้องโดนประหาร 7 ชั่วโคตร !!!



    บทลงโทษการ กระทำผิดต่อบ้านเมืองสมัยก่อนคือ การตัดหัวหรือกุดหัว

    1.ใครทำผิดสถานเบา ฉกชิงวิ่งราว ตีชิงจี้ปล้น ลักเล็กขโมยน้อย มันผู้นั้นจะถูกจองจำ ใส่ขื่อคา พาเดินแห่ประจานให้ได้ อับอายขายหน้า

    2.ใครทำร้ายผู้อื่น ให้ต้องสูญเสีย ถึงกับชีวิต มันผู้นั้นจะถูกประหารตัดหัว ให้ตายตกไปตามกัน

    3.ใครคิดคตทรยศต่อ เจ้านายฝ่ายปกครอง หัวเมืองต่างๆจนถึงกับ สูญเสียชีวิต มันผู้นั้นจะถูก ประหารตัดหัว ให้ตายตกไปตามกัน และริบเรือน ที่มีเสียทั้งหมด

    4.ใครคิดคตทรยศ ต่อเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทำให้สูญสิ้นชีพภิตักษัย มันผู้นั้นต้องโทษประหาร 7 ชั่วโคตร ริบเรือน เลือกสวนไร่นา ที่มีเสียทั้งหมด

    ** การประหารตัดหัว 7 ชั่วโคตร ก็คือวงศ์สกุลที่สืบสายโลหิต ซึ่งนับตั้งแต่ตัวเองขึ้นไป 3 ชั้น คือ ชั้นพ่อ ชั้นปู่ และชั้นทวด กับนับจากตัวเองลงมาอีก 3 ชั้น คือ ชั้นลูก ชั้นหลาน และชั้นเหลน รวมเป็น 7 ชั่วโคตร **

    คงพอจะนึกภาพออกนะครับว่าใครที่จะโดน ตัดหัว 7 ชั่วโคตร น่าเอากฎหมาย แบบนี้มาใช้ในปัจจุบันบ้าง ไอ้พวกโกงกินบ้านเมือง กับไอ้พวกจาบจ้วง มันจะได้หมดไปเสียที จริงมั้ยครับ พี่น้อง !

    Posted by คนสองยุค2503 , ผู้อ่าน : 502 , 15:41:56 น.

    ที่มา ใครที่ต้องโดนประหาร 7 ชั่วโคตร !+++++++++

    จัดให้ ครับ ในฐานะ เคยเล่น ดนตรี มาก่อน ชอบมาก เพลงนี้..

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xiRgdvH0etM]ม 21 - YouTube[/ame]

    ถวายความจงรักภักดี ต่อ พ่อหลวง HS1A
    hs8hnb
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2013
  16. comfx22

    comfx22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +234
    ความรุนแรง ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา มีแต่จะบาปหนักขึ้นๆ บ่องตง.
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=bZc7JqdcN7Y&list=PLE1964BC2E0E3F2E7&index=142]Breaking Benjamin - Blow Me Away Lyrics FULL HD - YouTube[/ame]
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    “อัมมาร”ชำแหละ“จำนำข้าวทุกเมล็ด”พาชาติล่มจม !!!

    [​IMG]

    “อัมมาร” ชี้นโยบายจำนำข้าวทุกเมล็ดทำลายอนาคตส่งออกข้าวไทย ยอมรับ 2 ปีที่่ผ่านมาไทยระบายข้าวไม่ได้ เพราะข้าวไทยเสื่อมคุณภาพ แนะทางออกรัฐต้องแกล้งลืมสต๊อก 17 ล้านตัน แล้วเอาข้าวใหม่ที่่เข้าโครงการไปเสนอขาย พร้อมปลุกให้คนไทยตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว เพราะการเก็บข้าวไม่ได้ทำให้เรานำราคาในตลาดโลกได้ ผูกขาดไม่ได้เพราะข้าวไม่ใช่มือถือ เก็บไว้ 2 ปีข้าวก็เน่าแล้ว

    นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวในงานสัมมนาทางออกระบบอุตสาหกรรมข้าวไทยสู่การแข่งขันตลาดโลก จัดโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา โดยระบุว่า ทางออกของอุตสาหกรรมข้าวไทยคือต้องรื้อฟื้นระบบการขายข้าวแบบเก่าที่่ระบบรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลได้ทำลายลงไป เนื่องจากระบบเดิมที่่ทำให้ข้าวไทยได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพจากตลาดโลกมีกระบวนการคัดเลือกข้าวที่่ได้คุณภาพดีอยู่แล้ว ซึ่งต่างจากระบบของรัฐที่่จำนำข้าว และนำข้าวมาเก็บไว้จนเสื่อมคุณภาพ

