ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

เมื่อเกิดภัยพิบัติ..ข้าวสารกับทองคำ..จะมีราคาสูงมาก !!!​

​

ภัยพิบัติปี ๒๕๕๖ นี้จะมาจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่จากฝั่งอ่าวไทย มีผลทำให้เกิดมวลน้ำมหาศาลพุ่งเข้ามาที่ประเทศไทยของเรา เกิดภัยน้ำท่วมทั่วกรุงเทพบริเวณริมเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง หลวงปู่ดำท่านเอ่ยมาว่า ให้ระวังน้ำจากทางอ่าวไทยเป็นหลัก หลังฝนครามลั่นครืนจะยืนได้ เข้าสู่ยุคมหาชนคนพาไป ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

สำหรับอาณาเขตประเทศไทย จะเสียหายจากภัยพิบัติประจำปีนี้ ประมาณหนึ่งถึงสิบเปอร์เซ็น และไม่มากกว่านี้ ความเสียหายส่วนใหญ่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวไทยทั้งสองฝั่ง และที่ราบลุ่มริมแม่น้ำทั่วประเทศ และตามเมืองหลวงทั่วไป จะเกิดผลกระทบจากอุทกภัยที่มาจากแผ่นดินไหวขนาดหนัก ส่วนทั่วโลกจะเสียหายประมาณสามสิบเปอร์เซ็นตลอดทั้งปี อันเป็นเหตุให้เกิดสงครามความอดอยาก แย่งชิงปัจจัยสี่ในปีสุดท้ายแห่งวิกฤติ คือปี ๒๕๕๗ ตลอดทั้งปีอีกด้วย

ส่วนคำทำนายจากผู้วิเศษเกือบทั้งหมด ถูกเปลี่ยนแปลงแล้ว เพราะปัจจุบัน พระโพธิสัตว์มากบารมี ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทยเรา คำทำนายแรงๆ เช่นเขื่อนแตก ลูกเห็บยักษ์ ซอมบี้ผีดิบจากโรครังสีดวงอาทิตย์ โรคระบาดไวรัส วันฟ้าดับ แผ่นดินแยก ภูเขาไฟระเบิด มหาวายุ และซุปเปอร์ซึนามิ จะไม่เกิดขึ้นในประเทศไทยของพวกเราอีกต่อไป คงเหลือแต่ภัยน้ำท่วม ทางภาคกลางและภาคใต้ แผ่นดินสไลด์ตัว ทุกจังหวัดและความแห้งแล้ง ร้อนอบอ้าว จนเกิดภาวะขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ และปัจจัยสี่ไม่พอเพียงตลอดทั้งปี ๕๖-๕๗ นับเป็นภัยพิบัติตามธรรมดาๆ ของธรรมชาติทั่วๆ ไปของเรานั่นเอง

ทั้งหมดนี้ คือคำตอบจากพระอริยะเจ้าผู้ที่สาธุชนคนดีทั่วไปยอมรับ หลวงตาม้าแห่งถ้ำเมืองนะ ศิษย์ใกล้ชิดที่สุดของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวดครับ

ปล ท่านที่รักจงอย่าลืมภาวะการขาดแคลนน้ำดื่ม และอาหารตลอดทั้งสองปีนี้ เกิดจากภาวะข้าวยากหมากแพง ขาดแคลนน้ำมัน ราคาค่าเงินตกต่ำ และราคาข้าวสารกับทองคำ จะมีค่าสูงมากนะครับ จึงเรียนมาเพื่อเตือนใจสาธุชนทุกๆท่านอีกครั้งหนึ่งก่อนจากกันหลายเพลา

ที่มา http://www.108dee.tht.in/paiv2.html#.UdbdQTteBRY

 

คำทำนายเหตุการณ์ปลายปี 2556 โดยโสรัจจะ นวลอยู่ !!!​

(ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณให้มากๆ)​

​

สิงหาคม เศรษฐกิจตกต่ำ คนแห่ชุมนุมใหญ่

เกิดไฟป่าดอยอินทนนท์ แม่เสลียง กาญจนบุรี และเขาใหญ่ เศรษฐกิจไทยตกต่ำ เกษตรกรกว่าหมื่นคนมาชุมนุมกันที่โคราช เศรษฐกิจของเมืองไทยยังคงประสบความยุ่งยากตลอดมา ต้องผจญต่อปัญหาเหล่านี้ รวมทั้งการปิดกิจการต่างๆ ด้วยการขาดทุนและภาษีเร่งรัดเดือดร้อนกันทั่วหน้า

ต้นเดือนดีเปรสชันผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสานลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน การจราจรเป็นอัมพาต ราวกลางเดือนน้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและภาคอีสาน ลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย ผู้นำของสหรัฐอเมริกาอาจถูกลอบทำร้าย สถานการณ์ในสหรัฐอเมริกาน่าเป็นห่วง เกิดกลียุค จีนและเวียดนามจะโดนไต้ฝุ่นสองระลอกใหญ่ บ้านเรือนพินาศย่อยยับ

เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทย เกิดขึ้นทางภาคเหนือ มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมหาศาล ยังประสบกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกวินาศสันตะโร ธนาคารจะเข้าสู่จุดคับขัน ความลำบากยากแค้นจะมีไปทั่ว ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม พระอลัชชีกับมนุษย์ลวงโลกจะกำเริบเสิบสาน ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง

กันยายน แผ่นดินไหว สึนามิถล่ม

ต้นเดือนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ สิ่งที่ตามมาสร้างความเสียหายให้แก่โลก จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ถาโถมเข้าไปกวาดทุกสิ่งทุกอย่างรายรอบชายหาดลงสู่ทะเล และอาจตามติดด้วยการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ บุคคลสำคัญของแผ่นดินจักเจ็บไข้ได้ป่วย และอาการจะรุนแรงอย่างคาดไม่ถึงด้วย อาจสูญเสียชีวิต ดารานักแสดงอาจประสบอุบัติเหตุ หรือล่วงลับไปหลายคน การทรงเจ้าเข้าผีระบาดมากขึ้น พระสงฆ์อลัชชีถูกเปิดโปงความชั่วออกมา ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม

เศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกอย่างรุนแรง ภาวะการเงินตึงตัว เราจะเสียเปรียบทางการค้ากับต่างประเทศเป็นหนี้สินมากมาย เกิดความแตกแยกแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายระหว่างคนรวยและคนจน ศักดิ์ศรีของประชาชนพลเมืองที่เหลื่อมล้ำกัน เมื่อความไม่เสมอภาค ความอยุติธรรมเกิดขึ้น ประชาชนก็เดือดพล่านขึ้นมา กลางเดือนในวงการเมือง บุคคลในเครื่องแบบจะมีปัญหาขัดแย้งกันรุนแรง ผู้มัวเมาอำนาจจะแสดงอำนาจโดยไม่เป็นธรรม ดวงดาวในเดือนนี้มีลักษณะวิปริตอาเพศ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจะประมาทมิได้

ตุลาคม นายกฯโดนปองร้าย

จะเกิดการผ่าตัดปฏิรูปหรือปฏิวัติตัวเองเป็นการใหญ่ แบบพลิกแผ่นดินขึ้นในเมืองไทย เป็นระยะที่นายกรัฐมนตรีจักเป็นอันตราย คนสำคัญจะล่วงลับไป จะมีเรื่องขัดแย้งกันในวงการภายใน วิธีแก้เคล็ด ให้หาทางเดินทางตรวจราชการนอกกรุงเทพฯ หรือไปต่างแดนจึงจะเหมาะ การเดินทางในที่อันตรายหรือในเขตอันไม่ปลอดภัย ควรจะเพิ่มการคุ้มครองให้มากเป็นพิเศษ

กลางเดือนเกิดภัยพิบัติทางทะเลครั้งยิ่งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศ มีคลื่นยักษ์เป็นกำแพงสูงเสียดฟ้า อันเนื่องมาจากแผ่นดินไหวในหมู่เกาะสุมาตรา พัดเข้าถล่มหมู่เกาะและชายฝั่งด้านอันดามันอีกครั้ง กวาดผู้คนและทรัพย์สินบ้านเรือนที่ติดอยู่ทะเลลงสู่ทะเลไปเกือบหมดสิ้น ทำให้เกาะบางเกาะจมหายไปในทะเล พายุโซนร้อนผ่านตอนใต้อย่างรุนแรง ชาวใต้ต้องอพยพด่วน ชายทะเลฝั่งตะวันออกถูกพายุกวาดลงทะไปเป็นจำนวนมาก หลายจังหวัดทางภาคใต้โดนวาตภัยร้ายแรงอีก ทางรถไฟสายใต้ขาด รถเดินไม่ได้ โทรศัพท์เสีย ปลายเดือนพายุไซโคลนลูกใหญ่พุ่งเข้าไทย ร้ายแรงกว่าครั้งใดๆ ที่ผ่านมาโหมเข้าภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย

พฤศจิกายน ธนาคารล้ม-สูญเสียบุคคลสำคัญ

กลุ่มนักการเมืองร่วงหล่นเป็นแถวๆ ธนาคารล้ม ตลาดหลักทรัพย์ต้องปิดตัวลง พินาศย่อยยับ ราวปลายเดือนน้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสาน ลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อีกครั้งหนึ่ง แหล่งน้ำทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย บุคคลสำคัญของประเทศสุขภาพจะทรุดโทรมอย่างหนัก อาจมีการสูญเสียบุคคลสำคัญ

ธันวาคม หนาวจัด หิมะตกในไทย

เดือนนี้สภาพภูมิอากาศหนาวจัดที่สุดในรอบร้อยปี มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก และเกิด “หิมะตกในเมืองไทย” เป็นครั้งแรกผู้คนตกตะลึงกันไปทั่วโลก วิกฤตทางภาคใต้ได้ลุกลามเข้ามาถึงกรุงเทพฯ มีผู้คนเสียชีวิต เป็นเดือนหฤโหด วิปโยคที่แท้จริงสำหรับคนไทย หุ้นตกอย่างรุนแรงอีก การเมืองของไทยเต็มไปด้วยความผันผวน เผชิญกับวิกฤตการณ์อย่างหนัก ข้าวยากหมากแพง หุ้นตก เศรษฐกิจล้มเหลว

ในกรุงเทพฯ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ สถานที่สำคัญเสียหายหนัก เกิดระเบิดทางภาคใต้หลายจุด เกิดพายุใต้ฝุ่นที่ภาคใต้ จากหัวหิน ชุมพร นครศรีธรรมราช เสียหายยับเยินทางภาคใต้ โดยเฉพาะที่แหลมตะลุมพุก ปากพนัง เกิดคลื่นยักษ์กวาดบ้านเรือนผู้คนตายจำนวนมากมาย เป็นโศกนาฎกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของไทยหนักกว่าครั้งก่อนหลายเท่า พายุครั้งนี้เสียหายหลายพันล้านบาท เกิดพายุในกรุงเทพฯ กลางวันแสกๆ รุนแรงมากไม่เคยปรากฏมาก่อน

ที่มา Entertainment - Manager Online -

 

บางคราวก็ อดอนุโมธนาคุณเกษมไม่ได้ครับ..ในบางโพสก์ แต่ที่ผ่านมาท่านก็สนับสนุนกลุ่มพวกแมททริกซ์อีเหี้ยนี่.. หลายๆคนซึ่งก็ไม่ได้สนับสนุนให้ก่อเกิดปัญญาอันเป็นหัวใจของศาสนานาพุทธเลย..ซ้ำยังมีแนวโน้มให้ถอยห่างจากคำสอนของพระศาสดาเสียอีกครับ

 

มองแต่แง่ดีเถิด !!!​

​

 

มหาวิบัติสงคราม Z​

​

มณีส่องแสง สมาชิก

World War Z .. "เตรียมพร้อมทุกอย่าง สงครามเราเพิ่งจะเริ่ม"

เปิดไขหาความจริงของคำว่า "ซอมบี้"...ว่าแท้จริงแล้วมีต้นกำเนิดและมีปริศนาอะไรที่ซ่อนและแฝงอยู่กับคำว่า"ซอมบี้"กันแน่..

