" ปอบ " คืออะไร ? อาถรรพ์ ความเชื่อ เรื่องผี!!

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย กาลีนะ, 27 เมษายน 2013.

  1. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... อันนี้หนูก็ไม่แน่ใจนะคะ .. แต่จากที่เคยถาม พระท่านที่มาไล่ปอบที่หมู่บ้าน ท่านบอกใช้กสิณไฟเผาพวกเขาแล้วก็ดับสูญไปเลย .. ... แต่ถ้าที่อื่นก็บอกว่าล้างอาถรรพ์ให้พวกเขาหลุดพ้นไปเกิดคะ .. ไม่แน่ใจในคำตอบคะ
     
  2. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .... วันนี้จะนำเอาประวัติศาสตร์พื้นบ้านของ กาลีนะ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ .. พอดีพี่มิงค์แกบอกว่าน่าสนใจเลยอยากให้ลองหาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังในแบบของ กาลีนะ คะ ..

    ... เนื่องด้วยว่าจังหวัดของ กาลีนะ อยู่ในแถบอีสานตอนบนติดกับอีสานตอนล่าง เป็นดินแดนโบราณที่มีการตั้งถิ่นฐานมานานเป็นพัน ๆ ปี หรือ อาจมีก่อนพุทธกาลด้วยซ้ำ .. บางทีก็เป็นที่รู้จักดี .. บางที่แทบไม่มีใครรู้จักเลย .. และ ยังมีความน่าสนใจอยู่มาก

    .." พุทธมณฑลอีสาน ถิ่นฐานอารยธรรม ผ้าไหมล้ำเลอค่า ตักศิลานคร " ...

    ..... โดยพื้นที่แถบนี้แต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรขอมโบราณ และ ส่งต่อมาสู่การปกครองของนครเวียงจันทร์ จนสุดท้ายได้ขึ้นเป็นของสยามประเทศในเวลาต่อมา แถบนี้เป็นชุมชนไม่ใหญ่มาก และ มีเส้นทางการคมนาคมทั้งทางบก และ ทางน้ำ .. โดยมีแม่น้ำสายหลักคือ แม่น้ำชี และ ยังคงมีความเชื่ออีกหลาย ๆ อย่างที่เล่าต่อ ๆ กันมาอีกมากมาย เอาไว้ กาลีนะ จะนำมาเล่าให้ฟังทั้งแบบเป็นวิชาการทางการ และ จากคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมา รวมทั้งประสบการณ์ที่เคยไปเยี่ยมชมมาเล่าให้ฟังนะคะ

    ... ทั้งนี้ ยังมีขอบเขตกินไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วยเนื่องด้วยพื้นที่การปกครองสมัยโบราณนั้นแตกต่างกัน .. อย่าสับสนนะคะ ..

    .... แต่มีความเชื่อหนึ่งที่ กาลีนะ เคยได้ยินเมื่อสมัยเป็นวัยรุ่นจากคนเฒ่าคนแก่บอกมาว่า ... " ถ้าใครที่เกิดเป็นคนสารคาม แสดงว่าครั้งหนึ่งในอดีตเขาเคยเกิดเป้นคนเมืองที่นี้มาแล้ว หรือ เกิดที่อื่นแต่ต้องมาอาศัยอยู่ที่นี้ และ ตายที่นี้ " .. อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเท็จจริงอย่างไรนะคะ .. แต่ส่วนตัวแล้วเชื่อคะเพราะอะไรเดี๋ยวจะบอกภายหลังแล้วกันนะคะ ... เป้นที่น่าแปลกอีกอย่างที่เจอกับตัวเองคะ .. คือ การประกอบอาชีพของคนที่นี้คะ ... เชื่อไหม๊คะว่าถ้าใครมาทำธุรกิจที่นี้ หรือ เปิดกิจการที่นี้ ถ้าเป้นกิจการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หรือ สถานศึกษา จะเจริญรุ่งเรืองดีคะ แต่ถ้าเกี่ยวกับอย่างอื่นก็แค่พออยู่ได้ หรือ ม้วนเสื่อกลับบ้านไปเลย .. ที่แน่ ๆ คือ อาชีพข้าราชการ และ ขายอาหาร ที่พัก สถานบันเทิงยามราตรี ฯ เหล่านี้ส่วนมากจะรุ่งและทำเงินได้มากจริง ๆ คะ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2015
  3. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. ประวัติพระพุทธมิ่งเมือง และ พระพุทธมงคลเมือง

    ... พระพุทธมิ่งเมือง (วัดสุวรรณาวาส) และพระพุทธมงคลเมือง (วัดพุทธมงคล) ทั้งสององค์ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เป็นปูชนียวัตถุที่ควรแก่การสักการบูชายิ่งทั้งสององค์นี้ ชาวบ้านมักนิยมเรียกกันว่า “หลวงพ่อพระยืน” เป็นหนึ่งใน 63 องค์ พระพุทธรูปที่ศักสิทธิ์ที่สุดในประเทศไทย

    ... พระพุทธรูปทั้งสององค์นี้เป็นปางสรงน้ำมีความสูงตลอดองค์ประมาณ 8 ศอก กว้าง 2 ศอก พระเนตร และ เนื้อองค์พระสร้างด้วยศิลาแลงอย่างดีเป็นพระพุทธรูปที่นิยมสร้างในสมัยขอม ก่อนยุคสุโขทัย หลวงพ่อพระยืนทั้งสององค์ผินพระพักตร์ไปทางทิศใต้ และ อยู่ห่างกันประมาณ 1.250 เมตร

    ... หลวงพ่อพระยืนทั้งสององค์เป็นปูชนียวัตถุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ตามตำนาน หรือประวัติที่หลักฐานยืนยันจากใบเสมาที่ฝังอยู่ใกล้องค์พระได้เขียนเป็นอักษรขอมว่า สร้างปี ฮวยสง่า พุทธศักราช 1399 ปัจจุบันอักษรที่ปรากฏอยู่ใบเสมาเลอะเลือนไปมากแล้ว

    ... ตามคำบอกเล่าสืบต่อกันมา เดิมทีดินแดนแถบนี้ขอมได้ครอบครองมาก่อน ต่อมาทางนครเวียงจันทร์ มีอำนาจเข้าครอบครองจากขอม มีเจ้าผู้ปกครองโดยอิสระเรียกว่า “เมืองกันทาง” หรือ “เมืองคันธาธิราช” ก่อนปีมะเส็ง จุลศักราช 147 (ปี พ.ศ. 1328) ผู้ครองเมืองคนสุดท้ายมีนามว่า “ท้าวลินจง”

    ... ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น “ หลวงบริเวณ ” มีภรรยาชื่อ “ บัวคำ ” ปกครองราษฎรหัวเมืองใหญ่น้อยทั้งหลายด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา หัวเมืองต่าง ๆ ส่งส่วยขึ้นต่อเมืองคันธาธิราช ที่หลวงบริเวณปกครองอยู่เป็นประจำ ท้าวลินจงมีบุตรชายคนเดียวชื่อว่า “ท้าวสิงห์โต” หรือ “ท้าวลินทอง” บุตรชายของท้าวลินจง เป็นผู้มีจิตใจโหดเหี้ยม หากท้าวลินจงจะให้บุตรเป็นผู้ปกครองเมืองแทนตน ก็เป็นการไม่เหมาะสมจะเป็นเหตุให้ราษฎรผู้อยู่ใต้ปกครองได้รับเดือดร้อน

    .... เนื่องจากขาดความเมตตา ความนี้ได้ทราบถึงท้าวลินทองผู้บุตรจึงมีความโกรธแค้นบิดาเป็นอย่างยิ่งจึงได้ตัดพ้อต่อว่าบิดาต่าง ๆ นา ๆ แล้วบังคับให้บิดาตั้งตนเป็นผู้ครองเมืองแทน ผู้เป็นบิดาไม่ยินยอมท้าวลินจงจึงถูกท้าวลินทองผู้เป็นบุตรจับขังทรมานด้วยการเฆี่ยนทุบตี ใช้มีดกรีดตามเนื้อตัว เพื่อบังคับให้บิดายกเมืองให้แก่ตน บิดาก็หาได้ยอมไม่ บิดาได้รับการทรมานต่อไปด้วยการขังในห้องมืด ห้ามข้าว ห้ามน้ำ มิให้ผู้ใดเข้าเยี่ยมเด็ดขาด นอกจากมารดาเพียงผู้เดียว

    .... แต่ห้ามมิให้นำเอาอาหาร และ น้ำเข้าไปให้บิดา มารดาได้ทัดทานอ้อนวอนอย่างใดท้าวลินทองก็หาได้ฟังไม่ ด้วยความรัก และ ความห่วงใยสามีนางจึงทำอุบายนำข้าวน้ำ โดยเอาผ้าสะใบเฉียง ชุบข้าวบดผสมน้ำนำไปเยี่ยมสามีได้ดูดกินประทังชีวิตไปวัน ๆ แต่หาได้พ้นสายตามของบุตรไม่ ท้าวลินทองจึงห้ามมารดาเข้าเยี่ยมอีกต่อไป

    .... ท้าวลินจงอดข้าว อดน้ำได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจนถึงแก่ความตายในที่สุดก่อนที่จะสิ้นลมปราณท้าวลินจงได้ตั้งจิตอธิษฐานกล่าวฝากเทพยดาผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมผู้สถิตอยู่ ณ พื้นธรณีนั้นว่า

    ..... “ ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าเพื่อหวังความสงบสุขของบ้านเมืองอันเป็นที่ตั้งอาศัยของข้าพเจ้า แต่เหตุการณ์ในชีวิตกลับมีการเป็นไปได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ขอให้เทพยดาฟ้าดินผู้ทรงไว้ซึ่งความยุติธรรมขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดในที่สุขเถิด และ ขอให้มนุษย์มีจิตใจโหดเหี้ยมดุร้าย ทารุณ ขาดคุณธรรม พูดจาโกหกหลอกหลวง ไม่สัตย์ซื่อนับแต่นี้ไปข้างหน้าจะเป็นผู้ใดก็ตาม หากเป็นเจ้าเมืองนี้แล้วขออย่าให้มีความสุขความเจริญเลย ขอให้ประสบแต่ความวิบัติ ความพินาศ ฉิบหาย ขอให้เกิดความเดือดร้อนหายนะต่าง ๆ นานาเถิด ”

    .... เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้วก็สิ้นลมหายใจเมื่อท้าวลินจงถึงแก่ความตายแล้วนางบัวคำผู้เป็นมารดาจึงได้ต่อว่าท้าวลินทองผู้บุตรว่าทรมานบิดาของตนถึงแก่ความตาย ท้าวลินทองไม่พอใจเกิดโทษะจริตกอปรด้วยโมหะจริตจึงฆ่ามารดาของตนอีกคนหนึ่ง เมื่อท้าวลินจง กับ นางบัวคำตายแล้วท้าวลินทองจึงได้ปกครองเมืองคันธาธิราชสืบมา

    ..... นับแต่ท้าวลินทองปกครองเมืองคันธาธิราช เป็นต้นมา บ้านเมืองมีแต่ความระส่ำระสายไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ได้รับแต่ความเดือดร้อน ท้าวลินทองเองก็รู้สึกไม่สบายกายใจไม่เป็นอันกินอันนอน ทั้งที่มีทรัพย์มากมายก่ายกอง จึงหาโหรมาทำนายทายทัก โหรทำนายว่าท้าวลินทองได้ทำบาปกรรมมหันตโทษผลกรรมจึงทำให้เดือดร้อนเป็นผลมาจากการอธิษฐานจิตอันแน่วแน่ของบิดาที่ได้สาปแช่งเอาไว้ก่อนที่จะสิ้นลมหายใจกอปรกับมาตุฆาตฆ่ามารดาตนเอง

    .... ทั้งนี้ การจะล้างบาปกรรมได้ก็โดยการสร้างพระพุทรูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลผลบุญเพื่อทดแทนพระคุณบิดา และ มารดาพระพุทธรูปองค์หนึ่งสร้างอุทิศเพื่อทดแทนพระคุณมารดาสร้างที่นอกเขตกำแพงเมืองทางทิศอุดร ผินพระพักตร์ไปเบื้องทักษิณทิศ คือ พระพุทธมิ่งเมือง ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดสุวรรณาวาส (ปัจจุบัน) อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม

    .... เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้สร้างพระพุทธรูปยืนขึ้นอีกองค์หนึ่งเพื่อทดแทนพระคุณบิดาโดยสร้างขึ้นในกำแพงเมืองผินพระพักตร์ไปเบื้องทักษิณทิศ คือ พระพุทธมงคลเมืองที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดพุทธมงคล (ปัจจุบัน) อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม เมื่อท้าวลินทองได้สร้างพระพุทธรูปทั้งสององค์เสร็จแล้ว ความเดือดร้อนกระวนกระวายใจก็มิได้เบาบางลง ท้าวลินทองก็ได้ล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน

    .... พอดีมีโหรมาจากเมืองพิมายเดินทางผ่านมา และ ขอเข้าพบและทำนายดวงชะตาชีวิตของท้าวลินทอง โหรได้ทำนายว่าท้าวลินทองจะตายภายใน เร็ววัน ท้าวลินทองได้ยินถึงกับบันดาลโทสะสั่งประหารชีวิตโหรทันที แต่พวกข้าราชการที่ปรึกษาได้ขอชีวิตโหรไว้

    ..... โหรจึงทำนายไปว่าหากท้าวลินทองสร้างพระพุทธรูปปางพุทธไสยาสน์ด้วยทองคำหนักเท่าตัวขึ้นอีกองค์หนึ่ง ความทุกข์ร้อนที่มีอยู่จะบรรเทาเบาบางลง ท้าวลินทองก็ได้สร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์ด้วยทองคำตามคำทำนายของโหรขึ้น แล้วจึงสร้างพระอุโบสถขึ้นครอบองค์พระไว้

    .... แต่ด้วยบาปกรรมของท้าวลินทองเป็นมหันตโทษ คือ มาตุฆาต ปิตุฆาต จึงไม่สามารถสร้างให้สำเร็จได้ ท้าวลินทองก็ได้ถึงแก่ความตาย แต่ก่อนที่จะสิ้นลมหายใจท้าวลินทองก็ได้อธิษฐานว่า

    ... “ พระพุทธรูปทองคำอย่าให้คนพบเห็นเป็นขาด หากผู้ใดมีเคราะห์กรรมได้พบเห็นขอให้ผู้นั้นล้มป่วยพินาศฉิบหาย และ ให้ถึงแก่ความตาย ”

    .... ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีผู้ใดกล้ำกลายเขตพระอุโบสถ (พระพุทธรูปทองคำ) นั้นเลย

    กาลล่วงเลยมานานจนเกิดเป็นป่าร้างต้นไม้ปกคลุมหนาทึบ พระพุทธรูปทองคำจึงไม่มีใครพบเห็น ถ้าผู้ใดชะตากรรมถึงฆาตพบเห็นก็จะเกิดอาเพศป่วยไข้ถึงแก่ความตายความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าลือ ตราบเท่าทุกวันนี้ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าว คณะสงฆ์อำเภอกันทรวิชัย ได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นสำนักปฏิบัติธรรมและตั้งชื่อว่าวัดพระพุทธไสยาสน์ (หรือวัดดอนพระนอน อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม)

    .... ทั้งนี้ เพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธรูปทองคำหรือพระพุทธไสยาสน์ หลักฐานที่ปรากฏชัดเจน คือ การศึกษาจากใบเสมาที่ปรากฏในสถานที่ดังกล่าว

    ..... และ ด้วยเหตุนี้เอง กาลีนะ จึงได้ไอเดียในการสร้างเกราะคุ้มกันตนเองขึ้นมา และ เมื่อเกิดปัญหาอะไรที่ไม่เข้าใจ เดือดร้อน กาลีนะ ก็จะไปที่นี้คะ พวกเราเรียกท่านว่า " พ่อใหญ่ " หรือ " หลวงพ่อใหญ่ " พระผู้มีคนนับถือทั่วแคว้นแถบนี้ว่าท่าน คือ พระผู้สามารถล้างคำสาป


    ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก


    http://www.gotoknow.org/blogs/posts/372590
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2015
  4. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... หลังจากที่รับรู้แนววิชาการกันไปแล้ว คราวนี้มาฟังแบบชาวบ้านพุดกันบ้างนะคะ ..

    .... ตัว กาลีนะ ได้รู้จักกับวัดนี้เมื่อสมัยมัธยมต้น สมัยนั้นนั้งรถเมล์ผ่านแม่จะสะกิดให้ยกมือไหว้ เราเองก็ไม่รู้ว่าให้ไหว้อะไรนับย้อยไปก็เกือบ 20 ปี .. เพราะมันไม่มีโบถ์ ไม่มีหลังคา มีเพียงต้นโพธิ์ขนาดใหญ่มากต้นหนึ่ง .. มีพระพุทธรูปยืนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ท่าเหมือนถืออะไรในมือ ภายหลังถึงรู้ว่าเรียกว่า " ปางสรงน้ำ " แต่น่าแปลกคือพระมีแค่ถึงหัวเข่าเท่านั้นส่วนที่เหลือยังจมอยุ่ในดินอยุ่เลย .. มีศาลาเก่า ๆ อยู่ใกล้ ๆ และ มีเหมือนศาลเพียงตาอะไรสักอย่าง ( เหมือนศาลปู่ย่าขนาดใหญ่ ) ขนาดเมตรตรึ่ง คูณเมตรตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระพุทธรูปมากนัก .. ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้วคะเขารื้อไปแล้ว .. แต่เราเคยเข้าไปไหว้พระยืนองค์นี้ เราแปลกใจมากคะ รู้ไหม๊คะว่าทำไม .. เพราะนอกจากองค์พระจะอยู่ในดินเยอะแล้ว .. ตรงศาลคล้ายศาลเพียงตานั้นยังมีพวก พระเก่า ๆ เหรียญพระโบราณทั้งแบบที่ยังสมบูรณื และ แตกหักวางอยู่เต็มศาลา ... น่าแปลกไม่มีใครกล้ามาขโมยเลยคะทั้งที่เป็นของเก่าโบราณ ... เราเลยลองหาข้อมูลจากคำบอกเล่าของคนแถวนั้น และ จากแม่เราญาติเราเองได้ความว่า ..

    ... ที่นี้เป็นเมืองเก่าสมัยขอมโบราณ หรือ นานกว่านั้นเป็นพัน ๆ ปีแล้วเมืองก็ล่มสลายไปเพราะคำสาปเจ้าเมืองที่ถูกลูกตัวเองฆ่าจนตายเพราะความโลภอยากครองเมืองนั้นเอง ...

