เรื่องเด่น ประโยชน์การสวดมนต์ สมเด็จโต พรหมรังสี

การสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย



เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไร

การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผล จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์


ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ

• เมื่อฟังธรรม
• เมื่อแสดงธรรม
• เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์
• เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
• เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ

การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม


การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ

กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว

อาตมาภาพ ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน
การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดับพอสมควร ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก

ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม

ดูก่อน..ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้ การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี และความขนพองสยองเกล้าก็ดี ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดีจะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั้นแล..

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี

 

อานุภาพของการสวดมนต์มีมากครับ จากที่ผมอ่านจาก หนังสือพระพุทธมนต์และคุณค่าทางจริยธรรม ของพระปริยัติธรรมธาดา โดยสรุปว่า
บทสวดมนต์ในทางพุทธศาสนาจะเน้นในการ แผ่เมตตาจิตให้เหล่าศัตู ภูตผีตลอดจนสัตว์ร้ายและอมุนษย์ เป็นความปรารถนาดี
ท่านพุทธโฆสเถระได้กล่าวในคัมภีร์สุมังคลวิลาสินี ว่า " ผู้สวดพระปริตร กล่าวผิดอรรถบ้าง ผิดบาลีบ้าง หรือสวดไม่คล้องเสียเลย พระปริตต์ก็ไม่มีเดช ท่านผู้สวดได้ชำนิชำนาญเท่านั้นพระปริตรจึงจะมีเดช ถึงแม้ผู้ที่เล่าเรียนพระปริตต์ แล้วสวดเพราะเห็ฯแก่ลาภสักการะพระปริตต์นั้นก็หาอำนวยประโยชน์ให้ไม่ ท่านผู้ที่ตั้งใจจะช่วยให้พ้นทุกข์ มีเมตตาเป็ฯปุเรจาริก แล้วสวดนั่นแล พระปริตต์จึงอำนวยประโยชน์"
เพราะฉะนั้นต้องมีจิตเมตาเป็นเบื้องต้นและเข้าใจความหมายในพระปริตต์
บางครั้งผมคิดว่าผู้สวดเองอาจจะติดขัดในการอ่านภาษาบาลีบ้าง ไม่ถูกทำนองจังหวะ แต่ด้วยจิตที่ศรัทธา อานุภาพในพระปริตต์ต้องบังเกิดแน่นอนครับ อย่างที่ผ่านๆมา ที่มีการสวดมนต์ถวายในหลวง และประเทศชาติ
ยังไงแล้วใกล้ปีใหม่ ร่วมกัน คิด ทำ พูดสิ่งดีๆและสวดพุทธมนต์อันมีความหมายดีๆแต่โลกของเรา และประเทศไทย ในหลวงและทุกๆคน

 

ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน
การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดังพอสมควร ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

*ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก

ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านและเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ สวดมนต์ให้มีเสียงดังเหมือนเวลาพระสงฆ์ทำวัตรในโบสถ์จะทำให้เหล่าเทพพรหมทั้งหลายมาร่วมอนุโมทนาและสวดมนต์กับเราด้วย ท่านจะมาปกปักคุ้มครองรักษาเรา ก่อนสวดมนต์สวดบทชุมนุมเทวดาด้วยแล้วยิ่งลื่นไหลเหมือนท่านมาช่วยเราสวดเลยค่ะ แล้วเวลาสวดมนต์ทุกครั้งเหมือนเสียงเปลี่ยนไปทุกทีเลย อานิสงส์แรงจริง ๆ ค่ะ สวดจบแล้วอย่าลืมแผ่เมตตากันด้วยนะคะ

 

ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ

 

สมัยก่อน พระสงฆ์เขาไม่ชวนชาวบ้านสวดมนต์หรอก อาจเป็นเพราะพระมีหน้าที่สวด โยมมี่หน้าที่ฟัง ขืนชวนชาวบ้านสวด สวดกันไม่เก่ง เดี๋ยวเสียงไปตีรวนกับสีพระ เลยฟังไม่รู้เรื่องก็ได้ หรือชาวบ้านกลัวบาป เป็นการแย่งหน้าที่ของพระ

เมื่อสำนักปู่สวรรค์ตั้งขึ้นเมื่อ 2509 ได้ให้ลูกศิษย์ สวดมนต์กัน เราไปดูเห็นว่าแปลก และคิดว่า จะแย่งอาชีพพระหรือเปล่า แต่ก็เป็นการดี เพียงแต่รู้สึกแปลก