    “ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาไทยระบายข้าวไม่ได้ ส่งออกไม่ได้ เพราะบางตลาดเห็นว่าคุณภาพข้าวไทยเสื่อมลงเพราะมีการเก็บข้าวไว้นานเกินไป ดังนั้นทางออกของการขายข้าวและรักษาตลาดข้าว รัฐบาลต้องแกล้งลืมสต๊อกข้าว 17 ล้านตันไปเลย แล้วเอาข้าวใหม่ที่่เข้าโครงการไปเสนอขาย จากนั้นค่อยหาทางระบายข้าวที่่เสื่อมคุณภาพออกไปภายหลังซึ่งต้องใช้เวลาระบายอีกนานมาก”

    นายอัมมารกล่าวว่า ตลาดข้าวในอนาคตจะแข่งขันกันในเรื่องคุณภาพข้าวสูงขึ้น ดังนั้น การที่่รัฐบาลเก็บข้าวไว้ในโครงการทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพจึงเป็นการทำลายอนาคตการส่งออกข้าวไทย และสร้างความเสียหายแก่ห่วงโซ่การผลิตข้าวทั้งระบบ

    “เราต้องตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว การเก็บข้าวไม่ได้ทำให้เรานำราคาในตลาดโลกได้ ผูกขาดไม่ได้เพราะข้าวไม่ใช่มือถือ เก็บไว้ 2 ปีข้าวก็เน่า”

    นอกจากนี้ สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดของรัฐบาลคือการทำให้ราคาข้าวเปลือกพุ่งไปสูงถึง 30-40% แต่ข้าวสารยังมีราคาเท่าเดิม เพราะนโยบายจำนำข้าวที่รัฐบาลรวบรัดเอาข้าวมาอยู่กับตัวเองทำให้ราคาข้าวสารนิ่ง แต่ข้าวเปลือกแพง จึงอาจต้องพิจารณาให้ราคาข้าวสารแพงขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวมีผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นชาวนา พ่อค้า หรือผู้บริโภค

    นายอัมมารกล่าวว่า มีความรู้สึกว่าอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อาศัยมานานคือบ้านเศรษฐกิจข้าว ขณะนี้มีความรู้สึกเกิดพายุใหญ่ บ้านถูกทำลาย โดยข้าวส่วนใหญ่ที่บริโภคกันอยู่ไม่ได้มาจากชาวนาที่ยากจน แต่มาจากชาวนาร่ำรวย หรือระดับปานกลาง ประมาณ 20% ข้าวที่เข้าโครงการรับจำนำจึงมาจากชาวนาฐานะดี ซึ่งการที่เราจะบอกแก้ปัญหาความยากจนโดยการขึ้นราคาสินค้าข้าวนั้นเป็นคนละเรื่อง และการแก้ไขปัญหายากจนโดยการขึ้นราคาสินค้าข้าวเป็นการแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น 2 ปีที่ผ่านมาเป็นการหากินของพวกที่อาศัยการเมืองกอบโกยหากิน

    “ดูตลาดส่งออกข้าวของเรา พ่อค้าที่รัฐบาลให้อำนาจผูกขาดไม่มีปัญญาส่งออกจึงทำให้การส่งออกต่ำลง และทำให้ข้าวตกอยู่ในมือรัฐบาล และในอนาคตเมื่อเอเชียมีราคาข้าวดีขึ้นจะทำให้คนสนใจคุณภาพข้าว ส่วนไทยก็ต้องค่อยรื้อฟื้นระบบค้าข้าวแบบเดิมที่สร้างคุณค่าให้ข้าวไทยอย่างแท้จริง”

    อย่างไรก็ตาม มองว่าการระบายข้าวรัฐบาลต้องทำให้โปร่งใส เลิกวิธีการที่ให้เอกชนแค่ไม่กี่่รายเข้ามาผูกขาด เนื่องจากพิสูจน์แล้วว่าล้มเหลวในการระบายข้าว และทำให้มีการขาดทุนจำนวนมาก รัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อลดความเสียหายลง

