ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ประชาชนแห่ขึ้นไหว้รอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฎ


ประชาชนแห่ขึ้นนมัสการ กราบไหว้รอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฎ ในช่วงวันตรุษจีนคึกคัก

ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจบรรยากาศการประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญแห่ขึ้นนมัสการกราบไหว้รอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฎ พบว่าบรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก หลังวันนี้เป็นการเปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญได้ขึ้นไปนมัสการกราบไหว้รอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฏเป็นวันแรก ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญมารอขึ้นรถเพื่อเดินทางขึ้นไปนมัสการกราบไหว้รอยพระพุทธบาทพลวงบนยอดเขา กว่า 10,000 คน โดยมีการดูแลความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจภูธรเขาคิชฌกูฏ เจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ และอาสารักษาดินแดนจังหวัดจันทบุรี (อส.)

ทั้งนี้ ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้แสวงบุญจะเสียค่าโดยสารรถคนละ 200 บาท ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติอีก 10 บาท สิ่งสำคัญ คือ ในปีนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้งดการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มตลอดเส้นทางตั้งแต่เนินพระสิวลีไปจนถึงยอดเขาพระบาท และบนยอดเขา เพื่อลดปริมาณขยะบนยอดเขา และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆบนยอดเขา

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

พัทลุง หลายโรงเรียนริมทะเลสาบน้ำยังท่วมขัง


จ.พัทลุง หลายโรงเรียนริมทะเลสาบน้ำยังท่วมขัง สื่อการเรียนการสอนได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง หลายโรงเรียนในพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ของจังหวัดพัทลุง ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะ ที่โรงเรียน บ้านชายคลอง ต.พะนางตุง โรงเรียนบ้านหัวป่าเขียว ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน พื้นโรงเรียน รวมทั้งบริเวณรอบอาคารเรียนยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง และจากภาวะน้ำท่วมไปก่อนหน้านี้ทำให้สื่อการเรียนการสอนได้รับความเสียหายจำนวนมาก เด็กยังขาดสื่อการเรียนการสอน รวมทั้งเสื้อผ้าชุดนักเรียน ซึ่งแม้วันหยุดเด็กๆที่นี่ต้องมาเรียนเพิ่มเนื่องจากเวลาเรียนน้อยและหยุดหลายวันเกรงจะส่งผลต่อการเรียน จึงต้องมาเรียนเพิ่มเติม ท่ามกลางโรงเรียนที่มีน้ำท่วมขัง ต้องต่อเก้าอี้ให้เด็กเดินไปเรียนบนอาคารเรียนอย่างทุลักทุเล

ในขณะที่ พระราชศิริธรรมเมธี รองเจ้าคณะภาค 18 และคณะพระสงฆ์ สามเณร วัดคูหาสวรรค์ 5 รูป ได้นำสื่อการเรียนการสอนมอบให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านหัวป่าเขียว ม.7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมทั้งเสื้อผ้า เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น ขณะ ระดับน้ำยังท่วมขังภายในบริเวณโรงเรียน.และอาคารเรียนสูงประมาณ 20-30 ซม.

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

รถไฟตกราง สถานีหนองตะไก้ อ.อุดรฯ ไร้เจ็บ


เกิดเหตุรถไฟตกราง 11 ตู้ ทื่บริเวณสถานีหนองตะไก้ ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรฯ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

มีเหตุรถไฟตกราง 11 ตู้ (จากทั้งขบวน 15 ตู้) ทื่บริเวณสถานีหนองตะไก้ ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรฯ โดยเป็นขบวนรถสินค้าขาล่อง ต้นทางจากอุดร ธานี เกิดปัญหาจากช่วงการสับราง ทำให้ขบวนพลิกคว่ำ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะนี้กำลังเตรียมการกู้คืน นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าได้ประสานกับนายสถานีรถไฟแล้ว ดังนี้ ผู้โดยสารที่มากับรถไฟจากกรุงเทพจะไปอุดร/หนองคาย ทางการรถไฟฯจัดรถบัสรับส่งต่อพร้อมเดินทางต่อแล้ว ขบวนรถที่ค้างอยู่บนรางขณะนี้ รอรถยกและรถลากเข้ามาจัดการ คาดว่าไม่เกินบ่ายวันนี้ก็คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติหากมีเหตุยื้อเยื้อจนถึงช่วงเย็น ซึ่งจะมีขบวนรถขาบ่องจาก จ.หนองคาย ไป กทม. จะใช้รถบัสรับมาจากต้นทาง เพื่อไปขึ้นยังสถานีถัดไปแทน

จังหวัดอุดรธานีมอบหมายปลัดจังหวัดและปลัดอำเภอเมือง ไปอำนวยการและประสานการปฎิบัติ ขณะนี้กำลังดำเนินการขยับโบกี้ที่ขวางการเดินรถ โดยกำลังใช้รถแบคโฮดันให้รถที่ตกรางขยับไปจากราง ทั้งนี้ รถไฟที่ขนส่งสินค้ามีน้ำหนัก 2 ตัน และสินค้าที่บรรทุกอีก 20.2 ตัน คาดว่าอย่าช้าที่สุดน่าจะแก้ปัญหาได้ก่อนเวลา 19.00 น.

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

ลูกราชภัฏคิดถึงพ่อ สานต่อพระราชปณิธาน ร.9


ลูกราชภัฏร่วมใจคิดถึงพ่อ ขอสานต่อพระราชปณิธานในหลวง ร.9 จัดกิจกรรมที่ศูนย์การค้า เดอะฮับ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร นำโดยคณะวิทยาลัยการจัดการพร้อมคณาจารย์นักศึกษาจัดงาน คิดถึงพ่อ..ลูกราชภัฏขอสานต่อพระราชปณิธาน พระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ศูนย์การค้า เดอะฮับ ต.คูคต อ.ลำลำกา จ.ปทุมธานี ภายในงานได้ชื่นชมพระปรีชาสามารถผ่านนิทรรศการ ผลงานการประกวดทางวิชาการของนักศึกษา การออกบูธให้นักศึกษานำคำสอนและหลักปรัชญาในด้านใช้ชีวิตตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ในชีวิตประจำวัน พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนนำคำสอนและหลักปรัชญาของในหลวงรัชกาลที่ 9 และกิจกรรมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ และกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆ ร่วมอุดหนุนข้าวชาวนา และผลิตผลของเกษตรกรชาวบ้านดักคะนน จ.ชัยนาท

ด้าน นางสาวสุชีรา ประวิง นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร บอกว่า วันนี้ตนเองได้มาออกบูธ ผู้นำตามรอยพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งในบูธนี้จะนำคำหลักสอน ของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 และโครงการต่างๆของพระองค์ท่าน มาเผยแพร่ให้กับประชาชนได้รับทราบ พร้อมทั้ง ได้แนะนำให้ประชาชนทั่วไป ทำตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ส่วนตนเองในฐานะที่กำลังศึกษาอยู่นี้ ได้ทำตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่านในด้านเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยและอยู่อย่างประหยัด พร้อมกันนี้ ยังมีการออกบูธต่างๆเช่นกังหันลมประหยัดพลังงานสำนักงานสีเขียว

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

ชาวไทยเชื้อสายจีนยะลาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์


ชาวไทยเชื้อสายจีนยะลา เดินทางมากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าแม่กวนอิม

บรรยากาศที่บริเวณศาลเจ้าแม่กอเหนี่ยวยะลา และศาลเจ้าแม่กวนอิม อ.เบตง จ.ยะลา ได้มีชาวไทยเชื้อสายจีนใน อ.เบตง ทยอยเดินทางมากราบไหว้องค์พระต่าง ๆ อาทิ รูปเจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่กอเหนี่ยว และ เจ้าพ่อกวนอู

พร้อมกันนี้ ก็มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ ต่างเดินทางท่องเที่ยวช่วงตรุษจีน และมากราบไหว้ กันจำนวนมาก เพื่อขอพรจากเทพเจ้าให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข และค้าขายดีขึ้น ส่วนวันนี้ตามย่านเศรษฐกิจในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา เงียบเหงา

เนื่องจากร้านค้าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน และข้าราชการต่างเดินทางกลับภูมิลำเนาและไปท่องเที่ยวยังต่างจังหวัดกันมาก เนื่องจากวันจันทร์ที่ 30 มกราคม นี้ เป็นวันหยุดอีก 1 วัน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

ครู-นักเรียนศรีสะเกษ ทอดผ้าป่าข้าวสารช่วยน้ำท่วม


ครู-นักเรียนศรีสะเกษ ร่วมทอดผ้าป่าข้าวสาร ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ได้ข้าวสารกว่า 40 ตัน เงินสดกว่า 35,000 บาท

ที่เวทีพูนดิน ร.ร.อนุบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายนพ พงศ์ผลาดิสัย นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เป็นผู้แทน ผวจ.ศรีสะเกษ มาเป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าข้าวสารลูกหลานครูไทย ส่งใจถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ ร่วมกับ สำนักงานศึกษาธิการ จ.ศรีสะเกษ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษทั้ง 4 เขต ได้ร่วมกันจัดทำโครงการนี้ขึ้น โดยการขอบริจาคข้าวสารจากนักเรียน และครูในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ นำเอาข้าวสารมารวมกัน เพื่อจะนำส่งไปให้การช่วยเหลือประชาชนในเขตภาคใต้ที่กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา และรับมอบข้าวสารจากตัวแทนครู นักเรียนที่นำเอามามอบให้ ปรากฏว่า ได้ข้าวสาร จำนวนทั้งสิ้น 40 ตัน และเงินสดจำนวนกว่า 35,000 บาท โดยมี นายวิสัย เขตสกุล ประธานชมรมครูประถมศึกษาจ.ศรีสะเกษ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีคณะกรรมการชมรมฯ ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครู ให้การต้อนรับ

นายวิสัย เขตสกุล ประธานชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า การจัดทำโครงการทอดผ้าป่าข้าวสารลูกหลานครูไทย ส่งใจถึงผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรก เมื่อปี 2554 น้ำได้ท่วมใหญ่ที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ชมรมครูประถมศึกษา จ.ศรีสะเกษ จึงได้จัดโครงการทอดผ้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งในครั้งนี้ได้มีการจัดทำโครงการขึ้นมาอีก เพื่อเปิดพื้นที่และโอกาสให้ลูกหลาน นักเรียน ได้กระทำความดีถวายพ่อหลวง และเพื่อหล่อหลอมคุณธรรม สร้างจิตสำนึกให้มีจิตสาธารณะการช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัยและสังคมส่วนรวม ซึ่งจะได้นำเอาข้าวสารและเงินทั้งหมด ส่งมอบให้กับ ผวจ.ศรีสะเกษ เพื่อส่งไปให้การช่วยเหลือประชาชนชาวใต้ต่อไป

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

สองแถวนักท่องเที่ยวภูทับเบิก หลุดโค้งตกเขา เจ็บ 8 ราย


รถสองแถวนักท่องเที่ยวหลุดโค้งตกเขา ระหว่างไปดูพระอาทิตย์ขึ้นภูทับเบิก เบื้องต้นบาดเจ็บ 8 ราย เร่งนำส่งโรงพยาบาล ผู้ว่าฯ-นอภ.หล่มเก่า รุดเยี่ยม

เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์สองแถว บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งบรรทุกนักท่องเที่ยวมาเต็มคัน และกำลังจะจะเดินทางมุ่งหน้าขึ้นภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อพานักท่องเที่ยวจากเขาค้อ ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณยอดภูทับเบิก แต่เมื่อมาถึงบริเวณถนนโค้ง ก่อนถึงรีสอร์ททับเบิกอินดี้ ซึ่งเป็นเส้นทางก่อนเข้าหมู่บ้านภูทับเบิก ปรากฎว่า รถเบรคไม่ทำงาน จนกระทั่งทำให้เสียหลักพุ่งตกลงเขาความลึกราว 50 เมตร โดยเบื้องต้นรับแจ้งว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 8 คน โดยจำนวนนี้มีเด็กผู้หญิง จำนวน 2 คน ซึ่งล่าสุดทางอาสาสมัครกู้ภัย และตำรวจ สภอ.หล่มเก่า ได้ช่วยเหลือนำนักท่องเที่ยวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่าแล้ว

ความคืบหน้า ล่าสุด นาย สมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า ได้เดินทางไปที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า เพื่อเยี่ยมนักท่องเที่ยว ที่ประสบอุบัติเหตุ โดยพบว่า มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ได้รับบาดเจ็บ แขน ขาหัก ในขณะที่บางรายค่อนข้างสาหัส และ ล่าสุด นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า เช่นกัน เพื่อเยี่ยมนักท่องเที่ยว ที่ได้รับบาดเจ็บ ด้าน พ.ต.ต.พิษณุ โพธิ์เส็ง พนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประสบอุบัติเหตุ เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาพักที่ อ.เขาค้อ จากนั้น ได้เหมารถสองแถวมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกที่ยอดภูทับเบิก แต่ เมื่อมาถึงถนนบริเวณทางโค้ง ก่อนถึงรีสอร์ททับเบิกอินดี้ นายถาวร ดอกจำปี อายุ 59 ปี คนขับรถ บอกว่า เบรกไม่ทำงาน จนทำให้รถแหกโค้งตกลงไปลึกราว 35 เมตร ซึ่งเป็นถนนทางเข้ารีสอร์ทผาศิลาพอดี ทำให้มีนักท่องเที่ยว ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุอีกครั้ง

รถตกเขาภูทับเบิก เจ็บ 8 ราย สาหัสอีก 5 ราย

นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าอุบัติเหตุรถนักท่องเที่ยวขับรถตกเขาภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย ว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.00 น. โดยผู้ประสบอุบัติเหตุ มาเที่ยวกันเป็นครอบครัว ขับรถตามกันมา 2 คันเมื่อถึงจุดเกิดเหตุถนนเป็นทางลาดชัน รถเบรกไม่อยู่ จึงเสียหลักพุ่งตกเขาลงไป กว่า 50 เมตร ผู้บาดเจ็บ 8 ราย ในจำนวนนี้มีอาการสาหัสอีก 5 ราย

จากการตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้น ผู้ขับรถเป็นผู้ชำนาญทางเพราะมาเที่ยวที่ภูทับเบิกหลายครั้งแล้ว แต่เกิดจากเบรครถมีปัญหาทำให้เมื่อถึงจุดที่เป็นทางลาดชัน ทำให้รถเบรคไม่อยู่พุ่งตกเขา ทั้งนี้ ผู้บาดทั้ง 8 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลพระยุพราช หล่มเก่า แล้ว ทั้งนี้ นายพิบูลย์ ได้แจ้งเตือนประชาชนที่วางแผนจะออกไปท่องเที่ยว ว่า ควรเช็คเส้นทาง เช็คภาพรถ และงดดื่มแอลกอฮอล์ ขณะขับขี่รถเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

ลำพูนคุมเข้มมอกควันไฟป่า ห้ามเผาเด็ดขาด 60 วัน


จังหวัดลำพูนกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ห้ามเผาเด็ดขาด 60 วัน

นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 เพื่อกำหนดแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ซึ่งได้กำหนดให้ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ เป็นเขตควบคุมไฟป่า เพิ่มความเข้มข้นของการใช้มาตรการต่างๆ ในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 เมษายน 2560 เป็นช่วง “60 วันห้ามเผาเด็ดขาดของจังหวัดลำพูน” ห้ามไม่ให้ผู้ใด เผากิ่งไม้ใบไม้ วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ขยะมูลฝอย และเผาพื้นที่เกษตรกรรม

ผู้กระทำผิดจะมีโทษดังนี้ คือ หากมีการจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในอุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 2 ปี จนถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 ผู้ใดกระทำทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท

ทางจังหวัดมุ่งรณรงค์ให้เกษตรกรและประชาชนงดเผา มีแผนจัดการเชื้อเพลิง โดยการกำจัดเศษวัสดุ การชิงเผา และการทำแนวกันไฟในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยง รวม 28,000 ไร่เศษ

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

อุทกภัยนราธิวาสเริ่มคลาย ระดับน้ำลดต่ำกว่าตลิ่ง


อุทกภัยนราธิวาส เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำจากลำคลองและแม่น้ำสายหลักในพื้นที่ได้ลดลงจากตลิ่งแล้ว

สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดนราธิวาส รายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมานั้น ล่าสุดสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นได้คลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ระดับน้ำจากลำคลอง และแม่น้ำสายหลักในพื้นที่ได้ลดลงจากตลิ่งแล้ว ขณะที่บริเวณพื้นที่ราบลุ่มที่เคยมีน้ำท่วมขัง ปริมาณน้ำได้ลดลงแล้วเช่นเดียวกัน

ส่วนที่บริเวณคลองยะกัง ทางสำนักชลประทานนราธิวาส ยังคงติดเครื่องสูบน้ำทำการระบายน้ำจากคลองชลประทาน เพื่อให้ไหลลงสู่แม่น้ำบางนราและไหลลงสู่ทะเลต่อไป ส่วนสภาพอากาศในพื้นที่นราธิวาส ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงมีฝนบ้างเป็นระยะ ท้องฟ้า ยังมีเฆมฝนปกคลุมในพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดนราธิวาสเองยังคงให้ประชาชนติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

กท.โพลล์เผยคนยอมรับตรุษจีนเปลี่ยนไปจากอดีตมาก


กรุงเทพโพลล์ เผย คนไทยเชื้อสายจีน ยอมรับว่าเทศกาลตรุษจีนในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากอดีต ส่วนใหญ่เลือกที่จะไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดเล่งเน่ยยี่

กรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง "ตรุษจีนปีไก่ กับวิถีชีวิตคนไทยที่เปลี่ยนไป" โดยเก็บข้อมูลจากคนไทยเชื้อสายจีนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,194 คน พบว่า ร้อยละ 33.9 คนไทยเชื้อสายจีน จะนึกถึงการไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษมากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 14.6 นึกถึง อั่งเปา

ทั้งนี้เมื่อให้มองประเพณี และพิธีกรรมของเทศกาลตรุษจีน ในอดีต กับปัจจุบัน พบถึงการเปลี่ยนแปลง คือ "วันจ่าย" ร้อยละ 42.1 เปลี่ยนไปซื้อเป็ดและไก่พะโล้ขนมเทียนขนมเข่งที่ตลาดแทนการต้มเป็ดต้มไก่เองที่บ้าน รองลงมาร้อยละ 34.6 ซื้อของไหว้แต่ละอย่างปริมาณลดลง และร้อยละ 20.2 ระบุว่า เปลี่ยนไปซื้ออาหารและของไหว้สำเร็จที่จัดเป็นชุดๆในซุปเปอร์มาร์เก็ต

"วันไหว้" ร้อยละ 51.4 เปลี่ยนไปไหว้เฉพาะตอนเช้าก่อนไปเรียน/ทำงาน, ร้อยละ 25.6 สมาชิกในบ้านต่างคนต่างไหว้ ไม่ได้ไหว้พร้อมกันเหมือนสมัยก่อน "วันตรุษจีน" หรือ "วันเที่ยว" ร้อยละ 41.7 ญาติพี่น้องมารวมตัวกันน้อยลงติดธุระมากันไม่ครบเหมือนก่อน,ร้อยละ 27.2 วันตรุษจีนไม่ได้หยุดเรียนหรือปิดร้าน หยุดงานเหมือนเมื่อก่อน

อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 55.6 เลือกที่จะไปไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันตรุษจีนปีนี้ คือ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่),ร้อยละ 13.1 ศาลเจ้าพ่อเสือ (เสาชิงช้า) และร้อยละ 7.0 จะไปไหว้ที่ องค์หลวงปู่ไต้ฮงกง (มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพลับพลาไชย)

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

ไทยตอนบนหนาวเย็นลง ภาคใต้ฝนลดคลื่นสูง กทม.เย็น


อุตุฯ เผย ประเทศไทยตอนบนอุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศา ยังคงมีอากาศหนาวเย็น ภาคใต้มีฝนลดลง อ่าวไทยคลื่นสูง กรุงเทพฯ และปริมณฑลอากาศเย็น

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศา และยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑลอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

ทรัมป์ ยืนยันคำสั่งจำกัดจำนวนผู้เข้าสหรัฐ ไม่มีเจตนาห้ามมุสลิม


สหรัฐ 29 ม.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยืนยันกับสื่อมวลชน ที่ห้องแถลงข่าวในทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า คำสั่งจำกัดจำนวนผู้เข้าสหรัฐ ไม่ได้มีเจตนาห้ามชาวมุสลิมเข้าสหรัฐแต่อย่างใด

ส่วนกรณีระงับผู้อพยพเข้าสหรัฐ 4 เดือน และห้ามผู้เดินทางจากซีเรียและ 6 ชาติมุสลิมเข้าสหรัฐชั่วคราวนั้น เพื่อป้องกันชาวอเมริกันจากก่อการร้าย ซึ่งเป็นการทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และทิ้งท้ายว่า มาตรการเหล่านี้ควรถูกนำออกมาใช้อย่างเข้มงวดตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ.- สำนักข่าวไทย

ประท้วงทรัมป์ที่ซานฟรานซิสโก


สหรัฐ 29 ม.ค. – ที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโกก็มีการชุมนุมคัดค้านคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามพลเรือนจาก 7 ชาติมุสลิม เข้าสหรัฐเช่นกัน

โดยกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้ปิดกั้นถนนหน้าชานชาลาสนามบิน และร้องตะโกนคำขวัญต่อต้านนโยบายของนายทรัมป์ นางโมชกาน โมสตาฟาวี ผู้รอคอยต้อนรับบิดาที่อายุ 80 ปีแล้ว และกำลังเดินทางมาจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน มายังซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เธอรอคอยบิดาของเธออยู่ที่สนามบินนานกว่า 5 ชั่วโมงแล้ว และไม่อาจติดต่อกับบิดาได้เลยและรู้สึกดีใจในที่สุด ที่ศาลสั่งห้ามเนรเทศผู้ที่มาจากประเทศมุสลิมทั้ง 7 ชาติไว้เป็นการชั่วคราว ทำให้บิดาของเธอสามารถมายังสหรัฐได้ในที่สุด. -สำนักข่าวไทย

ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ สั่งหยุดเนรเทศชาวต่างชาติที่มาถึงสนามบินแล้ว


นิวยอร์ก 29 ม.ค.- ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่หยุดเนรเทศผู้อพยพและพลเรือน 7 ประเทศมุสลิมที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานในสหรัฐแล้ว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งแบบครอบคลุมทำให้คนเหล่านี้ถูกกักตัวและเกิดการประท้วง

สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกันที่ยื่นฟ้องรัฐบาลทวีตประกาศชัยชนะ หลังจากผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางแขวงนิวยอร์กตะวันออกมีคำตัดสินให้เจ้าหน้าที่ยุติการเนรเทศเป็นการชั่วคราว แต่ไม่ได้ตัดสินว่าคำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ลงนามเมื่อวันศุกร์ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่กรณีห้ามผู้อพยพเข้าประเทศอย่างน้อย 120 วัน และห้ามคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าอย่างน้อย 90 วัน ผู้พิพากษาสั่งให้เจ้าหน้าที่จัดทำรายชื่อชาวต่างชาติทั้งหมดที่ถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานโดยระบุว่า การส่งกลับทำให้บุคคลเหล่านี้เสี่ยงเป็นอันตราย ด้านผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในรัฐเวอร์จิเนียมีคำสั่งชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน ห้ามเจ้าหน้าที่เนรเทศผู้มีถิ่นพำนักถาวรตามกฎหมายที่ถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานวอชิงตันดัลเลส

