" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 27 เมษายน 2013.

  1. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    .... " ปอบ " เป็นพวกที่เรียนวิชาอาคม ไสยศาสตร์มนต์ดำ แล้วนำไปใช้ในทางที่ไม่ดีจนของเข้าตัวเองบ้าง หรือ ไปกระทำผิดครู ผิดตำราต่าง ๆ (ที่ครูบาอาจารย์ได้สาปแช่งไว้ ) จึงทำให้วิชาด้านมืดเหล่านั้นหวนกลับเข้าตัวเองจนกลายเป็น " ผีปอบ " ต่าง ๆ ในภาคอีสานเป็นหลัก ไม่ค่อยได้พบในภาคอื่น ๆ ...

    หลวงต้าม้า วัดถ้ำเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    ... " ผีปอบ " อนุมานตามแนวหลวงปู่ดู่ ได้ว่า แรกเริ่มเดิมทีคงจะเป็นกลุ่มคนที่เรียนวิชาทางด้านไสยย์ศาสตร์มนตืดำ เลี้ยงผีบังคับผีไว้ใช้งานแล้วกระทำผิดครูผิดตำรา นำวิชาไปใช้ในทางที่ผิดจนของเขาตัวเอง จนตัวเองกลายเป็นผีปอบไปในที่สุด เคยเลี้ยงผีด้วยเครื่องใน ของดิบ ของคาวอย่างไร ตัวเองก็ต้องออกหากินเครื่องในของดิบของคาวอย่างนั้นเช่นกัน ...

    ... โดยการถอดจิตไปกินบ้าง ฝันว่าไปกินบ้าง และ เนื่องด้วยพวกนี้ยังมีขันธ์ธาตุอยู่ เป็นพวกกึ่งกายละเอียดกึ่งหยาบ จึงไม่ได้กินได้แต่กลิ่น หรือ รส เท่านั้น แต่สามารถกินธาตุได้จริง ๆ คล้าย ๆ กับพวกที่มีวิชาอาคมที่สามารถใช้อำนาจจิตในการบิดไส้ บีบหัวใจ เสกหนังควายเข้าท้องฝ่ายตรงข้ามได้ ...

    ... ซึ่งการกินเครื่องในของ ปอบ นั้นไม่ได้กินแบบสยอง แต่จะเป็นการค่อย ๆ แฝงกินธาตุขันธ์ไปเรื่อย ๆ หากไปตรวจพบกับหมอแผนปัจจุบัน อาจจะพบว่าเป็นโรคเหมือนคนเป็นมะเร็งตามอวัยวะต่าง ๆ ค่อย ๆ พังสลายไป เน่าไป โดยไม่ทราบสาเหตุ จนตายไปในที่สุด...

