ผีขัดขวางนั่งสมาธิ

เกิดจากสังขารธรรม ไม่ใช่ผีสางที่ไหนหรอก

สภาวธรรม

 

ก็ลองคุยกับเค้าดูดิครับว่าเค้าต้องการอะไรแล้วค่อยๆเจรจาอย่างสันติวิธีนะครับ

 

ท่านอย่าพยายามส่งจิตออกไปข้างนอก
ให้คำบริกรรมแนบติดกับจิตอยู่ตลอดเวลา
การที่ท่านเห็นโน้นเห็นนี่ นั่นไม่ใช่สมาธิ
เป็น นิวรณ์ ที่มาจากกิเลสสร้างขึ้นมา
การที่ท่านไปแผ่เมตตาให้จะทำให้จิตของท่านส่งออกไปข้างนอก
ท่านนั่งไปอีก100ปีก็ไปไม่ถึงไหน

 

ธรรมชาติเป็นอย่างไรกำหนดอย่างนั้น ทั้งทางกายทางความคิด เช่น ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ฯลฯ คิดนึก อย่างไรกำหนดรู้อย่างนั้น เช่น เห็นหนอ เสียงหนอ กลิ่นหนอ ฯลฯ คิดหนอ

นิพพานคืออะไร ?

 

อาการของปฏิจสมุปบาทดีๆนี่เอง แต่ไม่ใช่ภพนี้ ไม่ใช่กายนี้
แต่เป็นจิตที่ประกอบด้วยอวิชชาสร้างขึ้นมา อายตนะก็ปรากฏจริงๆ ของจริงครับมายาของจิต
ไม่ใช่ภพนี้แต่เป็นอีกภพอีกมิติในขณะที่จิตที่ประกอบด้วยอวิชชาสร้างภพน้อยๆให้เราไปยึด
พอร่างกายนี้รู้สึกตัวภพปัจจุบันก็ปรากฏ ภพนั้นก็ดับ รวดเร็วยิ่งกว่าสายฟ้า

ชื่อว่าจิตนี้วิจิตรนัก สร้างภพน้อย ภพใหญ่ตลอดอนันตกาลตราบใดที่จิตยังประกอบด้วยความหลง(อวิชชา)

อวิชชามันเกิดขึ้นเพราะไม่รู้ว่าตัวเองนั้นว่างอยู่ ไม่มีอะไร สรุปคือจิตมันหลง

 

ที่จะบอกให้ทำมันยากนะ แต่ได้ผลจริงๆ
1.ดูปฏิกิริยาทางร่างกาย
2.จำไว้อย่างนึง มันแค่ผีอย่างมากทำเราได้ทางจิต กายมันทำอะไรเราไม่ได้
3.จับอารมณ์ แล้วดูไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะแบบสบายๆนึกขำเลย ประมาณผีนี่มันไม่เห็นทำอะไรเราได้เลย จิ๊บจีอบชมัด

ที่บอกเพราะ ผมไม่แค่เห็นในสมาธิครับ ตัวเป้งๆกลางวันแสกๆก็เห็น แรกๆกลัวบ้าเลยหลังๆตลกดี

 

อืม ผีมันตลกจะตาย เหมือนคนสติไม่เต็ม หาเหตุผลไม่เจอว่ามันจะทำอะไรเราได้

 

ผมเคยไปนั่งที่สำนักสงฆ์ที่เป็นป่าช้า ที่นครพนมครับ นั่งที่ใต้ต้นไม้อะไรก็ไม่รู้จัก ที่มีหอพระไตร อยู่ด้วยผมนั่งอยู่ 1 ชม. ก็มีเสียงกิ่งไม้ตกใส่หลังคาลงพื้นรอบๆตัวผมตลอดเวลา แถมยังมีเสียงกิ่งไม้กระทบกำแพงด้านหน้าผม อีกตะหาก หนำซ้ำยังมีเสียงเคาะตู้ที่ใส่พระไตร อีกตะหากครับ เมื่อนั่งครบ 1 ชม. จิตถอนออกมาแล้วก็ ไม่เห็นมีกิ่งไม้ซักอัน แปลกมั้ยละครับ แต่ผมรู้ว่าเค้าต้องการมาทดสอบเราเท่านั้นเพราะการที่เรา ปฎิบัตินั้นกระแสจิตเราจะแตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งพวกวิณญาณ เค้าสัมผัส ได้ครับ หลังจากนั้นผมก็พิจารณา จนเลิกกลัวผีแบบ ปลิดทั้งเลย