เจ้าหน้าที่สหรัฐปฏิบัติตามคำสั่งทันทีที่ทรัมป์ลงนาม ทำให้มีชาวต่างชาติถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานจำนวนมาก และมีกลุ่มต่าง ๆ ประท้วงตามท่าอากาศยาน ด้านสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาตา) ส่งอีเมลแจ้งสายการบินที่เป็นสมาชิกว่า นอกจากผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางของ 7 ประเทศมุสลิมได้แก่ อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน ไม่สามารถเข้าสหรัฐแล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เป็นพลเรือนของประเทศเหล่านี้ก็ไม่สามารถเข้าสหรัฐได้เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

อัยการสูงสุด 3 รัฐ หารือเรื่องยื่นฟ้องทรัมป์ที่ห้ามคน 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐ


วอชิงตัน 29 ม.ค.- อัยการสูงสุดของรัฐวอชิงตัน รัฐเพนซิลเวเนียและรัฐฮาวายกำลังหารือกันเรื่องจะยื่นฟ้องคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐอย่างน้อย 90วัน

อัยการสูงสุดของทั้งสามรัฐเผยว่า กำลังพิจารณาว่าจะยื่นฟ้องด้วยประเด็นใดเป็นการเฉพาะ และจะยื่นฟ้องต่อศาลใด เพราะมั่นใจว่าคำสั่งนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ การที่อัยการทั้ง 3 คนซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครตจะยื่นฟ้องทรัมป์จะเพิ่มน้ำหนักให้แก่การต่อสู้ทางกฎหมาย เพราะจนถึงขณะนี้มีเพียงการยื่นฟ้องในนามของบุคคล และได้รับชัยชนะเมื่อศาลรัฐบาลกลางแขวงนิวยอร์กมีคำตัดสินให้เจ้าหน้าที่หยุดเนรเทศผู้อพยพและพลเรือน 7 ประเทศมุสลิมที่เข้าสหรัฐอย่างถูกกฎหมายเป็นการชั่วคราว กลุ่มสิทธิระบุว่า มีผู้ถูกกักตัวราว 100-200 ตัว หลังจากทรัมป์ลงนามคำสั่ง ด้านกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐแถลงว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งศาล โดยที่คำสั่งของทรัมป์จะยังมีผลบังคับอยู่เช่นกัน

ชายอิรัก 2 คนยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางแขวงนิวยอร์กหลังจากถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานจอห์น เอฟ เคนเนดี คนแรกเป็นอดีตล่ามที่ทำงานให้กองทัพบกสหรัฐและผู้รับเหมาสหรัฐในอิรักหลังจากสหรัฐบุกโค่นซัดดัม ฮุสเซนในปี 2546 จนถึงปี 2556 อีกคนป็นสามีของสตรีอิรักที่ทำงานให้ผู้รับเหมาสหรัฐในอิรักและมีถิ่นพำนักในรัฐเทกซัส คำฟ้องระบุว่า คำสั่งของทรัมป์ละเมิดรัฐธรรมนูญที่รับรองกระบวนการทางกฎหมายเพราะไม่ให้พวกเขามีสิทธิยื่นขอลี้ภัย ละเมิดรัฐธรรมนูญที่รับรองเรื่อการได้รับความคุ้มครองอย่างเสมอภาคเพราะเลือกปฏิบัติต่อพวกเขาโดยอ้างเรื่องประเทศต้นกำเนิดโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และละเมิดข้อกำหนดด้านกระบวนการตัดสินของรัฐบาลกลาง ศาลนัดไต่สวนครั้งต่อไปวันที่ 10 กุมภาพันธ์.-สำนักข่าวไทย

ผู้บริหารบริษัทไฮเทค พากันประนามคำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของทรัมป์


นิวยอร์ก 29 ม.ค.- ผู้บริหารบริษัทไฮเทคในสหรัฐพากันประณามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามผู้อพยพและคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวว่า ทำให้เสียโอกาสที่จะได้คนเก่งมาร่วมงาน

นายทิม คุ้ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แอปเปิล อิงก์ มีบันทึกภายในถึงพนักงานว่า แอปเปิลไม่สามารถอยู่ได้หากปราศจากผู้เข้าเมือง ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการเติบโตหรือความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่นายรีด แฮสติงส์ ซีอีโอเน็ตฟิกซ์โพสต์เฟซบุ๊กว่า การกระทำของทรัมป์กำลังทำร้ายพนักงานเน็ตฟิกซ์ทั่วโลก ถึงเวลาที่จะต้องจับมือกันปกป้องค่านิยมอเมริกันเรื่องเสรีภาพและโอกาส

ด้านนายศุนทัร ปิจไช ซีอีโอกูเกิลเชื้อสายอินเดีย มีบันทึกภายในถึงพนักงานว่า มีพนักงานร่วม 200 คนได้รับผลกระทบโดยตรงจากคำสั่งนี้ บริษัทกังวลเรื่องผลกระทบและข้อจำกัดที่อาจมีต่อพนักงานและครอบครัว อีกทั้งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเปิดโอกาสให้คนเก่ง ๆ มาทำงานในสหรัฐ เช่นเดียวกับนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์เชื้อสายอินเดียที่เผยว่า ในฐานะที่เป็นทั้งผู้บริหารและคนเข้ามืองเขารู้ดีว่าคนเข้าเมืองทำประโยชน์ให้แก่บริษัท ประเทศและโลกมากเพียงใด

ขณะที่นายทราวิส กาลานิค ซีอีโออูเบอร์เผยว่า จะยกเรื่องนี้ขึ้นหารือในที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาธุรกิจของทรัมป์ในสัปดาห์หน้า ข้อมูลของสภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลามระบุว่า ย่านอ่าวซานฟรานซิสโกซึ่งมีบริษัทชั้นนำ 500 อันดับตั้งอยู่มากเป็นอันดับสองของประเทศมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากถึง 250,000 คน.-สำนักข่าวไทย

อิหร่านวิจารณ์ทรัมป์ห้ามมุสลิมเข้าเมือง เท่ากับให้ของขวัญกลุ่มสุดโต่ง


เตหะราน 29 ม.ค.- นายจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านวิจารณ์คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ห้ามคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐว่า เท่ากับเป็นการให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่กลุ่มสุดโต่ง

นายชารีฟทวีตวิจารณ์ทรัมป์เป็นชุดในวันนี้ว่า การห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐจะถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นการมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่กลุ่มสุดโต่งและพรรคพวก การเลือกปฏิบัติแบบเหวี่ยงแหจะถูกกลุ่มก่อการร้ายฉวยโอกาสนำไประดมคนเข้ากลุ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงก่อนหน้านี้ว่า จะตอบโต้สหรัฐด้วยการห้ามชาวอเมริกันเข้าอิหร่านนั้น นายชารีฟชี้แจงเพิ่มเติมว่า จะไม่รวมถึงชาวอเมริกันที่ได้รับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซาเข้าอิหร่านที่ยังใช้งานได้ ด้านนายอาลี ลาริจานี ประธานสภาผู้แทนราษฎรอิหร่านกล่าวว่า มาตรการของทรัมป์เป็นเครื่องยืนยันถึงความคิดเหยียดผิวอย่างรุนแรงของสหรัฐ

กระทรวงต่างประเทศอิหร่านเตือนพลเมืองที่จะเดินทางไปสหรัฐตรวจสอบให้แน่ใจก่อนออกเดินทางว่าจะไม่มีปัญหา ขณะที่บริษัทนำเที่ยวในกรุงเตหะรานเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายการบินต่างชาติว่าไม่ให้จำหน่ายตั๋วโดยสารเดินทางไปสหรัฐ และสายการบินจะไม่อนุญาตให้ชาวอิหร่านที่มีวีซาอเมริกันโดยสารเครื่องบินไปสหรัฐ หลังจากทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ห้ามพลเรือน 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐอย่างน้อย 90 วัน ประกอบด้วย อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรียและเยเมน.-สำนักข่าวไทย

ประท้วงทรัมป์ ในนิวยอร์ก ยังคงดำเนินไปต่อเนื่อง


สหรัฐ 29 ม.ค. – การชุมนุมประท้วงคัดค้านคำสั่งห้ามพลเรือนจากประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนามบิน เจเอฟเค ในนครนิวยอร์ก ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ล่วงเข้าสู่ยามค่ำคืนแล้วก็ตาม

ประชาชนต่างพากันชูป้าย พร้อมกับร้องตะโกนข้อความ “ให้เขาเข้ามา” “ไม่ห้าม ไม่สร้างกำแพง” ที่บริเวณภายนอกชานชาลาที่ 4 ของสนามบิน ผู้ประท้วงคนหนึ่ง กล่าวว่า ห้ามมุสลิมก็คือห้ามอเมริกัน และสวนทางกับอุดมการณ์ของคนอเมริกันอย่างสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กล่าวว่า แม้จะมีคำประกาศแต่ยังไม่มีการสั่งการใด ๆ และเจ้าหน้าที่ของรัฐจะกระทำตามคำสั่งที่เหมาะสมเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ อังกฤษไม่เห็นด้วยกับนโยบายคนเข้าเมืองของทรัมป์


ลอนดอน 29 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษเผยว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐจำกัดผู้เข้าเมือง หลังจากถูก ส.ส.ในพรรคของเธอวิจารณ์ที่ไม่ตำหนิทรัมป์

นายกรัฐมนตรีเมย์ถูกสื่อถามถึง 3 ครั้งระหว่างเยือนตุรกีเรื่องที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีคำสั่งงดรับผู้อพยพเป็นเวลา 4 เดือนและห้ามคนจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว เธอตอบในเวลานั้นว่าเป็นนโยบายภายในของสหรัฐ แต่เมื่อเดินทางกลับถึงอังกฤษโฆษกส่วนตัวของเธอกล่าวว่า นโยบายคนเข้าเมืองของสหรัฐเป็นเรื่องของรัฐบาลสหรัฐ แต่รัฐบาลอังกฤษไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวและจะไม่ดำเนินตาม ขณะนี้กำลังศึกษาคำสั่งฝ่ายบริหารของสหรัฐและผลกระทบทางกฎหมาย โดยเฉพาะผลที่จะเกิดขึ้นกับพลเรือนของสหราชอาณาจักร

นายกรัฐมนตรีเมย์ซึ่งเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เข้าพบประธานาธิบดีทรัมป์ถูก ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยมหลายคนของเธอวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ตำหนิเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อครั้งเยือนตุรกี และเสนอให้รัฐสภาอังกฤษตำหนิผู้นำสหรัฐเมื่อจะมาเยือนอังกฤษตามคำเชิญของนายหรัฐมนตรีเมย์ ถึงแม้การที่ทรัมป์ให้ผู้นำอังกฤษเข้าพบเป็นคนแรกเป็นแสดงออกว่าทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์พิเศษก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ แคนาดายินดีรับผู้อพยพหลังทรัมป์งดรับ


ออตตาวา 29 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ยินดีต้อนรับชาวต่างชาติที่อพยพหนีสงครามและการกวาดล้าง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งงดรับผู้อพยพ 4 เดือน และห้ามชาวมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐชั่วคราว

นายกรัฐมนตรีทรูโด ทวีตว่า ถึงผู้ที่หนีการกวาดล้างและสงคราม ชาวแคนาดายินดีต้อนรับไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด เพราะความหลากหลายคือจุดแข็งของแคนาดา พร้อมกับติดแฮชแท็กว่า #WelcomeToCanada นอกจากนี้ยังได้ทวีตภาพตนเองต้อนรับผู้อพยพชาวซีเรียที่ท่าอากาศยานแคนาดา เมื่อปี 2558 นายกรัฐมนตรีทรูโดดำเนินนโยบายของรัฐบาลเสรีนิยม โดยหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์โดยตรง เจ้าหน้าที่เผยว่า ผู้นำแคนาดาจะหารือกับผู้นำสหรัฐเรื่องนโยบายคนเข้าเมืองและผู้อพยพ

ด้านโฆษกกระทรวงคมนาคมแคนาดา แจ้งว่า กำลังประสานงานกับกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐ เรื่องผลกระทบจากการที่ผู้นำสหรัฐมีคำสั่งฝ่ายบริหารงดรับผู้อพยพเป็นเวลา 4 เดือน และห้ามชาวมุสลิม 7 ประเทศเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว ยังไม่ชัดเจนว่า คำสั่งนี้จะทำให้นายอาเหม็ด ฮุสเซน รัฐมนตรีคนเข้าเมืองชาวแคนาดา ซึ่งเป็นผู้อพยพชาวโซมาเลีย เดินทางเข้าสหรัฐได้หรือไม่ ขณะที่สายการบินเวสต์เจ็ทของแคนาดา แจ้งว่า จะส่งกลับผู้โดยสารคนหนึ่งที่จะเดินทางเข้าสหรัฐ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ไม่ได้เปิดเผยประเทศต้นทางของผู้โดยสารคนนี้ เช่นเดียวกับสายการบินอื่นๆ ของแคนาดาที่ประกาศว่าจะงดให้ผู้โดยสารตามรายชื่อประเทศในคำสั่งผู้นำสหรัฐเดินทางไปสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียอวดโฉมเครื่องบินรบมิโคยัน


รัสเซีย 29 ม.ค. – รัสเซียนำเครื่องบินรบมิโคยัน ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ล่าสุดเป็นรุ่นที่ 4 ออกมาอวดสายตาชาวโลก

โดยให้ชื่อรุ่นมิก-35 และออกบินโชว์ที่สนามบินลูโกวิตซ์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก นายดมิตรี โรโกซิน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลอุตสาหกรรมการบินของรัสเซีย กล่าวชื่นชมเครื่องบินรบรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านราคา หรือสมรรถนะ เรียกได้ว่าไม่มีคู่แข่งในโลก เครื่องบินรบมิก-35 มีพิสัยการบินราว 3,000 กิโลเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 2,400 กิโลเมตร/ชั่วโมง บริษัท ยูไนเต็ด แอร์คราฟท์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตเครื่องบินมิก-35 กล่าวว่า เครื่องบินรุ่นนี้พร้อมจะผลิตจำหน่ายได้ในปี 2563.-สำนักข่าวไทย

รูเบิลรัสเซียแข็งค่าขึ้น เทียบกับปีก่อนที่อ่อนค่าเป็นประวัติการณ์


มอสโก 29 ม.ค.- รูเบิลรัสเซียแข็งค่าขึ้นมาก เทียบกับเดือนมกราคมปีก่อนที่อ่อนค่าเป็นประวัติการณ์ที่ 85 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ทางการรัสเซียต้องเร่งหาทางยับยั้งไม่ให้แข็งค่ามากไปเกิน

รูเบิลรัสเซียแข็งค่าขึ้นร้อยละ 40 จากปีก่อน อันเป็นผลจากราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น เศรษฐกิจรัสเซียเริ่มฟื้นตัว และแนวโน้มความสัมพันธ์กับตะวันตกจะดีขึ้นหลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ สวนทางกับปีก่อนที่อ่อนค่าลงมากเพราะราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนัก ประกอบกับรัสเซียถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรจากเรื่องยูเครน ทางการรัสเซียประกาศเมื่อวันพุธว่า จะใช้เงินส่วนเกินจากรายได้ในการส่งออกน้ำมันไปซื้อสกุลเงินต่างประเทศตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยให้เหตุผลอย่างเป็นทางการว่า ต้องการเพิ่มเงินสำรองเพื่อลดผลกระทบจากตลาดน้ำมันที่ผันผวน ประกาศนี้ส่งผลให้รูเบิลกลับไปอ่อนค่าที่ 60 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐทันทีในวันรุ่งขึ้น ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียยืนยันว่า จะให้รูเบิลลอยตัวเสรีต่อไป นักวิเคราะห์มองว่า เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการให้รูเบิลอ่อนค่าลง

ทางการรัสเซียเคยเข้าแทรกแซงเมื่อรูเบิลเริ่มอ่อนค่าลงในปี 2557 เพราะเงินที่อ่อนค่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การที่เงินอ่อนค่ามีข้อดีตรงที่ทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำมันสูงขึ้นเมื่อแปลงดอลลาร์สหรัฐเป็นรูเบิลและช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่สินค้าส่งออกรัสเซีย.-สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ให้เวลากองทัพ 30 วัน ร่างแผนปราบปรามไอเอส


วอชิงตัน 29 ม.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี ให้เวลากองทัพ 30 วัน ในการร่างยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

คำสั่งที่ลงนามเมื่อวันเสาร์ ขอให้มียุทธศาสตร์และแผนครอบคลุมในการปราบไอเอส โดยขอให้นายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม จัดทำข้อเสนอแนะเพื่อปรับเปลี่ยนกฎการปะทะและข้อจำกัดนโยบายของสหรัฐ เพื่อขจัดสิ่งที่นอกเหนือจากกฎหมายสากลเรื่องการใช้กำลังปราบปรามไอเอส และตัดน้ำเลี้ยงทางการเงินของกลุ่มนี้ เป็นไปตามที่นายทรัมป์ได้รับปากไว้ในการหาเสียงเลือกตั้ง และวิจารณ์ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้

พล.ท.เดวิด บาร์โน อดีตผู้บัญชาการกองกำลังร่วมอัฟกานิสถาน ปี 2546-2548 ให้ความเห็นก่อนหน้านั้นว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว จึงอาจส่งกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ไปยังอิรักและซีเรียมากขึ้น ซึ่งจะตามมาด้วยการสูญเสียที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันสหรัฐมีกำลังทหารในอิรัก 5,000 นาย และในซีเรีย 500 นาย ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา โดยส่งเครื่องบินและปืนใหญ่เข้าไปช่วยสนับสนุนการสู้รบด้วย.-สำนักข่าวไทย

เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสสุดท้ายปีก่อน หดตัวหนัก


สหรัฐ 28 ม.ค.- เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสสุดท้ายปีก่อน หดตัวหนัก ขยายตัวเพียง 1.9% ส่งผลทั้งปีเติบโตเพียง 1.6% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เผยแพร่รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ระบุขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.9 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.2 และลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีเดียวกัน ซึ่งขยายตัวถึงร้อยละ 3.5 ข้อมูลการขยายตัวที่ต่ำกว่าเป้านี้ ส่งผลให้จีดีพีของสหรัฐตลอดทั้งปีที่แล้วขยายตัวเพียงร้อยละ 1.6 เท่านั้น ลดลงถึงร้อยละ 1.0 เมื่อเทียบกับปี 2558 ถือเป็นการเติบโตของจีดีพีในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

เปรูกำลังประสบอุทกภัยอย่างหนัก


เปรู 28 ม.ค. – กระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จากฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวันทางตอนใต้ของเปรู ได้พัดรถยนต์ซึ่งผู้โดยสาร 3 คน ไปกระแทกเข้ากับรถบรรทุก ทำให้ผู้ที่ติดอยู่ในรถทั้งหมดเสียชีวิต

ขณะที่มีรายงานว่า มีรถอีกหลายคันถูกติดอยู่ท่ามกลางน้ำที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากน้ำในแม่น้ำหลายแห่งได้ยังล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนริม 2 ฝั่งแม่น้ำ ส่วนดินบนภูเขาที่อุ้มน้ำไม่ไหวได้ถล่มลงมาพร้อมกับก้อนหิน ทางการต้องประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังดินโคลนถล่มและฝนตกหนักต่อไปอีกหลายวัน.- สำนักข่าวไทย

อินเดียเตือนภัยหิมะถล่มในหลายพื้นที่


อินเดีย 27 ม.ค.- รัฐบาลท้องถิ่นในแคชเมียร์ของอินเดียออกประกาศเตือนภัยอาจมีหิมะถล่มในหลายพื้นที่

รัฐบาลท้องถิ่นในแคชเมียร์ของอินเดียออกประกาศเตือนภัยอาจมีหิมะถล่มในหลายพื้นที่ เนื่องจากหิมะตกหนัก จนทำให้เกิดไฟฟ้าดับ และสายโทรศัพท์ขาดทางการต้องอพยพประชาชนหลายร้อยคนไปยังที่ปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์หิมะถล่ม 2 เหตุการณ์ในแถบภูเขาหิมาลัยนั้นจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 14 คนแล้ว หลังจากพบศพทหารอินเดียอีก 4 ศพ ส่วนเหตุหิมะถล่มในเขตกูเรซนั้น ได้ถล่มทับค่ายทหาร และหน่วยลาดตระเวนของทหารอินเดียถูกฝังทั้งเป็นถึง 21 นาย ช่วยออกมาได้เพียง 7 นาย นอกจากนั้นหิมะที่ตกอย่างหนัก ยังทำให้หน่วยกู้ภัยต้องยุติการค้นหาซากศพเป็นการชั่วคราวด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำสหรัฐคนใหม่มีแผนหารือทางโทรศัพท์กับผู้นำหลายประเทศทั่วโลก


วอชิงตัน 28 ม.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐจะได้หารือทางโทรศัพท์กับผู้นำ 6 ประเทศพันธมิตรจากทั่วโลกในวันเสาร์ ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ผู้นำต่างชาติคนแรกที่ได้พบกับนายทรัมป์ภายหลังจากชนะการเลือกตั้งสหรัฐ

กำหนดการหารือกันมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่นายทรัมป์ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าข้ามแปซิฟิก(ทีพีพี) ซึ่งมีสมาชิกหลายสิบประเทศ และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้การสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว อย่างไรก็ตามนายอาเบะกล่าวว่า เขาจะพิจารณาแนวทางที่ญี่ปุ่นและสหรัฐจะได้ทำข้อตกลงการค้าสองฝ่ายกัน ซึ่งนายทรัมป์บอกว่ายินดีที่จะทำการค้าทวิภาคีมากกว่าแบบพหุภาคี นายกรัฐมนตรีอาเบะเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่เร่งพบหารือกับนายทรัมป์หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้เพียง 9 วันเมื่อปีที่แล้ว .- สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

อุทกภัยภาคใต้ พบ 8 จังหวัด ยังท่วมขัง ภาพรวมดีขึ้น


เหตุอุทกภัยภาคใต้ พบ 8 จังหวัดยังท่วมขัง โดยเฉพาะจุดลุ่มต่ำ ภาพรวมดีขึ้นแต่ทะเลหนุนทำระบายช้า

ฝ่ายประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ประจำวันที่ 29 มกราคม 2560 ว่า ขณะนี้ยังมีพื้นที่ที่ประสบภาวะน้ำท่วมขังอยู่ทั้งหมด 8 จังหวัดประกอบด้วย 1.จ.สุราษฏร์ธานี ยังมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำของ อ.เคียนซา, พุนพิน และ บ้านนาเดิม โดยที่อ.เคียนซา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.38 เมตร ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และจะทรงตัวตามลําดับ ขณะที่อ.พุนพิน ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.58 เมตร (ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) แต่ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม

ส่วนที่ อ.เมือง ระดับน้ำกว่าตลิ่งไม่มีผลกระทบ คงเหลือน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ประมาณ 16,500 ไร่ 2.จ.ตรัง มีน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำ 1 อําเภอ คือ วังวิเศษ สูงประมาณ 70 เซนติเมตร 3.จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง (ปากพนัง เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด) โดยจุดลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วมขัง 40 - 50 เซนติเมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือประมาณ 382 ล้านลูกบาศก์เมตร 4.จ.พัทลุง มีน้ำท่วม บริเวณ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลาและเป็นจุดรองรับน้ำจากทางเหนือมารวมกัน 5.จ.สงขลา มีน้ำท่วม ทั้งหมด 4 อําเภอ ได้แก่ อ.ระโนด, กระแสสินธุ์, สทิงพระ และ สิงหนคร สูงประมาณ 10 - 30 เซนติเมตร

