ปิดฉากคดี"ส.ว.ฉาว" ศาลฎีกาจำคุก36ปี "เฉลิม พรหมเลิศ" เสพกาม"4เด็กหญิง"

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 18 พฤศจิกายน 2007.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 6198 ข่าวสดรายวัน


    ปิดฉากคดี"ส.ว.ฉาว" ศาลฎีกาจำคุก36ปี "เฉลิม พรหมเลิศ" เสพกาม"4เด็กหญิง"


    คอลัมน์ แฟ้มคดี



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"พิจารณาตามพยานหลักฐานแล้วศาลฎีกาตัดสินให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 คือให้จำคุก 36 ปี"!!!

    สิ้นเสียงการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ทำให้ "ป๋าเลิศ"นายเฉลิม พรหมเลิศ อดีตรองประธานวุฒิสภา และอดีตเลขาฯ รพช. จำเลยคดีกระทำชำเราเด็กหญิง 4 คน และพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ถึงกับหน้าซีด เข่าอ่อน

    นายเฉลิม ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวส่งเข้าเรือนจำ จ.ปทุมธานี ทันทีเนื่องจากคดีถึงที่สุดแล้ว

    คดีนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในคดีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็ก แถมผู้ก่อเหตุยังเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นนักการเมืองที่มีตำแหน่งสูงถึงรองประธานวุฒิสภา ในช่วงเกิดเรื่อง

    ที่ผ่านมาแทบไม่มีบุคคลที่มีทั้งเงินและมากด้วยบารมีเช่นนี้ จักต้องประสบชะตากรรมในคดีเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็กมาก่อน

    เพราะส่วนใหญ่คดีมักจะหายไปหรือจบลงแบบครึ่งๆ กลางๆ เป็นลักษณะลูบหน้าปะจมูก หรือแอบยอมความกันระหว่างผู้ปกครองเด็กกับผู้ต้องหา!??

    คดีนี้ก็เช่นกันก่อนที่จะมาถึงวันนี้ก็เจียนอยู่เจียนไปหลายรอบ เพราะมีส.ว.กลุ่มหนึ่งออกมาปกป้อง อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

    และถึงขนาดออกมติอัปยศไม่ส่งตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจดำเนินคดี โดยอ้างเอกสิทธิ์ของส.ว.ที่อยู่ระหว่างสมัยประชุม

    แต่ถึงที่สุดแล้วทุกอย่างก็จบลงตามครรลองที่ควรจะเป็น!!!



    คําพิพากษาที่สำคัญที่สุดของคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลฎีกาที่พิจารณาคดีนี้มานานเกือบ 2 ปี นัดชี้ชะตานายเฉลิม

    นายเฉลิม หรือ "ป๋าเลิศ" ของเด็กหญิงอย่างน้อย 4 คนที่เคยไปร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งได้รับการประกันตัวมาตลอดระหว่างการสู้คดีนานเกือบ 7 ปี เดินทางมาศาลด้วยใบหน้าเรียบเฉย

    ขณะที่ฝ่ายโจทก์นอกจากพนักงานอัยการและผู้ปกครองของเด็กอีก 4 คนที่ยื่นเป็นโจทก์ร่วมแล้ว ยังมีนายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก อดีตส.ว.เดินทางมาด้วย เพราะช่วยเหลือเด็กๆ ที่ตกเป็นเหยื่อกามมาตั้งแต่แรก

    เมื่อถึงเวลาผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ เริ่มอ่านคำพิพากษาถึงคำฟ้องของโจทก์และคำตัดสินของศาลก่อนหน้านี้ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    โดยนายเฉลิม ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาที่ศาลจังหวัดธัญบุรี 2 คดี คือ คดีหมายเลขดำที่ 1044/2544 วันที่ 21 ก.พ.2544 และคดีหมายเลขดำที่ 1347/2544 โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 14 มี.ค.2544 เรื่องความผิดต่อเสรีภาพ คือพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจาร และความผิดฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี

    ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเฉพาะคดีกระทำชำเรารวม 4 กระทง ให้จำคุก 16 ปี ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะเพิ่มโทษในคดีพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจารอีก 4 กระทง 20 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 36 ปี

    ผู้พิพากษาศาลฎีกาพิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว มีความเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์

    ยืนโทษจำคุกนายเฉลิมเป็นเวลา 36 ปี!!!

