ปานเเดง ปานดําที่ติดตัวเรามาในชาตินี้ มันคืออะไรหรือครับ ?

ด้วยความเคารพรับ
ผมมีปานดำที่เอวด้านซ้าย แม่ผมบอกว่าเป็นทวดมาเกิด
เพราะตอนทวดตายทางญาติได้เอาเขม่าหม้อดินป้ายไว้ตรงเอว
ขอบคุณครับ

 

มีปานดำที่หางตาขวา ค่ะ ยิ่งอายุมากยิ่งสีเข้มง่ะเห็นชัดเลย บางทีก็ปวดแสบๆตรงปานดำที่หางตาขวานะค่ะ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

 

ผมมีอยู่ตรงไอ้นั่นอ่ะครับ
มันจะเป็นยังไงเหรอครับ

 

มีปานรูปหัวใจเหมือนกัน -..-

 

ผมว่าก็มีส่วนนะครับ แต่คงไม่ใช่ทั้งหมดไม่งั้นคนเราเกิดมานับไม่ถ้วนแล้ว คงมีรอยแผลเต็มตัวไปหมดหล่ะครับ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะแรงอธิษฐานหรือไม่ก็อาจเพราะจิตพะวงถึงในขณะก่อนตายหรือก่อนเกิดหน่ะครับ ส่วนตัวผมมีที่หน้าอกเหมือนรอยที่โดนหัวลูกธนูหรืออะไรซักอย่างแล้วก็มีที่ปากล่างซ้ายหน่ะครับ แต่แค่เล็กๆบางๆมองไม่ค่อยชัดครับ

 

ผมขอมายืนยันว่าผมเองก็มีปานขาวอีกคนครับ แต่ของผมแปลกตรงที่ผมมีปานขาว 2 จุดครับ จุดแรกอยู่ตรงตำแหน่งหัวใจ อีกจุดนึงอยู่ตรงกระดูกปีกหลังด้านขวา มีลักษณะเป็นวงกลมทั้ง 2 ด้าน ตอนที่แม่ผมเห็นครั้งแรก แม่ผมคิดว่ามันเป็นคราบน้ำนม (คราบนี้ไม่ได้เกิดจากน้ำนมจริง ๆ หรอกนะครับ มันมีลักษณะเป็นสีขาวจาง ๆ ไม่ทราบที่มาว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่คนเฒ่าคนแก่บอกว่า มันจะหายไปเองเมื่อเราโตขึ้น) แต่จนวันนี้มันก็ยังติดตัวผมไม่เคยจางหายไป มันก็เป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้เหมือนกันนะครับ เพื่อนสนิทผมเองก็มีปานขาวด้วยเหมือนกันแต่ปานของเค้าเป็นรูปลักษณะเหมือนรอยแผลเล็ก ๆ ที่แขน ผมก็เคยศึกษามาเหมือนกันนะครับเรื่องปาน แต่ก็ไม่มีตำราไหนบอกถึงเรื่องปานขาวเลย มันก็ไม่ได้ส่งผลหรือทำอันตรายกับตัวผมเลยครับ เพราะมันไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้นเหมือนบางท่านที่กล่าวมา แต่ผมก็อยากไขขอข้องใจของผมเองว่า ในเมื่อมีการอธิบายเรื่องปานดำ - แดงได้ ก็น่าจะมีการอธิบายเกี่ยวกับปานขาวได้เหมือนกัน ถ้าสมมติว่าปานดำคือดินหม้อ ปานแดงคือชาด ปานขาวก็อาจจะเป็นดินสอพอง ก็ได้นะครับ

 

ไม่เกี่ยวกับแผลในอดีตชาติหรอก ไม่งั้นพวกเราทุกคนก็ต้องมีปานแดงปานดำกันทั่วตัว
วิบากกรรมที่มีปานแดงปานดำมักเกิดจากการถวายของที่มีตำหนิแล้วคิดว่าไม่เป็นไร หรือไม่ก็ทำความสกปรกให้แก่วัดวาอารามหรือที่สาธารณะ หรือไม่ก็ล้อเลียนคนที่เป็นให้เขาอับอาย หรืออื่นๆอีกมากมาย

 

