ปุจฉา-วิสัชนา พระอริยเจ้าสายพระป่าธรรมยุติ

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ครับ ขอประทานโอกาสถามปัญหาปู่พอหายกังวลบ้าง ฟังเทศน์ปู่ก็ฟังมามากพอควร แต่ยังไม่เคยถามปัญหาข้อข้องใจใดๆ กับหลวงปู่บ้างเลย จึงขอกราบเรียนถามบ้างว่า ได้ทราบจากเขาเล่าให้ฟังว่าหลวงปู่เคยสร้างวาสนาบารมีมามากใช่ไหมปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>จะว่าใช่ก็ใช่ ถ้าจะไม่หาแง่หาเรื่องราวว่าปู่คุยโม้นะ ส่วนมากโลกมักแส่หาโทษมากกว่าหาคุณธรรมที่ควรหากัน ปู่จึงไม่อยากคิดและพูดในเรื่องทำนองนี้ กลัวคนเป็นโทษแทนที่จะเป็นคุณ</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ดังที่กราบเรียนถามแล้วว่า ได้ทราบมาว่าปู่เคยสร้างวาสนาบารมีมามากใช่ไหม</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ใช่ เชื่อแน่ว่าได้สร้างมามากพอควร ทางโลกเคยเป็นเศรษฐีกระฎุมพีมามากต่อมาก ตลอดเคยเป็นพระราชามหากษัตริย์ ก็เคยเป็นมาหลายชาติจนไม่อาจพรรณนาให้จบสิ้นในความเป็นมาของตนได้ ฉะนั้น การท่องเที่ยวในวัฏสงสารเกี่ยวกับการเกิดการตายปู่จึงไม่สงสัย และเบื่อเต็มประดา จึงได้ออกบวชเพื่อแสวงหาความพ้นจากการเกิด - ตาย อันเปรียบเหมือนเรือนจำขังสัตว์ผู้ต้องโทษ</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แต่ในชาติปัจจุบันนี้ ทำไมปู่จึงมาเกิดในสกุลชาวนา ที่โลกปัจจุบันถือกันว่าเป็นสกุลต่ำต้อยด้อยศักดิ์ศรี ทั้งหน้าที่การงานตลอดผลรายได้ก็ต่ำต้อยน้อยหน้าไม่ทัดเทียมเขา ไม่สมกับเป็นสกุลที่เลี้ยงหนุนคนทั้งแผ่นดินให้มีชีวิตลมหายใจอยู่ได้ตลอดมาบ้างเลย ทำไมปู่จึงไม่ไปเกิดในสกุลพ่อค้ามหาเศรษฐีมีเงินมากๆ และไปเกิดในสกุลเจ้านายผู้สูงศักดิ์ ทรงอำนาจวาสนา วาจาสิทธิ์ขาด คนขยาดกันทั่วดินแดนเล่าปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อันสกุลที่ว่าสูงหรือต่ำนั้น บรรดาสัตว์โลกผู้อยู่ใต้อำนาจกฎแห่งกรรมย่อมมีทางเกิดได้ด้วยกัน อย่าว่าแต่ปู่คนเดียวเลย แม้แต่ภพชาติสูงต่ำนั้นเป็นสายทางเดินของสัตว์โลกผู้มีกรรมจำต้องเดินผ่านเหมือนกันหมด คนมีวาสนามากก็ผ่าน คนมีวาสนาน้อยก็ผ่านภพกำเนิดสกุลต่างๆ ดังกล่าวมา เช่นหลานเป็นพระเจ้าฟ้าเจ้าคุณมีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ หลานจากที่นี่ไปกรุงเทพฯ ด้วยเท้าก็ดี ด้วยรถยนต์รถไฟก็ดี ด้วยเรือเหาะเรือบินก็ดี หลานจำต้องผ่านดินฟ้าอากาศเย็นร้อนอ่อนแข็งที่สูงๆ ต่ำๆ ซึ่งมีอยู่ตามรายทางเรื่อยไป จนถึงจุดที่หมายคือกรุงเทพฯ โดยไม่อาจสงสัย

การเกิดในสกุลสูงๆ ต่ำๆ ตลอดภพชาติต่างๆ กันนั้น สัตว์โลกเกิดตามวาระกรรมของตนมาถึง แม้จะทรงบุญหนักศักดิ์ใหญ่แต่เมื่อถึงวาระกรรมของตนที่ควรจะเสวยอย่างไร ก็จำต้องเสวยตามรายทางคือภพชาตินั้นๆ เท่าที่ปู่มาเกิดในสกุลชาวนาปู่ก็ไม่เสียอกเสียใจ ไม่น้อยเนื้อต่ำใจ เพราะปู่ถือว่าปู่มาเกิดตามวาระกรรมของปู่เอง ปู่จึงไม่ตำหนิติเตียนบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ตลอดญาติมิตรพี่น้องที่เกิดร่วมและใกล้ชิดสนิทกันว่ามาให้โทษปู่ มันเป็นกรรมของใครของเราดังธรรมท่านสอนไว้ไม่มีผิด ไม่มีที่คัดค้าน ปู่ยอมรับธรรมท่านอย่างซึ้งใจไม่มีวันถอนเลย

(มีคนแทรกถามในเวลาเดียวกันอีกเยอะแยะ แต่จะไม่ขอแยกบุคคล)

