ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอบน้ำใจแม่น้ำค้างที่มากดไลค์และติดตามพี่สิงห์มาตลอด
     
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    กรมคชบาลที่สิงห์เห็น ช่างน่าเกรงขาม มิได้เป็นเพียงที่เลี้ยงช้างดังที่สิงห์คะเน
    สิงห์มิเคยคาดมาก่อนเลยว่า จักพรั่งพร้อม ด้วยเหล่าทหาร และคนมากมายเช่นนี้
    แลสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ สิ่งที่สะดุดใจสิงห์ที่สุดคือเหล่า พลายงางามที่เดิน
    ไปพร้อมกับควาญแลทหารประจำ พลายบางตนทรงเครื่องมีปลอกทองที่งาอันโค้ง
    สิงห์มิเคยเห็นช้างมากเพียงนี้มาก่อน แม้เจ้านิลกาฬก็ขยับขาไปมาอย่างตื่นเต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2016
  3. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,286
    ค่าพลัง:
    +1,507
    เขียน ๑๓.๓๗

    อ้าว..เราก็กดไลค์และติดตามตลอดนะเจ๊
    ทำเป็นพวกเครือข่ายมือถือไปได้
    มีแต่โปรดีๆ ให้ลูกค้าใหม่
    ๕๕๕ แซวซะหน่อย


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอบน้ำใจที่ไม่ลืมกัน แม้จะไม่ได้พบหน้ากันก็ตาม
     
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เสียงท่านขุนลอยมากระทบใจ "ฤกษ์ดี วันดี ขุนสิงห์เข้ากรมคชบาล พ่ออยู่หัวอโยธยา
    พร้อมพระโอรสทั้งสองซึ่งเสด็จมาจากเมืองสองแคว จักมาดูพิธีคล้องช้าง พระยาสุพรรณบุรีเจ้ากรมคชบาล
    จักนำขบวนช้าง อันล้วนแต่มงคลรูปแลนาม เพื่อยอพระเกียรติ
    พ่ออยู่หัว ขุนสิงห์จักได้เห็นความยิ่งใหญ่เกรียงไกร และแข็งแกร่งแห่งเจ้ากุญชรทั้งสิ้น"

    ขุนสิงห์ แลขุนทั้งสามที่ติดตาม ได้ถูกเชิญให้ชักม้าตามไปด้านปรัมพิธี อันตกแต่งด้วย
    ผ้าม่านจับจีบอันงดงาม สีขาวขลิบทอง แล้วเดินขึ้นไปด้านข้าง เพื่อรอรับเสด็จ
    สิงห์ยินดีนัก เสียงหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ที่จักได้พบหน้าพ่ออยู่หัวอโยธยาอีกครา
    อย่างไม่นึกไม่ฝันมาก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2016
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ด้านในลานเป็นหลักเสาไม้ขนาดใหญ่ ทาสีแดงเข้ม ล้อมรอบด้วยเสาหลัก
    ขนาดย่อมลงมา ได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์เป่าหนึ่งครั้ง เหล่าช้างอันลักษณะดี
    ทั้งหลายที่เดินไร้ระเบียบรายรอบหลัก ก็ถูกช้างที่มีควาญ ซึ่งนุ่งจุงกะเบนสีเข้ม
    โพกผ้าสีขาว เดินวนเป็นวงรอบ ล้อมช้างเหล่านั้น ส่วนช้างต้น ที่มิได้ล้อมช้างเหล่านั้น
    ต่างก็พากันเดินเรียงแถวเป็นระเบียบ ออกไปทางประตูขนาดใหญ่ด้านขวา

    สิงห์มองด้วยความตื่นเต้น แล้วได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์ ยาวขึ้นหนึ่งครั้ง วงปี่พาทย์ด้านหลังสิงห์ก็บรรเลงเพลงอันไพเราะ ได้ยินเสียงตะโกนดังก้อง " พ่ออยู่หัวเสด็จ"

    เหล่าข้าราชบริพาร บนปรัมพิธี ต่างหมอบกราบ สิงห์ก้มลงตรงหน้า ซักครู่ได้ยินเสียง
    ฝีเท้า สิงห์มิกล้าเงยหน้า ได้แต่ก้มตามองพื้น จนพระบาทในฉลองพระบาททองคำ
    ก็มาหยุดตรงหน้าสิงห์ เสียงฝีเท้าทั้งหลายที่ตามมาก็เงียบลง พระบาทในฉลองพระบาททอง มิได้ขยับไปที่ใด จนสิงห์ไม่กล้าแม้แต่หายใจ ได้ยินพระสุรเสียงตรัสมา
    ให้ได้ยินทั้งปรัมพิธี " นี่คงจักเป็นขุนสิงห์ ที่ลูกข้าชมเป็นหนักหนา ในฝีไม้ลายมือ
    ได้ยินว่า จักได้ไปอยู่กรมคชบาล วันนี้จักให้สนองงานข้า" สิงห์งุนงงกับพระดำรัส