ปานขาวคือบุญเก่าที่ได้ทำไว้แต่ชาติก่อนจะมีเทวดาคุ้มครองเพราะปานขาวไม่ได้มีกันทุกคนคับ อย่างบ้างตำราว่าถ้ามีปานขาวเหมือนรูปดอกบัวขึ้นที่ฝ่ามือ คือผู้มีศีลธรรมมีเทวดาคุ้มครอง ปานขาวที่ตำราเก่าๆได้เขียนลงไว้จะมีรูปดอกบัวบ้างรูป,ราชสีห์บ้างรูป,จักรบ้าง

 

มีปานขาวที่เเขนซ้ายค่ะ เเละมีปานดำรูปใบไม้ที้ต้นขาด้านขวาขนาดประมาณ 3คูณ 5 cm

 

มีปานเหมือนกันคะ แต่หลายปาน อะ ปานเขียว ปานขาว ปานน้ำตาล แหะๆๆ แต่ปานแดง ปานดำไม่ยักจะมี หุหุหุ :'(

 

คุณ jiab670 เป็นเหมือนกันเลยค่ะถ้าไม่สังเกตุมองไม่เห็น

 

มีปานแดงเยอะมาก ,, แขนข้างขวาเป็นรอยใหญ่

 

ตัวผมเองก็มีปานดำกลม ขนาดเท่ากำปั้นเลยครับ โตตามตัวเรื่อยๆ อยู่แถวบริเวณหัวด้านหลังอ่ะครับ แบบดำสนิทเลย ถ้าตัดผมสั้นจะเด่นมาก อยากทราบเหมือนกันว่ามันมีความหมายอะไรบ้างไหม

 

เอากันเเง่นี้ก่อน


<table class="fontblacksm" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td>ไฝ ปาน และเนื้องอกที่ผิวหนัง โดย นายแพทย์สร เมตติยวงศ์

ไฝและปาน เป็นผิวหนังที่มีสีคล้ำกว่าปกติเกิดจากการจับกลุ่มของเซลล์ผลิตเม็ดสีเมลาโน ไซต์และตามธรรมดามักจะนูนสูงขึ้นมาจากผิวหนัง โดยมีความสัมพันธ์อยู่สองประการด้วยกันคือทางกรรมพันธุ์และความสัมพันธ์กับ มะเร็งของผิวหนังชนิดที่เรียกว่า มาลิกแนนต์เมลาโนมา (malignant melanoma)
ไฝมีลักษณะได้หลายอย่างด้วยกัน ทั้งในรูปร่าง ลักษณะและสีสัน คือ ๑. แบบราบ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ปานดำ ๒. นูนสูงเล็กน้อย ๓. มีขอบเป็นสีซีดขาวล้อมรอบ ๔. ขรุขระ ๕. เป็นติ่ง ๖. สัณฐานเป็นรูปโดม ๗. มีขั้วหรือก้าน และ ๘. ผิวเป็นเหมือนเส้นหนามนุ่มเล็กๆ ยื่นออกมา
สีของไฝก็อาจมีเพียงคล้ายหรือคล้ำกว่าผิวหนัง ธรรมดาเล็กน้อย เป็นสีน้ำตาลอ่อนเข้ม จนกระทั่งเป็นสีดำทีเดียว และอาจมีเส้นขนยาวๆ งอกออกจากไฝหรือขึ้นรอบเม็ดไฝด้วย โดยมากไฝจะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุได้ ๒-๖ ปี และเมื่อถึงวัยหนุ่มสาวก็จะมีมากขึ้นจะเกิดขึ้นที่ตำแหน่งใดของผิวหนังก็ได้ แม้แต่กระทั่งที่อวัยวะเพศ
ปานดำที่ใหญ่มากๆ และมีขน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแถวคอและหนังศีรษะ อาจมีอาการทางประสาทร่วมด้วย เช่น ลมบ้าหมู เป็นต้น และอาจเป็นมะเร็งชนิดมาลิกเนนต์เมลาโนมาได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
​

</td> <td align="right"> <table bgcolor="#CCCCCC" border="0" cellpadding="10" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td bgcolor="#FFFFFF" align="center">
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="fontblackmini">ปานดำชนิดมีขน</td> <td align="right"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table>
<table><tbody><tr><td nowrap="nowrap"> [ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้] </td></tr></tbody></table></td> </tr> </tbody></table> หัวข้อ

• ขี้แมลงวัน
• ปานแดง
• เนื้องอกที่ผิวหนัง

<table class="fontblacksm" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> <td> ขี้แมลงวัน