    นายอัมมารกล่าวสรุปว่า ทางออกของปัญหาในระยะสั้นนั้นพูดลำบาก เพราะรัฐบาลกำลังหันซ้ายหันขวาหาทางออกจากนโยบายของตัวเอง เปลี่ยนวันต่อวันเพื่อแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อเท็จจริงเมื่อมองไป 2-3 ปีข้างหน้าจะต้องเจ็บปวด จึงขอฝากบอกรัฐบาลว่าจะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีเพราะจะสร้างความเจ็บปวด ซึ่งความเจ็บปวดดังกล่าวต้องไปที่พ่อค้าข้าวเป็นหลัก ขณะที่ชาวนาอาจจะรับภาระบางส่วน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2556 12:12 น.

    ที่มา iBiz - Manager Online - “อัมมาร” ชำแหละ “จำนำข้าวทุกเมล็ด” พาชาติล่มจม แนะให้ตื่นจากภวังค์ของคนดูไบได้แล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอินโดนีเซีย พุ่งเป็น 29 ศพแล้ว

    [​IMG]

    ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 6.1 ริกเตอร์ในอินโดนีเซีย เพิ่มเป็นอย่างน้อย 29 คนแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาเหยื่อต่อไป

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองบันดา อาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ว่า ทหาร ตำรวจและอาสาสมัคร ต่างพยายามค้นหาทั่วพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในพื้นที่ทางตะวันตกของอินโดนีเซียในวันนี้ โดยพากันรื้อค้นซากปรักหักพังของบ้านเรือนที่พังถล่มลงมาและในพื้นที่ดินถล่ม เพื่อค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหว ซึ่งล่าสุด มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 ศพ และบาดเจ็บหลายร้อยคน โดยแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์เมื่อบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา ลึกลงไปใต้ดินเพียง 10 กิโลเมตร และมีศูนย์กลางอยู่ในตะวันตกไกลของเกาะสุมาตราในจังหวัดอาเจะห์

    เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีอาคารบ้านเรือนประมาณ 600 หลังได้รับความเสียหายในเขตเบเนอร์ เมเรียห์ ซึ่งประชาชนจำนวนมากยังคงพักอาศัยอยู่ในเต้นท์นอกบ้านเรือนตัวเอง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บางคนกล่าวว่า ในเขตอาเจะห์ กลาง มีอาคารบ้านเรือนประชาชนเสียหายประมาณ 1,500 หลัง และประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว 10 แห่ง

    เดลินิวส์ วันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2556 เวลา 19:41 น.

    เหตุรุนแรงในอิรัก 3 วัน สังเวย 119 ศพ

    [​IMG]

    อิรักนองเลือดรุนแรง 3 วันเสียชีวิตแล้ว 119 ศพ หวั่นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบกลับมาอีกครั้ง หลังเหตุโจมตีรุนแรงขึ้นและถี่ขึ้น

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ว่า เกิดเหตุการณ์โจมตีหลายระลอกในอิรักวันนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 10 ศพ เป็นการนองเลือดล่าสุดที่มีเป้าหมายส่วนใหญ่อยู่ที่ชาวมุสลิมชาวชีอะห์ ซึ่งความรุนแรงในรอบ 3 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 119 ศพ ท่ามกลางความหวาดกลัวว่า ประเทศกำลังไถลกลับเข้าสู่สงครามกลางเมืองอย่างเต็มรูปแบบ โดยความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นนี้ ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 300 คน และมีขึ้นในขณะที่ ประเทศเผชิญหน้ากับความขัดแย้งทางการเมืองและการประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลายเดือน ซึ่งนักวิเคราะห์เตือนว่า ภาวะชะงักงันทางการเมืองดูเหมือนจะยังไม่สามารถแก้ไขได้ จนกว่าอย่างน้อยก็ต้องถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า

    ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ สำหรับการก่อเหตุวันนี้ แต่กลุ่มหัวรุนแรงชาวสุหนี่ ที่มีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์ มักโจมตีเป้าหมายของชาวชีอะห์ เนื่องจากพวกเขามองว่าเป็นพวกละทิ้งศาสนา ทั้งนี้ การโจมตีครั้งล่าสุด เป็นการลอบวางระเบิดถล่มเขตนาห์ราวัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงแบกแดดเมื่อเช้าวันนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 7 ศพ และบาดเจ็บอย่างน้อย 14 คน ขณะเดียวกัน ก็เกิดเหตุรุนแรงทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ

    เหตุรุนแรงวันนี้ มีขึ้นหลังจากเกิดคลื่นการลอบวางระเบิดและยิงกันทั่วอิรักเมื่อ 1 วันก่อน มีผู้เสียชีวิต 57 ศพ และอีก 49 ศพในเหตุรุนแรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    เดลินิวส์ วันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2556 เวลา 20:02 น.