    แล้วพ่ออยู่หัวก็เสด็จพระราชดำเนินไปประทับนั่งบนตั่ง กลางปรัมพิธี สิงห์เห็นพระบาทในฉลองพระบาททองคำของเจ้าพี่ทั้งสองดำเนินผ่านไปเช่นกัน แต่ก็มิกล้าเงยหน้า

    แล้วก็มีทหารองครักษ์ผู้หนึ่ง มากระซิบข้างหู " พ่ออยู่หัว ทรงมีพระเมตตา
    ให้เจ้าไปสนองงานข้างที่ประทับ จงเร่งคลานตามมาบัดเดี๋ยวนี้"

    สิงห์คลานตามไป จนได้นั่งอยู่ข้างพระบาทพ่ออยู่หัวด้านขวา มีนางกำนัลอยู่งานพัด
    ข้างพระที่ พ่ออยู่หัวโบกพระหัตถ์ ทั้งสองนางก็หยุดพัด ถวายบังคมลา แล้วรีบคลานออกไป สิงห์ก็ยังมิกล้าเงยหน้า

    "ขุนสิงห์ เดินทางมาไกลคงจักเหนื่อยมิน้อย แต่เวลาเพียงน้อยนิด อยากให้ขุนสิงห์
    ได้ชมพระยาสุพรรณบุรี พ่อเลี้ยงของเจ้า เพื่อนรักของข้า ทหารเอกคู่บารมี
    เจ้ากรมคชบาล จักได้แสดงความเกรียงไกรแห่งช้างศึก ข้าอยากจักรู้ใจเจ้านักว่า
    เจ้าคิดเห็นเยี่ยงไร ลุกขึ้นมานั่งแล้วดูเสียให้เต็มตา จักได้สิ้นสงสัย"

    สิงห์เหยียดกายลุกขึ้นตามพระบัญชา สบพระพักตร์และพระเนตรที่ดูเคลือบแคลงสงสัย
    พ่ออยู่หัววันนี้ ทรงเครื่องทองอย่างกษัตริย์พระศิริโฉมงามนัก และเมือเหลือบมอง เจ้าพี่ทั้งสอง
    ที่ทรงเครื่องอย่างเจ้าฟ้า แม้เคยเห็นทั้งสามพระองค์ ได้สนทนา แต่เพลานี้
    กลับรู้สึกแตกต่าง ดั่งฟ้ากับเหว เหมือนเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเพียงความฝัน

    แล้วพ่ออยู่หัว ก็ทรงพยักพระพักตร์ให้เจ้าหอหน้า เจ้าหอหน้า หยิบผ้าสีแดงขลิบทองบนพานทอง โยนลงไปจากปรัมพิธี เสียงแตรเขาสัตว์ ดังขึ้นทันที สองครั้ง

    การแสดงหน้าที่ประทับ จึงเริ่มขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2016
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    การล้อมช้าง การคล้องช้าง อันน่าตื่นตาตื่นใจ ก็เกิดขึ้นต่อหน้าสิงห์
    เจ้าสัตว์อันมีขนาดใหญ่โต เมื่ออยู่กลางวง ที่ล้อมรอบด้วยควาญแลคชสาร
    ที่ฝึกมาเยี่ยงทหารอันรู้งาน ช้างที่ถูกล้อม ตามสัญชาตญานก็พยายามเกาะกลุ่มกัน
    พลังแห่งฝีเท้าอันหนักแน่นของช้าง สิงห์รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณผืนดิน

    เลือดในกายสิงห์ฉีดพล่าน ด้วยความตื่นเต้น เพียงไม่นาน ช้างพลายที่ถูกต้อน
    ก็ไปรวมกันอยู่กลางหลัก เสียงกุญชรร้องคำราม ทำให้สิงห์สั่นไปทั้งอก รู้สึกได้ถึง
    พลังอำนาจ เหมือนตกอยู่ใต้มนต์สะกด จิตสิงห์รับรู้ถึงความห้าวหาญ และสัญชาตญาน
    ของนักล่าที่ถูกปลุก รู้สึกถึงอำนาจงาขาวยาววาววับ ของเหล่าช้างทหารที่โยกหัวอย่าง
    ขมีขมันที่จักไล่ต้อนช้างกลางวงล้อม บางตัวยกขาหน้าขึ้นในอาการตื่นเต้น คล้าย
    ท่าทางของม้าศึก

