พบวัดพิลึก ห้ามไหว้พุทธรูป

ผมไม่รู้หรอกว่า ใครผิดใครถูก แต่ที่แน่ๆศาสนานี้สร้างขึ้นด้วยองค์สมเด็ดพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่แปลกหรอกที่พระเกษมมาพูดอย่างนี้ ขนาดในครั้ง
ทำสังคยนาครั้งแรกขนาดมีพระอารหันต์500รูป ก็ยังมีคนคัดค้าน
นรก หรื่อ สวรรค์ หรื่อ นิพพาน ท่านเป็นผู้เลือก ถ้าเลือกทางที่ถูกเราขออนุโมธนา

 

รู้สึกเป็นห่วงทุกท่าน ทุกฝ่าย ค่ะ ขออำนาจของพระรัตนตรัย จงบันดาลให้เหตุการณ์คลี่คลายไปในทางที่ควรจะเป็นไปตามวิถีพุทธศาสนา ขอให้ผู้ที่มาเกี่ยวข้องทุกท่าน มีสติปัญญาในการคิด การพูด การกระทำ ด้วยค่ะ จะได้ไม่เป็นบาป

 

ขนาดฝรั่งขึ้นไปขี่คอพระพุทธรูปเรายังไม่ยอม แต่นี่อ่ะไรกัน ......

 

เอ่อ ! คือดิฉันไม่ได้เข้ามาเพื่อจะปรามาศใครหรอกนะค่ะ คืออยากถามว่า ถ้าทางวัดไม่ให้กราบไหว้บูชาพระพุทธรูป แล้วเวลาทำวัตรเช้า-เย็น หลังจากท่องบูชาคุณพระรัตนตรัยเสร็จ จะให้กราบอย่างไร กราบใคร เพราะโดยปกติเมื่อเราทำวัตรเช้า-เย็น หากอยู่วัดก็กราบพระประธานที่อยู่ในวัด ให้เสมือนท่านเป็นตัวแทนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะกราบเราก็ระลึกถึงคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และถ้าอยู่ที่บ้านเราก็กราบพระพุทธรูปบนหิ้งพระ ถ้าไม่มีพระพุทธรูปให้เคารพแล้ว ทางวัดทำอย่างไรค่ะ ดิฉันแค่อยากจะรู้ไว้น่ะค่ะ สำหรับตัวดิฉันแล้วคิดว่า การจะมีพระพุทธรูปอยู่หรื่อไม่ ไม่ได้ทำให้ความเลื่อมใสศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าเสื่อมลงเลย เพราะไม่ได้ยึดถือ,ยึดมั่นกับวัตถุสิ่งของ แต่ก็คิดว่าหากไม่เคารพบูชาก็ไม่ควรหลบหลู่ดูหมิ่นหรือเขียนข้อความอันไม่สมควร ซึ่งสามารถตีความหมายไปได้หลายๆทาง ใดยที่ผู้เขียนอาจเจตนาอีกอย่างแต่ผู้อ่านตีความหมายไปอีกอย่าง ทำให้เกิดความแตกแยกในหมู่ชาวพุทธได้ หากเป็นไปได้ถ้าท่านไม่เขียนข้อความเหล่านั้นไว้ แล้วสอนญาติโยมและอธิบายให้เขาเข้าใจถึงเจตนารมย์ของท่าน เรื่องนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น การแตกแยกในความคิดของชาวพุทธด้วยกันเองก็คงจะไม่เกิด ก็ขออนุโมทนาให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็วเทิด ก่อนที่เราทั้งหลายจะแตกแยกกันมากว่านี้ค่ะ

 

คนไหว้พระพุทธรูป จิตในขณะนั้นน้อมระลึกบูชาถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพูทธเจ้า ไม่มีใครนึกถึงอิฐหิน ปูนทรายหรือทองเหลืองที่สร้างเป็นองค์พระหรอก เพราะเขามองทะลุวัตถุไป มีแต่บางคนที่จิตไปเกาะกับวัตถุที่สร้างองค์พระ เลยมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่สูงกว่านั้น การทำสิ่งที่เราคิดว่าถูกว่าดี ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นจะดีจะถูกเสมอไปต้องดูผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเราว่าดีจริงเปล่า การสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คนน้อมระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเป็นสิ่งที่ดีถุกต้องทั้งเหตุและผล

 