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ปู่ ก็โลกเขาว่าสกุลชาวนาเป็นสกุลต่ำนี่ หลานถึงไม่อยากให้ปู่มาเกิด อยากให้ปู่เกิดในสกุลสูงๆ กว่านี้ หลานๆ จะได้ภูมิใจ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ภูมิใจบ้าๆ บอๆ อะไร สกุลชาวนานั้นมันต่ำต้อยที่ตรงไหน คนทั้งโลกได้อาศัยข้าวในท้องนาของชาวนาตลอดมา จึงพยุงชีวิตร่างกายมารอดมิใช่หรือ ที่ถูกตามความจริง ควรชมเชยว่า สกุลชาวนาคือสกุลเลี้ยงโลก คือสกุลพ่อสกุลแม่ของมนุษย์ทั้งโลก ด้วยความเป็นคนกตัญญูรู้บุญรู้คุณของสิ่งเลี้ยงดูของผู้เลี้ยงดู แล้วสกุลชาวนานั้นต่ำที่ตรงไหนลองว่ามาซิ งานในโลกนี้ งานอะไรจะทุกข์ลำบากยิ่งกว่างานทำนา คราด ไถ ตกกล้า ปักดำ เก็บเกี่ยว รักษานาด้วยการเปิดน้ำ ปิดน้ำ ทำคลองส่งน้ำ ไม่ได้หลับ ตื่นลืมตาตลอดฤดูกาลทำนา นับแต่เริ่มลงคราดไถจนถึงตีถึงฟาดนวด ตลอดขนขึ้นใส่ยุ้งใส่ฉางอันเป็นวาระสุดท้ายแห่งมหันตทุกข์ของสกุลชาวนา ใครจะอดจะทน ขยันหมั่นเพียร บึกบึนยิ่งกว่าชาวไร่ชาวนาชาวสวนเล่า งานใดที่ดีเด่นพอจะนำมาคุยอวดงานทำนา ทำไร่ ทำสวน การเพาะปลูกต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นงานที่ต้องใช้ความอดความทนความบึกบึนกว่างานใดๆ ของโลกมนุษย์ หิวก็ยอมทน กระหายก็ยอมทน ทุกข์ขนาดไหนก็ยอมอดยอมทน หลังสู้ฟ้า สู้ฝน หน้าสู้ตมสู้โคลน ทนร้อนทนหนาวทนแดดทนฝนชนิดตกนรกทั้งเป็น กว่าจะได้ข้าวเปลือก เผือกมันมาเลี้ยงคนทั้งโลก ร่างกายแทบบรรลัย จิตใจเหี่ยวห่อชนิดพูดไม่ออกบอกไม่ถูกทั้งสิ้น แล้วจะไปชมใครผู้ใดว่าเก่งกว่าพวกชาวไร่ชาวนาเหล่านี้ จะควรตำหนิว่าชาวนาเป็นสกุลต่ำที่ตรงไหน ถ้าตำหนิว่าเขาต่ำจริง เราคนสกุลสูงและสูงๆ ก็อย่ากินข้าวและเผือกมันของเขาซิ มันจะเสียเกียรติของคนลืมตนเย่อหยิ่ง ปล่อยให้ตายเสียจะได้ไม่หนักโลกของชาวนาที่หาข้าวมาให้กิน กินแล้วไม่รู้จักบุญคุณ ยกย่องส่งเสริมกัน นี่คือมนุษย์ประเภทลืมตัวมั่วความเย่อหยิ่งจองหองลำพองตน อย่าถือมาเป็นอารมณ์ให้หนักใจ จงถือท่านผู้ดีมาเป็นคติตัวอย่าง จะไม่เสียทางเดินเพื่อความเป็นคนดีของโลกที่ยังต้องการคนดีอยู่มากมาย ถ้ามีแต่คนประเภทลืมตัวมั่วสุมกับสิ่งทำลายสังคม โลกต้องโกลาหลวุ่นวายและฉิบหายวายปวงได้ไม่สงสัย</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เท่าที่ปู่มาเกิดในสกุลชาวนาในชาตินี้ ปู่พอใจอยู่หรือ มองๆ ดูปู่แล้วไม่เห็นทะเยอทะยานกับอะไรนี่ มากราบเมื่อไร ฟังปู่เทศน์โปรดทีไรเห็นมีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใส เมตตาสงสารลูกหลานตลอดจึงคิดในใจอยากกราบถามบ้างว่า ปู่ยังอยากเกิดในสกุลสูงกว่าสกุลชาวนาอยู่หรือเปล่า</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>คราวเป็นฆราวาสมันก็คิดบ้าๆ เหมือนโลกตื่นลมเขาเหมือนกัน ว่าตนเป็นลูกชาวนา วาสนาน้อย คิดอยากเป็นเจ้าเป็นนายกับเขาเหมือนกัน อย่างน้อยได้เป็นครูสอนนักเรียนก็ยังดี แต่เราคนจนหาเลี้ยงแม่เลี้ยงน้อง พอรู้สึกตัวว่ามีฐานะยากจนไม่มีเวลาเรียนและไม่มีทุนเรียนหนังสือดังนี้แล้วก็หยุดคิด หยุดกังวลใจกับเรื่องนี้ พอมาบวชปฏิบัติธรรมไปเรื่อยๆ ความรู้สึกกับธรรมเริ่มซึมซาบเข้าถึงกันวันละเล็กละน้อย ความที่เคยคิดว่าตนเป็นคนอาภัพวาสนาเป็นลูกชาวนาก็ค่อยๆ หายไปๆ จนกลายเป็นความรู้สึกว่า จะเกิดในสกุลใดก็คือสกุลมนุษย์ ที่ต้องตะเกียกตะกายหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพื่อความอยู่รอดเหมือนๆ กันไปเรื่อยๆ ตราบเท่าทุกวันนี้ซึ่งแก่มากแล้วมันเลยมีความรู้สึกไปคนละโลก และรู้สึกไปในแง่ที่โลกเขาไม่ค่อยคิดหรือไม่คิดกันเสียแล้วทุกวันนี้</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>คิดอย่างไรล่ะปู่ คณะหลานอยากฟัง ปู่เมตตาด้วย</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เพียงแต่ธาตุขันธ์ซึ่งรับผิดชอบมาแต่วันเกิดรู้เดียงสาภาวะเรื่อยมาแต่ต้นภพชาติ พอมาถึงเดี๋ยวนี้มันก็รับผิดชอบกันไม่ได้อยู่แล้ว ว่าไม่ให้หกให้ล้ม มันก็หกก็ล้มก็ซัดก็เซก็หกคะเมนเทนเท่ให้เห็นอยู่ทุกเวลาต่อหน้าต่อตา ต้องเป็นภาระของคนอื่นช่วยดูแลรักษาตลอดอิริยาบถจนถึงวันสุดท้ายคือแตกสลายของขันธ์นี้ แล้วจะให้ปู่ทะเยอทะยานเหาะเหินเดิมเมฆไปยินดีอยากได้สมบัติเงินทองสวรรค์วิมานที่ไหนอีก ซึ่งล้วนแต่เป็น อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จะพังทลายด้วยกันทั้งสิ้น ที่ไหนไม่อยู่ใต้อำนาจของกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นี้ปู่ต้องการและยินดีกับที่นั่นเท่านั้นทุกวันนี้ี้</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ที่ไม่อยู่ใต้อำนาจของกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา