ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ทอง ๙ ทอง ๙
    เป็นทองชั้นยอด
    ทรงพลังมากจ๊ะ

    ข้าน้อย.. บับถือ..นับถือ
     
  2. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    กราบขอบคุณคุณsuwiมากๆนะคะ
     
  3. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ยาปรับ เตโชธาตุ ชื่อ "กาลาธิจร"
    ประกอบด้วย
    ๑ โกฐสอ
    ๒ โกฐพุงปลา
    ๓ ดีปลี
    ๔ แห้วหมู
    ๕ เปลือกมูกมัน
    ๖ ผลผักชี
    ๗ อบเชย
    ๘ สะค้าน
    ๙ ขิง
    ๑๐ ผลเอ็น
    ๑๑ อำพัน


    คุณsuwiคะ
    ไปที่ร้านเค้าถามว่าอำพันมีหลายอย่าง
    เช่น อำพันหางหมู อำพันขี้ปลา อำพันทอง
    โดยเฉพาะอำพันทอง ไม่มีหายากและแพงมากๆค่ะ
    เลยอยากรบกวนถามคุณsuwi ว่าใช้ตัวไหนคะ
    และถ้าเป็นอำพันทองจริงๆ มีตัวอื่นแทนได้ไหมคะ
    ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
     
  4. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ขอโทษด้วย เข้ามาในเวป แล้วไม่ได้แวะมาเปิดอ่าน ทำให้คำถามค้างอยู่นาน

    อำพันมีอยู่ ๒ ประเภท

    ๑.ได้จากสัตว์ (ปลาวาฬ) มี ๒ ชนิด

    ๑.๑ อำพันเกษร(อำพันขี้ปลา) เป็นขี้ท้ายๆของปลาวาฬ
    ๑.๒ อำพันทอง เป็นเมือกน้ำกามของปลาวาฬ
    ทั้งสองชนิด ใช้แก้อาการ เป็นลม วิงเวียน คลื่นเหียน ฯลฯ
    รู้ที่มาแล้ว คงไม่แปลกใจ ทำไมมันแพง มหาโหด และหายาก

    ๒ ได้จากส่วนของพืช ปัจจุบันมีอยู่ สี่ตัว คือ

    ๒.๑ เป็นยางไม้สน ทับถมกันมีอายุนานมากๆ ปัจจุบันใช้ยางสน หรือแก่นไม้สนแทน(ใช้แก่นในกรณี ยาต้ม)
    สรรพคุณ เป็นยาฝาดสมานทั้งภายในภายนอก(รักษาสมานแผลนั่นเอง)
    ๒.๒ เป็นเหง้าของพืชน้ำชายทะเล มีอยู่ สามชนิด
    ลำพันแดง ลำพันขาว และลำพันหางหมู
    ทั้งสามตัว แต่โบราณใช้ชื่อว่า ลำพัน
    แต่ปัจจุบันลอกกันไปพูดกันมา กลายเป็น อำพันหางหมู อำพันแดง อำพันขาวเสียชิบ
    สรรพคุณ ใช้แก้เลือดลมสัตรี(ระดู)ผิดปกติ และแก้ลมในลำใส้

    ดังนัน อำพันที่อยู่ในสูตรยาจึงเป็น อำพันที่เป็นยางไม้สน(แก้แผลในกระเพาะอาหาร)

    ปัจจุบัน ในบางกรณี อาจใช้ลำพันแดงแทนได้ (ถ้าอาการยังไม่เรื้อรังมาก)

    กรณีของคุณพุทธันดร ใช้ได้ทั้งสองตัว อย่างใดอย่างหนึ่ง (อำพัน/ยางไม้สน หรือ ลำพันแดง)
     
  5. พุทธันดร

    พุทธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    565
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อาการธาตุไฟพิการ ล้วนเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง
    ในแพทย์แผนไทยที่บันทึกไว้ มี สี่รูปแบบ(อาการ)
    ทุกแบบจะมีอาการของท้องอืดท้องเฟ้อ (คล้ายโรคกระเพาะ) ร่วมด้วยเสมอ(ไม่มากก็น้อน)

    ๑ สันตัปปัคคีพิการ มีอาการ
    เย็นๆร้อนๆ วิงเวียนในอก เบื่ออาหาร พอกินอิ่มให้จุกอก อาหารที่กินไม่อยู่ท้องทำให้หิวบ่อย
    ทำให้เกิดลมหกจำพวกตีขึ้น แน่นท้อง ให้จุกร้อนในอก/ในลำคอ จมูกตึง หายใจขัด(หายใจลำบาก) เป็นมากให้หน้ามีด ตาลายคางแข็ง(โรคหัวใจบางชนิด)
    ขัด เจ็บข้อมือข้อเท้า บ่าคอ บางคนเป็นมากปวดเมื่อยไปทั้งตัว
    ยาแก้ ชื่อ กาลาธิจร (ได้บอกยาไปแล้ว)