เมื่อประมาณสักวันอาทิตย์ เราได้ไปดูหนังเรื่อง World War Z (จากที่เราไม่เคยได้เข้าไปโรงหนังนานมากๆ เพราะจะไปก็มีเหตุ แต่ครั้งนี้เป็นเหตุที่เหมือนเราต้องไปและดูหนังเรื่องนี้นั้นเอง)..

แต่สิ่งแรกที่เราประทับใจก่อนก็คือ เพลงสรรเสริญพระบารมี ไพเราะมากๆค่ะ รูปภาพก็สวยค่ะ (ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานหลายหมื่นล้านปี)..

และมาถึง ฉากตอนแรกที่เราได้เห็นภาพที่มี ซอมบี้ออกมา..ใจเราก็พิจารณาว่า แท้จริงแล้ว หนังเรื่องนี้อยากจะสื่อถึงอะไรกันแน่ และทำไมเราต้องมาดูหนังเรื่องนี้ และหากโลกมนุษย์ต้องพบกับซอมบี้เช่นนี้ ในใจเราก็ได้แต่พิจารณาว่า "ภัยพิบัติยังไม่น่ากลัวและหวาดผวาเท่ากับบรรดาซอมบี้" พวกนี้เลยนะ..

และเราก็ได้แต่พินิจว่า ..มันต้องมีปริศนาที่ซ่อนอยู่สิสำหรับคำว่า "ซอมบี้" และหากเราหาต้นเหตุได้ ทุกอย่างก็จะง่ายในการแก้นั้นเอง...

(หากเพื่อนๆท่านไหนได้ไปดูแล้ว ก็ลองพิจารณาดูนะคะว่า จริงแล้วภาพยนต์เหล่านี้ ให้แค่ความสนุกบันเทิงใจอย่างเดียว หรือซ๋อนอะไรไว้หรือไม่..)

และพอเรานั่งรถกลับมาบ้าน ช่วงที่เรานั่งรถ เราก็ได้คำตอบทันทีว่า..คำจำกัดความและสิ่งที่เตือนใจเรา และนำพาให้เราต้องมาดูหนังเรื่องซอมบี้นี้ จริงแล้ว มันคือ หายนะที่แท้จริงและใกล้ตัว ครอบครัว(ลูกหลาน) แผ่นดิน แบบว่า ..ฆ่าไม่ตาย ไล่ไม่ทัน...

และคำตอบที่เราได้นั้นก็คือ "คำจำกัดความว่า "ซอมบี้ ก็คือ พวกคอรับชั่น "นั้นเอง..คำตอบที่มันผุดขึ้นมาในใจ

และที่นี้พอได้คำตอบแล้ว เราก็ต้องไปค้นหาว่า ต้นตอใครกันนะคือ ต้นกำเนิดของคำว่า "ซอมบี้ "และ ตัวซอมบี้แท้จริงมีไหม..และซ่อนอยู่ที่ใด..

และวันที่ ๒๔ มิย.๕๖ เราก็ทำการค้นหาความจริงและต้นตอ (เพราะส่ิงเหล่านี้คือเหตุมาเตือน แล้วมันใกล้ตัวเราและน่ากลัวกว่าภัยพิบัติเสียอีก เพราะสิ่งที่ต้องห่วงก็คือ ซอมบี้บุกและกลืนกินไปทั่วทั้งโลกแล้วนั้นเอง..

ต่อจากนี้เรามาช่วยกันค้นหาความจริงและไขปริศนากับคำว่า "ซอมบี้"กันดูนะคะ..

"ซอมบี้"...

อันดับแรกเราต้องค้นหาหัวใจของซอมบี้ก่อนว่า มันคือ อะไร (สำคัญนะคะ ทุกสิ่งในโลก จักรวาลย่อมมีตัวที่มาที่ไป และต้นกำเนิดโดยแท้จริงสิ่งที่สำคัญ หากเราจะเครียร์อะไรให้จบและง่าย เราต้องค้นหาหัวใจสิ่งนั้นก่อนนั่นเอง..

และก็ได้รับคำตอบว่า "หัวใจของซอมบี้ ก็คือ ...โกงกิน"...

และ "ดาวกินจุ๊" (ครั้งหน้าจะบอกว่า อยู่จุดไหนใครคือ ต้นกำเนิดดาวกินจุ๊ค่ะ (แต่ก็พอเดาๆกันได้นะคะเพื่อนๆ ว่าใครกันที่อยู่ดาวกินจุ๊ค่ะ)..

"ดาวกินจุ๊" คือ ดาวต้นกำเนิดของคำว่า "ซอมบี้"..นั้นเอง

และสิ่งที่ได้คำตอบก็คือ "หากเครียร์จัดการแค่คนคนเดียว ที่เป็นต้นกำเนิด หรือ หากจะเรียกว่า ต้นธาตุ ก็ว่าได้...ก็จะจบสิ้นทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เราเห็น ปัจจุบันมันคือ ปลายธาตุ" กันนั้นเอง...

เพราะเขาคนนั้นคือ "ต้นกำเนิดของคำว่า "โกงกิน" นั้นเอง (ขอโทษนะคะ ที่เราต้องนำเรื่องนี้มาเอ่ย เพราะนี้มันคือ ภัยที่ร้ายแรงที่สุดถึงที่สุดแล้วค่ะ )..(สำหรับสิ่งที่เราสัมผัส)..และก็คงถึงเวลาที่ต้องพูดความจริงและยอมรับความจริง (และเราก็พูดและเล่าไปตามสิ่งที่เราสัมผัสและรับรู้ และกระทำการทุกอย่าง (เป็นความเชื่อส่วนตัวและกิจหน้าที่ของเราโปรดพิจารณา)

มาเปิดความลับของซอมบี้กันนะคะ...

๑. แดก แดก แดก

๒. เงิน เงิน

๓. แดกกินเงิน กินบ้านกินทอง กินบ้านทรัพย์สิน

๔. แพร่เชื้อได้ (มันสามารถแพร่เชื้อได้)

๕. ทำลายทรัพย์สิน

นำ ๑-๖ ข้อมารวมกันและไขปริศนาได้ "แดกเงินทอง"..

ที่นี้เราก็ต้องมาค้นหาว่า มีสิ่งใดไหมหนอ ที่(ไอ้พวกแดกเงินทอง) สื่อให้เรียกว่า "ไอ้พวกแดกเงินทอง." ตรงๆไปเลย (ไม่ต้องเรียกซอมบี้แล้ว แบบตรงๆเข้าใจง่ายนั้นเอง)..