นั้น มันคือที่ไหนล่ะปู่ หลานก็อยากไปเหมือนกันนี่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เพียงแต่บอกให้ไหว้พระสวดมนต์ภาวนาบ้าง อย่างน้อยเวลาจะหลับนอนยังพากันขี้เกียจ ก็ที่ นั่น ที่ไม่มีกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไปยึดครองนั้น ไม่ใช่ที่เป็นที่บรรจุคนขี้เกียจ พระเณรเถรชี คหบดี ขี้เกียจนี่ ถ้าหลานๆ ยังขืนขี้เกียจไหว้พระสวดมนต์ ให้ทานรักษาศีล เจริญเมตตาภาวนาอยู่ ก็จะไปเกิดเรื่องกับสถานที่และผู้คนในที่นั่นเข้าอีกก็จะยุ่งกันใหญ่ ฉะนั้น จงพากันพยายามปรับตัวปรับใจให้เข้าสู่ศีลสู่ธรรม ขจัดความขี้เกียจขี้คร้านออกโดยลำดับก่อนค่อยพิจารณากันใหม่ในขั้นต่อไป</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>คำว่า ที่นั่น ปู่ไม่เห็นบอกหลาน เห็นบอกแต่จะไปทะเลาะกับที่และคนในที่นั่นอย่างเดียว ส่วนที่นั่นคือที่เช่นไรปู่ยังไม่บอกนี่ หลานกำลังกระหายอยากฟังโปรดด้วยปู่ี่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>คือ พระนิพพานอย่างไรล่ะหลาน ไม่มีสกุลใดเลิศประเสริฐกว่าสกุลคือพระนิพพานนี้ ปู่จึงต้องการสกุลนี้อย่างหนักเรื่อยมา แต่ตอนนี้ขันธ์ปู่แก่มากแล้ว ใจปู่ก็คงจะแก่ชราเช่นขันธ์กระมัง ใจจึงหมดความอยากความต้องการใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งที่ที่เคยต้องการมากๆ นี้ด้วย ทุกวันนี้ปู่ไม่อยากอะไร ยังมีชีวิตอยู่ปู่ก็ไม่อยาก ตายไปเสียปู่ก็ไม่อยาก ไปนิพพานเสียปู่ก็ไม่อยาก ใจมันหมดความอยากใดๆ เสีย แต่ยังไม่ได้กินได้ดื่มแล้วเวลานี้ จะว่าถูกหรือผิดปู่ก็พูดตามความจริงให้หลานๆ ฟัง จงพากันฟังและพิจารณาด้วยดีนะ
ปรากฏว่าหลานๆ ของปู่เงียบเชียบไปตามๆ กัน ดูอาการอายปู่มาก ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ขึ้นมา อายที่ถามท่านแบบเด็กๆ เกินไป ปู่เห็นท่าไม่สนิทใจ จึงหาอุบายพูดเลียบๆ เคียงๆ ไปทางอื่นเสียบ้างเพื่อเปลี่ยนรสเปลี่ยนชาติ แล้วหลานๆ ก็วกกลับไปสกุลชาวนาของปู่อีกเพราะยังไม่หายข้องใจ ที่ปู่เคยเป็นคนทุกข์ลำบากมาแต่เป็นฆราวาส ไม่น่าจะเป็นผู้ทรงศีลทรงธรรมอันล้ำเลิศอย่างนี้ แต่ทำไมปู่จึงเลิศประเสริฐเป็นที่เคารพเลื่อมใสของปวงชนมากมายนัก
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ถ้าอย่างนั้น คำว่าสกุลสูงหรือต่ำก็ไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคกับนิสัยวาสนาบารมีของมนุษย์และสัตว์ทั่วไตรภพซิใช่ไหมปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ใช่ คนเป็นคน สัตว์เป็นสัตว์ คนดีเป็นคนดี คนชั่วเป็นคนชั่ว คนบุญเป็นคนบุญ คนบาปเป็นคนบาป หากสับปนระคนกันในหมู่มนุษย์และสัตว์ทั่วไตรภพมาดั้งเดิม ไม่มีใครหรือสิ่งใดลบล้างได้ เพราะนั่นเป็นกฎแห่งกรรมประจำสัตว์โลกมาดั้งเดิม ท่านจึงสอนไม่ให้ประมาทกันและกัน เพราะคำว่า กรรม เป็นสิ่งละเอียดสุขุมมากเกินกว่าสติปัญญาธรรมดาและความรู้วิชาของสามัญชนทั่วๆ ไปจะพิสูจน์ให้ถูกต้องหรือตรงตามความจริงแห่งกรรมนั้นๆ ได้ เรื่องเหล่านี้ลึกลับมากสำหรับสามัญชนทั่วๆ ไป มีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์เท่านั้นสามารถพิสูจน์สาเหตุแห่งกรรมและผลกรรมนั้นๆ ได้ ดังพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์แสดงไว้เป็นแบบเดียวกันอย่างตายตัวตามหลักความจริงว่า บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี นิพพานมี นานแสนนานกี่ล้านกัปนับล้านกัลป์เรียงตามลำดับของพระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้แต่ละพระองค์เรื่อยมาจนถึงพระพุทธเจ้า สมณโคดม องค์ปัจจุบันของชาวพุทธเรา สัตว์โลกก็ยังไม่มีรายใดยอมรับว่ามีว่าเป็นตามนั้นด้วยการรู้การเห็นประจักษ์ตน ทั้งนี้เพราะถูกกิเลสตัวมืดมิดปิดทวารมันปิดหูปิดตาปิดใจไว้อย่างมิดชิด เหมือนคนตาบอดหูหนวกไม่สามารถสัมผัสรับรู้สิ่งที่มีอยู่ทั้งหลายด้วยตาด้วยหูที่บอดหนวกของตนได้ นอกจากโดนเอาๆ แล้วลูบคลำไปตามประสาของคนตาบอด ไม่มีอะไรรู้และแยบคายไปกว่านั้น ดังคนตาบอดโดนต้นไม้หรือต้นเสา หัวตอ เป็นต้น เจ็บไปเปล่าๆ ไม่มีทางมองเห็นและเข็ดหลาบได้ ต่อไปก็โดนอีกเจ็บอีกอยู่ร่ำไปเพราะตาไม่เห็น จะเอาอะไรมาแก้ไขการโดนนั้นว่าจะไม่ให้โดนอีกในกาลต่อไป สัตว์โลกโดนทุกข์ โดนบาปกรรมทั้งหลายที่ตนเข้าใจว่าไม่มีก็เช่นเดียวกัน ทั้งๆ โดนทุกข์ก็มองไม่เห็นทุกข์ และบาปที่โดนว่ามาจากสาเหตุอันใด เพราะไม่มีปัญญาธรรมมาแก้ให้เห็นและหลุดไปได้ จำต้องยอมรับทุกข์กันอยู่ร่ำไป
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม




<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เจ้าคะ เวลาภาวนาทำอย่างไรจิตจึงจะรวม</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ให้พิจารณาความตาย

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หนูนั่งภาวนาครั้งหนึ่ง เกิดมีกลิ่นเหม็นร่างกายของตัวเองอย่างรุนแรง จนแทบอาเจียน แต่หนูพยายามฝืนทนนั่งภาวนาอยู่ต่อไป คิดว่าเหม็นก็ช่างมัน ทนเอา อีกสักครู่เกิดอาเจียนออกมาคล้ายเสลดกองอยู่บนตักเต็มไปหมดประมาณได้ ๑ กระโถน พอหนูออกจากภาวนาเอามือจับดูปรากฏว่าไม่เห็นมีอะไร มันเป็นอะไรคะ หลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ธรรม

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ครับ กระผมนั่งสมาธิอยู่ มันเกิดมีแสงสีม่วงมาแยงเข้าตาจะทำอย่างไรครับ </TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เกิดขึ้นมันกะหายไปเอง

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ไม่ต้องไปสนใจมันใช่ไหมครับ หลวงปู่ </TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อื้อ บ่ต้องดีใจ บ่ต้องเสียใจ ฮ้ายกะซ่าง ดีกะซ่าง(ร้ายก็ช่าง ดีก็ช่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ครับ กระผมและครอบครัวเดินทางมาไกลเพื่อกราบนมัสการหลวงปู่ โอกาสนี้ขอฟังธรรมะหรือเทศน์สั้นๆ เพื่อจะได้นำไปเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตต่อไป</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>(นิ่งสักครู่ประมาณ 2-3 นาที) แล้วตอบว่า "เอาใจใส่" และว่า "มนุสโส ปฏิลาโภ"

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>คนที่ฆ่าตัวตายนี่บาปไหมครับ หลวงปู่ </TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บาป มันต้องตาย(ฆ่าตัวตาย) อีกห้าร้อยชาติ

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>คำถามของคนหูหนัก(เกือบหนวก) ผู้หนึ่งชื่อนายคำ เป็นคนมีศีลธรรมดีคนหนึ่ง และเป็นนักภาวนาที่หาตัวจับยากในบรรดาชาวบ้านด้วยกัน แกมีอาการแปลกๆ เกี่ยวกับการภาวนามาเล่าถวายหลวงปู่เสมอๆ เมื่อแกหายหน้าไปท่านจะถามหาและเมตตาแกมาตลอดเวลาร่วม ๒๐ ปี วันหนึ่งได้โอกาส แกเรียนถามหลวงปู่ว่า
หลวงปู่ครับ เป็นเพราะกรรมอันใดหรือ ทำไมหูผมจึงหนวก ผมเคยทำกรรมอะไรไว้บ้างครับ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>แต่ก่อนเวลาพระกำลังเทศน์ มีญาติโยมนั่งฟังอยู่หลายที่ศาลาโรงธรรม แล้วบ่สนใจฟัง ซ้ำยังเป่าแคน ตีฉิ่ง ตีกลอง มารอบศาลาที่พระเทศน์ให้โยมฟังอยู่ แล้วเว้าหยอกผู้สาว เวลาสาวเหลียวมากะพากันเฮ! จนพระที่กำลังเทศน์อยู่เสียสมาธิ ทำให้ลืมคำเทศน์ ต้องตั้งนะโมฯ ขึ้นใหม่ ตั้งเทื่อสองเทื่อ (ครั้งสองครั้ง) กรรมอันนี้จึงทำให้หูหนวก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ชาตินี้สิพ้นกรรมบ่ หลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่คะ ผู้หญิงถ้าบวชเป็นแม่ชี ถ้าแม้นบุญบารมีหลาย สมาธิเก่งๆ ก็อาจจะฮู๊(รู้ภายใน)คือกันบ่ หลวงปู่ </TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อื้อ ฮู๊คือกันนั่นแหล่ว ไปนิพพานได้คือกัน ท่านนิ่งไประยะหนึ่ง แล้วก็เล่าอย่างเมตตาว่า มีหญิงคนหนึ่งอยู่เมืองพม่า อายุได้ ๓๐ ปี รักษาศีลแปดนุ่งขาวห่มขาว กะได้ไปขึ้นสวรรค์...เหาะได้

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เหาะได้ตั้งแต่บ่ทันตายหรือคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ...เหาะได้ตั้งแต่บ่ทันตาย

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เขาบวชมาได้จั๊กปีคะ (กี่ปีคะ) </TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>๓ ปี

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>อันนี้เพิ่นสร้างบุญบารมีมาแต่ชาติก่อนหรือคะหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เทิ่งชาติก่อน เทิ่งชาตินี้ (เทิ่ง=ทั้ง) ปู่เคยไปอยู่ที่นั้นคืนหนึ่ง แม่ชีเอาผ้าขาวมาถวาย มาให้พระอาบน้ำ

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ทุกวันนี้ก็ยังอยู่หรือคะหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>คงจะยังอยู่ เพราะตอนนั้นยังหนุ่มๆ(สาว) อยู่

