ปัญหาเรื่องศีลข้อสามค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Laongaye, 23 ตุลาคม 2017.

  1. Laongaye

    Laongaye สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    กราบสวัสดีค่ะ
    เรื่องก็มีอยู่ว่า หนูมีอะไรกับแฟน(โดยป้องกัน) แต่ว่าเราทั้งสองยังอยู่ในการปกครองหรือดูแลของบุพการี หรือพูดง่ายๆก็คือเราทั้งสองยังไม่ได้รับอนุญาติให้มีอะไรกันอย่างถูกต้อง ถึงแม้ว่าฝ่ายชายเขาจะเลี้ยงดูแบบปล่อยก็ตาม หนูทราบดีว่าครั้งนี้เป็นความผิดของหนูเอง

    หนูเริ่มกลัวแล้วว่าหากเกิดในภพภูมิหน้า จะเกิดในภพภูมิที่ไม่ดี ไม่อยากให้ทั้งเขาและทั้งหนูเกิดในภพแบบนั้น

    หนูก็เลยอยากจะทราบโทษและผลที่จะตามมาทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า พร้อมกับแนวทางการแก้ไขและปฏิบัติค่ะ

    ขอบคุณค่ะ
     
  2. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    องค์ของศีลข้อ 3-เว้นจากการประพฤติผิดในกาม

    1 หญิงหรือชายต้องห้าม
    2 จิตคิดจะเสพ
    3ทำความพยายามเพื่อเสพ
    4 มรรคถึงกัน(เพศสัมพันธ์)

    มรรค-ทางดำเนิน เหตุทำให้ถึง

    หญิงต้องห้าม คือ

    1 หญิงมีญาติปกครอง (ข้อ ๑ - ๗)
    2 หญิงมีจารีตรักษา(เช่น ภิกษุณี สามเณรี แม่ชี อุบาสิกา ผู้ถือศีล 8 หรือศีลอุโบสถ) (ข้อ ๘)
    3 หญิงมีสามี (ข้อ ๙ - ๒๐)

    หญิงที่ชายไม่ควรเกี่ยวข้องมี20จำพวกคือ
    1. หญิงที่มีมารดาปกครอง
    2. หญิงที่มีบิดาปกครอง
    3. หญิงที่มีทั้งมารดาและบิดาปกครอง
    4. หญิงที่มีพี่สาวปกครองหรือมีน้องสาวดูแลรักษาหรือหวงอยู่
    5. หญิงที่มีพี่ชายปกครองหรือมีน้องชายดูแลรักษาหรือหวงอยู่
    6. หญิงที่มีญาติปกครอง
    7. หญิงที่มีตระกูลเดียวกันหรือเชื้อชาติเดียวกันเป็นผู้ปกครอง
    8. หญิงที่มีผู้ประพฤติปฏิบัติศีลธรรมด้วยกันเป็นผู้ปกครอง เช่น แม่ชีมีหัวหน้าชีปกครอง เป็นต้น
    9. หญิงที่กษัตริย์หรือผู้มีอำนาจได้จองตัวเอาไว้
    10. หญิงที่มีคู่หมั่น
    11. หญิงที่ถูกผู้อื่นซื้อตัวมา
    12. หญิงที่สมัครใจไปอยู่กับชาย (คนอื่นแล้ว)คือหญิงที่มีสามีแล้ว
    13. หญิงที่ยอมเป็นภรรยาของชาย (คนอื่นแล้ว)โดยหวังในทรัพย์สินเงินทอง คือหญิงที่มีสามีแล้วอีกประเภทหนึ่ง
    14. หญิงที่ยอมเป็นภรรยาของชาย (คนอื่นแล้ว)โดยหวังในเครื่องนุ่งห่ม
    15. หญิงที่มีสามีแล้วโดยการทำพิธีแต่งงาน
    16. หญิงที่เป็นภรรยาของชายคนอื่นโดยชายคนนั้นเป็นผู้ช่วยให้พ้นจากการแบกของขายคือช่วยให้พ้นจากความยากลำบากนั่นเอง
    17. หญิงที่มีสามีแล้ว โดยเมื่อก่อนเป็นเชลยแล้วภายหลังตกมาเป็นภรรยาของนายเชลยนั้น
    18. หญิงที่มีสามีแล้ว โดยเมื่อก่อนเป็นลูกจ้างแล้วภายหลังตกมาเป็นภรรยาของนายจ้างนั้น
    19. หญิงที่มีสามีแล้ว โดยเมื่อก่อนเป็นทาสแล้วภายหลังตกมาเป็นภรรยาของนายทาสนั้น
    20. หญิงที่เป็นภรรยาของชายชั่วครั้งชั่วคราวแล้วถูกล่วงละเมิดในขณะที่ทำหน้าที่เป็นภรรยาของชายคนอื่นอยู่ เช่นหญิงขายบริการที่อยู่ในช่วงสัญญากับชายคนหนึ่งอยู่แต่กลับไปมีสัมพันธ์กับชายอีกคนหนึ่ง เป็นต้น