สิ่งใดหนอที่ "ไอ้พวกแดกเงินทอง" จะกลัว เพราะทุกสิ่งล้วนแล้วต้องมีจุดอ่อน จุดแข็ง ความจริง ความลับเสมอ..

และก็ได้คำตอบว่า ...

"ไอ้พวกแดกเงินทอง" นั้น ..."กลัวพ่อแม่" นั้นเอง...

ปล. แต่ตอนนี้.."ไอ้พวกแดกเงินทอง" (ซอมบี้) ได้ถูกสั่งการณ์ทำลายล้างตัดต้นธาตุหรือต้นกำเนิดเรียบร้อยแล้ว คงรอแต่...

"คนดี ทำดีจะได้รับการเปิดเผยและส่งเสริม ทำชั่วคนชั่วจะได้รับการปิดเก็บ และเปิดโปง"

"ตาดีได้ ตาร้ายเสีย"...

รหัสซ่อนปริศนา..."หนูตกถังข้าวสาร"...(ของคำจำกัดความ "ไอ้พวกแดกเงินทอง" (ซอมบี้)

(..."ปิดประตูตีแมว"...)

ปล. และวันที่เราได้ออกไปนอกบ้าน สิ่งที่เราได้สัมผัสและมีความสุขที่ได้เห็นตอนที่เรานั่งรถบนทางด่วนนั้นก็คือ ธงชาติไทยที่โบกสะบัด เป็นอะไรที่สวยมากๆ และทำให้เรายิ้มได้ ต่อให้ฝนตกหรือฟ้าครึ้ม ธงชาติไทยเราก็ยังโบกสะบัดตลอดเวลา นั้นคือ ที่มาทำให้เรามาไขปริศนาคำว่า "ธงชาติไทย" ที่เราเขียนไปตั้งแต่ต้นนั้นเอง

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัว เปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเรา โปรดพิจารณา)

27-06-2013, 03:49 PM

ที่มา http://palungjit.org/threads/เอา-ไม...นมา-กำลังติดตามชีรี่ย์อยู่เชียว.491283/page-2

 

ตัวอย่างหนังครับ เรื่องหน้ากากพิฆาตอธรรม
หนังดิสนี่ ปรกติเขาทำให้เด็กดูนี่ครับ แต่เรื่องนี้แรง แอ๊คชั่นยิงกันกระหน่ำเลย บ่องตง
http://www.youtube.com/watch?v=4Jte6MFMrLQ

 

- ปีนี้เศรษฐกิจโลกยังคงผันผวนจนถึงต้นปีหน้า ประเทศไทยก็เจอพิษเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน (สังเกตุได้จากเพื่อนๆที่เล่นหุ้นเครียดกันทุกวัน)

- ประเทศไทยจะอยู่รอดปลอดภัยได้นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ต้องส่งเสริมให้คนทำความดี ผู้นำองค์กรต่างๆต้องปกครองด้วยหลักธรรมาภิบาล (ไม่เอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมโลก)

- ภัยธรรมชาติยากที่จะคาดการณ์ได้ล่วงหน้า จึงควรเก็บออมปัจจัยสำหรับการดำรงชีพให้มากเท่าที่จำเป็น (ช่วงนี้ข่าวสาร อะไรจริง อะไรเท็จ แยกแยะยาก)

- เมื่อใดที่มนุษย์ไขความลับของจักรวาลได้ เมื่อนั้นยุคนี้จะถึงจุดสูงสุดและที่เหลือจะเป็นการเตรียมก้าวสู่ยุคถัดไปต่อไป หากผู้ใดแยกแยะอะไรถูกอะไรผิด และคิดดีประพฤติดีผู้นั้นจะพบทางสว่าง (สังเกตุจากความพยายามในการค้าหาการกำเนิดของจักรวาลด้วยหลากหลายวิธี ที่ใกล้ถึงฝั่งฝันแล้ว)

 

*** กฎธรรมชาติ ****

การกระทำ เป็นสิ่งยิ่งใหญ่
ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่สูญสลาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
คือ สัจจะธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

คนทำดี คนดี จะได้รับการเปิดเผยและส่งเสริม !!!​

​

วาติกันเตรียมตั้งสมเด็จพระสันตะปาปา "จอห์น ปอล ที่ 2" เป็นนักบุญ

สำนักวาติกันเตรียมทำพิธีสถาปนา "สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2" และ "สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ที่ 23" เป็นนักบุญอย่างเป็นทางการช่วงปลายปีนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวาติกันซิตี นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทรงอนุมัติการสถาปนาสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ซึ่งสิ้นพระชนม์ไปเมื่อ 8 ปีก่อน ให้ขึ้นเป็นนักบุญแล้ว คาดว่าจะมีการทำพิธีอย่างเป็นทางการปลายปีนี้

แถลงการณ์ของสำนักวาติกันในเรื่องดังกล่าวถือเป็นประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นข้อความที่โป๊ปฟรานซิสทรงอักษรร่วมกับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ก่อนที่โป๊ปฟรานซิสจะทรงประชุมร่วมกับพระคาร์ดินัลอังเกโล อามาโต ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะจัดเตรียมพิธีสถาปนานักบุญองค์ใหม่

นอกจากโป๊ปจอห์น ปอล ที่ 2 ชาวโปแลนด์ ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งยาวนานถึง 27 ปี เป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ รองจากสมเด็จพระสันตะปาปาเอเดรียนที่ 6 แล้ว สำนักวาติกันยังมีมติให้สถาปนาสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ที่ 23 ชาวอิตาเลียน ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อปี 2506 หลังทรงดำรงตำแหน่งนาน 5 ปี มีสถานะเป็นนักบุญด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักวาติกันยังไม่ได้กำหนดวันและเวลาสำหรับประกอบพิธีสถาปนาอดีตโป๊ปทั้ง 2 องค์ ให้ขึ้นเป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ แต่หลายฝ่ายคาดว่า น่าจะมีขึ้นช่วงปลายปีนี้

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2556 เวลา 10:50 น.