เบื้องต้นพบระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่น้ำท่วมเป็นพื้นที่การเกษตรว่างเปล่า ประมาณ 37,000 ไร่ คาดว่าระดับน้ำจะทรงตัว และต้องอาศัยเวลาอีกระยะจึงจะสามารถระบายน้ำทั้งหมดออกจากพื้นที่ลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ 6.จ.นราธิวาส ลุ่มน้ำโก-ลก, บางนรา และ สายบุรี ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำ 7 อำเภอ คือ อ.เมือง, สุไหงปาดี, สุไหงโก-ลก, ตากใบ, เจาะไอร้อง, ยี่งอ และ บาเจาะ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทะเลหนุนในบางช่วงเวลา คาดว่าระดับจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 31 ม.ค.60 หากไม่มีฝนตกเพิ่ม 7.จ.ปัตตานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ 7 อําเภอ คือ อ.เมือง, ยะรัง, ปะนาแระ, หนองจิก, ยะหริ่ง, ไม้แก่น และ ทุ่งยางแดง 8.จ.ยะลา 1 อําเภอ คือ อ.รามัน ซึ่งล่าสุดสถานการณ์น้ำของทั้ง 2 จังหวัด มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

นายกชาวนาฯ ชงโครงการกู้ยืมเมล็ดพันธุ์ ช่วยน้ำท่วมใต้


นายกชาวนาฯ เสนอโครงการกู้ยืมเมล็ดพันธุ์ ช่วยเกษตรกรประสบปัญหาน้ำท่วมภาคใต้

นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า หลังเกิดปัญหาอุทกภัยอย่างหนักในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าว ได้รับความเสียหาย แม้ว่ารัฐบาลจะมีการสนับสนุนเงินทุนช่วยเหลือเบื้องต้น แต่จำนวนเงินดังกล่าวไม่น่าจะเพียงพอกับความต้องการของชาวนา นอกจากนี้ ยังพบว่ามีชาวนาหลายรายไม่ผ่านกฎเกณฑ์การช่วยเหลือจากภาครัฐ เนื่องจากที่นาไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพราะลงทุนเช่าที่นาคนอื่นปลูกข้าว ทำให้ต้องสูญเสียผลผลิตทั้งหมดไปโดยไม่ได้รับเงินเยียวยา

ล่าสุด สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้หารือร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปแนวทางการช่วยเหลือ แบบให้ชาวนาได้พึ่งพาตัวเอง ผ่านโครงการกู้ยืมเมล็ดพันธุ์ข้าวกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งจะมีการนำเสนอไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

สำหรับโครงการดังกล่าวมีรูปแบบ คือ การให้ชาวนามารวมกลุ่มกันทำนาแปลงใหญ่ ขั้นต่ำ 300 ไร่ โดยเมื่อรวมกันได้แล้วจึงจะสามารถทำเรื่องขอกู้เงินตามหลักเกณฑ์ ของ ธ.ก.ส. ได้ ซึ่งระยะเวลาในการชำระหนี้ จะอยู่ที่ 3 ปี และไม่มีดอกเบี้ย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาให้ได้มีเงินทุนสำหรับนำไปจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรของตนเอง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโครงการกู้ยืมเมล็ดพันธุ์ข้าว ยังไม่ผ่านการลงมติจาก ครม. แต่ก็คาดหวังว่า รัฐบาลจะมีมติเห็นชอบ ซึ่งชาวนามีความเข้าใจว่าทุกหน่วยงานมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ชาวนาก็มีความตั้งใจที่จะพึ่งพาตนเองโดยไม่ขอรับการสนับสนุนเงินเพิ่ม แต่จะเป็นการกู้ยืมเงินแทน

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

ชาวนาพัทลุงหลายรายไม่ผ่านเกณฑ์ช่วยน้ำท่วมวอนช่วย


ชาวนาพัทลุงหลายรายไม่ผ่านเกณฑ์เยียวยาช่วยน้ำท่วม เหตุเช่าพื้นที่ทำกิน - ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร วอนช่วย

ชาวนาใน จ.พัทลุง ต้องทำใจ หลังจากน้ำท่วมหนักจนนาข้าวได้รับความเสียหาย แต่ไม่ผ่านกฎเกณฑ์การช่วยเหลือจากภาครัฐ เนื่องจากที่นาไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพราะลงทุนเช่าที่นาคนอื่นปลูกข้าว และไม่คาดคิดว่าปีนี้น้ำจะท่วมหนักจนนาข้าวได้รับความเสียหายทั้งหมด

โดน นายสุชน เขมะชัยเวช อายุ 50 ปี พร้อมภรรยา ได้นำข้าวที่เกี่ยวหนีน้ำจำนวน 8 ไร่ มาตากแดดไว้ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา แต่หลังจากนำมาตากแดดให้แห้งกลับไม่มีแสงแดดให้ตาก จนกระทั่งวันนี้มีแสงแดดออก จึงได้นำข้าวตากแดดให้แห้งอีกครั้ง แต่พบว่าข้าวที่ตากแดดและเตรียมที่จะนำไว้กินเองกลับได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่ก็ต้องจำใจตากแดดให้แห้งเผื่อว่าจะขายได้ในราคากิโลกรัมละ 1 - 2 บาท ให้กับเพื่อนบ้านเพื่อนำไปใช้เป็นอาหารเป็ดนั้น

ซึ่ง นายสุชน กล่าวว่า ลงทุนเช่าที่นาจำนวน 48 ไร่ เพื่อปลูกข้าวพันธุ์สังข์หยด และกำลังจะเกี่ยวข้าวในช่วงวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา และกำลังมีหวังจากการลงทุนลงแรงในรอบนี้ แต่ข้าวที่กำลังสุกถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้งหมด และเกี่ยวขึ้นมาได้ 8 ไร่ ก็เจอสภาพอย่างที่เห็น ซึ่งตนเองต้องทำใจ เพราะนาข้าวทั้งหมด เช่าที่นาของคนอื่น และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรเอาไว้ จึงไม่ได้รับค่าชดเชยแต่อย่างใด เพราะคิดว่าน้ำจะไม่ท่วมหนักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

แต่เจอรอบนี้เหมือนหมดตัว หมดกำลังใจ จากการลงทุนไปไร่ละ 4,000 บาท เห็นเงินอยู่ต่อหน้า แต่เพียงไม่กี่วันความหวังก็พังลงไป โดยนาข้าวที่เหลือยังไม่ตัดอีก 40 ไร่ ก็ต้องไถ่ทิ้ง เพราะไม่สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว และยิ่งซ้ำร้ายที่ตัดมาไว้ 8 ไร่ ก็ยังไม่ได้จ่ายค่าเกี่ยวไร่ละ 500 บาทอีกด้วย ซึ่งตนอยากวอนทางราชการช่วยชดเชยให้นิดเพื่อจะได้มีทุนในการปลูกข้าวนาปรังต่อไป

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

ชาวพัทลุงเพาะชำผักสวนครัว รอน้ำลดเตรียมปลูกขาย


ชาวพัทลุงเพาะชำพริก, ผักสวนครัว รอวันน้ำลดเตรียมปลูกขายสร้างรายได้ชดเชย

ชาวบ้านหมู่ 4 ต.พะนางตุง อ.ควนขนุน และชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง เร่งเพาะชำพริก มะเขือ และผักสวนครัวอื่น ๆ เพื่อรอวันน้ำที่ท่วมขังลดลง สำหรับทำการปลูกพืชระยะสั้น สร้างรายได้ หลังก่อนหน้านี้ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพปลูกผักส่งขายเป็นแหล่งใหญ่ของจังหวัด โดยพืชผักที่ได้จะส่งขายในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และส่งไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งสร้างรายได้หลักให้กับชาวบ้านที่นี่มานาน แต่ผักที่ปลูกไว้รอบก่อนกำลังเก็บผลผลิตถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหาย จึงเร่งเพาะพันธุ์ขึ้นมาใหม่หวังว่าอีกประมาณ 1 เดือน ระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งจากจะชื้อพันธุ์ที่มีการเพาะขายต้องลงทุนมาก จึงหันมาเพาะเอง

โดย นางกาญจนา ทองเต็ม อายุ 50 ปี ชาวบ้าน หมู่4 ต.พะนางตุง กล่าวว่า ทุกปีในช่วงนี้ชาวบ้านที่นี่จะได้เก็บพริกและพืชผักส่งขายแล้ว แต่ปีนี้พืชผักที่ปลูกไว้กลับจมนำได้รับความเสียหายจนไม่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงได้เตรียมพันธุ์พริกพันธุ์ผักไว้ลงปลูกใหม่อีกรอบ เพื่อสร้างรายได้กลับมาชดเชยในส่วนที่ขาดหาย

ขณะที่เกษตรชาวสวนยางในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ที่ได้หยุดกรีดมานานเกือบ 3 เดือน ในวันนี้ หลังฝนหยุดตกและมีแสงแดดเริ่มเปิดหน้ายางใหม่อีกครั้ง เพื่อหวังที่จะรีบขายเพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว แม้บางราย สวนยางพาราจะมีน้ำท่วมขังแต่ก็จำเป็นต้องกรีด เพราะไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน บวกกับราคาน้ำยางพาราในช่วงนี้มีราคาที่สูงขึ้นจากเมื่อวาน ที่จุดรับชื้อเปิดรับชื้อ กิโลกรัมละ 88 บาท แต่ในวันนี้ราคาเพิ่มขึ้น เปิดรับชื้อที่กิโลกรัมละ 90 บาท จึงเป็นความหวังของชาวสวนยางพัทลุง ที่ต้องเร่งเปิดกรีด ก่อนยางพาราจะผลัดใบช่วงเดือนเมษายน ที่จะถึง

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

อ.พุนพิน เหลือท่วม 3 ตำบล จับตาน้ำเหนือจากนครศรีฯ


อ.พุนพิน เหลือน้ำท่วมขัง 3 ตำบล จาก 16 ตำบล จับตาน้ำเหนือไหลจากนครศรีฯ ขณะพบบ้านเสียหาย 120 หลัง เกษตรกระทบ 2 หมื่นไร่

นายจเร ขวัญเกิด นายอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า วันนี้(29 ม.ค.) สถานการณ์อุทกภัยล่าสุดคลี่คลายลงไปมากแล้ว เหลือเพียง 3 ตำบล จาก 16 ตำบล ที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ เพราะเป็นพื้นที่ริมแม่น้ำตาปี ประกอบด้วย ตำบลกรูด 1 หมู่บ้าน ตำบลท่าสะท้อน 2 หมู่บ้าน ตำบลท่าข้าม 3 หมู่บ้าน ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังในระดับเฉลี่ย 30-40 เซ็นติเมตร

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นห่วงในเรื่องน้ำเหนือที่ไหลมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำตาปี แล้วไหลมาทางอำเภอพระแสง อำเภอเคียนซา และมาออกทะเลที่อำเภอพุนพิน ดังนั้นคาดการณ์ว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์จะกลับสู่ภาวะปกติหมดทั้งอำเภอ โดยในช่วงนี้บางพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงสำรวจความเสียหาย พบว่าขณะนี้มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหมด 120 หลัง แบ่งเป็นเสียหายทั้งหลัง 2 หลัง เสียหายบางส่วน 118 หลัง สำหรับพืชผลทางเกษตร ที่ส่วนใหญ่จะปลูกยางพารากับปาล์มน้ำมัน ได้รับผลกระทบประะมาณ 20,000 ไร่ แต่จะเสียหายมากน้อยขนาดไหนหลังน้ำลดเสียก่อน จึงจะเข้าไปสำรวจอย่างละเอียดและได้ตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

แม่น้ำตาปีที่พระแสงลดลง-เคียนซาเพิ่มสูงขึ้น


ปภ.สุราษฎร์ฯ เผย ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำตาปีที่สถานีพระแสงลดลงเล็กน้อย ขณะที่เคียนซาเพิ่มสูงขึ้น

นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงระดับน้ำในแม่น้ำตาปีเช้านี้ (28 ม.ค.60) เวลา 05.45 น. ที่สถานีวัดระดับน้ำพระแสง TD07 จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ที่ระดับ 10.37 เมตร (รทก.) หรือ 6.24 เมตร ปริมาณน้ำฝน 0 มม. ระดับน้ำลดจากเมื่อวาน 0.04 เมตร สูงกว่าระดับวิกฤติ 0.24 เมตร (ระดับวิกฤติ 10.13 ม.(รทก.)

ขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำตาปี ที่เคียนซาT D13 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 05.45 น. อยู่ที่ระดับ 6.08 เมตร (รทก.)หรือ 5.58 เมตร ปริมาณน้ำฝน 0 มิลลิเมตร ระดับน้ำเพิ่มจากเมื่อวาน 0.10 เมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 0.21 เมตร (ระดับวิกฤติ 6.290 ม.(รทก.)

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

นครศรีฯ สรุปอุทกภัย น้ำซัดบ้านเสียหาย 1,786 หลัง


อุทกภัยนครศรีธรรมราชคลี่คลาย เหลือท่วมขังลุ่มต่ำบางอำเภอ สรุปบ้านเสียหายทั้งหลัง 98 หลัง เสียหายบางส่วน จำนวน 1,688 หลัง

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพโดยรวมของสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่ระดับน้ำได้ลดเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว รวมทั้งในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชด้วย ยังเหลือเพียงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนของอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง เชียรใหญ่ หัวไทร ชะอวด เฉลิมพระเกียรติ ร่อนพิบูลย์ ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นมีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่ผ่านมา จำนวน 1,786 หลัง แบ่งเป็นบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง จำนวน 98 หลัง เสียหายบางส่วน จำนวน 1,688 หลัง

ในจำนวนนี้ได้ดำเนินการซ่อมแซมเองไปแล้ว จำนวน 1,475 หลัง และขอรับความช่วยเหลือ จำนวน 147 หลัง ส่วนการช่วยเหลือกรณีบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลังที่สามารถดำเนินการได้เลย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช จะเข้าดำเนินการก่อสร้าง จำนวน 20 หลัง ในพื้นที่อำเภอสิชล 13 หลังและอำเภอนบพิตำ 7 หลัง ส่วนพื้นที่อื่นๆ ทางหน่วยทหารในพื้นที่รวมทั้งเรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และสถานศึกษาในสังกัดของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษาพร้อมดำเนินการ ซึ่งพื้นที่ใดที่มีความพร้อมก่อนก็จะสามารถเข้าดำเนินการก่อนได้ทันที

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุฯเผย ไทยตอนบนหนาวเย็น ใต้มีฝนลดลง


กรมอุตุนิยมวิทยา เผย ไทยตอนบนอากาศหนาวเย็น ภาคใต้มีฝนลดลง กทม.อากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศ ทัวไป วันที่ 29 มกราคม 2560 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนลดลงในระยะนี้

สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เวลา 17:00 น.วันนี้ - 17:00 น.วันพรุ่งนี้ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2560

 

จับตาเตือนภัย "คลื่นกระแสลมทำไทยตอนบนหนาวเย็นลงอีก"​

เผยแพร่เมื่อ 28 ม.ค. 2017​

สภาพอากาศในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เนื่องจากฝนในพื้นที่ภาคใต้ลดลงแล้ว ในขณะที่พื้นที่ทางตอนบนของประเทศก็ได้สัมผัสอากาศที่ยังคงเย็นลงอย่างต่อเนื่อง จุดไหนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามรายละเอียดได้ในจับตาเตือนภัย

 

เบื้องลึก !! ฟองสบู่แตก เศรษฐกิจจะพัง​

เผยแพร่เมื่อ 18 ต.ค. 2016​

 

เบื้องลึก !! สหรัฐซื้ออาวุธล๊อตใหญ่จ่อสงคราม?​

เผยแพร่เมื่อ 28 ม.ค. 2017​

 

สหรัฐ-เกาหลีใต้ประกาศยกระดับป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ


วอชิงตัน 30 ม.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฮวาง คโย-อันห์ รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ประกาศยกระดับความร่วมมือในการป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เน้นย้ำในพันธสัญญาที่จะป้องกันเกาหลีใต้ผ่านการใช้มาตรการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร โดยผู้นำของทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือด้านกลาโหมในการป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ในช่วงระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง นายทรัมป์ขู่ที่จะถอนกำลังทหารออกจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หากทั้ง 2 ประเทศไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม พล.อ. เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ของสหรัฐมีกำหนดที่จะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ในวันพุธ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้ โดยทำเนียบขาวยืนกรานว่า กำหนดการเยือนเกาหลีใต้ของพล.อ. แมททิสในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง 2 ประเทศ รวมถึงแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้.-สำนักข่าวไทย

นางงามฝรั่งเศสคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2016


มะนิลา 30 ม.ค.- อิริส มิตเตอแนร์ นางงามฝรั่งเศส วัย 24 ปี คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2016 ขณะที่น้องน้ำตาล น.ส.ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 ทำได้ดีที่สุดด้วยการเข้ารอบ 6 คนสุดท้ายและมีคะแนนโหวตสูงสุดเป็นอันดับ 5

นางงามที่คว้ามงกุฎรองอันดับหนึ่งได้แก่ ราเคล เปลิซิเอร์ นางงามเฮติ วัย 24 ปี รองอันดับสองได้แก่ อันเดร โตวา นางงามโคลอมเบีย วัย 23 ปี

ขณะที่ผลโหวตปรากฏว่านางงามเฮติได้มากที่สุด ตามด้วยนางงามฝรั่งเศส นางงามโคลอมเบีย นางงามฟิลิปปินส์และนางงามไทย ส่วนนางงามเมียนมาร์คว้ารางวัลชุดประจำชาติที่หนักถึง 40 กิโลกรัม

การประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 65 มีขึ้นที่มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์.-สำนักข่าวไทย

ระบบคอมพิวเตอร์ของเดลตาล่ม ประกาศระงับเที่ยวบิน


วอชิงตัน 30 ม.ค. – สายการบินเดลตาแอร์ไลน์ส หนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ประกาศระงับเที่ยวบินภายในประเทศชั่วคราว หลังเผชิญปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ล่ม

สายการบินแอร์แอตแลนตา ซึ่งมีฐานอยู่ที่รัฐจอร์เจียของสหรัฐแถลงว่า ทีมงานของสายการบินเดลตากำลังพยายามแก้ไขระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องอย่างเร่งด่วน โดยปัญหาดังกล่าวส่งผลให้เที่ยวบินขาออกล่าช้า แต่เที่ยวบินที่ออกเดินทางไปแล้วไม่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ ทางการสายการบินได้ออกประกาศขอโทษบรรดาผู้โดยสารต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้านสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) ออกประกาศคำแนะนำระบุว่า สาเหตุการระงับเที่ยวบินในครั้งนี้เกิดจากปัญหาด้านระบบอัตโนมัติ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ส่งผลให้สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สประกาศระงับเที่ยวบินภายในประเทศทุกเที่ยวเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

มือปืนบุกยิง 5 ศพ ที่มัสยิดในแคนาดา


ควิเบกซิตี 30 ม.ค.- สื่อแคนาดารายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายกลุ่มหนึ่งบุกเข้าไปยิงในมัสยิดเมืองควิเบกซิตี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน บาดเจ็บหลายคน

บรรษัทกระจายเสียงแคนาดา (ซีบีซี) รายงานอ้างตำรวจควิเบกซิตีว่า เหตุเกิดหลังเวลา 20.00 น.วันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08.00 น.วันจันทร์ตามเวลาในไทย มีคนจำนวนมากกำลังละหมาดอยู่ในศูนย์วัฒนธรรมอิสลามแห่งควิเบก อย่างไรก็ดี ตำรวจไม่ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต ด้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็น คนร้าย 2 คน ขณะที่นายฟิลิป กูลาร์ด มุขมนตรีรัฐควิเบกทวีตหลายข้อความให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่าทางการจะดูแลความปลอดภัย ไม่ยอมรับการก่อความรุนแรงป่าเถื่อน และแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับชาวมุสลิม

ศูนย์วัฒนธรรมอิสลามแห่งควิเบกหรือที่รู้จักในชื่อมัสยิดใหญ่แห่งควิเบกเคยตกเป็นเป้าหมายแห่งความเกลียดชังมาแล้ว มีผู้นำหัวหมูไปไว้หน้าประตูในช่วงการถือศีลอดเดือนรอมฎอนเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

ทางการมาเลเซียขยายพื้นที่ค้นหาผู้ประสบเหตุเรือล่มอีก 6 คน


กัวลาลัมเปอร์ 30 ม.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งขยายพื้นที่ค้นหานักท่องเที่ยวชาวจีน 5 คนและลูกเรือชาวมาเลเซีย 1 คน ที่ยังคงสูญหาย หลังเกิดเหตุเรืออับปางกลางทะเลบริเวณนอกชายฝั่งด้านตะวันออกของมาเลเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โฆษกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลของมาเลเซียเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ขยายพื้นที่การค้นหาผู้สูญหายอีก 6 คน ครอบคลุม 1,500 ตารางไมล์ทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ราว 100 คน รวมถึงมีการใช้เครื่องบิน C130 และเฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยค้นหาบริเวณน่านน้ำของบรูไน ผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ประสบเหตุเรือคาตามารันอับปางบริเวณนอกชายฝั่งรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียวระหว่างเดินทางจากเมืองโกตากินะบะลู ไปยังเกาะเมองาลุมซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำชื่อดังเมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา

ภายหลังได้รับรายงานเรือลำดังกล่าวสูญหาย เจ้าหน้าที่เร่งออกค้นหาผู้รอดชีวิตทั้งหมดทันที แต่เผชิญอุปสรรคลมแรงและคลื่นสูง อุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตแล้ว 3 คน ขณะที่อีก 20 คนได้รับความช่วยเหลือและถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลในเมือง กัปตันเรือซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตอธิบายสาเหตุที่ทำให้เรืออับปางว่า เกิดจากคลื่นแรงในทะเลทำให้เรือได้รับความเสียหายและจมลง.- สำนักข่าวไทย

นายกฯ แคนาดาประณามเหตุยิงในมัสยิดเป็นการก่อการร้ายต่อชาวมุสลิม


ควิเบกซิตี 30 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาประณามเหตุกลุ่มคนร้ายบุกยิงคนกำลังละหมาดในมัสยิดเมืองควิเบกซิตีเมื่อค่ำวันอาทิตย์ว่า เป็นการก่อการร้ายต่อชาวมุสลิม

นายกรัฐมนตรีทรูโดแถลงว่า ขอประณามการก่อการร้ายต่อชาวมุสลิมในสถานที่ศักดิ์สิทธิ ชาวแคนาดามุสลิมถือเป็นส่วนสำคัญในความเป็นประเทศ การกระทำไร้เหตุผลดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ด้านตำรวจรัฐควิเบกยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน อายุตั้งแต่ 35 ถึง 70 ปี มีผู้บาดเจ็บ 8 คน ปลอดภัย 39 คน จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ก่อนหน้านี้ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้าย 3 คน บุกเข้ามากราดยิงในศูนย์วัฒนธรรมอิสลามควิเบกซิตีขณะมีคนอยู่ประมาณ 40 คน กระแสต่อต้านอิสลามในรัฐควิเบกรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ชาวควิเบกส่วนใหญ่สนับสนุนให้ห้ามสตรีมุสลิมสวมนิกอบหรือผ้าปิดหน้า ซึ่งเป็นประเด็นในการเลือกตั้งระดับประเทศปี 2558

ขณะเดียวกันนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กของสหรัฐเผยว่า ตำรวจเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยตามมัสยิดต่าง ๆ หลังเกิดเหตุร้ายที่แคนาดา และขอให้ชาวนิวยอร์กระมัดระวังตัว รวมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อพบเห็นสิ่งผิดปกติ.-สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ปรับท่าทีสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน


วอชิงตัน 30 ม.ค. – ทำเนียบขาวของสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐประกาศจุดยืนร่วมกับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียในการสนับสนุนให้มีการบังคับใช้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอย่างเข้มงวด

ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและกลุ่มมหาอำนาจ 6 ชาติ รวมถึงสหรัฐ ว่าต้องการที่จะคว่ำข้อตกลงดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวแถลงวานนี้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานต่างต้องการให้มีการบังคับใช้ข้อตกลงดังกล่าวอย่างเข้มงวด โดยในช่วงระหว่างการสนทนาของทั้งคู่ มีการพูดคุยถึงการจัดการกับอิหร่านที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ทำลายความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงแนวทางการรับมือกับภัยก่อการร้ายจากกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง และการจัดตั้งเขตปลอดภัยในซีเรียและเยเมน

ด้านสำนักข่าวเอสพีเอของทางการซาอุดีอาระเบียยืนยันวันนี้ว่า นายทรัมป์โทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานจริง โดยผู้นำของทั้ง 2 ประเทศแสดงจุดยืนร่วมกันในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับผู้ที่ต้องการทำลายความมั่นคงและความมีเสถียรภาพในภูมิภาค และผู้ที่พยายามแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องให้มีการสร้างกลไกในการต่อต้านภัยก่อการร้ายและรับมือพวกลัทธิหัวรุนแรง

เอสพีเอรายงานอีกว่า นายทรัมป์และสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานตกลงที่จะเดินทางเยือนเมืองหลวงตามคำเชิญของกันและกันในอนาคตอันใกล้.- สำนักข่าวไทย

อุบัติเหตุทางถนนวันตรุษจีนเวียดนามคร่าชีวิต 23 ศพ


ฮานอย 30 ม.ค.- เวียดนามเกิดอุบัติเหตุทางถนน 36 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 23 คน บาดเจ็บ 32 คน เฉพาะวันตรุษจีนวันเดียว ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่การฉลองเทศกาลนี้มักกินเวลานาน 1 สัปดาห์

เว็บไซต์ต่วยแฉนิวส์ รายงานว่า ชาวเวียดนามเริ่มฉลองเทศกาลตรุษจีนที่เรียกว่าเท็ต ตั้งแต่วันเสาร์ และมักเกิดอุบัติเหตุทางถนนอยู่เสมอ สาเหตุหลักเกิดจากการดื่มสุราฉลองจนเมามายแล้วขับรถ เทศกาลเท็ตปีนี้ ตำรวจจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรแล้ว 1,390 ราย ยึดใบอนุญาตขับขี่ 68 ราย และยึดยวดยาน 473 คัน ส่วนวันขึ้นปีใหม่สากล 1 มกราคมปีนี้ เกิดอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ 34 ครั้ง เสียชีวิต 33 คน บาดเจ็บ 22 คน เพิ่มขึ้นมากจากวันขึ้นปีใหม่ปีก่อนที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน 27 ครั้ง เสียชีวิต 23 คน บาดเจ็บ 9 คน

ต่วยแฉนิวส์ ระบุว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ทางการเวียดนามมานาน เพราะได้พยายามมาทุกวิธีที่จะลดยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่ได้ผล ปีที่แล้วทั้งปีเกิดอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ 21,094 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 8,417 คน.-สำนักข่าวไทย

หนังสือร้องเรียนให้อังกฤษถอนการเชิญทรัมป์มีคนลงชื่อเกือบล้านแล้ว


ลอนดอน 30 ม.ค.- มีผู้ลงนามเกือบล้านคนแล้วในหนังสือร้องเรียนให้รัฐบาลอังกฤษถอนการเชิญประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐมาเยือนและเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

การล่ารายชื่อหนังสือร้องเรียนเริ่มขึ้นก่อนที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษยกระดับคำเชิญทรัมป์เป็นการเยือนระดับประมุขของรัฐเมื่อวันศุกร์ ซึ่งหมายถึงเป็นการเชิญจากสมเด็จพระราชินีนาถ กระแสต่อต้านไม่ให้ทรัมป์มาเยือนอังกฤษรุนแรงขึ้นเมื่อผู้นำคนใหม่ของสหรัฐลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาห้ามผู้อพยพและคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว จนถึงขณะนี้มีผู้ลงชื่อในหนังสือร้องเรียนแล้ว 930,000 ชื่อ เนื้อหาระบุว่า นายทรัมป์สามารถเข้าสหราชอาณาจักรในฐานะหัวหน้ารัฐบาลสหรัฐ แต่ไม่ควรได้รับเชิญให้มาเยือนระดับประมุขของรัฐ เพราะจะทำให้สมเด็จพระราชินีนาถเสื่อมเสียพระเกียรติ กฎหมายอังกฤษบัญญัติไว้ว่า หากหนังสือร้องเรียนมีรายชื่อเกิน 100,000 ชื่อ รัฐสภาจะต้องพิจารณาเปิดอภิปราย สมาชิกรัฐสภาอังกฤษทั้งรัฐบาลฝ่ายค้านล้วนวิจารณ์การกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์

ด้านกระทรวงต่างประเทศอังกฤษแถลงหลังจากนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศหารือกับรัฐบาลสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า คำสั่งของทรัมป์มีผลเฉพาะกับผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐโดยตรงจากอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรียและเยเมน ส่วนผู้ที่เดินทางจากประเทศอื่นจะไม่รวมอยู่ในคำสั่งนี้และจะไม่ถูกตรวจพิเศษ ไม่ว่าจะมีสัญชาติใดหรือเกิดในประเทศใด ขณะที่ผู้ถือสองสัญชาติอาจถูกตรวจพิเศษหากเดินทางเข้าสหรัฐโดยตรงจาก 7 ประเทศข้างต้น เช่น ผู้ถือสัญชาติอังกฤษและลิเบียที่เดินทางเข้าสหรัฐโดยตรงจากลิเบีย.-สำนักข่าวไทย

ดูเตอร์เตขู่สหรัฐเผยกำลังพิจารณายกเลิกข้อตกลงปี 57


ฟิลิปปินส์ 30 ม.ค.-ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ เผยกำลังพิจารณายกเลิกข้อตกลงปี 2557 เปิดทางให้กองกำลังสหรัฐประจำการชั่วคราว อยู่ในฐานทัพของฟิลิปปินส์

และปัจจุบันกองทัพสหรัฐ ได้สร้างคลังเก็บอาวุธไว้ที่ฐานทัพ 3 แห่งในฟิลิปปินส์ นายดูเตอร์เตอ้างไม่อยากให้ฟิลิปปินส์เข้าไปพัวพัน และตกอยู่ในความเสี่ยงหากเกิดการสู้รบระหว่างจีนกับสหรัฐ ขณะที่ยังไม่มีท่าทีจากสหรัฐนายดูเตอร์เต เคยแสดงความไม่พอใจที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์ดำเนินมาตรการปราบปรามยาเสพติดของเขา ที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายพันคน.-สำนักข่าวไทย

เอมิเรตส์ปรับทีมต้อนรับบนเครื่อง หลังทรัมป์ห้ามคนจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐ


ดูไบ 30 ม.ค. – สายการบินเอมิเรตส์ปรับทีมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ

เอมิเรตส์แถลงว่า ได้มีการปรับเปลี่ยนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบล่าสุด หลังทรัมป์ประกาศห้ามพลเมืองจากอิรัก ซีเรีย อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน และเยเมน เดินทางเข้าสหรัฐ คำสั่งดังกล่าวส่งผลให้ผู้เดินทางไปยังสหรัฐราว 300 คน ต้องถูกควบคุมตัวและกันไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ จนเป็นเหตุให้เกิดการประท้วงหลายแห่งทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เอมิเรตส์ระบุว่า ล่าสุดยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของสายการบินได้รับผลกระทบจากนโยบายควบคุมคนเข้าเมืองของสหรัฐ และว่า สายการบินยังคงให้บริการเที่ยวบินในสหรัฐได้ตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

ผู้เสพยาเสพติดเวียดนามหนีสถานบำบัดร่วมร้อยคน


ฮานอย 30 ม.ค.- เจ้าหน้าที่เวียดนามแจ้งว่า ผู้เสพยาเสพติดร่วมร้อยคนหนีออกจากสถานบำบัดทางตอนใต้ของประเทศในวันนี้ ตามกลับมาได้แล้ว 74 คน

เจ้าหน้าที่จังหวัดลองอัน แจ้งว่า เหตุเกิดช่วงบ่ายวันอาทิตย์ ผู้รับการบำบัดบางคนหนีไปซ่อนตัวในทุ่งนา ป่า หรือหนีไปทางถนน ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่พอใจที่ไม่ได้กลับบ้านฉลองเทศกาลตรุษจีนที่เวียดนามเรียกว่าเท็ต จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตามกลับมาได้แล้ว 74 คน ที่เหลือกำลังเร่งค้นหา สถานบำบัดแห่งนี้มีผู้เสพยาเสพติดทั้งหมด 169 คน เกือบทั้งหมดถูกบังคับให้รับการบำบัด มีเพียง 7 คน ที่มาบำบัดด้วยความสมัครใจ

เวียดนามบังคับให้ผู้เสพยาเสพติดต้องเข้าสถานบำบัดสูงสุด 2 ปี แต่กลุ่มสิทธิฯ ร้องเรียนว่า สภาพภายในสถานบำบัดแออัดและย่ำแย่มาก ที่ผ่านมาเกิดการหนีสถานบำบัดหลายครั้ง สถิติของทางการเวียดนามเผยว่า มีผู้เสพยาเสพติดกว่า 200,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเฮโรอีนและเมตแอมเฟตามีน และมีผู้รับการบำบัดเกือบ 13,000 คน.- สำนักข่าวไทย

บังกลาเทศผลักดันแผนย้ายผู้อพยพชาวโรฮิงญาไปไว้ที่เกาะห่างไกล


ธากา 30 ม.ค. – เจ้าหน้าที่บังกลาเทศกำลังเดินหน้าผลักดันแผนการย้ายผู้อพยพชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคนที่เดินทางมาจากเมียนมาร์ไปไว้ที่เกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง

เว็บไซต์ของทางการบังกลาเทศเปิดเผยว่า รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐจากเขตต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล พร้อมกับได้สั่งการให้คณะกรรมการชุดนี้เข้าช่วยระบุตัวผู้อพยพและย้ายผู้อพยพชาวเมียนมาร์ที่ไม่มีเอกสารแสดงตัวไปยังเกาะเธนการ์ ชาร์ ใกล้กับเกาะฮาติยา ที่อยู่ในอ่าวเบงกอล เกาะฮาติยา อยู่บริเวณปากแม่น้ำเมฆนา และใช้เวลาเดินทาง 9 ชั่วโมงจากค่ายที่บรรดาชาวโรฮังญาพักอาศัยอยู่

ทั้งนี้ ชาวโรฮิงญาราว 232,000 คน ทั้งที่ได้ขึ้นทะเบียนและไม่ได้ขึ้นทะเบียนอาศัยอยู่ในบังกลาเทศอยู่แล้วก่อนที่ชาวโรฮิงญากว่า 65,000 คน จะหลบหนีความรุนแรงจากรัฐยะไข่ในเมียนมาร์มายังบังกลาเทศเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผู้อพยพกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตคอกซ์บาซาร์ ซึ่งมีชายแดนติดกับรัฐยะไข่ รัฐบาลบังกลาเทศยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่แยกกลุ่มชาวเมียนมาร์ที่แฝงตัวเข้าประเทศมาอย่างผิดกฏหมายด้วย.-สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

น้ำยังท่วม 8 จังหวัดภาคใต้ พบภาพรวมเริ่มคลี่คลาย


อุทกภัยภาคใต้ พบ 8 จังหวัดยังท่วมขัง โดยเฉพาะจุดลุ่มต่ำ ภาพรวมคลี่คลายลดลงต่อเนื่อง

ฝ่ายประมวลและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ประจำวันที่ 30 มกราคม 2560 ว่า ขณะนี้ยังมีพื้นที่ที่ประสบภาวะน้ำท่วมขังอยู่ทั้งหมด 8 จังหวัด ประกอบด้วย

1. จ.สุราษฎร์ธานี ยังมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำของ อ.เคียนซา, พุนพิน และ บ้านนาเดิม โดยที่ อ.เคียนซา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.36 เมตร ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลงหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมภายในวันที่ 2 ก.พ. 60 สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ อ.พุนพิน ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 0.74 เมตร (ได้รับอิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนในบางช่วงเวลา) แต่ไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจในเขตเทศบาลเมืองท่าข้าม ส่วนที่ อ.เมือง ระดับน้ำกว่าต่ำตลิ่งไม่มีผลกระทบ คงเหลือน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ประมาณ 14,000 ไร่

2. จ.ตรัง มีน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำ 1 อําเภอ คือ อ.วังวิเศษ สูงประมาณ 0.06 เมตร

3. จ.นครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง (ปากพนัง เชียรใหญ่ เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด) โดยจุดลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วมขัง 40 - 50 เซนติเมตร ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร

4. จ.พัทลุง มีน้ำท่วม บริเวณ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลาและเป็นจุดรองรับน้ำจากทางเหนือมารวมกัน

5. จ.สงขลา มีน้ำท่วม ทั้งหมด 4 อําเภอ ได้แก่ อ.ระโนด, กระแสสินธุ์, สทิงพระ และ สิงหนคร สูงประมาณ 10 - 30 เซนติเมตร เบื้องต้นพบระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่น้ำท่วมเป็นพื้นที่การเกษตรว่างเปล่า ประมาณ 30,000 ไร่ คาดว่าระดับน้ำจะทรงตัว และต้องอาศัยเวลาอีกระยะจึงจะสามารถระบายน้ำทั้งหมดออกจากพื้นที่ลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้

6. จ.นราธิวาส ลุ่มน้ำโก-ลก, บางนรา และ สายบุรี ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำ 7 อำเภอ คือ อ.เมือง, สุไหงปาดี, สุไหงโก-ลก, ตากใบ, เจาะไอร้อง, ยี่งอ และ บาเจาะ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากทะเลหนุนในบางช่วงเวลา คาดว่าระดับจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 30 ม.ค.60 หากไม่มีฝนตกเพิ่ม

7. จ.ปัตตานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ 7 อําเภอ คือ อ.เมือง, ยะรัง, ปะนาแระ, หนองจิก, ยะหริ่ง, ไม้แก่น, ทุ่งยางแดง และ

8. จ.ยะลา 1 อําเภอ คือ อ.รามันซึ่งล่าสุดสถานการณ์น้ำของทั้ง 2 จังหวัด มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มใน จ.พัทลุง เตือนระวังโรคฉี่หนู


น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่ม ริมทะเลสาบสงขลาใน จ.พัทลุง เตือนชาวบ้านระวังโรคฉี่หนู ขณะโจรขโมยปาล์มน้ำมันออกละวาด

น้ำยังคงท่วมขังในพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง, ควนขนุน และ เขาชัยสน จำนวน 14 หมู่บ้าน มานานกว่า 2 เดือน ชาวบ้านหลายครอบครัวยังต้องใช้เรือในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เนื่องจากน้ำท่วมขังและเน่าเสีย โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำ ก่อนไหลลงทะเลสาบสงขลา ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขจังหวัดพัทลุง ได้ออกแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนน้ำท่วมขัง พยายามหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ เนื่องจากพบชาวบ้านเริ่มป่วยด้วยโรคฉี่หนู จึงแนะนำว่าหากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำนาน ๆ ก็ขอให้สวมรองเท้าบูทที่กันน้ำ และเมื่อขึ้นจากน้ำให้เร่งล้างเท้า ชำระร่างกายให้สะอาดอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่มากับน้ำขังดังกล่าว

ส่วนพื้นที่การเกษตรสวนปาล์มน้ำมัน หลังจากน้ำท่วมขังนานพบว่าปาล์มของเกษตรกร ที่มีอายุ 1 - 2 ปี เริ่มล้มตายจำนวนมาก ส่วน 3 - 5 ปี ผลผลิต ที่ออกมาจมน้ำได้รับความเสียหาย เจ้าของสวนที่น้ำยังไม่ลด ไม่สามารถเข้าไปฟื้นฟูสวนปาล์มได้ ขณะเดียวกัน สวนปาล์มของชาวบ้านที่พ้นน้ำและมีผลผลิต ใน ต.เกาะหมาก และ ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง พบว่ามีกลุ่มคนร้ายแอบเข้าไปตัดขโมยขายแล้วหลายราย จนเจ้าของต้องนั่งเฝ้า แต่ก็ยังมีการลักขโมยเป็นรายวันหลังน้ำลดลง ล่าสุด ประชาชนยังไม่ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างใด

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

ปภ.สุราษฎร์ฯ ระบุอุทกภัยยังมีน้ำท่วมขังใน 2 อำเภอ


สถานการณ์อุทกภัยในสุราษฎร์ธานี ล่าสุด หลายพื้นที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ยังมีน้ำท่วมขังใน 2 อำเภอ

นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักติดต่อกัน ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) จำนวน 18 อำเภอ 119 ตำบล 911 หมู่บ้าน 33 ชุมชน ที่ต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด จากรายงานของสำนักงาน ปภ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ (30 ม.ค.60) พบว่า สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไป ท้องฟ้าแจ่มใส ฝนไม่ตก แต่ยังมีพื้นที่วิกฤติน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.บ้านนาเดิม และ อ.พุนพิน รวมทั้งสิ้น 8 ตำบล 18 หมู่บ้าน 1,725 ครัวเรือน 5,192 คน และยังคงแจ้งเตือนให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังใน 11 อำเภอ ประกอบด้วย อ.พระแสง อ.เวียงสระ เคียนซา บ้านนาสาร ท่าชนะ วิภาวดี ไชยา ท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก และ อ.ชัยบุรี

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

น้ำยังท่วม 4 อำเภอ นครศรีฯ ภาพรวมดีขึ้น คาด 6 วัน แห้ง


น้ำยังท่วม 4 อำเภอ เมืองคอน ภาพรวมดีขึ้น คาด 6 วัน กลับสู่ภาวะปกติ ขณะปริมาณฝนช่วยเพิ่มระดับน้ำกักเก็บเขื่อนไว้สู้ภัยแล้ง

นายเทอดศักดิ์ ลักษณะหุต หัวหน้าฝ่ายวิชาการศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้พื้นที่ 4 อำเภอ ของ จ.นครศรีธรรมราช ประกอบด้วยยอ.ปากพนัง, เชียรใหญ่, หัวไทร และ เฉลิมพระเกียรติ ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ สูง 25 - 30 เซนติเมตร โดยสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คงเหลือมวลน้ำสะสมอยู่ในลุ่มน้ำปากพนังประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร

จากการตรวจสอบพบมวลน้ำสามารถระบายออกสู่ทะเลได้ในอัตรา 85 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน คาดว่าภายใน 6 วันจากนี้ ปริมาณน้ำที่ท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝนต่อไปอีกระยะ และเมื่อผ่านพ้นช่วงฝนตกหนักไปแล้ว พื้นที่ภาคใต้ก็จะเข้าสู่ฤดูแล้ง ซึ่งฝนที่ตกลงมาดังกล่าว ได้ช่วยเพิ่มระดับกักเก็บสะสมของเขื่อนต่าง ๆ จนเต็มความจุ คาดว่าจะช่วยให้ภัยแล้งของปีนี้ไม่รุนแรงมากนัก โดยหลังจากปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายลง ทางกรมชลประทานจะมีการปล่อยน้ำในเขื่อนบางแห่งออกมาเพื่อให้มีปริมาณกักเก็บในระดับที่เหมาะสมต่อไป

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

โตโยต้ามอบเงิน-ข้าวสาร ช่วยน้ำท่วมพัทลุง


โตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทย มอบเงิน 1.5 ล้านบาท ข้าวสาร5 ตัน ช่วยผู้ประสบภัย จ.พัทลุง

ที่บริเวณหน้าอาคารองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง นายภาวิน ฮงประยูร ผู้จัดการเขตการขายภาคใต้ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้นำคาราวานข้าวสารบรรจุถุง5 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น 5 ตัน และเงินอีกจำนวน 1,500,000 บาท เพื่อนำช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดยได้มอบให้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง เพื่อนำไปแจกจ่ายชาวบ้านที่ยังประสบอุทกภัยและได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้

โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มริมทะเลสาบสงขลา ในท้องที่ อ.ควนขนุน อ.เมือง อ.เขาชัยสน อ.บางแก้ว และ อ.ปากพะยูน ที่ระดับน้ำยังท่วมในพื้นที่ลุ่มเนื่องจากยังไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ ส่วนเงินอีกจำนวน1,500,000 บาท นั้น จะนำไปจัดชื้ออุปกรณ์ช่วยเหลือทางน้ำ อย่างเรือเร็วกู้ชีพ เพราะที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย หากมีเหตุการณ์ก็จะใช้เรือหางยาวของชาวบ้านในการช่วยเหลือแต่ไม่ทันท่วงที่

และในส่วนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดพัทลุง นายโกสินต์ ไพศาลศิลป์ ประธานบริษัทโตโยต้าพัทลุง 1988 กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกปี จังหวัดพัทลุง จะประสบปัญหาน้ำท่วมมาตลอด แต่ทุกปีเช่นกัน ในส่วนราชการ ไม่ว่าผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด สำนักงานโยธาธิการจังหวัด รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ ไม่เคยคิดแก้ไขในระยะยาวเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ทำให้ไม่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดี จนเกิดปัญหาน้ำท่วมขังยาวนานชาวบ้านได้รับความเดือนร้อนตลอดมา 10 ปี 20 ปี ก็ยังเป็นปัญหาแบบนี้มาตลอด

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

ชาวโคราชแห่นั่งผิงไฟหลังอุณหภูมิลดต่ำต่อเนื่อง


ชาวโคราช แห่นั่งผิงไฟ หลังอุณหภูมิลดต่ำต่อเนื่อง ด้านอุตุฯ เตือนประชาชน เตรียมร่างกายให้อบอุ่น

หลังสภาพอากาศใน จ.นครราชสีมา กลับมาหนาวเย็น ล่าสุดอุณหภูมิลดลง 2 องศา ช่วงเช้าวัดอุณหภูมิ 17 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ชาวบ้านใน ต.หนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะเด็กและคนชรา ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ต่างพากันหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่เสื้อกันหนาว พร้อมทั้งก่อกองไฟผิงให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น

จากการสอบถาม นายปรีชา สมานมิตร ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า จากรายงานของพยากรณ์อากาศ พบว่าในช่วงนี้อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส โดยจะมีอากาศหนาวเย็น ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้าน ก็จะพากันออกมานั่งรวมกลุ่มก่อไฟผิง เพื่อคลายความหนาวเย็น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ จะพาลูกหลาน ออกมานั่งผิงไฟร่วมกัน เพื่อป้องกันโรคภัยไข้