เป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลหรือดำที่ผิวหนัง รูปกลมหรือรีๆ และแบนราบไม่นูนสูงขึ้นมาอาจเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้แม้แต่ที่เยื่อมูก และไม่ มีความสัมพันธ์กับแสงแดดหรือมะเร็งของผิวหนังแต่อย่างใด
ในผู้ที่อายุเลยวัยกลางคนไปแล้ว มักจะเกิดเป็นจุดๆ แบนๆ สีน้ำตาลเข้มบนผิวหนังที่มักจะถูกแดดโดยเฉพาะหลังมือ แขน ไหล่ หน้า และคอ และอาจมีขนาดใหญ่ๆ ได้ถึงหลายๆ เซนติเมตร แต่จะไม่จางหายไปมากนักเมื่อถูกปกปิดจากแสงแดด
ลักษณะของขี้แมลงวันในผู้ใหญ่เช่นนี้ อาจกลายเป็นมะเร็งชนิดมาลิกแนนต์เมลาโนมาได้เช่นเดียวกับปานดำขนาดยักษ์ที่มีขน
[กลับหัวข้อหลัก]
​

</td> <td align="right"> <table><tbody><tr><td nowrap="nowrap"> [ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้] </td></tr></tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table class="fontblacksm" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> <td> ปานแดง

จัด อยู่ในพวกเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรงของผิวหนัง เกิดขึ้นเนื่องมาจากหรือประกอบด้วยหลอดเลือดหรือกลุ่มกระเปาะของหลอดเลือด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหลอดเลือดฝอย และมีอยู่สามชนิดด้วยกันคือ ปานแดงชนิดหลอดเลือดฝอยในเด็ก ซึ่งเป็นความผิดปกติของหลอดเลือดที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกคลอดหรือหลังคลอดเล็ก น้อย มีลักษณะเป็นก้อนนูนสีแดงสดหรือแดงคล้ำจนเป็นสีม่วง อาจเป็นเพียงก้อนเดียวหรือหลายๆ ก้อน และที่ผิวหนังแห่งใดก็ได้ แต่ที่พบบ่อยที่สุดคือแถวศีรษะ
ปานแดงอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ ได้ต่างๆ กันฃผิวหนังเรียบหรือขรุขระ พวกที่เป็นอยู่ตื้นๆ มักมีสีแดงจัด และพวกที่อยู่ลึกลงไปจะมีสีแดงเข้ม หรืออย่างธรรมดาจะกดบุ๋มแต่สีมักไม่ซีดหมด
ปานแดงนี้ภายหลังคลอดอาจโตโดย รวดเร็ว หรืออาจแตกเป็นแผล และมีการอักเสบได้ โดยปกติแล้วจะค่อยๆ ยุบหายไปเองภายในสองหรือสามขวบพวกที่ไม่ค่อยจะยุบหายไปเอง ได้แก่ พวกที่มีลักษณะแบนเรียบซึ่งมักขึ้นที่บริเวณท้ายทอย หรือที่ใบหน้าซีกใดซีกหนึ่ง ส่วนใหญ่ปานชนิดนี้มักจะไม่ค่อยขยายใหญ่โตออกไปมากนัก แต่มีความสำคัญที่อาจมีโรคอื่นของอวัยวะภายในร่วมด้วย เช่น อาจเป็นลมบ้าหมู และปัญญาอ่อน
อีกชนิดหนึ่งของปานแดงซึ่ง เป็นแอ่งของหลอดเลือดลึกลงไปในผิวหนังและมีผิวเรียบเกลี้ยงเกลาเหมือนปกติ ชนิดนี้มักจะเป็นตั้งแต่คลอดและใหญ่ขึ้นตามตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะใหญ่ขึ้น ชัดเจน เมื่อถึงวัยหนุ่มสาวหรือเวลาตั้งครรภ์
ในผู้สูงอายุมักมีปานแดงเป็น เม็ดเล็กๆ สีแดงหรือค่อนข้างม่วงขึ้นมากเม็ดตามลำดับ หรือบางรายอาจโตถึงหลายมิลลิเมตรได้ ตุ่มปานพวกนี้มักกดไม่ยุบง่ายๆ และจะอยู่ติดตัวตลอดไป
ปากแดงชนิดใยแมงมุม จะมีลักษณะเป็นจุดสีแดงและมีเป็นสายๆ แผ่กระจายออกไปขนาดเท่าหัวเข็มหมุดหรือใหญ่ถึงประมาณ ๒ เซนติเมตร และเวลาใช้หัวเข็มหมุดกดลงไปตรงกลางสีจะซีดลงเห็นได้ชัดเจนปานชนิดนี้มัก เป็นที่หน้าคอ ส่วนบนของลำตัว หน้าแขน และมือ ผู้หญิงบางคนเวลาตั้งครรภ์อาจมีปานชนิดนี้ขึ้นมาก และหายไปเองภายหลังคลอด
ปานใยแมงมุมนี้จะพบได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคตับเรื้องรัง แต่ในผู้ที่ไม่ป่วยเป็นอะไรก็อาจมีได้เช่นกัน
[กลับหัวข้อหลัก]
​