    ... มีเจ้าเมืองนามว่าท้าวลินจง มีเมียชื่อนางบัวคำ ครองเมืองคันธาร์เมืองมีความสงบสุขนทองรุ่งเรืองดี แต่เจ้าเมืองมีลูกชายหนึ่งคนภายหลังได้นามว่า เจ้าลินทอง .. ลูกชายคนเดียวคนนี้มีนิสัยไม่ดี เกเร นักเลงทุกอย่าง เจ้าสำราญ สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว พ่อแม่ระอาใจมาก ไม่มีใครชอบเขาเลย .. ด้วยความที่เขารอให้พ่อสละบัลลังค์ให้นานมากจนเขารอไม่ไหวเขาเลยคิดแผนครองเมืองขึ้น .. โดยการจับพ่อของตัวเองไปขังในคุกมืด ปล่อยให้อดอาหาร และ ทรมานร่างกายเพื่อให้ยอมยกเมืองให้ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะท้าวลินจงแกใจแข็งมาก และ คิดว่าลูกชายตัวเองไม่เหมาะสมจะได้ครองเมือง นางบัวคำได้รับอนุญาติให้เข้าเยี่ยมสามีได้ ในทุก ๆ วันนางจะมานั้งร้องไห้อยู่หน้ากรงขังสามีอย่างน่าสงสาร .. จนในที่สุดก็ถูกสั่งห้ามเยี่ยมทำให้นางบัวคำเสียใจมากอ้อนวอนลุกชายอย่างไรก็ไร้ผล .. พอท้าวลินจงตายนางบัวคำก็ตรอมใจตายตามสามีตัวเองไป ..

    .... ก่อนตายท้าวลินจงได้ให้ " คำสาปแช่ง ให้เมืองพังพินาศหากมีเจ้าเมืองที่ไม่ดี " พอท้าวลินจงตายก็เกิด " กลียุค " บ้านเมืองระส่ำระส่ายทั้ง โรคระบาด ความแห้งแล้ง โจรขโมย ข้าวยากหมากแพง .. จนชาวเมืองต่างอพยพหนีตายจนเมืองเกือบร้าง .. โชคร้ายที่ท้าวลินทองก็ป่วยด้วยโรคระบาดนั้นด้วย .. และมีโหรแนะนำให้ท้าวลินทองสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาสามองค์เพื่อล้างคำสาปนี้ ...

    .. พระสององค์แรกเป็นพระยืนถูกสร้างขึ้นสำเร็จแต่ไว้คนละที่ คือ ในเมืองกับนอกเมืองเป็นพระแบบศิลปขอมสมัยนั้น ส่วนพระองค์ที่สามเป็นพระนอนที่สร้างด้วยทองคำทั้งองค์ .. แต่ก็นั้นแหละคะกรรมฆ่าพ่อแม่ตัวเองก็สนองท้าวลินทองเขาต้องตายก่อนพระจะสร้างเสร็จ .. ด้วยความที่เป็นคน โลภมาก หวงสมบัติจึงได้สาปแช่งไว้ว่าถ้าใครได้พบเจอพระนอนทองคำนี้คนนั้นต้องพบความวิบัติ และ ตายทุกคน ... และหลังจากนั้นเมืองนี้ก็กลายเป็นเมืองร้างไม่มีผู้คนมาอาศัยอยู่ ต่างอพยพมาอยู่ในแถบใกล้แม่น้ำชีกัน หรือ แถว ๆ ที่บ้าน กาลีนะ อยู่นี้แหละคะ เพราะยังมีเมืองท่าอีกเมืองหนึ่งอยู่เกิดสมัยไหนไม่ทราบได้ สมัยก่อนเรียกอะไรไม่ทราบแต่ปัจจุบันชื่อ " บ้านท่าขอนยาง " ชนพื้นเมืองที่นี้จะเป้นพวกภูไท มีภาษาถิ่นของตนเอง และ เป็นเมืองท่ามาตั้งแต่สมัยโบราณแต่ไม่ใหญ่เท่าเมืองคันธาร์ เอาไว้หาข้อมุลได้ก่อนจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

    ..... นี้เป็นการบอกเล่าแบบชาวบ้านแถบนี้คะ ซึ่งจะมีแต่คนสมัยเก่า ๆ ที่จำได้รุ่นหลัง ๆ จะไม่ค่อยใส่ใจนัก รู้แค่ว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณเท่านั้น ..

    ... หลังจากพุทธศตวรรษที่ 13 ผ่านมาจนถึง ร.5 จึงได้มีการตั้งบ้านเมืองขึ้นใหม่ใช้ชื่อว่า กันทรวิชัย .. ซึ่งถ้าถามว่าเวลามาอำเภอนี้แล้วรุ้สึกยังไง .. มันยังคงความอึมครึมอยู่เยอะคะ บ้านเมืองก็ไม่เจริญยังคงเป็นอำเภอเล็ก ๆ เหมือนยี่สิบกว่าปีที่แล้วแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย ..

    ... วัดพระยืนสมัยก่อนคนเฒ่าคนแก่เล่าว่าบริเวณนี้เป็นเพียงกองดินเท่านั้น บางคนก็บอกว่าเป้นซากโบถ๋เก่า ๆ ที่สร้างสมัยไหนไม่ทราบแต่ปรักหักพังทรุดโทรมมาก และ ได้บังเกิดมีต้นโพธิ์ขึ้นใจกลางโบถ์ และ มันก้โตขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับองค์พระยืนที่ค่อย ๆ ผุดขึ้นจากดินพร้อมกับการเติบโตของต้นโพธิ์นี้ ... จนปัจจุบันพระยืนได้โผล่ขึ้นจนเกือบเต็มองค์แล้ว และ จากการคาดคะเนต้นโพธิ์นี้น่าจะอายุเกินร้อยปีแน่นอนคะ .. เมื่อมีองค์พระโผล่ขึ้นมา .. ชาวบ้านนักล่าสมบัติก็มีการค้นหา " สมบัติกรุพระ " และ ก้เจอจริง ๆ คะ ของโบราณมากมายถุกค้นพบและนำออกไปจากที่นี้ .. แต่สุดท้ายชาวบ้านก็นำมาคืนให้วัด ... ด้วยว่า " มีเจ้าของเขาไปตามเอาของคืน " ชาวบ้านเลยกลัวแล้วนำมาคืนเสียส่วนมากจนทางวัดต้องสร้างศาลไว้ให้คนเอาของมาคืน .. เพราะบางคนอาจไม่กล้าแสดงตนก็จะนำมาคืนให้เวลากลางคืน .. บางคนก็มีอันเป็นไปหลายคน .. นอนตายเฉย ๆ บ้าง ตกเรือนคอหักตายบ้าง ฯ ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า " ของเหล่านี้มีอาถรรพ์ " ต่างหวาดกลัว และ นำมาคืน .. ซึ่งสมัยนั้น กาลีนะ ก็มีโอกาศได้เห็นของเหล่านี้เช่นกันคะ .. และ อยากบอกว่าสมัยนั้นสถานที่นี้น่ากลัวมากคะ เพราะยังไม่ค่อยมีการพัฒนาสักเท่าไหร่ ยังขาดการดูแลเยอะ ..