ด้าน นายสงัด สายใหม่ อุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ใน จ.นครราชสีมา อุณหภูมิลดต่ำลงอีก 1 - 2 องศาเซลเซียส จะทำให้ในพื้นที่มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14 - 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทั้งนี้ ตนอยากให้ประชาชนเตรียมตัวเพื่อเตรียมรับสภาพอากาศที่หนาวเย็นโดยการสวมใส่เสื้อกันหนาว เพื่อทำให้ร่างกายอุบอุ่นในช่วงที่มีอากาศที่หนาวเย็น

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

เทพ โพธิ์งาม ขนทีมขายขนมเปี้ยะช่วยน้ำท่วมใต้


ตลกสู้ชีวิต "เทพ โพธิ์งาม" ขนขนมเปี๊ยะ "ขั้นเทพ" พร้อมนำนักดนตรีสร้างสีสันรับบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ภาคใต้

นายสุเทพ โพธิ์งาม อายุ 67 ปี หรือ "เทพ โพธิ์งาม" ศิลปินดารา และตลกชื่อดัง ได้เดินทางมาเปิดร้านขายขนมเปี๊ยะแบรนด์ "ขั้นเทพ" ที่บริเวณตลาดนัดเคหะเทพประสิทธิ์ ถนนเทพประสิทธิ์ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จากการตรวจสอบพบประชาชนกำลังยืนเข้าแถวเรียงรายเพื่อรอซื้อขนมเปี๊ยะที่ป๋าเทพ โพธิ์งาม และน้องชาย นำมาจำหน่ายกันอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ ยังมีวงดนตรีมาเล่นเปิดหมวกให้ผู้ใจบุญได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ภาคใต้ รวมถึงเป็นค่าอาหารและค่ารักษาพยาบาลให้กับสุนัขกับแมวจรจัดอีกด้วย

ด้านประชาชนที่ไปอุดหนุนขนมเปี๊ยะขั้นเทพ เผยว่า เคยไปซื้อขนมเปี๊ยะของป๋าเทพที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งย่านอ่าวอุดม อ.ศรีราชา มาชิมแล้วรู้สึกอร่อยถูกปาก พอทราบข่าวว่าป๋ามาขายที่พัทยาเลยตามมาซื้ออีก ทั้งนี้ โดยส่วนตัวชื่นชอบผลงานทั้งการแสดงตลกและละคร และชื่นชมที่ป๋าเทพเป็นคนสู้ชีวิตไม่คิดยอมแพ้ต่อโชคชะตา ส่วนนายสุเทพ โพธิ์งาม หรือ ป๋าเทพ ได้กล่าวขอบคุณประชาชน พร้อมกับกับประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาร่วมกันบริจาคเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังประสบอุทกภัยที่ภาคใต้ รวมถึงช่วยสุนัขและแมวจร โดยเงินที่ได้จะนำไปซื้ออาหารและเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือเป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

รองผู้ว่าฯพัทลุง มอบถุงยังชีพช่วย'ซาไก'หลังเจอฝนหนัก


รองผู้ว่าฯพัทลุง มอบถุงยังชีพให้ชนเผ่าพื้นเมือง"ซาไก" หลังเจอฝนหนักตลอด 3 เดือน ออกหาของป่าไม่ได้

ที่บริเวณริมป่า เทือกเขาบรรทัดพัทลุง นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยพัทลุง ได้เดินทางไป มอบถุงยังชีพให้แก่ชาวซาไก หรือเงาะป่า ชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของจังหวัดพัทลุง ที่อาศัยอยู่ในป่าท้ายหมู่บ้าน หมู่ 7 บ้านโหล๊ะหาร ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน จ.พัทลุง จำนวน 40 ชุด ซึ่งซาไกกลุ่มนี้ได้สร้างทับ เพิงที่อยู่ เพื่ออาศัยบนแนวป่าเทือกเขาบรรทัดซึ่งอยู่ใกล้กับสวนพันธุ์ไม้ นายสว่าง รุยันต์ (หนำลุงเม่น) ซึ่งลุงเม่น และภรรยา ได้ดูแล พร้อมแบ่งปันอาหารให้กับเงาะป่าซาไกกลุ่มนี้ต่อเนื่อง เมื่อได้รับความเดือดร้อนจากช่วงฝนตกหนักไม่สามารถออกไปหาอาหาร เผือกมัน และล่าสัตว์เพื่อเลี้ยงชีพได้ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จึงได้รับความเดือดร้อน

ด้าน นายภิรมย์ กล่าวว่า ซาไก หรือเงาะป่า เป็นคนไทย และเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของจังหวัดพัทลุงมาอย่างช้านาน ด้วยความเป็นห่วงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้จังหวัดเข้าดูแลกลุ่มซาไก ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดหลังได้รับผลกระทบฝนตกหนักจนไม่สามารถออกไปหาอาหารตามธรรมชาติได้ จึงได้นำข้าวสารอาหารแห้งมาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ และก่อนหน้านี้ชาวบ้าน รวมถึงผู้นำท้องถิ่นก็ได้คอยแบ่งปันอาหารให้กับพวกเขาซึ่งกลุ่มซาไก ถือเป็นพลเมืองของไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องช่วยกันดูแล และต้องได้รับสิทธิความเท่าเทียมในขั้นพื้นฐานตามหลักกฏหมาย จากการสอบถามข้อมูลจากชาวซาไก พบว่าสิ่งที่ชาวซาไกต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือ ปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และฝืนป่าที่อยู่อาศัย ปัจจุบันกลุ่มซาไก ได้มีการคุ้มครองสิทธิ์ในการทำบัตรประชาชนแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งในส่วนที่เหลือ ได้ประสาน ให้ทางนายอำเภอป่าบอน นายอำเภอตะโหมด นายอำเภอกงหรา เร่งสำรวจประชากร เพื่อให้พวกเขาได้รับการคุ้มครองตามสิทธิ์

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

แม่ค้าเหนียวไก่ปัตตานีค้านห้ามนำถังแก๊สเหล็กมาใช้


แม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ค้านนโยบายห้ามนำถังแก๊สเหล็กมาใช้ ระบุถังพลาสติกทอดไก่ไม่กรอบ

กรณีแม่ทัพภาคที่ 4 สั่งห้ามนำถังแก๊สเหล็กมาใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อป้องกันคนร้ายนำไปวางระเบิด ล่าสุด นางรีดา อาบะ แม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กล่าวว่า ถ้าให้เปลี่ยนใช้ถังพลาสติก จะมีปัญหาเพราะถังพลาสติกทอดไก่ไม่กรอบ ทอดได้ไม่นาน แก๊สก็หมดต้องไปเปลี่ยนอีก ขายของยังไม่ทันได้เงินต้องมาเปลี่ยนแก๊สอีก และเวลาแลกก็ต้องเสียเงินเพิ่ม ยุ่งยาก คิดว่ามีแต่ปัญหา

นายสูลกีพลี อาเยาะแซ นักธุรกิจขายของชำ ในพื้นที่ จ.ยะลา กล่าวว่า ชาวบ้านแปลกใจ ทำไมโครงการนี้ มีแต่ ปตท. เท่านั้น ที่เข้าร่วมโครงการ บริษัทอื่นยังไม่มีให้เปลี่ยน ทางร้านบอกยังใช้ของเดิมอยู่ เพราะไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ทางแก้ที่ดีรัฐควรทำโครงการนี้ร่วมกับทุกบริษัท นำของเก่ามาแลกใหม่โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งต้องผลิตถังให้เท่ากับของเก่าและใช้วัสดุที่ไม่ลดความร้อนของไฟ เมื่อนำมาใช้ในครัวเรือน

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุเผยไทยตอนบนหนาว อีสาน เหนือ อุณหภูมิลดอีก กทม.เย็น


กรมอุตุฯ เผย ไทยตอนบนยังหนาวเย็น ส่วนภาคใต้มีฝนน้อย ขณะที่ กทม. อากาศเย็นในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 21องศา

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้

สำหรับกรุงเทพฯ ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

เบื้องลึก !! ปูน้ำตาตก..​

เผยแพร่เมื่อ 28 ม.ค. 2017​

 

เบื้องลึก !! วุ่น..มุสลิมแห่ต้านสหรัฐ​

เผยแพร่เมื่อ 29 ม.ค. 2017​

 

เบื้องลึก !! ปล้นมงกุฎนางงามจักรวาล​

เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2017​

 

เบื้องลึก !! ทรัมป์ย้ำสั่งตะเพิดมุสลิมออกสหรัฐ​

เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2017​

 

ชี้สาเหตุที่คำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของทรัมป์สร้างความสับสน


วอชิงตัน 31 ม.ค.- เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นเผยว่า สาเหตุที่คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรื่องจำกัดผู้อพยพและคนเข้าเมืองสร้างความสับสวนวุ่นวายจนเกิดการประท้วง เนื่องจากคนในรัฐบาลเองก็ยังไม่เข้าใจคำสั่งของเขาอย่างแท้จริง

ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ห้ามคนเดินทางเข้าสหรัฐจาก 7 ประเทศมุสลิมเป็นเวลา 90 วัน และห้ามรับผู้อพยพทั้งหมดเป็นเวลา 120 วัน โดยประกาศว่ากำลังดำเนินมาตรการเข้มงวดใหม่ ๆ เพื่อป้องกันการก่อการร้ายในประเทศ ซีเอ็นเอ็นอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิเพิ่งได้เห็นรายละเอียดคำสั่งในวันนั้น เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายตามท่าอากาศยานทั่วประเทศตลอดวันรุ่งขึ้น ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันที่ห้องทำงานรูปไข่ในวันเสาร์ว่า รัฐบาลเตรียมตัวเรื่องนี้มาอย่างดี ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อย ซีเอ็นเอ็นอ้างเจ้าหน้าที่หลายคนในวันเดียวกันว่า คณะกำหนดนโยบายในทำเนียบขาวเป็นผู้จัดทำคำสั่งนี้โดยไม่ยึดตามธรรมเนียมที่ต้องให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานความมั่นคงอื่น ๆ ร่วมให้แนวทางการดำเนินการ แม้แต่นายจอห์น เคลลี รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิก็เพิ่งเห็นรายละเอียดก่อนทรัมป์ลงนาม

แหล่งข่าวเผยว่า กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิตีความเชิงกฎหมายว่า คำสั่งนี้มีผลกับผู้เดินทางจากอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซีเรีย ซูดาน และเยเมนเท่านั้น ไม่มีผลกับชาวต่างชาติที่ได้สิทธิพำนักถาวรในสหรัฐอย่างถูกกฎหมายหรือที่เรียกว่าผู้ถือกรีนการ์ด แต่ทำเนียบขาวออกคำสั่งจากคนใกล้ชิดประธานาธิบดีว่า ผู้ถือกรีนการ์ดที่จะเข้าสหรัฐจะต้องถูกพิจารณาเป็นกรณีไป กระทรวงจึงมีแนวทางปฏิบัติใหม่ว่า ผู้ถือกรีนการ์ดอาจต้องถูกตรวจคัดกรองเพิ่ม ขณะที่แนวทางปฏิบัติที่ส่งไปถึงสายการบินต่าง ๆ มีทั้งของเดิมและของใหม่ จึงเกิดความสับสนและมีชาวต่างชาติถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานหรือถูกส่งกลับประเทศต้นทางทั้งที่เดินทางมาถึงสหรัฐแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ยอดเสียชีวิตจากน้ำท่วมเปรูเพิ่มขึ้น


ลิมา 31 ม.ค. – เจ้าหน้าที่เปรูกล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่มในเปรูมีจำนวน 15 คน และไร้ที่อยู่กว่า 36,000 คน ในเดือนนี้

สถาบันป้องกันภัยพลเรือนแห่งชาติแถลงว่า พบผู้เสียชีวิต 6 คน ในกองดินถล่มที่แคว้นอาเรกีปาทางภาคใต้ของเปรู หลังจากที่มีคนงานเหมืองติดอยู่ในซากหักพัง และไม่พบร่างผู้เคราะห์ร้ายเนื่องจากมีดินถล่มลงมาอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลเปรูต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันเสาร์ในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของประเทศ อุทกภัยยังเป็นอุปสรรคต่อการสัญจรทางถนน ทำลายพืชไร่ อาคาร และสะพานพังเสียหาย หลายแห่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยพลเรือนระบุว่า ประชาชนรวม 36,115 คน ได้รับความเดือดร้อน .- สำนักข่าวไทย

กลาโหมสหรัฐ-เกาหลีใต้ หารือเรื่องป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ


วอชิงตัน 31 ม.ค. – นายเจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ และนายฮัน มินคู รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้เห็นพ้องกันในระหว่างการโทรศัพท์ว่า จะกระชับความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศกันต่อไปเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

กระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงว่า นายแมตทิสกล่าวยืนยันกับรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ว่าสหรัฐยังคงยึดมั่นในการปกป้องประเทศและพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ นอกจากนี้นายแมตทิสยังถวายการต้อนรับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์แห่งจอร์แดนที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ และแสดงความชื่นชมอย่างยิ่งต่อความร่วมมือของจอร์แดนเพื่อปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) .- สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ปลดรักษาการ รมว.ยุติธรรมที่ท้าทายคำสั่งคนเข้าเมือง


วอชิงตัน 31 ม.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐสั่งปลดนางแซลลี ควิลเลียน เยตส์ รักษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากสั่งอัยการไม่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งฝ่ายบริหารของเขาเรื่องงดรับผู้อพยพและผู้เดินทางมาจาก 7 ประเทศมุสลิม

ทำเนียบขาวแถลงว่า นางเยตส์ทรยศต่อกระทรวงยุติธรรมจากการไม่บังคับใช้คำสั่งเพื่อปกป้องพลเมืองอเมริกัน ทั้งที่คำสั่งนี้ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงยุติธรรม ประธานาธิบดีจึงมีคำสั่งปลดและแต่งตั้งนายเดนา โบนที วัย 62 ปี อัยการแขวงตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนียเป็นรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมแทน จนกว่า ส.ว.เจฟฟ์ เซสซันส์ จะได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม แถลงการณ์ของทำเนียบขาวยังได้วิจารณ์นางเยตส์ว่า ไร้ความสามารถเรื่องพรมแดนและคนลอบเข้าเมือง และวิจารณ์ ส.ว.พรรคเดโมแครตว่าเตะถ่วงเรื่องการรับรอง ส.ว.เซสซันส์ด้วยเหตุผลทางการเมือง

นางเยตส์วัย 56 ปี สังกัดพรรคเดโมแครตถูกปลดหลังจากมีบันทึกถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมว่า เธอเชื่อว่าคำสั่งของทรัมป์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อว่าการการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่สอดคล้องกับการทำหน้าที่ของกระทรวง ดังนั้นตราบใดที่เธอยังอยู่ในตำแหน่ง กระทรวงจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์อัยการ 16 รัฐ ประณามคำสั่งของทรัมป์ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญและจะต่อสู้คัดค้าน.-สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ปลดรักษาการ ผอ.ตรวจคนเข้าเมือง หลังปลดรักษาการ รมว.ยุติธรรม


วอชิงตัน 31 ม.ค.- กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐแจ้งว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ปลดรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลังจากที่เพิ่งปลดรักษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในวันเดียวกัน

นายจอห์น เคลลี รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแถลงในหน้าเว็บของกระทรวงว่า ประธานาธิบดีได้แต่งตั้งนายโธมัส โฮแมน ที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารกองบังคับการและส่งกลับผู้ลอบเข้าเมืองมาตั้งแต่ปี 2556 เป็นรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงการณ์ไม่ได้ระบุสาเหตุของการเปลี่ยนตัวรักษาการ เพียงแต่ยกย่องนายโฮแมนว่าจะเป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต่อไป

ด้านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทวีตแจ้งว่า นายโฮแมนจะทำหน้าที่แทนนายแดเนียล แร็กสเดล ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเมื่อวันที่ 20 มกราคม อย่างไรก็ดี นายแร็กสเดลจะยังดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานนี้ต่อไปตามที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2555

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งสั่งเปลี่ยนตัวรักษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมจากนางแซลลี ควิลเลียน เยตส์ เป็นนายเดนา โบนที อัยการแขวงตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนีย ทำเนียบขาวแถลงว่า นางเยตส์ทรยศต่อกระทรวงยุติธรรมจากการไม่บังคับใช้คำสั่งเพื่อปกป้องพลเมืองอเมริกัน ทั้งที่คำสั่งนี้ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายของกระทรวงยุติธรรม หลังจากนางเยตส์มีบันทึกถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมว่า เธอเชื่อว่าคำสั่งของทรัมป์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อว่าการการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ไม่สอดคล้องกับการทำหน้าที่ของกระทรวง.-สำนักข่าวไทย

บุหรี่ทำเศรษฐกิจโลกเสียหายกว่า 49 ล้านล้านบาท


ปารีส 31 ม.ค. – ผลการศึกษาระบุว่า การสูบบุหรี่สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจโลกเป็นมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49.3 ล้านล้านบาท) เมื่อปี 2555 โดยคำนวนจากค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการรักษาพยาบาล รวมถึงผลกระทบทางอ้อมจากการสูญเสียแรงงาน อัตราป่วยและการเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่

ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) และสถาบันโรคมะเร็งแห่งสหรัฐเผยว่า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากพฤติกรรมการสูบบุหรี่คิดเป็นเกือบร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั่วโลก โดยเกือบร้อยละ 40 ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมดมาจากกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง-ต่ำ อาทิ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน ขณะที่ผลการศึกษาระบุว่า ทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของบุหรี่อย่างมาก ทำให้แต่ละประเทศจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมการสูบบุหรี่อย่างเข้มงวด

นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง-ต่ำมาคำนวนรวม เพื่อประเมินมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการสูบบุหรี่ โดยข้อมูลจากการศึกษาในครั้งนี้ครอบคลุม 152 ประเทศ คิดเป็นร้อยละ 97 ของของประชากรที่สูบบุหรี่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการนำข้อมูลอัตราการป่วยและตายจากการสูบบุหรี่ อัตราการจ้างงาน และตัวเลขจีดีพีขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และธนาคารโลก มาช่วยทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ตัวเลขความเสียหายจากการสูบบุหรี่อาจสูงกว่านี้ หากมีการคำนวนเรื่องผลกระทบต่อผู้ที่ต้องสูดดมควันบุหรี่ทางอ้อม หรือการสูบบุหรี่มือสองด้วย.- สำนักข่าวไทย

เผยผู้ต้องสงสัยยิงในมัสยิดแคนาดา เป็นพวกขวาจัดและแยกตัว


ควิเบกซิตี 31 ม.ค.- นักศึกษาชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศสที่ต้องสงสัยกราดยิงในมัสยิดเมืองคิวเบกซิตีเป็นที่รู้จักในสังคมออนไลน์ว่าชื่นชอบนักการเมืองขวาจัดของฝรั่งเศส ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนเผยว่าเขาเป็นคนฉลาดที่แยกตัวจากสังคม

นายอเล็กซองด์ บิส์ซองเนต์ วัย 27 ปี ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 6 กระทง และข้อหาพยายามฆ่าด้วยอาวุธต้องห้าม 5 กระทง ตำรวจระบุว่าเขาก่อเหตุเมื่อเย็นวันอาทิตย์เพียงคนเดียว และไม่เคยถูกตำรวจจับตา แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเมืองควิเบกซิตีที่สนับสนุนการรับผู้อพยพระบุว่า แวดวงสังคมออนไลน์รู้ดีว่า นายบิส์ซองเนต์สนับสนุนนางมารีน เลอ เปน และต่อต้านนักเรียกร้องสิทธิสตรี เพราะโพสต์เฟซบุ๊กว่าชื่นชอบบุคคลอย่างนางเลอ เปนของฝรั่งเศส ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และพรรคเรียกร้องแยกรัฐควิเบกเป็นเอกราช

อดีตเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมัธยมเผยว่า นายบิส์ซองเนต์เป็นคนฉลาด มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์และการเมืองอย่างดี แต่ไม่ค่อยมีเพื่อนและมักขลุกอยู่แต่กับฝาแฝด นอกจากนี้ยังไม่ใช่คนแข็งแรงจึงอาจกลายเป็นตัวตลกหรือถูกเพื่อนกลั่นแกล้ง.-สำนักข่าวไทย

พนักงานกูเกิลชุมนุมประท้วงนโยบายห้ามคนเข้าเมืองของทรัมป์


เมาน์เทนวิว 31 ม.ค. – พนักงานบริษัท กูเกิล ยักษ์ใหญ่ของวงการเสิร์ชเอนจินหลายร้อยคนรวมตัวชุมนุมประท้วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม เดินทางเข้าสหรัฐ

รายงานระบุว่า กลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งมีนายเซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลเชื้อสายรัสเซียเข้าร่วมด้วย รวมตัวชุมนุมบริเวณภายนอกสำนักงานใหญ่ในเมืองเมาน์เทนวิววานนี้ ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลของสหรัฐรายงานว่า นายซุนดาร์ พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทระบุในอีเมลว่า พนักงานของกูเกิลราว 187 คน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งห้ามพลเมืองเข้าประเทศของนายทรัมป์ ก่อนหน้านี้ มีพนักงานของกูเกิลเกือบ 1,000 คน รวมตัวชุมนุมประท้วงที่เมืองซานฟรานซิสโก.-สำนักข่าวไทย

เผยรองปธน.อินโดนีเซียระบุนโยบายทรัมป์สร้างความหวาดระแวงกับชาวมุสลิม


จาการ์ตา 31 ม.ค. – สื่ออินโดนีเซียรายงานอ้างคำกล่าวของรองประธานาธิบดีที่ว่า นโยบายห้ามคนเข้าเมืองของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ สร้างความไม่ไว้วางใจในหมู่ชาวมุสลิม

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์มีคำสั่งพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ให้สหรัฐระงับการอนุมัติผู้ลี้ภัยเข้าประเทศ สั่งห้ามผู้อพยพจากซีเรียเข้าเมืองโดยไม่มีกำหนด และสั่งระงับพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิม เข้าประเทศชั่วคราว ได้แก่ อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เว็บไซต์ข่าวเดติก ดอทคอมรายงานว่า รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลาของอินโดนีเซียกล่าวว่า นโยบายห้ามคนเข้าเมืองของสหรัฐไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับอินโดนีเซียมากนัก แต่ก่อให้เกิดความข้องใจโดยเฉพาะในหมู่ชาวมุสลิม อินโดนีเซีย ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมจำนวนมากที่สุดในโลก แต่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศมุสลิมที่สหรัฐห้ามพลเมืองเข้าประเทศ .-สำนักข่าวไทย

ส.ว.-ส.ส.รีพับลิกันหลายคน ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของทรัมป์


วอชิงตัน 31 ม.ค.- สมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันของสหรัฐอย่างน้อย 30 คนแสดงความไม่เห็นด้วยหรือวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามคนเข้าเมืองชั่วคราว