    ดร.รอบทิศ ไวยสุศรี
    แฟนพันธุ์แท้ พระเกจิคณาจารย์ 2006
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2013
  2. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ..... ปอบ พวกนี้รักษายากมาก แม้แผ่ส่วนกุศลไปให้มากแค่ไหน ก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ เพราะพวกนี้ไม่มีจิตคิดจะรับ หรือ อนุโมทนาบุญกุศล จิตโดนไสยศาสตร์ และ กรรมชั่วครอบงำเต็มที่ หากจะไล่กันจริง ๆ ก้ต้องใช้ไม้แข็ง คือ ต้องเชิญครูบาอาจารย์ที่มีกำลังจิตสูงเข้มแข็งมาทำพิธีขับไล่ให้ออกไป ซึ่งถ้าไม่มีกำลังจิตสูงพอก็อาจโดนเล่นงานเองได้ เพราะปอบประเภทนี้ก็มีพลังจิต และ มีวิชามากเช่นกัน อีกทั้งเมื่อไล่ออกไปแล้ว ส่วนใหญ่มักไม่ทันเหตุการณ์ เพราะวิชาพวกนี้ไม่ได้กินแต่ตับ ไต ไส้พุงของผู้อื่นอย่างเดียว แต่เข้ากัดกินธาตุขันธ์เจ้าของร่างที่เป็นปอบเองด้วย บางคนไล่ออกไปแล้วเครื่องในก็พังแทบไม่เหลือ และ ตายในเวลาต่อมา ประเภทนี้ค่อนข้างหายากในสังคมทั่วไป เพราะต้องสืบทอดความเป็นปอบให้แกกันผ่าน และ ถ่ายทอดแล้วมักตายในเวลาไม่นาน เพราะอยู่ได้ก็ด้วยการรอคนมารับช่วงต่อนั้นเองคะ ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DVD1505.jpg
      DVD1505.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.6 KB
      เปิดดู:
      17,809
  3. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    .. ปอบ ส่วนใหญ่ที่พอพบอยู่ จะเป็นวิญญาณปอบที่เกิดจากคนเรียนวิชาปอบที่ตายไปแล้วมากกว่า ตอนมีชีวิตยึดติดกับวิชาอย่างไร ตายไปก็ยังเป็นแบบนั้น ก็ยังอยากกินเนื้อดิบ ๆ เครื่องในสด ๆ ก็เลยหาทางเข้าสิงคน เพื่ออาศัยร่างเหล่านั้นหากินของดิบ ๆสด ๆ ต่อไป ร่างก็กินของดิบไปส่วนตัวเองที่เป็นวิญญาณ ก็อาศัยกินกลิ่น กินรสไป มีภาวะคล้าย ๆ พวก " สัมภเวสี " หรือ " อสุรกาย " ซึ่งปอบพวกนี้พอแผ่บุญไปให้พูดคุยขับไล่ไปง่ายกว่าพวกที่เรียนวิชาแล้วกลายเป็น ปอบ หรือ พวกที่มีการสืบทอดแท้ ๆ หากสมัยมีชีวิตมีวิชาอาคมมาก และ จิตแข็งพลังจิตสูงจะไล่ยาก และ ยังสามารถเอาชีวิตคนที่มีเวรกรรมเนื่องต่อกันได้อยู่เช่นกัน หรือ เรียกว่า "ปอบเจ้ากรรมนายเวร " ปอบประเภทนี้สามารถทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้อโหสิกรรมให้กันได้คะ

    ... " ปอบเชื้อ " เป็นปอบที่น่าสงสารมาก เพราะถ้ามีพ่อแม่เป็นปอบลูกหลานก้ต้องเป็นปอบไปด้วย ซึ่งน่าจะเกิดจากเวรกรรมบีบบังคับทำให้เกิดมาในตละกูลปอบ พวกนี้มักหลบซ้อนกลัวผู้คน ลักกินขโมยกินไม่ทำร้ายคนเพราะส่วนมากกลัวคนไม่กล้าสู้หน้าใคร ...

    ... " ปอบคิดไปเอง " คือ เวลาที่มีใครชอบทำตัวแปลก ๆ ชอบเก็บตัวไม่ยุ่งกับใครมักถูกกล่าวหาว่าเป็นปอบเวลาที่สัตว์ของชาวบ้านหาย มีคนตายแบบไม่ทราบสาเหตุก็จะกล่าวหาว่าคนนั้นเป็นปอบ ชาวบ้านมักโยนความผิดให้กับคนที่ตัวเองไม่ชอบ คนแปลกหน้า หรือ คนที่ไม่น่าไว้ใจว่าเป็นปอบไป

    ดร.รอบทิศ ไวยสุศรี
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ตอนเป็นคน..[​IMG]<---...นิสัยไม่ดี..[​IMG]...ฝึกสมาธิ สวดมนต์ ภาวนา-->[​IMG]
    ..จนมีวิชา-->[​IMG]..แต่ไม่ใช้...ในทางธรรม..
    [​IMG]

    ...ส่งผลให้กลายเป็น---->.[​IMG] ฮึ่ม ฮึ่ม.......เห้อ!!! เรื่องมันเศร้า..[​IMG]
     
  5. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... เป็นครั้งแรกที่ท่าน nopphakan เม้นโพสได้น่ารักมากคะ ปกติมาแบบฟูลออฟชั่น วันนี้มาแบบสบาย ๆ แต่ได้ใจความมากคะ สาธุคะ เป็นจริงตามนั้นเลยคะ ....
     