    ... ช่วงสมัยที่ "หลวงปู่ขาว ปัญญาวุฑโฒ" หรือ "พระครูปัญญาวุฒิวิชัย" อดีต เจ้าอาวาสวัดพุทธมงคล ต.คันธารราษฎร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม และอดีตเจ้าคณะอำเภอกันทรวิชัย พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองสารคาม เป็นศิษย์สืบสายธรรมพระครูวิชัยกันทรารักษ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ก้เริ่มเจริญขึ้นด้วยมักมีคนแวะเวียนมาพึ่งบารมีท่านอยู่เรื่อย ๆ แต่ท่านไม่เน้นสร้างวัตถุมงคลเท่าไหร่ .. แต่เป้นที่รู้กันในแถบนี้ว่า .. " บ้านไหนออกรถใหม่ต้องเอามาให้หลวงปู่ขาวเจิมถึงจะดี " ซึ่งรถคันเก่าของ กาลีนะ ก้ได้ท่านนี้แหละคะเจิมให้ .. เจอดีมาเหมือนกันเพราะมีคนลองของ .. แต่รถคันนี้ก็ช่วยชีวิต กาลีนะ ไว้เยอะนะคะ คู่ทุกข์คู่ยากเลยก็ว่าได้ .. ถึงไหนถึงกันค่ำมืดแค่ไหน .. หลวงปู่ขาวอาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคชรา สุดท้ายได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2553 สิริอายุ 87 พรรษา 67 กำหนดวันพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 31 มกราคม 2554 ... ซึ่งได้มีการสร้างเหรียญของท่านขึ้นมา กาลีนะ ก้ได้มาสองรึสามอันไม่แน่ใจ .. เพราะไปทำโรงทานในวันพระราชทานเพลิงศพท่านด้วย ... และ เคยได้กราบท่านครั้งยังมีชีวิตด้วย แถมเคยไปกราบสังขารท่านก่อนเผา ก็สัมผัสได้ถึงความเย็นแบบมีเมตตาของท่าน .. ท่านเป็นพระที่น่ากราบไหว้จริง ๆ สมกับที่ได้เป็นผู้มาดูแลรักษาวัดนี้ ..

    ... ทุกวันนี้วัดนี้ก็ได้เป็นที่รู้จักไปทั่ว และ มีคนมากราบไหว้สม่ำเสมอไม่ขาด ทั้งมาไหว้พระ มาถวายสังฆทาน ปล่อยนก ปล่อยปลา บนบาน เสี่ยงทาย ฯ เรียกว่าหัวกระไดไม่แห้งเลยคะ .. กาลีนะ เองก็จะไปทุกอาทิตย์เพราะใกล้บ้าน และ เคยมีคนแนะนำว่า คนอย่าง กาลีนะ มาไหว้พระองค์นี้นั้นถุกต้องแล้วเข้าทางกัน ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มีนาคม 2015
  5. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ตอนนี้มีข่าวว่า ปอบอาละวาด ... ในหมู่บ้านอีกแล้วคะ .. เดี๋ยวรายงาน ..
     
  6. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    กลับมารายงานสดคะ ... 555

    ... เรื่องแรกเมื่อสักปลายเดือนที่แล้วได้มีการอาละวาดของ ปอบ ภายในหมุ่บ้าน กาลีนะ อีกแล้วคะ .. เรื่องมีอยู่ว่า มีครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านได้ว่าจ้างผู้รับเหมามาถมที่ของตนภายในหมู่บ้าน .. แล้วพวกเขาก็ได้ไปเที่ยวงานบุญในหมู่บ้านใกล ๆ กัน พอกลับมาทำงานต่อในวันถัดมา .. เมียเจ้าที่ก็ออกอาการ " ผีเข้า " ซึ่งถือว่าแรงมาก แล้วทุกคนก็มั่นใจว่าเมียเจ้าของที่ " โดนปอบเข้าแน่ ๆ " ได้มีการทดลองแก้ไขหลายวิธี ทั้งเอาพระมาแขวนคอเป็นพวง ๆ กลับถุกตอกหน้ากลับมาว่า " ที่ห้องพระกูพระเยอะกว่านี้อีก " น่าเอากับมันสิ ...

    ... สุดท้ายเลยต้องไปนิมนต์พระจากวัดที่เคยมาทำพิธีไล่ปอบครั้งที่แล้วมาช่วยไล่ให้ .. ท่านก็ไล่มันไปเรื่อย ๆ ให้ออก .. จนมันหนีไปอยู่ตรงที่ " พระไม่สามารถล่วงละเมิดได้ " เลยต้องให้โยมผู้ชายมาช่วย .. แล้วเรื่องที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น ... ยายคนที่ปอบเข้าแกดันทะลึ่งเอามือ " กำกล่องดวงใจ " ของโยมที่มาช่วยพระไล่ปอบ แถมบอกว่าอยากร่วมหลับนอนกับพระที่มาไล่ด้วย .. แต่สุดท้ายก็จนมุม ... ยายแกเลยรอดจากการถูกคุกคามของปอบ

    เล่าโดย น้องส้มโอ และ ยายมวล คนในบ้านดินดำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2015
  7. Empire triumph

    Empire triumph Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +30
  8. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ที่ไม่เล่าเรื่องปอบต่อนี้ไม่ใช่มันหมดไปจากหมู่บ้านแล้วนะคะ .. ยังมีคะ แต่ไม่รู้จะเล่าอันไหนก่อนดีเยอะไปหมด .. เลยพักดีกว่าเพราะร่างกายอยู่ในช่วงฟื้นตัวด้วยคะ เล่าเรื่องอื่นดีกว่าเนอะ ..
     
  9. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    เรื่องนี้ขอใช้ชื่อว่า .. ปู่สัตตบรรณ ..

    ... เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของหมูบ้านของ กาลีนะ เองคะ บางคนคงพอทราบบ้างแล้วว่าหมู่บ้านนี้มันช่างดูมี " อาถรรพ์ปอบ " เสียเหลือเกินมันจะมีอะไรได้บ่อยขนาดนี้ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปอบนะคะแต่เป็นเรื่องราวลึกลับของหมู่บ้าน กาลีนะ ที่คนแก่บางคนก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นมายังไง ..แม้แต่ตัว กาลีนะ เองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่แต่จะพยายามเรียบเรียงให้ฟังแล้วกันนะคะ เผื่อจะมีผู้ทรงคุณท่านใดแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ดี .. พิจารณาจากรูปที่ถ่ายเอาแล้วกันนะคะ รึใครถอดจิตได้ก็ลองไปคุยกะท่านดูคะว่าท่านจะเอาไง ... เห้อ ๆ แบบว่าดุมากคะ ..

    ... หลายคนคงเคยเจอข่าวแถวภาคอีสานที่พระถูกไฟช็อตตาย เพราะขึงลวดดักสัตว์ที่จะมากัดต้นไม้ที่ท่านปลูกไว้แล้วนะคะ ด้วยเหตุการณ์นั้นทำให้หลาย ๆ คนในหมู่บ้านเกิดความไม่สบายใจว่าทำไมในหมู่บ้านจึงเกิดแต่เหตุร้าย ๆ แบบนี้บ่อย ๆ แถมผีที่วัดก็ดุใช้ได้โดยเฉพาะบนศาลาหลังเก่าวันดีคืนดีก็จะมาหยอกเล่นกับพระมาใหม่ รึ ทำเสียงพื้นดังบ้างเป็นที่รู้กันจนชินของพระที่นี้ ชาวบ้านด้วยถือว่าเป็นเหตุอาเภทจึงได้มีการเชิญพระมาลองทำพิธีเพื่อสอบถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดโดยการผ่านร่างคนเพื่อสอบถาม ก็ลองใช้หลายคนแต่ไม่ได้แล้วสุดท้ายก็มาจบที่ยายของ กาลีนะ ที่ท่านยอมมาประทับทรง .. พระที่มาทำพิธีให้จึงได้สอบถามว่าผู้ที่มานั้นเป้นใครชื่ออะไร .. ก็ได้คำตอบว่า " กูชื่อปู่สัตตบรรณ กูอยู่ที่นี้มานานกว่าพวกมึงอีก กูอยู่ของกูดี ๆ พวกมึงก็มาทำส้วมใส่หัวกู ไล่ที่กูยังไม่พอทำแบบนี้กูไม่ยอม พวกมึงจะต้องเดือดร้อนจะมีคนตายอีก " นั้นคือที่แม่ของ กาลีนะ เล่าให้ฟัง .. แกบอกว่าน่ากลัวมาก แถมแม่แกก็บ่นว่าคนอื่นไม่เข้ามาเข้าแม่แกได้ยายแกแก่แล้วแปดสิบกว่าแต่แข็งแรงมากเดินเหิรสบายใครเห็นนึกว่าหกสิบกว่า ๆ แม่เล่าอีกว่า พระที่มาท่านก็ขอให้เลิกแล้วต่อกันแต่ไม่สำเร็จคะแกไม่ยอมท่าเดียวแกโกรธมาก ๆ

    ... และเท่าที่ กาลีนะ มาที่นี้ครั้งแรกตั้งแต่เก้าขวบจำได้ว่าศาลไม่ได้ตั้งอยู่ตรงนี้คะ อยู่ตรงที่เป็นส้วมนั้นแหละคะ พอดีมีคนในหมุ่บ้านมีเงินอยากสร้างส้วมไว้หลังศาลาหลังใหม่ที่เห็นก็เลยทำพิธีย้ายศาลที่มีมาพร้อมตั้งแต่ตั้งหมุ่บ้านนี้ก็ปาไปร้อยกว่าปี ( ได้ก่อตั้งหมู่บ้านขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2444 แต่ความจริงมีมาก่อนหน้านี้อีกคะเพราะยายทวดที่เสียไปแกก็เคยบอกไว้ว่าเกิดมาก็มีหมู่บ้านแล้วเพียงแค่อยู่กันไม่กี่หลังถ้าแกอยู่ตอนนี้ก็ร้อยสิบกว่าปีได้ คนที่ตั้งหมู่บ้านเริ่มแรกก็มีพ่อของปู่ทวด กาลีนะ ด้วย กาลีนะ ถือเป็นรุ่นที่ห้า ) แหละมาไว้ตรงใต้ต้นโพธิ์ที่เห็นนี้แหละคะ แล้วก็สร้างห้องน้ำทับลงไป พอมีคนรวยมากขึ้นจากการขายที่ก็มีการสร้างกุฏิทรงไทยเล็ก ๆ อีกสามหลังซึ่งพระต้องมาใช้ห้องน้ำตรงนี้คะ .. ปัจจุบันไม่มีใครกล้ามาใช้สักเท่าไหร่ .. กลัวคะ .. และ ก็น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุอาเภทหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้าน หรือ ที่เรียกว่า " ผีบ้านไม่คุ้ม " เพราะการไปสร้างส้วมทับที่แบบนี้ถือเป็นการลบหลู่อย่างมากคนโบราณจะถือเรื่องศักดิ์ศรีอยู่ด้วย .. ทุกวันนี้ห้องน้ำนี้ก็ปล่อยทิ้งไว้คะ พระที่จะมาจำพรรษาก็มีน้อยแถมอยู่ไม่ค่อยทนบ้างก็โดนขับออกจากหมู่บ้านก็มีเปลี่ยนหน้าเรื่อย ๆ

    ... พอฟังแบบนี้แล้วยิ่งให้นึกถึงเรื่องที่แม่เล่าว่าสมัยก่อนตายังไม่เป็นผู้ใหญ่บ้านแต่ตาทวดแกเป็นอยู่ ตากับยายแม่ และ น้า ๆ ยังยากจนอยู่ตามาสร้างบ้านอยู่ข้างวัดด้านหลังโรงเรียนที่ติดกับวัดนี้ ด้วยตาต้องดำน้ำลงไปเพื่อเอาหินใต้น้ำขึ้นมาขาย จับปลา งมหอย ทำสวน สาระพัดเพื่อเลี้ยงลูกหกคน แล้วถ้าตอนนี้บ้านยังอยู่ตรงนั้น .. กาลีนะ คงหัวใจวายตายไปตั้งแต่เด็กแน่ ๆ เพราะบรรยากาศแถวนั้นนี้ชวนขนลุกพิลึก .. ทุกวันนี้กลายเป้นที่รกร้างไปแล้ว