    ชายต้องห้าม คือ

    1 ชายอื่นนอกจากสามีตน
    2 ชายที่จารีตห้าม(เช่น ภิกษุ สามเณร นักบวช)

    หญิงมีสามีแล้ว แต่ยังมิได้หย่าร้างกัน และสามีก็ยังมีชีวิตอยู่(แม้แยกกันอยู่ก็ตาม)ใครไปล่วงละเมิดก็ผิดศีลข้อนี้ทั้งนั้น


    ชายหรือหญิงถูกข่มขืน แล้วไม่ยินดี ไม่ผิด กอดจูบจับมือถือแขน ศีลไม่ขาด แต่ศีลเศร้าหมอง ศีลด่างพร้อย

    แม้เธอจะอยู่ในความดูแลของผู้อื่น แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ได้เป็นใหญ่ในเรือนร่างของเธอ ทั้งผู้ดูแลเหล่านั้นก็ไม่ได้ดูแลรักษาเพื่อหวังชมเชยเรือนร่างของเธอเอง เป็นแต่เพียงไม่ต้องการให้ชายอื่นล่วงละเมิดเท่านั้น ดังนั้นการที่เธอไปมีอะไรกับชายอื่น จึงไม่เข้าข่ายผิดศีลข้อกาเม ฯ (หญิงเป็นเจ้าของผัสสะไม่ผิด)เว้นเสียแต่ว่า เธอไปยุงกับชายต้องห้าม

    ชายที่ทำผิดศีลข้อ ๓ มีโทษหนักเบาไม่เท่ากัน กล่าวคือ
    ๑.ล่วงสตรีที่มีคุณมาก มีโทษมาก มีคุณน้อยโทษน้อย
    ๒.การใช้กำลังประทุษร้าย,ข่มขืน แม้สตรีมีคุณน้อยก็มีโทษมาก
    ๓.กิเลสและความพยายามน้อย มีโทษน้อย กิเลสและความพยายามมากมีโทษมาก
    ๔.ทั้งสองมีฉันทะร่วมกันมีโทษน้อย

    โปรดใช้วิจารณญาณ
    1. ตามข้อความข้างต้นคุณเป็นเจ้าของผัสสะ (เจ้าของร่างกาย) และคุณก็ไม่มีสามีอยู่(หญิงมีสามี ข้อ ๙ - ๒๐) คุณย่อมไม่ผิด (ชายอื่นนอกจากสามีตน)
    2. ผู้ชายผิดศีลข้อ ๓ เพราะเป็นหญิงต้องห้าม ๒๐ จำพวก
    ในข้อ (หญิงมีญาติปกครอง ข้อ ๑ - ๗) และครบองค์การผิดศีลข้อ ๓ ทั้ง ๔ ข้อ
    3. ความหนักเบาของโทษตามข้อ ความข้างต้น (ผู้ชาย)

    เรื่องก็มีอยู่ว่า หนูมีอะไรกับแฟน(โดยป้องกัน) แต่ว่าเราทั้งสองยังอยู่ในการปกครองหรือดูแลของบุพการี หรือพูดง่ายๆก็คือเราทั้งสองยังไม่ได้รับอนุญาติให้มีอะไรกันอย่างถูกต้อง ถึงแม้ว่าฝ่ายชายเขาจะเลี้ยงดูแบบปล่อยก็ตาม หนูทราบดีว่าครั้งนี้เป็นความผิดของหนูเอง

    ***แสดงว่า ***
    ข้อ ๓ กิเลสและความพยายามน้อย มีโทษน้อย กิเลสและความพยายามมากมีโทษมาก
    ข้อ ๔ ทั้งสองมีฉันทะร่วมกันมีโทษน้อย

    หนูก็เลยอยากจะทราบโทษและผลที่จะตามมาทั้งในชาตินี้และในชาติหน้า พร้อมกับแนวทางการแก้ไขและปฏิบัติค่ะ