</td> <td align="right"> <table bgcolor="#CCCCCC" border="0" cellpadding="10" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td bgcolor="#FFFFFF" align="center">
<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="fontblackmini">ปานแดงที่ใบหน้า</td> <td align="right"></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table>
<table><tbody><tr><td nowrap="nowrap"> [ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้] </td></tr></tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table class="fontblacksm" border="0" cellpadding="5" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"> <td> เนื้องอกที่ผิวหนัง

ได้แก่ โรคต่างๆ ต่อไปนี้
๑. เซบอร์เรอิกเคอราโทซิส (seborrheic keratosis) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในจำพวกเนื้องอกพบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนและไม่มีความร้ายแรงอย่างใด
โดยปกติเนื้องอกชนิดนี้จะมีจำนวนค่อนข้างมากแถวส่วนกลางของร่างกาย เช่น ที่อก หลัง ท้องใบหน้า และหนังศีรษะ เป็นต้น และมักจะเป็นทั้งสองข้างของร่างกายเหมือนๆ กัน
ลักษณะของโรคนี้จะเป็นแผ่นแบนๆ มีผิวขรุขระแต่ค่านข้างละเอียด สีค่อนข้างเหลืองหรือน้ำตาลอ่อนขนาดมักไม่ใหญ่เกิน ๑ เซนติเมตร เมื่อเป็นอยู่นานๆ ก็จะหนาขึ้น สีเข้มขึ้น และมีสะเก็ดค่อนข้างเป็นมันถ้าโตขึ้นหรือเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ควรสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งของอวัยวะภายในด้วย
๒. แอกทินิกเคอราโทซิส (actinic keratosis) โรค นี้จัดอยู่ในพวกเนื้องอกที่กลายเป็นชนิดร้ายแรงหรือมะเร็งได้ง่าย พบมากในผู้สูงอายุที่ต้องกรำแดดอยู่เสมอ เช่น ชาวนา หรือชาวเรือ แต่ผู้ที่ผิวคล้ำเช่น คนไทย มักจะไม่ค่อยพบมากเท่าในพวกผิวขาว
โรคนี้มักจะเกิดเป็นตามผิวหนังที่ถูกแดดอยู่เสมอ เช่น ที่ใบหน้า ริมฝีปาก หลังมือ หน้าแขน คอ และหนังศีรษะที่มีผมน้อย และมักจะเป็นหลายๆ แห่งมากกว่าแห่งเดียว
ลักษณะของโรคนี้จะเป็นเม็ดเล็กๆ ค่อนข้างกลมและหยาบ สีแดงหรือน้ำตาล ติดแน่นอยู่กับผิวหนังและมีสะเก็ดแห้งๆ หนาบ้างบางบ้างติดอยู่ บริเวณรอบๆ มักจะมีสีแดงอักเสบ ขนาดเล็กๆ ประมาณ ๑-๒ มิลลิเมตร ขนาดใหญ่ราว ๑ เซนติเมตร หรือใหญ่กว่านั้นก็ได้
ถ้าปล่อยทิ้งเอาไว้ โรคนี้จะลามใหญ่ขึ้นช้าๆ และนูนสูงมากขึ้น และในที่สุดกลายเป็นมะเร็งของผิวหนังในประมาณ ๒๐-๒๕ เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย
๓. ติ่งเนื้อ จัดอยู่ในพวกเนื้องอกชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นติ่งเล็กๆ มีขั้วยื่นยาวออกมาจากผิวหนังสีเนื้อ มีผิวเกลี้ยงเรียบหรือขรุขระบ้าง มักเป็นบริเวณเปลือกตา คอ และรักแร้ โดยมากไม่มีอาการและไม่ร้ายแรงอะไร เพียงแต่จะทำให้ไม่น่าดูเท่านั้น
[กลับหัวข้อหลัก]