เออ !แล้วเวลากราบพระธรรม ระลึกถึงภาพสัญลักษณ์อะไร ช่วยบอกหน่อย งง ....ตู้พระไตรฯหรือเปล่า ฮิๆๆ...ว่ากันป๊าย ศิลปินศิลปะอะไรเนี๋ย วัฒนธรรมอะไรเนี๋ย คืออะไร มาจากไหน ที่เขาตี กันอยู่หรือเปล่า เพราะมันเป็นวัตถุ ถึงได้ตีกัน ใช่มะ ไม่ต้องอันโน้นอันนี้หรอก ถ้าสมมติว่าโลกแตกเนี๋ย หรือเอาแค่ที่ว่าน้ำจะท่วมกทม.เราจะทำไงดี กับวัตถุที่สมมติเนี๋ย...แล้วก็ปรามาสหลวงปู่เกษมกันเนี๋ยระวังนะ จะไปกับน้ำด้วย เพราะเห็นว่าพูด รู้กันต่าง ๆนาๆ พุทธทำนายที่อะไรนะ เลยกึ่งพุทธกาล2500 ปีมีผู้มีบุญมาเกิดนะ เห็นว่าเป็นอาจารย์ของตัวเองบ้าง เป็นพระศรีอริยฯบ้าง ใครต่อใครบ้างจะมากู้ศาสนา ระวังจะเป็นหลวงปู่เกษมนะจะบอกให้...กลัวแทนจัง...นรกน่ะ

 

ผมขอออกตัวก่อนนะคับ ว่าเป็นน้องไหม่สำหรับที่นี่ ^^
...ได้อ่านข้อความของหลายๆๆคน ก็ถูกทุกคนนะคับ...
ผมขอเพิ่มเติมในแง่ที่ว่า... กรรม ทั้งดีและไม่ดี
มีกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ประกอบด้วยองค์ ๓ คือเจตนา พยายามกระทำ ทำสำเร็จ
กรรมนั้น จะถูกบันทึกเป็นวิบากกรรม รอส่งผล...
แม้ไม่มีเจตนา แต่ได้กล่าวล่วง ด้วยวาจา ก็ส่งผลเช่นกัน ...
กรณีหลวงพ่อท่านเขียนป้ายไว้หน้าพระพุทธรูปเช่นนั้น.. ผมไม่ ขอแสดงความเห็นนะคับ ..เพราะ ไม่รู้เหตุ.. ที่มาและที่ไป
ไม่อยากให้ตัวเองติดกรรมสงฆ์ โดยการกล่าววาจา จาปจ้วง
แต่ที่แน่ๆ ผมได้ฟังซีดีของท่าน ฟังธรรมท่าน รู้สึกได้ว่า ท่านเทศน์ออกมาจากการปฏิบัติของท่าน จึงนับได้ว่า ท่านเป็นพระปฏิบัติรูปหนึ่งแน่นอน
...
การปฏิบัติธรรม เราไม่เพ่งโทษผู้อื่น เราไม่มองว่ากิเลสผู้อื่นเป็นอย่างไร...
เราจะดูแต่กิเลสของเราเอง ว่า..เรายังมีอะไรที่เป็นกิเลส เป็นเครื่องฉุดเราให้เวียนว่ายตายเกิด... แล้วหาวิธี ลด ละ ปล่อยว่าง กิเลสนั้นๆออกไปเสีย
....
ผมเชื่อว่าในที่นี้ มีผู้ปฏิบัติธรรม อย่างจิงจังหลายท่าน ขออนุโมทนา ทุกท่านนะคับ สาธุ...

 

ฮึฮึ...ลีลาแบบนี้ไม่ต้องคนอื่นหรอก ห่วงตัวเองก่อนดีไหม...(||)

 

รวย รวย รวย

 

ช้าก่อน!!!


อย่ากล่าวคำนั้นออกมา อย่าเพิ่งปรามาสผู้ใด


สิ่งใดเป็นข้อสงสัย ลองไปเทียบเคียงพระไตรปิฎกดูนะจ๊ะ

 

ธรรมของพระพุทธเจ้านั้น รู้ได้เฉพาะตน ไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขกาลเวลา

ในที่นี้อาจมีผู้ที่มีภูมิธรรมสูงกว่าเราก็ได้ ซึ่งเราผู้ด้อยกว่า จะไม่อาจทราบได้เลย เพราะจริต หรือกิริยา หรือการแต่งกาย ที่แสดงแต่ภายนอก บอกไม่ได้เลยว่าท่านผู้นั้นเป็นอริยะหรือไม่ อย่างไร



บทสรรเสริญ พระธรรมคุณ


สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม ( พระธรรม เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว )
สันทิฏฐิโก ( เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง )
อะกาลิโก ( เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล )
เอหิปัสสิโก ( เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่าท่านจงมาดูเถิด )
โอปะนะยิโก ( เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว )
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ. ( เป็นสิ่งที่ผู้รู้ พึงรู้ได้เฉพาะตน

 

ฮ่า...ดื่มน้ำเย็นๆกันคนละแก้วให้ชื่นจิตเย็นใจกันดีมั๊ยค้าบ..