    ๒. ปรินามัคคีพิการ มีอาการ
    ร้อนในอกในใจ(ลิ้นปี่/หัวใจ)
    มือท้าบวม(ระบบไหลเวียนน้ำเหลือง ติดขัด)
    ไห้ไอ เป็นหืด เป็นมองคร่อ(เสมหะแห้งติดในปอด/ไอ หายใจขัด มีเสียงครืดๆในปอด)
    ท้องขึ้นท้องพอง ผะอืดผะอม
    ให้สังเกตุ อาการคล้ายในข้อ ๑ สันตัปปัคคีพิการ แต่อาการหนักกว่ามาก

    ยาแก้
    ผักแพรวแดง ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ ชะเอมเทศ ๑ มะขามป้อม ๑
    ตะไคร้ต้น ๑ เปราะหอม ๑ รากสวาด ๑ หญ้ารังกา ๑

    ยาทั้ง ๙ บดผง ละลายน้ำนมโค หรือน้ำร้อน กินครั้งละ ๑-๒ ช้อนชา วันละ ๓ ครั้งก่อนอาหาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ๓. ปริทัยหัคคีพิการ มีอาการ
    การเต้นของหัวใจไม่สม่ำเสมอ มีหยุดเป็นบางจังหวะ หรือกระตุกผิดจังหวะ
    ชีพขจรมือเท้าไม่เดินให้เย็น บางครั้งเย็นเป็นน้ำ แต่ภายในตัวร้อน อยากน้ำเย็น กิน /ลด ตัวมิได้ขาด
    ให้เหงื่อออกมากเม็ดใหญ่ดังเม็ดข้าวโพด

    ยาแก้ ยาทำค่อนข้างยาก ด้วยมีการใช้แคลเซียม จากเขาสัตว์ เปลือกหอบ เป็นส่วนผสม (ให้ใช้แคลเซี่ยมที่มีขายในท้องตลาดแทน / เขาสังเคราะห์มาบริสุทธิ์ดี)
    ให้ดัดแปลงดังนี้
    แก่นแสมทะล ๑ ส่วน
    ลูกจันทร์ ๑ ส่วน
    แห้วหมู ๑ ส่วน
    รากขัดมอน ๑ ส่วน
    กระเทียม ๓ ส่วน
    พริกไทย ๕ ส่วน
    ทั้งหมดตำเป็นผง ละลายน้ำร้อนแซกพิมเสนกิน
    ให้กินพร้อมแคลเซี่ยมเม็ด ๑/๒ - ๑ เม็ด กินพร้อม ยาข้างบน ๑-๒ ช้อนชา ละลายน้ำร้อน แซกพิมเสนเล็กน้อน
    กินวันละ ๓ ตรั้ง ก่อนอาหาร (อาจกินแคลเซี่ยม ตอนหลังอาหารก็ได้)
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ๔. ชิระนัคคีพิการ/แตก โรคนี้เกิดขึ้นแล้ว จะมีโรคลมเข้าแทรกด้วย แก้ยากนัก มีอาการ
    การทำงานของอายะตนะหก ๖ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แปรปรวน ไม่เที่ยง ทำงานได้บ้างไม่ได่บ้าง แปรไปต่างๆนาๆ รู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึกตัวบ้าง (อาการตรีทูต)

    ถ้าจะแก้ ตั้งยาดังนี้
    บรเพ็ด ๑ ลูกพิลังกาสา ๑ ผักแพรวแดง ๑ ลูกมูกมัน ๑ ใบย่างทราย ๑
    เอาส่วนเท่ากัน ตำผง ละลายน้ำผึ้ง นำร้อน หรือน้ำนมโค กิน
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    อาการธาตุไฟ พิการสามตัวแรก พบบ่อย / ยาที่ให้ไว้แก้ได้แน่นอน
    อาการที่สี่ ยังไม่เคยพบเลย
     
  10. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    สิ่งที่ท่านถามมา เริ่มตอบแล้วนะ

    แต่เป็นเรื่องยาว ให้ค่อยๆติดตาม
    จึงจะเข้าใจในรูปแบบการพัฒนาของโรค และการแก้ไข

    เรื่องเริ่มตั้งแต่ "ปฐมบทแห่งโรคภัยไข้เจ็บ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  11. เกล็ดเขียวขลิบแดง