ต่อมา 20 ปีที่แล้ว สำนักได้เปิดโครงการสวดมนต์ รนรงค์ให้ชาวบ้านมาสวดโดยเริ่มตามลานพระบรมรูปต่างๆในกทม. ก่อนแล้วจึงขยายออกต่างจังหวัดทั่วประเทศ มีสาขากว่า 400 แห่งในขณะนี้

ล่าสุดปีใหม่นี้ เกิดกระแสสวดมนต์ของชาวบ้าน โดยเฉพาะวัยรุ่นอย่างชัดเจน นับว่า เป็นนิมิตหมายของประเทศที่ดี วัยรุ่นเข้าหาทางธรรมะมากขึ้น

เป็นอันว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้สำเร็จแล้ว แต่ถ้าใช้คำอธิษฐานของสำนักนี้ด้วยจะสมบูรณ์เพราะ เขาเป็นแบบฉบับที่รนรงค์จนสำเร็จ จึงต้องมีอะไรที่พิเศษมากกว่าที่เรารู้

 

เรียน ท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย
ด้วยวัดป่าฟองใต้ (ธ) หมู่ 7 ตำบลวังกวาง อ.น้ำหนาว จ. เพชรบูรณ์ กำลังดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของอุบาสก อุบาสิกา จำนวน 34 ไร่ ราคา 1,700,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน) ตรงบริเวณหน้าวัด ซึ่งบริเวณแถวนี้เป็นภูเขาและใกล้เขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเหมาะอย่างยิ่งแก่การภาวนา บริจาคได้ตามกำลังศรัทธา โดยกำหนดการทอดผ้าป่า วันที่ 10 มีนาคม 2556 เวลา 08.30 น หรือบริจาคผ่านบัญชี ธนาคารไทยพานิชย์ ชื่อบัญชีพระเกรียงศักดิ์ สุทธจิตโต บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 647-230220-4 สาขา อ.ชุมแพ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศิริพงษ์ 083-353-7944 (ตลอดเวลา) 089-291-4047 (เฉพาะเวลา 08.30-10.00)

 

บทสวดนี้ ดีค่ะ หลังจากสวดแล้ว เจริญสมาธิได้ดีมาก

อะนันตตะลักขณะสุตตัง หน้า ๙๓ หนังสือมนต์พิธี

 

คุณ buakwun สวดแล้วเสียงเปลี่ยนหรือครับ นึกว่าเราเป็นคนเดียวซะอีก วันไหนที่สวดบทยาวทุกครั้งที่เริ่มบทใหม่เสียงจะเปลี่ยนไปจากบทที่แล้ว จนเราคิดว่าต้องมีผู้มาร่วมสวดกับเราทุกครั้ง แต่ยืนยันได้ว่าถ้าสวดมนต์เป็นประจำไม่ฝันและเกิดพลังที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ

 

เมื่อก่อน ตามวัดมีแต่พระสวดมนต์ ชาวบ้านไปฟังอย่างเดียว พระก็ไม่ชวนสวดด้วย คงเป็นเพราะเป็นหน้าที่ของพระ ชาวบ้านเขาทำมาหากิน เลยเกรงใจ หรือกลัวชาวบ้านจะแย่งสวดทำให้ฟังไม่รู้เรื่องก็ได้

ต่อมาสำนักปู่สวรรค์ โผล่มารนณรงค์ตามลานพระบรมรูปต่าง ชวนชาวบ้านสวดมนต์ ทางการยุคนั้น ออกข่าวกำจัดการสวดมนต์ตามลานต่างๆ เราคิดว่า ยังไงก็งต้องเลิกแน่เพราะถูกรัฐบาลยุคนั้นเล่นงานซะแล้ว

แต่แปลกประหลาดมากๆ.......เพราะไม่สามารถกำจัดได้ ทั้งๆที่พวกเขาไม่มีอำนาจอะไร และต่อมายังขยายศูนย์สวดมนต์ไปทั่วประเทศ และเกิดกระแสร์ชาวบ้านสวดมนต์ไปทั่วประเทศ และมีการอฐิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ตอนสุดท้ายด้วย ซึ่งสมัยก่อนไม่มีอย่างนี้ ประหลาดดี

เล่าประสพการณ์ให้กันฟัง โปรดพิจารณา

 

สาธุเจ้าค่ะ
ติงสวดมนต์แบบออกเสียงไม่นานเสียงก็หายเจ้าค่ะ
ทราบอานิสงส์ของการสวดมนต์แบบออกเสียงแล้ว
ติงจะพยายามและอดทนให้มากเจ้าค่ะ