 

55555

 

ท่านไม่รู้หรื่อแกล้งเอา พระธรรมคือสิ่งที่ท่านศัธทาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่นี้ยังไง ถามท่านท่านศัธทาตัวตนหรื่อคำสอน พระพุทธรูปก็เปรียบเสมือนรูป บิดามารดา พระพุทธรูปหรือรูปบิดามารดาเสมือนเป็นตัวแทนคุณความดีทั้งหลาย แค่นี้ท่านคงรู้ระว่ากราบพระธรรมกราบยังไง มีพระพุทธรูปไม่ได้ไห้ทองเหลือง เมื่อทองเหลืองกลายมาเป็นสันลักษณะแทนคุณงามความดีทั้งหลายขององค์สมเด็จ เราทั้งหลายไหว้สิ่งนั้นไม่ได้ไหว้ทองเหลืองอย่างที่พระอาจารย์ท่านว่า เรามองลึกไปกว่านั้นไม่ได้มองแค่นั้นอย่างพวกท่าน

เหมือนเหรีญบาทเราก็เพียงสมมุติให้เป็นของมีค่า ถ้ามองในแง่วัตถุ
เงินก็ไร้ค่า อย่างที่พระเกษมมองพระพุทธรูป เป็นแค่ทองเหลือง

 

นี่คือความแน่วแน่และน้ำใจที่เด็ดเดี่ยวของหลวงพ่อเกษม

 

ดิฉันและครอบครัวก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ฟังหลักคำสอนของหลวงปู่ควบคู่ไปกับการศึกษาพระไตรปิฏก
จึงเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างที่หลวงปู่เทศน์ว่าถูกต้องตามหลักธรรมคำสอนของพุทธองค์จริงๆ
เพราะการเข้าไปศึกษาที่วัดสามแยก และศึกษาพระไตรปิฎกไปด้วย เหมือนเราได้กลับไปเรียนธรรม
คำสอนของพุทธองค์จริงๆ ไม่ใช่คำสอนตามความเชื่อของครูบาจารย์ที่เชื่อตามความคิดความพอใจ
ของตนเอง โดยไม่ศึกษาเลยว่าคำที่พุทธองค์ตรัสสอนไว้จริงๆ คืออะไร หรืออาจจะรู้ว่าท่านสอน
อย่างไร แต่ตัวท่านตั้งใจจะละเลยคำสอนนั่นไป โดยไม่ทำตาม แล้วพอมีผู้นำหลักธรรมสอน
ของพุทธเจ้ามาเผยแพร่ แล้วไม่ถูกใจตน ก็อ้างว่าผิดหลักธรรมวินัย ทั้งๆ ที่ความจริงไม่ใช่เรื่องผิดธรรม
วินัยใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่ไม่ถูกใจท่านต่างหาก โดยส่วนตัวดิฉันและครอบครัวเชื่อมั่นในหลักธรรม
คำสอนของพระพุทธเจ้าตามพระไตรปิฎก และเชื่อตามหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่ที่สอนและแนะนำ
ในเรื่องต่างๆ และได้นำมาปฏิบัติตามและได้ผลดีทุกอย่าง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ต่อไปข้างหน้านี้ดิฉันก็จะไม่ยอมกระโดดลงจากเรือที่หลวงปู่ช่วยชี้นำทางโดยเด็ดขาด
และเชื่อมั่นในตัวของหลวงปู่ อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆๆๆๆๆ......... ทั้งสิ้น เรื่องทุกอย่างต้องผ่านไปได้
หลวงปู่เคยบอกลูกศิษย์ว่า เราต้องไม่ปรารถนาให้คลื่นสงบ และไม่ต้องปรารถนาว่าสัตว์ดุร้ายจะมลายหายไป
เรามีหน้าที่เร่งพายเรือผ่านลมมรสุม คลื่นที่น่ากลัว และสัตว์ที่ดุร้ายไปให้ได้ และรีบหนีไปให้เร็วที่สุด
อย่าไปติดอะไรในโลกนี้เลย เพราะเราแค่มาอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น ถ้ามัวแต่ยึดติดรูปทั้งหมด (เครื่องรางของขลัง
พระพุทธรูป หรือรูปทุกชนิด) ท่านจะผ่านไปฝั่งโน้นได้อย่างไร แม้แต่รูปหยาบภายนอกยังสละไม่ได้
ยังวางไม่ได้ ยังเข้าใจว่าเป็นการดูถูกรูปที่ตนเคารพนับถืออยู่ แล้วอย่างนี้นามธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งกว่านี้ท่าน
จะสละไปได้อย่างไร หรือท่านบวชมา ไม่ได้หวังบวชเพื่อสละ วาง คลายความกำหนัด หรือบวชโดย
มาอาศัยร่มเงาพระพุทธศาสนาหากิน หาตำแหน่งใหญ่โต แล้วไม่เที่ยวตำหนิผู้อื่นที่เอาหลักธรรมคำสอน
ของพุทธเจ้ามาประกาศ ให้ชาวโลกได้รู้ ได้ประจักษ์แจ้ง ที่ท่านทั้งหลายเที่ยวให้เลิกสอนเลิกประกาศตามหลัก
ธรรม ท่านกลัวว่าเมื่อชาวโลกเค้าฉลาดแล้วจะไม่เอาเงินเอาทองไปถวายเหรอ กลัวหมดลาภสักการะเหรอ
ถ้าท่านคิดเช่นนั้น ท่านช่างเป็นบุคคลที่น่าสงสารจริง ที่หลงอยู่ในเปลือกตมที่ลึกสุดๆๆ....เราขอให้
ท่านมีความสุขเถิด ขออบายภูมิ ทุคติ วนิบาต นรก อย่าได้เกิดแก่ท่านเลย..... แต่คงยากละนะถ้าท่านยัง
ไม่รีบแก้ไข ความคิดผิดเห็นผิดเช่นนี้ ดิฉันจะขอไปวัดสามแยกตลอดไปหากทางวัด
ยินดีเปิดให้ไปเรียนธรรม แม้สังคมทางโลกจะห้ามอย่างไรก็ตาม