</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ในเมืองไทยมีไหมคะ คนที่สำเร็จแบบแม่ชีพม่านีู้่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ภาวนาเก่งๆนี้มีอยู่ที่คำชะอี</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เดี๋ยวนี้ยังอยู่ไหมคะ (ถาม พ.ศ. 2526)</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ยังอยู่
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่... ข้าน้อยทำมาหากินอยู่อย่างสุจริต แต่มีคนมาบังเบียด อิจฉาริษยา แกล้งต่างๆนานา เขาว่าเอาหมอธรรม(หมอไสยศาสตร์) มาเสกก้อนหินแล้วขว้างใส่หลังคาบ้าน 3 ก้อน ได้ยินเสียงแล้วมันสิเป็นอันตรายบ่หลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่เป็นหยัง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เขาจะจ้างมือปืนมาฆ่า เขาขู่เข็ญให้หนี ว่าถ้าขืนไม่หนีต้องตาย มันเป็นยังไงคะหลวงปู่ มันจะตายเพราะเขาจริงๆหรือคะู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่เป็นหยัง ถ้าไหว้พระ สวดมนต์ภาวนาอยู่ บ่เป็นหยัง เขาขู่.. นานๆมันกะจืดกะจางไปเอง </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>(ของหัวหน้าครอบครัวผู้ตกทุกข์ได้ยาก) กระผมจะปะ(ปล่อยปละ, เลิกกัน) ลูกปะเมีย มาบวชสิบาปบ่ หลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่เป็นหยัง บ่บาป </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>กระผมได้ยินท่านอาจารย์เปลี่ยน (วัดป่าอรัญญาวิเวก เชียงใหม่) เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนหลวงปู่สั่งให้ลูกศิษฐ์ไปบิณฑบาตแต่บ้านคนจนๆ แม่นบ่ครับหลวงปูู่่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ...(เพื่อให้โอกาสคนจนได้ทำบุญมากกว่าคนมีเงินอยู่แล้ว) </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่คะ ทำอย่างไรจึงจะเรียนหนังสือให้จำได้เก่งๆ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>จั๊ก (ไม่รู้)ตัวเจ้าของเองกะลืมอยู่ (ผู้ถาม... เลยหัวเราะ) </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ทำอย่างๆไรจะให้หลานไม่ต้องติดทหารครับ หลวงปู่ทำน้ำมนต์ให้หลานด้วยครับ หลานกำลังสมัครสอบ แต่พอดีต้องเกณฑ์ทหารไม่อยากให้ติดทหาร กลัวจะเสียการเรียน </TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ถืกกะดี บ่ถืกกะดี (ถืก =ถูก) </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่คะ หนูฝันเห็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ฝันเห็นเขาบ่อยๆแต่หนูรู้จักกับลูกชายเขา ทำไมถึงฝันเห็นเขาคะหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ขาสิมาเกิดนำ </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แล้วหนูควรจะทำยังไงคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ใส่บาตรทำบุญให้เขา </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>อยากรู้ล่วงหน้าว่าคนจะมาหา ทำอย่างไรจึงจะรู้ได้เจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ภาวนา </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>จะรู้ใจเขา ทำอย่างไรเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ภาวนา </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>โยมผู้หญิงเคยไปพักภาวนาที่วัด แต่เกิดกลัวผีเพราะที่วัดเป็นป่าช้า มีการเผาศพเป็นประจำ เลยมากราบเรียนหลวงปู่ตรงๆ
หนูกลัวผีเจ้าค่ะหลวงปู่ หลวงปู่มีคาถากันผีไหมเจ้าคะ ขอให้หนูด้วย
</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>สุขัง สุปะติ
(เป็นคาถาแผ่เมตตา นิสังสะสุตตะปาโฐ คาถาเต็มบท ...สุขัง สุปะติ สุขัง ปฏิพชฌะติ นปาปะกัง สุปินัง ปัสสะติฯ มนุสสานัง ปิโย โหติ อะมนัสสานัง ปิโย โหติ) </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ครับ พวกศรัทธาญาติโยมเก่าๆ ที่เคยปฏิบัติหลวงปู่ พวกที่ตายไปแล้ว หลวงปู่เคยปรากฏหรือเคยนิมิตเห็นบ้างไหมครับในระยะหลังๆนี่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่เห็น ได้ยินแต่เสียง </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ได้ยินเสียงยังไงครับหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ได้ยินเสียงเขามา...เขามารับส่วนบุญ มารับเมตตา </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ได้ยินแต่เสียง บ่เห็นรูป แม่นบ่หลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>(หนังสือพิมพ์ลงข่าวเรื่องผีปอบเข้าสิงคน) เมื่ออ่านถวายท่านฟังจนจบแล้วเรียนถามท่านว่า
ผีปอบมีจริงบ่ครับหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มี </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เจ้าคะ ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตายอีก</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไปบวช </TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ครับ เพื่อนมันแกล้งนินทาว่าร้ายผมต่างๆนานา ทำอย่างไรดีครับ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ ต้องสนใจ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>มันอดไม่ได้นี่ครับ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>แผ่เมตตา
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เจ้าคะ พวกเพื่อนฝูงหนูเขาร่ำรวยมีเงินกันทั้งนั้น ทำยังไงหนูถึงจะรวยอย่างเขาบ้างล่ะเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ทำงาน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ผู้ถามนิ่งไป คงจะคิดตามหลวงปู่ไม่ค่อยทัน ครั้นแล้วเธอผู้นั้นก็ถามซ้ำอีกอย่างไม่ค่อยจะแน่ใจ ทำงานแล้วจะรวยแน่นะเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ทำบุญด้วย
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ครับ ตั้งแต่บวชมาเคยคิดอยากสึกไหมครับ (ผู้ถามเป็นพระซึ่งกำลังคิดอยากสึก)</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เคย
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แล้วทำอย่างไรจึงไม่สึกครับ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อยู่ซื่อๆ (อยู่เฉยๆ) มันกะหายไปเอง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เคยอดอาหารนานที่สุดได้กี่วัน</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ได้ 15 วัน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เคยอดนอนนานที่สุดได้กี่วัน</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ได้ 10 วัน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ตอนที่หลวงปู่ไปจำพรรษาที่หล่มสัก อดข้าวกี่วันครับ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>8 วัน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ไปอยู่ที่หล่มสัก ฟังภาษาเมืองหล่มสักพอได้หรือคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ได้
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หล่มสักนี่ชาวบ้านเขาพูดแบบเมืองเลยหรือคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ.. แต่ก่อนเมืองเลยก็ขึ้นกับหล่มสัก
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เดินจากเมืองเลยไปเชียงใหม่กี่วันเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เดือนหนึ่ง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ไปทางไหน ที่ว่าเจอเสือ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไปทางห้วยลาด บ้านสานตม ภูเรือ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แต่ก่อนมีทางรถไหมเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ มีแต่ทางคนแคบๆ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่มีรองเท้าไหมแต่ก่อน</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่มี เดินเท้าเปล่า
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แต่ก่อนภูเรือยังไม่เป็นอำเภอใช่ไหมเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ.. สานตมมีบ้านเก้าหลังคาเรือน ม่วงไข่ยังไม่ทันมีบ้าน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่พบเสือระหว่างไหน</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>พบที่ม่วงไข่
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เสือมันทำอะไรอยู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มันออกมาที่วัด
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แล้วที่ไหนที่หลวงปู่พบเสือ มันมาลัดหน้า ลัดหลัง ข้างหน้าก็เข้ามา ข้างหลังก็เข้ามา</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อยู่ที่พม่า
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>มันมาดักหลวงปู่หรือเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ก็เดินไปเรื่อยๆ มันก็ไปของมัน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ห่างกันประมาณเท่าไรเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>สามวาสี่วา