    .. ตาแกเป็นนักดำน้ำที่ถือว่าหาตัวจับได้ยากในแถบนี้คะ คือแถวหมู่บ้านนี้แกกวาดมาเรียบแม้แต่ท่าช้างที่เขาลือว่ามีถ้ำจรเข้อยุ่แกก็เคยมุดไปมาแล้ว ที่วังดินดำ หรือ ท่าช้างนี้ก็มีเรื่องเล่าเหมือนกันวันหลังจะเอามาเล่านะ .. อดใจไว้ก่อนนะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ยอดมากลงรูปไม่ขึ้นงานจะงอกไหมเรา เห้อ ๆ หนูแค่อยากเล่าให้คนฟังเผื่อมีคนช่วยได้ อย่าว่าหนูนะ .. หลบแป๊บคอมรวนเลยหาเรื่องอีกรึเปล่านะเรา
     
  11. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    .. วันนี้ กาลีนะ ได้เดินทางไปรักษาตัวกับหมอเสน่ห์ที่ป๋านบภาการณ์แนะนำไว้เป้นครั้งที่สอง โรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ได้ดีขึ้นมากยิ่งกว่ากินยาหมอแผนปัจจุบันอีกคะ เพราะแม้แต่แขนที่หักเป็นปากฉลามทับเกยกันตรงไหปลาร้าจนไม่สามารถใช้ไงานได้ปกติตอนนี้สามารถใช้งานได้แทบเหมือนมันไม่ได้หักเลย .. แถมได้ตัดกรรมอีกด้วย โชคดีจริง ๆ

    .. และที่ กาลีนะ ถือว่าโชคดีมาก ๆ คือ " วันนี้ได้เจอป๋านบเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามปี " ทั้งที่อยุ่จังหวัดใกล้กัน .. เลยได้โชคหลายชั้นมากคะทั้งความรู้ แก้ข้อสงสัย และ ความคุ้มครอง ฯ เยอะมากคะ .. แต่ก็ยังเกร็ง ๆ อยู่มากทำตัวไม่ถูก 5555 หลังจากเป็นแฟนคลับมานาน .. ที่สำคัญเพิ่งได้รู้ว่าบางอย่างที่เราคิดว่ามันเป็นการมโนไปเองของเราเขาเรียกว่าทิพยจักขุแบบหนึ่ง ... สิ่งที่เราเข้าใจมาทั้งหมดต้องลบทิ้งไปและเริ่มจัดระบบใหม่เยอะเลยต้องพัฒนามันให้ชัดเจนกว่านี้ เข้าใจมาตลอดว่าเราจะต้องมองเห้นได้แบบตาเนื้อปกติถึงจะเรียกว่าใช้ได้ .. โง่มาตลอดหลงทางแบบตาบอดจริง ๆ ป๋านบแกเลยสอนวิธีจับพลังพระแต่เราทำได้ยังไม่ดีมากเท่าไหร่

    .. ช่วงนี้จึงอยุ่ในการพักฟื้นร่างกายให้เป้นปกติ และ อีกไม่นานก็จะสามารถกลับมานั้งสมาธิแบบที่ไม่ต้องปวดหลังทรมานอีกต่อไป .. และ โรคอีกหลายโรคในตัวคงจะดีขึ้นพร้อมทั้งกรรมที่เบาบางลงไปอีกมากโข พ่วงด้วยความรู้ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกมากมายคะ

    ... กราบขอบพระคุณพันธมิตรทุกท่านมา ณ ที่ด้วย .. ใจอยากกราบแทบเท้ามากกว่าแต่กลัวจะหาว่าเวอร์ไป .. ต่อไปคงมีพลังเพิ่มมากขึ้นพอที่จะหาเรื่องมาเล่าให้ทุกคนฟังนะคะ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เสียดายกำลังสมาธิสะสมยังไม่เพียงพอที่จะรับ
    พลังงานกสิณได้เลยเรียกขึ้นให้สัมผัสได้แค่กองเดียว.๕๕๕
    ..แต่พลังงานภายนอกพวกร้อนและเย็น
    เหมือนๆว่าจะพอจะได้อยู่...เห็นนับถือทางพระแม่ที่เด่น
    ทางกสิณไฟ ..ก็เลยพาทำเล็กน้อยดันมีอาการซะเนี่ย..
    แต่ไม่ใช่ปัญหา..สะสมกำลังสมาธิอีกซักพัก..
    เพื่อให้มีภูมิต้านทานพลังงานภายนอกที่ไม่ดีต่างๆได้
    และถ้าจับดึงและถ่ายพวกพลังงานภายนอกได้แล้ว..
    ต่อไปการเรียกพลังงานกสิณกองต่างๆและการนำ
    ไปใช้งานจะไม่ใช่เรื่องยาก..แต่พลังงานกสิณครั้งแรก
    ต้องมีคนดึงให้นะไม่ใช่ไปดึงเองเน้อ.เด่วมันจิเป็น
    แค่พลังงานลมเฉยๆ ๕๕๕.
     
  13. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เปลี่ยนรูปแบบของภาคทิพย์
    เขตพลังงานมิติที่ ๔ ครับ
    ส่วนเรื่องพลังงานเหมือนเดิม แต่ได้เรื่องของการ
    อยู่ด้วยกันอย่างแยบยลขึ้นระหว่างมิติที่ ๓ แบบมนุษย์
    กับส่วนภาคทิพย์มิติที่ ๔ ที่ดีขึ้นครับ
     
  15. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ภาษาหนูจะบอกว่ามันอยู่ที่ว่าเขายัดอะไรใส่มาในตุ๊กตาพวกนี้คะ .. ซึ่งคนธรรมดามิอาจรู้ได้ แล้วแต่ใครจะดวงดีได้ของจริง รึ ดวงซวยแบบเพื่อนเก่าหนูที่เขาเอาดวงจิตกระสือ กับ เสือสมิงยัดใส่มาให้แล้วบอกว่าเป็นพระพิฆเนศวร .. จนมันเดี้ยงเกือบตายอยู่ทุกวันนี้ดวงจิตก็ถูกครอบงำด้วยพวกอสูรย์ ปีศาจ .. พูดแล้วนึกภาพตอนเอาพวกมันไปปล่อยวัดเลย เห้อ ๆ

    ... ส่วนชื่อที่ดูเท่ห์สะดุดตามันก้เป็นเพียงแค่ " การตลาด " อย่างหนึ่งเท่านั้น การพกกุมารทองแบบสมัยเก่ามันยากไงคนจะมองว่างมงาย แต่ถ้าเอาตุ๊กตาสวย ๆ น่่ารัก ๆ มาทำ .. มันเจาะตลาดได้กว้างกว่าคะ .. เรตติ้งดีกว่าแบบเดิม .. ส่วนข้างในจะเทพ รึ ปีศาจ ก็ดูกันยากคะ ... คนเราไม่ได้มีทิพยจักรขุทุกคนนะคะ ... เพราะฉะนั้นคนที่มีปัญญาจะพิจารณาได้เองคะว่ามันถูกต้องสมควรรึเปล่า .. ถ้าเอากุมารใส่มามันก็อาจจะพอเชื่อได้ .. แต่บางตำหนักนี้บอกว่าเอาเทพ เอามหาเทพ ยัดใส่ในตุ๊กตาแบ๊ว ๆ มาให้คนอื่นบูชา .. มันไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง .. พาลจะโดนข้อหา " หมิ่นเกียรติ ลบหลู่ " อีกกระทง โดยเฉพาะเจ้าแขกเขาถือเรื่องศักศรีดิ์มาก ...

