เรื่องเด่น พรชีวิตคู่ (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 11 มกราคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    ชีวิตคู่.jpg
    พรชีวิตคู่


    ถาม : ขอให้พระอาจารย์อวยพรให้หน่อยค่ะ (จะแต่งงาน ขอพรจากพระอาจารย์)
    ตอบ : ช่วยอวยพรให้หน่อย คำอวยพรทั้งหมดจะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อ

    หนึ่ง.. เราเป็นผู้มีความอดทน การที่เราครองคู่กันไป ช่วงที่เรารักกันอยู่มันเหมือนกับว่าเราต่างคนต่างนำเสนอในสิ่งที่ดี ๆ ของตัวเองให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้ ข้อบกพร่องนี่เราเก็บมันเอาไว้ ในเมื่อเราเสนอแต่สิ่งที่ดี ๆ ไปเขาชินกับสิ่งนั้น พอไปอยู่ร่วมกันเข้าข้อบกพร่องก็ปรากฏขึ้น ถึงตอนนั้นเราต้องทำใจให้ได้ว่าเขาเป็นปุถุชนคนหนึ่งย่อมมีอะไรที่มีส่วนไม่ดีอยู่เป็นธรรมดา ในเมื่อเรารักกัน เราใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เราก็ต้องยอมรับเขาให้ได้ อย่าถือทิฐิมานะปรับตัวเข้าหากันซะคนละครึ่งหนึ่ง

    อันดับต่อไปก็คือว่า ต้องมีความจริงใจต่อกัน มีอะไรพยายามพูดกันก่อน อย่าประเภทไปใช้อารมณ์ ถึงเวลางอนไป ๓ วัน กว่าจะเจรจากันรู้เรื่องคนง้อก็เหนื่อย คนงอนก็เหนื่อย มันไม่มีอะไรดีนอกจากจะทำให้ชีวิตครอบครัวแตกร้าวกันเสียเปล่า ๆ พองอนหลาย ๆ ทีเขาเลิกง้อขึ้นมาก็บ้านแตกอีก

    เพราะฉะนั้น สัจจะ จริงใจต่อกัน ทมะ ต้องมีความข่มกลั้น เห็นอะไรที่มันไม่ดีไม่งามอะไรขึ้นมาหรือว่าในสิ่งที่เราคิดว่าเราถูก เขาไม่ถูกอะไรเหล่านี้พยายามข่มกลั้นเอาไว้ หาอะไรใส่ปากคาบไว้ก็ได้ อย่าเพิ่งว่าเขา

    ขันติ อดทนต่อการดำเนินชีวิต ชีวิตคู่น่ะมันเหนื่อยเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเท่าหนึ่ง แทนที่จะเป็นตัวเราคนเดียวมันกลายเป็นเขาไปแล้วใช่มั้ย ? ก่อนหน้านี้เราไม่ซักผ้าซัก ๓ วัน ๗ วันก็เรื่องของเราได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว จะกินข้าวซักวันละมื้อสองมื้อ กินเช้า กินดึกยังไงก็ได้ ตอนนี้ไม่ได้แล้ว มีอีกคนหนึ่งต้องคิดถึงอีกคนหนึ่งเขาไว้ เพราะฉะนั้นต้องเพิ่มความอดทนขึ้นอีกหลายเท่าตัว

    ตัวสุดท้ายคือ จาคะ เสียสละ ตัวนี้ก็คือว่า มีอะไรในส่วนที่เราคิดว่าเราพอที่จะสละ พอที่จะอภัยให้กับอีกฝ่ายได้ก็รีบ ๆ ทำเอาไว้ แล้วขณะเดียวกันว่าอะไรที่เรามีอยู่มันดีมันเหมาะสมสำหรับอีกฝ่ายหนึ่งก็พยายามหาให้เขา

    เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าชีวิตคู่ของเรามีความจริงใจต่อกัน มีความข่มกลั้น มีความอดทน มีความเสียสละต่อกัน มันก็จะอยู่ด้วยกันได้ยืนนาน ไม่มีพรอะไรที่จะรักษาชีวิตคู่ของเราเอาไว้ได้ นอกจากสิ่งที่เรากระทำดีต่อกันเท่านั้นเอง