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ได้ยินว่าที่ภูหลวง หลวงปู่อยู่ในถ้ำเสือหรือเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>พบเสือ 2 ตัวในถ้ำ ตัวใหญ่กว่าม้าอีก

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่บ่ยั่น (กลัว) เสือหรือเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ยั่นอยู่ แต่อดเอา ตั้งสติ

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>มันทำอย่างไรเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มันเดินมาหา ยืนจ้องอยู่ ร้องอ่าวอือ...ครางอ่าวอือใส่

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>๕๕.แล้วหลวงปู่ทำอย่างไรเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มีสติ ภาวนา พุทโธ พุทโธ

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เป็นถ้ำที่อยู่ของเสือหรือเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อย่างนั้น

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่อยู่ในถ้ำนั้นนานเท่าไรคะ หรือรุ่งเช้าก็หนีเลย</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ อยู่นอนในถ้ำเสือ 1 เดือน ต่างคนต่างอยู่ เป็นมิตรกัน
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เคยไปธุดงค์ที่เมืองลาวหรือเปล่าเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไปหลาย สร้างวัดไว้ที่นั่นด้วย

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ไปพม่าหลายครั้งไหมคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไป สองครั้ง

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่รู้ภาษาพม่าไหมคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>รู้

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่กรุณาพูดให้พวกหนูฟังสักเล็กน้อยได้ไหมเจ้าคะ กินข้าว ภาษาพม่าว่าอย่างไร</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มิซา ซามิซาเล (มากินข้าว)

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>กินน้ำ ภาษาพม่าว่าอย่างไร</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>กินน้ำเหมือนกัน