คนทำชั่ว คนชั่ว จะได้รับการปิดเก็บและเปิดโปง !!!​

​

"โล ซิง ฮาน" ราชายาเสพติดลาโลก

นายโล ซิง ฮาน ราชายาเสพติดโลกชาวพม่าเชื้อสายจีน เสียชีวิตที่บ้านพักในเมืองหลวงเก่าย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา รวมอายุได้ 80 ปี

สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ว่า นายโล ซิง ฮาน ราชายาเสพติดระดับโลก ที่รัฐบาลสหรัฐเคยตั้งฉายาให้ว่า "เจ้าพ่อเฮโรอีน" และคว่ำบาตรทางการเงิน ฐานให้ความช่วยเหลืออดีคคณะนายทหารกองทัพพม่า ผ่านธุรกิจผิดกฎหมาย เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านพักในเมืองย่างกุ้ง โดยมีอายุได้ 80 ปี ศพของนายโลถูกบรรจุในโลงแก้ว ประกอบพิธีทางศาสนาในบ้านพักในวันนี้ โดยมีญาติพี่น้อง เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง และผู้นำทางธุรกิจหลายคน เข้าร่วมพิธีไว้อาลัยศพ ญาติกำหนดทำพิธีฝังศพในวันที่ 17 ก.ค.

จากข้อมูลบางส่วนในหนังสือเกี่ยวกับขบวนการค้าฝิ่น ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำชื่อ "The Golden Triangle Opium Trade : An Overview" โดยนักเขียนชื่อ เบอร์ทิล ลินท์เนอร์ ระบุว่า โล ซิง ฮาน เริ่มเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษปี 1960 ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักค้าเฮโรอีนรายใหญ่ที่สุดของโลก มานานหลายสิบปี ปี พ.ศ. 2533 เขาและ นายสตีเฟน ลอว์ ลูกชาย ก่อตั้งบริษัท เอเชีย เวิลด์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นธุรกิจบังหน้าการค้ายาเสพติด และเพียงไม่นาน 2 พ่อลูกคู่นี้กลายเป็นนักธุรกิจร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี และทรงอิทธิพลที่สุดของพม่าอย่างรวดเร็ว ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลทหารพม่า ในการบริหารกิจการท่าเรือ สร้างถนนหนทาง และควบคุมดูแลกิจการสนามบิน กระทรวงการคลังสหรัฐตั้งนามฮายาโล ซิง ฮาน ว่า "เจ้าพ่อเฮโรอีน" และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรด้านการเงินต่อ 2 พ่อลูกในปี พ.ศ. 2551

ช่วงอดีตผุ้นำเผด็จการ เน วิน ปกครองพม่า เน วิน จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธในเขตพิเศษโกก้าง (อยู่ทางตอนเหนือของรัฐฉาน ทางภาคตะวันออกของพม่า ติดเขตแดนรัฐยูนนานของจีน) เพื่อต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ท้องถิ่น โดยให้ โล ซิง ฮาน คุมกองกำลังเหล่านี้ และให้สิทธิพิเศษในการค้าฟิ่นกับเฉโรอีนได้ โล ซิง ฮาน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจับกุมตัว ทางเหนือของไทยเมื่อปี 2516 ก่อนจะส่งมอบตัวให้รัฐบาลพม่า และทางการพม่านำตัวดำเนินคดีในศาล ศาลพม่าตัดสินประหารชีวิตโล แต่ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต จากความผิดในข้อหาเป็นกบฎ ไม่ใช่ค้ายาเสพติด ต่อมาในปี 2523 โล ซิง ฮาน ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ จากการนิรโทษกรรมของรัฐบาลพม่า

ชีวิตครอบครัว โล ซิง อาน และภรรยา มีลูกชาย 4 คน ลูกสาว 4 คน และหลาน 16 คน

เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2556 เวลา 18:14 น.

ที่มา www.dailynews.co.th

 

*** พาก้าวข้ามกรรม ****

การกระทำปลดนิสัยตนเอง
คือ การกระทำให้พ้นทุกข์
อยู่ที่สัจจะของตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

นานๆจะมาเปิดดู update สถานการณ์ซะที ตกใจหมดเลย ที่เคยเข้าได้กลับเข้าไม่ได้ อ้าว เป็นไปไม่ได้ เลย search หาว่า ทำไมเข้าเว๊บพลังจิตไม่ได้ จนไปเจอคนใจดีชี้ทางมา (เรื่องเกิดเมื่อ 2 วันที่แล้ว) แต่ตอนแรกก็เข้ากระทู้ไม่ได้ เข้าได้แต่หน้าหลัก มาวันนี้ลองอีกที อดคิดไม่ได้ว่านี่หรือจะเป็นภัยพิบัติของจริง เล่นตัดข้อมูลข่าวสารกันหมดเลย แต่ยังไงก็ยังมีความเชื่อมั่นค่ะ ว่าถึงอธรรมจะแน่ซักแค่ไหน (อยู่ดีๆมาขโมยชื่อเว๊บเราไปได้ยังไง ไม่เข้าใจเลย) แต่คนธรรมะของเราแน่กว่าอยู่แล้ว ต้องแก้ไขได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ สู้ๆๆต่อไป นอกจากจะเป็นกำลังใจแล้ว หากช่วยอะไรได้ก็จะช่วย ด้วยความสามารถที่มีอยู่น้อยนิด แต่ก็จะช่วยจริงๆค่ะ คอยดู
พระเณรคำเนี่ย คล้ายกับพระยันตระเลยนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เห็นข่าวแบบนี้แล้วปลงจริงๆเลย กลัวว่าคนที่ไม่รู้ธรรมจริงๆ เขาจะเสื่อมศรัทธา เฮ้อ ตอนแรกเราก็หลงอนุโมทนาสาธุไปด้วย นึกว่าท่านเป็นพระแท้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ชาวไทยทุกท่านสู้ต่อไปค่ะ อย่าพึ่งหมดศรัทธานะคะ เราไม่ได้งมงายแต่เราเน้นปฏิบัติจริงด้วยตนเอง ใช่ไหมคะ

 

หน่วยเหนือรู้ไปหมด เก่งไปหมด แต่แปลกที่ไม่รู้ว่า Domain จะมีปัญหา

 

คลิปนกแปรขบวน พร้อมเพลงประกอบ.
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=jZn-oplhieA"]Bird dance - YouTube[/ame]