    เทสนาวสาเน ท้ายสุดแห่งพระธรรมเทศนา… (หัวเราะ) ไป ๆ มา ๆ มันจะกลายเป็นเทศน์ไปซะแล้ว เอาแค่นั้นแหละ ตั้งใจเอาไว้จำเอาไว้ว่ารักกันได้ กว่าจะตกลงกันได้มันยากเย็น ได้มาแล้วรักษาเอาไว้ให้ดี โดยเฉพาะถนอมน้ำใจต่อกัน พยายามประเภทปิยวาจาต่อกัน มีอะไรพูดดีต่อกัน เราแต่งงานไปเราไม่ได้แต่งงานกับเขาคนเดียว แต่ว่าเราต้องแต่งกับครอบครัวกับญาติพี่น้องของเขาอีกเยอะแยะ คนที่เรารักอาจจะดี แต่ญาติของคนรักของเราอาจจะงี่เง่าไม่เอาไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องอึดมาก ๆ เลย

    อาตมาทุกวันนี้เคยบอกกับรุ่นน้องว่าให้นางสาวไทย พ.ศ. ล่าสุดมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า บอกว่า ท่านเจ้าขาสึกไปแต่งงานกับดิฉันเถิด บอกไม่ไหวนึกแล้วมันสยดสยอง คือมานึกแล้วว่าเราแต่งกับเขามันไม่ได้แต่งคนเดียว มันต้องแต่งกับครอบครัวเขา กับญาติพี่น้องของเขาอีก ตั้งเยอะตั้งแยะ แล้วเดี๋ยวจะต้องมีลูก มีหลาน มีเหลน มีโหลน จะต้องไปดำเนินชีวิตในลักษณะของฆราวาส บอกมันได้ยินแล้วมันสยอง ไปไม่ไหว ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี เขาดีแต่เราเองมันไปไม่รอด เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นนางสาวไทย พ.ศ. ล่าสุดมาขอแต่งงานด้วยก็ไม่เอาแล้วจ้าหนูเอ๊ย.. มันกลัวจริง ๆ ใครที่กล้าแต่งงานขอชมว่ากล้าหาญมากต้องให้เหรียญอะไร ? กางเขนเหล็ก ?

    ชีวิตคู่พระพุทธเจ้าบอกว่า ถ้ามีศีลมีทานเสมอกันอยู่กันได้นาน ท่านบอกว่าเป็นคู่เทวดากับเทวดา มันจะมีคู่เทวดากับเทวดา เทวดากับมนุษย์ เทวดากับนางผีเสื้ออะไรอย่างนี้ ไล่ไปเรื่อยสลับกันไปสลับกันมา ถ้าได้คู่เทวดากับเทวดา มนุษย์กับมนุษย์ ผีเสื้อกับผีเสื้อ ผีเสื้อนี่ก็คือยักษ์ ยักษ์กับยักษ์อย่างนี้ มันก็เรียกว่ายังไง ถูกฝาถูกตัว มันไม่ผิดฝาผิดตัว

    เพราะฉะนั้นถ้าหากว่ากระโดดข้ามไปกระโดดข้ามมาล่ะก็ ชีวิตคู่อาจจะไม่ดีพอหรืออาจจะไม่ยืนยาวอย่างนี้เป็นต้น โบราณเขาถึงจะต้องมีการดูดวง แต่จริง ๆ แล้วดวงนั้นน่ะมันขึ้นอยู่กับเรามากกว่า ถ้าตั้งใจจะประคับประคองมันให้ดีจริง ๆ อยู่กันด้วยความอดทนอดกลั้นมันต้องได้ดีอยู่แล้ว

    แต่งงานก็มาหาพระใช่มั้ย ? ถึงเวลาวันแต่งก็ทำบุญเลี้ยงพระ มีลูกก็หาพระตั้งชื่อให้ ถึงเวลาก็มีการโกนผมไฟเดือดร้อนพระอีก

    สมัยก่อนนี่ถ้าหากว่าเข้าเรียนก็ส่งไปโรงเรียนวัดอีก ถึงเวลาจะแต่งงานแต่งการก็ถึงพระอีก เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาพระสวดต่อนาม ตายขึ้นมาพระสวดบังสุกุล โบราณเขาเก่งเขาผูกพวกเราอยู่กับความดีตลอด พวกเรามันสู้โบราณไม่ได้ ไม่เห็นความฉลาดล้ำลึกของคนโบราณ

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนเมษายน ๒๕๔๕ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ


    ที่มา วัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...