    แล้วเหล่ากุญชร ก็ตั้งแถว แทรกเข้าไปกลางวง เจ้าช้างรูปร่างสูงใหญ่ งายาวโค้ง
    ผิวค่อนข้างเข้มกว่าช้างตนอื่น กระโหลกใหญ่ ใบหูโค้งสวยงาม ใบหน้ากลับมีกระสีชมพู
    เหมือนรูปหัวใจ ดวงตาดูแวววาววับ มันร้องคำรามตลอด เล็บดำสนิท หางเล็กเงางามเจ้าช้างดูท่าทางอ่อนเพลีย และรูปร่างดูผอม ไม่สมบูรณ์เช่นช้างทหาร แต่ท่าทางมันไม่ยอมง่ายๆ ช้างตนอื่นถูกต้อนเข้าประตูด้านข้างจนหมด เหล่าควาญรูปร่างกำยำ
    บนหลังทหารช้าง ต่างโห่ร้อง เหมือนการกู่ร้อง ทหารช้างทั้งหลายแยกตัวไปโอบล้อม หน้าหลัง เจ้าพลายวิ่งวนไปรอบหลัก จนมันเริ่มเหนื่อย ช้างทหาร หรือช้างต่อก็ได้ที
    วิ่งเข้าไป เหมือนจะประสานงา กับเจ้าช้าง มันยกเท้าหน้าขึ้น แต่ช้างต่อก็ล่อหลอก ถอยหลังกลับ ให้จังหวะ ช้างต่อด้านข้าง ใช้บ่วงบาศก์คล้อง จนพ่อพลายงางาม
    สิ้นฤทธิ์ เสียงแตรยาวดังขึ้น เป็นอันจบพิธี เสียงกลองศึกดังขึ้น

    พ่ออยู่หัว เจ้าหอหน้า แลพระองค์ขาว ต่างชื่นชมการคล้องช้าง สิงห์ลอบมองเจ้าหอหน้า ทรงดูชื่มชมโสมนัส กับการคล้องช้างยิ่งนัก
     
  8. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วขบวนช้างที่แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างงดงาม 9 เชือก พร้อมทหารจาตุลังคบาท
    ครบชุด ก็เดินทัพออกมา หน้าพระที่นั่ง เสียงกลองศึกตีขึ้นเป็นจังหวะ

    สิงห์มองธงที่โบกสะบัดบนหลังช้าง ให้ตื่นตาตื่นใจนัก ผู้นำขบวนช้างศึกคือพระยาสุพรรณบุรีในชุเเกราะหนัง แลหมวดอันงาม เหล่าทหารต่างก็ใส่ชุดเกราะเหมือนรบจริง

    ดูองอาจ งดงาม สมกับเป็นทัพหลวง ท่วงท่าการเดินของช้างศึก ก็ดูหนักแน่น แต่ละก้าวย่างถูกฝึกมา เดินพร้อมกันดูเป็นระเบียบเรียบร้อยนัก

    เมื่อมาถึงหน้าพระที่ ช้างทั้งเก้า ก็ถูกนายท้ายช้าง กดหลังที่หลังเป็นสัญญาน
    พ่อพลายแสนรู้ทั้งเก้า ก็นั่งลง เหล่าทหารบนคอช้าง และทหารจาตุรงคบาท ต่าง
    ก็จัดแถวหน้ากระดาน สรรพเสียงเงียบกริบ แล้วทหารทุกนาย ก็ก้มลงถวายบังคม
    ต่อหน้าปรัมพิธี เหล่าช้างในท่านั่ง ต่างก็โห่ร้องกึกก้อง เสียงนี้ไม่ใช่เสียงคำราม
    แต่เป็นเสียงอันยินดี เหมือนคราชนะศึก

    การถวายบังคมนี้ ติดตราตรึงใจสิงห์ยิ่งนัก
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วเหล่าทหารก็เข้าประจำตำแหน่ง มีเพียงพระยาสุพรรณบุรีที่เดินขึ้นปรัมพิธี
    เมื่อถึงหน้าพระที่นั่ง ก็ถวายบังคม แล้วกราบทูล

    " กรมคชบาล ได้คล้องช้างป่าอันมีลักษณะงามตามคชลักษณ์ ขอถวายช้างต่อ
    พ่ออยู่หัวอโยธยาศรีรามเทพนคร เพื่อเชิดชูเกียรติ และแสนยานุภาพแห่งกองทัพ
    พ่ออยู่หัว"

    พ่ออยู่หัว ทรงตรัสตอบ

    "ดีมาก ขอบน้ำใจเหล่าทหารหาญ แลพระยาสุพรรณบุรี มิตรรักของเราแต่เก่าก่อน
    พ่อพลายงามลักษณะดีนัก แต่ศุภฤกษ์ดิถีวันนี้ เรารับเจ้าพลายงามเป็นช้างหลวง
    แลจักดูแลอย่างดี แต่คงจักต้องฝากพระยาให้เคี่ยวกรำ ฝึกฝน เพื่อในภายภาคหน้า
    จักได้เข้าสู่ศึก รักษาบ้านรักษาเมือง ขอให้พระยาสุพรรณบุรีจึงถนอมช้างหลวงของเรา

    อันช้างลักษณะงาม มีมากมายในป่า แต่ช้างที่ท่านคล้องจากป่า เพื่อเข้าเป็นช้างหลวง
    อันเทวดา และชะตาคงจักกำหนดไว้ ให้เป็นช้างคู่บารมีของเราและพระโอรสทั้งสอง