 

คุณคนที่แหงนหน้ามองฟ้าเห็นนกกา แล้วรู้โดยพลันว่าเป็น พลังจิต .org , ผมว่าคุณ เยอะ น่ะครับ .... เยอะไปจริงๆ

 

ตำรวจอินเดียเผยคนร้ายวางระเบิดพระพุทธรูป​

​

ตำรวจอินเดียเผยคนร้าย วางระเบิดไว้ที่พระพุทธรูปภายในวัดพุทธคยาด้วย โชคดีที่เก็บกู้ได้ทัน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองปัฏนา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่า นายจันทาน กุชาวาฮา เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับอาวุโสของเมืองปัฏนา เปิดเผยความคืบหน้าของเหตุลอบวางระเบิด 10 จุด ภายในบริเวณวัดพุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ยังผลให้มีพระสงฆ์ 2 รูปได้รับบาดเจ็บ แต่โชคดีที่ตำรวจสามารถเก็บกู้ระเบิดได้อีก 3 จุด โดยหนึ่งในจุดนั้น คือ พระพุทธรูปหินแกะสลักขนาดใหญ่ สูง 24 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี 2524 โดยมีชาวญี่ปุ่นเป็นผู้ออกทุนสร้าง แต่ระเบิดไม่ทำงานเพราะเจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ทันการ

รายงานข่าวระบุว่า ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบ แต่ตำรวจในกรุงนิวเดลีของอินเดีย เผยว่า ได้รับแจ้งข้อมูลข่าวกรองว่า กลุ่มติดอาวุธเคร่งศาสนาอาจวางแผนโจมตีศาสนสถานที่สำคัญของชาวพุทธแห่งนี้ เพื่อเป็นการแก้แค้นที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นกับชาวโรฮิงญาในประเทศพม่า อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทำให้สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 1 คน นำตัวมาสอบสวนหาความคืบหน้าจากเหตุระเบิดครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556 เวลา 19:59 น.

คลื่นร้อนถล่มญี่ปุ่นสังเวยแล้ว 3 ป่วยกว่า 2,500 คน​

​

คลื่นความร้อนถล่มญี่ปุ่นทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วมากกว่า 2,500 คน ส่วนใหญ่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่า อุณหภูมิที่ร้อนจัด และแสงแดดที่แผดจ้า คร่าชีวิตชาวญี่ปุ่นไปแล้ว 3 ศพ และทำให้ผู้คนล้มป่วยต้องถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาลมากกว่า 2,500 คนทั่วประเทศในหนึ่งสัปดาห์ โดยอุณหภูมิพุ่งกระฉูด ถึง 39.1 องศาเซลเซียส ในเมืองยามานาชิ ภาคกลางของประเทศในวันนี้ ขณะที่ ในอีกหลายพื้นที่อุณหภูมิก็พุ่งสูงทำสถิติ 35 องศาเซลเซียส หรือมากกว่า

มีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งสิ้น 2,594 คนในสัปดาห์แรกของเดือน ก.ค. เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความร้อน และในจำนวนนี้ มี 3 คนเสียชีวิตแล้ว โดยร้อยละ 42 ของผู้ถูกนำส่งโรงพยาบาล อายุ 65 ปี หรือแก่กว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีเด็กถูกส่งโรงพยาบาลด้วย หลังจากมีการจัดกิจกรรมกลางแจ้งในโรงเรียน

เดลินิวส์ วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2556 เวลา 18:00 น.

สลด! กลุ่มหัวรุนแรงไนจีเรีย ฆ่าหมู่เด็กนักเรียนตอบโต้รัฐบาล​

​

กลุ่มหัวรุนแรงโบโก ฮาราม หันมาใช้วิธีการสังหารหมู่นักเรียน เพื่อตอบโต้การกวาดล้างของกองทัพฝ่ายรัฐบาล ล่าสุดบุกสังหารหมู่นักเรียนในโรงเรียนเสียชีวิตไปถึง 42 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ว่า กลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนา ก่อเหตุฆ่าหมู่นักเรียนหลายสิบคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ซึ่งถือเป็นการเปิดรูปแบบใหม่ในการก่อความรุนแรงแม้ว่ากองทัพไนจีเรียปฏิบัติการกวาดล้างอย่างหนักในช่วงเกือบ 2 เดือนมานี้ โดยการโจมตีล่าสุดเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มมือปืนบุกโจมตีโรงเรียนประจำชั้นประถม ในหมู่บ้านมามูโด ซึ่งพวกเขาได้ปิดล้อมนักเรียนและเจ้าหน้าที่ในหอพัก ก่อนที่จะขว้างระเบิดและกราดยิงอย่างป่าเถื่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 42 ศพ เกือบทั้งหมดเป็นนักเรียน

ชาวไนจีเรียเคยชิ้นกับการก่อความรุนแรงของกลุ่มหัวรุนแรงโบโก ฮาราม และการตอบโต้อย่างหนักหน่วงของฝ่ายรัฐบาล แต่การสังหารหมู่เด็กนักเรียนในโรงเรียน ได้สร้างความโกรธแค้นในหมู่ประชาชนเป็นวงกว้าง โฆษกของประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธาน กล่าวว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีดังกล่าว จะต้องลงนรกอย่างแน่นอน

สำหรับเหตุผลที่กลุ่มหัวรุนแรงโจมตีเป้าหมายนักเรียนนั้น ยังไม่ชัดเจน แม้ว่าผู้สังเกตการณ์บางคน กล่าวว่า เป็นไปได้ว่า เป็นการเรียกร้องความสนใจด้วยการยุทธศาสตร์ที่สร้างความตื่นตระหนก

เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2556 เวลา 23:52 น.