    สหรัฐขาดดุลการค้าเดือน พ.ค.สูงกว่าที่คาด

    [​IMG]

    สหรัฐขาดดุลการค้าเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยความต่างอยู่ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ย 3 เดือนที่ผ่านมา เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยช่องว่างการค้าอยู่ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 40,100 ล้านดอลลาร์ในเดือน เม.ย. ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 40,800 ล้านดอลลาร์

    สหรัฐส่งออกสินค้าและบริการคิดเป็นมูลค่า 187,100 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขนำเข้าอยู่ที่ 232,100 ล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค.น้อยกว่าเดือน เม.ย. 0.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขนำเข้าเพิ่มขึ้น 4,400 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมดุลการค้ามีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เฉลี่ยการเคลื่อนไหว 3 เดือน ยอดขาดดุลการค้าเดือน พ.ค. อยู่ที่ 40,800 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 40,400 ล้านดอลลาร์ สิ้นสุดเดือนเมษายน

    เดลินิวส์ วันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2556 เวลา 20:17 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2013
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    'คณิต'ชี้ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ !!!

    [​IMG]

    ประธาน คปก.นำทีมแถลง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ขัดรัฐธรรมนูญว่าด้วยวินัยการคลัง-จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน

    คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) โดย นายคณิต ณ นคร ประธาน คปก. แถลงเมื่อบ่ายวันที่ 3 ก.ค.เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท หรือ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 เพราะการจ่ายเงินแผ่นดิน ต้องเป็นไปตามกฎหมาย 4 ฉบับเท่านั้น ทั้งยังขัดรัฐธรรมนูญในหมวดที่ว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง

    นอกจากนั้นยังจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และไม่ยอมให้ประชาชนมีส่วนร่วม จึงได้ยื่นข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล รัฐสภา วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน ให้พิจารณา ในการนี้ คปก.ได้ยื่นข้อเสนอแนะ 3 ประเด็น คือ

    1.การที่รัฐกู้เงินจำนวนมาก ซึ่งเป็นการกู้เงินในนามประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและดุลยภาพการเงินการคลังของประเทศ จึงควรดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติรับรองไว้ ควรดำเนินการให้รัดกุมเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินการคลัง รัฐบาลสามารถดำเนินการในรูปแบบงบประมาณประจำปีและสามารถใช้วิธีการแสวงหาเงินทุนในรูปแบบที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นทางเลือก เช่น การให้เอกชนร่วมลงทุนโดยไม่ต้องตราเป็นกฎหมายเฉพาะ ซึ่งเป็นวิธีที่เป็นไปตามวินัยการคลัง

    2.ควรศึกษาแต่ละโครงการอย่างรอบคอบ รอบด้านเสียก่อน และดำเนินการโครงการเฉพาะเท่าที่จำเป็นจริงๆ เพื่อรักษาสมดุลทางเศรษฐกิจ และลดจำนวนเงินกู้ที่จะเกิดขึ้น

    3.กำหนดโครงการและมาตรการต่างๆ โดยศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครบถ้วน

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 3 กรกฎาคม 2556 14:01 น.

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2013
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ไข้หวัดมรณะ "เอช1 เอ็น1" ระบาดหนักในชิลี

    [​IMG]

    โรคไข้หวัดใหญ่จากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ "เอช1 เอ็น1" กำลังระบาดอย่างหนักในชิลี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ศพ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ว่า โรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ "เอช1 เอ็น1" กำลังระบาดอย่างหนักในชิลี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ศพ

    รายงานโดยกระทรวงสาธารณสุขชิลีระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการระบาดสูงกว่าบริเวณอื่นถึง 6 เท่า โดยอัตราส่วนผู้ป่วยตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 148 คน จากจำนวนประชากร 100,000 คน สูงกว่าอัตราส่วนเฉลี่ยทั่วประเทศ ซึ่งอยู่ที่ 24 คน ต่อประชากร 100,000 คน