    ในการศึก เมื่อนั่งบนหลังช้างสมเกียรติกษัตริย์ ช้างนั้นก็จักได้ศักดิ์พระยาเช่นกัน
    แม้ชนอื่นจักมองช้างเยี่ยงไร อันตัวเรากลับเห็นเป็นเช่นทหารหลวง เมื่อเป็นทหารหลวง
    แล้ว ก็เปรียบเป็นดั่งลูกหลานของเรา หากเจ้าจักฝึกฝนเคี่ยวกรำ ก็ขอให้นึกถึงพ่อ
    ของช้างเหล่านั้นบ้าง แลช้างเชือกนี้ต้องใจเรานัก เราคงจักได้ไปชื่นชมการฝึกของ
    ท่านต่อช้างเชือกนี้ด้วยตนเอง ท่านคงไม่ขัดซินะ"

    พระยาสุพรรณบุรี ไม่กล้ากล่าววาจาอันใด ด้วยเกรงพระอาญาในความนัยที่แฝงในพระดำรัส พ่ออยู่หัวยังตรัสสืบไปอีกว่า

    " ช้างเชือกนี้ ข้าจักมอบให้ขุนสิงห์เป็นผู้ดูแล ฝึกฝนทั้งช้างแลขุนสิงห์ ด้วยความชอบ
    อันขุนสิงห์ได้ช่วยการลอบสังหารเจ้าหอหน้า ความชอบนี้ใหญ่หลวงนัก เราโปรดปรานมาก ช่วยเจ้าหอหน้า
    ก็เท่ากับช่วยอโยธยา ขอให้ท่านจัดแต่งเรือนให้ขุนสิงห์แยกกับเหล่าทหารที่เพนียด"

    สิ้นคำนั้น ขุนสิงห์ ก็ก้มกราบแทบพระบาท น้ำตาไหลมาคลอ ได้แต่กลั้นให้ย้อนไป
    ในพระเมตตาของพระบิดา

    แล้วพ่ออยู่หัวพร้อมพระโอรสทั้งสอง ก็เสด็จกลับทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2016
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สมัยที่ฝันถึงเรื่อง อโยธยาใหม่ๆ ในฝันใครๆ ก็เรียกพี่สิงห์ว่า ออกญา

    ออกญา... ไปเดากันต่อไป เฉลยเดี๋ยวไม่มีคนอ่านต่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2016
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างโรงครัว กับ ม่าม๊าพลังจิต
    ทำโรงครัวด้านล่างติดมุ้งลวด ซื้ออุปกรณ์ครัว

    โบราณว่าทำโรงครัว เกิดชาติหน้าจะได้ไม่อดไม่อยาก

    ถ้ามีทรัพย์เหลือ ก็ร่วมสร้างห้องน้ำต่อค่ะ ณ.วัดปทุมทอง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขุนทั้งสี่ ทั้งขุนเข้ม ขุนทอง ขุนแก้ว และขุนสิงห์ ต่างก็ควบม้าตามท่านขุน
    ทั้งหลายแห่งกรมคชบาลไป ออกนอกวัง เข้าสู่ดินแดนริมแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็น
    ที่ตั้งของจ. อ่างทองในแผนที่ปัจจุบัน หรือ แขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ในสมัยอโยธยา

    แผ่นดินราบลุ่มริมแม่น้ำน้อย สิงห์และม้าศึกคู่ใจ ได้เข้าไปในหมู่บ้านช้าง อันเป็นที่ฝึกช้าง หมู่บ้านทรงไทย และกระท่อมมุงจาก ที่มีหลักเสาขนาดใหญ่ ทำจากต้นสักทั้งต้น
    ซุงและไม้ลากวางเกลื่อนไป กลิ่นหญ้าสด หญ้าแห้งลอยเข้าจมูก ผสานกลิ่นมูลสดช้าง
    ช่างฉุนเฉียวนัก ลมหอบฝุ่น ดินปนทรายปากแม่น้ำ ไม่เพียงแต่ช้างศึก ยังมีลูกช้าง
    ขนาดเล็ก บนหัวช้างแต่ละตัว มีควาญนั่งอย่างสบายอารมณ์ เหมือนไม่กลัวจะพัดตก
    ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส แม้หน้าตาจะดุดัน ท่านั่งอันแปลกคือ นั่งบนคอช้าง แต่ไขว้ขามาด้านหน้า ขอบังคับช้าง เหน็บอยู่ด้านหลังเอว อาการโยกเยกของควาญแต่ละคน ตามจังหวะการเดินของช้าง ทำให้สิงห์ฉงนใจนัก
     
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    การแต่งกายของชาวบ้านบางคนก็ดูแปลกนัก พันผ้าโพกหัว ผู้ชายบางคนก็ผมยาว
    ปะปนไปกับเหล่าทหารหลวง เป็นหมู่บ้านช้างขนาดใหญ่ สิงห์คะเนด้วยสายตา
    คงมาชาวบ้านเกือบร้อย ช้างไม่ต่ำกว่า ห้าสิบเชือก ช้างบางตัวก็เปียกน้ำ ควาญก็เปียก