อีกด้านนึงตามความเชื่อ

1.เด็กที่มีปาน แสดงว่าเคยเกิดมาชาติหนึ่งแล้วคนสมัยนี้อาจจะไม่สนใจกับไฝฝ้าปานดำปานแดงกัน แล้ว เพราะยิงเลเซอร์ที่เดียก็หาย แต่สำหรับคนโบราณนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
เพราะเชื่อกันว่าเด็กที่มีปานติดตัวมาตั้งแต่เกิดนั้น หมายความว่าเคยเกิดมาแล้วในชาติก่อนและถูกทำตำหนิไว้เพื่อให้คนรู้จักจำได้ โดยวิธีทำตำหนิก็จะเอาปูนแดงป้าย ทำให้เกิดมาชาตินี้มีปานแดง แต่ถ้าถูกป้ายด้วยถ่านก็จะเกิดมาพร้อมกับปานดำ

ส่วนข้อต่อๆ ไป เเถมมาให้ ใช้เทียบดูตามกําลังของเหตุเเละผล

2.คนโบราณ เชื่อกันว่าคนที่เกิดมาหน้าตาสวยเป็นคนมีบุญ ส่วนคนขี้เหร่เป็นคนอาภัพด้อยวาสนา สำหรับคนผมหยิก หน้าก้อ คอต่อ คิ้วสั้นนั้นเรียกว่าอัปลักษณ์ครบสูตร

ตำราโบราณจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นคนไม่ดีมาเกิดจึงไม่ควรไปคบเพราะไว้ใจไม่ได้ อาจจะสร้างความเดือดร้อนให้

​

3.ระหว่าง ที่กำลังหวีผมถ้าหวีเกิดหักแสดงว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับคนๆ นั้น ถ้าเบาะๆ ก็แค่มีเรื่องทะเลาะวิวาทหรือเสียของรัก ถ้าสาหัสก็อาจถึงขั้นเลือดตกยางออกเลยทีเดียว
ทางเดียวที่จะแก้เคล็ดได้คือต้องทิ้งหวีอันนั้นไป จากนั้นก็ต้องจุดธูปไหว้เทวดาฟ้าดินให้ช่วยคุ้มครองให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี เรื่องหนักให้กลายเป็นเบา แล้วก็จะแคล้วคลาดไปได้

4. ห้ามใช้น้ำหอมของเพื่อนจะทำให้มีเรื่องทะเลาะกัน เพราะโบราณว่าไว้ว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ กลิ่นน้ำหอมที่เราใช้ก็เหมือนกลิ่นสาบเสือ เมื่อเสือสองตัวมาเจอกันก็ต้องสู้กันให้แหลกไปข้างหนึ่ง

5. วันที่ควรและไม่ควรตัดผมคนรุ่นปู่ย่าตาทวด จะนิยมตัดผมในวันศุกร์ เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีเสน่ห์ ถ้าตัดในวันอาทิตย์เชื่อว่าจะอายุยืน

ส่วน การตัดผมในวันจันทร์ก็จะทำให้เป็นที่รักของคนอื่น แต่วันที่ไม่ควรตัดผมเลยก็คือวันอังคารเพราะจะมีแต่เรื่องทุกข์ใจ อาจต้องเสียน้ำตาเป็นปิ๊บๆ

​

6. ไม่เอาสัตว์ป่าเข้าบ้านสัตว์ป่าก็ต้องอยู่ในป่า ถ้าใครทะเล้นไปซื้อมาเลี้ยงอย่างที่คนสมัยนี้ชอบทำ ปู่ย่าตายายท่านเชื่อว่าเป็นการผิดธรรมชาติ
เพราะสัตว์ป่ามีเจ้าป่าคุ้มครองดูแลอยู่ ไม่ควรไปจับบริวารของท่านกักขังไว้ที่บ้านเรา ใครทำอย่างนี้ครอบครัวจะเจอความอัปมงคล ต้องแก้เคล็ดด้วยการทำพิธีจุดธูปเทียนดอกไม้ขอขมาต่อเจ้าป่าเจ้าเขาแล้วเชิญ สัตว์ป่าออกจากบ้านไป พร้อมกับขอพรให้นำพาสิ่งดีงามมาให้