ที่มา www.dailynews.co.th

 

พระสยามเทวาธิราช !!!​

​

ถาม : แล้วท้าวมหาราช กับพระสยามฯ ...ครับ ?
ตอบ : ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก็บอกแล้วว่าท่านสงเคราะห์ให้เป็นส่วนรวม ท่านบอกว่าจะหนักไปทางป้องกัน

เรื่องของพระสยามเทวาธิราช ท่านต้องดูแลทั่วประเทศจริง ๆ พระสยามเทวาธิราชขอให้ทุกคนรู้ไว้ ไม่ได้มีองค์เดียว แต่มีเป็นพันองค์ ทุกองค์ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน คือดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศนี้ ส่วนใหญ่ท่านก็คือบุรพมหากษัตริย์ แล้วก็เชื้อพระวงศ์ที่สร้างคุณความดีให้กับประเทศชาติเอาไว้ เมื่อถึงเวลาตายแล้วไปเป็นพรหมบ้าง เป็นเทวดาบ้าง ก็ยังต้องทำหน้าที่นี้ต่อไป

เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าบอกว่าพระสยามเทวาธิราชองค์ไหน อาตมาชี้ไม่ถูกเหมือนกัน...มีเยอะ กระทั่งอย่างเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ท่านก็รับทำหน้าที่นี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วท่านเป็นหนึ่งในท้าวจตุมหาราช

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕

ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3292

 

พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา !!!​

​

วันนี้ผมขออนุญาตเขียนเรื่องราว ประวัติความเป็นมาของพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา หรือพิธีถือน้ำ อันหมายถึงการดื่มน้ำที่เสกแล้วเพื่อสาบานตนว่า จะซื่อสัตย์ไม่คดโกง และจงรักภักดี ไม่จำเพาะแต่กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น แต่ยังต้องจงรักภักดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง อันเป็นแผ่นดินแม่แดนกำเนิดของตนอีกด้วย สำหรับเรื่องความซื่อสัตย์นี้ คนสมัยโบราณถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับข้าราชการไทยทุกผู้ทุกคน และผู้ที่ปฏิบัติงานถวายการรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประเทศชาติบ้านเมืองครับ

แต่สำหรับเรื่องนี้ คนในสมัยปัจจุบัน อาจรู้สึกว่าห่างหายไกลตัว ไม่มีความสำคัญ และจำเป็นยิ่งกับเด็กวัยรุ่นทุกวันนี้ ยิ่งอาจไม่เคยผ่านตากับพระราชพิธีและความเชื่อในเรื่องเหล่านี้มาก่อนเลย

หลังจากที่ผมลงมือขีดเขียน แจกแจงเรื่องราวของพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา พร้อมอธิบายจนละเอียดเสร็จสรรพแล้ว พบว่าเรื่องนี้มีความยาวมาก จนไม่สามารถนำลงให้จบได้ในครั้งนี้ เเละครั้งหน้า จำเป็นต้องแบ่งย่อยซอยสั้น ให้เหมาะสมกับเนื้อที่ จึงขอแบ่งเรื่องนี้ออกเป็น 3 ตอน และจะทยอยนำลงต่อสัปดาห์กันไปเรื่อยๆ รวม 3 สัปดาห์

หากท่านใดที่มีจิตสนใจในเรื่องราวเหล่านี้ ก็สามารถติดตามอ่านกันไปได้นะครับ ส่วนท่านที่ขี้เกียจติดตาม ก็รออ่านรวดเดียวในไทยรัฐออนไลน์นี้ เมื่อจบบริบูรณ์แล้วก็ได้ครับ หรือหากคิดว่าเป็นเรื่องไสยศาสตร์ คร่ำครึ พ้นสมัย หรือว่าจะสิ้นเมตตาสิ้นรักผมไปเเล้ว ก็ขอให้ผ่านเลยไปเสียครับ แล้วนั่งนับต่อไป จนสัปดาห์ที่สี่ ต่อจากนี้ ผมจะเปลี่ยนเรื่องราวเป็นแบบสนุกสนาน มาสลับสับเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง

สำหรับครั้งนี้ต้องขอให้เป็นวิชาการสักหน่อย เพื่อบันทึกทิ้งไว้ ก่อนที่คนไทยจะลืมความสำคัญของความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ ความกตัญญู รวมทั้งสิ่งสำคัญที่สุดในสังคมไทย คือระบบอาวุโสครับ

คนไทยโบราณ มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องน้ำอย่างมาก ว่าน้ำสามารถซึมซาบแทรกตัวเข้าไปในทุกอนูของร่างกายของคนเราได้อย่างดียิ่งเหนือวัตถุอื่นใด ดังนั้นในการกระทำพิธีกรรม เพื่ออาศัยความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในอดีตจึงนิยมกระทำผ่านน้ำเป็นหลัก เช่น การอาบ หรือประพรมน้ำพระพุทธมนต์ หรือเทพมนต์ การรดน้ำสังข์ การแช่น้ำว่าน รวมไปถึงการดื่มน้ำสาบาน หรือที่เรียกกันว่า การดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา หรือที่นิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า การถือน้ำ หรือพระราชพิธีถือน้ำ

สำหรับชื่อที่ใช้เรียกขานพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยานี้ มีการเรียกชื่อที่แตกต่างออกไปอีกมากมายหลายชื่อตามยุคสมัย คือ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัจจา พระราชพิธีศรีสัจจา พระราชพิธีศรีสัจจปานกาล แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีความหมายเดียวกัน คือ พระราชพิธีอันเป็นมงคลแห่งความซื่อสัตย์ที่ใช้น้ำเป็นเครื่องกำหนด

อนึ่ง คำว่า "ศรีสัจจปานกาล" นั้น มีที่มาจากคำว่า
"ศรี" คือ ดีงาม มงคล

"สัจจะ" คือ ความซื่อตรงไม่กลับเป็นอย่างอื่น

"ปานะ" คือ เครื่องดื่ม , น้ำสำหรับดื่ม

"กาละ" คือ เวลา , กาลเวลา

เมื่อรวมคำกันแล้ว จะมีความหมายว่า "เวลามงคลแห่งการดื่มน้ำแสดงความซื่อตรง"

พระราชพิธีนี้น่าจะเกิดขึ้นในสมัยอยุธยา บางตำราก็ว่ามีมาแต่ครั้งพระเจ้าอู่ทอง ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องถือว่าเป็นพระราชพิธีเก่าแก่ที่เกี่ยวข้องกับการปกครองประเทศ ตามแบบสมบูรณาญาสิทธิราช ที่นับถือว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมุติเทพ ตามคติเทวราชา ปรากฏหลักฐานอยู่ในกฎมณเฑียรบาล กฎหมายตราสามดวง เรียกว่า "ถวายบังคมถือน้ำพระพัท" จัดให้มีขึ้นด้วย