    โทษที่จะตามมาในชาตินี้และชาติหน้า และแนวทางการปฏิบัติ

    1. ณ เวลาปัจจุบันนี้ได้เลิกประพฤติแล้ว คุณ ชาติปัจจุบันรู้สึกไม่สบายใจ (กังวล) และถ้ารู้ไปถึงคนอื่นก็จะเสื่อมเสียทั้งตัวคุณและวงศ์ตระกูล พ่อแม่และคนที่รักเราเสียใจ ชาติหน้าไม่มีเพราะไม่ได้ผิดศีล ผู้ชายผิดศีลข้อ ๓ กรรมยังเบาบาง ชาติปัจจุบันทำให้มีลูกว่ายากสอนยาก ไม่ค่อยเชื่อฟังเท่านั้น
    ชาติหน้า ก็ยังไม่สามารถทำให้ต้องไปอบายได้
    2. ถ้ายังไม่หยุด ก็ต้องเป็นไปตามกฏแห่งกรรม (น้ำหนักกรรม)

    แนวทางปฏิบัติ
    1. สร้างบารมี ปฏิบัติธรรมให้ ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
    2. หยุดดีกว่า หรือไม่ถ้ารักกันจริง ก็ทำให้ไม่ผิดศีลผิดธรรม

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2017
  3. Laongaye

    Laongaye สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    อนุโมธนาสาธุค่ะ
     
  4. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู

    น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู ค ว า ม ต า ย คื อ ก า ร เ ริ่ ม ต้ น ข อ งชี วิ ต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2017
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +156
    พี่สมิงคะ หนูสงสัยอ่ะค่ะ อย่างกรณีนี้พี่เขาจะผิดศีลข้อ 4 ด้วยไหมคะ
    ถ้าพ่อแม่ไม่รู้ คือจงใจปิดบังบุพการีน่ะค่ะ
     
  6. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952

    ศีลข้อที่ ๔ : เว้นจากการพูดเท็จ หมายถึง การสำรวมระวังในการใช้คำพูดที่เว้นจากการพูดเท็จ พูดปด พูดโกหกหลอกลวงผู้อื่นให้เสียประโยชน์ หรือห้ามพูดเท็จนั่นเอง ซึ่งเป็นการแสดงออกด้วยเจตนาบิดเบือนความจริงให้คนอื่นหลงเชื่อ

    โดยแสดงออกได้ทั้ง ทางวาจา คือพูดโกหกชัดๆ พูดเท็จพูดปดตรงๆ และทางกาย คิดทำเท็จทางกาย เช่น การเขียนจดหมายลวง การทำรายงานเท็จ การสร้างหลักฐานปลอม การโฆษณาชวนเชื่อเกินความจริงทางสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ หรือเมื่อมีใครถามข้อความที่ควรรับ ก็สั่นศีรษะแสดงอาการปฏิเสธ โดยมีหลักวินิจฉัยในความขาดแห่งศีลที่เรียกว่า องค์ ๔ ข้อ คือ

    ๑) อตถํ เรื่องไม่จริง
    ๒) วิสํวาทนจิตฺตํ จิตคิดจะพูดให้ผิด
    ๓) ตชฺโช วายาโม พยายามพูดออกไปตามจิตนั้น
    ๔) ปรสฺส ตตฺถวิชานนํผู้ฟังเข้าใจเนื้อความนั้น

    ถ้าไม่ครบองค์ทั้ง ๔ นี้ ศีลไม่ขาด เช่น ทราบเรื่องที่เป็นเท็จมาโดยตนคิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงพูดไปโดยไม่มีเจตนาจะหลอกลวงหรือพูดเท็จออกไป แต่ผู้ฟังไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้ภาษากัน เช่นนี้ศีลไม่ขาด

    ***ตามองค์ของศีลข้อ ๔ เขายังไม่ได้พูดโกหกอะไร เพราะไม่มีคนถาม และมันยังเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา เขามีสิทธิ์จะบอกหรือไม่บอกใครก็ได้ ถ้าสิ่งที่บอกหรือพูดออกไปนั้นทำให้เรื่องมันเลวร้ายลง ***
    ***แต่ถ้ามีคนถามเขา แล้วครบองค์ทั้ง ๔ ข้อ แสดงว่าเขาผิดอย่างแน่นอน***

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
  7. น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู

    น้องนกลาบ ชื่อนี้สีชมพู ค ว า ม ต า ย คื อ ก า ร เ ริ่ ม ต้ น ข อ งชี วิ ต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2017
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +156
    เข้าใจแล้ว ขอบคุณค่ะ :)
     

แชร์หน้านี้

Loading...