 

ธรรมะสวัสดี ^-^

ขออนะโมนา สาธุจร้า

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผมเองก็พึ่งเริ่ม แรกๆก็ต้องฝืนให้ได้ สวดแล้วแปลและคิดตามข้อความ เน้นย้ำพูดออกมา กับบทที่โดนๆ ใช้เวลา 2ชม.นิดๆ แล้วพยายามนั่งสมาธิต่อรวมแล้ว 3 ชม. หรือกว่า , สวดแล้วชีวิตดีขึ้นมาก งานดีขึ้น แก้ปัญหาชีวิตง่ายขึ้น เงินในกระเป๋าดีขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นครับ

 

การสวดมนต์ มีประโยชน์จริงๆค่ะ ประสบกับตัวเองตรง ๆ
ถ้าชวงไหนห่างจากการสวดมนต์ จะเป็นเรื่อง จะมีความวุ่นวาย อุปทวะ ความหายนะเข้ามาแทนที่ จะสวดมนต์ทำวัตรเย็น พร้อมคำแปล (เป็นช่วงเวลาส่วนตัว) มีความสุขมาก จิตสว่าง สะอาด สงบ รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อย่างแท้จริง ต่อด้วย พาหุง ชินบัญชร และทำสมาธิให้จิตสงบนิ่ง คุณป้าหอพักข้างๆบอกว่าเสียงหนู(jup)เวลาสวดมนต์เพราะและใสมากป้าชอบฟัง เราก็พลอยเป็นปลื้มมากค่ะ เป็นการให้ทานโดยเสียง ให้แก่มนุษย์และเทวดาที่ชอบฟังเสียงสวดมนต์

 

อนุโมทนาบุญ สาธุค่ะ
บางครั้งท้อ ในบางเรื่อง บางสิ่ง
แต่ก็ยัง มีจิตศรัทธาในการ สวดมนต์ทำวัตร ทุกครั้งที่มีโอกาสค่ะ

 

หลายคนมักจะพูดว่าสวดมนต์เป็นยาทา แต่ก็ไม่รู้ล่ะ
สำหรับเราการสวดมนต์เป็นทั้งยากินและทา

ยังไงก็จำเป็นต้องสวดมนต์ทุกวัน ถ้าหากยังไม่บรรลุธรรม
ก็จะส่งเสริมให้เป็นอุปนิสัยต่อไปในภายหน้า วันใดหากได้ทำ
วิปัสสนาก็จะไม่ออกนอกเส้นทาง เหตุเพราะรากฐานนั้น
ถูกวางมาอย่างดี (หมายถึงสวดมนต์ทุกวันเป็นการทำบารมี
10 อยู่แล้ว)

ดังนั้นอย่าประมาทว่าการสวดมนต์ให้ผลเพียงเล็กน้อย ขอให้
ลองสวดมนต์ทุกวันดู

สวดมนต์ให้เป็นทั้งสมถะ+วิปัสสนา เราทำไปพร้อมกันได้เลย
เวลาสวดมนต์พลังงานของสมาธิที่อยู่ในขั้น ขนิกถึงอุปจาร
+พลังงานจากบทสวดมนต์(แนะนำยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก)
จะมาเผาผลาญกิเลสขณะที่ทำวิปัสนาไปด้วย ก็น้อมเข้ามา
พิจารณากายเราจนป่นเป็นผงไม่เหลืออะไร นอกจากพระแก้ว
ใสเท่านั้น(นิพพาน)
ก็ทำไปเรื่อยๆทุกวัน ไม่ต้องมาก ไม่เกินครึ่งชั่วโมงต่อวัน
เราก็มั่นใจอยู่ลึกๆว่าจะทำสำเร็จ เพราะจิตสุดท้ายก่อน
ตายจะมีพลังมาก และจะนำเราไปยังที่ที่มันคุ้นชินเสมอ

 

ตอนแรกที่เราเข้าใจการสวดมนต์ปฎิบัติทางศาสนา และ พึ่งรู้ว่าการสวดมนต์คือประเพณี
สมัยโบราณ ซึ่งเขาบอกว่าสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา
ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย
ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้า
เฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม

 

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้ดี ๆ

 

อานิสงส์ของการสวดมนต์

เทศนาธรรมของ...สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี
จากการทรงญาณสมาธิ ณ สถานปฏิบัติธรรมพรหมรังสี