ส.ว.คอรี การ์ดเนอร์ กรรมการวิเทศสัมพันธ์ในวุฒิสภากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า คำสั่งดังกล่าวกว้างเกินไป จะต้องแก้ไข ขณะที่ ส.ว.บ็อบ คอร์กเกอร์ ประธานคณะกรรมการชุดเดียวกันยอมรับว่า เขาไม่ทราบอะไรเลยจนกระทั่งประธานาธิบดีลงนามเมื่อวันศุกร์และมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ หวังว่ารัฐบาลจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยเองในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นสภาอาจต้องร่างกฎหมายมาเพิกถอนคำสั่งหากจำเป็น

ด้าน ส.ว.จอห์น แมคเคนออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์เตือนว่า คำสั่งนี้จะกลายเป็นการทำร้ายตัวเองในการทำสงครามปราบปรามก่อการร้าย และเมื่อทำเนียบขาวชี้แจงว่าคำสั่งนี้ไม่กระทบผู้ถือกรีนการ์ดที่ได้สิทธิพำนักถาวรในสหรัฐ เขาก็ยังแสดงความกังวลว่า การตีความตามตัวอักษรอาจทำให้ผู้ถือกรีนการ์ดตกอยู่ในอันตราย ขณะที่ ส.ว.และ ส.ส.รีพับลิกันอีกหลายคนมองว่า คำสั่งนี้ขัดต่อค่านิยมอเมริกันเรื่องการให้เสรีภาพและความยุติธรรมแก่ทุกคน.-สำนักข่าวไทย

จีนเผยเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง


ปักกิ่ง 31 ม.ค. – สื่อท้องถิ่นของจีนเผยว่า เรือบรรทุกเครื่องบินลำที่ 2 ของกองทัพจีน หรือมีชื่อเรียกว่า ชานตง เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง หลังก่อสร้างมาเป็นระยะเวลา 2 ปี 9 เดือน

สถานีวิทยุและโทรทัศน์ในมณฑลชานตงรายงานวันนี้ว่า เริ่มมีการก่อสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินชานตงมาตั้งแต่ปี 2557 โดยขณะนี้ตัวเรือเริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่ยังไม่สามารถกำหนดวันที่เรือจะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ หรือให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนระบุว่า สถานที่ประกอบเรือชานตงอยู่ที่ต้าเหลียน เมืองท่าฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีนมีชื่อเรียกว่า เหลียวหนิง ซึ่งเป็นเรือที่ซื้อมาจากยูเครนเมื่อปี 2541 ก่อนที่จะนำมาปรับปรุงยกเครื่องใหม่ในจีน ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า กองเรือรบจีน นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงแล่นผ่านน่านน้ำทางตอนใต้ของญี่ปุ่น จากนั้นเคลื่อนไปยังทางตะวันออกและตอนใต้ของไต้หวัน ก่อนที่จะวกกลับไปจอดเทียบท่าที่มณฑลไห่หนานเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ต่อมาในเดือนมกราคม มีการทดสอบอาวุธและอุปกรณ์ของกองเรือรบในทะเลจีนใต้ โดยกระทรวงต่างประเทศจีนอ้างว่า เป็นการซ้อมรบปกติภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ.- สำนักข่าวไทย

อินเดียคาดเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวปกติ หลังเผชิญวิกฤตขาดแคลนเงินสด


นิวเดลี 31 ม.ค. – กระทรวงการคลังอินเดียเผยผลสำรวจคาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ หลังเผชิญภาวะขาดแคลนเงินสด โดยจะเติบโตร้อยละ 6.75-7.5 ในปีงบประมาณหน้า

ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจอินเดียได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ที่ให้ยกเลิกการใช้ธนบัตรฉบับเก่า เพื่อกวาดล้างผู้เลี่ยงภาษีและทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผลสำรวจผ่านทวิตเตอร์คาดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ เนื่องจากมีปริมาณธนบัตรใหม่ไหลกลับคืนสู่ระบบตามความต้องการอย่างเพียงพอ

ผลสำรวจยังระบุอีกว่า การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลและรายได้จากภาษีจะช่วยกดดันภาวะขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณหน้า อีกทั้งราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะจำกัดการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในประเทศ.- สำนักข่าวไทย

ทูตเผยสหรัฐไม่มีคลังสรรพาวุธในฟิลิปปินส์


มะนิลา 31 ม.ค. – เอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าววันนี้ว่า สหรัฐไม่ได้สร้างคลังสรรพาวุธใดในฟิลิปปินส์ พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตจะยกเลิกข้อตกลงด้านกลาโหมปี 2557 ที่จะอนุญาตกองกำลังสหรัฐประจำการได้ชั่วคราวในฐานทัพฟิลิปปินส์

นายซอง คิม เอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าวในเวทีเสวนาผู้นำธุรกิจว่า มีข้อมูลผิดพลาดบางอย่างที่นำเสนอต่อประธานาธิบดี ซึ่งทำให้มีแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการสร้างคลังสรรพาวุธ และความจริงคือ ไม่มีการสร้างคลังอาวุธใดๆ ทั้งนั้นในฟิลิปปินส์ สำหรับโครงการตามข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหมปี 2557 เป็นความร่วมมือด้านบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีดูเตอร์เตกล่าวว่า จะไม่อนุญาตให้สหรัฐมีคลังอาวุธไว้ในฐานทัพท้องถิ่นตามข้อตกลงกลาโหมสองฝ่าย ซึ่งอาจทำให้ฟิลิปปินส์เข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐ .- สำนักข่าวไทย

มาเลเซียจับผู้ต้องสงสัยสนับสนุนไอเอส 3 คน


กัวลาลัมเปอร์ 31 ม.ค.- ตำรวจมาเลเซียจับกุมบุคคล 3 คน ต้องสงสัยพัวพันกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) พร้อมกับปืน 2 กระบอก หนึ่งในผู้ต้องสงสัยวางแผนก่อเหตุระเบิดในกรุงกัวลาลัมเปอร์

คาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซียแถลงว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยในปฏิบัติการ 3 ครั้ง ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม ผู้ต้องสงสัยคนแรกเป็นชายมาเลเซียอายุ 38 ปี โพสต์ในเฟซบุ๊กว่าจะวางระเบิดในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ผู้ต้องสงสัยคนที่สองเป็นชาวอินโดนีเซียที่มีถิ่นพำนักถาวรในมาเลซีย ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมาเลเซียแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ ผู้ต้องสงสัยคนที่สามเป็นชาวมาเลเซียที่เชื่อว่าเตรียมจะเดินทางไปร่วมรบกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาต้องสงสัยพัวพันกับการก่อการร้าย

มาเลเซียเพิ่มการเฝ้าระวังระดับสูงตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มคนร้าย 4 คน ยิงและขว้างระเบิดในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน แม้ยังไม่เคยเกิดเหตุร้ายแรง แต่ทางการเผยว่าสามารถสกัดแผนการก่อเหตุร้ายได้หลายครั้ง จับกุมผู้ต้องสงสัยพัวพันไอเอสได้กว่า 250 คนระหว่างปี 2556-2559 และมีชาวมาเลเซียไปร่วมรบในตะวันออกกลาง 91 คน นับจนถึงเดือนตุลาคมปีก่อน ในจำนวนนี้ 8 คน กลับประเทศมาแล้ว และอีก 24 คน เสียชีวิตในการร่วมรบ.-สำนักข่าวไทย

เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ระเบิดฆ่าตัวตายหน้าค่ายทหารไนจีเรีย


คาโน 31 ม.ค.- เด็กหญิงที่คาดว่าอายุเพียง 10 ขวบ ปลดชนวนระเบิดที่สวมติดตัวมาหน้าค่ายทหารในรัฐคาโน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย หลังจากเพิ่งเกิดเหตุลักษณะเดียวกันไม่ถึง 2 สัปดาห์

อาสาสมัครที่ทำงานกับกองทัพไนจีเรียในปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มโบโกฮาราม เผยว่า เด็กหญิงวัยประมาณ 10 ขวบ เดินมาแถวค่ายทหารและพยายามข้ามถนนไปยังค่ายผู้พลัดถิ่นในประเทศ ซึ่งทหารบอกให้หยุด เด็กหญิงไม่ทำตาม จนกระทั่งทหารขู่ว่าจะยิง เธอจึงยอมหยุด และเมื่อทหารขอให้เปิดผ้าคลุมศีรษะ เธอก็ทำตาม จึงได้เห็นว่ามีระเบิดติดตัวมาด้วย จู่ๆ เด็กหญิงก็ปลดชนวนระเบิดทันที แต่ไม่มีทหารบาดเจ็บ นับเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ โดยเมื่อวันที่ 18 มกราคม ทหารได้ยิงสาววัยรุ่นและเด็กชายคู่หนึ่งที่ไม่ยอมหยุดให้ตรวจหน้าค่ายทหาร ก่อนที่ทั้งคู่จะปลดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตา

อาสาสมัครมองว่า กลุ่มโบโกฮารามใช้คนระเบิดฆ่าตัวตายถี่ขึ้น เพื่อตอบโต้กองทัพที่บุกโจมตีหนักหน่วงขึ้น กลุ่มนี้มักใช้เด็กและสตรีไประเบิดฆ่าตัวตายท่ามกลางผู้คนพลุกพล่านตามสถานที่ต่างๆ เช่น มัสยิด ตลาด สถานีรถโดยสาร.-สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

น้ำยังท่วมขัง อ.ลำทับ กระบี่ สูงสุด 5 เมตร ชาวบ้านทุกข์


น้ำยังท่วมขังหมู่ 2 ต.ดินแดง อ.ลำทับ จ.กระบี่ สูงสุด 5 เมตร ชาวบ้านไม่สามารถประกอบอาชีพได้ เจ้าหน้าที่เร่งระบาย

ความคืบหน้ากรณีน้ำจากภูเขา ซึ่งกั้นเขตแดนระหว่าง จ.นครศรีธรรมราช และ กระบี่ ได้ซึมเข้ามาท่วมขังบริเวณหมู่ 2 ต.ดินแดง อ.ลำดับ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบไม่สามารถกรีดยาง รวมถึงประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ล่าสุด นายมนัส แสนภักดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดินแดง อ.ลำทับ จ.กระบี่ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้น้ำที่ท่วมขังในบริเวณดังกล่าว อยู่ในภาวะทรงตัว คือไม่เพิ่มขึ้น และไม่ลดลง โดยมีระดับลึกสุดอยู่ประมาณ 5 เมตร ชาวบ้าน 28 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 84 คน เดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถกรีดยาง, ตัดปาล์ม หรือ ทำงานรับจ้างได้ ทำให้ขาดรายได้ไป ส่วนใหญ่ต้องนำเงินที่เก็บหอมรอมริบไว้ในครั้งก่อนมาใช้ประทังชีวิต เบื้องต้น อบต.ดินแดง ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือมอบข้าวสาร อาหารแห้ง ให้ผู้ประสบภัยเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน

นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้ามาเร่งระบายมวลน้ำออก คาดว่า ภายใน 1 - 2 เดือน จากนี้สถานการณ์จึงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งเมื่อระดับน้ำลดลงแล้ว ตนก็จะได้มีการหารือร่วมกับชาวบ้านถึงแนวทางการช่วยเหลือ, ประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ทางการเกษตร รวมถึงสิ่งที่ชาวบ้านต้องการ สำหรับนำข้อมูลไปเสนอของบประมาณเข้ามาเยียวยาฟื้นฟูบริเวณที่ได้รับผลกระทบต่อไป

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

สุราษฎร์ฯ เตรียมฟื้นฟูบูรณะช่วยผู้ประสบอุทกภัย


จ.สุราษฎร์ธานี เตรียมฟื้นฟูบูรณะช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลถล่ม ล่าสุดยังมีพื้นที่วิกฤติน้ำท่วมขังใน 2 อำเภอ

นายอวยชัย อินทร์นาค ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกประชุมส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักติดต่อกันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

โดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย (อุทกภัย) จำนวน 18 อำเภอ 119 ตำบล 911 หมู่บ้าน 33 ชุมชน ที่ต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางแผนปฏิบัติในการฟื้นฟูสุขภาพและการบริการสังคม แนวทางแผนปฏิบัติการในการฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ และแนวทางแผนปฏิบัติการในการฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคและสิ่งสาธารณประโยชน์ โดยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการสำรวจตรวจสอบและดำเนินการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว

ทั้งนี้ จากรายงานของสำนักงาน ปภ.สุราษฎร์ธานี วันนี้ (31 ม.ค.60) พบว่า สภาพภูมิอากาศโดยทั่วไป ท้องฟ้าแจ่มใส ฝนไม่ตก แต่ยังมีพื้นที่วิกฤติน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.บ้านนาเดิม และ อ.พุนพิน รวม 8 ตำบล 18 หมู่บ้าน และแจ้งเตือนให้เป็นพื้นที่เฝ้าระวังใน 11 อำเภอ 27 ตำบล ประกอบด้วย อ.พระแสง อ.เวียงสระ เคียนซา บ้านนาสาร ท่าชนะ วิภาวดี ไชยา ท่าฉาง กาญจนดิษฐ์ ดอนสัก และ อ.ชัยบุรี

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

น้ำยังท่วมเมืองตรัง 30 ซม.ชาวบ้านบางส่วนอาศัยเต็นท์


น้ำยังท่วมเมืองตรัง 30 ซม. ชาวบ้านบางส่วนต้องอาศัยเต็นท์ชั่วคราว ขณะภาพรวมสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น

นางกุลธารินท์ โรจนสุรสีห์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ตรัง มีแนวโน้มคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง ราษฎรร้อยละ 90 สามารถกลับเข้าไปพักอาศัยในบ้านเรือนของตนเองได้ตามปกติ คงเหลือ พื้นที่ อ.เมือง บริเวณริมแม่น้ำตรัง 3 ตำบล คือ บางรัก, หนองตรุด และ ควนปริง โดยที่ ต.ควนปริง พบชาวบ้าน 20 คน ยังต้องอาศัยอยู่ในเต๊นท์ผู้ประสบภัยชั่วคราว เนื่องจากมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรเข้าออก ระหว่างบ้านกับถนน ทั้งนี้ แม้ว่าประชาชนจะอพยพกลับบ้านแล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ขนสิ่งของมีค่าเข้าไปเก็บไว้ตามเดิม เพราะเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมอีกระลอก

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตรนั้น ล่าสุดก็พบว่าสวนยางพารา, นาข้าว รวมถึง ปาล์มน้ำมัน ริมแม่น้ำตรัง ยังถูกน้ำท่วมขังอยู่เช่นกัน ทำให้ไม่สามารถประเมินภาพรวมความเสียหายออกมาเป็นตัวเลขได้ โดยจะต้องรอให้ระดับน้ำลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อน จึงจะมีการลงพื้นที่สำรวจต่อไป ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้พนังกั้นแม่น้ำตรัง พังทลายลงมาเพราะถูกมวลน้ำซัด 4 จุด นั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการซ่อมแซมชั่วคราวแล้วจำนวน 1 แห่ง บริเวณ ต.นาตาล่วง และภายในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่จะเร่งทำการซ่อมแซม 3 แห่งที่เหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

น้ำท่วม 2 อำเภอ ใน จ.สงขลา 2 เดือน-บางส่วนไร้คนช่วย


น้ำท่วมสงขลา 2 อำเภอ ริมทะเลสาบยืดเยื้อเกือบ 2 เดือน ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำเน่าเสีย บางส่วนตกสำรวจไม่ได้รับความช่วยเหลือ

สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สงขลา ขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมริมทะเลสาบสงขลามานานเกือบ 2 เดือน ใน 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ระโนด 5 ตำบล คือ ต.บ้านขาว, ตะเครียะ, ท่าบอน, คลองแดน และ ต.ระโนด, อ.กระแสสินธุ์ 2 ตำบล คือ ต.เชิงแส และ ต.โรง รวม 15 หมู่บ้าน ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตอยู่ในน้ำ ขณะที่สภาพน้ำเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น อยู่ในภาวะเสี่ยงที่ชาวบ้านจะติดโรคที่มากับน้ำ เช่น น้ำกัดเท้า โรคตาแดง โรคอุจจาระร่วง และ โรคฉี่หนู โดยปัญหาสำคัญที่สุดอีกอย่าง ซึ่งผู้ประสบภัยได้ร้องเรียนมาคือสิ่งของยังชีพที่หน่วยงานต่าง ๆ ส่งไปช่วยเหลือผ่านผู้นำท้องถิ่น ยังไม่ทั่วถึงและบางครอบครัวได้รับการช่วยเหลือน้อยมาก โดยเฉพาะบ้านที่ไม่มีเลขหรือผู้ที่ไม่มีหลักฐานทางราชการ ซึ่งส่วนใหญ่ตกสำรวจทั้งที่ได้รับความเดือดร้อนหนักเหมือนกัน

ส่วนภาพรวมของปัญหาอุทกภัย ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 จ.สงขลา ในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับควบคุมพื้นที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า จ.สงขลา เปิดเผย ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว และอยู่ระหว่างการฟื้นฟู 3 จังหวัด สำหรับพื้นที่ทั้ง 4 จังหวัด จากการตรวจสอบพบ ประชาชนเดือดร้อน 70,901 ครัวเรือน 273,119 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วนร้อยละ 30 - 50 จำนวน 26 หลัง เสียหายทั้งหลัง 15 หลัง เสียหายบางส่วนร้อยละ 30 จำนวน 318 หลัง

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

น้ำยังท่วมขัง อ.พุนพิน สุราษฎร์ฯ หวั่นเน่ากระทบสุขภาพ


น้ำท่วมขัง อ.พุนพิน สุราษฎร์ธานี ต่อเนื่อง หวั่น น้ำเน่ากระทบสุขอนามัยชาวบ้าน เร่งระบาย - แจกสารชีวภาพบรรเทาความเดือดร้อน

นายจำนง สวัสดิ์วงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ ใน จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีพื้นที่อ.พุนพิน 6 ตำบล ประกอบด้วย ท่าข้าม, กรูด, ท่าสะท้อน, ตะปาน, เขาหัวควาย และ ท่าโรงช้าง ประสบภาวะน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะบริเวณจุดลุ่มต่ำในสวนปาล์ม วัดระดับน้ำสูงสุดประมาณ 50 เซนติเมตร ล่าสุดทางจังหวัดยังคงระดมเครื่องสูบน้ำเข้าไปเร่งระบายน้ำออกจากบริเวณที่ท่วมขังอยู่ แต่ยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ว่า สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด เนื่องจากขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านทะเลหนุนสูง ประกอบกับหากมีฝนตกลงมาซ้ำอีกก็จะยิ่งทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า

ทั้งนี้ จากกรณีที่บางจุดประสบปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลน้ำที่ขังอยู่เริ่มเน่าเสีย จนอาจกระทบกับสุขอนามัยของชาวบ้านในละแวกดังกล่าว เบื้องต้น ได้มีหน่วยงานเข้าไปแจกจ่ายสารชีวภาพ (EM) เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในระดับหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความเป็นห่วงว่าชาวบ้านอาจได้รับอันตรายจากโรคระบาด รวมถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำเน่าเสีย จึงอยากฝากเตือนให้ระมัดระวัง หมั่นดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย ตลอดจนหาอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ร่างกายไม่ต้องสัมผัสกับน้ำเน่าโดยตรง

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

ปธ.ชาวสวนปาล์ม เผยอุทกภัยกระทบกว่า 1 ล้านไร่


ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ระบุ อุทกภัยกระทบกว่า 1 ล้านไร่ เตรียมนัดถก 14 จังหวัดใต้ สัปดาห์หน้า

นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า สถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ขณะนี้แม้จะคลี่คลายลงไปมากแล้ว แต่ยังมีบางพื้นที่ยังประสบปัญหาอยู่ ดังนั้นต้องรอให้น้ำลด กลับมาสู่ภาวะปกติ แล้วจึงจะทำการสำรวจความเสียหายของสวนปาล์มที่น้ำท่วม เบื้องต้นคาดการณ์ว่ามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบไม่ต่ำว่า 1ล้านไร่ แต่จะเสียหายมากน้อยขนาดไหนต้องรอสรุปความเสียหายก่อน ซึ่งภายในสัปดาห์หน้า จะมีการเรียกประชุมสมาคมชาวสวนปาล์มทุกจังหวัด ในภาคใต้ที่ประสบกับปัญหาอุทกภัย

ประกอบด้วย จ.สงขลา, สุราษฎร์ธานี, ประจวบคีรีขันธ์, ตรัง, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, ชุมพร, กระบี่, นราธิวาส, ยะลา, พังงา, ระนอง, ภูเก็ต และ สตูล ซึ่งจะมีการประชุมที่ สุราษฎร์ธานี เพื่อรวบรวมความเสียหายทั้งหมดออกมาเป็นตัวเลข พร้อมกับแนวทางการช่วยเหลือที่อยากสะท้อนไปยังรัฐบาล เพราะที่ผ่านมารัฐบาลมีการแสดงเจตจำนงค์จะช่วยเหลือในด้านต่างๆ แต่อาจจะไม่ตรงตามความต้องการของชาวสวนปาล์ม อย่างแท้จริง

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

ชาวอุทุมพรพิสัย บริจาคข้าวสาร 2 ตัน ช่วยคนใต้


ศรีสะเกษ น้ำใจชาวอุทุมพรพิสัยบริจาคข้าวสาร 2 ตัน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชาวใต้ ครั้งที่ 2

ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายสุรชาติ แก้วศิลา นายอำเภออุทุมพรพิสัย เปิดเผยว่า จากการที่ได้เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดของภาคใต้ ทำให้ชาวใต้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักนั้น ตนในนามชาวอำเภออุทุมพรพิสัย จึงได้ทำการรวมน้ำใจชาวอุทุมพรพิสัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชาวใต้ ครั้งที่ 2 โดยการร่วมกันบริจาคข้าวสาร จำนวน 2 ตัน มูลค่าประมาณ 40,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วม ใจกันให้การช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ผู้ประสบอุทกภัย โดยมีนายเทเวศน์ มีศรี ป้องกันจังหวัดศรีสะเกษเป็นผู้รับมอบ ณ กองร้อยอส.จ.ศรีสะเกษ และจะได้รวบรวมนำส่งไปยังกองทัพภาค 2 เพื่อจัดส่งความช่วยเหลือไปยังพี่น้องผู้ประสบภัยภาคใต้อย่างด่วนต่อไป

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

ลำพูนเดินขบวนรับบริจาคเงินสิ่งของช่วยชาวใต้


ลำพูน เดินขบวนรับบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้

นายวีระชัย ภู่เพียงใจ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานปล่อยขบวนรับบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมีสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูน ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกิจกรรม โดยขบวนจะเริ่มเดินจากศาลากลางจังหวัดลำพูน ไปตามถนนอินทยงยศ ผ่านลานเจ้าแม่จามเทวี ตลาดหนองดอก ผ่านศูนย์กีฬาเทศบาลเมืองลำพูน แล้วกลับมาที่ศาลากลาง

ซึ่งตลอดเส้นทางมีประชาชน นักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้า ห้างร้านต่างๆ ร่วมให้การบริจาคเงินและสิ่งของเป็นจำนวนมาก ซึ่งมียอดเงินที่ได้จากการรับบริจาคในครั้งนี้ 20,000 บาท ซึ่งจะนำไปสบทบกับยอดรับบริจาคของทางจังหวัดลำพูน ที่มีอยู่ประมาณ 104,000 บาท เพื่อส่งมอบให้กับกองบัญชาการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำพูน นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ต่อไป