 

ผมก็เคยเจอคับ สวดแผ่เมตตาคับ ผมใช้บทเมตตัญกรณี ส่วนใหญ่จะมาขอบุญคับเมื่อเราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วบุญย่อมเกิด ผู้ลำบากย่อมแลเห็นและมาขอความช่วยเหลือให้แผ่บุญ

 

ที่ผีมันมาให้สัมผัสได้แบบนี้ ย่อมเกิดจากคุณเองไม่มีสิ่งที่คุ้มครองตัวเอง
และการปฎิบัติของคุณมาไม่ถูกทาง

 

ตอนผมบวชเป็นพระ ผมลองนั่งสมาธิครั้งแรก ทำไปประมาณ 2 นาที พบว่าตัวเองอยู่ในลักษณะผีอำขยับตัวไม่ได้ "หูได้ยินเสียง ผู้หญิงหัวเราะติดต่อกันนานมาก" และ มีเสียง "เด็กเป่าปากเสียงคล้ายตดรอบตัว" แต่โชคดีที่ไม่เห็นตัวผี และที่รอบกุฏิไม่มีบ้านคนหรือไม่มีเด็กและผู้หญิงอยู่ใกล้เลย ไม่ทราบว่าทำอย่างไรจะไม่ให้ผีมาหลอกอีก

เมื่อได้ยินเสียงปุ๊บผมก็รีบลืมตาขึ้นขณะที่นั่งสมาธิและพยายามสอดส่ายสายตาไปทั่วแต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย และได้ยินแค่เสียง ที่สำคัญคือ เสียงเด็กเป่าลมมันข้างหูผมเลย และผมขยับก็ตัวไม่ได้ซัก 5 นาที ซึ่งในตอนนั้นมันหัวค่ำผมก็ไม่น่าจะง่วง

+++ ในกรณีของคุณนั้น ต่อให้พยายามปรุงให้ "หูได้ยินเสียง ผู้หญิงหัวเราะติดต่อกันนานมาก" และ มีเสียง "เด็กเป่าปากเสียงคล้ายตดรอบตัว" ในเวลาเดียวกันนั้น ปรุงยังไงก็ปรุงไม่ออกหรอกครับ เพราะมันไม่ใช่จิตคุณ จิตเรามี จิตเขาก็มีเช่นกัน การปรุงในทำนองที่ว่า จิตเรามีคนเดียวจิตอื่นมีไม่ได้นั้น เป็นการปรุงที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

+++ ลักษณะที่คุณเล่ามานั้น เป็นลักษณะของการ "ล้อเล่น ๆ" ครับ ไม่ได้เอาจริง เหมือนกับการที่คุณมีความชำนาญอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วมีคนฝากเด็กฝึกงานมาไว้กับคุณ (พระใหม่ในกุฏิเก่า) แล้วคุณก็แซวเด็กใหม่เล่น ๆ นั่นแหละครับ ใจจริงไม่มีอะไรหรอก เพียงแค่ดูว่า เด็กใหม่ นี้จะฝึกได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง คุณเองก็ไม่ได้ตกทุกข์ได้ยากแต่ประการใด แล้วคุณจะขอส่วนบุญกับเด็กใหม่นี้หรือครับ หรือว่า คุณจะช่วยเด็กใหม่โดยการให้ สติ ในการศึกษากับเด็กใหม่กันแน่ จิตเรา จิตเขา นั่นแหละครับ คุณมีความรู้สึกกับเด็กใหม่อย่างไร เขาก็มีความรู้สึกกับคุณอย่างนั้น คุณไม่ได้ต้องการให้เขากลัวหรอกครับ ลองสังเกตุความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ ดูก็รู้ได้นะครับ