    สิงห์นั้นไม่คิดเลยว่า จักรักและคลุกคลีเป็นใจเดียวกับเจ้าสัตว์ใหญ่ งายาวได้เยี่ยงไร

    ขุนเข้มชักม้าเข้ามาชิด กระซิบว่า "ขุนสิงห์ พี่ตื่นตาเสียจริง แต่ไกล้ค่ำ พี่ว่าเรา
    เข้าที่พักกันเสียก่อน จักได้คิดการต่อไป"
    ขุนทองได้ยิน รีบสำทับ "ข้าก็อยากพักเช่นกัน สามวันมานี้ มีแต่เรื่องเวียนนัก"
    ขุนแก้ว พยักหน้าเช่นกัน

    เหมือนท่านขุนแห่งกรมคชบาล จะรู้ใจ ชักม้าเดินเข้ามาหา
    "ขุนสิงห์ขอรับ ท่านพระยาได้จัดเรือนแลบ่าวไพร่ไว้ เชิญขุนสิงห์
    และสมัครพรรคพวกพักก่อนขอรับ เพลาพรุ่ง พ่อหมอพราหมณ์เฒ่า
    จักทำพิธีรับขวัญ พ่อพลาย และขุนสิงห์ ผูกจิตวิญญานขอรับ"

    สิงห์ลืมเจ้าช้างสูงใหญ่ ที่หน้าพระที่นั่งเสียสนิท

    ท่านขุนยิ้มให้ "พ่อพลายจักมาถึงวันพรุ่ง เป็นเกียรตินัก ที่ได้พระราชทาน
    ช้างเชือกนั้น พ่อหมอเฒ่า ทำนายตอนคล้องช้างได้จากป่า ว่าเจ้าพลายจอมดุ
    นั้นเป็นช้างศึกมากบารมี ที่ติดตามมาเกิดมาคู่บารมีเจ้าของ พลายจอมดุเป็นพญาช้างแลจักพยศนัก ยอมให้ผู้มีบารมีเท่านั้นจึงจักยอมศิโรราบ เป็นบุญแท้ขอรับ"

    แล้วท่านขุนก็พาไปบ้านเรือนไทยหลังหนึ่ง ด้านข้างของหมู่บ้าน มีห้องขนาดเล็กสองห้อง กลางบ้านเป็นลานขนาดเล็ก สำหรับทำกิจ จักพักผ่อน หรือจักตั้งสำรับอาหาร ด้านหลังเป็นนอกชานกว้างมีอ่างบัวขนาดย่อมตั้งอยู่ ทรงของบ้านดูผอม มีต้นแก้วส่งกลิ่นหอมอยู่หน้าบ้าน ใต้ร่มต้นแก้วมีแคร่ไม้ไผ่ บ้านมุงด้วยจาก แต่แลดูสะอาดนัก
    สิงห์สูดกลิ่นดอกแก้วไว้เต็มอก รู้สึกอยากละทิ้งทุกสิ่ง ขอแค่ได้นอนรับลมจากแม่น้ำบนแคร่ใต้ร่มไม้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2016
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์รีบควบม้า ไปลานใต้ถุนบ้าน แล้วผูกเจ้าม้าแสนรู้ ลูบหัวลูบคอ
    ทหารคชบาลชั้นผู้น้อย หน้าตาดูซื่อๆ อายุราวสิบเจ็ด รูปร่างไม่สูงนัก แต่
    ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวดำแดง ตัดกับฟันขาววาววับ
    เดินมาก้มศรีษะให้ แล้วนำหญ้าสดๆ กับน้ำสะอาด
    เจ้าม้าโยกหัวอย่างยินดี สิงห์เมียงมองหาตุ่มน้ำ อยากชำระร่างกายเต็มทน
    ท่านขุนอีกสามคนก็นำสัมภาระลงจากหลังม้า แลดูแลม้าด้วยตนเอง ด้วยสำนึกว่า
    เจ้าม้าคือเพื่อนยามยาก คนแลม้าต่างพึ่งพาอาศัยกัน

    ทหารเห็นขุนสิงห์เมียงมองเหมือนหาของ จึงรีบถาม
    "ท่านขุนมองหาสิ่งใดหรือขอรับ หากขาดเหลืออันใด ท่านขุนเรียกใช้ไหว้วาน
    ข้าชื่อ ซาเง ท่านพระยาให้มารับใช้ท่านขุนทั้งสี่ ขอรับ"

    สิงห์ ขมวดคิ้วกับชื่อของทหาร เมื่อพิศดูรูปหน้า เป็นสันเหลี่ยม คางแหลม คิวเข้ม
    ก็รู้สึกสงสัย แต่ถามออกไปแค่ "ข้ามองหาตุ่มน้ำ อยากจักอาบน้ำผลัดผ้า ก่อนกินข้าว"