  6. poopae191

    poopae191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +1,872
    พี่คะหนูสงสัยปอบผีฟ้า
     
  7. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ได้คะ เดี๋ยวคืนนี้จัดให้นะคะตามคำขอ ดึก ๆ คะ พอดีมีข้อมูลแล้วคะ :cool::cool:
     
  8. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... " ปอบผีฟ้า " คำนี้มันต้องแยกออกจากกันก่อนนะคะ เพราะความหมายต่างกันคะ มีสองความคิดจากท่านนักเขียนมาเล่าให้ฟังคะ

    .. ดร.รอบทิศ ไวยสุศรี ให้คำจำกัดความดังจะสรุปได้ ดังนี้

    " ผีฟ้า " มาจากความเชื่อของชาวอีสานที่เคารพนับถือผีมาชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีจะมีความเชื่อว่าเกิดจาก ผี เช่น เจ็บไข้ ภัยธรรมชาติ ผลผลิตไม่ดี ล้วนเกิดจากอำนาจของผีทั้งสิ้น แต่ถ้าเซ่นไหว้ผีสม่ำเสมอ ผีจะช่วยให้พบแต่คว่ทสุขคนอีสานจึงมีการ " เซ่นผีไหว้บูชาผีต่าง ๆ " แทบทุกฤดูกาล ...
    ... " ผีฟ้า " ผีฟ้าเป็นผีที่คนอีสานเคารพบูชากันมากเพราะเป็นผีชั้นสูง คือ " ผีที่อยู่บนฟ้า " นั้นคือ " เทวดา " นั้นเองคะ เป็นพวกเดียวกับ " แถน " จัดอยู่ในพวก " อทิสสมานกาย " ด้วยความที่มีฤทธิ์อำนาจมากคนอีสานจึงมีการบูชาด้วยเครื่องคายต่าง ๆ ตั้งโต๊ะบูชา เพื่อเชิญผีฟ้ามาเข้าร่างทรง เพื่อนทำพิธีปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่าง ๆ โดยมีหมอแคนคอยเป่าในพิธีเพื่อให้ผู้ร่วมพิธีฟ้อนรำจนเสร็จพิธี ... ซึ่งหากเชิญผีฟ้ามาได้จริงสิ่งไม่ดีเหล่านั้นจะสูญหายไปทันทีโดยที่บางทีแพทย์แผนปัจจุบันยังรักษาไม่ได้ก็มี ..

    ... ส่วนที่น่ากลัวที่ควรระวัง คือ " ผีคน "" ผีคิดไปเอง " คือ คนมาแกล้งหลอกแกล้งอำเราเฉย ๆ หรือ อุปทานไปเองมากกว่า หรือ " ผีแอบอ้าง " คือ ผี เข้าทรงจริง แต่ไม่ใช่เทวดามา แต่เป็นพวก "ผีสัมภเวสีเร่ร่อน อสุรกาย เปรต " มาแอบอ้างเพื่อกินเครื่องเซ่นก็มีมาก ซึ่งโดยส่วนมาก " พวกคนทรง " 80 เปอร์เซ็นจะเป็นพวกนี้อยู่มากกว่าเทวดาลงมาช่วยจริง ๆ


    ... ส่วน " ปอบผีฟ้า " ไม่ได้หมายความว่าเทวดาที่มาเข้าทรงเป็นปอบ แต่หมายถึงคนที่ทำหน้าที่คนทรงต่างหาก หากปฏิบัติตาผิดจารีตประเพณี " ผิดครู " คือ ผิดจากคำครูที่สอนมา หรือ " ผิดคาย " คือ ของบูชาครูในพิธีไม่ตรงตามที่ครูกำหนดกำชับไว้ ก็จะทำให้คนที่เป็นร่างทรงกลายเป็นปอบ จึงเรียกว่า " ปอบผีฟ้า " คือ ร่างทรงของผีฟ้าเป็นปอบนั้นเอง

