ผู้ทรงฌาน แปลว่า ผู้มีจิตใจปกติ อย่าถือว่า..ทำฌานสมาบัติแล้ว ทำโน่นทำนี่ไม่ได้! ไม่ทำตายโหงตายห่าล่ะ...!

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 30 เมษายน 2015.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    วันนี้วันพระ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะเส็ง จิตทรงฌาน


    วันนี้วันพระ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะเส็ง

    ขอให้ท่านมีความสุขในธรรม

    จิตทรงฌาน

    ไอ้คำว่า "จิตทรงฌาน" ไม่ใช่ว่าไปนั่งสมาธิทั้งวั<wbr>น ไอ้นั่นน่ะมันบ้าแล้ว ถ้านั่งสมาธิทั้งวันนี่เป็น<wbr>โรคประสาท เป็นบ้าแน่..!!

    คำว่า "สมาธิ" เขาแปลว่า ตั้งใจ ต้องทำกำลังใจเบาๆ อันดับแรกที่สุดเราจะทำงานท<wbr>ำการต้องทำทุกอย่าง งานอะไรมีขึ้นต้องทำ! ไม่ใช่ทำสมาธิแล้ว..."ฉันไม่ทำงาน...!!" อันนี้...ตกนรก แน่! ไม่ช้าความปรารถนาไม่สมหวัง<wbr>เกิดขึ้น ในเมื่อความปรารถนาเกิดขึ้น<wbr>อารมณ์มันก็ฟุ้งซ่าน มีความเดือดร้อนเกิดการเดือ<wbr>ดร้อนขึ้นมา จิตใจก็เดือดร้อน ลงนรกไปเลย อย่านึกว่ามีฌานเป็นของดี

    ฌานน่ะดีแน่! แต่ทำให้มันถูก...
    คำว่า "ผู้ทรงฌาน" แปลว่า ผู้มีจิตใจปกติ จะไม่ตกเป็นทาสของนิวรณ์ อำนาจของนิวรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม จะไม่ให้มีอำนาจเหนือจิตใจ ยามว่าง! ถ้าเรายังไม่เป็นอรหันต์ ย่อมมีนิวรณ์เข้ากินใจเป็นธ<wbr>รรมดา แต่ถ้าเวลาต้องการฌานเมื่อใ<wbr>ด นิวรณ์จะต้องกระเด็นออกทันท<wbr>ี ถ้ากระเด็นบ่อยๆ ไม่ช้ามันก็ไม่เข้ามายุ่งกั<wbr>บใจ เราทำงานทำการทุกอย่าง ใจไม่ตกเป็นทาสของนิวรณ์

    อย่าถือว่า..ทำฌานสมาบัติแล้ว ทำโน่นทำนี่ไม่ได้! ไอ้นั่นแหละตัวนรกล่ะ! ไม่ช้า..มานะมันจะเกิด..และ<wbr>จะกินที่ไหนล่ะ...! ไม่ทำตายโหงตายห่าล่ะ...!

    มันก็ต้องทำ! ทำแล้วจิตใจไม่ตกอยู่ในอำนา<wbr>จของนิวรณ์เท่านั้น

    พระอรหันต์ท่านนั่งนิ่งที่ไ<wbr>หน...
    พระพุทธเจ้าท่านไม่นั่งนิ่ง<wbr>...
    ถ้าเราระงับนิวรณ์ได้!
    จิตเป็นฌานที่ ๑
    จิตทรงปีติ...ถ้าจิตทรงปีติ<wbr>มันเป็นฌานที่ ๒
    จิตตัดปีติออกเหลือแต่สุข..<wbr>.จิตเป็นฌานที่ ๓
    จิตตัดสุขออกเหลือแต่เอกัคค<wbr>ตา...อุเบกขา...เป็นฌานที่ ๔


    ทีนี้เวลาทรงฌานไม่ใช่นั่งส<wbr>มา ธิทั้งวัน ทำงานอยู่ คุยอยู่กับเพื่อน อ่านหนังสืออยู่ ฟังเทป ฟังเทศน์ ดายหญ้าวัด ทำงานทุกอย่าง หุงข้าวหุงปลา ผ่าฟืน ดายหญ้า จิตสบายใจไม่มีอารมณ์เป็นอกุศล อย่างนี้เรียกว่า "จิตทรงฌาน"

    การที่จะรู้ว่า จิตทรงฌาน เราจะรู้กันจริงๆ มันยากและวิธีวัดนี่ง่าย การที่จะรู้ว่าฌานเราทรงตัว<wbr>ไม่ทรงตัวอาศัย ๑ ในวิชชาสาม หรือว่า ๒ ในวิชชาสาม นั่นคือ ทิพจักขุญาณ หรือ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
    ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติได้