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:TrackMoves/> <w:TrackFormatting/> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <woNotPromoteQF/> <w:LidThemeOther>EN-US</w:LidThemeOther> <w:LidThemeAsian>X-NONE</w:LidThemeAsian> <w:LidThemeComplexScript>TH</w:LidThemeComplexScript> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> <w:SplitPgBreakAndParaMark/> <wontVertAlignCellWithSp/> <wontBreakConstrainedForcedTables/> <wontVertAlignInTxbx/> <w:Word11KerningPairs/> <w:CachedColBalance/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> <m:mathPr> <m:mathFont m:val="Cambria Math"/> <m:brkBin m:val="before"/> <m:brkBinSub m:val="--"/> <m:smallFrac m:val="off"/> <m:dispDef/> <m:lMargin m:val="0"/> <m:rMargin m:val="0"/> <m:defJc m:val="centerGroup"/> <m:wrapIndent m:val="1440"/> <m:intLim m:val="subSup"/> <m:naryLim m:val="undOvr"/> </m:mathPr></w:WordDocument> </xml><![endif]--> [FONT=&quot]โยมจะเข้าถึงธรรม เข้าหาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เข้าหาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
[/FONT][FONT=&quot]โยมต้องอ่อนน้อมถ่อมตน ก็บารมีโยมมีแค่ไหน เศษเสี้ยวธุลี ...[/FONT]
[FONT=&quot]องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะ บริสุทธิ์เลิศกว่าอะไรอื่นทั้งปวงแล้ว ยังไม่พ้นการนินทา ตำหนิติเตียน
[/FONT][FONT=&quot]แล้วโยมเป็นใครล่ะจ๊ะ ว่าอะไรใครไม่ได้เลย...
[/FONT]
[FONT=&quot]ดังนั้นกายวาจาโยมต้องสงบ เมื่อสงบแล้ว เทวดา ณ ที่แห่งนั้นจะมาห้อมล้อม จะมาโมทนากันมากมาย
[/FONT][FONT=&quot]เพราะยิ่งจิตใจโยมสงบเมื่อไหร่ กายทิพย์ กายบุญของโยมจะบังเกิดขึ้นมา
[/FONT][FONT=&quot]ถ้าจิตใจโยมเร่าร้อนมากเท่าไหร่ ความอิ่มตัวในความหยาบของจิตมันก็ปรากฏ
[/FONT][FONT=&quot]สิ่งที่เป็นมงคลมันจะเกิดได้ยาก มีแต่กิเลสตัณหาทั้งนั้น ดังนั้นโยมต้องลดละสิ่งนี้ออกไป
[/FONT]
[FONT=&quot]การสาธยายมนต์นี้จึงมีอานิสงส์มาก ช่วยดับให้จิตโยมนั้นสงบ
[/FONT][FONT=&quot]สอง ขับไล่สิ่งอัปมงคล สาม เป็นทานแห่งเสียง
[/FONT][FONT=&quot]แล้วขั้นที่สำคัญที่สุด ถ้าโยมสวดมีสติ มีสมาธิ รู้จักอักขระคาถา รู้คำแปลแล้ว [/FONT][FONT=&quot]เข้าถึงในความหมาย ก็สามารถบรรลุธรรมได้
[/FONT][FONT=&quot]สิ่งเหล่านี้ต้องอยู่ที่โยมมีความเชื่อความศรัทธาแค่ไหน
[/FONT]
[FONT=&quot]โยมจงจำไว้นะจ๊ะ พระอรหันต์เจ้าทั้งนั้นหรือที่ดับขันธ์ไป ละสังขารไป
[/FONT][FONT=&quot]ไม่ได้หายจากโลกนี้ไปไหน ยังอยู่ เป็นธรรมธาตุ ไม่ได้สูญเลย เข้าใจมั้ยจ๊ะ
[/FONT][FONT=&quot]ที่สูญคือร่างกายสังขาร คือกิเลส แต่จะอยู่อีกมิติหนึ่งแห่งโลกใบนี้
[/FONT][FONT=&quot]
ดังนั้นเมื่อโยมระลึกหรือขอพร มีสติ ถ้าวาสนาโยมเคยมีบารมีกับท่าน ท่านก็ช่วยโยมได้
[/FONT][FONT=&quot]ทุกอย่างที่มองไม่เห็น อย่าคิดว่าไม่มีจริง อย่าสำคัญตนว่ามันไม่ใช่ มันไม่มี
[/FONT][FONT=&quot]ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น [/FONT]