    ... ปอบประเภทนี้จะแก้ได้ยาก เพราะเกิดจากการกระทำผิด วิชาผีจึงย้อนกลับเข้าหาตนเอง อีกทั้งยังมีธาตุขันธุ์ร่างกายไม่ใช่ดวงวิญญาณจะแผ่บุญไปให้อย่างไรไม่ค่อยเป็นผล อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงรับกรรมของผู้นั้นก้ได้ เพราะต้องอยู่เหมือนพวก เปรตอสุรกายที่ต้องกินของดิบ ของเน่า ของคาว แต่ไม่ได้น่ากลัวแบบในละครนะคะ พวกนี้จะอยู่อย่างแอบแฝงหลบซ้อนเพราะความกลัวคนรู้ไม่แสดงตนให้ใครรับทราบแน่นอนเพราะความอับอาย อย่างมากก็อาจไปขโมยสัตว์กินแค่นั้นไม่น่ากลัวแต่อย่างใด คล้าย ๆ พวกปอบเชื้อนั้นแหละคะ [/SIZE]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    แหมคุณ กาลีนะ ว่ามาเสียสุดสวยเลยนะครับ ขอต่อเติมนิดหน่อยครับ ครู บาอาจารย์ ท่านเป็นหลาน หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง มีเชื้อสายมอญ ท่านมีวิชาอาคมย์ มากมาย และท่าน เป็นศิษย์ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง และมีอีกหลายคน ท่านผู้นี้ มีชื่อว่า พ่อครูทันรุจิเรข ตอนนี้ท่านได่ มรณะไปแล้วครับ ตอนตี ๔ ท่านจะลุก ขึ้นมาเพ่ง กสินไฟเทียน ทุกวันมิได้ขาด วันพระรักษา ศิล ๘ ทั้งพระและฆราวาส แถว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะเชิญท่านไป ทำพิธีกรรม ต่างๆ ทั้ง ทางด้านบ้านเมือง ทางพระศาสนา

    แม้แต่บางครั้ง เชิญท่านไป อธิษฐานจิต เกี่ยวกับ วัตถุมงคล นั่งปรก เป็นชั่ว โมงๆ ถึง บางครั้ง ๔ ชั่วโมง ท่านพูด กับผมว่า จะเรียนวิชา อะไร ท่านมีให้ ครบ ทุกๆด้าน วิชา บิดไส้ บังควัน ฝังรูป ฝังรอย ฝังหุ่น สักยันต์ เสน่ยาแฝด น้ำมันพราย ทำกุมารทอง แม้ แปรงเป็นสัตว์ ต่างๆ ก็สามารถ เรียนได้ ผมตอบไม่อยากเรียนอย่างอื่น ขอเรียน สมาธิ กรรมฐานพอ และ ขอ เมตตา และไว้ป้องกันตัว ท่านกล่าวว่า ที่พูดมาทุก ทุกอย่าง มันเป็น เดรัชฉานวิชา ถ้าบุคลใด นำวิชาไปฆ่าคน ตายไป ถึง ๓ คน จะเป็นปลอบ วิชาทันที เป็นทั้งๆที่มีชีวิตอยู่ครับ


    สมัยเด็กๆ เห็น ปลอบวิชา เข้าแขวงคน เฉพาะ คนป่วย ใกล้ตาย หรือมีเคราะกรรม พวกนี้จะสวม เข้าไปกินตับไตไส้ปอด ค่อยๆตายไปอย่างช้าๆ หาสาเหตุไม่ได้ มีหมอ วิชาไปรักษา ท่องอะไรไป ไล่มันตีมัน มันท่องคาถา ได้หมด เหมือนเราท่อง ถ้าเราพลังจิต ไม่สูงกว่าเขา เขาไมออกแน่ ถ้าเราเหนือเขา บางครั้ง ไปรักษาคนไข้ เขาออกไปแล้ว เขารู้ ถ้าไม่ออก ต้องสู้กันพักหนึ่ง ถึงจะไปครับ ก็มีประสบการณ์ หลายครั้ง ที่เจอมากับตัวเองครับจึงพูดยาก สำหรับ คนไม่มีประสบการณ์