    ซาเง เอามือเกาหัว ทำท่าคิด
    "ชาวเราไม่อาบน้ำใต้บ้าน หากอยากอาบเราก็พาช้างไปอาบพร้อมกันที่ริมธาร
    มีแต่แม่หญิงท้องกับคนป่วยคนเฒ่า ที่เราตักน้ำมาให้อาบ แต่ถ้าท่านขุนจากเมืองหลวง
    จักอาบ ก็จักให้พวกทหารหาบน้ำมาให้"

    สิงห์ไม่ทันตอบ ขุนแก้วผู้มุทะลุ ก็เตะเข้าที่ข้อพับขา ซาเงทรุดลงไปนั่งแบบไม่
    ทันตั้งตัว หน้าตาดูยังงง แต่ก็ร้องโวยวายทันที "ท่านขุน เตะข้ามีอันใด"
    หางเสียงสูงอย่างโกรธ แต่ลอบมองท่าทางขึงขังก็ขุนแก้ว แล้วมิกล้าเอ่ย

    "ชะ ไอ้นี่ พวกข้ามิใช่เพื่อนจักมาเล่นลิ้น ถามมาก็ตอบแค่ ไปอาบที่ลำธาร"

    สิงห์เห็นท่าลุกลี้ลุกลนของซาเง ก็อดขำไม่ได้

    "เพลาเหลือเฟือ จักอบรมซาเง เพลานี้ ไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนเถิด ข้าชักหิว"

    ขุนแก้วได้แต่ตอบว่า "ขอรับ" แล้วเดินแยกไปเก็บสัมภาระ ขุนทองไปช่วยอีกแรง
    เมื่อสิงห์ทำท่าจะไปยก ขุนแก้วก็รีบทำมือห้าม

    สิงห์ฉงนกับท่าทีขุนแก้ว แต่ก็ไม่อยากขัด ด้วยไม่อยากให้วาจากระทบกระทั่งให้
    กินใจกันอีก

    ขุนเข้มฉวยผ้าขาวม้าผืนหนึ่งยื่นให้สิงห์ ซาเง เห็นท่านขุนทั้งสี่ทำท่าพร้อม ก็รีบจูงม้า
    มาให้ ด้วยท่าทีประจบประแจง ยิ้มให้อย่างเอาใจ สิงห์ได้แต่สายหัวอย่างระอา
    แล้วซาเงก็ผิวปาก เจ้าม้าตัวไม่สูงนัก เกือบคล้ายลา ก็วิ่งออกมาอย่างว่องไว
    ขุนเข้มเห็นเข้าก็อดหัวเราะไม่ได้ ขุนทั้งสี่ ได้แต่หัวเราะเจ้าซาเง กับม้าที่น่าสงสาร
    เจ้าซาเงไม่นำพากับเสียงหัวเราะ ควบม้าเจ้ากรรม มุ่งไปทางหน้าค่ายทันที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2016
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขุนสิงห์แลท่านขุนทั้งสาม ควบม้าเหยาะๆอย่างสบายอารมณ์ รู้สึกผ่อนคลาย
    จากหลายวันที่มีแต่เรื่องมากมาย แล้วเจ้าซาเงกับม้าขาสั้น ก็วิ่งมาหยุดใต้ต้นตะขบ
    ข้างลำธาร ซาเงไม่นำพา รีบบิดกินตะขบสีแดง สิงห์มองไปที่ริมลำธารขนาดใหญ่ ไม่ลึกนักน้ำดูใสเย็น แล้วก็ควบม้าไปผูก แล้วรีบผลัดผ้าลงชำระร่างกายทันที
    ท่านขุนทั้งสามก็เช่นกัน ส่วนเจ้าซาเง ก็รีบนำม้าไปผูก นั่งกินตะขบอย่างสบายใจใต้ร่มไม้ สิงห์ลงน้ำไปไม่ทันได้อาบ ก็ให้แปลกใจ เสียงร้องแปร๋นมาแต่ไกล

    สิงห์เห็นควาญขี่ช้างตัวสูงใหญ่ แลดูมีอายุ แต่เสียงร้องแปร๋นๆ คือเจ้าลูกช้างน้อย
    ที่วิ่งตรงมาที่กลุ่มของสิงห์ที่อยู่กลางลำธาร ยังไม่ทันจักขยับตัวหนี เจ้าช้างน้อย ก็ลง
    มาร่วมเล่นน้ำลำธารเดียวกันกับสิงห์ มิหนำใจเจ้าช้างน้อย มันพ่นน้ำใส่สิงห์จนเต็มหน้า
    ท่านขุนท่านสามก็โดนไปด้วย ได้ยินเสียงซาเงหัวเราะแว่วมาจากริมตลิ่ง สิงห์ยังไม่ทันลืมตาเพราะโดนน้ำ ก็ให้เซล้มลง ด้วยมีวัตถุพุ่งเข้าชน ทั้งสิงห์และท่านขุนผู้เจนสนามรบ ล้มคว่ำคะมำหงาย ลงน้ำแบบไม่เป็นท่า ได้ยินเสียงหัวเราะของซาเง ดังชัดขึ้นไปอีก
    สิงห์ผุดลุกขึ้นยืนได้ ก็ให้รู้สึกโกรธจนลมออกหู เมื่อหันไปมองเจ้าช้างน้องแสนซุกซน
    ก็ให้โกรธไม่ลง ด้วยมันลงไปนอนกลิ้งเกลือกในน้ำ ดวงตารีเล็ก ดูไร้เดียงสาเหมือนเด็ก