วัตถุประสงค์ที่จะรวบรวมขวัญและกำลังใจของทหารให้เเน่นแฟ้น และถือเป็นกุศโลบายทางจิตวิทยาของการปกครองทางทหารที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะขั้นตอนของพิธีกรรมที่ดำเนินไปนั้น ล้วนมุ่งที่จะทำให้เกิดความเกรงกลัวต่อความผิดบาป และความน่าสะพรึงกลัวในโทษทัณฑ์และคำสาปแช่ง ที่กระทำผิดต่อคำสัตย์สาบาน ทำให้สามารถควบคุมจิตใจ และความประพฤติของข้าราชการทั้งปวง ให้ตั้งมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์สุจริต และจงรักภักดีต่อประเทศชาติ และองค์พระมหากษัตริย์ ได้อย่างเหนียวแน่น

นอกจากนั้นแล้วในสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น ยังถือเป็นพระราชพิธีใหญ่แห่งพระนคร เป็นเสมือนพระราชพิธีแห่งการระงับทุกข์เข็ญของบ้านเมือง ที่จำเป็นต้องจัดให้มีเป็นพระราชประเพณีประจำทุกปีไม่ขาด ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะบ้านเมืองอย่างไรก็ตาม

ในอดีตที่ผ่านมา กำหนดให้จัดการตั้งพระราชพิธีเป็นประจำ ปีละ 2 ครั้ง คือในช่วงพิธีตรุษ (ไทย) ราวเดือน 5 ขึ้น 3 ค่ำ และช่วงพิธีสารท (ไทย) ราวเดือน 10 แรม 13 ค่ำ ขั้นตอนสำคัญของพระราชพิธีนี้ อันอาจถือเป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้ คือขั้นตอนของการปลุกเสกและแทงน้ำด้วยพระแสงราชศาสตรา พร้อมอ่านประกาศแช่งน้ำโคลงห้า หรือที่เรียกว่าโคลงแช่งน้ำ หรือลิลิตโองการแช่งน้ำ เนื้อหาคือคำสาปแช่ง ที่เรียบเรียงแต่งร้อยเป็นบทประพันธ์ และถือว่าเป็นกวีนิพนธ์อันศักดิ์สิทธิ์ สำคัญยิ่งอีกด้วย

ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ถือว่า พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยานี้เป็นพิธีของพราหมณ์ล้วนๆ และจะประกอบพระราชพิธีนี้ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อมาจึงย้ายไปจัดที่วิหารวัดพระมงคลบพิตรแทน เมื่อถือน้ำเสร็จแล้วกำหนดให้นำข้าวตอก ดอกไม้ และเทียน ไปกราบถวาย บังคมพระบรมรูปของสมเด็จพระเชษฐบิดร พระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทอง แล้วจึงจะไปกราบบูชาพระรัตนตรัย เป็นแล้วเสร็จ

ครั้นถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงเปลี่ยนแปลงพระราชพิธีใหม่ โดยให้ข้าราชการที่เข้าพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ต้องไปกราบนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรพระเเก้วมรกต พระสารีริกธาตุเจดีย์ และพระรัตนตรัย ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามก่อน จากนั้นจึงพากันไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และรับพระราชทานน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในพระบรมมหาราชวังต่อไป

ครั้นมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มพิธีพุทธเข้าไปควบคู่กับพิธีพราหมณ์ และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ในช่วงขั้นตอนของพระราชพิธี เพื่อให้กระชับและสะดวกต่อผู้ปฏิบัติมากขึ้น เช่น งดการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ที่มาเจริญพระพุทธมนต์ กับทั้งยังได้พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมพระราชพิธีนี้ สามารถรับประทานอาหารเช้ามาก่อนเข้าพิธีได้ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย หรือเป็นลม

นอกจากนั้นยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมเอาทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า (คือฝ่ายที่เป็นชาย) และข้าราชการฝ่ายหน้า (ชาย) มาเข้าเฝ้าฯ พร้อมกันหน้าพระที่นั่ง ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา เฉพาะต่อเบื้องหน้าองค์พระแก้วมรกต และที่สำคัญที่สุด คือทรงริเริ่มให้องค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งในขณะนั้นคือพระองค์เอง ได้ร่วมดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยากับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการด้วยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยพระองค์ทรงดื่มนำเป็นปฐม อันเป็นผลให้พระมหากษัตริย์ในรัชกาลต่อๆมา จนปัจจุบันทรงถือปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาทสืบมา

บทความโดยคุณ เผ่าทอง ทองเจือ

(อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ)

ที่มา http://www.photoontour.com/Misc_HTM...w.photoontour.com/Misc_HTML/news/page/164.htm

 

มุมมองจากเครื่องบินหมายเลข 7 สร้างมุมมองทางเลือกได้อีกมากมายในแง่ดี สำหรับพวกเขาที่อยู่นอกเหนือจากโลกนี้ไป.
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=HjcPOZ_z3Ts]Disney's Planes Takes Flight - YouTube[/ame]

 

แสนรู้จริงๆเลยท่าน รู้ไปหมดทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องโดเมนโดนฉก
ทำไมองค์อิทร์ของท่านไม่ยอมบอกล่วงหน้าก็ไม่รู้

ว่าแต่องค์อินทร์ของท่านนี่คงไม่ใช่เพื่อนของท่านที่ชื่ออินเหมือนอย่างเณรคำน่ะ:boo::boo::boo::boo:

 

อึม.. เคยเห็นแต่ทางฝรั่งเขาใช้เครื่องบิน เขียนตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ บนท้องฟ้า แต่นี่เป็นนก สุดยอดกว่าเยอะเลย สมแล้วครับกับคำเรียกขาน ผู้วิเศษ

เสียดายถ้ามีภาพถ่ายมานำเสนอ คงจะฮือฮาไปทั่วโลกเลยนะ เออ ลืมถามว่า เป็นนกอะไรครับ คงไม่ใช่ ANGRY BIRD นะ

ส่วนข้างล่าง เป็นฝูงนกสาริกา ที่พยายามจะใบ้หวย ...




>