    เมื่อ พ.ศ. ๓๐ กว่า มีกระเหรี่ยง เป็นหมอผี ประจำหมู่บ้าน ผมเคยคุยกับแก แกบอก ผมถามแกว่า ทำไม วันพระต้องจุดเทียนทั้งคืน แกบอกผมว่า ถ้าไม่จุดเทียนทั้งคืน เฉพาะ วันพระ ของที่แกเรียนมา มันจะเข้าตัวแก บางครั้ง ต้องปล่อยของออกไป ไม่งั้น ของจะเข้าตัว จึงต้องจุดเทียนไว้ทั้งคืน ถ้าใครมีเคราะ ของที่แก ปล่อยไป อาจไปโดนใครได้ เขาเรียก ลมเพลมพัด ถูกคุไสยบ้าง เมือสมัยโบราณ กลางคืน เขาห้ามทักทาย เวลามีเสียงดัง ห้ามเรียก เดี๋ยวจะมาเล่าว่า ตอนหลัง แกโดนยิงตาย เหมือน เหมือนคุณกาลีนะ ตอนที่เล่ามาครับไปทำธุระก่อนจ้า
     
  10. poopae191

    poopae191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +1,872
    น่ากลัวจังมีลูกหลงด้วย ถ้าดวงตกแย่เลย
     
  11. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... ที่กล่าวมาก็ถูกต้องคะ .. หนึ่งในการรักษาก็ คือ ศีลขั้นพื้นฐานคะ ... มันยังมีวิธีแก้ไขในบางกรณีแล้วแต่ครูอาจารย์เขาจะบอกมาด้วยนะคะ ...
     
  12. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... ในแง่มุมของ คุณ เจต ภูติ .. เปิดตำนานผีไทย ... พอสรุปได้ดังนี้คะ

    ... " ผีฟ้า " คือ คำเรียก เทวดา ของคนเหนือ และ อีสาน เป็นการบูชาแบบพื้นบ้านตามความเชื่อมาแต่อดีตจนปัจจุบัน เนื่องจากมีความเชื่อว่า " ผีฟ้าเป็นผีที่ดี " ช่วยในการรักษาผู้มีอาการเจ็บป่วย สมควรได้รับการเคารพบูชาอีกประเภทหนึ่ง

    ... คนที่เป็น " ร่างทรงผีฟ้า " จะสืบทอดกันทางสายเลือดรุ่นสู่รุ่นโดยลูกหลานที่เป็น " ผู้หญิง " เมื่อมีคนเจ็บจะมีการเสี่ยงทาย และ ช่วยรักษา สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในเรื่องไสยย์ศาสตร์ของสังคมไทยแต่เดิม

    .. ผีฟ้า ก็คือ พญาแถน หากเปรียบเทียบก็คือ " พระอินทร์ " จึงเป็นใหญ่สุดในบรรดาผีทั้งหลาย จึงสามารถขจัดสิ่งที่เกิดจากผีอื่นได้ ... เพราะบางทีคนเราอาจไปละเมิดต่อผีต่อบรรพบุรุษ การรักษาต้องเชิญผีฟ้ามาสิงสถิตอยู่ในร่างของคนทรง เรียกว่า " ผีฟ้า นางเทียม "

    .. การลำผีฟ้ามี 2 แบบ คือ บวงสรวงบรรพบุรุษ และ การรักษาโรค คนอีสานจะรำในช่วงหลังสงกรานต์ แต่ก่อนเข้าพรรษา ถ้าทางล้านนาเทียบกับ การฟ้อนผีมดผีเม็ง

    ... การรักษาไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน แล้วแต่คนป่วยจะไปขอรับคำ"]ปรึกษาจากนางเทียม โดยส่วนใหญ่นางเทียมจะเป็นหญิงสูงอายุ หรือ หญิงสาว โดยเฉพาะที่เลย และ ต้องสืบเชื้อสายมาจากกลุ่มหมอลำเท่านั้น แต่ความจริง ผีฟ้าสามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย

    ... หมอแคน ( หมอม้า ) ต้องเป็นผู้มีความชำนาญเพราะต้องเป่าเป็นเวลานานและเป่าอยู่ตลอดเวลา

    ... ผู้ป่วยต้องแต่งกายตามที่กำหนดไว้ คือ มีผ้าไหม หรือ ผ้าขาวม้าพาดบ่า มีดอกมะละกอซึ่งตัดร้อยเป็นพวงทัดหู ผู้ป่วยสามารถฟ้อนรำด้วยได้

    ... เครื่องคาย เป็นสิ่งอัญเชิญครูอาจารย์ผู้ล่วงลับไปแล้วมาช่วยเหลือรักษาผู้ป่วย

    ... การรำแล้วแต่ละท้องถิ่นเมื่อครูบาเข้าสิงผู้ทำพิธีจะต้องสวมผ้าซิ่นทับผ้าตนเอง หรือ ผู้หญิงจะสวมผ้าแพร หรือ ผ้าฝ้ายโดยสวมทับผ้านุ่งเดิม ซึ่งมีจัดไว้ใกล้ ๆ ในการรำผีฟ้าเพื่อรักษาต้องรำกันทุกคน และ ขึ้นอยู่กับคนป่วย ถ้าต้องการดูก็จะทำหน้าที่ต่อไป แต่ถ้าไม่ก็เก็บเครื่องคายขึ้นหิ้ง และ ร่วมรับประทานอาหารกัน ...

    ... ความเชื่อของคนอีสานเชื่อว่า ผีฟ้าสามารถกำหนดการเกิด การตายของคนได้ การที่คนตายไปขวัญจะออกจากร่างไปพบบรรพชน แต่ขวัญจะไม่แตกดับเหมือนร่าง เป็นเพียงการจากไปของร่าง แต่วิญญาณยังคงอยู่กับผู้มีชีวิต ...

    ... สาเหตุที่มีการฟ้อนรำกันนั้น ก็เพื่อเป็นการทำให้คนป่วยมีพลังจิตในการต่อสู้กับโรคร้าย มีอารมณ์ผ่อนคลายปลอดโปร่ง สร้างจิตสำนึกเรื่องความกตัญญู จะเห็นว่าผีฟ้าคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจคนมานานมาก ...
     
  13. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... เอาไว้อาทิตนี้จะเอาเรื่องราวที่เคยมีเกิดขึ้นในหมู่บ้านเก่าที่เราเคยอาศัยอยู่ แล้วเกิดเหตุการณ์เหมือนว่ามีปอบเขามาสร้างความวุ่นวายภายในหมู่บ้าน และ หมู่บ้านใกล้เคียงแถว ๆจ.หนองบัวลำภู มาเล่าให้ฟังกันนะคะ ... การอ่านเรื่องที่เราเล่านี้แนะนำว่าให้ใช้วิจารณญาณของแต่ละท่าน จะเชื่อหรือไหม๊ก็สุดแต่ใจผู้อ่าน เพราะเราเพียงเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาเล่าให้ฟังเพื่อเป็นวิทยาทานแกทุกท่าน ... ด้วยมีคำทำนายจากพระอาจารย์ที่เคยช่วยชีวิตเรา กับ เพื่อนไว้ ท่านทำนายไว้ว่า " ในกาลเบื้องหน้า จะเกิดภูตที่เกิดจากอวิชามากมาย เช่น ปอบ กระสือ ขึ้น เพียงเพราะคนสมัยใหม่นำเอาอวิชามาใช้อย่างไม่ถูกต้อง และ รักษากันไม่ได้ ทำให้เกิดภูตผีพวกนี้ขึ้นมากมาย และ จะบังเกิดเจ้าพ่อเจ้าแม่นามแปลก ๆ ขึ้นอีกนับไม่ถ้วน " เราเองก็รับฟังมาและคอยติดตามดูว่าจริงแท้ขนาดไหน ... พวกเราก็คงต้องมารอพิสูจน์กันคะ
     