    .... สังคมทุกวันนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน .. อันตรายรอบด้านจริง ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2015
  16. Kalina

    Kalina เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +4,042
    ... ไม่เถียงดีกว่า คริ ๆ แต่ก็ป๋าให้จับสังเกตเนาะ หนูก็พยายามสังเกตว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง .. แต่ถามว่าทนได้ไหม๊ ... ทนได้คะ คริ ๆ หนูแค่สับสนกับบทเรียนคะ 5555 ไปน้ำขุ่น ๆ เลย .ตอนนี้กะว่าปลดกรรมออกไปให้เบากว่านี้ก่อนคะ เพราะถ้ากรรมมันยังหนาหนักอยู่ฝึกไปก็ยากคะ แต่หนูเรียนรู้เร็วนะคะ คราวหน้ากะว่าจะให้คุณหมอนวดหัวให้สมองเปิดเผื่อจะฉลาดสมองไวกว่านี้ .. เห็นแกบอกว่าแกทำได้แต่ต้องดูอายุ ของหนูนี้ไม่รู้เกินรึยัง 5555
     
  17. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    เห็นด้วยครับ เราประพฤติดีกับคนอื่น แต่ไม่รู้ ว่าคนอื่นจะประพฤติดีกับเราหรือเปล่า ?
     
  18. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    เมื่อคืนคุยกับพายุ..นู๋พายุ บอกว่า มันดูน่ากลัวอ่ะ...เกิดกลางคืนตุ๊กตาลุกขึ้นเดินได้ หรือ กระพริบตา หัวเราะได้เอง มันก็น่ากลัวอยู่นะ...แต่ถ้าทุกวันที่ 15/30 ตะโกนให้หวยล่ะก็...อันนี้ก็น่าคิดนา..า...

    ผมเลยเสนอให้ใช้ ตุ๊กตาโดเรม่อน เอามาทำแทน...จะทำให้ดูน่ารัก ขึ้นบ้างไหมเนี่ย???

    เห็นตุ๊กตาที่เอาผีมาสิงไว้แบบนี้แล้วก็ทำให้นึกถึง น้องดัชเชส เธอจะชอบอะไรแนวๆนี้ แต่ต้องแบบเฮี้ยนๆแรงๆ แสดงให้เห็นกันได้จะจะ...ถ้าทำได้ขนาดนั้น ก็สามารถลงเวปขายได้ ราคาแพงๆเลยทีเดียว...จะว่าไปก็สามารถทำเป็นรายได้เสริม ที่น่าจะทำรายได้ดีมากๆเลยนะ....เพียงแต่..ผมไม่กล้าทำเท่านั้นเอง...เรื่องนี้ ริวจึงไม่ขอยุ่งนะฮะ...:boo::boo:
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ๕๕๕ เอาว่าแบบ กาลีนะ ถือว่าเป็นฮาๆขำไปก็พอ..
    ส่วนเรื่องภาคทิพย์ไม่ว่าจะอยู่ในอะไรก็ตาม..ส่วนตัว
    มองว่าถ้าลองเราได้เห็นเป็นภาคทิพย์ของเค้าแบบตัวเป็นๆ
    หรือจะลุกเดินได้อะไรเนี่ย..ถ้ากำเนิดจากกำลังสมาธิ
    แบบใช้วิชาเฉพาะของผู้ปลุกเสก..หรือแบบผ่านการขอบารมี.
    อย่างเช่น ของ ลพ. จ น เนี่ยยังไงๆ จิตมันก็จะเกิดความกลัวได้ยากครับ.
    เพราะว่าลักษณะพลังงานที่ปรากฏเป็นภาคทิยพ์มันคนละแบบ
    กับวัตถุต่างๆที่เค้าผูกดวงจิตหรือยัดดวงจิตเค้าไป หรือแบบที่
    มีดวงจิตอื่นๆแบบที่กำลังไม่มากเข้ามาอยู่เองประมาณนี้ครับ..
    ยกเว้นว่าวัตถุที่เป็นแนวๆกายสิทธิ์ธาตุนั่นก็แล้วว่าจะได้เห็น
    หรือไม่ได้เห็น..แต่โดยปกติถ้าพลังงานที่ดี ต่อให้เห็นแบบ
    ตาเปล่าๆ ตัวเป็นๆยากที่เราจะรู้สึกกลัว แต่รู้สึกงงๆนะมีแน่นอน ๕๕๕
    และส่วนแบบโดเรม่อนเคยเห็นผ่านๆตาอยู่ครับ...
     
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    อ่อ ห่มเหลืองท่านที่ทำวัถตุออกมารูปร่างแปลกๆ..
    เค้าเรียกท่านว่า ครูบาแบ่ง ถามชื่อจากเพื่อมาครับ องค์นี้ส่วนตัวมองว่า
    ท่านจะค่อนข้างพิเศษคือ มีกำลังหนุนใช้งานทั้งทางด้านสัมผัสภายใน
    ในระดับใช้งานสบายหายห่วง..
    และมีกำลังหนุนส่งเสริมการใช้งานทางด้านพลังงานร่วมด้วยถึงได้มี
    รุปลักษณแปลกๆในวัตถุที่ท่านทำ..ของท่านกระหนุนพลังงานทั้งสัมผัส
    และกระหนุนพลังงานภายนอกค่อนข้างจะแน่นด้วยครับ แสดงว่า เก๋าสุดๆ
    ถ้าปกติใครก็ตามที่มี กำหลังหนุนอย่างนี้ประกันได้เลยว่า ต้องรักษาโรค
    ได้แน่นอนเป็นปกติ นอกจากทำวัตถุต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพลังงานครับ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...