</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เขาเรียกหลวงปู่ว่าอย่างไร</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บางทีเรียก "ซำบุญ" บางทีเรียก "บุญเจ้า"</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองที่หลวงปู่ไปอยู่พม่าหลายปี ตอนหลังพวกทหารจะมาจับหลวงปู่ ชาวบ้านเขาพาหลวงปู่ไปซ่อนไว้ที่ไหน</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ชาวบ้านเขาพาไปซ่อนไว้ในฉางข้าวถึง 3 วัน เขากลัวพวกทหารจะมาจับไปฆ่า
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ตอนจะกลับเมืองไทยกลับมาได้อย่างไรเจ้าคะู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ขาพามา นำมา มาส่งริมแม่น้ำ คิดว่าจะข้ามแม่น้ำได้อย่างไร พอดีมีเรือของชาวบ้าน เขาเลยรับเอามาเพื่อเอาบุญ นั่งเรือมาประมาณชั่วโมงกว่าก็ข้ามมาได้
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่กรุณาเล่าตอนเทวดาใส่บาตรซิเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เทวดารูปร่างสวยงามมาก เป็นผู้ชายมาใส่บาตร
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>อาหารมีอะไรบ้างเจ้าคะู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ข้าวถ้วยหนึ่ง แกงถ้วยหนึ่ง และปลาขาว 2 ตัว ฉันพอดีอิ่ม ไม่มีอาหารเหลือ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เวลาฉันข้าวที่เทวดาใส่บาตร รสชาติเป็นอย่างไรเจ้าคะูู่่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>แซ่บ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ปลาเหมือนปลาเมืองมนุษย์ไหมคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เหมือน แต่ข้าวอ่อน นิ่มกว่าข้าวเมืองมนุษย์
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>อิ่มได้นานไหมเจ้าคะ ฉันข้าวเทวดา</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อิ่มได้วันหนึ่ง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ตรงที่เทวดามาใส่บาตรนั้นห่างจากหมู่บ้านมากไหมเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไกล อยู่กลางป่า
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ตอนไปอยู่ขอนแก่นที่มีคนเอาค้อนมาปา หลวงปู่กำลังเดินจงกรมหรือทำอะไรอยู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เขาไม่อยากให้อยู่ ส่วนเราอยากอยู่ มันผิดใจเขา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>อยู่บ้านอะไรคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อยู่บ้านหนองหิน เมืองขอนแก่น เราเดินจงกรมจวนจะแจ้งแล้ว คนใหญ่อยู่ (คนปา)
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เขาปาแล้วถูกหลวงปู่ไหมเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ ถูกแต่ต้นไม้ใหญ่
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แล้วเป็นอย่างไรเจ้าคะหลวงปู่ โยมคนนั้นน่ะ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>กลับไปถึงบ้านเขาแล้วไฟไหม้บ้านเขา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เจ้าคะ พวกเราเคารพ เลื่อมใส ศรัทธาหลวงปู่กันมากที่สุด อยากบำเพ็ญบุญ ทำกุศลถวายหลวงปู่เท่าใดก็ไม่อิ่ม หลวงปู่บำเพ็ญบารมีทำบุญอะไรไว้ในชาติก่อนเจ้าคะ จึงได้บวชมาเป็นหลวงปู่ให้พวกเราได้กราบไหว้เคารพบูชาอย่างนี้</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไปธาตุพนม สร้างธาตุพนม ไปกับพ่อเชียงหมุน (ชาติก่อนซึ่งเป็นสหายกัน) ช่วยกันสร้างธาตุพนมเอาเงิน 50 สตางค์กับผ้าขาววาหนึ่งเอาไปทานกับเพิ่น
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่ทำบุญแล้วอธิษฐานหรือเปล่าเจ้าคะ อธิษฐานว่าอย่างไร ตอนให้ทานเงิน 50 สตางค์</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อธิษฐานว่าให้ได้บวช ให้พ้นทุกข์ ว่าอย่างนี้แหละ
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เงิน 50 สตางค์สมัยโน้นคงจะมากนะหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มากอยู่
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>สร้างตั้งแต่ทีแรกเลยหรือคะหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ....
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แต่ก่อนพระธาตุพนมสูงอย่างนี้หรือเปล่าเจ้าคะ หลวงปู่ไปสร้างอายุเท่าไรแล้ว</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>สูง ตอนไปเฒ่าแล้ว อายุ 70 ปี เป็นคนลาวข้ามมาจากฝั่งโน้น
เรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนี้สรรพสัตว์ทั้งหลายอาจจะเกิดเป็นมนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน หรือไปตกอยู่ในภพภูมิต่างๆกัน ตามอำนาจของกรรมที่ได้บำเพ็ญมา
เรื่องนี้พวกบัวใต้น้ำซึ่งไม่เคยเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมาก่อนก็ต้องรู้สึกสยดสยอง หวาดเกรงบาปกรรมกันมากขึ้น และดูเหมือนจะมีเมตตาต่อชีวิตสัตว์ต่างๆ มากขึ้น อย่าว่าแต่ชีวิตมนุษย์เลย ศีลข้อปาณาติบาตดูจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก ชีวิตของใครๆก็รัก เราจะไปรบกวนชีวิตอื่นได้อย่างไร ดูเถิด..หลวงปู่เองยังผ่านชีวิตมา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เคยเกิดเป็นคนยางหรือ จึงชอบไปอยู่ในป่าในเขาโดยเฉพาะแถวบ้านยาง</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ...เคยเกิดเป็นยาง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เกิดเป็นยางกี่ครั้งเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ครั้งเดียว เมียตาย ออกลูกตาย
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เมียที่ตายเคยมาหาหลวงปู่สักครั้งไหม</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>มา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เคยเกิดเป็นพม่าหรือเปล่าเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เคย เป็นทหาร จะมารบไทย แต่ยังไม่ทันรบตายเสียก่อน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เคยเป็นเจ็กสักครั้งบ่ (ผู้ถามเป็นจีน ปรารถนาจะให้หลวงปู่เคยเกิดในสัญชาติเดียวกับตนบ้าง)</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ เคยเป็นลาว ก็ชาติที่ไปสร้างพระธาตุพนม
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>อ้อ...เป็นลาว มาสร้างพระธาตุพนมฝั่งไทย ชาตินี้เป็นไทยเลยไปสร้างวัดฝั่งลาว (หลวงปู่ไปสร้างวัดไว้ที่นอกกรุงเวียงจันทน์แห่งหนึ่ง) หรือเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>หลวงปู่เคยเกิดเป็นอะไรอีก</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>เคยเกิดเป็นฟานครั้งหนึ่ง อยู่โคกมน ถูกเขายิงที่โคกมนแล้วมาตายบ้านม่วง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ทำไมถูกเขายิง</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ไปกินมะกอกของเขา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ได้กินอิ่มบ่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ กำลังกิน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ได้ยินว่าหลวงปู่เคยเกิดเป็นหมีด้วยหรือเจ้าคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>อือ...ไปกินแตงเขา แล้วโดนเขาฟัน
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ตายที่นั่นเลยหรือหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ บ่ตาย เขาฟัน ร้อง วา..วา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แตงอะหยังหลวงปู่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>แตงช้าง (แตงร้าน) แตงสุก
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>ตายเพราะเขาฟันนั่นหรือคะ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ เฒ่าเอง ตายเอง
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เขาฟันแล้วหมีก็วิ่งหนีเลยหรือคะ ไม่สู้มนุษย์หรือ ไม่กัดมนุษย์หรือ</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ แตงของเขา
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>แตงนั้นได้กินอิ่มบ่ ตอนเจ้าของเขามาฟัน</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่ บ่ทันได้อิ่ม
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เคยเป็นนก เป็นหนู เคยบ่</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>บ่เคยได้เป็น
</TD></TR><TR vAlign=top><TD> </TD><TD>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=../pics/6x1gray.gif></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 width="90%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD width=32></TD><TD>เคยเป็นสัตว์อะไรอีก</TD></TR><TR vAlign=top><TD></TD><TD>ผีเสื้อ มาตายที่สวนเจ้ากรม </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต




๑. หลวงปู่เจ้าค่ะ ขอเรียนถามข้อสงสัยในสมาธิ พอจิตดิฉันเข้าสู่ภวังค์จะรู้สึกเหมือนร่างกายหล่นจากที่สูงๆ มาก ลึกสุดประมาณ คืออะไรเจ้าค่ะ ดิฉันควรจะทำอย่างไร แต่มิได้เป็นบ่อยนะเจ้าค่ะ นานๆ ถึงจะเป็น ทำให้ดิฉันสงสัยว่าคืออะไร กราบขอหลวงปู่ช่วยให้ความกระจ่างแก่ผู้ด้อยความรู้ด้วยเจ้าค่ะ
เรื่องภาวนานั้นเป็นของดีแล้ว เพราะมีความปิติ และพอใจในธรรมที่ปรากฏเป็นอย่างนั้นด้วยอำนาจของปิติธรรม นักภาวนาก็ต้องเจออย่างนั้น บางที ปรากฏว่าเหาะเหิรเดินอากาศหรือเดินจงกลมในอากาศ หรือขัดสมาธิกลางอากาศ หรือพลิกคว่ำพลิกหงายในอากาศ เป็นการแสดงปาฏิหาริ์ไปในตัวก็มีสารพัดจะเป็นไป แต่เมื่อหมดกำลังก็ถอนออกมา เมื่อถอนออกมาแล้วจงพิจารณาว่า ธรรมอันละเอียดถึงเพียงนี้ ก็ยังอยู่ใต้อำนาจอนิจจังความไม่เที่ยง ขอให้น้อมลงอย่างนั้น อย่าสำคัญว่าเป็นตัวตน เรา เขา สัตว์ บุคคลใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อไม่สำคัญในส่วนนี้ จิตก็สูงขึ้นไปกว่าเดิมอีกในตัวแล้ว จงพยายามทำบ่อยๆ เทอญ และอีกประการหนึ่ง ให้พิจารณาเห็นอนิจจังพร้อมกับลมออกเข้า พร้อมทั้งเห็นทุกข์ เห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนกลมกลืนกันในขณะเดียว ไม่มีอันใดก่อน ไม่มีอันใดหลัง พร้อมกับลมออกเข้า แม้ศีล สมาธิ ปัญญาที่เรียกว่าไตรสิกขาก็รวมพลกันอยู่ ณ ที่นั้นเอง จะบัญญัติหรือไม่บัญญัติก็เป็นจริงอยู่อย่างนั้นเอง เมื่อเห็นชัดในส่วนนี้ พร้อมทั้งชำนาญและเห็นเนืองๆ อยู่ ความระอาในวัฏฏสงสารที่เคยหลงมาแล้วก็จะรู้ตามเป็นจริง จะได้ไม่ทะเยอทะยานในโลกทั้งปวง เพราะโลกทั้งปวงมีแต่เกิดขึ้นและแปรดับ และมีทุกข์ไม่ใช่ตัวตนดังที่ว่ามาแล้วนั้น จะได้สิ้นความสงสัยในปัญหาของเจ้าตัวที่เคยสร้างขึ้น จะแก้ไม่ยาก