สามารถบริจาคได้ที่สำนักงานจังหวัดลำพูน ศาลากลางจังหวัดลำพูน หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาลำพูน เลขที่บัญชี 511-0-87175-2 ชื่อบัญชี "ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ จ.ลำพูน"

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

พิษณุโลกชวนซื้อ'ดอกป๊อปปี้'วันทหารผ่านศึก


สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ซื้อ "ดอกป๊อปปี้" เนื่องในวันทหารผ่านศึก วันที่ 3 กุมภาพันธ์ นี้

พ.ท.สิทธิพันธุ์ หล้าอินเชื้อ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสที่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก จึงได้กำหนดจัดงานวันทหารผ่านศึกขึ้น ณ สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป สำหรับสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก รับผิดชอบพื้นที่ในจังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ปัจจุบันมีทหารผ่านศึกที่อยู่ในความดูแลประมาณ 26,000 คน ตลอดจนกำลังพลที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ประมาณ 5,000 คน ที่ต้องดูแลรวมถึงครอบครัวด้วย

โดยในในปีนี้ทางสำนักงานฯ ได้สั่งดอกป๊อปปี้จากมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อนำมาจำหน่ายนำรายได้กลับไปช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว จำนวน 8,000 ดอก ราคาดอกละ 20 บาท โดยในแต่ละปีจะมีการนำออกมาจำหน่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่ผู้มีจิตศรัทธาส่วนใหญ่ก็จะช่วยเหลือและทำบุญร่วมไปด้วย ซึ่งขณะนี้ดอกป๊อปปี้ที่จำหน่ายใกล้หมดแล้ว เนื่องจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีการนำไปจำหน่ายที่ตลาดในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์อุหนุนจากประชาชนเป็นอย่างดี ขายหมดภายใน 1 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่ได้จัดจำหน่ายอยู่ที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตพิษณุโลก และจะนำไปจำหน่ายในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ นี้ ที่บริเวณงานวันทหารผ่านศึก ณ สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

ผู้ว่าฯนครศรีฯ ลุยสร้างบ้านให้ผู้ประสบอุทกภัย


ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช Kick off เดินหน้าสร้างบ้านให้ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อสร้างอาชีพเสริมตามความถนัด

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนเร่งเดินหน้าสร้างบ้านแก่ผู้ประสบภัย โดยกำหนด Kick off พร้อมกันทั้งจังหวัดในวันนี้ ซึ่งเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ผ่านมา ส่งผลให้มีประชาชนผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสิ่งสาธารณประโยชน์เป็นจำนวนมากซึ่งภาคส่วนต่าง ๆ ในทุกระดับได้เร่งเข้าให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายและเกือบทุกพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ ยกเว้นในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่รับน้ำเขตพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง

ส่วนการช่วยเหลือในกรณีที่ผู้ประสบภัยบ้านเรือนพังเสียหาย จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดกิจกรรม Kick off เพื่อเร่งสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัยที่บ้านเรือนพังเสียหาย จำนวนทั้งสิ้น 469 หลัง ในจำนวนนี้เป็นบ้านเรือนที่พังเสียหายทั้งหลัง จำนวน 99 หลัง เสียหายมาก 183 หลัง และเสียหายเล็กน้อย จำนวน 187 หลัง โดยจะสร้างบ้านหลังแรกแก่ นายกระจ่าง พันธุ บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ต.ท่าดี อ.ลานสกา ซึ่งเป็นผู้ประสบภัยที่ถูกน้ำไหลหลากบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง จากนั้นจะเดินหน้าสร้างบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยให้ครบทั้ง 99 หลัง ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 30 วันต่อหลังคาเรือน ใช้งบประมาณค่าวัสดุก่อสร้างไม่เกิน 230,000 บาทต่อหลัง

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมถึงมาตรการสร้างรายได้และอาชีพเสริมแก่ผู้ประสบภัยว่า ได้มอบนโยบายแก่ทุกส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กร ให้มีการปรับเปลี่ยนการกิจกรรมที่จะมีขึ้นในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ตอบสนองและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ผู้ประสบภัยได้มีรายได้ไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อสร้างอาชีพเสริมตามความถนัด ลดความเดือดร้อนและผ่อนคลายความตึงเครียด พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและภาคเอกชนเพื่อลดค่าครองชีพแก่ผู้ประสบภัย เพิ่มเติมจากมาตรการดูแลช่วยเหลือทางด้านการเงินการคลังของรัฐบาล และการจัดคาราวานจำหน่ายสินค้าราคาถูกพิเศษในพื้นที่ประสบภัย

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

อุตุเผยไทยตอนบนยังหนาว มีหมอกในตอนเช้า กทม.เย็น


กรมอุตุฯ ระบุ ประเทศไทยตอนบนยังหนาวเย็น มีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝนน้อยระยะนี้ ขณะที่ กรุงเทพฯปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปและมีหมอกในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องและการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนเล็กน้อยในระยะนี้ ส่วนกรุงเทพฯ ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ข่าวโดย INN วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

เบื้องลึก !! สั่งปลด รมต.-อัยการสหรัฐ​

เผยแพร่เมื่อ 31 ม.ค. 2017​

 

เบื้องลึก !! ลอบสังหารกุนซืออองซาน ซูจี​

เผยแพร่เมื่อ 30 ม.ค. 2017​

 

จิตแพทย์เตือนทรัมป์ส่อป่วยทางจิต


สหรัฐ 1 ก.พ.-จิตแพทย์ในสหรัฐเตือนสิ่งที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิบัติและแสดงออกหลังรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ เป็นสัญญาณบ่งบอกให้เห็นว่าเขามีอาการป่วยทางจิต และหลงตัวเองอย่างรุนแรง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ กำลังโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากเพิ่งรับตำแหน่งผู้นำสหรัฐ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายต่างๆ ทั้งการเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก ล่าสุดการลงนามคำสั่งพิเศษห้ามชาวมุสลิม 7 ชาติเข้าสหรัฐชั่วคราว เพื่อป้องกันกลุ่มก่อการร้าย ส่งผลให้ขณะนี้มีบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาในสหรัฐเริ่มออกมาเตือนว่าสิ่งที่นายทรัมป์กำลังทำและแสดงออกเป็นสัญญาณบ่งบอกให้เห็นว่าเขามีอาการป่วยทางจิต

โดยโยนความผิดให้ชาวมุสลิม และห้ามกลุ่มคนถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม รวมทั้งคนเข้าเมืองและคนนับถือต่างศาสนาเข้าประเทศ อีกทั้งยังหลงตัวเองอย่างรุนแรง เชื่อว่าตัวเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างง่ายดายพร้อมกับชี้ว่านางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งให้กับนายทรัมป์ เคยบอกว่านายทรัมป์เป็นคนขี้โมโห อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี.-สำนักข่าวไทย

นักการทูตสหรัฐท้าทายคำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของทรัมป์


วอชิงตัน 1 ก.พ. – กลุ่มนักการทูตสหรัฐราว 900 คน ได้ร่วมลงนามในบันทึกประท้วงคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามนักดินทางและผู้อพยพจาก 7 ประเทศ ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม เข้าประเทศสหรัฐเป็นการชั่วคราว ซึ่งเป็นการแสดงการท้าทายนโยบายใหม่ของผู้นำสหรัฐ

เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐคนหนึ่งยืนยันว่า นักการทูตราว 900 คนที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ลงชื่อในจดหมายที่เป็น บันทึกข้อความเห็นต่าง ส่งไปยังนายทอม แชนนอน รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐผ่านทางช่องทางของกระทรวงต่างประเทศที่เรียกว่า ดิสเซนท์ แชนแนล ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารให้แก่เจ้าหน้าที่การทูตที่สามารถแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายรัฐบาลได้ ในขณะที่นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า เขารับทราบเรื่องบันทึกดังกล่าวแล้วและเตือนบรรดานักการทูตว่า ควรจะปฏิบัติตามนโยบายหรือไม่ก็ลาออกไป เขากล่าวว่า มาตรการห้ามเข้าประเทศนี้มีความจำเป็นเพื่อชลอการเดินทางเข้าประเทศของประชาชนจากประเทศที่มีกลุ่มสุดขั้วที่ใช้ความรุนแรงเป็นจำนวนมากในขณะที่รัฐบาลกำลังร่างมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันกลุ่มก่อการร้ายมิให้เข้าประเทศ

ในร่างบันทึกดังกล่าว ซึ่งมีการเปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการ ระบุว่า คำสั่งทางการบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ดังกล่าวจะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศที่ได้รับผลกระทบ สร้างความรู้สึกต่อต้านชาวอเมริกันมากยิ่งขึ้นและกระทบกับผู้ที่ต้องการเดินางมาเยือนสหรัฐด้วยเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม นอกจากนั้น ยังระบุว่า นโยบายดั้งกล่าวสวนทางกับค่านิยมหลักของอเมริกาว่าด้วยการไม่เลือกปฏิบัติ การปฏิบัติอย่างเป็นธรรมและการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศและผู้ที่เดินทางย้ายถิ่นฐาน

ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งห้ามนักท่องเที่ยวจากอิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เข้าประเทศเป็นเวลา 90 วัน และสั่งระงับการเข้าประเทศของผู้อพยพจากทุกประเทศเป็นเวลาอย่างน้อย 120 วัน และห้ามผู้อพยพจากซีเรียเข้าประเทศอย่างไม่มีกำหนด.-สำนักข่าวไทย

สมาคมในวงการฮอลลีวูด ประณามคำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของทรัมป์


ลอสแอนเจลิส 1 ก.พ.- หลายสมาคมในแวดวงฮอลลีวูดประณามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ห้ามพลเรือนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐอย่างน้อย 90 วัน

สมาคมผู้กำกับแห่งอเมริกาแถลงว่า ศิลปินทุกคนไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาไหน หรือเพศใด ควรต้องเข้ามาแสดงความสามารถในสหรัฐได้ นโยบายที่ขัดขวางโดยขาดการใคร่ครวญจึงเป็นเรื่องกังวลของทุกคนที่รักในศิลปะและภาพยนตร์ การแลกเปลี่ยนศิลปะอย่างเปิดกว้างคือแก่นแท้ของการเป็นศิลปิน เป็นการดึงดูดมนุษยชาติให้ก้าวข้ามพรมแดนและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาพยนตร์และโทรทัศน์กำลังพยายามทำอยู่

ด้านสมาคมนักแสดงอาชีพแห่งอเมริกาและสหพันธ์ศิลปินวิทยุและโทรทัศน์อเมริกัน (SAG-AFTRA) ซึ่งมีนักแสดงเป็นสมาชิกร่วม 160,000 คน ยืนยันปกป้องความเสมอภาคแห่งโอกาสสำหรับทุกคน โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ เพศ ศาสนา ความทุพพลภาพ รสนิยมทางเพศ หรือประเทศต้นกำเนิด นโยบายคนเข้าเมืองนี้เป็นความหลงผิด สมาคมจะสนับสนุนศิลปินทุกคนไปตลอดทาง

ขณะที่สมาคมผู้เขียนบทแห่งอเมริกาประณามคำสั่งทรัมป์ที่ไร้ความเป็นอเมริกัน และกังวลอย่างยิ่งที่นายอัสการ์ ฟาร์ฮาดี ผู้กำกับชาวอิหร่านเจ้าของออสการ์ปี 2555 ไม่สามารถมาร่วมเวทีออสการ์ในปลายเดือนนี้ได้เพราะคำสั่งดังกล่าว สมาคมระบุว่า อุตสาหกรรมบันเทิงในสหรัฐถือกำเนิดขึ้นจากจินตนาการของคนเข้าเมือง สมาคมเป็นที่รวมของผู้เขียนบทที่เปิดรับคนจากประเทศอื่น คนจากหลากหลายความเชื่อ คนที่อยากแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์กับสหรัฐ สมาคมเป็นหนี้บุญคุณของคนเหล่านี้ จึงจะยืนเคียงข้างและร่วมต่อสู้เพื่อพวกเขา.- สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นโต้ทรัมป์กล่าวหาปั่นค่าเงิน


ญี่ปุ่น 1 ก.พ.-นายโยชิฮิเดะ ซูกะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงปฏิเสธความเห็น ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าญี่ปุ่นกำลังปั่นเงินเยนให้อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หวังได้เปรียบทางการค้า

โดยยืนยันว่าความเห็นของทรัมป์ไม่ถูกต้อง และญี่ปุ่นมีแผนจะชี้แจงให้สหรัฐเข้าใจว่า นโยบายการเงินของญี่ปุ่นที่ดึงให้เงินเยนอ่อนค่าลง มีเป้าหมายเพื่อยับยั้งอัตราเงินเฟ้อ ไม่ใช่เป็นการลดค่าเงินอย่างที่ผู้นำสหรัฐเข้าใจ .-สำนักข่าวไทย

ชาติตะวันตกไม่พอใจอิหร่านยิงขีปนาวุธ


อิหร่าน 1 ก.พ.-นางนิกกี้ ฮาเลย์ ทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซี) จัดการประชุมเพื่อตอบโต้กรณีอิหร่านยิงขีปนาวุธเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เพราะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างเด็ดขาด ขีปนาวุธของอิหร่านอาจจะสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ ขณะที่นายแมททิว ไรครอฟท์ ทูตอังกฤษ กล่าวว่า การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่านจะยิ่งทำให้เสถียรภาพในภูมิภาคซึ่งสั่นคลอนอยู่แล้วย่ำแย่ลงไปอีก.-สำนักข่าวไทย

การสู้รบในยูเครน คร่าชีวิตทหารแล้วอย่างน้อย 10 นาย


ยูเครน 1 ก.พ.-สถานการณ์สู้รบรอบใหม่ระหว่างทหารรัฐบาลยูเครน กับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออก ที่รัสเซียให้การหนุนหลังตลอด 5 วัน ที่ผ่านมา คร่าชีวิตทหารไปแล้วอย่างน้อย 10 นาย

ประชาชนเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 8 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก บ้านเรือนพังเสียหาย ไม่มีไฟฟ้าใช้ สาธารณูปโภคต่างๆ ได้รับผลกระทบ ขณะที่ยูเครนและรัสเซียต่างกล่าวโทษกันไปมาว่าเป็นฝ่ายทำให้การสู้รบปะทุขึ้น ด้านนายโวโลดีมีร์ เยลเชนโก ทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้ยูเอ็นเข้าแทรกแซงเพื่อช่วยหยุดยั้งการสู้รบ.-สำนักข่าวไทย

ทรัมป์ปลุกกระแสชาตินิยมขึ้นในเม็กซิโก


เม็กซิโกซิตี 1 ก.พ.- ชาวเม็กซิโกใช้สื่อสังคมออนไลน์แสดงออกถึงความรักชาติ และเรียกร้องให้ต่อต้านสินค้าอเมริกัน เพื่อแสดงพลังต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่จะให้ชาวเม็กซิโกจ่ายเงินค่าสร้างกำแพงพรมแดน

นักท่องสื่อสังคมออนไลน์ชาวเม็กซิโกพากันเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปธงชาติเม็กซิโก ติดแฮชแท็ก #WeAreAllMexico แฮชแท็กต่อต้านสินค้าอเมริกัน #AdiosProductosGringos ทวีตข้อความต่อต้านทรัมป์ ข้อความ Viva Mexico และคุยว่าอยู่ในประเทศที่ดีที่สุดในโลก แม้แต่โฆษกประธานาธิบดีเอ็นรีเก เปนญา เนียโต รัฐมนตรีต่างประเทศ รัฐมนตรีคลัง และหน่วยงานรัฐบาลก็ติดธงชาติในรูปโปรไฟล์ นายการ์ลอส สลิม เจ้าของอาณาจักรธุรกิจโทรคมนาคม มหาเศรษฐีอันดับสี่ของโลกเปิดแถลงข่าวแสดงความยินดีอย่างยิ่งที่ชาวเม็กซิโกแสดงพลังรักชาติและขอให้ช่วยกันสนับสนุนประธานาธิบดีในการเจรจากับสหรัฐ แม้ว่านโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาลกระทบต่อธุรกิจของเขาก็ตาม

ประธานาธิบดีเปนญา เนียโตซึ่งมีคะแนนนิยมเหลือเพียงร้อยละ 12 เพราะประชาชนประท้วงเรื่องราคาน้ำมันแพงขึ้น เกาะกระแสชาตินิยมด้วยการกล่าวในบันทึกวีดิทัศน์เมื่อค่ำวันจันทร์ว่า ความเป็นเอกภาพแห่งชาติคือหัวใจของการดำเนินยุทธศาสตร์และมาตรการต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เขาจะยืนหยัดปกป้องศักดิ์ศรีและเอกราชของเม็กซิโก สวนทางกับที่กล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับทรัมป์เมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลทั้งสองประเทศยังสามารถเจรจากันได้อีกมาก ชาวเม็กซิโกรวมฝ่ายค้านและคู่แข่งทางการเมืองชื่นชมประธานาธิบดีที่ตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปพบทรัมป์ในสัปดาห์นี้ หลังจากทรัมป์สั่งก่อสร้างกำแพงและยืนยันว่าจะให้เม็กซิโกเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย.-สำนักข่าวไทย

ชาวอเมริกันเพียง 1 ใน 3 รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นจากคำสั่งห้ามคนเข้าประเทศของทรัมป์


นิวยอร์ก 1 ก.พ. – รอยเตอร์/อิปซอสเผยผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายห้ามพลเมือง 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐพบว่า มีประชาชนชาวอเมริกันน้อยกว่า 1 ใน 3 ที่รู้สึกตนเองปลอดภัยมากขึ้นจากนโยบายดังกล่าว

สำนักข่าวรอยเตอร์และอิปซอสสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันต่อนโยบายห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมและห้ามผู้ลี้ภัยทั้งหมดเดินทางเข้าประเทศ 120 วันในช่วงระหว่างวันที่ 30-31 มกราคมที่ผ่านมา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 31 รู้สึกว่าตนเองปลอดภัยมากขึ้น หลังมีการประกาศใช้ข้อบังคับดังกล่าว ขณะที่ร้อยละ 26 รู้สึกปลอดภัยน้อยลง และอีกร้อยละ 31 ระบุว่าไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง ส่วนที่เหลือตอบว่าไม่ทราบ

ผลสำรวจเผยอีกว่า ชาวอเมริกันเกือบครึ่ง หรือร้อยละ 49 เห็นด้วยกับคำสั่งควบคุมคนเข้าประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ร้อยละ 41 ไม่เห็นด้วย โดยผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตร้อยละ 53 ระบุว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยอย่างมากกับคำสั่งของทรัมป์ ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันร้อยละ 51 ตอบว่า พวกเขาเห็นด้วยอย่างมากกับคำสั่งดังกล่าว

ทั้งนี้ มีสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และว่า อาจส่งผลตรงกันข้ามในด้านความรู้สึกของชาวมุสลิม ด้านทรัมป์แถลงว่า คำสั่งห้ามคนเข้าเมืองของเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องศาสนา แต่เป็นการทำเพื่อป้องกันประเทศจากภัยก่อการร้าย.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นจะชี้แจงนโยบายบีโอเจที่ไม่แทรกแซงค่าเงินเยน


โตเกียว 1 ก.พ. – โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะชี้แจงสหรัฐว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพ และไม่แทรกแซงค่าเงินเยน

นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแถลงข่าววันนี้ว่า ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายตามความตกลงในกลุ่มจี7 และจี20 และกล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นจะไม่เปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสม โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นมีถ้อยแถลงภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของสหรัฐวิจารณ์จีน เยอรมนี และญี่ปุ่นว่า มีนโยบายในการทำให้ค่าเงินของประเทศลดลงเพื่อจะสร้างความได้เปรียบเหนือสหรัฐ .-สำนักข่าวไทย

แอฟริกาใต้-อียู โทษกันเรื่องปัญหาอุตสาหกรรมสัตว์ปีก


โจฮันเนสเบิร์ก 1 ก.พ.- อุตสาหกรรมสัตว์ปีกในแอฟริกาใต้โทษสหภาพยุโรป (อียู) ว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้ใกล้ล้มละลายเพราะทุ่มตลาดด้วยการส่งไก่ราคาถูกเข้าประเทศ ขณะที่อียูโต้กลับว่าเป็นการโยนความผิด เพราะส่งออกไก่ไปแอฟริกาใต้น้อยเกินกว่าจะก่อปัญหาได้

พนักงานและผู้บริหารธุรกิจสัตว์ปีกในแอฟริกาใต้จะเดินขบวนไปยังสำนักงานอียูในกรุงพริทอเรียวันนี้ โดยอ้างว่า มีคนตกงานแล้ว 4,000-5,000 คน เสี่ยงตกงานอีก 110,000 คน ยังไม่รวมคนงานธุรกิจอาหารสัตว์อีก 20,000 คน อาร์ซีแอลฟูดส์ บริษัทผู้ผลิตสัตว์ปีกใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้ปลดคนงานไปแล้ว 1,350 คน หรือ 1 ใน 5 ของทั้งหมดเมื่อเดือนก่อน และกำลังขายฟาร์ม 15 แห่งจากที่มีอยู่ 25 แห่ง ผู้บริหารบริษัทระบุว่า ธุรกิจสัตว์ปีกมีปัญหาตั้งแต่อียูเริ่มส่งออกสัตว์ปีกเข้ามามากขึ้นในลักษณะของการทุ่มตลาด บริษัทไม่เพียงแบกรับภาระทางการเงินในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ยังขาดทุนหนักและใกล้ล้มละลายหากไม่ลดขนาดธุรกิจลง อุตสาหกรรมสัตว์ปีกแอฟริกาใต้กล่าวหาอียูว่า ทุ่มตลาดด้วยการส่งออกน่องไก่ราคาต่ำกว่าทุนเพราะตลาดยุโรปชอบรับประทานเนื้อส่วนหน้าอกมากกว่า ด้านเลขาธิการพรรคเอเอ็นซี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเสนอให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงด้วยการซื้อฟาร์มที่ใกล้จะปิดตัวและหาตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ผลิตในประเทศ

ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตอียูประจำแอฟริกาใต้ชี้แจงว่า เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนมีปัญหา ข้อตกลงการค้ามักตกเป็นแพะรับบาปอยู่เสมอ การคิดว่านโยบายการค้าของอียูเป็นสาเหตุให้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกแอฟริกาใต้มีปัญหาเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะสัดส่วนไก่และน่องไก่ที่อียูส่งออกมาแอฟริกาใต้เมื่อเทียบกับการบริโภคในแอฟริกาใต้มีไม่ถึงร้อยละ 7 และร้อยละ 14 ตามลำดับ ปัจจุบันอียูเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของแอฟริกาใต้ และเพิ่งบังคับใช้ข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างกันเมื่อปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

เผยสตรีอินโดนีเซียบางคนอยากเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายของไอเอส


จาการ์ตา 1 ก.พ.- หน่วยงานวิชาการในอินโดนีเซียเตือนว่า สตรีอินโดนีเซียเริ่มมีบทบาทเรื่องความคิดสุดโต่งมากขึ้น บางคนถึงกับหาทางจะเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