7. ดูดวงการค้าจากต้นว่านคนโบราณนิยมปลูกว่านเพื่อให้เป็นมงคลกับครอบครัว และเอาไว้เป็นเครื่องบอกชะตาว่าการค้าจะดีหรือไม่ดี ถ้าต้นว่านงอกงามดีแสดงว่าชีวิตกำลังรุ่งเรือง

ยิ่งถ้าว่านออกดอกด้วยล่ะก็ แสดงว่าช่วงนั้นดวงดีมาก จับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง แต่ถ้าต้นว่านเกิดเหี่ยวแห้งหรือหักงอไป เจ้าของอาจจะอยู่ในช่วงดวงตก ทำมาค้าไม่ขึ้น ต้องรีบทำบุญให้มากๆ เพื่อเสริมดวง และควรปรับปรุงวิธีการค้าเสียใหม่เพื่อให้กิจการดีขึ้น

8. ขึ้นบ้านใหม่ต้องแบกข้าวสารถ้าใครปลูกบ้านหลังใหม่ ก่อนจะเข้าบ้านคนโบราณท่านมีเคล็ดว่าให้แบกกระสอบข้าวสารเดินนำเข้าไปก่อน แล้วบ้านนั้นจะอุดมสมบูรณ์ไม่มีคำว่าอดอยาก

ยิ่งถ้าใส่สร้อย แหวน เงิน ทอง ใบเงิน ใบทอง ไว้ในกระสอบข้าวด้วยล่ะก็ เงินทองจะไหลมาเทมา ทำมาค้าขึ้น อยู่แล้วเฮงเฮงเฮง อย่างเดียวเลย

​

9. ใส่แหวนต้องดูนิ้วความเชื่อนี้ส่งตรงมาจากเมืองจีนโดยเฉพาะ คนจีนเชื่อกันมาตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตายายว่า ถ้าใส่แหวนที่นิ้วก้อชีวิตจะสุขสบายไม่ต้องทำงานหนัก ถ้าใส่กำไลหยกจะช่วยส่งเสริมให้เป็นคนมีอำนาจและสุขภาพดี

10.วาง โทรศัพท์ต้องเลือกมุมชาวยิปซีเชื่อว่าถ้าวางโทรศัพท์ไว้ที่มุมซ้ายของโต๊ะทำ งาน คนจะโทรมาบอกแต่ข่าวร้าย แต่ถ้าวางไว้ที่มุมขวาของโต๊ะ จะได้ยินแต่ข่าวที่ทำให้สบายใจ




จะเป็นในเเง่ใหน ก็ ใช้สติปัญญาเจริญเอาตามความรู้ ความสามารถส่วนตนเถอะ
ในองค์ ความรู้ใดก็ตาม ที่เรายังไปหาข้อพิสูจไม่ได้ นั้น เราก็จําต้องลงไปทําความเข้าใจให้มันถ้วนทั่ว
อย่างน้อยที่สุดเเล้ว เราก็จะได้ไม่ลงไปตกเป็นเหยื่อของ กิเลศ

เจริญในเจริญเจ้าค๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา

​

</td></tr></tbody></table>

 

มีจุดแดงๆ ประมาณ 0.6-0.7 ซม อยู่เกือบกึ่งกลางฝ่าเท้า ลักษณะราบเรียบเหมือนผิวหนัง ไม่ขยายใหญ่ตามตัว ไม่มีอาการเจ็บปวด...เกิดขึ้นเมื่อตอนอายุ 19-20 ปี ค่ะ

 

มีปานดำรูปหัวใจ ที่ต้นแขนข้างซ้าย

อยากรู้ว่ามีได้ไง อยากรู้ ว่ามีผลอะไรกับเราหรือป่าว

 

ลูกสาวของกระติ๊บ ก็มีปานมีขาวค่ะ เป็นรูป นก ที่คอ

 

มีปานสีน้ำตาลรูปผีเสื้อที่ข้อเท้าค่ะ

 

ไม่เกี่ยวกับปาน แต่มีมุกตรงไอ้นั่นมันคืออะไร ไม่ได้ผ่าใส่ด้วย จะว่าเป็นไตก็พูดยาก ไม่กล้าไปหาหมอ อาย

 

ของผมมีปานแดงตรงข้อนิ้วนางข้างช้าย ป่านนี้ยังไม่มีใครมาตามหาเลย จนจะได้รับเงินผู้สูงอายุอยู่แล้ว เช็งง่ะ