+++ เขายังไม่ชัดเจนว่า คุณเป็นคนกลัวผีหรือไม่ ดังนั้นจึงยังจำกัดขอบเขตในเรื่องของการแสดงตัวอยู่ แต่ถ้าเขารู้ว่าคุณเป็นคนไม่กลัวผี เขาจะให้ความเป็นกันเองมากกว่านี้ อาจให้คุณเห็นตัวก็ได้ แต่จะไม่มีอสุภะเหมือนในหนังหรอกครับ เพราะนี่เป็นของจริง จริง ๆ แล้วพวกเขาดีใจที่ได้เพื่อนใหม่ตะหาก ผู้ที่เคยมีประสพการณ์แบบที่คุณเจอนี้จะรู้ได้ชัดเจนครับ ว่าความจริงใจที่ได้รับนั้นมีมากกว่าการคบคนหรือไม่

+++ ในฐานะที่คุณเป็นเด็กใหม่ฝึกงาน อย่างน้อยคุณควรจะกล่าวคำ "ขอบพระคุณ ที่ช่วยเป็นพยานธรรมของพระพุทธเจ้า และช่วยยืนยันเป็นการส่วนตัวกับผมว่า ภพภูมิ มีอยู่จริง เพื่อทำให้ผมไม่ตกอยู่ในความประมาทในเรื่อง กฏแห่งกรรม และเวรกรรมจำแนกสัตว์นี้" "ด้วยกุศลเจตนาที่ท่านทั้งหลายมีต่อตัวกระผม ขอให้กุศลเจตนานั้น จงส่งเสริมบารมีธรรมให้กับพวกท่าน จนบรรลุพระนิพพานเทอญ"

+++ รับประกันว่า ไม่มี "ผีหลอก" แน่นอนครับ แต่หากจะเกิด "เหตุด่วน เหตุร้าย" ก็จะมีรายการ "ผีบอก" เกิดขึ้นแทน เรื่องพวกนี้เข้าใจได้ไม่ยากครับ ทั้งหมดขึ้นกับว่า เราให้ความเป็นมิตร หรือ ศัตรู เมื่อแรกพบกับเขามากกว่า ขอให้รอบคอบไว้ก่อนนะครับ ไม่อยากให้ใครพลาดในเรื่องการปฏิบัติตัวกับเรื่องพวกนี้ ส่วนใครจะไม่ใส่ใจกับเรื่องพวกนี้แล้วชอบ ละวาง ปล่อยวาง ก็ตามใจ แต่ผมรู้ว่า การที่ครูบาอาจารย์บางองค์ฝันแม่น หรือ ศักดิ์สิทธิ นั้น มาจากตัวของพระ หรือมาจากสิ่งอื่นที่ช่วยสนับสนุน พระหรือวัด นั้น ๆ กันแน่ และเรื่องแบบนี้สามารถมีอยู่ได้ทั่วไปนะครับ

+++ หากมีความสามารถในการแยก ความจริง ออกจาก ความหลง ได้ เราก็สามารถใช้ ความจริง นั้น ๆ ให้เป็นประโยชน์ได้ เพียงแค่ยอมรับในสัจจธรรมที่ว่า อะไรมี ก็คือ มี อะไรจริง ก็คือ จริง เท่านั้นเองครับ

 

สวดเมตตัญกรณี แผ่บุญที่รักษาศีลมาบวชไปคับ ผมก็เจอ เจอเปรตด้วยซ้ำหนักกว่าคุณอีก ส่วนมากมาขอบุญเรา อยากให้เราช่วยคับ ไม่ได้มาทำร้ายอะไร