อ้างอิงจาก : http://www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1173.msg10658#msg10658

 

และในขณะเดียวกันถ้าพระสงฆ์แห่งสามแยกปฏิบัติผิดหลักธรรมวินัยตามพระไตรปิฎก(ไม่ใช่พวกมากลากไป) ข้าพเจ้าก็ขอโต้แย้ง เพราะข้าพเจ้ามิใช่สาวกของท่านแต่ข้าพเจ้าเป็นสาวกของพระพุทธองค์ต่างหาก ข้าพเจ้าจะไม่เชื่อท่านแบบบ้าคลั่ง แบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะท่านแค่นำธรรมมาบอก ท่านมิใช่ศาสดา นี่คือสัตย์จริง จากข้าพเจ้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระไม่ควรรับเงินทอง ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม อย่าเอาข้ออ้างว่าเป็นไปตามยุคสมัยมาอ้าง

 

ช่อง 7 ค่ะ ..

http://www.ch7.com/News/sbnews.aspx?NwType=02&SbType=04&SeqNo=23132


พระเกษมไม่ยอมปลดป้าย อ้างพระไตรปิฎก …นายอินทพร จันเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า พระเลขาของเจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยเจ้าคณะตำบลวังกว้าง อ.น้ำหนาว ได้นำหนังสือคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ (ธรรมยุติ) ไปแจ้งแก่ พระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าอาวาสวัดสามแยก ให้นำแผ่นป้ายข้อความห้ามกราบไหว้พระพุทธรูปที่ติดอยู่หน้าพระพุทธรูปภายในศาลาการเปรียญออกทันที และระงับการเผยแพร่คำสอนที่คลาดเคลื่อนไปจากหลักพระธรรมวินัย ที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา โดยส่วนรวม พระเกษมยอมรับหนังสือคำสั่งฉบับนี้ แต่ยังดื้อแพ่งไม่ยอมนำแผ่นป้ายออก โดยอ้างว่าปฏิบัติตามพระไตรปิฎก

วันนี้ คณะสงฆ์ได้ประชุมเพื่อหาแนวทางดำเนินการกับพระเกษม หลังจากไม่ปฏิบัติตามมติสงฆ์ ซึ่งประเด็นที่จะต้องดำเนินการคือ พระเกษมมีความผิดตามระเบียบหรือกฎหมายข้อใด โดยเฉพาะเรื่องการดูหมิ่นศาสนวัตถุหรือไม่ หากเข้าข่ายจะมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าแจ้งความดำเนินคดี และในเบื้องต้นยังพบว่า วัดดังกล่าวบุกรุกที่ป่าสงวนด้วย

... (เสียง อินทพร จันเอี่ยม, ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.เพชรบูรณ์)


และ...

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=331505&lang=&cat=





แสดงว่า ข่าวนี้ติดอันดับยอดนิยม