    ทิพจักขุญาณอย่างเข้ม สามารถรู้เห็นพรหมเทวดาได้ อย่างนี้จุดหนึ่ง

    กำลัง " มโนมยิทธิ" ที่เราฝึกได้ เราทำได้! เวลาดายหญ้า เวลาขุดดิน เวลาผ่าฟืน เวลาตักนํ้า หุงข้าว ใช้มันเวลานั้นแหละ! ลองใช้เวลานั้น เวลาที่กำลังนั่งหุงข้าวอยู<wbr>่ในครัว เวลาอยู่เราก็ใช้ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
    นึกปั๊บ! ไอ้งานประเภทที่เราทำอย่างนี้เราทำมาแล้วกี่ชาติ ชาติก่อนๆ เราเคยทำไหม...ก็ดูภาพ..ภาพ<wbr>มันจะปรากฏทันที! อันนี้เรียกว่าเราชนะนิวรณ์<wbr> ต้องทำอย่างนี้
    ถ้าไปเจอะหมาขี้เรื้อน ก็นึกว่า ไอ้ภาพอย่างนี้เราเคยเป็นไห<wbr>ม...ขอดูภาพ...ภาพจะปรากฏทั<wbr>นที! โดยไม่ต้องไปใช้กำลังสมาธิใ<wbr>ห้เสียเวลาแม้แต่ ๑ วินาที มันจะปรากฏกับใจ แหม..หลายชาติ ชาติละหลายตัว เราเคยเกิดเป็นหมาขี้เรื้อน<wbr>มาหลายชาติ


    เราคุยไปคุยมา นั่งดายหญ้า นั่งผ่าฟืน นึกถึงเทวดา เทวดาท่านมีความสุข ก็นึก...
    "เอ..เราเคยเป็นเทวดาหรือเป<wbr>ล่า...?"
    ถ้าเคยเป็น...ขอดูภาพเทวดา เคยเป็นกี่ชาติ ขอดูภาพเท่านั้น ขอดูวิมานเป็นที่อาศัย มันจะปรากฏทั้งตัวเราเองและ<wbr>วิมานในสมัยที่เป็นเทวดา
    นี่ เขาต้องทำอย่างนี้ อย่างนี้ถือว่าถึง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ นี่อย่างย่อนะ! คือการปฏิบัติ "มโนมยิทธิ" ต้องทำแบบนี้ ถ้ายังต้องเข้าสมาธิ...เครี<wbr>ยด!...ยังใช้ไม่ได้

    เวลาจะตายมันไม่ทันเวลาของน<wbr>รก...
    เวลาจะตายจริงๆ ไปนั่งขัดสมาธิได้ยังไง มันป่วยไข้ไม่สบาย ต้องใช้กำลังใจเป็นปกติ ญาณต่างๆ ต้องใช้ให้คล่องคือ...ใช้ทุ<wbr>กวัน! ถ้าเราทิ้งไม่ใช้เพียงแค่ ๒-๓ วัน มันก็มีอารมณ์เฝือ...!


    ภาพจาก คุณสุพัฒน์
    โพสต์โดย achaya
    มูลนิธิหลวงพ่อปาน-พระมหาวีระ ถาวโร
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    "ผู้ทรงฌาน" แปลว่า ผู้มีจิตใจปกติ จะไม่ตกเป็นทาสของนิวรณ์ อำนาจของนิวรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม จะไม่ให้มีอำนาจเหนือจิตใจ ยามว่าง! ถ้าเรายังไม่เป็นอรหันต์ ย่อมมีนิวรณ์เข้ากินใจเป็นธ<wbr>รรมดา แต่ถ้าเวลาต้องการฌานเมื่อใ<wbr>ด นิวรณ์จะต้องกระเด็นออกทันท<wbr>ี ถ้ากระเด็นบ่อยๆ ไม่ช้ามันก็ไม่เข้ามายุ่งกั<wbr>บใจ เราทำงานทำการทุกอย่าง ใจไม่ตกเป็นทาสของนิวรณ์

    อย่าถือว่า..ทำฌานสมาบัติแล้ว ทำโน่นทำนี่ไม่ได้! ไอ้นั่นแหละตัวนรกล่ะ! ไม่ช้า..มานะมันจะเกิด..และ<wbr>จะกินที่ไหนล่ะ...! ไม่ทำตายโหงตายห่าล่ะ...!

    มันก็ต้องทำ! ทำแล้วจิตใจไม่ตกอยู่ในอำนา<wbr>จของนิวรณ์เท่านั้น

    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...