    เจ้าหน้าที่ศาลเข้าควบคุมตัวนายเฉลิม ที่หน้าซีดเผือดแทบทรงตัวไม่อยู่ส่งเรือนจำปทุมธานีทันที

    นายมนตรี เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก กล่าวว่า คำตัดสินในวันนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ผู้ที่ถูกรังแกกล้าที่จะออกมาต่อสู้กับผู้มีอำนาจ ผู้มีอิทธิพล หรือคนมีเงิน ประชาชนจะได้ยึดเป็นแนวทางในการต่อสู้ต่อไป

    "ส่วนตัวแล้วตั้งแต่แรกที่ผมและทีมงานเข้ามาช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ก็มั่นใจในพยานหลักฐานต่างๆ และผลสุดท้ายก็ออกมาอย่างที่รู้กัน ซึ่งตั้งแต่ทำงานมาก็มีคดีนี้แหละที่จำเลยสู้จนถึงฎีกา และจำเลยเป็นถึงอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่"

    ขณะที่นายจำเริญ วราภรณ์ ทนายความส่วนตัวของนายเฉลิม กล่าวว่าจะหาช่องทางในการดำเนินการช่วยเหลือ รวมทั้งการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาด้วย

    สำหรับนายเฉลิม จะถูกควบคุมตัวที่เรือนจำปทุมธานีเพียงชั่วคราว เนื่องจากมีโทษจำคุกเกิน 30 ปี ต้องย้ายไปอยู่เรือนจำความมั่นคงสูง คือเรือนจํากลางคลองเปรม

    นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า จะให้นายเฉลิม ไปอยู่แดนนักโทษชรา ซึ่งระเบียบการดูแลจะแตกต่างจากนักโทษวัยหนุ่มทั่วไป แต่จะไม่ได้อภิสิทธิ์เหนือนักโทษอื่นๆ

    แม้คดีนายเฉลิม มีสิทธิ์ได้รับการลดหย่อนโทษเหมือนนักโทษอื่นๆ แต่ดูจากอายุของนายเฉลิมยามนี้กับโทษที่ได้รับ

    มีแนวโน้มสูงยิ่งว่า อาจจะต้องอยู่ในเรือนจำไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต!?? <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    หากมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของคดีอื้อฉาวนี้ ถือว่าเป็นเรื่องไม่น่าเชื่ออย่างยิ่งว่าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องเด็กหายเท่านั้น

    โดยเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2544 ผู้ปกครองเด็กหญิงอายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าลูกสาวที่ไปเรียนหนังสือตามปกติ กลับหายตัวไปอย่างลึกลับ

    อย่างไรก็ตาม อีก 2 วันต่อมาผู้ปกครองพร้อมเด็กก็เดินทางเข้าพบตำรวจ แจ้งว่าเจอตัวลูกแล้ว แต่ที่มากกว่านั้นก็คือที่ลูกสาวหลบหนีไปเพราะกลัวพ่อทำโทษเรื่องที่ไปค้าประเวณี!!!

    ตำรวจที่ทราบข้อมูลถึงกับเรียกประชุมด่วน เพราะกรณีเด็กค้าประเวณีนั้น ตำรวจสภ.อ.คลองหลวง กำลังติดตามอยู่เพราะได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง และครูในย่านนั้นว่ามีเด็กนักเรียนมัธยมวัยแค่ 13-14 ปี นิยมค้าประเวณีกันมากเพื่อหาเงินมาเที่ยวหรือซื้อของแบรนด์เนม

    เด็กสาวสารภาพว่าเพื่อนนักเรียนรุ่นพี่ ชักชวนให้ไปหลับนอนกับชายสูงอายุคนหนึ่ง

    ชายคนดังกล่าวเรียกตัวเองว่า "ป๋าเลิศ"!??

    ครั้งแรกที่เข้าบริการคือวันที่ 22 ธันวาคม 2543 เด็กสาวให้การว่าถูกป๋าเลิศเปิดซิงภายในห้องพักโรงแรมผกาอินน์ ย่าน จ.ปทุมธานี โดยใช้เวลาแค่ 3 นาที!??

    นอกจากเธอแล้วยังมีเพื่อนนักเรียนอีก 4 คน ร่วมหลับนอนกับป๋าเลิศ ในคราวเดียวกันด้วย

    แต่ละคนจะใช้เวลาอยู่กับป๋าแค่ 3-4 นาทีเท่านั้น

    กระทั่งวันเกิดเรื่อง ป๋าเลิศให้เอเยนต์จัดเด็กสาวกลุ่มเดิมมาอีก แต่กว่าจะไปก็ค่ำแล้วเพราะต้องรอเลิกเรียน ทำให้เสร็จงานดึก จึงกลัวพ่อแม่ดุด่าตัดสินใจไปนอนค้างบ้านเพื่อน จึงกลายเป็นเรื่องขึ้นมา

    ตำรวจเข้าสอบสวนเรื่องนี้และแทบช็อกเมื่อพบว่า "ป๋าเลิศ" คือนายเฉลิม พรหมเลิศ ซึ่งขณะนั้นเป็นส.ว.ชุดที่มาจากการเลือกตั้งครั้งแรก และยังดำรงตำแหน่งถึงรองประธานส.ว.คนที่ 1

    ห้วงเวลานี้เองผู้ปกครองเด็กเข้าร้องเรียนว่าถูกบุคคลลึกลับทั้งข่มขู่ด้วยกำลัง และพยายามปลอบด้วยเงินเพื่อให้ยุติเรื่อง

    แม้แต่ตำรวจเองก็ยังโดน!!!