    สิงห์หมดอารมณ์จักอาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณ เลยหันหลังเตรียมขึ้นตลิ่ง แต่ก็มีวัตถุนุ่มๆ มาพันที่แขน เจ้าช้างน้อยแสนรู้ ยื้ดยุดฉุดกระชากสิงห์ ขุนทองเห็นเช่นนั้น ก็รีบมาผลักหัว
    เจ้าช้างแสนซน มันก็ยิ่งยื้ดยุดฉุดกระชาก ขุนทองได้ที เลยฟาดลงไปที่หัวเจ้าช้างหนึ่งที แต่คงจักมือหนักไป เสียงดังสั่นทีเดียว เจ้าช้างคลายงวงทันใด แล้วหันหลังกลับ
    แต่ก็หันมามอง นัยน์ตารีเล็ก มีน้ำตา ส่งเสียงหวีดแหลม แล้วไม่ยอมเดินไปไหน
    เดินเป็นวงกลมอยู่อย่างงั้น

    ซาเงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด รีบวิ่งมาทันที
    "ท่านขุน ตีเจ้าบุญทิ้ง ทำไม มันแค่อยากเล่นน้ำด้วย" แล้วซาเกก็ลุยน้ำลงมา

    เจ้าช้างน้อยบุญทิ้งได้ที รีบส่งเสียงแปร๋นๆ โยกหัวซ้ายขวา โยกตัวไปมา
    -ขุนทองรู้สึกผิดนัก รีบแก้ตัวทันใด"ข้าจักรู้รึ นึกว่าเจ้าช้างจักทำร้ายขุนสิงห์"

    ซาเง โกรธจนลืมตัว รีบเถียงทันที "โถ่ ช้างตัวเล็กเพียงนี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กอ่อน
    จักไปทำร้ายนักรบสี่คน ได้เยี่ยงไร พวกท่านคนเมืองหลวง ก็คงไม่รักช้าง
    แต่ช้างแสนรู้นัก มันคงจักถูกชะตากับขุนสิงห์ จึงอยากผูกมิตร "

    สิงห์รีบห้าม เห็นน้ำตาของเจ้าช้างน้อยก็ให้สงสาร "จักทำเยี่ยงไร เจ้าช้างร้องไห้"

    ซาเงได้ที รีบประจบ"ขุนสิงห์ขอรับ ลองอาบน้ำกับช้างดูซิขอรับ ลูบตัวมันหน่อย
    มันก็เหมือนเด็กแหละขอรับ เด็กทุกคนก็อยากให้พ่อแม่กอด เจ้าบุญทิ้งได้มาจากการ
    คล้องช้างติดมาในท้องช้างพัง แม่มันก็ตกลูกไม่นานก็ตาย มันเป็นช้างกำพร้าขอรับ"

    คำพูดของซาเงกระทบใจสิงห์อย่างจัง นึกถึงวัยเด็กของตน
    สิงห์พยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วเดินไปใกล้ เจ้าบุญทิ้งดูท่าทีทำเหมือนจักขยับหนี
    สิงห์ค่อยๆเอื้อมมือไปแตะที่หัวที่เต็มไปด้วยขนของเจ้าช้าง อย่างเบามือ
    เหมือนเจ้าช้างแสนรู้จะรู้ มันค่อยๆ เบียดเข้ามาไกล้สิงห์ สิงห์จึงค่อยๆคุกเข่าลง
    ในน้ำ แล้วนำหน้าผากตน แนบกับหน้าผากของเจ้าช้างน้อย ค่อยๆ ยกมือขึ้นโอบรอบ
    คอบุญทิ้งเบาๆ เจ้าช้างน้อย นำงวงมาพาดไว้ที่หลังสิงห์ สิงห์นิ่งอยู่ซักครู่
    เจ้าบุญทิ้งก็ทิ้งตัวลงในน้ำ แล้วเริ่มอาบน้ำพร้อมกับสิงห์ มันพ่นน้ำใส่สิงห์ไม่หยุด
    ท่านขุนทั้งสาม เห็นเช่นนั้น ก็อดอมยิ้มมิได้ วันนี้ ทั้งสามได้เห็นอีกมุมของสิงห์