    ขณะที่คำแนะนำเบื้องต้นจากทางกระทรวง คือการขอให้คณะผู้จัดงาน "เฟียสตา เดอ ลา ติรานา" ซึ่งเป็นเทศกาลสำคัญทางศาสนา เลื่อนหรือยกเลิกการจัดงาน ที่เดิมมีกำหนดระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค. เนื่องจากการวมตัวกันของประชาชนจำนวนมาก อาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายอย่างรวดเร็วได้

    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้กระจายการส่งมอบวัคซีนกว่า 115,000 หลอด ไปยังโรงพยบาลและสถานอนามัยทั่วทั้งภาคเหนือของประเทศแล้ว ส่วนนายไฮเม โมนาลิช รมว.กระทรวงสาธารณสุข มีกำหนดเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดของโรคในวันนี้ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2556 เวลา 11:09 น.

    พบเหยื่อไวรัสคล้ายซาร์ส เสียชีวิตในอังกฤษ

    [​IMG]

    ชายชาวกาตาร์ ที่ติดเชื้อไวรัสคล้ายซาร์ส เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตด้วยไวรัสมรณะชนิดนี้ เพิ่มเป็น 43 รายทั่วโลก

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ว่า ชายชาวกาตาร์คนหนึ่ง เสียชีวิตในโรงพยาบาลในอังกฤษ จากการติดเชื้อไวรัสโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรงตะวันออกกลาง หรือเอ็มอีอาร์เอส ซึ่งเพิ่มความตื่นตระหนกระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลก ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสมรณะคล้ายซาร์สชนิดนี้ เพิ่มเป็น 43 รายแล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก

    ชายไม่ทราบชื่อวัย 49 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกายส์ แอนด์ เซนต์ โทมัส ในกรุงลอนดอน ตั้งแต่เดือนก.ย. 2555 เนื่องจากมีอาการป่วยรุนแรงจากเชื้อไวรัส โดยเขาถูกนำตัวมาจากกรุงโดฮา เมืองหลวงกาตาร์ มารักษาตัวในอังกฤษ

    ส่วนประวัติของเหยื่อรายล่าสุดนี้ เคยเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีการระบาดรุนแรงที่สุดมาก่อน โฆษกหญิงของโรงพยาบาลกายส์ แอนด์ เซนต์ โทมัส กล่าวว่า เขาเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากอาการทรุดหนัก

    เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2556 เวลา 22:27 น.

    เที่ยวบินมะกันยกเลิกเพียบหลังภูเขาไฟปะทุในเม็กซิโก

    [​IMG]

    สายการบินอเมริกันหลายแห่งจำเป็นต้องยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกเม็กซิโก หลังภูเขาไฟ "โปโปกาเตเปตล์" กำลังปะทุอย่างรุนแรง

    นายฮอร์เก อังเดรส โกเมซ โฆษกท่าอากาศยานนานาชาติ "เบนิโต ฮัวเรซ" ซึ่งเป็นสนามบินแห่งชาติ แถลงว่า สายการบินชั้นนำของสหรัฐ 5 แห่ง ได้แก่ "อเมริกัน แอร์ไลน์ส" "ยูเอส แอร์เวย์ส" "เดลต้า แอร์ไลน์ส" "ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส" และ "อะแลสกา แอร์ไลน์ส" ประกาศยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกเม็กซิโกรวมแล้วอย่างน้อย 47 เที่ยว อย่างไรก็ตาม สนามบินยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่ผู้เกี่ยวข้องกำลังติดตามสถานการณ์ของภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด หลังการปะทุครั้งล่าสุดเกิดขึ้นนานกว่า 12 ชั่วโมงแล้ว

    ทั้งนี้ ภูเขาไฟโปโปกาเตเปตล์ มีความสูง 5,542 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตีไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 65 กิโลเมตร เริ่มพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางเดือนพ.ค. ส่งผลให้รัฐบาลต้องประกาศเตือนภัย "สีเหลืองระดับ 3" ซึ่งเป็นขั้นเดียวรองจากระดับสูงสุด นานถึง 27 วัน

    รายงานล่าสุดระบุว่า ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติประกาศให้พื้นที่รอบภูเขาไฟ ในรัศมี 7 กิโลเมตร เป็นพื้นที่อันตาย และห้ามผู้ใดเข้าใกล้แล้ว

    เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2556 เวลา 07:44 น.

    ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...