    "ครูหยุย"นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.กรุงเทพฯ และ "ครูยุ่น"นายมนตรี สินทวิชัย ส.ว.สมุทรสงคราม เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัย ตามที่ผู้ปกครองเด็กร้องเรียน

    อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตำรวจก็ออกมาแสดงท่าทีขึงขังว่า จะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยพล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) หนุนเต็มที่

    ขณะที่พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภาค 1 (ในขณะนั้น) ก็เข้ามาดูแลคดีนี้ด้วยตัวเอง

    ในที่สุดตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งดำเนินคดีกับนายเฉลิมได้



    แม้พยานหลักฐานจะแน่นหนา แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทำงานง่ายๆ เพราะมีเพื่อนส.ว.กลุ่มหนึ่ง ออกมาปกป้องพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง

    เริ่มตั้งแต่พยายามลากให้เป็นเรื่องการเมือง ทำนองว่าเป็นการแบล็กเมล์ มีการกลั่นแกล้งกัน เพื่อชิงตำแหน่งรองประธานส.ว. ฯลฯ

    และที่ทำให้วุฒิสมาชิกจากการเลือกตั้งชุดแรกของเมืองไทย ถูกประณามและเสื่อมถอยมากที่สุดเป็นการออกเสียงของส.ว.ส่วนใหญ่รวม 87 คน ไม่ยอมส่งตัวนายเฉลิม ให้ตำรวจดำเนินคดี ระหว่างสมัยประชุมฯ

    เสียงก่นด่าลอยมาจากทั่วทุกสารทิศ เพราะการทำเช่นนี้เท่ากับซื้อเวลาให้คดีนี้มีโอกาสพลิกผันมากขึ้น แถมยังมีข่าวว่าแม้แต่ครูบางคนก็ออกมาช่วยเหลือบังคับ-ข่มขู่เด็กไม่ให้ไปให้การมัดตัวนายเฉลิม!!!

    อย่างไรก็ตาม หลังมีมติอัปยศออกมา ส.ว.กลุ่มดังกล่าวโดนด่าจนหูชา จึงพลิกเกมร่วมกันกดดันจนนายเฉลิม ต้องลาออกจากส.ว. ทำให้ไม่มีอภิสิทธิ์คุ้มครอง

    ตำรวจเดินหน้าทำคดีต่อจนสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องได้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2544

    วันที่ 31 กันยายน 2545 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 16 ปี ในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงรวม 4 กระทง

    จำเลยยื่นอุทธรณ์ และต้องชีช้ำหนักขึ้นเพราะคำตัดสินที่ออกมาเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2548 นอกจากศาลอุทธรณ์จะพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแล้ว ยังให้เพิ่มโทษอีก 20 ปี ในคดีพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร ซึ่งศาลชั้นต้นยกฟ้องในข้อหานี้

    และล่าสุดกับคำตัดสินของศาลฎีกา ก็ปิดฉากคดีนี้อย่างสมบูรณ์!!!

    http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd055MHhNUzB4T0E9PQ==
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แม้พยานหลักฐานจะแน่นหนา แต่ตำรวจก็ไม่ได้ทำงานง่ายๆ เพราะมีเพื่อนส.ว.กลุ่มหนึ่ง ออกมาปกป้องพยายามช่วยเหลือทุกวิถีทาง

    เริ่มตั้งแต่พยายามลากให้เป็นเรื่องการเมือง ทำนองว่าเป็นการแบล็กเมล์ มีการกลั่นแกล้งกัน เพื่อชิงตำแหน่งรองประธานส.ว. ฯลฯ

    และที่ทำให้วุฒิสมาชิกจากการเลือกตั้งชุดแรกของเมืองไทย ถูกประณามและเสื่อมถอยมากที่สุดเป็นการออกเสียงของส.ว.ส่วนใหญ่รวม 87 คน ไม่ยอมส่งตัวนายเฉลิม ให้ตำรวจดำเนินคดี ระหว่างสมัยประชุมฯ

    เสียงก่นด่าลอยมาจากทั่วทุกสารทิศ เพราะการทำเช่นนี้เท่ากับซื้อเวลาให้คดีนี้มีโอกาสพลิกผันมากขึ้น แถมยังมีข่าวว่าแม้แต่ครูบางคนก็ออกมาช่วยเหลือบังคับ-ข่มขู่เด็กไม่ให้ไปให้การมัดตัวนายเฉลิม!!!

    อย่างไรก็ตาม หลังมีมติอัปยศออกมา ส.ว.กลุ่มดังกล่าวโดนด่าจนหูชา จึงพลิกเกมร่วมกันกดดันจนนายเฉลิม ต้องลาออกจากส.ว. ทำให้ไม่มีอภิสิทธิ์คุ้มครอง


    ************************************************


    กลุ่ม สว.กลุ่มนี้ ไม่เห็นมีใครออกมารับผิดชอบในการกระทำของตนเองเลย ที่สนับสนุนนายเฉลิม พรหมเลิศ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...