รายงานของสถาบันเพื่อนโยบายการวิเคราะห์ความขัดแย้งในกรุงจาการ์ตาระบุว่า ปัญหานี้เป็นที่จับตามองมากขึ้นตั้งแต่ทางการจับกุมสตรีอินโดนีเซีย 2 คนในเดือนธันวาคมข้อหาวางแผนระเบิดฆ่าตัวตายในประเทศ ที่ผ่านมามีชาวอินโดนีเซียหลายคนไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในตะวันออกกลาง ประกาศตัวภักดีต่อกลุ่มไอเอส ก่อเหตุหรือวางแผนจะก่อเหตุในนามของกลุ่มไอเอส แต่การที่สตรีอินโดนีเซียอยากมีส่วนร่วมด้วยตนเองมากกว่าสนับสนุนสามีที่มีแนวคิดสุดโต่งกำลังเป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ พวกเธอฝึกฝนการก่อเหตุร้ายแรงถึงตายไม่ต่างจากสตรีมุสลิมในประเทศอื่น เป็นผลจากสื่อสังคมออนไลน์ที่เปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อและมีส่วนร่วมในกระดานสนทนาของกลุ่มสุดโต่ง รัฐบาลต้องเร่งค้นหาเครือข่ายของสตรีเหล่านี้ รวมทั้งสอบปากคำสตรีที่ถูกเนรเทศกลับมาจากตุรกีเพราะพยายามข้ามพรมแดนเข้าไปในซีเรียเพื่อหาทางหยุดยั้งเหตุร้าย

รายงานกล่าวถึงกรณีของสตรีอินโดนีเซีย 2 คนที่ถูกจับว่า ได้รับคำสั่งและการสนับสนุนจากทางการเงินจากนายบาห์รุน นาอิม ชาวอินโดนีเซียที่เป็นสาวกคนสำคัญของไอเอส เจ้าหน้าที่จับกุมสตรีคนแรกพร้อมสามีได้ก่อนที่ทั้งคู่จะก่อเหตุที่ทำเนียบประธานาธิบดี จากนั้นจึงจับกุมสตรีอีกคนที่จะก่อเหตุบนเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอินโดนีเซีย ส่วนสตรีคนอื่น ๆ ที่ถูกจับมีทั้งคนที่ตั้งกลุ่มระดมเงินให้ไอเอส ช่วยทำระเบิด และเข้าเป็นนักรบให้กลุ่มติดอาวุธบนเกาะสุลาเวสี ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย.- สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้ระงับออกวีซาให้อาจารย์ชาวจีน


โซล 1 ก.พ.- เจ้าหน้าที่และสื่อรายงานว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ระงับการออกวีซาใหม่หรือการต่อวีซาให้กับอาจารย์ชาวจีนที่สถาบันขงจื๊อในเกาหลีใต้ ท่ามกลางความตึงเครียดมากขึ้นต่อโครงการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธของสหรัฐในเกาหลีใต้

สถาบันขงจื๊อ ซึ่งเป็นเครือข่ายของทางการจีนที่มีอยู่หลายร้อยแห่งทั่วโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมและภาษาจีนตามแผนการขยายอิทธิพลของจีน และมีสาขาหลายสิบแห่งในเกาหลีใต้โดยเป็นความร่วมมือกับสถาบันศึกษาท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้และจีนมีประเด็นขัดแย้งรุนแรงขึ้นจากแผนการที่เกาหลีใต้ต้องการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธ (ทาด) ของสหรัฐ โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ แต่จีนเกรงว่าจะบ่อนทำลายความมั่นคงของจีน สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ได้ระงับการออกวีซาใหม่และงดขยายระยะเวลาพำนักในประเทศกับอาจารย์ชาวจีน ปัจจุบันสถาบันขงจื้อตั้งอยู่ในเกาหลีใต้จำนวน 22 แห่ง นับว่ามากเป็นอันดับสามของโลก รองจากที่สหรัฐและอังกฤษ .- สำนักข่าวไทย

ที่มา http://www.tnamcot.com/

 

สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวชี้ 6 จังหวัดภาคเหนือ เกิดแผ่นดินไหวถี่


ผอ.สำนักงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหวภาคเหนือ ระบุเดือน ม.ค. 60 เกิดแผ่นดินไหว 6 จังหวัดเหนือ มากถึง 114 ครั้ง

นายอดิศร ฟุ้งขจร ผู้อำนวยการสำนักงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือ คือ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน และตาก มากเป็นประวัติการณ์ถึง 114 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นแผ่นดินไหวเล็ก ขนาดไม่เกิน 3.0 แมกนิจูด ในจำนวนนี้มีแผ่นดินไหว 9 ครั้ง ที่ทำให้ประชาชนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ซึ่งที่รับรู้ได้แรงที่สุดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 25560 เวลา 15.35 น. ขนาด 4.2 แมกนิจูด ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ โดยที่จังหวัดเชียงใหม่มีเหตุมากสุดกว่า 90 ครั้ง ในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.จอมทอง และ อ.แม่วาง

อย่างไรก็ตาม การเกิดแผ่นดินไหวแค่เดือนมกราคม ก็มีความถี่มากกว่าปี 2559 ตลอดทั้งปี สาเหตุจากพลังงานของรอยเลื่อนแม่ทา มีพลังสะสม ทำให้รอยเลื่อนสาขา ปลดปล่อยพลังออกเป็นการผ่อนคลาย ทำให้เกิดความถี่ของแผ่นดินไหว แต่เป็นขนาดเล็ก นับว่าเป็นเรื่องดีที่พลังงานได้ผ่อนคลายลง แต่ก็ไม่ประมาทที่จะต้องเฝ้าติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่เกิดแผ่นดินไหวทุกภาคส่วนได้เข้าให้ความรู้ การฝึกซ้อมรับมือในแต่ละรูปแบบ รวมไปถึงฝึกซ้อมเสมือนจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ล่าสุด นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการเข้าไปให้ความรู้เบื้องต้นของการช่วยเหลือตนเองขณะเกิดแผ่นดินไหว แก่ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน และครู ได้รับความสนใจตื่นตัวมาก ในการนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ต่อกับประชาชนในพื้นที่ กระจายข่าวสารข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงให้ประชาชนรับทราบ อย่างไรก็ตาม การให้ความรู้ต่อนักเรียนและครู เป็นการต่อยอดได้อีกมาก เพราะเด็กนักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ต่อไปกระจายให้กับคนในครอบครัวได้ดี เพราะมีการทดสอบทำให้รู้ว่าการเกิดแผ่นดินไหวขนาดไหน ควรจะกระทำตัวอย่างไร รวมทั้งมาตรการดูแลประชาชนในพื้นที่แผ่นดินไหวเบื้องต้น โดยจะมีการขยายไปยังพื้นที่ ที่มีเหตุแผ่นดินไหวอื่น ๆ ต่อไป

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

ดอยอินทนนท์ อากาศเย็น 4 องศา เกิด‘เหมยขาบ’อีกครั้ง


ยอดดอยอินทนนท์อากาศหนาวเย็น เหลือ 4 องศาเซลเซียส เกิด ‘เหมยขาบ’ อีกครั้ง ขณะยอดนักท่องเที่ยวยังแน่น

เช้านี้บริเวณยอดดอยอินทนนท์ และจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดต่ำลง วัดได้ 4 องศาเซลเซียส สภาพอากาศเปิด พบทะเลหมอก และเหมยขาบ หรือน้ำค้างแข็ง เกิดขึ้นตั้งแต่บริเวณจุดชมวิวกิ่วแม่ปานขึ้นไป คือระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 42 ไปตามริมถนนเป็นช่วงไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว ต่างถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกจำนวนมาก โดยอุณหภูมิเช้านี้ที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน อยู่ที่ 6 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยานฯ อยู่ที่ 9 องศาเซลเซียส ด้านนายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้บนดอยอินทนนท์ ยังคงมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวกันจำนวนมาก

ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะความหนาวเย็น และเป็นช่วงวันหยุดของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่พาครอบครัวมาพักผ่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน ขณะที่จุดท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง ที่ดอยผาตั้งเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หน้าเรือนประทับแรม มีการนำแกะเกือบ 100 ตัว ออกมาเดินเล่นกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเช้า เวลาประมาณ 10.00 น. ของทุก ๆ วัน จะออกมาอาบแดด และรอรับอาหารจากนักท่องเที่ยว ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นและแดดอุ่นยามเช้า ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

เกษตรกรท่าบ่อปลูกมันแกวทำรายได้หลังน้ำโขงลด


เกษตรกรบ้านกองนาง อ.ท่าบ่อ ที่อาศัยอยู่ริมโขง เริ่มปลูกมันแกวหรือมันเพา สร้างรายได้หลังน้ำโขงลด

ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านกองนาง ม.11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงได้ปรับพื้นดินริมตลิ่งเพื่อปลูกมันแกวหรือมันเพา หลังระดับน้ำโขงลดลง ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ทำรายได้ให้กับชาวบ้านปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยจะขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าคนกลางในจังหวัดหนองคายและต่างจังหวัด บางส่วนยังวางขายตามริมทาง โดยจะใช้เวลาปลูกประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายได้ทันที

นางอนุชจิรา ภูละบัติ อายุ 48 ปี ที่อยู่ 71 ม.11 ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย กล่าวว่า ได้ปลูกมันแกวขายมานาน เพราะเป็นมรดกสืบทอดมาจากต้นตระกูล ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม จะมีรายได้จากการขายมันแกวริมทางและส่งขายต่างพื้นที่มัดละ 20 - 100 บาทตามขนาด หรือขายส่งกิโลกรัมละ 10 บาท โดยเฉพาะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะขายได้ดีเป็นพิเศษ เพราะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาในพื้นที่จำนวนมาก บางรายขายได้ปีละ 5 - 7 หมื่นบาท ทุกปีจะมีเงินหมุนเวียนปีละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท ซึ่งชาวบ้านจะซื้อเมล็ดพันธุ์มาจากจังหวัดสระบุรี ในราคากิโลกรัมละ 300 บาท

วิธีการปลูกก็ง่าย ไม่ต้องรดน้ำ ใช้วิธีการดูแลโดยฉีดพ้นฮอร์โมนชีวภาพ และดินบริเวณริมโขงเหมาะสมในการปลูก เพราะเป็นดินร่วนปนทราย ดินไม่แน่น ทำให้มันแกวขยายหัวได้และโตเร็ว มีรสชาติอร่อย กรอบ หวาน แตกต่างจากพื้นที่อื่น เนื่องจากดินมีความชื้น ซึ่งมันแกวที่นี่จะได้รับความนิยมนำไปจำหน่ายของพ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อจำนวนมาก และท่าหมดฤดูการปลูกมันแกว ชาวบ้านที่นี่ก็จะเริมปลูกข้าวโพด มะเขือเทศพริก หมุนเวียนสลับกันไป สร้างรายได้ตลอดทั้งปี

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

อ่างทอง-เจ้าหน้าที่นำยาฆ่าเชื้อฉีดรอบพื้นที่นกอพยพ


อ่างทอง ปศุสัตว์อำเภอ เร่งส่งเจ้าหน้าที่นำยาฆ่าเชื้อฉีดรอบพื้นที่นกอพยพ หลังชาวบ้านนแจ้ง อบต.ป่างิ้ว เข้าช่วยเหลือ

คืบหน้า นกอพยพอาศัยอยู่บริเวณต้นไม้โดยรอบบ้านของ นายพวง อายุ 72 ปี และ นางเจียน อายุ 74 ปี ทองเชื้อสาย อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 1 ต.มหาดไทย อ.เมือง จ.อ่างทอง วันนี้ทางปศุสัตว์อำเภอเร่งส่งเจ้าหน้าที่นำยาฆ่าเชื้อฉีดรอบพื้นที่ป้องกันโรคระบาด โดยรอบบ้านของ นายพวง นางเจียน

ด้าน นายบุญรอด ยอดมีกลิ่น นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่างิ้ว กล่าวว่า หลังจากชาวบ้านต้องทุกข์หนัก หลังนกอพยพจำนวนมากมาอาศัยอยู่บริเวณต้นไม้โดยรอบบ้านของ โดยเป็นนกกระยางขาว และนกน้ำรวมทั้งนกปากห่าง ได้บินอพยพมาอาศัยอยู่ที่บริเวณยอดต้นไม้โดยรอบบ้านสองตายยาย มีการทำรังอยู่บนต้นไม้จำนวนมาก บางส่วนก็หาอาหารมาป้อนลูกในรังและขับถ่ายมูลลงพื้นด้านล่างของต้นไม้

ซึ่งยังมีนกบางส่วนลงมาเดินหากินตามพื้นดินโดยรอบบ้านอย่างไม่เกรงกลัวผู้คน สร้างความเดือดร้อนรำคาญด้านเสียง กลิ่นของมูลนกเป็นอย่างมาก และอาจเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโรค ซึ่งทาง อบต.ป่างิ้ว จึงได้ทำหนังสือเร่งด่วนไปยังสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองอ่างทอง เพื่อขอความสนับสนุนให้ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และอุปกรณ์การพ่นยา มาดำเนินการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในบริเวณดังกล่าวเป็นการป้องกันโรคไข้หวัดนก และเชื้อโรคอื่น ที่อาจจะก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่

ด้าน นายเผชิญ กล่ำภู่ ปศุสัตว์อำเภอเมืองอ่างทอง เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเมืองอ่างทอง ได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่นำยาฆ่าเชื้อโรค กูลตาแรลดีไฮด์ (GLUTARALDEHYDE) ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อโรคความเข้มข้นสูง พร้อมอุปกรณ์เครื่องพ่นยา ลงพื้นที่มาดำเนินการนำยามาฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคทั่วทั้งบริเวณพื้นราบที่นกอพยพอาศัยอยู่ เพื่อป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดนกอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนการดำเนินการที่จะให้นกอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าวนั้น จะต้องทำการตัดติ่งไม้ และยอดของต้นไม้บางส่วนที่อยู่ด้านบนสูงออกไปบ้าง

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

พ่อเมืองแพร่ รุดช่วยผู้ประสบภัยไฟไหม้บ้าน 4 หลัง


พ่อเมืองแพร่ รุดช่วยผู้ประสบภัยไฟไหม้บ้าน 4 หลัง ขณะเจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุ

หลังเกิดเหตุไฟไหม้ซอยข้างวัดชัยมงคล ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ เสียหาย 4 หลัง โดยเสียหายทั้งหลัง 3 หลัง อีก 1 หลัง เสียหายบางส่วน เบื้องต้น นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และเหล่ากาชาดแพร่ ได้นำสิ่งของจำเป็นเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

สำหรับบ้านที่ได้รับความเสียหายนั้น ประกอบด้วย 1.บ้านของ นายบุญส่ง ภิญโญชูโต อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 18/15 ถนนเหมืองแดง (เสียหายทั้งหลัง) 2.บ้านของ นางประพิศ ห้าวหาญ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 18/3 ถนนเหมืองแดง (เสียหายทั้งหลัง) 3.บ้านของ นายพิภพ ห้าวหาญ อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 18/17 ถนนเหมืองแดง (เสียหายทั้งหลัง) 4.บ้านของ นางสมจิตร หมื่นยา อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 18/18 ถนนเหมืองแดง (เสียหายเล็กน้อย กระจกหน้าต่างแตก) ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

ชาวสตูลแห่กรีดยางขายหลังราคาสูงขึ้น 80-90 บาท/กก.


ชาวสตูลแห่กรีดยางขายหลังราคาปรับสูงขึ้น 80 - 90 บาท/กก. เตรียมสร้างโรงงานแปรรูปขนาดใหญ่รองรับผลผลิต

นายนรดีน เจะแล ประธานสหกรณ์ จ.สตูล กล่าวว่า ขณะนี้ราคายางพาราปรับสูงขึ้น หลังจากน้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ ส่งผลให้ชาวสวนยางในพื้นที่ จ.สตูล เร่งกรีดยางพาราทุกเช้า โดยจำหน่ายราคากิโลกรัมละ 80 - 90 บาท ขณะเดียวกัน ในเรื่องของสหกรณ์เดินหน้าโครงการชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืนด้านเศรษฐกิจทำให้โต โดยการเตรียมความพร้อม ในการดูพื้นที่ก่อสร้างโรงงานน้ำยางเพิ่ม เพื่อเป็นโรงงานที่ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ จ.สตูล โดยจะก่อตั้งขึ้นในหมู่ที่ 1 บ้านผังปาล์ม 3 ต.นิคมพัฒนา ในพื้นที่ อ.มะนัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกยางพารามาก และเพื่อดำเนินการเพื่อปกครองด้านธุรกิจน้ำยาง

ขณะที่ นายวีรยุทธ ปูหยัง ชาวสวนยาง จ.สตูล กล่าวว่า เกษตรกรสวนยางพารา จ.สตูล ค่อนข้าง ที่จะดำเนินการอย่างยั่งยืน เนื่องจากชาวสวนยาง เข้ามาเป็นสมาชิกสหกรณ์เพิ่มขึ้น ในการรวมตัวกัน สร้างความเข้มแข็ง ในเรื่องของการบริหารธุรกิจยางพาราเป็นอย่างดี

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

น้ำท่วม อ.ปากพนัง คลี่คคลาย คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำ


อุทกภัยใน อ.ปากพนัง คลี่คคลายต่อเนื่อง คงเหลือพื้นที่ลุ่มต่ำ พบปัจจัยทะเลหนุนส่งผลต่อการระบายมวลน้ำท่วมขัง

นายโสภา แก้วจีน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากแพรก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์อุทกภัยใน อ.ปากพนัง ส่วนใหญ่คลี่คลายลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือในส่วนของ ต.ปากแพรก บริเวณ หมู่ 2, 3, 4, 5 และหมู่ 1, 2, 3 ต.ขนาบนาก แถวประตูระบายน้ำเสือหึง (คลองปากพนัง) ซึ่งขณะนี้ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ ขณะที่ด้านล่างของประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ก็พบว่าในช่วงเที่ยง มวลน้ำจะปรับระดับสูงขึ้น เพราะเป็นเวลาที่ทะเลหนุนสูง

ส่วนที่ ต.คลองกระบือ, คลองน้อย ก็พบว่ามีน้ำท่วมขังเล็กน้อยเช่นกัน ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 5 วัน ระดับน้ำน่าจะลดลงจนแห้ง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม แต่ก็ขึ้นอยู่กับภาวะทะเลหนุนสูงด้วย เนื่องจากเมื่อน้ำเค็มมาเจอกับน้ำจืด ก็จะทำให้มวลน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำ รวมถึงคลองซึ่งเชื่อมออกไปสู่ทะเลได้

ขณะที่ นายพิเชษฐ์ กล้าสุคนธ์ นายกเทศมนตรีเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ปัจจุบันมวลน้ำที่มาจากโซนทิศตะวันตกเริ่มลดลง แต่ก็ยังมีน้ำทะเลหนุนสูงอยู่ ทำให้บางจุดของเทศบาลเมืองปากพนัง เน้นพื้นที่ลุ่มต่ำ ยังคงประสบภาวะน้ำท่วมขัง เฉลี่ย 10 - 20 เซนติเมตร เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสูบมวลน้ำดังกล่าวออก คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 สัปดาห์ สำหรับเทศบาลเมืองปากพนังนั้น มีลักษณะเป็นชุมชนเมือง ทำให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนประชาชน จากการสำรวจมีร้อยละ 5 - 10 จากภาพรวมทั้งอำเภอ หรือประมาณ 100 ครัวเรือน

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

น้ำยังท่วมพื้นที่การเกษตร อ.ชะอวด คาด 1 เดือน แห้ง


น้ำยังท่วมพื้นที่การเกษตร ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช คาด 1 เดือนแห้ง เร่งฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน

นายณัฐกฤช สิทธิโอสถ นายอำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.ชะอวด ปัจจุบันมีแนวโน้มคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง คงเหลือ ต.เคร็ง และ ต.ชะอวด ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะบริเวณลุ่มต่ำ และพื้นที่ทางการเกษตร พบระดับน้ำสูงประมาณ 30 - 50 เซนติเมตร คาดว่าภายใน 1 เดือน จึงจะลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากประสบปัญหาทะเลหนุน โดยทันทีที่ระดับน้ำลดลง เจ้าหน้าที่จะมีการลงสำรวจความเสียหายเพื่อขอสนับสนุนงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือต่อไป

ขณะที่สภาพบ้านเรือนของประชาชนซึ่งได้รับความเสียหายนั้น ล่าสุด ทางอำเภอกำลังอยู่ระหว่างเข้าช่วยเหลือซ่อมแซม จากการประเมินภาพรวมพบส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย เช่น ประตูพัง หน้าต่างชำรุด เบื้องต้นพบว่ามีจำนวนกว่า 1,000 หลัง

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

หมู่ 2 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง จมน้ำกว่า 2 เดือนแล้ว


ชาวบ้านหมู่2 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง จมน้ำ กว่า 2 เดือนแล้ว โรงเรียนบ้านคลองขุด ยังอ่วม ระดับน้ำ 40-50 ซ.ม.

นายจินตณัฐ สุวรรณหมัด ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านคลองขุด ม.2 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เปิดเผย กับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ขณะนี้ชาวบ้าน ที่ หมู่ 2 ต.หนองตรุด ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังต่อเนื่องยาวนานกว่า2 เดือนแล้ว ชาวบ้านต้องอาศัยอยู่บนถนน และที่โรงเรียนบ้านคลองขุด ที่ขณะนี้ระดับน้ำลดลงไปบ้าง แต่ยังท่วมขังประมาณ 40-50 เซ็นติเมตร ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวใน จ.ตรัง ที่ยังคงถูกน้ำท่วมขัง แต่นักเรียนทั้งหมดได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนใกล้เคียงที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว ส่วนอุปกรณ์การเรียน สื่อการสอน อาคารเรียน โรงอาหาร ได้รับความเสียหายเกือบหมด ไม่สามารถเปิดเรียนได้นานเกือบ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน ทางพล.อ.กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางมาเยี่ยม ที่โรงเรียนบ้านคลองขุด พร้อมให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ต้นเหตุของปัญหาน้ำท่วมขังนั้น มาจากผนังกั้นน้ำได้แตกชำรุดเสียหาย ดังนั้นน้ำจากแม่น้ำตรังจึงเอ่อล้นเข้าบริเวณหมู่ 2 อย่างต่อเนื่อง การแก้ไขคือต้องซ่อมผนังกั้นน้ำให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ แต่ต้องใช้งบประมาณมาก และการเดินทางเข้าออกยากลำบาก หรือไม่อย่างนั้น ต้องรอวีธีทางธรรมชาติ คือรอให้แม่น้ำตรังลดปริมาณลงให้ต่ำกว่าบริเวณผนังกั้นน้ำ จึงจะทำให้ในพื้นที่น้ำลดลงสู่ภาวะปกติได้

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

ไทยตอนบนเย็น ใต้ฝนน้อย-กทม.มีหมอก


พยากรณ์เที่ยงวัน ไทยตอนบนยังหนาวเย็น แนะประชาชนระวังสุขภาพ ส่วนภาคใต้ฝนน้อย - กทม. ปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็น โดยทั่วไปและมีหมอกบางในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง และระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้

ขณะที่พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เวลา 12.00 น. วันนี้ - 12.00 น. วันพรุ่งนี้ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 - 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม.

ข่าวโดย INN วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560

ที่มา http://www.innnews.co.th/

 

เบื้องลึก !! แห่พนันทรัมป์ลาออก ปธน.​

เผยแพร่เมื่อ 1 ก.พ. 2017​

 

เปิดบันทึกลับ !! ปัญหา 3 จังหวัดในภาคใต้​

เผยแพร่เมื่อ 29 ส.ค. 2016​