  14. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    985
    ค่าพลัง:
    +2,951
    เห็นด้วยค่ะ 555 น่าร้ากกกกกกก
     
  15. W-suksawat

    W-suksawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +416
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
     
  16. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    พอมานั่งอ่านดู แล้วภาพของความล่มสลายของอาณาจักรจามปา กับอาณาจักรขอม โผล่มาตรงหน้าเลย ยุคสมัยหนึ่งเรื่องพวกคาถาอาคม รุ่งเรืองมาก จนมาอีกยุค มันเสื่อมไปตามกาลเวลา และผลพวงของยุคเหล่านั้น ที่เห็นชัดเจนก็คือ ความเชื่อเรื่องปอบนี่แหละ สุดท้ายก็โดนปืนจากตะวันตก กินเรียบ.... หายขาด ใครบอกยิงไม่เข้า ก็ลองดู...
     
  17. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ..... เรื่อง "ทนปืน" มีจริงคะ แต่มันอยู่ที่เรารักษาได้ไหม๊ อยู่ในกฏครูบาอาจารย์แค่ไหน และ คนยิงมีบารมีมากน้อย บวกกับปืนที่ยิงว่าทำมาจากธาตุใดบ้าง พวกโลหะผสมนี้ก็สำคัญคะ มันเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนหลายศาสตร์รวมกันคะ ทางตะวันตก กระสุนเงิน ใช้กำจัดปีศาจ ประมาณนี้คะ ... สมัยสักสิบกว่าปีที่แล้ว พ่อเราก็เป็นคนหา "ของขลังที่ทนปืน" " ของวิเศษ " ตามแต่มีออเดอร์มา ทำให้ทราบว่าของจริงมีอยู่ แต่มีน้อยของเก่ามีคุณแต่อาจคนละด้านไม่เหมือนกัน และ คนที่มีของประเภทนี้ หรือ ของที่มีคุณวิเศษเขาจะไม่ค่อยเอามาอวดกันหรอกคะ ส่วนมากจะเก็บเป็นความลับกัน ไม่เอามาขาย และ ของบางอย่างมีเขตจำกัดของเขาออกนอกพื้นที่จะเสื่อมก็มีคะ เยอะคะสามวันสามคืนไม่หมด เพราะแถบภาคอีสานไปถึงฝั่งลาวพ่อเราเขาก็ถือว่าไปตามหามาหลายพื้นที่แล้ว และ เจอมาแล้วว่า ของวิเศษทนปืนมีจริงเพราะแกเป็นคนยิงเอง แต่เจ้าของเขาหวงยิ่งว่าอะไรทั้งหมด และ ก็มีวิธีใช้ที่เป็นความลับด้วย ทำให้เราพอจะรู้บ้างว่ามันมีจริงไหม๊เรื่องแบบนี้ และ ทำไงถึงจะยิงได้คะ ...

    ... ส่วนรื่อง ปอบ มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นคะ มันเป็นเหมือนรูปแบบพลังงานชนิดหนึ่งที่มีพลังในตนเอง วิทยาศาสตร์ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ เอาไว้คุณเจอกับตัวแล้วจะเข้าใจคะว่ามันเป็นยังไง เพราะบางทีคุณอาจเคยเจอแต่ดูไม่ออก หรือ ไม่ทราบว่านั้นคือ อะไร?
     