    ส่วนซาเง เห็นท่านขุนทำเยี่ยงนั้น ก็ให้นับถือน้ำใจท่านขุนนัก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2016
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ควาญช้างที่ตามมา เมื่อพาช้างมาถึงริมตลิ่ง สิงห์เพิ่งสังเกตุว่า ควาญช้างชรามาก
    แต่ยังดูแข็งแรง เจ้าช้างตัวใหญ่ย่อตัวลง เอาศรีษะแนบกับผืนดิน เพื่อให้ควาญลง
    ซาเง รีบวิ่งไปรับพ่อหมอเฒ่า พ่อหมอค่อยๆลุยน้ำลงมา เจ้าช้างตัวสูงใหญ่
    ค่อยๆ เดินย่ำน้ำตามมา สิงห์จึงสังเกตุว่า ช้างที่พ่อหมอขี่มานั้น เป็นช้างพัง
    นางช้างสงบเสงี่ยมนัก ค่อยๆ เดินไม่ทำให้น้ำขุ่น ซาเงรู้งานรีบช่วยพ่อหมอเฒ่า
    วักน้ำ ขัดถูนางช้าง นางช้างนั่งนิ่ง แต่ใช้งวงช่วยสูบน้ำราดไปตามตัว ช่วยซาเง
    ให้อาบง่ายขึ้น สิงห์มองซาเงทำ ก็ขัดถูเจ้าช้างน้อย แต่เจ้าบุญทิ้งกลิ้งตัวไปมา
    อย่างซุกซน สาดน้ำ ใช้งวงตีน้ำไม่หยุด แต่พอพ่อหมอเฒ่า ทำเสียงคำรามในคอหนึ่งที เจ้าบุญทิ้งก็ชะงัก แต่ก็ไม่ยอมหยุด ส่ายหัว นางช้างเห็นเช่นนั้น ก็ยกงวง
    ฟาดไปข้างๆ ลำตัวของเจ้าบุญทิ้ง แล้วกระตุกหางเจ้าช้างน้อยหนึ่งครา มันหยุดทันที

    สิงห์มองอย่างฉงน ส่วนท่านขุนทั้งสามบัดนี้ ก็ไปช่วยซาเงอาบน้ำนางช้าง ตามที่
    พ่อหมอเฒ่าสั่ง อย่างเกรงใจ ท่านขุนทั้งสี่ ไม่รู้ว่าพ่อหมอเฒ่าเป็นใคร แต่ดูจากท่าทาง
    ที่ซาเงดูเคารพ แลเกรงใจ ก็รีบเรียนรู้การอาบน้ำช้างทันที
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนาน สิงห์จึงสำนึก ระลึกว่าตนนั้นผูกพันธ์กับช้างมาเนิ่นนาน
    เคยเกิดเป็นช้างมาเสียหลายภพชาติ
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พรุ่งนี้ เขียนต่อนะคะ คิดถึงรอยยิ้มแสนซื่อ ของชนเผ่า กะเหรี่ยงค่ะ ซาเง แปลว่า ใจดี
     
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ว่ายน้ำผ่อนคลายจนเสร็จ ก็ขึ้นจากน้ำ ขึ้นม้าที่ผูกไว้ เตรียมกลับเรือน
    เจ้าช้างน้อยบุญทิ้ง ทำท่าจะตามมาด้วย แต่นางช้างส่งเสียงแปร๋น เจ้าช้างน้อย
    รีบวิ่งไปยืนข้างนางช้าง หัวมันส่ายไปอย่างกระวนกระวาย สิงห์เห็นแล้วก็นึกเอ็นดู

    เมื่อมาถึงเรือนเริ่มพลบค่ำ สิงห์รีบเดินขึ้นเรือนไปท่านขุนท่านสามเพื่อไปผลัดเปลี่ยนผ้าเปียก สิงห์คาดว่าจะได้นอนห้องเดียวกับพี่เข้ม แต่ท่านขุนทั้งสาม กลับเดินแยกออกไป
    อีกห้อง สิงห์นั้นขุ่นใจกับท่าทีแปลกไปของพี่ทั้งสาม แต่ก็ยังมิกล้าเอ่ยปาก

    รีบผลัดผ้า หมายใจว่า ค่ำนี้จักคุยให้รู้กัน ว่าทำไมจึงทำตัวห่างเหิน และแปลกไปหรือ
    เพราะเรื่องชาติกำเนิดของสิงห์
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    พอออกจากห้องหับ ผลัดผ้าเรียบร้อย พระอาทิตย์กำลังรับขอบฟ้า อากาศอ้าว
    แต่ก็ยังพอมีลมพัดมาเป็นระยะ สิงห์ใส่เพียงผ้านุ่งไม่ใส่เสื้อ ตามธรรมเนียมชายไทย
    โบราณ เมื่อลงมาด้านล่าง เห็นสำรับจัดไว้สองวง ก็ให้ฉงนใจนักว่าจักมีใครมาร่วมวง

    สิงห์เดินลงเรือน ได้ยินเสียงประตูบนเรือน เปิดและปิดตามมา ซาเงเดินจุดเทียนให้บนสำรับทั้งสอง
    สิงห์เห็นซาเงหิ้วห่อข้าวใบตองผูกมาหนึ่งห่อ ก็งงว่าเจ้าซาเงจะห่อข้าวไปไหนกันแน่ แถมพอจุดเทียนเสร็จ
    ยังหันไปหิ้วหอบผ้าดูรุงรัง ขึ้นเรือนไป อย่างว่องไว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...