    เกล็ดเขียวขลิบแดง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +15
    รบกวนอาจารย์หมอ (ขออนุญาตเรียกนะค่ะ) มียาบำรุงไตให้สำหรับคนที่ทานยามาก ๆ ไหม๊ค่ะ เช่น คนที่ทานยาเบาหวาน/ความดัน/หัวใจ พร้อม ๆ กัน
    หรือพวกที่ ทานยาลดความอ้วน ยาถ่ายพยาธิ นะค่ะ


    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2008
  12. เกล็ดเขียวขลิบแดง

    เกล็ดเขียวขลิบแดง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +15
    เคยอ่านเจอเรื่องของหมอแผนจีนโบราณ กับหมอแผนไทยโบราณ ว่า
    ผู้สืบทอดของจีนซึ่งเป็นลูกชายจะต้องฝึกนั่งสมาธิตั้งแต่ยังเด็ก ในการตรวจชีพจร และผู้ฝึกเคยให้สัมภาษณ์ว่าสามารถทำให้สามารถมองเห็นวิญญาณ
    ส่วนหมอแผนไทย ที่สืบทอดมาแต่โบราณให้สัมภาษณ์ว่าต้องอยู่ฝึกสมาธิกับครูถึง๘ ปี จึงสามารถมีพลังในการรักษา อยู่กินที่บ้านครู ฝึกสมาธิตลอดเวลา ทำให้สามารถสัมผัสโรคต่าง ๆ หรือสิ่งที่แอบแผงได้
    ของอาจารย์หมอเรียนแบบนี้ไหม๊ค่ะ
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ยาล้างใต
    ยาชุดนี้เป็นยาง่ายๆ ใช้สำหรับล้างไต
    ใช้ในกรณีที่กินยามากๆ จนเกิดตะกอน ผลึกเล็กๆแทรกอยู่ตามเนื้อไต
    เมื่อเป็นมากขึ้น จะเกิดอาการปวดหลังร้าวๆ ตัวร้อนรุมๆตลอดเวลา แถมฉี่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ฯลฯ
    และท้ายสุดเนื้อไตจะถูกทำลาย โดยผลึกสารเคมีเหล่านั้น

    ตัวยา
    ๑ ใบบัวบก (อาจใช้ใบบัวบกสดแทนได้)
    ๒ แห้วหมู
    ๓ รากหญ้าคา

    วิธีทำกิน
    บัวบก แห้วหมู รากหญ้าคา อัตราส่วน 1:1:1 (หนักอย่างละ ๒-๓ บาท)
    ล้างสะอาดต้ม แห้วหมูและรากหญ้าคาก่อน (น้ำประมาณ ½ -1 ลิตร )
    ปล่อยให้น้ำเดือดประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงใส่ใบบัวบกลงไป ทิ้งให้น้ำเดือดอีกครั้งประมาณ 5-10 นาที รินน้ำยาดื่ม อุ่นๆ
    น้ำยาหมดแล้ว เติมน้ำ ต้มใหม่ ให้กินแทนน้ำ ตลอดวัน
    น้ำหนักยาที่ให้ไว้ กินได้ ๑ วัน<O:p</O:p

    ควรกินอย่างน้อนติดต่อกัน ๓-๕ วัน

    หมายเหตุ
    ๑. ให้สังเกตุดูอาการของผู้กินยานี้ด้วย
    เมื่อกินไปสักพัก ถ้ามีอาการ วิงเวียน หมดแรง (อาการขาดน้ำตาล)
    ให้เจือน้ำผิ้งลงไปเล็กน้อย อาการต่างๆจะดีขึ้น

    ๒. ยาสูตรนี้จะลดน้ำตาลในเลือดอย่างอ่อนๆ ด้วย กินไปนานๆอาจมีปัญหากับผู้กินยาเบาหวานอยู่ (น้ำตาลลดเร็วไป) อาจวูปได้

    ๓. ใช้บำรุงตับ/ตับอ่อน ตัวยาเหมือนเดิม ให้เพิ่มใบบัวบกอีก ๑ เท่าตัว ต้มกับน้ำตางทรายแดง(เล็กน้อย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2008
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ผมเรียนแบบไทย
    ได้รับถ่ายทอดบ้าง ครูพักลักจำบ้าง ฯลฯ
    ส่วนใหญ่ที่เป็นเรื่องเป็นราว เรียนจาก กระทรวงสาธารณะสุข
     