  18. 1เฟื้อง

    1เฟื้อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2013
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +158
    น่ากลัวอะครับ ปอบๆๆ ไม่รู้พวกนี้ชอบกินลาบดิบๆ หรือป่าว
     
  19. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    .... สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเพียงสิ่งที่เราเคยเจอ ทั้งคำบอกเล่าจากคนใกล้ตัว คือ พ่อ และ จากความฝันที่ทับว้อนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านข้าพเจ้าหลาย ๆ อย่าง จนเรามั่นใจว่า มันคือ นิมิต ...
     
  20. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ... ปอบ ครั้งแรกที่เรารุ้จักคำนี้ คือ จากคำบอกเล่าของพ่อเรื่องย่าที่เสีย พ่อเล่าว่า ปู่เป็นนายฮ้อยขายผ้า ขายยาสมุนไพร เดินขายรอนแรมไปทั่วในภาคอีสานด้วยการเดินไปค่ำไหนนอนนั้น ทำให้ปู่มีวิชาติดตัวมาพอสมควร ตอนนั้นย่าเราเพิ่งคลอดน้าคนที่ 11 ได้ 8 วัน แล้วย่าก็ตกเลือดตาย แต่ปู่บอกพ่อว่า ย่าตายเพราะโดน "ห่าก้อม" กินตายเพราะเลือดออกจากทวารทั้ง 7 และมีอาการที่เป็นลักษณะของการโดนกิน ... สมัยนั้นข่าวเรื่องปอบออกอาละวาดเยอะมากจนต้องหาอาจารย์มาช่วยกันไล่กันปราบมากมาย ถ้าใครไปที่ "บุ่งลิง โกสุมพิสัย" อาจจะโชคดีเจอบ่อน้ำที่ขัง ปอบ พวกนี้ไว้ก้ได้นะคะ เพราะพ่อบอกว่าเขาเอาไปขังในบ่อโบกปูนไว้ที่นั้นเป็นร้อยตัวสัก 50 กว่าปีได้แล้ว แถมลุง ๆ ก็เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยนั้นปอบเยอะจริงเพราะเวลาไปจีบสาวบ้านอื่นพวกลุงต้องเดินไปตามคันนา ถนน บ้าง มักจะเจอเหตุการณืประหลาดบ่อย ๆ เจอลิงตาแดง บ่างตาแดง แมว นั้งบนต้นไม้เยอะ ๆ แล้วเขย่าต้นไม้เวลาคนเดินผ่าน บางครั้งก็มองไม่เห็นตัว วิ่งหนีกันมาก็บ่อย ... ทุกคนในครอบครัวพ่อก้พุดกันแบบนี้ ...

    ... ส่วนตัวเราไม่เคยเห็นย่ากับปู่เลยเพราะย่าตายตอนพ่ออายุ 12 ขวบได้แล้วพ่อก้ออกจากบ้านไปอยู่ตามอู่ซ่อมรถและไม่กลับบ้าน ตอนฉัน 9 ขวบพ่อพาไปบ้านย่าแล้วเอารูปปู่กับย่ามาด้วย เราตกใจมากเพราะรูปย่าเหมือนกับผู้หญิงที่คอยมาช่วยเรา สอนเราทุกครั้งในฝัน ไม่ใช่แค่รั้งเดียวหลายครั้งมาก จนครั้งสุดท้ายยังจำได้ตอนที่พ่อแม่จะแยกทางกนแล้วเครียเรื่องบ้านไม่ได้ ย่ายังเดินไปปลุกเราที่ห้องลงมาเพื่อบอกให้พ่ออย่าขายบ้านเพราะพวกปู่ย่าจะไม่มีที่อยู่กัน เราเดินลงมาจากชั้นสองยังตกใจไม่เคยเห็นคนเยอะขนาดนี้ คนแก่ ๆ นั้งล้อมวงกันเป็นสิบคุยกันว่าจะเอาไงดี ย่าย้ำว่าให้บอกพ่ออย่าขายบ้านเพราะพวกย่าจะไม่มีที่อยู่ เราสดุ้งตื่นมาตอนแม่มาเรียกพอดี ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...