โลกคืออะไร...วัตถุภายนอกคืออะไร...ที่สร้างขึ้นด้วยดิน น้ำ ไฟ ลมก็ดี หรือความนึกคิดแห่งสุข ทุกข์ อุเบกขาก็ดี เกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนและดับไปเสมอกันทั้งนั้น เมื่อลูกไม้ของโลกมีเพียงเท่านี้แล้ว เราก็ไม่มีหนทางจะไปสงสัยอะไรอีก มีแต่รู้ตามเป็นจริง ปฏิบัติตามเป็นจริง พ้นจากความสงสัยตามเป็นจริงเท่านั้น ความดีใจเสียใจในโลกทั้งปวงก็ห้ามเบรคลง ปัญญาก็เกิดขึ้นเหนือความหลงตนไปซะ เรียกว่ารู้เท่าทุกข์รู้เท่าสังขารแล้ว จิตก็โอนไปเอนไปโน้มไปในพระนิพพาน คืนกลับความหลงของเจ้าตัวแบบเย็นๆ เท่านั้นเอง...

ด้วยเดชพระพุทธศาสนา พวกเราทั้งหลาย จงรู้ตามเป็นจริงในสังขารทั้งปวงพร้อมกับลมออกเข้าในปัจจุบัน ยิ่งๆ ขึ้นไปในปัจจุบัน หลุดพ้นจากความหลงในปัจจุบันตามเป็นจริงอยู่ทุกเมื่อเทอญ ปัญหาของธรรมะแท้ไม่มาก ที่มันมากวนเวียนก็เพราะกิเลสของเราทรงพระอำนาจ เมื่อพระปัญญาทรงพระอำนาจแล้วพร้อมทั้งสติสัมปยุตกันอยู่ ความสงสัยของเราก็หายไปไม่ขบถคืนเลย จะว่ารู้แจ้งโลกก็ได้ จะว่ารู้แจ้งสังขารก็ได้ จะว่ารู้ทันความหลงของเจ้าตัวก็ได้ ความหลงเจ้าตัวก็หมดประตูจะขี่ช้างสูบบุหรี่มาจากประตูไหน จึงขอจบย่อเพียงนี้...

 

๒. ดิฉันขอพึ่งบารมีหลวงปู่ให้ผ่อนหนักเป็นเบาด้วยเถิดค่ะ เรื่องมีว่า ดิฉันและสามีแต่งงานมา ๑๕ ปีแล้ว มารดาของสามีพยายามหาผู้หญิงมาให้สามีหลายคนแต่ไม่สำเร็จ แต่ในครั้งนี้ท่านพยายามากเหลือเกิน โดยพยายามนำผู้หญิงคนนี้มาบ้านเสมอ ดุด่าว่าดิฉัน ไม่ยอกให้ดิฉันไปไหนกับสามี เพื่อให้ผู้หญิงคนนี้ไปแทน ท่านพยายามทำให้ลูกชายท่านเลิกกับดิฉันให้ได้ แต่สามีดิฉันเป็นคนมีใจเป็นธรรม พยายามอยู่ห่างผู้หญิงคนนี้ ดิฉันไม่มีที่พึ่งอื่นใด หากเป็นกรรมแต่ชาติปางก่อน ดิฉันขอให้หลวงปู่ช่วยให้กรรมนั้นเบาบางลงด้วยเถิดนะค่ะ

รู้เรื่องทุกประการแล้ว จะอย่างไรก็ตามท่านรังเกียจเรา เราอย่าไปรังเกียจท่านตอบ โบราณกล่าวว่า "เหมือนกอบน้ำเข้าใส่ทรายผง เหมือนดั่งหว่านทรายผงลงในน้ำ" ดังนี้เป็นต้น เราต้องเอาความดีเข้าต่อสู้ ความชั่วชนะความดีไม่ได้ดอก เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายด้วยและถ้าหากว่าเป็นกรรมเก่าที่ตามมาแต่ชาติปางก่อนก็ยกมือใส่หัวซะ ขอให้แล้วกันไปจะไม่จองเวรอาฆาตใดๆ ดอกดังนี้เป็นต้น ส่วนหลวงปู่ก็จะพยายามเมตตาไม่ให้เป็นเวรเป็นภัยกัน "ด้วยเดชะพระพุทธศษสนาอันทรงพระคุณค่าอยู่ไม่มีประมาณ ขอให้เรื่องปัจจุบันกาลนี้ให้คลี่คลายผ่อนหนักให้เป็นเบาลง สงบเสียอยู่ทุกเมื่อเทอญ"

ส่วนพระมารดานั้น ท่านทำกรรมไม่ชอบธรรม ไม่สมฐานะเป็นผู้ใหญ่ แต่ผลของกรรมก็มอบให้ไว้เป็นเรื่องของท่านซะ เรามีหน้าที่ทำดีต่อท่านเสมอ ท่านยิ่งแสดงความรังเกียจเราก็ยิ่งทำความดีเพื่อให้ชนะท่านเท่าที่จะทำได้ ปัญหาทั้งหลายหากจะสงบลงเอง เพราะบาปไม่ชนะบุญ