  15. เกล็ดเขียวขลิบแดง

    เกล็ดเขียวขลิบแดง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +15
    อาจารย์หมอค่ะ แห้วหมู หมายถึง หญ้าแห้วหมู ใช่ไหม๊ค่ะ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ถูกต้องครับ
    หญ้าแห้วหมู ใช้หัวของมัน เรียกเต็มยศว่า หัวแห้วหมู
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หลังจากกินยาล้างไตแล้ว
    ให้ต้มยาแก้ปัสสาวะพิการกินต่ออีก ๑-๒ วัน

    ยาแก้โรคปัสสาวะพิการ

    ถ้าท่านมีอาการเหล่านี้

    ๑.น้ำปัสสาวะเป็นโลหิต ๒.น้ำปัสสาวะเหลืองดังขมิ้น ๓.น้ำปัสสาวะดังน้ำนมโค ๔.น้ำปัสสาวะดังน้ำข้าวเช็ด
    ๕.น้ำปัสสาวะดังใบไม้เน่า ๖.น้ำปัสสาวะเป็นดังน้ำหนอง ๗.น้ำปัสสาวะไหลซึม ๘.น้ำปัสสาวะร้อน
    ๙.น้ำปัสสาวะออกมาขัด ๑๐.น้ำปัสสาวะดังน้ำล้างเนื้อ
    ๑๑.น้ำปัสสาวะขัดเพราะดีให้โทษ (มีอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ร้อนอก ร่วมด้วย)
    ๑๒.น้ำปัสสาวะขัดเพราะความเพียรกล้า (นั่งนาน กลั้นปัสสาวะนานๆ)
    ๑๓.น้ำปัสสาวะขัดเพราะไข้ตรีโทษ (เป็นไข้ติดต่อนานๆเป็นๆหายๆ)
    ๑๔.น้ำปัสสาวะขัดเพราะโรคปะระเมหะให้โทษ (ตะกอนในเลือด/ในปัสสาวะ- เบาหวาน)
    ๑๕.น้ำปัสสาวะขัดเพราะเป็นนิ่ว
    ๑๖.ไปปัสสาวะวันละ ๗ เวลา ๑๗.ไปปัสสาวะวะนละ ๑๐ เวลา ๑๘.ไปปัสสาวะบ่อยๆ
    ๑๙.น้ำปัสสาวะขัดเพราะเสมหะให้โษ
    ๒๐.น้ำปัสสาวะขัดเพราะลมให้โทษ

    อาการดังกล่าวข้างบน ให้ตั้งยาแก้ดังนี้

    ๑.สมอไทย
    ๒.ผลมะขามป้อม
    ๓.(ราก)แฝกหอม
    ๔.แห้วหมู

    วิธีทำกิน
    ยาทั้งสี่ตัว อัตราส่วน ๑:๑:๑:๑ (น้ำหนักประมาณอย่างละ ๒-๓ บาท) ล้างน้ำสะอาด
    ใช้หม้อสะแตนเลส หรือหม้อเคลือบ ใส่น้ำประมาณ ๑ ลิตร ต้มเดือด ๑๐-๑๕ นาที
    รินน้ำยากินขณะอุ่นๆ (เจือน้ำผึ้งหรือไม่เจือก็ได้)
    ยาตัวนี้จะลดน้ำตาลในเลือดด้วย ถ้าวูปเพราะขาดน้ำตาล ท่านให้เจือน้ำผึ้งกิน
    ยาที่ต้มไว้หมด ให้เติมน้ำต้มกินต่อ จนยาจืด
    ตัวยาที่ให้ใช้ต้มกินในหนึ่งวัน
     
  18. เกล็ดเขียวขลิบแดง

    เกล็ดเขียวขลิบแดง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอบคุณค่ะ สำหรับทุกคำตอบ
    ถามต่อนะค่ะ อาจารย์หมอ
    การกินยาล้างไต ควรกินปีละกี่ครั้งค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  19. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ยาตัวนี้ ต้มออกมาแล้วเหมือน น้ำจับเลี้ยง
    กินเค่แก้ว สองแก้ว จะไม่ค่อยเห็นผล(ได้ผลบ้างเล็กน้อย)
    ปกติจะกินเป็นคอร์ส(ครั้งละ ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน)
    ปีหนึ่งกินประมาณ ๐-๓ ครั้ง หรือตามความจำเป็น

    การจะกินกี่ครั้ง ขึ้นอยู่กับภาวะเสี่ยงในการดำรงชีพ ว่า
    ป่วยบ่อย กินยาบ่อย อาหารไม่ดี ได้รับสารเคมีมา ฯลฯ
     
  20. อำนวยกรณ์

    อำนวยกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    515
    ค่าพลัง:
    +1,931
    นำใบบัวบกต้มใส่นำตาม สรรพคุณที่ได้ มากกว่าแก้ช้ำในไหม๊ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...